Share

บทที่ 128

Author: จุ้ยหลิงซู
เซียวหลันยวนดื่มชาที่ดีที่สุดจนชินแล้ว

เขาก่อนหน้านี้พาจินเสวี่ยกับไป๋ซวงมา ก็เพราะว่าสาวใช้สองคนนี้ล้วนชงชาได้ยอดเยี่ยม

หรือก็คือ ชาถ้วยนี้ถ้าหากให้คนทั่วไปดื่มก็ยังพอไหว แม้จะขมแต่ก็ยังหวาน ถึงอย่างไรในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่มีใบชาที่แย่มากนัก

แต่ว่าสำหรับเซียวหลันยวนที่ปากจู้จี้ไปแล้ว ถือว่าย่ำแย่มากจนไม่รู้จะพรรณนาอย่างไรเลยทีเดียว

เขาฝืนกลืนลงไป ขว้างชาถ้วยนั้นออกไปนอกหน้าต่าง

เสียงถ้วยชาแตกด้านนอก ทำให้จินเสวี่ยทิ้งตัวลงคุกเข่าทันที!

"ท่านอ๋องโปรดให้อภัยด้วย! จินเสวี่ยไม่ได้ต้องการให้ท่านอ๋องดื่มชาเช่นนี้!"

เซียวหลันยวนไม่พูดอะไร ลุกขึ้นยืน เดินมาเบื้องหน้าฟู่จาวหนิง ดึงชาจากมือนางไปดื่ม

"นี่" นั่นมันของที่นางดื่มไปแล้วนะ

ฟู่จาวหนิงถลึงตามองเซียวหลันยวน รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนคนนี้สติไม่ดี

ทำไมถึงมาดื่มชาที่คนแปลกหน้าดื่มไปแล้วกัน?

เซียวหลันยวนดื่มไปอึกหนึ่งก็เข้าใจแล้ว เขาวางถ้วยชาลงหนักๆ เสียงดังปัง

จินเสวี่ยหน้าขาวซีด รีรบหมุนตัวคุกเข่าลงมาทางนี้

"เมื่อครู่ข้าพูดไว้ว่าอย่างไร? ให้เจ้าชงชาดีดีให้กับท่านหมอหนิงจนกว่าที่นางจะพอใจ แต่ผลลัพธ์เจ้ากลับชงชาเช่นนี้หรือ?"

"ท่า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 129

    "แต่ว่า ท่านหมอหนิงเคยผิดใจกับหมอเทวดาหลี่หรือไม่? ถ้าหากเคยผิดใจกับหมอเทวดาหลี่ จะเข้าร่วมพิธีเดิมพันโอสถก็ต้องระมัดระวังหน่อย เขาจะต้องมาล้างแค้นแน่ๆ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นมาอีก"อ๋องเจวี้ยนดูท่ากำลังวังชาจะดีแล้ว และเหมือนจะไม่ต้องการตรวจดูอาการด้วย เช่นนั้นข้าก็ขอตัวกลับก่อนแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงยืนขึ้นมา ไม่รอให้เขาพูดอีก รีบสาวเท้าออกจากจวนอ๋องเจวี้ยนไปหลังจากออกมานางก็ออกเดินพลางบ่นเซียวหลันยวน คนผู้นี้เห็นได้ชัดว่ามองออกแล้วว่านางเป็นใคร ไม่เช่นนั้นคงไม่เอ่ยถึงเรื่องที่นางผิดใจกับหมอเทวดาหลี่แน่นางก็ก็แค่ผิดใจกับหมอเทวดาหลี่เท่านั้นนี่?แต่ว่า อ๋องเจวี้ยนทำไมต้องมาพูดเรื่องพิธีเดิมพันโอสถกับนางตั้งมากมายขนาดนี้กันนี่ทำเอาความอยากรู้อยากเห็นของนางพุ่งขึ้นมาทันทีฟู่จาวหนิงวันนี้ได้เงินมาส่วนหนึ่ง มือปราบเจียงทางนั้นก็ซื่อตรงจริงๆ บอกว่าจะช่วยนางหาข่าว แต่ก็ไม่เอาเงินของนาง พอบวกกับที่ชิงอีให้มาเมื่อครู่ เงินในมือนางก็ซื้อของได้ไม่น้อยเลยทีเดียวนางหาสถานที่ไปล้างเครื่องแต่งหน้าจากนั้นจึงไปซื้อของ ผ้านวมเข็มด้ายเครื่องเสบียงถ่านไหมเงินก็ซื้อมาไม่น้อย และมีคนในแผงช่วยนางส่ง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 130

