"พระสนมลี่กำลังชื่นชมนิสัยของพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่หรือ" ฮองเฮาเหลือบมองนางเย็นชาผาดหนึ่งพระสนมลี่ส่ายหัวยิ้มตอบ "หม่อมฉันมิกล้าที่จะชื่นชมพระชายาอ๋องเจวี้ยนแบบนี้หรอก"ฟู่จาวหนิงก็ขี้เกียจจะอธิบายว่าทำไมนางจึงแต่งกายด้วยชุดเก่าเข้ามา ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนส่งชุดองค์ทรงเครื่องที่พระชายาควรมีไปให้นางสักชุดอยู่แล้วฟู่จาวหนิงยังไม่ทันจะอ้าปาก ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเซียวหลันยวนดังขึ้น "พระชายาอ๋องเจวี้ยนแบบไหนหรือ? ข้ายังยืนอยู่ที่นี่นะ คิดว่าข้าตายไปแล้วหรือไรกัน?"พระสนมลี่หน้าเปลี่ยนสี"อ๋องเจวี้ยน ข้า""ข้าไม่ได้ให้พระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเข้าวัง ก็เพราะได้ยินว่าไทเฮาป่วยหนัก ใจก็ร้อนรน จึงไม่ได้สนใจเรื่องพิธีรีตอง ขนาดองค์จักรพรรดิคงจะไม่จ้องจับผิด ทำไมกัน นี่วนมาให้พวกเจ้าจ้องจับผิดแทนแล้วหรือ?"อ๋องเจวี้ยนพูดมาอีกคำหนึ่ง ครั้งนี้ทำเอาฮองเฮาเหน้าเปลี่ยนสีไปด้วยฟู่จาวหนิงประทับใจในตัวเซียวหลันยวนขึ้นอีกหน่อยแล้วยังพอไหว อยู่ต่อหน้าคนอื่นยังรู้จักมาปกป้องนาง ชายคนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นสุนัขเสียทีเดียวนางก็เอ่ยตามขึ้นมาบ้าง "ท่านอ๋อง ท่านรีบร้อนคิดจะมาดูอาการป่วยของไทเฮาว่าเ
ปัญหานี้ อันที่จริงฟู่จาวหนิงก็อยากรู้เหมือนกันนางไม่คิดว่าประโยคนี้มีคนแต่งขึ้นมา ถ้าจะแต่งก็ไม่จำเป็นต้องแต่งให้มันดูไร้สาระขนาดนี้ ไม่ได้มีตรรกะอะไรเลยยิ่งไปกว่านั้น ถ้าจะแต่งขึ้นจริง จะมาพูดว่า "สกุลฟู่" ทำไม บอกว่า "ฟู่จาวหนิง" ไปเลยไม่ตรงกว่าหรือสกุลฟู่ ถ้าหากสาวใช้ในวังฟังผิด ฟังเป็นชื่ออื่นขึ้นมาล่ะดังนั้น ไทเฮาตะโกนขึ้นคำหนึ่งจากฝันร้าย ก็น่าจะเป็นเรื่องจริงฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าแปลกประหลาดมาก นางรู้สึกว่าเซียวหลันยวนเองก็อยากรู้เหมือนกัน"คำถามของฮองเฮาก็แปลกเหลือเกิน ข้าบอกไปแล้วว่าเพิ่งจะเจอกับไทเฮาแค่ครั้งเดียวในวันพิธีกับอ๋องเจวี้ยน แล้วข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าไทเฮาคิดอะไรอยู่"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก "ที่ไทเฮาร้องออกมาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคำว่าสกุลฟู่สองคำนี้ บางทีสาวใช้ในวังอาจจะฟังผิดไหม?""สาวใช้ในวังคนนั้นล่ะ" เซียวหลันยวนถามขึ้น"เรียกสาวใช้เป่าเยว่เข้ามา" องค์จักรพรรดิก็เหมือนรู้อยู่แล้วว่าพออ๋องเจวี้ยนเข้าวังจะต้องอยากเจอกับสาวใช้ในวังคนนั้น ดังนั้นจึงให้นางคอยรอไว้แล้ว"องค์จักรพรรดิให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อนได้หรือไม่ จะให้พวกนางอยู่ที่นี่ดูละครกันหรือ
