แชร์

บทที่ 120

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
คุณหนูเจียงสีหน้าเองก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด

นางเองก้ได้ยินคำพูดของคนเหล่านี้

"ท่านหมอ"

ฟู่จาวหนิงรีบโบกมือ "ไม่ใช่ไม่ใช่ อย่าไปฟังคนปากเหม็นพวกนั้น เจ้าป่วยน่ะ โรคทางเดินอาหาร"

นางมองไปยังคนหนุ่มเหล่านั้น ตะคอกใส่ไปหลายคำ "ไปๆๆ! แต่ละคนก็ปากเปราะอย่างกับตัวอะไรดี!"

นางชี้ไปทางชายหนุ่มที่พูดเรื่อยเปื่อยขึ้นมาคนแรกสุด "เจ้าน่ะ ปกติดื่มแต่น้ำดิบ แล้วยังไม่ค่อยใส่ใจสุขอนามัยอีกด้วย ตอนนี้ในท้องเจ้ามีพยาธิอยู่เต็มไปหมดแล้ว!"

"แล้วก็เจ้า ดวงตามีแต่เส้นเลือด ใต้ตาคล้ำเขียว ผิวหนังออกเหลือง ตับของเจ้าย่ำแย่แล้ว!"

"นั่นใครน่ะ ไม่ต้องหลบ คนที่แบกตะกร้านั่นน่ะ เจ้าเมื่อครู่ที่ยกเท้าเดินเหิน หัวเข่ามีเสียงกรอบแกรบ โรคไขข้อเก่ากำเริบสินะ?"

ฟู่จาวหนิงชี้กวาด พูดออกมาจนคนเหล่านั้นถลึงตาดต มีคนที่ตกตะลึงและมีคนที่โกรธเคือง

"อืม พอพูดถึงโรคไขข้ออักเสบ อีกสองวันจะมีฝนฤดูใบไม้ร่วงแล้ว หลังจากฝนตกอากาศก็จะเย็นจัดลงมา พรุ่งนี้ข้าจะมาขายยาซางหานที่นี่ พวกเจ้าถ้าหากต้องการ ก็รีบมาให้ไวหน่อย ขายแค่ยี่สิบห่อเท่านั้น"

เพราะว่านางขาดตัวยาอยู่

"แล้วก็ลูกกลอนไล่พยาธิ พรุ่งนี้จะมาขายก่อนสิบเม็ด คนที่อยากได้ก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 121

    พอเห็นคนที่เข้ามา คุณหนูเจียงสีหน้าก็เปลี่ยนไป ป้าหลิวเองก็เข้ามาขวางด้านหน้าคุณหนูเจียงด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงกลับรู้จักคนผู้นี้ชายหนุ่มชุดหรูหูใหญ่อวบอ้วนคนนี้ชื่อว่าหลินเซี่ยงเวย หลินเซี่ยงเวยคือคนที่แอบชอบฟู่เจียวเจียว ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาก็ได้ยินจึงฟังคำยุยงของฟู่เจียวเจียวให้มากลั่นแกล้งฟู่จาวหนิงบิดาของหลินเซี่ยงเวยเปิดโรงเตี๊ยมไว้หลายแห่งกับโรงจำนำอีกแห่งหนึ่ง ในครอบครัวจึงถือว่ามีกิจการอยู่บ้าง พอเทียบกับคนเหล่านั้นของตระกูลฟู่ คุณค่าฐานะก็สูงกว่าพอควรเลยทีเดียวแต่ฟู่เจียวเจียวก็ยกตนขึ้นสูงเสียเหลือเกิน เอาแค่คอยใช้ประโยชน์หลินเซี่ยงเวยมาโดยตลอด ไม่คิดจะแต่งงานกับเขาเลย"เจียงอวี่เซียง เจ้านี่ก็หนีเก่งเสียจริง ก่อนหน้านี้ข้าอยู่บนโรงเตี๊ยมเรียกเจ้า แต่เจ้ากลับวิ่งหนีหรือ?"ลำบากให้เขาต้องไล่ตามมาทั้งถนนอีก!เจียงอวี่เซียงมองเขา สีหน้าไม่ดีเอามากๆ "คุณชายหลิน ข้าไม่ได้ยินท่านเรียกข้าเลย จะว่าไป ต่อให้ท่านเรียกข้าข้าต้องฟังท่านด้วยหรือ?""เฮอะ! เจ้าก็กล้าเสียเหลือเกิน คิดว่ามีพ่อเป้นมือปราบเล็ก ก็จะมาเถียงข้าได้หรือ? ได้ยินแม่เลี้ยงเจ้าบอกว่า พ่อของเจ้าจะให้เจ้ามาจั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 122

