"พระสนมลี่กำลังชื่นชมนิสัยของพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่หรือ" ฮองเฮาเหลือบมองนางเย็นชาผาดหนึ่งพระสนมลี่ส่ายหัวยิ้มตอบ "หม่อมฉันมิกล้าที่จะชื่นชมพระชายาอ๋องเจวี้ยนแบบนี้หรอก"ฟู่จาวหนิงก็ขี้เกียจจะอธิบายว่าทำไมนางจึงแต่งกายด้วยชุดเก่าเข้ามา ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนส่งชุดองค์ทรงเครื่องที่พระชายาควรมีไปให้นางสักชุดอยู่แล้วฟู่จาวหนิงยังไม่ทันจะอ้าปาก ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเซียวหลันยวนดังขึ้น "พระชายาอ๋องเจวี้ยนแบบไหนหรือ? ข้ายังยืนอยู่ที่นี่นะ คิดว่าข้าตายไปแล้วหรือไรกัน?"พระสนมลี่หน้าเปลี่ยนสี"อ๋องเจวี้ยน ข้า""ข้าไม่ได้ให้พระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเข้าวัง ก็เพราะได้ยินว่าไทเฮาป่วยหนัก ใจก็ร้อนรน จึงไม่ได้สนใจเรื่องพิธีรีตอง ขนาดองค์จักรพรรดิคงจะไม่จ้องจับผิด ทำไมกัน นี่วนมาให้พวกเจ้าจ้องจับผิดแทนแล้วหรือ?"อ๋องเจวี้ยนพูดมาอีกคำหนึ่ง ครั้งนี้ทำเอาฮองเฮาเหน้าเปลี่ยนสีไปด้วยฟู่จาวหนิงประทับใจในตัวเซียวหลันยวนขึ้นอีกหน่อยแล้วยังพอไหว อยู่ต่อหน้าคนอื่นยังรู้จักมาปกป้องนาง ชายคนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นสุนัขเสียทีเดียวนางก็เอ่ยตามขึ้นมาบ้าง "ท่านอ๋อง ท่านรีบร้อนคิดจะมาดูอาการป่วยของไทเฮาว่าเ
ปัญหานี้ อันที่จริงฟู่จาวหนิงก็อยากรู้เหมือนกันนางไม่คิดว่าประโยคนี้มีคนแต่งขึ้นมา ถ้าจะแต่งก็ไม่จำเป็นต้องแต่งให้มันดูไร้สาระขนาดนี้ ไม่ได้มีตรรกะอะไรเลยยิ่งไปกว่านั้น ถ้าจะแต่งขึ้นจริง จะมาพูดว่า "สกุลฟู่" ทำไม บอกว่า "ฟู่จาวหนิง" ไปเลยไม่ตรงกว่าหรือสกุลฟู่ ถ้าหากสาวใช้ในวังฟังผิด ฟังเป็นชื่ออื่นขึ้นมาล่ะดังนั้น ไทเฮาตะโกนขึ้นคำหนึ่งจากฝันร้าย ก็น่าจะเป็นเรื่องจริงฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าแปลกประหลาดมาก นางรู้สึกว่าเซียวหลันยวนเองก็อยากรู้เหมือนกัน"คำถามของฮองเฮาก็แปลกเหลือเกิน ข้าบอกไปแล้วว่าเพิ่งจะเจอกับไทเฮาแค่ครั้งเดียวในวันพิธีกับอ๋องเจวี้ยน แล้วข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าไทเฮาคิดอะไรอยู่"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก "ที่ไทเฮาร้องออกมาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคำว่าสกุลฟู่สองคำนี้ บางทีสาวใช้ในวังอาจจะฟังผิดไหม?""สาวใช้ในวังคนนั้นล่ะ" เซียวหลันยวนถามขึ้น"เรียกสาวใช้เป่าเยว่เข้ามา" องค์จักรพรรดิก็เหมือนรู้อยู่แล้วว่าพออ๋องเจวี้ยนเข้าวังจะต้องอยากเจอกับสาวใช้ในวังคนนั้น ดังนั้นจึงให้นางคอยรอไว้แล้ว"องค์จักรพรรดิให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อนได้หรือไม่ จะให้พวกนางอยู่ที่นี่ดูละครกันหรือ