"ถ้าหากเป็นแค่ฝัน ข้าไม่มีทางลงโทษนางหรอก นี่ก็แค่มาถามให้ชัดเจนว่านางได้ทำอะไรไว้ลับหลังหรือเปล่า?" องค์จักรพรรดิเอ่ยขึ้น"ถ้านางบอกว่าไม่ได้ทำ องค์จักรพรรดิจะเชื่อหรือ?"องค์จักรพรรดิชะงักไปแค่ประโยคเดียวจากความฝัน เขาจะลงโทษฟู่จาวหนิงแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้"ทั้งหมดนี้รอให้ไทเฮาตื่นขึ้นมาก่อนแล้วกัน พวกเจ้าไปเข้าเฝ้าไทเฮาเถิด"เป่าเยว่นำทางเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงไปที่วังบรรทมไทเฮาพอเข้าประตู ฟู่จาวหนิงก็ได้กลิ่นยาหนักมาก ในนี้ยังมีกลิ่นธูปกำยานลางๆ อีกหลายชนิด เป็นกลิ่นหอมที่แตกต่างกัน พอปนเปอยู่ด้วยกัน กลิ่นจึงประหลาดและฉุนหนักอย่างเห็นได้ชัดแล้วยังมีหมอหลวงคอยดูแลไทเฮาอยู่อีกสองคนเซียวหลันยวนเดินเข้าไปข้างเตียงไทเฮา เห็นนางนอนอยู่บนเตียง สีหน้าขาวซีด ไม่ขยับเขยื้อน กลิ่นอายดิ่งต่ำอย่างมาก ดูแล้วเหมือนจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น"อ๋องเจวี้ยน พระชายาอ๋องเจวี้ยน ไทเฮาไม่ตื่นขึ้นมาเลย" หมอหลวงรวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งฟู่จาวหนิงมองไปทางเซียวหลันยวน "ให้ข้าดูไหม?""ดู" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จาวหนิงจึงเดินตรงเข้าไปจะจับชีพจรให้กับไทเฮาเป่าเยว่ตกตะลึง
องค์จักรพรรดิโมโหไทเฮาจะแย่อยู่แล้วไทเฮาในเมื่อคัดค้านเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนแต่งงานกับลูกสาวฟู่หลินซื่อ แล้วทำไมวันพิธีใหญ่วันนั้นถึงไม่ยกเหตุผลนี้ออกมา เพื่อคัดค้านไม่ให้พวกเขาแต่งงานกัน?ถ้าเป็นเช่นนั้น อ๋องเจวี้ยนก็คงไม่ได้รับสิ่งยืนยันของไท่ซ่างหวงไปแล้วตอนนี้คนเขาผ่านการทดสอบสามตระกูล เตรียมจะรับสิ่งยืนยันอยู่แล้ว เพิ่งจะมาคัดค้านฟู่จาวหนิง แล้วจะมีประโยชน์อะไร?เขาตอนนี้กลับสนับสนุนให้อ๋องเจวี้ยนกับลูกสาวฟู่หลินซื่ออยู่ด้วยกันเสียอีก เพราะเช่นนี้ระหว่างสองสามีภรรยาอย่างพวกเขาก็จะมีปมในใจขนาดใหญ่ขวางอยู่ ไม่มีทางรักกันปานจะกลืนกินหลังจากนี้หากมีโอกาสค่อยไปยุยงฟู่จาวหนิง ไม่แน่ฟู่จาวหนิงอาจจะยังมีประโยชน์กับเขาบ้าง"เสด็จแม่ อายวนกับฟู่จาวหนิงแต่งงานกันหลายวันแล้ว เรื่องในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ" องค์จักรพรรดิเสแสร้งเตือนขึ้นอย่างหวังดีฮองเฮาเข้าใจความหมายของเขา และเตือนขึ้นมาด้วยเช่นกัน "ใช่แล้ว ไทเฮา ครั้งนั้นไท่ซ่างหวงไม่ใช่บอกว่าจะไม่ติดใจกับคนบ้านนางแล้วหรือ ฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อหายตัวไป ไท่ซ่างหวงก็ไม่ได้เข้าไปสร้างความลำบากใจกับผู้เฒ่าฟู่และเด็กสาวคนนี้ ดูท่