    บนหัวกำแพงมีคุณชายที่ดูอายุอยู่ระหว่างเด็กชายกับชายหนุ่มคนหนึ่ง สวมผ้าคลุมผ้าทอสีฟ้าอ่อนทับด้วยสีเงิน เหมือนกับกำลังส่งแสงระยับ เขาชันเข่าข้างหนึ่ง มือข้างหนึ่งพาดไว้บนหัวเข่า ถือขลุ่ยหยกไว้เลาหนึ่ง ขลุ่ยหยกบนมือโบกไหวเบาๆ ท่าทางสบายๆ เป็นอิสระใบหน้าคุณชายก็ราวกับภาพวาดที่จิตรกรรังสรรค์มาอย่างประณีต ดวงตาดำริมฝีปากแดง มีไฝสีแดงเล็กๆ อยู่ระหว่างคิ้ว ผิวหนังขาวกว่าหิมะ ขาวเสียจนมองไม่เห็นตำหนิใดๆ ทั้งสิ้นกำแพงข้างๆ นี้อันที่จริงก็เป็นแค่กำแพงดินธรรมดา แล้วยังมีตะไคร่บางส่วนเกาะอีกด้วย มีร่องรอยลมฝนพัดเซาะ แต่ด้านบนมีคุณชายที่นั่งอยู่ราวกับเซียนคนหนึ่ง จนกำแพงนี้ราวกับเปลี่ยนเป็นดูมีเสน่ห์มนตราขึ้นมาฟู่จาวหนิงเองก็มองแค่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถอยออกมาหลายก้าวเงยหน้ามองแบบนี้ นางเมื่อยคอเพียงแต่ในเมืองหลวงแคว้นเจา ตอนไหนกันที่มีบุคคลแบบนี้อยู่ ในความทรงจำของ"คุณหนูฟู่"เองก็ไม่มีปรากฎ"ผงยาของท่านเมื่อครู่นี้ ขายให้ข้าหน่อยได้ไหม?""ไม่ขาย"ฟู่จาวหนิงขายยารักษาคน สิ่งของที่เอาไว้ป้องกันตัวเหล่านี้นางแค่เตรียมไว้ให้ตนเองกับคนในบ้านใช้ไว้เผื่อป้องกันเท่านั้น จะไม่นำมาขายเด็ดขาดมิเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 131

    คนเยอะขนาดนี้ไปดูอาการเซียวหลันยวนหรือ?"ท่านอ๋องของพวกเท่านก่อนหน้านี้ไม่เคยเชิญหมอจากโรงหมอเมตตามาตรวจอาการหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นอย่างประหลาดใจถ้าว่าตามหลักการคือเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อหมอในโรงหมอเมตตาถือว่าเป็นกลุ่มคนที่มีวิชาแพทย์ดีที่สุดในแคว้นเจาแล้ว เช่นนั้นเซียวหลันยวนก็ต้องมาหาพวกเขาก่อนเป็นอันดับแรกจึงจะถูก"ก่อนหน้าเคยเคยเชิญมาแล้ว"ผู้ดูแลจงไม่รู้ว่าท่านหมอหนิงคนนี้เป็นคนเช่นไร เพียงแต่เมื่อวานนี้ตอนที่มาท่านอ๋องก็ดูจะมีท่าทีที่ดีกับเขา ดังนั้นเขาจึงพูดมากขึ้นหน่อย แต่ตอนนี้พูดต่อไปไม่ได้อีกแล้ว"ท่านหมอหนิง อย่างนั้นไปรอที่ศาลาข้างๆ ก่อนเถิด ข้าไปแจ้งท่านอ๋องสักครู่ดีไหม?""ได้เลย"ตอนที่ฟู่จาวหนิงกำลังรอก็เห็นเฝิ่นซิงกับหงจั๋วยกชาเข้ามา พวกนางทั้งสองคนเห็นนางแล้ว แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาใดเลยนางรู้สึกประหลาดมาก ทำไมผู้ดูแลจงชิงอีกับเฝิ่นซิงหงจั๋วก็ยังมองนางไม่ออก แล้วเซียวหลันยวนทำไมจึงมองออกกัน?หรือว่าพวกจงเจี้ยนทางนั้นแอบบอกมา?ถึงอย่างไรนางตอนแรกสุดก็ออกจากห้องตนเองมาด้วยสภาพของท่านหมอหนิงนี่นะแต่ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ สำหรับความเชื่อใจต่อจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 132