"ถ้าหากเป็นแค่ฝัน ข้าไม่มีทางลงโทษนางหรอก นี่ก็แค่มาถามให้ชัดเจนว่านางได้ทำอะไรไว้ลับหลังหรือเปล่า?" องค์จักรพรรดิเอ่ยขึ้น"ถ้านางบอกว่าไม่ได้ทำ องค์จักรพรรดิจะเชื่อหรือ?"องค์จักรพรรดิชะงักไปแค่ประโยคเดียวจากความฝัน เขาจะลงโทษฟู่จาวหนิงแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้"ทั้งหมดนี้รอให้ไทเฮาตื่นขึ้นมาก่อนแล้วกัน พวกเจ้าไปเข้าเฝ้าไทเฮาเถิด"เป่าเยว่นำทางเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงไปที่วังบรรทมไทเฮาพอเข้าประตู ฟู่จาวหนิงก็ได้กลิ่นยาหนักมาก ในนี้ยังมีกลิ่นธูปกำยานลางๆ อีกหลายชนิด เป็นกลิ่นหอมที่แตกต่างกัน พอปนเปอยู่ด้วยกัน กลิ่นจึงประหลาดและฉุนหนักอย่างเห็นได้ชัดแล้วยังมีหมอหลวงคอยดูแลไทเฮาอยู่อีกสองคนเซียวหลันยวนเดินเข้าไปข้างเตียงไทเฮา เห็นนางนอนอยู่บนเตียง สีหน้าขาวซีด ไม่ขยับเขยื้อน กลิ่นอายดิ่งต่ำอย่างมาก ดูแล้วเหมือนจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น"อ๋องเจวี้ยน พระชายาอ๋องเจวี้ยน ไทเฮาไม่ตื่นขึ้นมาเลย" หมอหลวงรวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งฟู่จาวหนิงมองไปทางเซียวหลันยวน "ให้ข้าดูไหม?""ดู" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จาวหนิงจึงเดินตรงเข้าไปจะจับชีพจรให้กับไทเฮาเป่าเยว่ตกตะลึง
องค์จักรพรรดิโมโหไทเฮาจะแย่อยู่แล้วไทเฮาในเมื่อคัดค้านเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนแต่งงานกับลูกสาวฟู่หลินซื่อ แล้วทำไมวันพิธีใหญ่วันนั้นถึงไม่ยกเหตุผลนี้ออกมา เพื่อคัดค้านไม่ให้พวกเขาแต่งงานกัน?ถ้าเป็นเช่นนั้น อ๋องเจวี้ยนก็คงไม่ได้รับสิ่งยืนยันของไท่ซ่างหวงไปแล้วตอนนี้คนเขาผ่านการทดสอบสามตระกูล เตรียมจะรับสิ่งยืนยันอยู่แล้ว เพิ่งจะมาคัดค้านฟู่จาวหนิง แล้วจะมีประโยชน์อะไร?เขาตอนนี้กลับสนับสนุนให้อ๋องเจวี้ยนกับลูกสาวฟู่หลินซื่ออยู่ด้วยกันเสียอีก เพราะเช่นนี้ระหว่างสองสามีภรรยาอย่างพวกเขาก็จะมีปมในใจขนาดใหญ่ขวางอยู่ ไม่มีทางรักกันปานจะกลืนกินหลังจากนี้หากมีโอกาสค่อยไปยุยงฟู่จาวหนิง ไม่แน่ฟู่จาวหนิงอาจจะยังมีประโยชน์กับเขาบ้าง"เสด็จแม่ อายวนกับฟู่จาวหนิงแต่งงานกันหลายวันแล้ว เรื่องในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ" องค์จักรพรรดิเสแสร้งเตือนขึ้นอย่างหวังดีฮองเฮาเข้าใจความหมายของเขา และเตือนขึ้นมาด้วยเช่นกัน "ใช่แล้ว ไทเฮา ครั้งนั้นไท่ซ่างหวงไม่ใช่บอกว่าจะไม่ติดใจกับคนบ้านนางแล้วหรือ ฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อหายตัวไป ไท่ซ่างหวงก็ไม่ได้เข้าไปสร้างความลำบากใจกับผู้เฒ่าฟู่และเด็กสาวคนนี้ ดูท่