"ข้าเพิ่งแต่งงานใหม่ พวกเจ้าคิดจะขังพระชายาไว้ในวัง แล้วข้าจะไปมีทายาทกับใครกัน?"พรวดฟู่จาวหนิงแทบจะสำลักใครจะมีทายาทกับท่านกัน!แต่ก็อดพูดไม่ได้ ว่าเหตุผลนี้ของเซียวหลันยวนหยาบคายและตรงไปตรงมาจริงๆไทเฮากับองค์จักรพรรดิไม่กล้าต่อคำพูด หรือว่าพวกเขาไม่อยากให้เขามีทายาทจริงๆ?ฮองเฮาสมองทำงาน เอ่ยขึ้นมากับองค์จักรพรรดิทันที "องค์จักรพรรดิ เช่นนั้นท่านก็มอบการอภิเษกให้กับอ๋องเจวี้ยนอีกสิ ให้เขาแต่พระชายารองมาอีกสองคน""ข้าว่าได้อยู่"จริงด้วย เขาเตรียมชุบเลี้ยงสาวงามเอาไว้ตั้งหลายคนนี่นา เพื่อที่ยัดมาอยู่ข้างกายอ๋องเจวี้ยนถ้าอ๋องเจวี้ยนยังไม่รีบแต่งงาน เขาจะได้หาข้ออ้างส่งไปให้เขา ตอนนี้จังหวะก็มาพอดี"ข้าทางนี้ก็มีตัวเลือกอยู่" ไทเฮาเอ่ยขึ้นมาทันที "ไม่มีคุณสมบัติเป็นพระชายารอง เป็นอนุภรรยายังพอได้อยู่!"ไทเฮามองไปทางเป่าเยว่ที่ยืนปรนนิบัติอยู่ข้างๆ "เป่าเยว่ อีกเดี๋ยวเจ้าไปเก็บข้าวของเสีย แล้วตามอ๋องเจวี้ยนออกจากวังไป หลังจากนี้ก็คอยปรนนิบัติอ๋องเจวี้ยนเสีย รอจนพระชายารองมีลูกชายหรือลูกสาวเสียก่อนแล้ว เจ้าถึงจะมีได้รู้ไหม?"เป่าเยว่คุกเข่าลงทันที "ข้าน้อยเข้าใจแล้ว"ฟู่
พอเห็นว่ามือของเป่าเยว่กำลังจะแตะโดนตัวเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็เบี่ยงหลบทันทีนางเอ่ยขึ้นว่า "เอาล่ะ ข้าจะแบไพ่แล้ว อันที่จริงข้าเป็นพวกขี้หึง จิตใจคับแคบ ไม่อยากให้หญิงสาวคนอื่นมาร่วมแบ่งความสุขกับยวนยวนของข้า พระชายารองไม่ได้ อนุภรรยาก็ไม่ได้เช่นกัน!"ไทเฮาถลึงตามอง "เจ้า เจ้าเจ้าเจ้าพูดอะไร?"องค์จักรพรรดิคิ้วถึงกับกระพือขึ้นมา "ขี้หึง?!"ฮองเฮาปิดปาก พูดอะไรไม่ออกเป่าเยว่กลับตะลึงงันมองนาง มือที่ยื่นออกมาก็นิ่งค้างกลางอากาศไปแล้ว"ถูกต้อง ข้าเป็นคนขี้หึง ดังนั้นไม่อนุญาตให้ยวนยวนของข้าอภิเษกพระชายารองและรับภรรยาด้วย เรือนหลังของจวนอ๋องเจวี้ยนมีข้าแค่ได้คนเดียว"ฟู่จาวหนิงคิดในใจ ถึงอย่างไรเซียวหลันยวนก็สลบอยู่ ไม่ได้ยินคำพูดของนางหรอก เอาให้สุดๆ ไปเลยแล้วกัน"ยิ่งไปกว่านั้นยวนยวนก็ยังมีใจให้ข้ามากด้วย เขาเล่าให้ฟังแล้ว เรื่องที่ถูกพิษไปเมื่อตอนเด็ก ยังยืนยันไม่ได้ว่าท่านแม่ข้าเป็นผู้ทำ บางทีท่านแม่ข้าอาจจะถูกใส่ร้ายก้ได้! จะว่าไป ตอนนั้นข้าเองก็ยังคลานยังพูดไม่เป็นด้วยซ้ำ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้า เขาไม่สนใจ แต่ยังดีกับข้ามาโดยตลอด!"ฟู่จาวหนิงมองพวกเขา พูดเสียดูเป็นเ
สองคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันฟู่จาวหนิงเห็นรอยยิ้มที่มุมปากเซียวหลันยวน รู้ขึ้นมาทันทีว่าตนเองถูกหลอกเสียแล้ว!"เซียวหลันยวนท่านนี่มันสุนัขจริงๆ" นางด่าเข้าให้ถึงกับแกล้งสลบเชียว! ยิ่งกว่านั้นยังแกล้งเสียเหมือนเปี๊ยบ!ใช่ผู้ชายไหมเนี่ย? ให้นางต้องแบกมาตั้งครึ่งค่อนทาง!"สุนัข?" เซียวหลันยวนนั่งขึ้นมา จัดระเบียบตัวเล็กน้อย "ถ้าข้าไม่แกล้งสลบ ในจวนอ๋องคงจะมีหญิงสาวเพิ่มมาอีกสามคนคอยแย่งชิงความเอ็นดูจากข้าแล้ว เจ้าไม่ใช่พวกขี้หึงใจคับแคบอยากจะครองข้าไว้คนเดียวหรอกหรือ?""ไร้ยางอาย!"แกล้งสลบแล้วยังแอบฟังนางพล่ามอีกฟู่จาวหนิงโมโหจนถลึงตาใส่เขาหลายครั้ง"ข้าไม่รู้เลยนะ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเราใกล้ชิดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ" ้เขาถามขึ้นอย่างยั่วเย้ายวนยวน?หรือว่า "ยวนยวนของข้า" ?ฟู่จาวหนิงหน้าร้อนผ่าว ใบหูแดงระเรื่อสมองของนางถูกสุนัขเล่นงานเอาเสียแล้ว!"ท่านหุบปากไปเลย!""เช่นนั้นหลังจากนี้ตอนที่พวกเราแกล้งทำเป็นรักกัน ข้าต้องเรียกเจ้าว่าหนิงหนิง? เจาเจาไหม?"ฟู่จาวหนิงสะบัดตัว "ทำไมยังทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้?"ชิงอีที่อยู่ด้านนอกพอได้ยินสองคนทะเลา
ฟู่จาวหนิงไม่ขยับ และไม่คิดที่จะตอบแทนเซียวหลันยวนแต่ว่านางกลับรู้สึกว่าเสียงนี้ดูคุ้นหูเหลือเกินตอนนี้เอง หญิงสาวคนนั้นก็เอ่ยขึ้นอีกว่า "พี่เขย ข้าคือน้องสาวของท่านพี่จาวหนิง ข้าชื่อหลินอี๋เจิน"พรวดฟู่จาวหนิงเกือบจะสำลักพี่เขย?หลินอี๋เจิน? น้องสาว?นางนึกออกแล้ว เหมือนว่านางจะมีลูกพี่ลูกน้องหญิงอยู่คนหนึ่ง ตระกูลหลิน ก็คือบ้านเกิดของฟู่หลินซื่อแม่ของนางแต่หลังจากที่ฟู่หลินซื่อหายตัวไป ตระกูลหลินยังมาอาละวาดกับผู้เฒ่าฟู่เสียยกใหญ่ ตระกูลหลินด่ากราดผู้เฒ่าฟู่ บอกว่าจะต้องเป็นฟู่จิ้นเชินที่ไปก่อความเดือดร้อน จากนั้นก็ผลักความผิดมาให้ฟู่หลินซื่อ จนทำให้ตระกูลหลินของพวกเขาเกือบถูกล้างตระกูลไปหลายปีมานี้ ตระกูลหลินก็แทบจะไม่ติดต่อกับตระกูลฟู่เลยผู้เฒ่าฟู่เคยบอกกับนางไว้ ให้นางไม่ต้องไปขร้องจากตระกูลหลิน หลายครั้งที่พบกับคนตระกูลหลินที่ภายนอก พวกเขาล้วนเชิดคางไม่แม้แต่จะสบตามองนางแล้วก็เดินผ่านไปหลินอี๋เจินคนนี้ไม่เคยเรียกนางว่าพี่สาวมาก่อนเลย ตอนนี้ขนาดคำว่าพี่เขยก็ยังพูดออกมา"น้องสาวเจ้าหรือ?" เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง"น่าจะใช่?"ชิงอีที่อยู่ด้านนอกเอ่ยขึ้น "พระชา
ฟู่จาวหนิงปรับปรุงสูตรยา ใช้วัตถุดิบยาที่หาได้ทั่วไปบางส่วน แล้วตนเองก็ปรับปริมาณให้ จากนั้นทุกวันก็ให้คนของพันธมิตรต้มออกมาสามหม้อใหญ่ แล้วอุ่นบนเตาเอาไว้ตลอดคนที่มาซื้อยาเหล่านั้น สามารถใช้ชามของพันธมิตรโอสถ ตอนที่ดื่มเสร็จแล้ว ก็เอาชามกลับมาได้ตอนแรก ต่งฮ่วนจือรู้สึกว่ายาน้ำเช่นนี้ไม่น่าจะขายออก แล้วยังตั้งสามหม้อใหญ่แน่ะ หม้อนั้นก็ใบมโหฬารเลยทีเดียว