    "อะไรนะ?"ป้ายตราสีม่วงเป็นป้ายอนุญาตหมอระดับสูงของโรงหมอเมตตานะ!ปกติต้องเริ่มจากป้ายไม้ก่อน จากนั้นครั้งถัดไปค่อยเข้ารับการสอบ พอผ่านแล้วค่อยยกระดับป้ายตราตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพอเอ่ยปากก็จะเอาป้ายตราสีม่วงให้ท่านหมอหนิง!"อ๋องเจวี้ยน ท่านกำลังล้อเล่นกับพวกเราอยู่หรือ?""ถูกต้อง อ๋องเจวี้ยน นี่มันไม่สอดคล้องกับกฎ""ถึงแม้ท่านหมอหนิงจะอายุมากแล้ว แต่การรับป้ายอนุญาตหมอก็ยังต้องค่อยเป็นค่อยไป"หมอเหล่านี้ราวกับถูกเหยียบหาง คนนั้นพูดทีคนนี้พูดทีกันขึ้นมาฟู่จาวหนิงเองก็มองเซียวหลันยวนอย่างตกตะลึงแม้ว่านางจะมั่นใจอย่างมากต่อวิชาแพทย์ของตนเอง และรู้สึกว่าต่อให้ต้องสอบ ก็สามารถได้รับป้ายตราสีม่วงมาแน่ แต่เหมือนเซียวหลันยวนพอเอ่ยปากก็จะให้คนของโรงหมอเมตตาส่งป้ายตราสีม่วงให้เขาทันที นางเองก็รู้สึกว่านี่มันอังการไปหน่อยเซียวหลันยวนเอ่ยเสียงเรียบ "ทำไมหรือ พวกเจ้าในโรงหมอเมตตาตั้งมากมายล้วนรักษษข้าไม่ได้ แต่ท่านหมอหนิงกลับจัดการไปเจ็ดแปดส่วนแล้ว เอาแค่จุดนี้ วิชาแพทย์ของเขาไม่ใช่ว่าเหนือกว่าทุกท่านแล้วหรือ? แล้วก็ วันนั้นที่ข้าไอเป็นเลือด หมอเทวดาหลี่ขเ้ามาก็ยังต้องยกมือยอมแพ้ แต่ท่านห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 133

    "ขอรับ""ชิงอี ส่งงคนตามพวกเขาไปรับป้ายอนุญาตหมอมา" พอเป้าหมายเสร็จสิ้น อ๋องเจวี้ยนก็เริ่มไล่แขกแล้ว "เรื่องที่พวกเจ้าพูดมาก่อนหน้านี้ ข้าปฏิเสธ ส่งแขก"หมอชราหลายคนถูกส่งออกมานอกจวนอ๋องเจวี้ยนเช่นนี้ เป้าหมายยังไม่สำเร็จแถมยังต้องจ่ายชดเชยป้ายตราสีม่วงไปอีกชิ้น แต่ละคนล้วนตั้งสติกันไม่ทันเลยทีเดียวลมด้านนอกพัดหวิว พวกเขาจึงได้สติกันขึ้นมา"พวกเราเมื่อครู่ไม่ควรไปรับปากเลย ตั้งกี่ปีแล้วที่ไม่มีคนได้รับป้ายตราสีม่วงไป? แล้วจะให้ไปแบบแปลกๆ เช่นนี้น่ะหรือ?""จริงด้วย หมอเทวดาหลี่รู้เรื่องนี้เข้าคงได้โกรธเป็นบ้าเป็นหลัง"หมอเทวดาหลี่หลายปีนี้ก็กว้างขวางในเมืองหลวงมาก เพราะหมอที่สอบผ่านแล้วได้ตรานี้มามีน้อยเสียเหลือเกิน"วินิจฉัยยากับเดิมพันหมอสองรายการนี้ เอาชนะได้ง่ายๆ เสียที่ไหน? ครั้งนี้มีวัตถุดิบยาล้ำค่าไม่น้อยที่ส่งมาจากต่างแดน พวกเราก็ยังไม่แน่ว่าจะมองออกทั้งหมด แล้วก็เดิมพันหมอนั่น เขาที่อยู่ในภูเขามาตลอดจะได้เจอกับผู้ป่วยมาสักเท่าไร ได้ทดลองมาแล้วสักกี่ครั้งกัน ชนะไม่ได้หรอก""ถูกต้อง พวกเราส่งป้ายตราสีม่วงให้เขาไปก่อน ถึงตอนนั้นค่อยเก็บกลับมาแล้วกัน ถึงอย่างไรก็จะผิดใจกับ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 134

    ไทเฮาล้มป่วยเสียแล้วและก่อนหน้านางจะล้มป่วย คืนก่อนสาวใช้ในวังที่คอยคุ้มกันช่วงกลางคืนได้ยินนางฝันร้าย ในฝันตะโกนออกมาคำหนึ่ง และเพราะประโยคนี้ จึงทำให้องค์จักรพรรดิวันนี้ประกาศว่าตอนที่อ๋องเจวี้ยนเข้าวังให้พาฟู่จาวหนิงมาด้วยกันบนรถม้า ฟู่จาวหนิงฟังถึงจุดนี้ก็ขมวดคิ้วถาม "ไทเฮาพูดอะไรออกมาหรือ?"นางทำไมรู้สึกว่า มีเงามืดกำลังปกคลุมลงมาหาตัวเองหรือเปล่า?"สาวใช้ชาววังที่ชื่อเป่าเยวี่ยคนนั้นบอกว่า ไทเฮาตะโกนว่า สกุลฟู่ ข้าขอร้องล่ะ" เซียวหลันยวนสวมหน้ากากครึ่งหน้า บนใบหน้าอีกด้านหนึ่งสีหน้าเรียบเฉย มองไม่ออกเลยว่าเขาเชื่อหรือไม่เชื่อกันแน่"สกุลฟู่?"ฟู่จาวหนิงร้องจิ๊ "ไทเฮาเพิ่งจะพบข้าแค่ครั้งเดียว แต่ก็ยังไม่เคยเรียกข้าว่าสกุลฟู่เลยนะ""ดังนั้น องค์จักรพรรดิจึงให้เจ้าเข้าวังเพื่อจะถามให้ชัด""นั่งอยู่กับบ้านเฉยๆ เคราะห์ก็ร่วงลงมาจากฟ้าจริงๆ" ฟู่จาวหนิงนวดหน้าผากอย่างจำใจรถม้ามาถึงนอกวัง พวกเขาลงจากรถเปลี่ยนเป็นรถม้าเดินในวังตอนนี้ฝนตกลงมาเล็กน้อย ถูกลมฤดูใบไม้ร่วงพัดจนหมอกลงฟู่จาวหนิงเข้าวังจักรพรรดิเป็นครั้งแรก รู้สึกว่าตกแต่งได้ตระการตามาก ยิ่งใหญ่เรียบง่าย งดงามรโหฐา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 135

