Share

บทที่ 119

Author: จุ้ยหลิงซู
"ท่านหมอ ท่าน ท่านไม่ต้องสนใจพวกเขา ข้าเชื่อใจท่าน" คุณหนูชุดกระโปรงเขียวมองฟู่จาวหนิง "ข้ารู้สึกดีขึ้นมาแล้วจริงๆ"

นางรู้สึกว่าที่ฟู่จาวหนิงกดจุดชีพจรบนมือนางไว้เช่นนี้ ตนเองก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้ว

"ท่านหมอ ข้าจะไม่เป็นไรใช่ไหม?"

นางกระทั่งรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นไรแล้วจริงๆ แค่กินแล้วท้องเสียเท่านั้น

ชายหนุ่มร้านขนมปิ่งตอนนี้ก็ไม่ทำการค้าแล้ว รีบวิ่งตรงเข้ามา จ้องตาแป๋วไปที่ฟู่จาวหนิง "ท่านหมอ แม่นางคนนี้ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ใช่ไหม? ขนมปิ่งของข้าสะอาดจริงๆ มันไม่มีปัญหาจริงๆ นะ!"

เขาแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว

คุณหนูชุดกระโปรงเขียวเองก็กัดริมฝีปาก "ข้าไม่โทษเจ้า"

"จริงหรือ? ขอบคุณคุณหนู ขอบคุณคุณหนูมาก!" เจ้าของร้านขนมปิ่งรีบโค้งตัวให้นางทันที

แต่พอเขาหันกลับไปมองแผงร้านของตนเอง เดิมทีเขายังพอขายได้ แต่ตอนนี้กลับไม่มีเลยสักคน จินตนาการได้เลยว่าถัดจากนี้เขาไม่ต้องคิดจะขายขนมปิ่งอีกแล้ว

"ไม่ได้สิ ท่านหมอ ท่านหมอต้องช่วยข้านะ ดูทีว่าคุณหนูคนนี้เป็นอะไร ไม่เช่นนั้นต่อให้นางไม่ติดใจอะไรกับข้า แต่ข้าจะพูดแต่ปากมันก็ไม่ได้เหมือนกัน"

ชายหนุ่มแผงขนมปิ่งเอาแต่คำนับฟู่จาวหนิงไม่หยุด

"อย่าเอะอะ อย่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 120

    คุณหนูเจียงสีหน้าเองก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดนางเองก้ได้ยินคำพูดของคนเหล่านี้"ท่านหมอ"ฟู่จาวหนิงรีบโบกมือ "ไม่ใช่ไม่ใช่ อย่าไปฟังคนปากเหม็นพวกนั้น เจ้าป่วยน่ะ โรคทางเดินอาหาร"นางมองไปยังคนหนุ่มเหล่านั้น ตะคอกใส่ไปหลายคำ "ไปๆๆ! แต่ละคนก็ปากเปราะอย่างกับตัวอะไรดี!"นางชี้ไปทางชายหนุ่มที่พูดเรื่อยเปื่อยขึ้นมาคนแรกสุด "เจ้าน่ะ ปกติดื่มแต่น้ำดิบ แล้วยังไม่ค่อยใส่ใจสุขอนามัยอีกด้วย ตอนนี้ในท้องเจ้ามีพยาธิอยู่เต็มไปหมดแล้ว!""แล้วก็เจ้า ดวงตามีแต่เส้นเลือด ใต้ตาคล้ำเขียว ผิวหนังออกเหลือง ตับของเจ้าย่ำแย่แล้ว!""นั่นใครน่ะ ไม่ต้องหลบ คนที่แบกตะกร้านั่นน่ะ เจ้าเมื่อครู่ที่ยกเท้าเดินเหิน หัวเข่ามีเสียงกรอบแกรบ โรคไขข้อเก่ากำเริบสินะ?"ฟู่จาวหนิงชี้กวาด พูดออกมาจนคนเหล่านั้นถลึงตาดต มีคนที่ตกตะลึงและมีคนที่โกรธเคือง"อืม พอพูดถึงโรคไขข้ออักเสบ อีกสองวันจะมีฝนฤดูใบไม้ร่วงแล้ว หลังจากฝนตกอากาศก็จะเย็นจัดลงมา พรุ่งนี้ข้าจะมาขายยาซางหานที่นี่ พวกเจ้าถ้าหากต้องการ ก็รีบมาให้ไวหน่อย ขายแค่ยี่สิบห่อเท่านั้น"เพราะว่านางขาดตัวยาอยู่"แล้วก็ลูกกลอนไล่พยาธิ พรุ่งนี้จะมาขายก่อนสิบเม็ด คนที่อยากได้ก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 121