    เจียงอวี่เซียงปกติมีปฏิกิริยารวดเร็วฉับไว ถึงอย่างไรนางก็มีมือปราบเป็นบิดา ตั้งแต่เล็กก็เสี้ยมสอนวิทยายุทธ์ง่ายๆ ให้แก่นางแต่ตอนนี้นางป่วยอยู่ เมื่อครู่พออาเจียนเสร็จก็อ่อนแรงมาก ตั้งตัวกลับมาไม่ทัน ดังนั้นฝ่ามือนี้ของหลินเซี่ยงเวยนางจึงหลบไม่พ้น"คิดจะทำอะไร?"แขนข้างหนึ่งของฟู่จาวหนิงคว้าข้อมือหลินเซี่ยงเวยไว้ ส่วนมืออีกข้างก็กดลงไปบนจุดชีพจรที่แขนของเขาหลินเซี่ยงเวยรู้สึกว่าแขนทั้งท่อนของตนเองชาไปในทันที จะยกอย่างไรก็ยกไม่ขึ้น"ผู้เฒ่าอย่างเจ้า ทำอะไรกับข้ากัน?"หลินเซี่ยงเวยเปลี่ยนมืออีกข้างพัดลงมาทันที ฟู่จาวหนิงก็ทำให้แขนอีกข้างของเขาชาไปด้วยเช่นกันตอนนี้แขนสองข้างของเขาห้อยลงอย่างหมดเรี่ยวแรง พอคู่กับร่างอวบอ้วนของเขา ดูแล้วก็น่าขันเสียเหลือเกินป้าหลิวเองก็ยังหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ฟู่จาวหนิงดึงเจียงอวี่เซียงถอยออกมา นางยังใช้ขาเกี่ยวแผงร้านของตนเองถอยออกมาด้วย ดึงให้ห่างจากหลินเซี่ยงเวยหน่อยถึงอย่างไรตอนนี้หลินเซี่ยงเวยก็ถูกอาเจียนเลอะไปทั้งตัวแล้ว"ผู้เฒ่าอย่างข้าก็แค่กดจุดชีพจรเจ้าลงไปเท่านั้น ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะมีบุญคุณความแค้นอะไรกันมา แต่คุณหนูคนนี้ตอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 123

    เจียงอวี่เซียงพอเห็นบิดานางเริ่มคุมปากไม่อยู่อีกแล้ว จึงร้องเรียกหยุดเขาไว้"เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องพวกนั้นแล้ว เจ้าไม่ต้องกลัวเขา ยังมีพ่ออยู่" มือปราบเจียงยังหันไปขอบคุณอย่างเป็นทางการกับฟู่จาวหนิงด้วย"ท่านหมอหนิงใช่หรือไม่? บุญคุณของท่านข้าสกุลเจียงจดจำไว้ในใจแล้ว"มือปราบเจียงยังร้องเรียกพวกพี่น้องด้านนอกเหล่านั้น "เหล่าพี่น้องเอ๋ยเข้ามารู้จักเสียหน่อย ท่านผู้นี้คือท่านหมอหนิง มีบุญคุณกับเซียงเอ๋อร์ของข้า ดลังจากนี้ท่านหมอหนิงก็เป็นคนของบ้านข้าแล้ว เหล่าพี่น้องที่ลาดตระเวณบนถนนเส้นนี้ก็ช่วยดูแลหน่อยนะ""ขอรับ! หัวหน้า ท่านวางใจเลย หลังจากนี้พวกเราจะคอยคุ้มกันท่านหมอหนิงเอง"มือปราบเหล่านั้นล้วนตอบรับคิกคักกันขึ้นมา ขณะเดียวกันยังทยอยไปพูดกับร้านรวงข้างๆ ด้วยว่า "ห้ามรังแกท่านหมอหนิงนะ"สำหรับคนที่มีอำนาจแล้ว มือปราบเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กจ้อยแต่สำหรับร้านรวงต่างๆ แล้ว มือปราบก็เท่ากับตำรวจดีดีนี่เอง พวกเขาล้วนเคารพยำเกรงกันฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดว่าออกมาวางแผงแค่นี้ตนเองจะเจอกับที่พึ่งเล็กๆ เหล่านี้ ยิ้มตาหยีเขียนใบสั่งยาให้กับเจียงอวี่เซียง"ท่านหมอหนิง ท่านช่วยข้าจัดยาเลยเถิด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 124