    "พระสนมลี่กำลังชื่นชมนิสัยของพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่หรือ" ฮองเฮาเหลือบมองนางเย็นชาผาดหนึ่งพระสนมลี่ส่ายหัวยิ้มตอบ "หม่อมฉันมิกล้าที่จะชื่นชมพระชายาอ๋องเจวี้ยนแบบนี้หรอก"ฟู่จาวหนิงก็ขี้เกียจจะอธิบายว่าทำไมนางจึงแต่งกายด้วยชุดเก่าเข้ามา ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนส่งชุดองค์ทรงเครื่องที่พระชายาควรมีไปให้นางสักชุดอยู่แล้วฟู่จาวหนิงยังไม่ทันจะอ้าปาก ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเซียวหลันยวนดังขึ้น "พระชายาอ๋องเจวี้ยนแบบไหนหรือ? ข้ายังยืนอยู่ที่นี่นะ คิดว่าข้าตายไปแล้วหรือไรกัน?"พระสนมลี่หน้าเปลี่ยนสี"อ๋องเจวี้ยน ข้า""ข้าไม่ได้ให้พระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเข้าวัง ก็เพราะได้ยินว่าไทเฮาป่วยหนัก ใจก็ร้อนรน จึงไม่ได้สนใจเรื่องพิธีรีตอง ขนาดองค์จักรพรรดิคงจะไม่จ้องจับผิด ทำไมกัน นี่วนมาให้พวกเจ้าจ้องจับผิดแทนแล้วหรือ?"อ๋องเจวี้ยนพูดมาอีกคำหนึ่ง ครั้งนี้ทำเอาฮองเฮาเหน้าเปลี่ยนสีไปด้วยฟู่จาวหนิงประทับใจในตัวเซียวหลันยวนขึ้นอีกหน่อยแล้วยังพอไหว อยู่ต่อหน้าคนอื่นยังรู้จักมาปกป้องนาง ชายคนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นสุนัขเสียทีเดียวนางก็เอ่ยตามขึ้นมาบ้าง "ท่านอ๋อง ท่านรีบร้อนคิดจะมาดูอาการป่วยของไทเฮาว่าเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 136

    ปัญหานี้ อันที่จริงฟู่จาวหนิงก็อยากรู้เหมือนกันนางไม่คิดว่าประโยคนี้มีคนแต่งขึ้นมา ถ้าจะแต่งก็ไม่จำเป็นต้องแต่งให้มันดูไร้สาระขนาดนี้ ไม่ได้มีตรรกะอะไรเลยยิ่งไปกว่านั้น ถ้าจะแต่งขึ้นจริง จะมาพูดว่า "สกุลฟู่" ทำไม บอกว่า "ฟู่จาวหนิง" ไปเลยไม่ตรงกว่าหรือสกุลฟู่ ถ้าหากสาวใช้ในวังฟังผิด ฟังเป็นชื่ออื่นขึ้นมาล่ะดังนั้น ไทเฮาตะโกนขึ้นคำหนึ่งจากฝันร้าย ก็น่าจะเป็นเรื่องจริงฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าแปลกประหลาดมาก นางรู้สึกว่าเซียวหลันยวนเองก็อยากรู้เหมือนกัน"คำถามของฮองเฮาก็แปลกเหลือเกิน ข้าบอกไปแล้วว่าเพิ่งจะเจอกับไทเฮาแค่ครั้งเดียวในวันพิธีกับอ๋องเจวี้ยน แล้วข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าไทเฮาคิดอะไรอยู่"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก "ที่ไทเฮาร้องออกมาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคำว่าสกุลฟู่สองคำนี้ บางทีสาวใช้ในวังอาจจะฟังผิดไหม?""สาวใช้ในวังคนนั้นล่ะ" เซียวหลันยวนถามขึ้น"เรียกสาวใช้เป่าเยว่เข้ามา" องค์จักรพรรดิก็เหมือนรู้อยู่แล้วว่าพออ๋องเจวี้ยนเข้าวังจะต้องอยากเจอกับสาวใช้ในวังคนนั้น ดังนั้นจึงให้นางคอยรอไว้แล้ว"องค์จักรพรรดิให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อนได้หรือไม่ จะให้พวกนางอยู่ที่นี่ดูละครกันหรือ