    พอเห็นคนที่เข้ามา คุณหนูเจียงสีหน้าก็เปลี่ยนไป ป้าหลิวเองก็เข้ามาขวางด้านหน้าคุณหนูเจียงด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงกลับรู้จักคนผู้นี้ชายหนุ่มชุดหรูหูใหญ่อวบอ้วนคนนี้ชื่อว่าหลินเซี่ยงเวย หลินเซี่ยงเวยคือคนที่แอบชอบฟู่เจียวเจียว ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาก็ได้ยินจึงฟังคำยุยงของฟู่เจียวเจียวให้มากลั่นแกล้งฟู่จาวหนิงบิดาของหลินเซี่ยงเวยเปิดโรงเตี๊ยมไว้หลายแห่งกับโรงจำนำอีกแห่งหนึ่ง ในครอบครัวจึงถือว่ามีกิจการอยู่บ้าง พอเทียบกับคนเหล่านั้นของตระกูลฟู่ คุณค่าฐานะก็สูงกว่าพอควรเลยทีเดียวแต่ฟู่เจียวเจียวก็ยกตนขึ้นสูงเสียเหลือเกิน เอาแค่คอยใช้ประโยชน์หลินเซี่ยงเวยมาโดยตลอด ไม่คิดจะแต่งงานกับเขาเลย"เจียงอวี่เซียง เจ้านี่ก็หนีเก่งเสียจริง ก่อนหน้านี้ข้าอยู่บนโรงเตี๊ยมเรียกเจ้า แต่เจ้ากลับวิ่งหนีหรือ?"ลำบากให้เขาต้องไล่ตามมาทั้งถนนอีก!เจียงอวี่เซียงมองเขา สีหน้าไม่ดีเอามากๆ "คุณชายหลิน ข้าไม่ได้ยินท่านเรียกข้าเลย จะว่าไป ต่อให้ท่านเรียกข้าข้าต้องฟังท่านด้วยหรือ?""เฮอะ! เจ้าก็กล้าเสียเหลือเกิน คิดว่ามีพ่อเป้นมือปราบเล็ก ก็จะมาเถียงข้าได้หรือ? ได้ยินแม่เลี้ยงเจ้าบอกว่า พ่อของเจ้าจะให้เจ้ามาจั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 122

    เจียงอวี่เซียงปกติมีปฏิกิริยารวดเร็วฉับไว ถึงอย่างไรนางก็มีมือปราบเป็นบิดา ตั้งแต่เล็กก็เสี้ยมสอนวิทยายุทธ์ง่ายๆ ให้แก่นางแต่ตอนนี้นางป่วยอยู่ เมื่อครู่พออาเจียนเสร็จก็อ่อนแรงมาก ตั้งตัวกลับมาไม่ทัน ดังนั้นฝ่ามือนี้ของหลินเซี่ยงเวยนางจึงหลบไม่พ้น"คิดจะทำอะไร?"แขนข้างหนึ่งของฟู่จาวหนิงคว้าข้อมือหลินเซี่ยงเวยไว้ ส่วนมืออีกข้างก็กดลงไปบนจุดชีพจรที่แขนของเขาหลินเซี่ยงเวยรู้สึกว่าแขนทั้งท่อนของตนเองชาไปในทันที จะยกอย่างไรก็ยกไม่ขึ้น"ผู้เฒ่าอย่างเจ้า ทำอะไรกับข้ากัน?"หลินเซี่ยงเวยเปลี่ยนมืออีกข้างพัดลงมาทันที ฟู่จาวหนิงก็ทำให้แขนอีกข้างของเขาชาไปด้วยเช่นกันตอนนี้แขนสองข้างของเขาห้อยลงอย่างหมดเรี่ยวแรง พอคู่กับร่างอวบอ้วนของเขา ดูแล้วก็น่าขันเสียเหลือเกินป้าหลิวเองก็ยังหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ฟู่จาวหนิงดึงเจียงอวี่เซียงถอยออกมา นางยังใช้ขาเกี่ยวแผงร้านของตนเองถอยออกมาด้วย ดึงให้ห่างจากหลินเซี่ยงเวยหน่อยถึงอย่างไรตอนนี้หลินเซี่ยงเวยก็ถูกอาเจียนเลอะไปทั้งตัวแล้ว"ผู้เฒ่าอย่างข้าก็แค่กดจุดชีพจรเจ้าลงไปเท่านั้น ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะมีบุญคุณความแค้นอะไรกันมา แต่คุณหนูคนนี้ตอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 123

