พอเห็นว่ามือของเป่าเยว่กำลังจะแตะโดนตัวเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็เบี่ยงหลบทันทีนางเอ่ยขึ้นว่า "เอาล่ะ ข้าจะแบไพ่แล้ว อันที่จริงข้าเป็นพวกขี้หึง จิตใจคับแคบ ไม่อยากให้หญิงสาวคนอื่นมาร่วมแบ่งความสุขกับยวนยวนของข้า พระชายารองไม่ได้ อนุภรรยาก็ไม่ได้เช่นกัน!"ไทเฮาถลึงตามอง "เจ้า เจ้าเจ้าเจ้าพูดอะไร?"องค์จักรพรรดิคิ้วถึงกับกระพือขึ้นมา "ขี้หึง?!"ฮองเฮาปิดปาก พูดอะไรไม่ออกเป่าเยว่กลับตะลึงงันมองนาง มือที่ยื่นออกมาก็นิ่งค้างกลางอากาศไปแล้ว"ถูกต้อง ข้าเป็นคนขี้หึง ดังนั้นไม่อนุญาตให้ยวนยวนของข้าอภิเษกพระชายารองและรับภรรยาด้วย เรือนหลังของจวนอ๋องเจวี้ยนมีข้าแค่ได้คนเดียว"ฟู่จาวหนิงคิดในใจ ถึงอย่างไรเซียวหลันยวนก็สลบอยู่ ไม่ได้ยินคำพูดของนางหรอก เอาให้สุดๆ ไปเลยแล้วกัน"ยิ่งไปกว่านั้นยวนยวนก็ยังมีใจให้ข้ามากด้วย เขาเล่าให้ฟังแล้ว เรื่องที่ถูกพิษไปเมื่อตอนเด็ก ยังยืนยันไม่ได้ว่าท่านแม่ข้าเป็นผู้ทำ บางทีท่านแม่ข้าอาจจะถูกใส่ร้ายก้ได้! จะว่าไป ตอนนั้นข้าเองก็ยังคลานยังพูดไม่เป็นด้วยซ้ำ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้า เขาไม่สนใจ แต่ยังดีกับข้ามาโดยตลอด!"ฟู่จาวหนิงมองพวกเขา พูดเสียดูเป็นเ
สองคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันฟู่จาวหนิงเห็นรอยยิ้มที่มุมปากเซียวหลันยวน รู้ขึ้นมาทันทีว่าตนเองถูกหลอกเสียแล้ว!"เซียวหลันยวนท่านนี่มันสุนัขจริงๆ" นางด่าเข้าให้ถึงกับแกล้งสลบเชียว! ยิ่งกว่านั้นยังแกล้งเสียเหมือนเปี๊ยบ!ใช่ผู้ชายไหมเนี่ย? ให้นางต้องแบกมาตั้งครึ่งค่อนทาง!"สุนัข?" เซียวหลันยวนนั่งขึ้นมา จัดระเบียบตัวเล็กน้อย "ถ้าข้าไม่แกล้งสลบ ในจวนอ๋องคงจะมีหญิงสาวเพิ่มมาอีกสามคนคอยแย่งชิงความเอ็นดูจากข้าแล้ว เจ้าไม่ใช่พวกขี้หึงใจคับแคบอยากจะครองข้าไว้คนเดียวหรอกหรือ?""ไร้ยางอาย!"แกล้งสลบแล้วยังแอบฟังนางพล่ามอีกฟู่จาวหนิงโมโหจนถลึงตาใส่เขาหลายครั้ง"ข้าไม่รู้เลยนะ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเราใกล้ชิดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ" ้เขาถามขึ้นอย่างยั่วเย้ายวนยวน?หรือว่า "ยวนยวนของข้า" ?ฟู่จาวหนิงหน้าร้อนผ่าว ใบหูแดงระเรื่อสมองของนางถูกสุนัขเล่นงานเอาเสียแล้ว!"ท่านหุบปากไปเลย!""เช่นนั้นหลังจากนี้ตอนที่พวกเราแกล้งทำเป็นรักกัน ข้าต้องเรียกเจ้าว่าหนิงหนิง? เจาเจาไหม?"ฟู่จาวหนิงสะบัดตัว "ทำไมยังทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้?"ชิงอีที่อยู่ด้านนอกพอได้ยินสองคนทะเลา