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1724

    "พระชายา เอาข้าวเช้ากับน้ำร้อนมาให้แล้วขอรับ"เสียงของสืออีดังลอดเข้าาฟู่จาวหนิงเดินออกไป "วางไว้ตรงนั้นเลย เจ้าอย่าเข้ามานะ"พอเหลือบมองไป นางยังเห็นฟู่จิ้นเชินด้วย พวกเขาคนหนึ่งหิ้วน้ำร้อน คนหนึ่งถืออาหารเช้า"จาวหนิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" ฟู่จิ้นเชินยืนนิ่ง ถึงแม้อยากจะเดินเข้ามา แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไม่ให้เขาเข้าไป"ข้าไม่เป็นไร คนป่วยข้างนอกพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงถามถึงสองพี่น้องเสี่ยวเฟิงเสี่ยวยา พอรู้ว่าพวกเขาไม่เป็นไร นางจึงวางใจลงได้ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่หญิงสาวคนนี้มาถึงหลังจากที่พวกเขาทำงานไปแล้วหลายวัน ตอนนี้คนอื่นๆ ปรับตัวได้แล้ว ทำงานกันได้สมเหตุสมผลหมดแล้ว รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรถ้าเป็นเมื่อสามวันก่อน พอนางออกห่าง คนป่ววยพวกนั้นก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงจะวุ่นวายกันไปหมดแน่"ผู้ช่วยหมอสามคนที่ใต้เท้าอันหามาก็เพิ่งมาถึง ข้าให้เสี่ยวเยว่นำพวกเขาไปแล้ว ข้าเห็นว่าพวกเขาเองก็มือไม้คล่องแคล่วทำงานได้ดีอยู่ เจ้าไม่ต้องกังวล""ได้ สืออี ไปดูทหารขุนพลบัญชาการกับผู้ประสบภัยคนอื่นที่สัมผัสกับป้าคนนี้หน่อย ระวังด้วยนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"่ขอรับ"สืออี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1723

    อย่างในเวลานี้ คนเราจะลนลานหวาดกลัวกัน ถึงอย่างไรครอบครัวหญิงสาวคนนั้นก็ป่วยตายกันไปห้าคนแล้วนะ โอกาสตายสูงขนาดนี้ ใครจะไม่กล้วบ้าง?ถ้าเผื่อติดโรคแล้วต้องตายล่ะ..."เช่นนั้นศิษย์น้องหญิงรักษาโรคนี้ได้จริงไหม?" ต่งฮ่วนจือก็ตึงเครียดขึ้นมาแล้ว"เรื่องนี้นางยังไม่ได้บอก เพราะไม่ให้ใครเข้าไปเลย พวกเราตอนี้ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร นางแค่บอกว่าไม่ต้องกังวล"แล้วจะไม่กังวลกันได้อย่างไร?ถึงแม้ฟู่จาวหนิงท้ายสุดจะรักษาโรคนี้ได้ แต่หลังจากระบาดไปจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากช่วงหนึ่งแน่"เมืองเจ้อที่นี่เดิมทีก็น่าจะมีหมออยู่ไหม? พวกเขาไม่เข้ามาช่วยเลยหรือ?" ต่งฮ่วนจือถามรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงแค่คนเดียวมันเหนื่อยเกินไปอันเหนียนเล่าสถานการณ์ของหมอที่นี่กับเขาอันที่จริงสองวันนี้เขาก็หาตัวลูกศิษย์ที่อยู่ในโรงหมอแต่เดิมมาได้สามคนแล้ว ให้พวกเขาเก็บข้าวของแล้วมาช่วยกันที่นี่มีฟู่จาวหนิงคอยนำพวกเขา สำหรับพวกเขาถือเป็นโอกาสในการเรียนที่สุดยอดมาก"พรุ่งนี้เช้าจะมีผู้ช่วยหมอสามคนเข้ามา พวกเขาจะมากน้อยก็มีพื้นฐานอยู่บ้าง ถึงตอนนั้นยังสามารถช่วยเหลือได้""เป็นแค่ผู้ช่วยหมอ ศิษย์น้องหญิงค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1722