    เจียงอวี่เซียงพอเห็นบิดานางเริ่มคุมปากไม่อยู่อีกแล้ว จึงร้องเรียกหยุดเขาไว้"เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องพวกนั้นแล้ว เจ้าไม่ต้องกลัวเขา ยังมีพ่ออยู่" มือปราบเจียงยังหันไปขอบคุณอย่างเป็นทางการกับฟู่จาวหนิงด้วย"ท่านหมอหนิงใช่หรือไม่? บุญคุณของท่านข้าสกุลเจียงจดจำไว้ในใจแล้ว"มือปราบเจียงยังร้องเรียกพวกพี่น้องด้านนอกเหล่านั้น "เหล่าพี่น้องเอ๋ยเข้ามารู้จักเสียหน่อย ท่านผู้นี้คือท่านหมอหนิง มีบุญคุณกับเซียงเอ๋อร์ของข้า ดลังจากนี้ท่านหมอหนิงก็เป็นคนของบ้านข้าแล้ว เหล่าพี่น้องที่ลาดตระเวณบนถนนเส้นนี้ก็ช่วยดูแลหน่อยนะ""ขอรับ! หัวหน้า ท่านวางใจเลย หลังจากนี้พวกเราจะคอยคุ้มกันท่านหมอหนิงเอง"มือปราบเหล่านั้นล้วนตอบรับคิกคักกันขึ้นมา ขณะเดียวกันยังทยอยไปพูดกับร้านรวงข้างๆ ด้วยว่า "ห้ามรังแกท่านหมอหนิงนะ"สำหรับคนที่มีอำนาจแล้ว มือปราบเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กจ้อยแต่สำหรับร้านรวงต่างๆ แล้ว มือปราบก็เท่ากับตำรวจดีดีนี่เอง พวกเขาล้วนเคารพยำเกรงกันฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดว่าออกมาวางแผงแค่นี้ตนเองจะเจอกับที่พึ่งเล็กๆ เหล่านี้ ยิ้มตาหยีเขียนใบสั่งยาให้กับเจียงอวี่เซียง"ท่านหมอหนิง ท่านช่วยข้าจัดยาเลยเถิด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 124

    "ไป ไปเชิญท่านหมอชราคนนั้นมาหน่อย"ตอนอ๋องเจวี้ยนพูดประโยคนี้ เน้นคำว่า "เชิญ" หนักแน่นเป็นพิเศษชิงอีมองหมอชราคนนั้น รู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ถ้าจะพูดว่าพิเศษ ก็น่าจะเป็นอายุอานามขนาดนี้ เป็นหมอก็หาเงินได้ตั้งมากมาย แต่กลับมาตั้งแผงร้านที่นี่หรือ?"ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้" ชิงอีก็รีบเดินไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงโบมือลากับพ่อลูกมือปราบเจียง จากนั้นก็เห็นชิงอีเดินตรงเข้ามาหานางนางมองไปทางรถม้านั่นด้วยสัญชาตญาณนิ่งไว้ อย่าลนลาน"พี่ชายสุดหล่อคนนี้ มีตรงไหนไม่สบายหรือ? มาๆๆ แม้ว่าข้าจะรักษาโรคที่ยากและซับซ้อนโดยเฉพาะ แต่เพื่อเลี้ยงชีพ จะโรคธรรมดาข้าก็ไม่ปฏิเสธ"ชิงอีหน้าดำขึ้นมาจู่ๆ เขาก็คิดถึงคำพูดที่ฟู่จาวหนิงพูดกับเขาในวันแรกที่พบกับตนเองท่านอ๋องจะเชิญคนผู้นี้มา คงไม่ใช่ว่าอาการกำเริบจนต้องรีบหาหมอ แล้วคิดจะลองให้หมอตามแผงมาลองดูว่ารักษาอาการเขาได้หรือไม่หรอกกระมัง?เช่นนั้นเขาก็ลองทดสอบวิชาแพทย์ของหมอชราคนนี้แทนท่านอ๋องก่อนแล้วกันพอคิดถึงจุดนี้ ชิงอีก็หน้าขรึม ยื่นมือออกมา "เช่นนั้นท่านก็ดูให้ข้าหน่อยเถิด"อ๋องเจวี้ยนบนรถม้าพอเห็นท่าทีของชิงอี ก็เอามือกุมหน้าผาก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 125

    ประชาชนเหล่านี้เรื่องอื่นล้วนไม่รู้ ถึงอย่างไรสิ่งที่รู้ก็คือเขาไม่เห็นจวนรัฐทายาทเซียวอยู่ในสายตาเลยดังนั้น ประชาชนรอบๆ จึงรีบคุกเข่าลงอย่างลนลานฟู่จาวหนิงมองท่าทีเช่นนี้ของพวกเขา ก็พูดอะไรไม่ออกเล็กๆ"ยังไม่ขึ้นรถหรือ?"เซียวหลันยวนเอ่ยปาก นางจึงรีบปีนขึ้นไปบนรถม้าหลังจากปล่อยม่านรถลงมา เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ท่าทางการขึ้นรถของท่านผู้เฒ่าดูคล่องแคล่วเสียเหลือเกิน"ฟู่จาวหนิง "ข้าเป็นหมอนะ ให้ความสำคัญกับการบำรุง ร่างกายสุขภาพแข็งแรง""เช่นนั้นหรือ?" เซียวหลันยวนกลั้นหัวเราะ "ท่านหมอสกุลใดหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็ชักงักไปเดิมทีที่บอกกับคนอื่นว่านางสกุลหนิ่งก็เพราะขี้เกียจจะมานั่งแต่งชื่อสกิล ดังนั้นชื่อปลอมของนางเลยตัดสินใจกลับชื่อของตัวเองเสีย กลับมาเป็นหนิงจาวฟู่ซะ แต่ว่าพอมาอยู่กับเซียวหลันยวน นางก็รู้สึกว่าตนเองประมาทเกินไปเสียแล้ว"หนิง"ไหนๆ ก็ปลอมออกมาแล้ว นางเองจะแก้ไขอีกรอบก็กระไรอยู่ในดวงตาเซียวหลันยวนมีรอยยิ้มขึ้นอีกคั้งหนิงหรือ ขี้เกียจขนาดนี้เชียว"ท่านหมอหนิงเมื่อครู่เห็นแผลเป็นของข้าแล้วใช่หรือไม่? รู้สึกอย่างไรบ้าง?"ก็ไม่อะไร น่าเกลียดเสียไม่มีฟู่จา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่126