ฟู่จาวหนิงไม่ขยับ และไม่คิดที่จะตอบแทนเซียวหลันยวนแต่ว่านางกลับรู้สึกว่าเสียงนี้ดูคุ้นหูเหลือเกินตอนนี้เอง หญิงสาวคนนั้นก็เอ่ยขึ้นอีกว่า "พี่เขย ข้าคือน้องสาวของท่านพี่จาวหนิง ข้าชื่อหลินอี๋เจิน"พรวดฟู่จาวหนิงเกือบจะสำลักพี่เขย?หลินอี๋เจิน? น้องสาว?นางนึกออกแล้ว เหมือนว่านางจะมีลูกพี่ลูกน้องหญิงอยู่คนหนึ่ง ตระกูลหลิน ก็คือบ้านเกิดของฟู่หลินซื่อแม่ของนางแต่หลังจากที่ฟู่หลินซื่อหายตัวไป ตระกูลหลินยังมาอาละวาดกับผู้เฒ่าฟู่เสียยกใหญ่ ตระกูลหลินด่ากราดผู้เฒ่าฟู่ บอกว่าจะต้องเป็นฟู่จิ้นเชินที่ไปก่อความเดือดร้อน จากนั้นก็ผลักความผิดมาให้ฟู่หลินซื่อ จนทำให้ตระกูลหลินของพวกเขาเกือบถูกล้างตระกูลไปหลายปีมานี้ ตระกูลหลินก็แทบจะไม่ติดต่อกับตระกูลฟู่เลยผู้เฒ่าฟู่เคยบอกกับนางไว้ ให้นางไม่ต้องไปขร้องจากตระกูลหลิน หลายครั้งที่พบกับคนตระกูลหลินที่ภายนอก พวกเขาล้วนเชิดคางไม่แม้แต่จะสบตามองนางแล้วก็เดินผ่านไปหลินอี๋เจินคนนี้ไม่เคยเรียกนางว่าพี่สาวมาก่อนเลย ตอนนี้ขนาดคำว่าพี่เขยก็ยังพูดออกมา"น้องสาวเจ้าหรือ?" เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง"น่าจะใช่?"ชิงอีที่อยู่ด้านนอกเอ่ยขึ้น "พระชา
เซียวหลันยวนมองกล่องนั่นเขาคิดไม่ถึงเลยว่าไหมใจโลหิตที่พวกเขาลงทุนลงแรงไปตั้งมากมายก็ยังไม่ได้มา แต่ฟู่จาวหนิงกลับได้มาอย่างรวดเร็วไหมใจโลหิตบินเร็วมาก ถ้าแค่ทำมันตกใจ ตอนที่มันไม่ยอมหยุดก็จะจับได้ยากมากแต่ว่านักบุญหญิงของเผ่าโม๋ลั่วมีวิธีเข้าใกล้และทำให้ไหมใจโลหิตหยุดลง นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาให้ความสนใจไห่ฉางจวิ้น"ท่านกลับมาก็เพราะจะเข้าร่วมพิธีเดิมพันโอสถนี่ใช่ไหม? บนพิธีน่าจะมียาที่ท่านต้องการอยู่กระมัง?"ฟู่จาวหนิงถามจบก็เห็นเซียวหลันยวนนิ่งงัน นางก็รู้ทันทีว่าตนเองเดาถูกแล้วเซียวหลันยวนมองนาง "ไป๋ซวงจำแนกยาได้เก่งมาก พิธีเดิมพันโอสถครั้งนี้ ข้าจึงวางแผนจะให้นางเข้าร่วม ดังนั้นก่อนหน้าจึงไม่ได้ลงโทษนาง"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไป"ท่านกำลังอธิบายกับข้าหรือ?"เซียวหลันยวนพอเห็นดวงตาที่ตาขาวตาดำแยกกันชัดเจนของนางจู่ๆ ก็รู้สึกไม่เป็นสุข แต่ไหนแต่ไรเขาไม่มีนิสัยอธิบายกับใครมาก่อน แต่เมื่อครู่ไม่รู้ทำไม กลับต้องพูดขึ้นมากับนางคำหนึ่งอย่างอดไม่อยู่"นี่คือไหมใจโลหิต มอบให้ท่าน"ฟู่จาวหนิงยื่นกล่องส่งให้เขาเซียวหลันยวนรับไป ไม่ได้เปิดออกดู"ท่านไม่คิดจะเปิดดูหน่อยหรือ? ไม่กล้ว