เป็นหม้อใหญ่ที่เอาไว้ต้มข้าวต้มให้ผู้ประสบภัยตอนช่วงเกิดภัยพิบัติสมัยก่อนยาน้ำสามหม้อใหญ่เต็ม สามารถขายได้หลายร้อยชามแล้ววันเดียวจะขายออกได้หรือ? มีคนมากมายจะมาดื่มยาน้ำขนาดนี้เลยหรือ? ถึงอย่างไรเจ้านี่ก็ไม่ใช่ของดีอะไรมากถ้าขายไม่หมดก็ต้องเททิ้ง สิ้นเปลืองวัตถุดิบยาแย่แต่ผู้อาวุโสจี้ก็ตัดสินใจทันที ให้ผู้ดูแลของพันธมิตรโอสถจัดการเรื่องนี้ผลคือพอปล่อยชื่อเสียงของฟู่จาวหนิงออกไป คนที่มาดื่มยาก็ยังมากกว่าตามโรงน้ำชาหอสุราเสียอีกยาน้ำสามหม้อใหญ่ ขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียววันถัดมา ก็ขายขายหมดเหมือนเดิม กระทั่งมีคนไม่ได้ดื่มด้วยซ้ำ มาถามพวกเขาว่าขายยาไปต้มกินเองเลยได้ไหมแต่ฟู่จาวหนิงก็มีวิธีของนางอยู่ยาชนิดนี้ทำได้แค่ป้
ต่อมาหมอเทวดาหลี่ก็ทำหน้าขรึมคุกคามสาวใช้สองคนนั้น ถ้ายังไม่รับใช้ปรนนิบัติดีดี ก็จะขายพวกนางทั้งสองคนไปที่ซ่องโสเภณีเสียสาวใช้สองคนจึงร้องไห้ฟูมฟายเข้ามารับใช้ปรนนิบัติองค์จักรพรรดิเองก้ได้ยินเรื่องเลห่านี้ของจวนชินอ๋องเซียวแล้ว"บอกไปแล้วว่าจวนชินอ๋องเซียวต้องคอยระวังไม่ให้เข้าออก หมอเทวดาหลี่กับชินอ๋องเซียวนี่มัน..."เขาทำหน้าขรึม รู้สึกว่าตนเองไม่มีบารมีเอาเสียเลย จวนอ๋องเจวี้ยนก็ไม่เชื่อฟัง ตอนนี้จวนชินอ๋องเซียวเองก็ด้วยหรือ? ใครให้หน้าพวกเขากันถ้าไม่ใช่เพราะเขาอันที่จริงก็กลัวเจ้าโรคนั้น ตอนนี้คงเรียกเซียวเหยียนจิ่งมาด่ากราดให้เลือดซิบไปแล้ว"ตอนนี้หลี่จื่อเหยาในเมื่อถูกหมอเทวดาหลี่รับไปแล้ว เช่นนั้นก็ให้เขาไปรักษาให้ดี ข้าเองก็อยากจะเห็นว่าเขาจะรักษาเจ้าโรคนี้ได้หรือเปล่า!""องค์จักรพรรดิ พระชายาอ๋องเจวี้ยนทางนั้นต้มยาน้ำออกมา ตอนนี้สามารถป้องกันล่วงหน้าได้แล้ว หาซื้อได้ในพันธมิตรโอสถ หนึ่งชามสิบเหวิน" มีคนเข้ามารายงานกับองค์จักรพรรดิ"หนึ่งชามสิบเหวิน?" องค์จักรพรรดิใจสั่นกึก "แล้วได้ผลจริงไหม?""นี่ก็ยังไม่รู้ แต่คนที่ไปซื้อยานั้นไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคนที่เคยสัมผัสกั
จวนชินอ๋องเซียวกลายเป็นขี้ปากคนทั้งเมืองไปแล้วเซียวเหยียนจิ่งอยากจะปิดเรื่องนี้ไว้ แต่ยิ่งปิดกลับยิ่งรุนแรงขึ้นกระทั่งเพราะเขาไปพยายามปิดข่าวลือ เลยมีคนบอกว่าเขาถูกพ่อสวมเขาให้เสียแล้ว หน้าตาป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี และเพราะกลัวคนจะมาล้อเลียนว่าบ้า ดังนั้นจึงพยายามอย่างหนักที่จะหยุดข่าวลือนี้ข่าวลือคาวๆ แบบนี้ ลือกันได้ไวที่สุด และลือกกันไปอย่างพิลึกพิลั่นที่สุดด้วยหลี่จื่อเหยาตอนนั้นมาพัวพันเซียวเหยียนจิ่ง ทำทุกทางเพื่อทำลายพิธีแต่งงานของเซียวเหยียนจิ่งกับฟู่จาวหนิง นางตอนนั้นเอาแต่เรียกเขาว่า "พี่เซียว" ปาวๆ แต่ตอนนี้เพิ่งผ่านไปสองปี ทำไมจึงปีนไปถึงเตียงของพ่อพี่เซียวแล้วกัน?"