Share

บทที่ 139

Penulis: จุ้ยหลิงซู
"ข้าเพิ่งแต่งงานใหม่ พวกเจ้าคิดจะขังพระชายาไว้ในวัง แล้วข้าจะไปมีทายาทกับใครกัน?"

พรวด

ฟู่จาวหนิงแทบจะสำลัก

ใครจะมีทายาทกับท่านกัน!

แต่ก็อดพูดไม่ได้ ว่าเหตุผลนี้ของเซียวหลันยวนหยาบคายและตรงไปตรงมาจริงๆ

ไทเฮากับองค์จักรพรรดิไม่กล้าต่อคำพูด หรือว่าพวกเขาไม่อยากให้เขามีทายาทจริงๆ?

ฮองเฮาสมองทำงาน เอ่ยขึ้นมากับองค์จักรพรรดิทันที "องค์จักรพรรดิ เช่นนั้นท่านก็มอบการอภิเษกให้กับอ๋องเจวี้ยนอีกสิ ให้เขาแต่พระชายารองมาอีกสองคน"

"ข้าว่าได้อยู่"

จริงด้วย เขาเตรียมชุบเลี้ยงสาวงามเอาไว้ตั้งหลายคนนี่นา เพื่อที่ยัดมาอยู่ข้างกายอ๋องเจวี้ยน

ถ้าอ๋องเจวี้ยนยังไม่รีบแต่งงาน เขาจะได้หาข้ออ้างส่งไปให้เขา ตอนนี้จังหวะก็มาพอดี

"ข้าทางนี้ก็มีตัวเลือกอยู่" ไทเฮาเอ่ยขึ้นมาทันที "ไม่มีคุณสมบัติเป็นพระชายารอง เป็นอนุภรรยายังพอได้อยู่!"

ไทเฮามองไปทางเป่าเยว่ที่ยืนปรนนิบัติอยู่ข้างๆ "เป่าเยว่ อีกเดี๋ยวเจ้าไปเก็บข้าวของเสีย แล้วตามอ๋องเจวี้ยนออกจากวังไป หลังจากนี้ก็คอยปรนนิบัติอ๋องเจวี้ยนเสีย รอจนพระชายารองมีลูกชายหรือลูกสาวเสียก่อนแล้ว เจ้าถึงจะมีได้รู้ไหม?"

เป่าเยว่คุกเข่าลงทันที "ข้าน้อยเข้าใจแล้ว"

ฟู่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 140

    พอเห็นว่ามือของเป่าเยว่กำลังจะแตะโดนตัวเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็เบี่ยงหลบทันทีนางเอ่ยขึ้นว่า "เอาล่ะ ข้าจะแบไพ่แล้ว อันที่จริงข้าเป็นพวกขี้หึง จิตใจคับแคบ ไม่อยากให้หญิงสาวคนอื่นมาร่วมแบ่งความสุขกับยวนยวนของข้า พระชายารองไม่ได้ อนุภรรยาก็ไม่ได้เช่นกัน!"ไทเฮาถลึงตามอง "เจ้า เจ้าเจ้าเจ้าพูดอะไร?"องค์จักรพรรดิคิ้วถึงกับกระพือขึ้นมา "ขี้หึง?!"ฮองเฮาปิดปาก พูดอะไรไม่ออกเป่าเยว่กลับตะลึงงันมองนาง มือที่ยื่นออกมาก็นิ่งค้างกลางอากาศไปแล้ว"ถูกต้อง ข้าเป็นคนขี้หึง ดังนั้นไม่อนุญาตให้ยวนยวนของข้าอภิเษกพระชายารองและรับภรรยาด้วย เรือนหลังของจวนอ๋องเจวี้ยนมีข้าแค่ได้คนเดียว"ฟู่จาวหนิงคิดในใจ ถึงอย่างไรเซียวหลันยวนก็สลบอยู่ ไม่ได้ยินคำพูดของนางหรอก เอาให้สุดๆ ไปเลยแล้วกัน"ยิ่งไปกว่านั้นยวนยวนก็ยังมีใจให้ข้ามากด้วย เขาเล่าให้ฟังแล้ว เรื่องที่ถูกพิษไปเมื่อตอนเด็ก ยังยืนยันไม่ได้ว่าท่านแม่ข้าเป็นผู้ทำ บางทีท่านแม่ข้าอาจจะถูกใส่ร้ายก้ได้! จะว่าไป ตอนนั้นข้าเองก็ยังคลานยังพูดไม่เป็นด้วยซ้ำ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้า เขาไม่สนใจ แต่ยังดีกับข้ามาโดยตลอด!"ฟู่จาวหนิงมองพวกเขา พูดเสียดูเป็นเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 141

    สองคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันฟู่จาวหนิงเห็นรอยยิ้มที่มุมปากเซียวหลันยวน รู้ขึ้นมาทันทีว่าตนเองถูกหลอกเสียแล้ว!"เซียวหลันยวนท่านนี่มันสุนัขจริงๆ" นางด่าเข้าให้ถึงกับแกล้งสลบเชียว! ยิ่งกว่านั้นยังแกล้งเสียเหมือนเปี๊ยบ!ใช่ผู้ชายไหมเนี่ย? ให้นางต้องแบกมาตั้งครึ่งค่อนทาง!"สุนัข?" เซียวหลันยวนนั่งขึ้นมา จัดระเบียบตัวเล็กน้อย "ถ้าข้าไม่แกล้งสลบ ในจวนอ๋องคงจะมีหญิงสาวเพิ่มมาอีกสามคนคอยแย่งชิงความเอ็นดูจากข้าแล้ว เจ้าไม่ใช่พวกขี้หึงใจคับแคบอยากจะครองข้าไว้คนเดียวหรอกหรือ?""ไร้ยางอาย!"แกล้งสลบแล้วยังแอบฟังนางพล่ามอีกฟู่จาวหนิงโมโหจนถลึงตาใส่เขาหลายครั้ง"ข้าไม่รู้เลยนะ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเราใกล้ชิดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ" ้เขาถามขึ้นอย่างยั่วเย้ายวนยวน?หรือว่า "ยวนยวนของข้า" ?ฟู่จาวหนิงหน้าร้อนผ่าว ใบหูแดงระเรื่อสมองของนางถูกสุนัขเล่นงานเอาเสียแล้ว!"ท่านหุบปากไปเลย!""เช่นนั้นหลังจากนี้ตอนที่พวกเราแกล้งทำเป็นรักกัน ข้าต้องเรียกเจ้าว่าหนิงหนิง? เจาเจาไหม?"ฟู่จาวหนิงสะบัดตัว "ทำไมยังทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้?"ชิงอีที่อยู่ด้านนอกพอได้ยินสองคนทะเลา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่142

    ฟู่จาวหนิงไม่ขยับ และไม่คิดที่จะตอบแทนเซียวหลันยวนแต่ว่านางกลับรู้สึกว่าเสียงนี้ดูคุ้นหูเหลือเกินตอนนี้เอง หญิงสาวคนนั้นก็เอ่ยขึ้นอีกว่า "พี่เขย ข้าคือน้องสาวของท่านพี่จาวหนิง ข้าชื่อหลินอี๋เจิน"พรวดฟู่จาวหนิงเกือบจะสำลักพี่เขย?หลินอี๋เจิน? น้องสาว?นางนึกออกแล้ว เหมือนว่านางจะมีลูกพี่ลูกน้องหญิงอยู่คนหนึ่ง ตระกูลหลิน ก็คือบ้านเกิดของฟู่หลินซื่อแม่ของนางแต่หลังจากที่ฟู่หลินซื่อหายตัวไป ตระกูลหลินยังมาอาละวาดกับผู้เฒ่าฟู่เสียยกใหญ่ ตระกูลหลินด่ากราดผู้เฒ่าฟู่ บอกว่าจะต้องเป็นฟู่จิ้นเชินที่ไปก่อความเดือดร้อน จากนั้นก็ผลักความผิดมาให้ฟู่หลินซื่อ จนทำให้ตระกูลหลินของพวกเขาเกือบถูกล้างตระกูลไปหลายปีมานี้ ตระกูลหลินก็แทบจะไม่ติดต่อกับตระกูลฟู่เลยผู้เฒ่าฟู่เคยบอกกับนางไว้ ให้นางไม่ต้องไปขร้องจากตระกูลหลิน หลายครั้งที่พบกับคนตระกูลหลินที่ภายนอก พวกเขาล้วนเชิดคางไม่แม้แต่จะสบตามองนางแล้วก็เดินผ่านไปหลินอี๋เจินคนนี้ไม่เคยเรียกนางว่าพี่สาวมาก่อนเลย ตอนนี้ขนาดคำว่าพี่เขยก็ยังพูดออกมา"น้องสาวเจ้าหรือ?" เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง"น่าจะใช่?"ชิงอีที่อยู่ด้านนอกเอ่ยขึ้น "พระชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 143