    "พระชายา" สืออีกังวลมาก มองฟู่จาวหนิงที่นั่งอยู่บนเตียงหลัวฮั่นข้างหน้าต่าง "ท่านจะทำอย่างไร?"หรือว่านางจะอยู่เฝ้าที่นี่ตลอดกัน?ในเมื่อโรคนี้อันตรายขนาดนี้ พระชายาต่างหากถึงจำเป็นต้องมีการคุ้มครองมากที่สุด"อีกเดี๋ยวข้าจะไปห้องข้างๆ ไม่ได้อยู่ที่นี่เฝ้าทั้งคืนหรอก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "ไม่ต้องกังวล"ตอนกลางคืนที่นางอยู่คนเดียวก็เข้าไปในห้องเภสัช หลายวันช่วงนี้นางล้วนนอนอยู่ในห้องเภสัช ถึงอย่างไรก็เป็นสถานที่ของตนเอง ต้องดีกว่าห้องรับแขกที่จัดขึ้นชั่วคราวมากอยู่แล้วตอนนี้มีโรคที่ระบาดได้ นางมานอนอยู่ในมิติของตนเองประสิทธิภาพในการกักกันก็ยิ่งดีกว่า"แล้วพระชายากินข้าวหรือยัง?" สืออีถาม"อีกเดี๋ยวจะกิน""ข้าจะไปนำอาหารมาให้ จะเอามาเยอะหน่อย พระชายาจะได้กินให้มากอีกนิด""ดีเลย"สืออีออกไปแล้ว พอเห็นสือซานที่อยู่ข้างๆ ประตูวงกลม "ให้คนมาเปลี่ยนกับเจ้าคืนนี้""ไม่ ข้าเฝ้าเองยังวางใจกว่า" สือซานกลับไม่ยอมฟู่จาวหนิงให้เขาเฝ้าที่นี่ไม่ปล่อยให้ใครเข้าไป ใจเขาก็ไม่ค่อยสงบแล้ว ว่ามีโรคร้ายอะไรที่ทำให้พระชายาต้องระมัดระวังขนาดนี้?นางไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ แล้วตัวนางเองล่ะ?สืออีเองก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1721

    ไข้หวัดปกติก็สามารถระบาดได้ แต่นางไม่ได้ให้คนทำการกักกันดังนั้นตอนนี้พอได้ยินว่าไปที่ห้องผู้ป่วยนั้น อันเหนียนก็เข้าใจความหมายขึ้นมาทันที"นางอยู่ที่นั่นคนดียวหรือ? น้ำเสียงเขาเครียดขึ้นมา"และการเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ของอันเหนียน ต่งฮ่วนจือก็สัมผัสได้แล้วอย่างชัดเจนเขามองอันเหนียน จากนั้นก็มองฟู่จิ้นเชิน "เกิดอะไรขึ้นหรือ? ห้องผู้ป่วยนั่นมีอะไรผิดปกติไหม?""ก่อนหน้านี้มีไป๋หู่กับเสี่ยวเยว่ส่งคนไปที่นั่น ตอนนี้มีฟู่จาวหนิงอยู่คนเดียว" ฟู่จิ้นเชินไม่ได้ตอบคำถามต่งฮ่วนจือแต่ต่งฮ่วนจือก็มองออก ว่าในสายตาเขามีความกังวลขึ้นมาเต็มที่เพียงแต่ชายหนุ่มสองคนนี้ล้วนเป็นพวกไม่ค่อยเผยอารมณ์ออกมาเท่าไรนัก เป็นคนที่หนักแน่นใจเย็นมาก ดังนั้นเขาเองก็พิจารณาถึงความหนักหนาได้ลำบากอันเหนียนยกเท้าไปทางนั้นทันที"ใต้เท้าอัน"ฟู่จิ้นเชินจับแขนเขาไว้ สายตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงเองก็กดลงมาอันเหนียนได้สติกลับมาในพริบตา ยืนนิ่งไปแล้ว"นางกำชับอะไรไว้ไหม? ทำตามที่นางว่าเลย" เสียงอันเหนียนเรียบสงบแต่ว่า ฟู่จิ้นเชินมองเขาลึกๆรู้อยู่แท้ๆ ว่าห้องผู้ป่วยนั้นเป็นตัวแทนของอะไร ขนาดตัวเขาฟู่จาวหนิง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1720