    เซียวหลันยวนไม่ได้พาฟู่จาวหนิงไปที่โถงใหญ่ด้านหน้า แต่พานางมายังห้องอุ่น ด้านนอกมีต้นแปะก๊วยสูงใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ช่วงนี้ใบแปะก๊วยดกหนา มีเพียงด้านเดียวที่มีสีเขียวแซมเหลืองถึงตอนนั้นถ้าหากทั้งต้นเปลี่ยนเป็นสีเหลือง พอขับเด่นกับห้องอุ่นที่เป็นกระเบื้องแดงละเขียว ก็ไม่รู้ว่าจะงดงามขนาดไหนแต่ว่าเวลานี้ฟู่จาวหนิงก็ไม่มีกะจิตกะใจมาชื่นชมความงามนางมองเซียวหลันยวนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หลังจากนั่งลงก็ให้นางตรวจอาการแบบไม่รีบไม่ร้อน และก็ถามนางว่าทำไมจึงต้องไปตั้งแผง"แน่นอนว่าเพื่อเลี้ยงชีพน่ะสิ ยังจะมีเรื่องอะไรได้อีก?""ท่านหมอหนิงแค่ไปรับป้ายอนุญาตหมอมาชิ้นหนึ่งจากโรงหมอเมตตาก็พอนี่ แค่ถือป้ายอนุญาตหมอก็สามารถไปเป็นหมอในโรงหมอต่างๆ ได้แล้ว ในแคว้นเจา ตัวตนฐานะของหมอก็สูงส่ง ท่านหมอหนิงไม่รู้หรอกหรือ?"โรงหมอเมตตา?ป้ายอนุญาตหมอ?นางไม่รู้เลยจริงๆ!หรือว่าสิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่ทุกคนควรรู้?"โรงหมอเมตตาทุกปีจะมีการทดสอบวิชาแพทย์ ทุกปีจะมีสามด่าน หลังจากสอบผ่านผลลัพธ์ก็จะแบ่งเป็นสามระดับ แบ่งเป็นป้ายตราสีม่วงแดงเขียว ระดับของป้ายอนุญาตหมอสามชนิดนี้ล้วนส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 127

    จินเสวี่ยยกชาเดินเข้ามานางชงชามาสองถ้วย เดินไปทางเซียวหลันยวนก่อนเซียวหลันยวนกลับเอ่ยขึ้นว่า "ยกชาไปให้ท่านหมอหนิงก่อนเลย ให้นางชิมดูว่าเหมาะหรือไม่"จินเสวี่ยตะลึงงันไป "ให้ท่านหมอหนิงทั้งสองใบเลยหรือ?""ถูกต้อง"จินเสวี่ยในใจตกตะลึงเล็กน้อย กัดริมฝีปากล่าง ยกชาสองถ้วยนี้ไปหาฟู่จาวหนิง"ท่านหมอหนิงเชิญดื่มชา"ฟู่จาวหนิงแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นลูกไม้เล็กๆ ตอนที่นางเดินเข้ามานางหมุนถาดไปด้านหนึ่งแต่ฟู่จาวหนิงก็ยังมองออกว่า เมื่อครู่นี้นางกำลังจะยกชาถ้วยไหนให้เซียวหลันยวนมือของนางกลับข้ามถ้วยตรงหน้าไป แล้วยกถ้วยชาที่อยู่ด้านในแทน นั่นคือแก้วที่จะยกมาให้เซียวหลันยวนนั่นเองจินเสวี่ยขมวดคิ้วนางไม่เข้าใจว่าท่านหมอหนิงหมายความว่าอย่างไร นางยกมาเช่นนี้ คนที่เป็นแขกไม่ใช่ว่าต้องรับถ้วยที่อยู่ใกล้ที่สุดใบนั้นหรือ?ท่านหมอหนิงคนนี้เรื่องมากเสียจริงชายที่นางชงมาให้ท่านอ๋อง กับชาที่ชงให้แขกทั่วไป แน่นอนว่าไม่ใช่แบบเดียวกัน!น้ำที่ชงให้กับท่านอ๋องก็นำเอาหิมะบนกิ่งบ๊วยออกมาต้มแล้วเก็บไว้ ใบชาที่ใช้ก็เป็นใบชาจากต้นชาโบราณพันปีของยอดเขาโยวชิง ล้ำค่าเอามากๆชาเช่นนี้มีแต่ท่านอ๋องที่