    เซียวหลันยวนมองกล่องนั่นเขาคิดไม่ถึงเลยว่าไหมใจโลหิตที่พวกเขาลงทุนลงแรงไปตั้งมากมายก็ยังไม่ได้มา แต่ฟู่จาวหนิงกลับได้มาอย่างรวดเร็วไหมใจโลหิตบินเร็วมาก ถ้าแค่ทำมันตกใจ ตอนที่มันไม่ยอมหยุดก็จะจับได้ยากมากแต่ว่านักบุญหญิงของเผ่าโม๋ลั่วมีวิธีเข้าใกล้และทำให้ไหมใจโลหิตหยุดลง นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาให้ความสนใจไห่ฉางจวิ้น"ท่านกลับมาก็เพราะจะเข้าร่วมพิธีเดิมพันโอสถนี่ใช่ไหม? บนพิธีน่าจะมียาที่ท่านต้องการอยู่กระมัง?"ฟู่จาวหนิงถามจบก็เห็นเซียวหลันยวนนิ่งงัน นางก็รู้ทันทีว่าตนเองเดาถูกแล้วเซียวหลันยวนมองนาง "ไป๋ซวงจำแนกยาได้เก่งมาก พิธีเดิมพันโอสถครั้งนี้ ข้าจึงวางแผนจะให้นางเข้าร่วม ดังนั้นก่อนหน้าจึงไม่ได้ลงโทษนาง"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไป"ท่านกำลังอธิบายกับข้าหรือ?"เซียวหลันยวนพอเห็นดวงตาที่ตาขาวตาดำแยกกันชัดเจนของนางจู่ๆ ก็รู้สึกไม่เป็นสุข แต่ไหนแต่ไรเขาไม่มีนิสัยอธิบายกับใครมาก่อน แต่เมื่อครู่ไม่รู้ทำไม กลับต้องพูดขึ้นมากับนางคำหนึ่งอย่างอดไม่อยู่"นี่คือไหมใจโลหิต มอบให้ท่าน"ฟู่จาวหนิงยื่นกล่องส่งให้เขาเซียวหลันยวนรับไป ไม่ได้เปิดออกดู"ท่านไม่คิดจะเปิดดูหน่อยหรือ? ไม่กล้ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 144