    อันเหนียนวันนี้พอวุ่นเสร็จ ก็พาคนหนึ่งมาที่โรงหมอฟู่จิ้นเชินเห็นคนที่เข้ามาก็รู้สึกเกินคาด"ผู้จัดการใหญ่ต่ง?"ต่งฮ่วนจือมาแล้ว"คุณชายฟู่"หลังจากต่งฮ่วนจือเข้ามา ด้านหลังก็ยังมีคนอีกหลายคน แบกวัตถุดิบยาเข้ามาหลายหามใหญ่ย่ิงไปกว่านั้นหลังจากพวกเขาวางลง ก็ออกไปแบกรอบที่สอง"นี่คือ?"อันเหนียนเอ่ยต่อให้ "ผู้จัดการใหญ่ต่งขนวัตถุดิบยาเข้ามาให้โดยเฉพาะ พระชายาสองวันก่อนไม่ใช่ว่าเข้าไปหาผู้ดูแลทางนี้มาหรอกหรือ? บอกวัตถุดิบยาที่ขาดกับผู้ดูแลพันธมิตรโอสถไป บอกว่าจะควักเงินจ่ายเอง ให้เขาคิดหาวิธีหน่อย""ไวขนาดนี้ ผู้จัดการใหญ่ต่งก็ได้รับข่าวแล้วหรือ?"เพิ่งจะสองวันเอง เป็นไปได้อย่างไรกัน?จากเมืองหลวงมานี่ยังต้องใข้ตั้งหลายวันพอคำนวณเวลา ต่งฮ่วนจือพอพวกเขาออกเดินทางได้สองวันก็คงจัดการแล้ว"อันที่จริงผู้ดูแลทางนี้ก็เขียนจดหมายถึงข้านานแล้ว บอกสถานการณ์ของทางนี้ ดังนั้นพวกเราจึงจัดการโยกวัตถุดิบยาจากที่อื่นเข้ามาก่อน แค่ยังไม่รู้ว่าต้องส่งไปที่ไหน แค่เตรียมการไว้ก่อน"ต่งฮ่วนจือก็เร่งเดินทางมาหลายวัน สีหน้าอ่อนล้า แต่ก็ยังอธิบายออกมา"ข้าเคยบอกกับศิษย์น้องหญิงแล้ว วัตถุดิบยาสำห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1719

    ฟู่จาวหนิงรีบพูดออกมาคำหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบเข็มออกมา รีบปักเข็มสกัดไอให้หญิงสาวไปหลายเข็มทางเดินหายใจ ปอด นางเรียนวิชาเข็มที่สามารถหยุดชะงักการไอได้ชั่วคราว ได้ใช้เสียทีหญิงสาวที่เดิมทีไอจนจะเป็นจะตายก็พบว่าตนเองหยุดไอแล้วนางมองฟู่จาวหนิง รู้สึกเหมือนได้เจอกับพระโพธิสัตว์ตัวเป็นๆ"เจ้านอนดีดี ข้าจะจับชีพจรให้ แล้วจะถามคำถามเจ้า เจ้าผ่อนคลายหน่อย""ได้ ได้"หญิงสาวเมื่อครู่ไอจนแทบไม่ไหวแล้วจริงๆ ตอนนี้แม้จะหยุดไอแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ฟู่จาวหนิงจับชีพจรให้นางอย่างละเอียด ใจดำดิ่งเป็นไข้หวัดใหญ่รุนแรงจริงๆ ด้วยที่นี่ยังไม่มีแยกชนิดเอหรือบี แต่ว่าชีพจรของหญิงสาวก็ไม่ค่อยจะเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ของผู้ป่วยทั่วไปที่รักษาไปช่วงนี้ แตกต่างอยู่หน่อยๆนางหยิบปืนวัดไข้ ปิดตาหญิงสาวไว้ แล้ววัดที่หน้าผากนางอย่างรวดเร็ว มองตัวเลขจากนั้นจึงรีบเก็บเข้าไปนคลังสกัดยามีของบางอย่างที่ใช้ได้รวดเร็ว นางเองก็ไม่ได้ยึดติดว่าห้ามใช้เด็ดขาดสี่สิบองศามีไข้ถึงสี่สิบองศาเชียวดวงตาของหญิงสาวแดงหน่อยๆ ริมฝีปากเองก็แดงผิดปกติ"เจ้าเข้าเมืองมาตอนไหน?" ฟู่จาวหนิงถาม"เข้าเมืองมาวันนี้ตอนกลางว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1718

    ยาต้มหกประสาทเอาไว้ป้องกันไข้หวัดรุนแรงฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้เจอักบคนป่วยคนหนึ่ง จากที่เขาบรรยาย ระหว่างทางที่หนีภัยพิบัติเจอเข้ากับครอบครัวหนึ่ง ล้วนเป็นหวัดกันหมด ไออย่างรุนแรง เดิมทีเดินทางด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผลลัพธ์คือครอบครัวนั้นแค่ไม่กี่วันก็ทยอยกันล้มตายไปล้วสามคนเดิมทีพวกเขายังคิดว่าเป็นแค่หวัด ทนเอาเสียหน่อย ต้มน้ำร้อนกินก็น่าจะไหว ครอบครัวนั่นบอกว่าระหว่างทางยังขุดหาสมุนไพรมากิน แต่ก็ทนกันไม่ไหวคนป่วยนี้บอกว่าเขาเห็นสถานการณ์นี้แล้วก็หวั่นขึ้นในใจ ไม่กล้าอยู่ใกล้พวกเขานัก แม้จะไปทางเดียวกัน แต่ก็ยังเว้นระยะห่างไว้ค่อนข้างมากครอบครัวนั้นสุดท้ายก็รั้งท้ายอยู่ไกล ไม่รู้ว่าเข้าเมืองแล้วหรือยังตอนนี้มองเห็นรองเท้าที่เก่าขาดบนเท้าของหญิงสาวคนนี้ แล้วบนหัวยังมีผ้าขาวผืนเล็กผืนหนึ่งผูกไว้ นางก็ไม่รู้เพราะอะไรจึงนึกถึงครอบครัวนั้นขึ้นมา"ให้สืออีไปถาม ว่าหญิงสาวคนนี้มาจากทางไหน แล้วก็ถามด้วยว่านางสัมผัสกับใครบ้าง จัดการเอาคนเหล่านี้แยกตัวออกมาก่อน"ฟู่จาวหนิงเปิดกล่องยาพลางถอยออกมาบอกกับไป๋หู่"อ้อ แล้วก็ให้สืออีป้องกันก่อนแล้วค่อยไป หาอยู่กับคนเหล่านั้นใกล้นัก จำเรื่องที่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1717