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2020

    เสียงของเจ้าอารามดังขึ้นแผ่วเบาข้างหู ทำให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่เดิมคิดจะร้องด้วยความตกใจกลืนมันกลับลงไป พยายามทำให้ตนเองใจเย็นลงมาในเมื่อองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบอกว่าพวกเขาดูอยู่ได้ เช่นนั้นไม่ดูก็จะเสียโอกาสฟู่จาวหนิงดึงเซียวหลันยวนเดินเข้าไปใกล้ๆ ดังนั้นพวกเขาเองก็เห็นตาข่ายระยางเลือดละเอียดบนแท่นหินแล้วแรงกดอากาศในถ้ำหินเหมือนจะต่ำลงมาหน่อย จากนั้นแสงก็หม่นลงมาท้องฟ้าด้านนอกไม่รู้ทำไมถึงมืดลง ควบเมฆดำขึ้นมาผืนใหญ่ตาข่ายระยางเลือดบนแท่นหินค่อยๆ ไหลเวียนขึ้นมา จากนั้นลูกปัดหยกเหล่านั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวไปตามรางสีท้องฟ้ามืดลงกว่าเดิมเพียงไม่นาน ลูกปัดหยกรอบๆ พวกนั้นก็หมุนวนขึ้นมาลูกปัดหยกมากมายขนาดนั้น มีทั้งหมุนเร็วหมุนช้าแตกต่างกันไป ตอนที่หมุนก็เกิดเสียงเสียดสีแตกต่างกันออกมาในเสียงเองก็ไม่เหมือนกัน มีทั้งเสียงแซ่กๆๆ มีทั้งเสียงจิ๊กๆๆ มีทั้งเสียงกึกๆๆ ดังเบาแตกต่างกัน แม้จะเป็นเสียงที่เบามา แต่พอมากขนาดนี้ เสียงเล็กๆพอรวมกันขึ้นมา ก็ทำให้คนมองข้ามไปไม่ได้เช่นกันฟู่จาวหนิงมองลูกปัดหยกเหล่านั้น ในใจตกตะลึงนี่เป็นกลไกที่ละเอียดมาก? หรือว่าเป็นค่ายกลอะไรกันนะ?เพียง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2019

    ฟู่จาวหนิงอันที่จริงไม่ค่อยเข้าใจว่าเจ้าอารามทำไมจึงอยากจะให้นางดูให้ได้ให้เขาทำนายชะตาของเซียวหลันยวนกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแล้วทำไมล่ะ? ต่อให้เข้ากันได้ นางก็ไม่สนใจ ดูไปแล้วมันจะมีความหมายอะไร?"ต่อให้เปลี่ยนไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า" ฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบๆกระทั่งเจ้าอารามก็ยังไม่เคยเจอคนแบบฟู่จาวหนิงคนมากมายมาอ้อนวอนให้เขาช่วยทำนาย อยากจะให้เขาช่วยแก้ไขโชคชะตา คำนวณหาฤกษ์ดีฤกษ์ร้าย แต่ฟู่จาวหนิงกลับบอกว่าไม่ต้องการนี่คือไม่ได้อยากรู้กับโชคชะตาของตนเองแม้แต่น้อยเลยหรือ? แต่ก็ควรอยากรู้อนาคตนี่นา?"ถ้าอย่างนั้นท่านก็ห้ามอ๋องเจวี้ยนทำนายไม่ได้สิ" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน ทำไมอ๋องเจวี้ยนต้องฟังนางด้วยล่ะ?ฟู่จาวหนิงมองไปทางเซียวหลันยวน"ข้าไม่ได้ห้ามเขาทำนาย แค่เจ้าอารามถามว่าข้าอยากดูไหม ซึ่งข้าก็บอกว่าไม่สนใจเท่านั้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจ้องตาแป๋วไปทางเซียวหลันยวน "อ๋องเจวี้ยน ขอเชิญท่านมาทำนายชะตาของพวกเรา..."เซียวหลันยวนตัดบทนาง"ถ้าข้าจะทำนาย ข้าก็ไม่อยากทำนายชะตาที่เกี่ยวกับเจ้า เป็นอย่างที่พระชายาบอก ไม่ว่าพวกเราจะมีชะตาอย่างไร พวกเราก็ไม่สนใจทั้งนั้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2018