    จังหวะที่ไป๋ซวงเห็นไหมใจโลหิตก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ นางดีใจจนลืม เงยหน้าขึ้นมองเซียวหลันยวน เอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า "ท่านอ๋อง นี่คือไหมใจโลหิต!"ตอนนี้เอง ไหมใจโลหิตถูกทำให้ตกใจ สยายปีกจะบินออกจากกล่อง"อ๊า ไม่นะ!"ไป๋ซวงตกตะลึง รีบร้อนปิดฝาลงมา แต่ก็ช้าไปแล้วก้าวหนึ่งน่าจะพูดว่าความเร็วของไหมใจโลหิตเร็วกว่าที่นางคิดเอาไว้มาก เพียงพริบตาก็บินออกไปแล้ว"ปึง"ไป๋ซวงตกใจจนโยนกล่องทิ้งยื่นมือเข้าคว้าตัวไหมใจโลหิต แต่มือของนางก็แตะไม่โดนแม้แต่ปีกเซียวหลันยวนสีหน้าเองก็เปลี่ยน พอเห็นว่าบินไปอย่างรวดเร็ว ก็ยื่นมือออกคว้าไหมใจโลหิตด้วยเช่นกันนิ้วของเขาแตะโดนปีกของไหมใจโลหิต แต่ก็ยังคงจับมันไม่อยู่ มันมุดลอดออกมาจากร่องนิ้ว และบินขึ้นสูงไปอีกไป๋ซวงร้อนรนจนแทบจะร้องไห้ รีบพุ่งไปจับคว้าแต่ทั้งสองคนไล่จับอยู่พักหนึ่ง ก็เหมือนเสียแรงเปล่า เห็นแต่ภาพคงค้างจากการที่ไหมใจโลหิตตัวนั้นบินได้เร็วมาก จนทำเอาพวกเขาไล่ตามจนหายใจหายคอไม่ทันเซียวหลันยวนเลือดลมปั่นป่วน นั่งลงมาเขาเดิมทีก็ร่างกายอ่อนแอเพราะมีพิษอยู่แล้ว รับกิจกรรมที่รุนแรงไม่ไหวไป๋ซวงกระโดดเหยงขึ้นลงคว้าอยู่พักหนึ่ง พอเห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 145

    นางกระพริบตาปริบ มองไปทางไป๋ซวง "เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าก็เปิดประตูไสหัวไปได้แล้ว"ไป๋ซวงตาแดงเถือกมองเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนได้สติกลับมา สีหน้าเคร่งขรึม "พระชายาให้เจ้าไสหัวไป ไม่ได้ยินหรือ?"ไป๋ซวงร้องไห้ลุกขึ้นมา หมุนตัววิ่งออกไปด้านนอก"รอจงเจี้ยนกลับมาแล้วจงไปรับการโบยเสียสิบที" พอเสียงของเซียวหลันยวนลอดถึงหูนาง เท้านางก็ลื่นจนเกือบจะล้มลงพื้นไป๋ซวงร้องไห้เจียนตายอยู่แล้วท่านอ๋องถึงกับลงโทษนาง แล้วยังโหดเหี้ยมขนาดจะลงโทษโบยนางถึงสิบทีด้วย!ถ้าโบยลงมาสิบที บนตัวนางจะยังขาวสะอาดผุดผ่องอีกไหม?ไป๋ซวงร้องไห้วิ่งออกไปฟู่จาวหนิงผลักกล่องส่งไปเบื้องหน้าเซียวหลันยวน "ให้ท่าน หลังจากนี้ถ้ามันยังบินหนีอีก ข้าไม่รับผิดชอบจับให้แล้วนะ""เอาไว้กับเจ้าก่อนเถอะ" เซียวหลันยวนลูบจมูก "ช่วยรักษาให้ข้าไว้ก่อนได้ไหม?""ฝากหรือ?" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว "ก็ไม่ใช่จะไม่ได้ จะฝากไว้นานแค่ไหน?""จนกว่าพิธีเดิมพันโอสถจะเสร็จสิ้น""หนึ่งวันค่าฝากสิบตำลึง" ฟู่จาวหนิงยื่นมือออกมาเซียวหลันยวนตะลึงงันค่าฝาก?"พวกเราเดิมทีก็เกี่ยวข้องกันด้วยความร่วมมือกับการแลกเปลี่ยนนี่ ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะต้องช่วยท่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 146