    ฟู่จาวหนิงเองก็กำลังคิดถึงปัญหานี้"แต่ว่าตงฉิงล่มสลายหายไปนานแล้ว" นางเอ่ยขึ้นทั้งสองคนนิ่งต่อไปครู่หนึ่งและเพราะล่มสลายไปแล้วจริงๆ ตอนนี้พูดเรื่องนี้ก็ไม่มีความหมายเท่าไรแล้วที่ฟู่จาวหนิงไม่ได้พูดก็คือ เซียวหลันยวนส่งหลานหรงไปค้นหาคนกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตงฉิงมาตลอด แล้วยังไปที่ซากปรักหักพังเก่าของตงฉิงมาแล้วด้วยมีฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวที่เคยไปแล้วคอยชี้ทาง บางทีไม่นานนัก พวกเขาก็น่าจะพบอะไรบ้าง"เรื่องนี้ ข้ากลับไปจะบอกท่าน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยตอบ"ทูตแคว้นหมิ่นมาแคว้นเจาครั้งนี้ ไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร แต่ข้าก็รู็สึกว่าน่าจะมาอย่างไม่เป็นมิตร"มาอย่างไม่เป็นมิตร?ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แคว้นหมิ่นส่งของมากมายเข้ามา ฟู่จิ้นเชินกลับบอกว่าพวกเขามาอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรหรือ?แต่นางเองก็ไม่ค่อยสันทัดกับเรื่องพวกนี้ ถึงอย่างไรนางก็เก่งในการรับมือปัญหาเฉพาะหน้ามาตลอดทั้งสองคนยังจะพูดอะไรต่อ แต่เสี่ยวยาก็วิ่งเข้ามา ร้องเรียกนางอย่างร้อนรน"พี่ฟู่ มีป้าคนหนึ่งเป็นล้มที่ประตู เสี่ยวยาประคองนางไม่ไหว!"พี่น้องเสี่ยวยาทั้งสองคนหลายวันนี้พักฟื้นอยู่ที่นี่ หลังจากแผลบนห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1716

    "ต้นผลอายุวัฒนะ?"ฟู่จาวหนิงพอเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะมีของแบบนี้อยู่จริงๆ?"ต้นผลอายุวัฒนะอะไร?" ฟู่จิ้นเชินเดินเข้ามาฟู่จาวหนิงส่งจดหมายให้เขา ครั้งนี้จดหมายของเซียวหลันยวนเขียนถึงสี่หน้า หน้าสุดท้ายคือคำรักที่เขาให้คนอื่นเห็นไม่ได้ แต่สามหน้าด้านหน้า ฟู่จาวหนิงไม่ติดใจที่จะให้ฟู่จิ้นเชินเห็นและเพราะในช่วงหลายวันนี้นางคุยกับคนป่วยมาก วันๆ วุ่นจนไม่ได้ดื่มน้ำ คอเองก็ปวดขึ้นมาหน่อยๆ กล่องเสียงก็แหบพร่า ตอนนี้พูดได้น้อยเท่าไรก็จะยิ่งดีอธิบายขึ้นมาต้องพูดหลายประโยคฟู่จิ้นเชินลิงโลดในใจถึงอย่างไรฟู่จาวหนิงก็ไม่เลี่ยงเขาแล้ว ยังเอาจดหมายของเซียวหลันยวนมาคุยกับเขาได้ น่าจะอธิบายได้ว่านางเองก็เริ่มเชื่อใจเขาขึ้นมาแล้วไม่เสียแรงที่ตามนางมาถึงเมืองเจ้อเพียงแต่ว่า ฟู่จาวหนิงกลับคิดไม่ถึง ว่าเขาอ่านจดหมายถเสร็จก็ให้คำตอบยืนยันกับนางมา"ผลอายุวัฒนะ มีอยู่จริงๆ มีบทบาทการบำรุงและการรักษามาก"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง "ท่านรู้จักหรือ?"ยืนยันมาได้ขนาดนี้ เขาคงไม่ได้เคยเห็นมาก่อนหรอกนะ?"เจ้าจำเรื่องที่ข้ากับแม่เจ้าไปที่ตงฉิงมาก่อนได้ไหม?""อืม"พวกเราเดิมทีไม่ได้จะตรงไ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status