    เซียวหลันยวนแน่นอนว่าไม่บีบให้ฟู่จาวหนิงเห็นด้วย แม้ว่านางจะได้ยินประโยคนั้นจากเจ้าอารามแล้วหวั่นไหวมากก็ตามอันที่จริงเขาก็อยาก เขาอยากจะดูว่าตนเองกับจาวหนิงชะตาต้องกันหรือไม่หลายปีมานี้ได้ยินว่าเขากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นชะตาต้องกันมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เจ้าอารามก็แนะนำให้เขากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแต่งงานกันด้วยเหตุผลนี้เซียวหลันยวนคิดในใจ ถ้าเพื่อทำนายออกมา แล้วดวงชะตาของเขากับจาวหนิงต้องกันมากกว่าล่ะ?เช่นนั้นหลังจากนี้พวกเขาก็ไม่ต้องเอาเขากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาผูกได้ด้วยกันแล้วใช่ไหม? เอาจริงๆ เขาฟังมาจนเบื่อแล้ว ฟังจนรำคาญด้วยแต่ฟู่จาวหนิงไม่ยอม เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไร"พระชายา อ๋องเจวี้ยนเป็นคนที่สำคัญมากในราชวงศ์แคว้นเจา" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นร้อนรนขึ้นมา "อันที่จริงต่อให้ไม่มาหาเจ้าอาราม ก่อนหน้าที่เขาจะแต่งงานก็ต้องมีการดูดวงสมพงษ์ของทั้งสองฝ่ายก่อน ทำนายว่าวาสนาคุ่ครองนี้จะสมบูรณ์หรือไม่ ข้าได้ยินว่าก่อนหน้านี้พวกท่านก็ไม่ได้ทำนายกัน นี่มันไม่สมเหตุสมผล"นางอยากให้ฟู่จาวหนิงทำนายมาก!ด้วยประสบการณ์ที่ฟู่จาวหนิงหมั้นหมายกับเซียวเหยียนจิ่ง แล้วยังถอนหมั้นกลางถนนก่อนหน้านี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2017

    ฟู่จาวหนิงเหล่มองเขาผาดหนึ่ง ยื่นมือไปหยิกแขนของเขาตาของเขายังคมกว่านางอีกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นยังนิ่งขนาดนี้อีก ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยถ้าฮูหยินเฉิงรู้ว่าเจ้าอารามที่นี่มีหยกดารามากขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะเกิดความคิดอะไรขึ้น?เหมือนเจ้าอารามก็น่าจะรู้ว่านางต้องการหยกดาราด้วยกระมัง? ไม่แบ่งให้นางสักหน่อย แต่ยังให้นางเดินทางนับพันลี้ออกไปหา? เรื่องนี้ดูแล้ว ที่ฮูหยินเฉิงบอกมาเองว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าอาราม เจ้าอารามเชื่อใจนางมาก ความน่าเชื่อถือเรื่องนี้ลดลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียวขณะที่ฟู่จาวหนิงกำลังคิดว่า ถ้าทีหลังตอนที่ฮูหยินเฉิงเข้ามาพูดไร้สาระต่อหน้านางอีกนางก็จะสะบัดเรื่องนี้แทงใจอีกฝ่ายไปเลย เจ้าอารามก็ตอบคำถามของเซียวหลันยวนมา"ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกว่า เจ้ากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมีชะตาต้องกัน แต่ดูเหมือนเจ้าไม่ค่อยเชื่อ วันนี้เลยอยากให้เจ้าได้เห็นด้วยตัวเองน่ะ"พอได้ยินคำนี้ของเจ้าอาราม หน้าเซียวหลันยวนก็ขรึมลงมาเขาไม่คิดว่าเจ้าอารามจะมีความคิดเช่นนี้"ไม่จำเป็นหรอก"ตอนนี้เขาแต่งงานกับฟู่จาวหนิงแล้ว จะให้เขามาเห็นว่ามีชะตาต้องกันกับหญิงสาวคนอื่น คิดจะทำอะไรกัน?เซียวหลัน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2016

    ฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมามอง จึงพบว่าจุดที่เจ้าอารามยืนอยู่นั้นแปลกประหลาดหน่อยๆตรงหน้าเขามีแท่นหินแท่นหนึ่ง ด้านบนไม่รู้สลักอะไรไว้ แล้วยังมีรางที่ดูซับซ้อนอยู่ ปลายรางมีลูกปัดหยกหลายขนาดหลายสีฝังอยู่ด้วยแท่นหินนั้นสูงประมาณเอวเขาด้านหน้าคือหน้าต่างหินธรรมชาตินั่นตอนนี้เป็นช่วงกลางวัน แสงด้านนอกสาดส่องเข้ามา ดังนั้นในถ้ำจึงไม่มืดนักแต่ว่าฟู่จาวหนิงยังพบว่าในถ้ำภูเขานี้ รอบๆ ยังมีเสาหินบางส่วนยื่นออกมา เสาหินทุกต้นฝังลูกปัดหยกขนาดกำปั้นเด็กเอาไว้เม็ดหนึ่งนางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที จึงก้าวออกไปข้างๆ สองก้าว เข้าหาเม็ดที่อยู่ใกล้ที่สุด ก้มหน้าลงไปดูแน่นอน รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ไม่ควรเข้าไปแตะสุ่มสี่สุ่มห้า นี่เป็นมารยาท ดังนั้นนางจึงเพียงแค่มอง ไม่ยื่นมือออกไปเพียงแต่พอมองดู ฟู่จาวหนิงก็ตกตะลึงนี่มันอะไรกันเนี่ย?ก่อนหน้านี้ฮูหยินเฉิงถึงกับต้องแจ้นไปเมืองหลวงไกลนับพันลี้เพื่อกำไลหยกดาราตงฉิงวงหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเซียวหลันยวนยังเคยบอกว่า หยกดาราตงฉิงตอนนี้หายากมาก ถึงอย่างไรตงฉิงก็หายสาบสูญไปแล้วแต่ตอนนี้ที่นางเห็นนี่มันอะไรกัน?ลูกปัดหยกขนาดเท่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2015

    พอคิดแบบนี้ ในใจนางก็มีความหวังพรั่งพรูออกมาพวกเขาเดินผ่านประตูหลัง ก็มองเห็นบันไดที่ทอดยาวลงด้านล่างด้านหลังยอดเขาโยวชิงผืนนี้ มองออกไปเป็นทิวเขาที่ทอดยาวผืนหนึ่ง แต่ก็ยังเตี้ยกว่ายอดเขาโยวชิงอยู่มาก"นี่จะไปคุยกันที่ไหนหรือ?"คุยกันในหออู๋จิ้งที่พักของเจ้าอารามยังสงบไม่พออีกหรือไรกัน?เอาจริงๆ ยอดเขาโยวชิงทั้งลูกก็เงียบสงบมากพอแล้ว"ไม่รู้สิ" เซียวหลันยวนสีหน้ายังคงสงบเขาเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าอารามจะพาพวกเขาไปคุยกันที่ไหนหลังจากลงไป ก็มีอุโมงค์หินที่มาราวหินเส้นหนึ่ง เหมือนเจาะออกมาจากหน้าผาอย่างไรอย่างนั้น เดินผ่านไปได้พร้อมกันแค่สองคนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหลังจากลงมาก็เหลือบมองลงไปด้านล่าง หน้าผาลึกทำเอานางสันหลังวาบเลยทีเดียวนางกลัวขึ้นมาหน่อยๆแต่ด้านหน้าก็ไม่เห็นหลังของเจ้าอารามโยวชิงแล้ว เซียวหลันยวนเองก็ยังคงจับมือฟู่จาวหนิงไว้แน่น ยิ่งทำให้นางดูโดดเดี่ยวน่าสงสารขึ้นไปอีกนางหันกลับไป ก็เห็นซางจื่อที่เดินตามหลังมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเดินมาพักหนึ่ง เลี้ยวหนึ่งโค้ง ก็มองเห็นเข้ากับถ้ำหินธรรมชาติ ด้านบนมีเถาวัลย์หนามอยู่มากมาย ห้อยลงมาบนศีรษะฟู่จาวหนิงมองเถาวัลย์เหล่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2014

    ฟู่จาวหนิงเกิดความรู้สึกเมื่อครู่ขึ้นอีกครั้งฮูหยินเฉิงดูจะเชื่อฟังง่ายไปหน่อยแล้ว อารมณ์นั่นสลายเร็วเกินไปไหม?เพราะคำพูดแผ่วเบาสองคำนั่นของเจ้าอารามหรือ?หรือจะบอวก่า เจ้าอารามมีบารมีแข็งแกร่งมาก แค่คำพูดที่เขาพูด คนอื่นก็เกิดความคิดโต้แย้งประท้วงอะไรไม่ได้ทั้งสิ้นเลยหรือ?กลายเป็นว่าเชื่อฟังคำของเขาไปทั้งหมด?"ข้าอยากจะคุยกับพวกเขาสักหน่อย เจ้าลงเขาไปก่อนเถอะ ออกมานานแล้ว ธุระที่อุทยานเขา เจ้เาองก็ต้องไปจัดการอยู่"เจ้าอารามยังคงพูดเสียงอ่อนโยนกับฮูหยินเฉิงฮูหยินเฉิงลุกขึ้นมา"ได้ เช่นนั้นข้าขอลงเขาก่อน ถ้ามีเรื่องอะไร เจ้าอารามก็ส่งคนมาหาข้าได้เลย"เจ้าอารามพยักหน้าให้เบาๆองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้ลนลานขึ้นมา เดิมทีนางก็ไม่ค่อยชอบเรื่องที่ฮูหยินเฉิงปีนเกลียวเอาแต่เรียกนางว่าอาฝูอยู่แล้ว แต่ฮูหยินเฉิงเองก็คิดจะช่วยนางเรื่องแต่งเข้าจวนอ๋องเจวี้ยนจริงๆพอมีฮูหยินเฉิงอยู่ บางทีอาจจะช่วยนางพูดได้บ้าง ให้เจ้าอารามโยวชิงช่วยเหลือนางหน่อยตอนนี้ฮูหยินเฉิงไปแล้ว แล้วถ้านางมีหลายคำพูดที่พูดออกมาลำบากล่ะ?ข้างกายนางเองก็ไม่มีใครที่ใช้ได้ด้วย รู้สึกโดดเดี่ยวเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2013