    "ไป ไปเชิญท่านหมอชราคนนั้นมาหน่อย"ตอนอ๋องเจวี้ยนพูดประโยคนี้ เน้นคำว่า "เชิญ" หนักแน่นเป็นพิเศษชิงอีมองหมอชราคนนั้น รู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ถ้าจะพูดว่าพิเศษ ก็น่าจะเป็นอายุอานามขนาดนี้ เป็นหมอก็หาเงินได้ตั้งมากมาย แต่กลับมาตั้งแผงร้านที่นี่หรือ?"ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้" ชิงอีก็รีบเดินไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงโบมือลากับพ่อลูกมือปราบเจียง จากนั้นก็เห็นชิงอีเดินตรงเข้ามาหานางนางมองไปทางรถม้านั่นด้วยสัญชาตญาณนิ่งไว้ อย่าลนลาน"พี่ชายสุดหล่อคนนี้ มีตรงไหนไม่สบายหรือ? มาๆๆ แม้ว่าข้าจะรักษาโรคที่ยากและซับซ้อนโดยเฉพาะ แต่เพื่อเลี้ยงชีพ จะโรคธรรมดาข้าก็ไม่ปฏิเสธ"ชิงอีหน้าดำขึ้นมาจู่ๆ เขาก็คิดถึงคำพูดที่ฟู่จาวหนิงพูดกับเขาในวันแรกที่พบกับตนเองท่านอ๋องจะเชิญคนผู้นี้มา คงไม่ใช่ว่าอาการกำเริบจนต้องรีบหาหมอ แล้วคิดจะลองให้หมอตามแผงมาลองดูว่ารักษาอาการเขาได้หรือไม่หรอกกระมัง?เช่นนั้นเขาก็ลองทดสอบวิชาแพทย์ของหมอชราคนนี้แทนท่านอ๋องก่อนแล้วกันพอคิดถึงจุดนี้ ชิงอีก็หน้าขรึม ยื่นมือออกมา "เช่นนั้นท่านก็ดูให้ข้าหน่อยเถิด"อ๋องเจวี้ยนบนรถม้าพอเห็นท่าทีของชิงอี ก็เอามือกุมหน้าผาก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 125

    ประชาชนเหล่านี้เรื่องอื่นล้วนไม่รู้ ถึงอย่างไรสิ่งที่รู้ก็คือเขาไม่เห็นจวนรัฐทายาทเซียวอยู่ในสายตาเลยดังนั้น ประชาชนรอบๆ จึงรีบคุกเข่าลงอย่างลนลานฟู่จาวหนิงมองท่าทีเช่นนี้ของพวกเขา ก็พูดอะไรไม่ออกเล็กๆ"ยังไม่ขึ้นรถหรือ?"เซียวหลันยวนเอ่ยปาก นางจึงรีบปีนขึ้นไปบนรถม้าหลังจากปล่อยม่านรถลงมา เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ท่าทางการขึ้นรถของท่านผู้เฒ่าดูคล่องแคล่วเสียเหลือเกิน"ฟู่จาวหนิง "ข้าเป็นหมอนะ ให้ความสำคัญกับการบำรุง ร่างกายสุขภาพแข็งแรง""เช่นนั้นหรือ?" เซียวหลันยวนกลั้นหัวเราะ "ท่านหมอสกุลใดหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็ชักงักไปเดิมทีที่บอกกับคนอื่นว่านางสกุลหนิ่งก็เพราะขี้เกียจจะมานั่งแต่งชื่อสกิล ดังนั้นชื่อปลอมของนางเลยตัดสินใจกลับชื่อของตัวเองเสีย กลับมาเป็นหนิงจาวฟู่ซะ แต่ว่าพอมาอยู่กับเซียวหลันยวน นางก็รู้สึกว่าตนเองประมาทเกินไปเสียแล้ว"หนิง"ไหนๆ ก็ปลอมออกมาแล้ว นางเองจะแก้ไขอีกรอบก็กระไรอยู่ในดวงตาเซียวหลันยวนมีรอยยิ้มขึ้นอีกคั้งหนิงหรือ ขี้เกียจขนาดนี้เชียว"ท่านหมอหนิงเมื่อครู่เห็นแผลเป็นของข้าแล้วใช่หรือไม่? รู้สึกอย่างไรบ้าง?"ก็ไม่อะไร น่าเกลียดเสียไม่มีฟู่จา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่126