"ข้าเพิ่งแต่งงานใหม่ พวกเจ้าคิดจะขังพระชายาไว้ในวัง แล้วข้าจะไปมีทายาทกับใครกัน?"พรวดฟู่จาวหนิงแทบจะสำลักใครจะมีทายาทกับท่านกัน!แต่ก็อดพูดไม่ได้ ว่าเหตุผลนี้ของเซียวหลันยวนหยาบคายและตรงไปตรงมาจริงๆไทเฮากับองค์จักรพรรดิไม่กล้าต่อคำพูด หรือว่าพวกเขาไม่อยากให้เขามีทายาทจริงๆ?ฮองเฮาสมองทำงาน เอ่ยขึ้นมากับองค์จักรพรรดิทันที "องค์จักรพรรดิ เช่นนั้นท่านก็มอบการอภิเษกให้กับอ๋องเจวี้ยนอีกสิ ให้เขาแต่พระชายารองมาอีกสองคน""ข้าว่าได้อยู่"จริงด้วย เขาเตรียมชุบเลี้ยงสาวงามเอาไว้ตั้งหลายคนนี่นา เพื่อที่ยัดมาอยู่ข้างกายอ๋องเจวี้ยนถ้าอ๋องเจวี้ยนยังไม่รีบแต่งงาน เขาจะได้หาข้ออ้างส่งไปให้เขา ตอนนี้จังหวะก็มาพอดี"ข้าทางนี้ก็มีตัวเลือกอยู่" ไทเฮาเอ่ยขึ้นมาทันที "ไม่มีคุณสมบัติเป็นพระชายารอง เป็นอนุภรรยายังพอได้อยู่!"ไทเฮามองไปทางเป่าเยว่ที่ยืนปรนนิบัติอยู่ข้างๆ "เป่าเยว่ อีกเดี๋ยวเจ้าไปเก็บข้าวของเสีย แล้วตามอ๋องเจวี้ยนออกจากวังไป หลังจากนี้ก็คอยปรนนิบัติอ๋องเจวี้ยนเสีย รอจนพระชายารองมีลูกชายหรือลูกสาวเสียก่อนแล้ว เจ้าถึงจะมีได้รู้ไหม?"เป่าเยว่คุกเข่าลงทันที "ข้าน้อยเข้าใจแล้ว"ฟู่
พอเห็นว่ามือของเป่าเยว่กำลังจะแตะโดนตัวเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็เบี่ยงหลบทันทีนางเอ่ยขึ้นว่า "เอาล่ะ ข้าจะแบไพ่แล้ว อันที่จริงข้าเป็นพวกขี้หึง จิตใจคับแคบ ไม่อยากให้หญิงสาวคนอื่นมาร่วมแบ่งความสุขกับยวนยวนของข้า พระชายารองไม่ได้ อนุภรรยาก็ไม่ได้เช่นกัน!"ไทเฮาถลึงตามอง "เจ้า เจ้าเจ้าเจ้าพูดอะไร?"องค์จักรพรรดิคิ้วถึงกับกระพือขึ้นมา "ขี้หึง?!"ฮองเฮาปิดปาก พูดอะไรไม่ออกเป่าเยว่กลับตะลึงงันมองนาง มือที่ยื่นออกมาก็นิ่งค้างกลางอากาศไปแล้ว"ถูกต้อง ข้าเป็นคนขี้หึง ดังนั้นไม่อนุญาตให้ยวนยวนของข้าอภิเษกพระชายารองและรับภรรยาด้วย เรือนหลังของจวนอ๋องเจวี้ยนมีข้าแค่ได้คนเดียว"ฟู่จาวหนิงคิดในใจ ถึงอย่างไรเซียวหลันยวนก็สลบอยู่ ไม่ได้ยินคำพูดของนางหรอก เอาให้สุดๆ ไปเลยแล้วกัน"ยิ่งไปกว่านั้นยวนยวนก็ยังมีใจให้ข้ามากด้วย เขาเล่าให้ฟังแล้ว เรื่องที่ถูกพิษไปเมื่อตอนเด็ก ยังยืนยันไม่ได้ว่าท่านแม่ข้าเป็นผู้ทำ บางทีท่านแม่ข้าอาจจะถูกใส่ร้ายก้ได้! จะว่าไป ตอนนั้นข้าเองก็ยังคลานยังพูดไม่เป็นด้วยซ้ำ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้า เขาไม่สนใจ แต่ยังดีกับข้ามาโดยตลอด!"ฟู่จาวหนิงมองพวกเขา พูดเสียดูเป็นเ
สองคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันฟู่จาวหนิงเห็นรอยยิ้มที่มุมปากเซียวหลันยวน รู้ขึ้นมาทันทีว่าตนเองถูกหลอกเสียแล้ว!"เซียวหลันยวนท่านนี่มันสุนัขจริงๆ" นางด่าเข้าให้ถึงกับแกล้งสลบเชียว! ยิ่งกว่านั้นยังแกล้งเสียเหมือนเปี๊ยบ!ใช่ผู้ชายไหมเนี่ย? ให้นางต้องแบกมาตั้งครึ่งค่อนทาง!"สุนัข?" เซียวหลันยวนนั่งขึ้นมา จัดระเบียบตัวเล็กน้อย "ถ้าข้าไม่แกล้งสลบ ในจวนอ๋องคงจะมีหญิงสาวเพิ่มมาอีกสามคนคอยแย่งชิงความเอ็นดูจากข้าแล้ว เจ้าไม่ใช่พวกขี้หึงใจคับแคบอยากจะครองข้าไว้คนเดียวหรอกหรือ?""ไร้ยางอาย!"แกล้งสลบแล้วยังแอบฟังนางพล่ามอีกฟู่จาวหนิงโมโหจนถลึงตาใส่เขาหลายครั้ง"ข้าไม่รู้เลยนะ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเราใกล้ชิดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ" ้เขาถามขึ้นอย่างยั่วเย้ายวนยวน?หรือว่า "ยวนยวนของข้า" ?ฟู่จาวหนิงหน้าร้อนผ่าว ใบหูแดงระเรื่อสมองของนางถูกสุนัขเล่นงานเอาเสียแล้ว!"ท่านหุบปากไปเลย!""เช่นนั้นหลังจากนี้ตอนที่พวกเราแกล้งทำเป็นรักกัน ข้าต้องเรียกเจ้าว่าหนิงหนิง? เจาเจาไหม?"ฟู่จาวหนิงสะบัดตัว "ทำไมยังทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้?"ชิงอีที่อยู่ด้านนอกพอได้ยินสองคนทะเลา
ฟู่จาวหนิงไม่ขยับ และไม่คิดที่จะตอบแทนเซียวหลันยวนแต่ว่านางกลับรู้สึกว่าเสียงนี้ดูคุ้นหูเหลือเกินตอนนี้เอง หญิงสาวคนนั้นก็เอ่ยขึ้นอีกว่า "พี่เขย ข้าคือน้องสาวของท่านพี่จาวหนิง ข้าชื่อหลินอี๋เจิน"พรวดฟู่จาวหนิงเกือบจะสำลักพี่เขย?หลินอี๋เจิน? น้องสาว?นางนึกออกแล้ว เหมือนว่านางจะมีลูกพี่ลูกน้องหญิงอยู่คนหนึ่ง ตระกูลหลิน ก็คือบ้านเกิดของฟู่หลินซื่อแม่ของนางแต่หลังจากที่ฟู่หลินซื่อหายตัวไป ตระกูลหลินยังมาอาละวาดกับผู้เฒ่าฟู่เสียยกใหญ่ ตระกูลหลินด่ากราดผู้เฒ่าฟู่ บอกว่าจะต้องเป็นฟู่จิ้นเชินที่ไปก่อความเดือดร้อน จากนั้นก็ผลักความผิดมาให้ฟู่หลินซื่อ จนทำให้ตระกูลหลินของพวกเขาเกือบถูกล้างตระกูลไปหลายปีมานี้ ตระกูลหลินก็แทบจะไม่ติดต่อกับตระกูลฟู่เลยผู้เฒ่าฟู่เคยบอกกับนางไว้ ให้นางไม่ต้องไปขร้องจากตระกูลหลิน หลายครั้งที่พบกับคนตระกูลหลินที่ภายนอก พวกเขาล้วนเชิดคางไม่แม้แต่จะสบตามองนางแล้วก็เดินผ่านไปหลินอี๋เจินคนนี้ไม่เคยเรียกนางว่าพี่สาวมาก่อนเลย ตอนนี้ขนาดคำว่าพี่เขยก็ยังพูดออกมา"น้องสาวเจ้าหรือ?" เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง"น่าจะใช่?"ชิงอีที่อยู่ด้านนอกเอ่ยขึ้น "พระชา