    สองวันนี้ในเมืองหลวงมีคนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมีคนจากด้านนอกเข้ามามากมายในกระแสคนที่เดินทางบนถนน คนที่แต่งตัวด้วยชุดเครื่องประดับต่างๆ ก็มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นโรงเตี๊ยมต่างๆ ก็แทบจะพักกันเต็ม โรงเตี๊ญมที่ตำแหน่งดีหน่อย สองวันก่อนก็แขวนป้ายว่าที่พักเต็มไปนานแล้วโรงแรมโรงน้ำชาก็ล้วนมีแขกมาพักกันเต็มร้านรวงบนถนนก็มีหัวการค้ากัน ล้วนเติมสินค้าเพิ่มเข้าไป และมีคนมากมายที่แบกตะกร้าออกมาขายกินทานเล่นบางส่วนกันด้วยฟู่จาวหนิงหาตาเฒ่าจี้อยู่สองวันกว่าจะเจอยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นจงเจี้ยนที่ช่วงนางหาจนเจอตาเฒ่าจี้พักอยู่ในเรือนที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ตอนที่ฟู่จาวหนิงมาถึง ด้านในก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นอย่างกับกำลังรื้อบ้านฟู่จาวหนิงในมือหิ้วขนมข้าวเหนียวถั่วแดงกับแตงน้ำตาลที่เพิ่งซื้อมาจากข้างทาง เดินเข้าไปเคาะประตูคนด้านในเหมือนจะได้ยินเสียงเคาะประตู แต่กลับมีเสียงร้อนรนเสียงหนึ่งดังลอดออกมาจากร่องประตู"คนของโรงหมอเมตตาหน้าไม่อายเสียจริง! โรงหมอเมตตาเวลานี้เปลี่ยนไปเสียแล้ว ไม่ใช่โรงหมอเมตตาเหมือนอดีตอีกแล้ว! พวกเขาตอนนี้ลืมความตั้งใจเดิมตอนสถาปนาโรงหมอเมตตาเสียแล้วหรือ? พันธมิตร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 147

    นางยื่นมือมากดจุดชีพจรที่หน้าอกของตาเฒ่าจี้ ถ้าคุมแรงได้พอดี จะช่วยให้เขาหายใจได้คล่องขึ้นบ้างรอจนมีคนรินน้ำเข้ามา ฟู่จาวหนิงก็ยิบเอาผงยาถุงเล็กใบหนึ่งออกมาเทเข้าไปในน้ำ เขย่าๆ เตรียมจะป้อนให้กับตาเฒ่าจี้นี่คือยาที่นางสกัดขึ้นเอง เพิ่มกำลังวังชาคอยปกป้องหัวใจ ก่อนหน้านี้มีลูกพี่หลายคนเข้ามาจองเพื่อจะซื้อกับนางด้วย"ช้าก่อน นี่มันยาอะไรของเจ้าน่ะ?"ข้างๆ มีชายหนุ่มกลางคนคนหนึ่งรีบเข้ามาขวางนางไว้ ให้นางดูอาการยังพอว่า แต่ให้นางป้อนยากับผู้อาวุโสจี้ พวกเขารู้สึกน่ากังวลใครจะรู้ว่านี่มันยาอะไร?"เป็นยาที่เพิ่มกำลังวังชาและปกป้องหัวใจ" ฟู่จาวหนิงยื่นแก้วไปด้านหน้าเขา "เจ้าจะลองดื่มดูก่อนไหม?"ชายหนุ่มชะงักยานี่ลองดื่มกันด้วยหรือ?"เจ้าเป็นใครพวกเราก็ยังไม่รู้ ถ้าเจ้าให้ผู้อาวุโสจี้ดื่มอะไรมั่วซั่วลงไปล่ะ"ผู้อาวุโสจี้เองก็ฟื้นขึ้นมาตอนนี้พอดี ค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เห็นกับฟู่จาวหนิง ดวงตาเขาเพ่งสมาธิ จากนั้นก็ลิงโลดขึ้นทันที "ศิษย์ของข้า?"ศิษย์?นี่คือศิษย์ที่ผู้อาวุโสจี้เพิ่งรับมาเช่นนั้นหรือ?คนเหล่านี้ตกตะลึงขึ้นทันที"ดื่มนี่ลงไปเสีย" ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกเล็กๆ ประคองตัวเขาข

Bab terbaru

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status