    เซียวหลันยวนไม่ได้พาฟู่จาวหนิงไปที่โถงใหญ่ด้านหน้า แต่พานางมายังห้องอุ่น ด้านนอกมีต้นแปะก๊วยสูงใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ช่วงนี้ใบแปะก๊วยดกหนา มีเพียงด้านเดียวที่มีสีเขียวแซมเหลืองถึงตอนนั้นถ้าหากทั้งต้นเปลี่ยนเป็นสีเหลือง พอขับเด่นกับห้องอุ่นที่เป็นกระเบื้องแดงละเขียว ก็ไม่รู้ว่าจะงดงามขนาดไหนแต่ว่าเวลานี้ฟู่จาวหนิงก็ไม่มีกะจิตกะใจมาชื่นชมความงามนางมองเซียวหลันยวนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่หลังจากนั่งลงก็ให้นางตรวจอาการแบบไม่รีบไม่ร้อน และก็ถามนางว่าทำไมจึงต้องไปตั้งแผง"แน่นอนว่าเพื่อเลี้ยงชีพน่ะสิ ยังจะมีเรื่องอะไรได้อีก?""ท่านหมอหนิงแค่ไปรับป้ายอนุญาตหมอมาชิ้นหนึ่งจากโรงหมอเมตตาก็พอนี่ แค่ถือป้ายอนุญาตหมอก็สามารถไปเป็นหมอในโรงหมอต่างๆ ได้แล้ว ในแคว้นเจา ตัวตนฐานะของหมอก็สูงส่ง ท่านหมอหนิงไม่รู้หรอกหรือ?"โรงหมอเมตตา?ป้ายอนุญาตหมอ?นางไม่รู้เลยจริงๆ!หรือว่าสิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่ทุกคนควรรู้?"โรงหมอเมตตาทุกปีจะมีการทดสอบวิชาแพทย์ ทุกปีจะมีสามด่าน หลังจากสอบผ่านผลลัพธ์ก็จะแบ่งเป็นสามระดับ แบ่งเป็นป้ายตราสีม่วงแดงเขียว ระดับของป้ายอนุญาตหมอสามชนิดนี้ล้วนส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 127