ถ้าไม่ใช่ครั้งนี้หลี่จื่อเหยาเป็นโรคระบาดนั่น รัฐทายาทเซียวก็คงจะยังไม่รู้เรื่องรู้ราว""เมื่อเป็นแบบนี้ จวนชินอ๋องเซียวคงจะวุ่นวายขึ้นจริงๆ แล้ว""แล้วไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นก็โชคดีแล้วที่พระชายาอ๋องเจวี้ยนตอนนั้นไม่ได้แต่งงานเข้าจวนชินอ๋องเซียว นี่ถือว่าแคล้วคลาดเลยสินะ?"ในเมืองหลวงทุกที่มีแต่คนกระซิบกระซาบกันเช่นนี้ แต่คนที่พูดถึงฟู่จาวหนิงก็มีแค่ส่วนน้อยถึงอย่างไรตอนนี้ฟู่จาวหนิงก็เป็นพระชายาอ๋องเจว
เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าตอนนี้ถ้าให้คนนอกรู้เรื่องที่หลี่จื่อเหยาเป็นโรคนี้เข้า คงจะน่าอับอายมากโดยเฉพาะหลี่จื่อเหยาที่ติดโรคระบาดนั้นดังนั้นเรื่องนี้จะต้องเก็บให้สนิท ห้ามเผยแพร่ออกไปเด็ดขาดแต่คนอื่นกลับไม่คิดแบบเขาอย่างเช่นเซียวหลันยวนจังหวะที่หมอเทวดาหลี่กลับมาถึงเมืองหลวง เซียวหลันยวนก็ได้รับข่าวแล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องที่เซียวเหยียนจิ่งไปรับหมอเทวดาหลี่เลยถึงแม้จะผ่านไปสามปีแล้ว แต่เรื่องที่หลี่จื่อเหยากับเซียวเหยียนจิ่งทำกับฟู่จาวหนิง เซียวหลันยวนไม่เคยปล่อยผ่านโดยเฉพาะที่ช่วงนี้เซียวเหยียนจิ่งเริ่มหันมาสนใจฟู่จาวหนิงอีกครั้งหลังจากสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกลับมา เซียวเหยียนจิ่งก็ยังแอบคิดจะทำอะไรอีก สิ่งนี้เซียวหลันยวนจะทนได้อย่างไร?ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาหลี่รับลูกสาวออกไปจากจวนชินอ๋องเซียว เซียวหลันยวนก็ได้รับข่าวแล้ว"ท่าน อ๋อง จากที่หญิงรับใช้ร่างใหญ่ในเรือนหลี่จื่อเหยาบอก หลี่จื่อเหยาไปรื้อเตียงของชินอ๋องเซียวเข้า..."องครักษ์ลับมารายงานข่าวที่ได้รับมากับเซียวหลันยวนฟู่จาวหนิงนั่งฟังอยู่ข้างๆ พอได้ยินเช่นนี้นางก็หัวเราะพรวดออกมานี่มันช่าง...นางยังอยากจะพ
ต่อให้ชินอ๋องเซียวติดโรคระบาด ถ้าตอนนี้ฟู่จาวหนิงเป็นภรรยาเขา พวกเขาก็คงไม่ต้องมากลัวแบบนี้!ไม่เห็นว่าเซียวหลันยวนที่ถูกส่งไปขังในคุกใหญ่ตั้งหลายวัน จนป่านนี้ก็ยังเรียบร้อยดีไม่เป็นอะไรหรือ?จวนอ๋องเจวี้ยนก็ถูกองค์จักรพรรดิบอกว่าห้ามออกไปข้างนอกส่งเดชเหมือนกัน แล้วดูตอนนี้สิ?ฟู่จาวหนิงไม่ใช่ว่าอยากออกไปไหนก็ออกได้หรือ?ฟู่จาวหนิงแบบนั้น เขาอยากได้มาจริงๆ!ถ้าตอนนั้นไม่มีหลี่จื่อเหยา ตอนนี้ฟู่จาวหนิงก็เป็นพระชายารัฐทายาทของเขาแล้ว ไม่ใช่ขยะอย่างหลี่จื่อเหยาคนนี้!พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ในสายตาเซียวเหยียนจิ่งที่มองหลี่จื่อเหยาก็มีแต่ความเกลียดชังหลี่จื่อเหยาสบกับสายตาของเขา ก็เหมือนสัมผัสได้ถึงความเย็นเยือก ใจนางเย็นวาบไปทันทีนี่คือพี่เซียวที่นางรักมาหลายปีหรือ? ถึงแม้สองปีนี้จะทะเลาะกับเขาอย่างหนัก แต่ตอนนี้เอง นางเพิ่งรู้สึกถึงความหนาวเย็นจนเสียดกระดูกหลี่จื่อเหยาเองก็เกลียดเซียวเหยียนจิ่งขึ้นมาทันทีเช่นกัน"ท่านอยากจะส่งข้าออกไป ข้าจะไม่..." ออกไปหรอกนางยังพูดไม่ทันจบ เซียวเหยียนจิ่งก็ตัดบทนางแล้ว มองไปทางหมอเทวดาหลี่ "ถัดจากนี้ในเมืองหลวงอาจจะเกิดการแตกตื่นกลัวกันเพร
"ข้าเกรงว่าถ้าออกไปจากจวนอ๋อง คนอื่นก็จะจับจ้องไปที่ท่านพ่อตา"เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าหมอเทวดาหลี่สมองจะง่ายไปหน่อย เขาไม่คิดจะไปที่อื่นเลยเขาสะกดความหงุดหงิดไว้ พูดออกมาอย่างละเอียด"โดยเฉพาะพระชายาอ๋องเจวี้ยน นางเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ไปแล้ว ตอนนี้เองก็เป็นคนของสมาคมหมอใหญ่แล้วด้วย พอท่านกลับมา คนทั้งเมืองก็น่าจะอยากเห็นการตัดสินเด็ดขาดของพวกท่านทั้งสองกระมัง? ถึงตอนนั้นความสนใจทั้งหมดก็จะอยู่บนตัวท่าน ท่านซื้อยาอะไรไป คงถูกขุดคุ้ยออกมาแน่"ดวงตาหมอเทวดาหลี่หรี่ลงแม้จะรู้มานานแล้วว่าคนในดวงใจเซียวเหยียนจิ่งไม่ใช่ลูกสาวเขา แต่ตอนนี้ดูท่านเขาอยากจะสะบัดหลี่จื่อเหยาทิ้งเสียเหลือเกิน เขารู้สึกใจเย็นเยียบ ยิ่งไปกว่านั้นยังโมโหมาก"หลี่จื่อเหยาอยู่ในสภาพหนี้แล้ว ในจวนอ๋องไม่ใช่ว่าเหมาะสมที่สุดแล้วหรือ? ถึงอย่างไรจวนชินอ๋องเซียวของพวกเจ้า จะเอายาเอาคนก็ยังดีกว่าข้าตัวคนเดียวตั้งเยอะ? เจ้าอยากสลัดนางทิ้งขนาดนี้เชียว?""ท่านพ่อตา นี่ข้าทำเพื่อหลี่จื่อเหยานะ ตอนนี้องค์จักรพรรดิจับตามาที่จวนชินอ๋องเซียว พ่อของข้าทางนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างเลย ถ้าหากในจวนอ๋องวุ่นวายขึ้นมา ถึงตอนนั้
หลี่จื่อเหยาขนาดมือก็ยังยกไม่ขึ้น จึงเปิดหนังตาจ้องมองนางเจ้าคนชั้นต่ำ! เห็นสภาพนางแบบนี้ยังมีแรงดื่มน้ำเองอีกหรือ? ยังไม่รีบประคองนางขึ้นมาป้อนอีก!"เจ้าต้องป้อนนาง!" หมอเทวดาหลี่ร้องขึ้นมาสาวใช้แทบจะร้องไห้แล้ว ไม่ นางร้องออกมาแล้วจริงๆ นางน้ำตาร่วงพลางปรคองตัวหลี่จื่อเหยาขึ้นมา เอาแก้วจ่อไปที่มุมปากหลี่จื่อเหยาระยะใกล้ค่แนี้ สาวใช้ได้กลิ่นบนหน้าของหลี่จื่อเหยาแล้วจริงๆ เหม็นเอามากๆเซียวเหยียนจิ่งมองฉากนี้ อดถอยออกมาอีกก้าวหนึ่งไม่ได้เขามองไปทางพวกสาวใช้หญิงรับใช้อีกเหลือเหล่านั้น ถามขึ้นเสียงต่ำ "นางป่วยมานานแค่ไหนแล้ว?"ดันไม่ยอมมาบอกเขา!สาวใช้กับหญิงรับใช้ร่างกำยำไม่กล้าเงยหน้ากัน"ท…ท่านรัฐทายาท พวกเราเองก็ไม่รู้เจ้าค่ะ หลายวันมานี้พระชายารัฐทยาทก็เอาแต่นอนหลับอยู่ในห้อง ไม่ได้ลุขึ้นมาสางผมมแต่งหน้า ตอนที่กินข้าวก็ให้พวกเราเอาข้าวส่งเข้าป นางกินเสร็จพวกเราก็จะเข้ามาเก็บ""ใช่เลย ตอนที่พวกเราเข้าไปเก็บ พระชายารัฐทายาทพอกิเสร็จ นางก็จะกลับไปนอนต่อบนเตียง พวกเราจึงไม่ได้มองนางอย่างละเอียด"เมื่อคืนนี้พวกนางไม่ได้เห็นหลี่จื่อเหยาเลยเอาจริงๆ เป็นเพราะชินอ๋องเซียวกับ