    "นี่เป็นชาที่อายวนปลูกเอาไว้ในอดีต มีชื่อว่ายอดชาหิมะ" เสียงของเจ้าอารามยังคงเหมือนสายลมแผ่วเบา ฟังแล้วเหมือนได้รับการปลอบประโลมฟู่จาวหนิงอดมองไปทางเขาไม่ได้นางมีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาทั้งที่เจ้าอารามไม่ได้ปลอบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตรงๆ แท้ๆ แต่เขาที่พูดมาแค่คำสองคำ สีหน้าขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับสงบลงมาแล้ว นี่มันพลังมารอะไรกันเนี่ย?นี่ยิ่งทำให้ใจของฟู่จาวหนิงยิ่งระแวดระวังขึ้นไปอีกนางหันสายตาออกเล็กน้อย และสบเข้ากับถังอู๋เจวี้ยนพอดี เขากำลังมองนางอย่างเป็นห่วงหน่อยๆ พอเห็นว่าสีหน้านางไม่เปลี่ยน ถังอู๋เจวี้ยนก็ยิ้มขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเห็นถึงแววปลื้มใจจากในรอยยิ้มของเขาปลื้มใจ? เขาจะปลื้มใจทำไมกัน? ฟู่จาวหนิงไม่เข้าใจสุดๆ"ชานี้รสชาติดีจริงๆ" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหลังจากที่ดื่มชา ความน้อยเนื้อต่ำใจก็หายไปแล้ว ดูแล้วเหมือนเป็ดขนฟูถูกลูบให้เรียบลง กลับมาอ่อนโยนว่าง่ายอีกครั้งฟู่จาวหนิงมองการเปลี่ยนแปลงในช่วงสั้นๆ นี้ของนาง ในใจระแวดระวังขึ้นไปอีกนางมองไปทางเซียวหลันยวนอีกครั้งเซียวหลันยวนหรุบตาไม่มองนาง แต่กุมมือนางไว้ คลึงนิ้วของนางเบาๆ มองไม่ออกว่าจับความผิดปกติอะไรได้ห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2012

    "อายวน หน้าของเจ้าดีขึ้นแล้วนี่ แล้วทำไมยังต้องสวมหน้ากากอยู่ตลอดด้วย?"ฮูหยินเฉิงอันที่จริงก็ถูกหน้าตาของเซียวหลันยวนทำให้ตะลึงไปเช่นกันนางเองก็ไม่ได้เห็นหน้าตาเซียวหลันยวนมานานแล้วตอนยังเด็กกับตอนนี้ต้องต่างกันอยู่แล้วหลังจากโตขึ้นมา ใบหน้าเซียวหลันยวนก็มีแผลเป็นพิษอยู่ตลอด มีครั้งหนึ่ง นางเคยเห็นเขาตอนที่ไม่สวมหน้ากาก แต่ก็เห็นแผลเป็นข้างนั้นเข้าพอดีเพราะแผลเป็นพิษนั้นมันสะดุดแทงตามาก มองจนนางต้องสูดลมหายใจเลยทีเดียว ดังนั้นนางจึงจำหน้าตาจริงๆ ของเซียวหลันยวนไม่ได้แต่ก็พอรู้ว่ารูปหน้าดีจมูกโด่งเป็นสัน อวัยวะบนหน้าดูมีมิติพวกนั้นดูหล่อเหลาไปเสียหมดตอนนี้พอได้เห็นใบหน้าสมบูรณ์แบบของเซียวหลันยวนจริงๆ นางจึงรู้สึกตกตะลึงมากต้องรู้ด้วย ว่าฮูหยินเฉิงเองเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันชายงามอยู่ ถึงอย่างไรก็เคยเห็นเจ้าอารามโยวชิงมาแล้ว จะมีสักกี่คนที่หน้าตาดีไปกว่าเขา?ฮูหยินเฉิงยังรู้สึกเศร้าและเสียใจอยู่หน่อยๆ"เด็กอย่างเจ้านี่จริงๆ เลย ข้ายังคิดว่าหน้าของเจ้ายังไม่หายดี แผลเป็นพิษนั่นก็ลือกันไปในเมืองหลวงว่าเลวร้ายแสนสาหัส หลายวันนี้ข้าเองก็รู้สึกเสียใจแทนเจ้าไปไม่น้อย เจ้าหายดีแ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status