    จินเสวี่ยยกชาเดินเข้ามานางชงชามาสองถ้วย เดินไปทางเซียวหลันยวนก่อนเซียวหลันยวนกลับเอ่ยขึ้นว่า "ยกชาไปให้ท่านหมอหนิงก่อนเลย ให้นางชิมดูว่าเหมาะหรือไม่"จินเสวี่ยตะลึงงันไป "ให้ท่านหมอหนิงทั้งสองใบเลยหรือ?""ถูกต้อง"จินเสวี่ยในใจตกตะลึงเล็กน้อย กัดริมฝีปากล่าง ยกชาสองถ้วยนี้ไปหาฟู่จาวหนิง"ท่านหมอหนิงเชิญดื่มชา"ฟู่จาวหนิงแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นลูกไม้เล็กๆ ตอนที่นางเดินเข้ามานางหมุนถาดไปด้านหนึ่งแต่ฟู่จาวหนิงก็ยังมองออกว่า เมื่อครู่นี้นางกำลังจะยกชาถ้วยไหนให้เซียวหลันยวนมือของนางกลับข้ามถ้วยตรงหน้าไป แล้วยกถ้วยชาที่อยู่ด้านในแทน นั่นคือแก้วที่จะยกมาให้เซียวหลันยวนนั่นเองจินเสวี่ยขมวดคิ้วนางไม่เข้าใจว่าท่านหมอหนิงหมายความว่าอย่างไร นางยกมาเช่นนี้ คนที่เป็นแขกไม่ใช่ว่าต้องรับถ้วยที่อยู่ใกล้ที่สุดใบนั้นหรือ?ท่านหมอหนิงคนนี้เรื่องมากเสียจริงชายที่นางชงมาให้ท่านอ๋อง กับชาที่ชงให้แขกทั่วไป แน่นอนว่าไม่ใช่แบบเดียวกัน!น้ำที่ชงให้กับท่านอ๋องก็นำเอาหิมะบนกิ่งบ๊วยออกมาต้มแล้วเก็บไว้ ใบชาที่ใช้ก็เป็นใบชาจากต้นชาโบราณพันปีของยอดเขาโยวชิง ล้ำค่าเอามากๆชาเช่นนี้มีแต่ท่านอ๋องที่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 128

    เซียวหลันยวนดื่มชาที่ดีที่สุดจนชินแล้วเขาก่อนหน้านี้พาจินเสวี่ยกับไป๋ซวงมา ก็เพราะว่าสาวใช้สองคนนี้ล้วนชงชาได้ยอดเยี่ยมหรือก็คือ ชาถ้วยนี้ถ้าหากให้คนทั่วไปดื่มก็ยังพอไหว แม้จะขมแต่ก็ยังหวาน ถึงอย่างไรในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่มีใบชาที่แย่มากนักแต่ว่าสำหรับเซียวหลันยวนที่ปากจู้จี้ไปแล้ว ถือว่าย่ำแย่มากจนไม่รู้จะพรรณนาอย่างไรเลยทีเดียวเขาฝืนกลืนลงไป ขว้างชาถ้วยนั้นออกไปนอกหน้าต่างเสียงถ้วยชาแตกด้านนอก ทำให้จินเสวี่ยทิ้งตัวลงคุกเข่าทันที!"ท่านอ๋องโปรดให้อภัยด้วย! จินเสวี่ยไม่ได้ต้องการให้ท่านอ๋องดื่มชาเช่นนี้!"เซียวหลันยวนไม่พูดอะไร ลุกขึ้นยืน เดินมาเบื้องหน้าฟู่จาวหนิง ดึงชาจากมือนางไปดื่ม"นี่" นั่นมันของที่นางดื่มไปแล้วนะฟู่จาวหนิงถลึงตามองเซียวหลันยวน รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนคนนี้สติไม่ดีทำไมถึงมาดื่มชาที่คนแปลกหน้าดื่มไปแล้วกัน?เซียวหลันยวนดื่มไปอึกหนึ่งก็เข้าใจแล้ว เขาวางถ้วยชาลงหนักๆ เสียงดังปังจินเสวี่ยหน้าขาวซีด รีรบหมุนตัวคุกเข่าลงมาทางนี้"เมื่อครู่ข้าพูดไว้ว่าอย่างไร? ให้เจ้าชงชาดีดีให้กับท่านหมอหนิงจนกว่าที่นางจะพอใจ แต่ผลลัพธ์เจ้ากลับชงชาเช่นนี้หรือ?""ท่า