หมอเทวดาหลี่อยากจะตะคอกถามหญิงสาว: เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?มีภรรยาคนไหนบ้าง ที่แอบขโมยรื้อทองของพ่อสามี?ต่อให้ชินอ๋องเซียวจะซ่อนกล่องทองแทงไว้ที่หัวเตียงจริง แต่เจ้าไปค้นหาได้หรือไรกัน?เขาถลึงตาโต อยากจะตบฉาดลูกสาวเสียทีหนึ่ง ให้นางได้รู้สึกตัว แต่พอเห็นใบหน้าเน่าเปื่อยของนาง มองใบหน้าที่บวมจนผิดปกติของนาง หมอเทวดาหลี่ก็ยังถอยออกมาอีกหลายก้าวเขาแทบจะไม่ต้องเข้าไปตรวจแล้ว สภาพนี้ของหลี่จื่อเหยาคงเลี่ยงไม่พ้นแล้ว จะต้องเป็นโรคสกปรกโรคนั้นแน่นอนแต่ว่า เพราะอะไรกัน? แค่ไปพลิกค้นเตียงของชินอ๋องเซียวหรือ?เหตุผลนี้พูดออกไป จะมีคนเชื่อไหม?อาจจะมีคนเชื่อ แต่จะต้องมีคนคิดมากแน่ ภรรยาคนหนึ่ง ไปรื้อเตียงของพ่อสามี! เรื่องนี้ถ้าลือออกไป ชื่อเสียงย่อยยับป่นปี้แน่!ถึงแม้ตัวหมอเทวดาหลี่เองจะไม่ค่อยได้เรื่องนัก แต่ก็ยังคิดเรื่องที่โง่เง่าขนาดนี้ไม่ออก!"เจ้าขาดเงินเท่าไรกันแน่? เจ้าอยู่ในจวนอ๋องไม่ได้กินไม่ได้ดื่มหรือไรกัน?" ยากจนขนาดต้องเข้าไปรื้อเตียงพ่อสามีเลยหรือ?เซียวเหยียนจิ่งพอได้ยินคำพูดหลี่จื่อเหยาก็รู้สึกไม่อยากเชื่อพอได้ยินหมอเทวดาหลี่ถามมาเช่นนี้ เขาก็หน้าดำร้องขึ้นมา "จวนอ๋อ
หลี่จื่อเหยานอนอยู่บนเตียง กระทั่งมือก็ไม่มีแรงจะขยับนางรู้สึกว่าปากของตนเองแอบจะแห้งแตกอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาดูนางเลยนางไม่รู้ว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงนานเท่าไรแล้ว อยากจะเรียกคนให้เข้ามา แต่ก็ทำได้แค่ส่งเสียงที่อ่อนแอไปเท่านั้น"น้ำ""ใครก็ได้..."ตัวนางเองยังรู้สึกว่าเสียงของตัวเองเหมือนเสียงยุงร้อง สาวใช้ที่อยู่ด้านนอกนั่นไม่ได้ยินเลยหลายวันนี้พวกนางยิ่งขี้เกียจขึ้นไปอีก ถึงแม้ตอนแรกนางมักจะดุด่าพวกนั้น ไม่ยอมให้พวกนางเข้ามาวุ่นวายกับนาง นางอยากจะนอนมันทั้งวันแต่หลายวันนี้นางรู้สึกว่านอนจนผิดปกติไปแล้ว แต่พวกนางก็ยังไม่พบอาหารเย็นเมื่อวานพวกนางส่งเข้ามาแล้ว มาส่งที่ข้างเตียงนางเหมือนก่อนหน้า นางก็ลุกขึ้นมากินอย่างเกียจคร้าน พอกินเสร็จก็โยนตะเกียบไปบนโต๊ะ พอสาวใช้เหล่านั้นว่างก็เข้ามาเก็บไปแต่ชามตะเกียบของเมื่อวาน พวกนางจนตอนนี้ก็ยังไม่เข้ามาเก็บ ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่มีคนเข้ามารินน้ำให้นางด้วยข้าวเช้าข้าวเที่ยงวันนี้ ก็ไม่มีใครส่งเข้ามาเพราะนางไม่ได้เรียกให้ส่งข้าวหรือ?แต่นางก็พูดไม่ออกแล้วหลี่จื่อเหยารู้สึกว่าหัวของตนเองมึนตื้อ นางอยากจะด่าคน อยากจะเรียกสา