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1875

    ฟู่จาวหนิงพอได้ข่าว ก็เตรียมยาเสร็จแล้วผงยามีทั้งหมดสิบห้าห่อ พอพวกเขาคำนวณทิศทางลมดีแล้ว ก็ให้อาศัยต้นไม้สูงใหญ่ จากนั้นก็ใช้ปีกสายลมกับวิชาตัวเบา ก็สามารถโปรยผงยาออกไปในบริเวณกว้างได้"ผงยาเหล่านี้มียาแก้อยู่ พวกเจ้าต้องกินยาแก้ไว้ก่อน ถึงตอนนั้นถ้าเผื่อสูดเข้าไปจะได้ไม่เกิดเรื่อง"ฟู่จาวหนิงส่งยาแก้ให้กับพวกเขาฟู่จิ้นเชินดูทิศทางลมไว้แล้ว คนหาตำแหน่งเหมาะๆ ที่จะลงมือจนตอนที่พวกเขาเตรียมการเสร็จ ก็ถึงเวลาหนึ่งชั่วยามที่โจวติ้งเจินให้ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอดีโจวติ้งเจินส่งคนมาตะโกนที่ใต้หอเมือง"ใต้เท้าโหยว! หนึ่งชั่วยามแล้ว รีบเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!"ทางนั้น ภายใต้การชี้แนะของฟู่จิ้นเชิน เหล่าองครักษ์ที่สวมปีกสายลมก็แฝงตัวออกไปอย่างไร้ซุ่มเสียงเซียวหลันยวนยืนอยู่บนหอเมืองเขาปรากฏตัวตรงนั้น ก็ดึงดูดความสนใจของพวกโจวติ้งเจินได้พอดี ให้พวกเขามองข้ามสิ่งอื่น เพื่อให้เหล่าองครักษ์ปีกสายลมทำงานได้"ใต้หอเมืองเจ้อนี้ล้วนเป็นอิฐดำ โจวติ้งเจิน เจ้าคิดจะใช้ไฟโจมตี หัวสมองถูกไม้กระดานหนีบไว้หรืออย่างไร?" เซียวหลันยวนส่งเสียงลอดออกไปไกล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1874

    อ๋องเจวี้ยนจงใจดูถูกเขาหมิ่นเขาเพิกเฉยเขา จงใจแน่ๆ กลัวเขาเสียที่ไหนกัน?อ๋องเจวี้ยนยังจงใจแสดงวิชาตัวเบาที่แข็งแกร่งขนาดนั้นออกมาต่อหน้าเขาอีก นี่มันตบฉาดหน้าเขาชัดๆระหว่างทางที่มาโจวติ้งเจินคิดแผนการเอาไว้ดิบดี แต่ปฏิกิริยาของอ๋องเจวี้ยนกลับทำแผนของเขาวุ่นวายไปหมดใครจะรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนมีนิสัยแบบนี้?ทำเอาคนทั้งชิงชังทั้งจนใจเลยจริงๆ"อ๋องเจวี้ยน โจวติ้งเจินเอาแต่เรียกพระชายาให้ออกไป จะต้องคิดใช้พระชายา ล่อท่านออกไปแน่" อันเหนียนบอกกับเซียวหลันยวน "แต่พระชายาถ้ายังไม่ออกไปอีก ถึงตอนนั้นโจวติ้งเจินอาจจะผลักภาระทั้งหมดมาบนตัวพระชายาได้นะ องค์จักรพรรดิคงถือโอกาสนี้จัดการพระชาแน่"ถึงตอนนั้น โจวติ้งเจินแค่บอกกับองค์จักรพรรดิว่า พระชายาไม่ยอมออกมาพบหน้าเพื่ออธิบายอาการป่วยของเมืองเจ้อ ทำให้เขาไม่แน่ใจในสถานการณ์ การรักษาคนป่วยเหล่านั้นผิดพลาด ความรับผิดชอบนั้นทั้งหมดจะไปอยู่บนตัวพระชายาอันเหนียนถึงอย่างไรก็เป็นแค่ขุนนาง เขาไม่อาจต่อต้านจักรพรรดิได้ ดังนั้นตอนนี้จึงกังวลว่าจักรพรรดิจะคาดโทษฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินมองเซียวหลันยวน"จาวหนิงไม่ออกไป องค์จักรพรรดิก็คาดโทษนางไม่ได้" เซี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1873

    และถ้าสู้ชนะ...เอ่อ ต่อให้รองขุนพลของโจวติ้งเจินจะไม่ค่อยมั่นใจ ว่าท่านขุนพลจะสู้ชนะอ๋องเจวี้ยนได้ไหม?พวกเขาไม่เคยสู้กัน แต่ก็ลือกันว่าวรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนแข็งแกร่งมาก...แค่ที่อ๋องเจวี้ยนลงมือเมื่อครู่ พวกเขาก็เห็นกับตากันแล้วกระโจนลงมาจากหอเมืองยังไม่เท่าไร แต่หลังจากร่อนลงมาแล้วก็ยังสามารถยืนอยู่บนหลังม้าได้ ทำให้ม้าตัวนั้นไม่กล้าจะขยับ พวกเขาเองทำไม่ได้แน่นอนยิ่งไปกว่านั้น เขาอยู่กลางอากาศก็ยังเตะขุนพลน้อยคนนั้นปลิวมาไกลขนาดนี้ กำลังภายในลึกล้ำแค่ไหนกัน?"ข้าต้องกลัวเขาด้วยเรอะ?"โจวติ้งเจินถูกยั่วยุง่ายมาก เขาอยากจะประลองกับเซียวหลันยวนมาตลอด แต่ก็ไม่เคยมีโอกาส"ท่านขุนพลไม่ต้องกลัวเขาอยู่แล้วขอรับ แต่ว่าเขาเป็นถึงอ๋องเจวี้ยน ท่านขุนพลไม่มีเหตุผลต้องไปลงมือกับเขานี่ขอรับ"รองขุนพลขวางโจวติ้งเจินเอาไว้ถ้าตอนนี้เขาออกไปสู้กับอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา เดี๋ยวจะอธิบายลำบากเปล่าๆองค์จักรพรรดิเกรงว่าก็อยากจะจัดการอ๋องเจวี้ยนอยู่ แต่ยังไม่กล้าทำอย่างโจ่งแจ้งนักถ้าหากลงมือกับอ๋องเจวี้ยนไปแบบนี้ ถึงตอนนั้นถ้าองค์จักรพรรดิต้องหาคำอธิบายกับเหล่าพระญาติและอ๋องเจวี้ยน คงได้หันมาลงโท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1872

    "หมอฟู่ออกมาก่อน ขุนพลโจวของพวกเรามีคำถาม! ทำให้การรักษาผู้ป่วยล่าช้า หมอฟู่แบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอกนะ!"ขุนพลน้อยคนนั้นยังคงตะโกนปาวๆ อยู่ใต้หอเมืองสีหน้าเซียวหลันยวนถมึงทึงไปแล้ว ถ้าไม่ใช่มีหน้ากากบังอยู่ หน้าของเขาตอนนี้คงจะดำยิ่งกว่าท้องฟ้าราตรีเสียอีกฟู่จิ้นเชินเองก็โกรธเหมือนกันเขายืนอยู่ข้างๆ เซียวหลันยวน คิดจะเตือนเขาว่าอย่าออกไปรับมือกับดจวติ้งเจินด้วยตนเอง แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าโจวติ้งเจินจะมีความคิดไปอยู่บนตัวจาวหนิง!ตอนนี้ฟู่จาวหนิงถ้าออกไป โจวติ้งเจินจะปล่อยนางกลับมาได้อย่างไร?พวกเขาคิดแผนของโจวติ้งเจินออกแทบจะทันที"เขาคิดจะควบคุมฟู่จาวหนิงไว้ แล้วเอาจาวหนิงมาคุกคามเจ้า" ฟู่จิ้นเชินทั้งเคืองทั้งโกรธ"ฝันไปเถอะ"เซียวหลันยวนกระโจนลงมาจากหอเมืองราวกับเหยี่ยวโฉบขุนพลน้อยคนนั้นรู้สึกเหมือนมีพลังวูบหนึ่ง เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดผวา ยังไม่ทันได้เห็นชัดว่าเป็นใคร ก็ได้ยินเสียงดังพลั่ก ส่วนตนเองถูกเตะลอยออกไปแล้วการลอยนี้ ปลิวไปไกลมาก เหมือนกับลอยตามลม หล่นกระแทกพื้นห่างไปลิบๆจุดที่ตกอยู่ใกล้กับโจวติ้งเจินและเซียวหลันยวนหลังจากถีบคนออกไปแล้ว ก็ร่อนลงมาบนหลั

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status