จังหวะที่ไป๋ซวงเห็นไหมใจโลหิตก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ นางดีใจจนลืม เงยหน้าขึ้นมองเซียวหลันยวน เอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า "ท่านอ๋อง นี่คือไหมใจโลหิต!"ตอนนี้เอง ไหมใจโลหิตถูกทำให้ตกใจ สยายปีกจะบินออกจากกล่อง"อ๊า ไม่นะ!"ไป๋ซวงตกตะลึง รีบร้อนปิดฝาลงมา แต่ก็ช้าไปแล้วก้าวหนึ่งน่าจะพูดว่าความเร็วของไหมใจโลหิตเร็วกว่าที่นางคิดเอาไว้มาก เพียงพริบตาก็บินออกไปแล้ว"ปึง"ไป๋ซวงตกใจจนโยนกล่องทิ้งยื่นมือเข้าคว้าตัวไหมใจโลหิต แต่มือของนางก็แตะไม่โดนแม้แต่ปีกเซียวหลันยวนสีหน้าเองก็เปลี่ยน พอเห็นว่าบินไปอย่างรวดเร็ว ก็ยื่นมือออกคว้าไหมใจโลหิตด้วยเช่นกันนิ้วของเขาแตะโดนปีกของไหมใจโลหิต แต่ก็ยังคงจับมันไม่อยู่ มันมุดลอดออกมาจากร่องนิ้ว และบินขึ้นสูงไปอีกไป๋ซวงร้อนรนจนแทบจะร้องไห้ รีบพุ่งไปจับคว้าแต่ทั้งสองคนไล่จับอยู่พักหนึ่ง ก็เหมือนเสียแรงเปล่า เห็นแต่ภาพคงค้างจากการที่ไหมใจโลหิตตัวนั้นบินได้เร็วมาก จนทำเอาพวกเขาไล่ตามจนหายใจหายคอไม่ทันเซียวหลันยวนเลือดลมปั่นป่วน นั่งลงมาเขาเดิมทีก็ร่างกายอ่อนแอเพราะมีพิษอยู่แล้ว รับกิจกรรมที่รุนแรงไม่ไหวไป๋ซวงกระโดดเหยงขึ้นลงคว้าอยู่พักหนึ่ง พอเห
นางกระพริบตาปริบ มองไปทางไป๋ซวง "เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าก็เปิดประตูไสหัวไปได้แล้ว"ไป๋ซวงตาแดงเถือกมองเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนได้สติกลับมา สีหน้าเคร่งขรึม "พระชายาให้เจ้าไสหัวไป ไม่ได้ยินหรือ?"ไป๋ซวงร้องไห้ลุกขึ้นมา หมุนตัววิ่งออกไปด้านนอก"รอจงเจี้ยนกลับมาแล้วจงไปรับการโบยเสียสิบที" พอเสียงของเซียวหลันยวนลอดถึงหูนาง เท้านางก็ลื่นจนเกือบจะล้มลงพื้นไป๋ซวงร้องไห้เจียนตายอยู่แล้วท่านอ๋องถึงกับลงโทษนาง แล้วยังโหดเหี้ยมขนาดจะลงโทษโบยนางถึงสิบทีด้วย!ถ้าโบยลงมาสิบที บนตัวนางจะยังขาวสะอาดผุดผ่องอีกไหม?ไป๋ซวงร้องไห้วิ่งออกไปฟู่จาวหนิงผลักกล่องส่งไปเบื้องหน้าเซียวหลันยวน "ให้ท่าน หลังจากนี้ถ้ามันยังบินหนีอีก ข้าไม่รับผิดชอบจับให้แล้วนะ""เอาไว้กับเจ้าก่อนเถอะ" เซียวหลันยวนลูบจมูก "ช่วยรักษาให้ข้าไว้ก่อนได้ไหม?""ฝากหรือ?" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว "ก็ไม่ใช่จะไม่ได้ จะฝากไว้นานแค่ไหน?""จนกว่าพิธีเดิมพันโอสถจะเสร็จสิ้น""หนึ่งวันค่าฝากสิบตำลึง" ฟู่จาวหนิงยื่นมือออกมาเซียวหลันยวนตะลึงงันค่าฝาก?"พวกเราเดิมทีก็เกี่ยวข้องกันด้วยความร่วมมือกับการแลกเปลี่ยนนี่ ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะต้องช่วยท่
สองวันนี้ในเมืองหลวงมีคนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมีคนจากด้านนอกเข้ามามากมายในกระแสคนที่เดินทางบนถนน คนที่แต่งตัวด้วยชุดเครื่องประดับต่างๆ ก็มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นโรงเตี๊ยมต่างๆ ก็แทบจะพักกันเต็ม โรงเตี๊ญมที่ตำแหน่งดีหน่อย สองวันก่อนก็แขวนป้ายว่าที่พักเต็มไปนานแล้วโรงแรมโรงน้ำชาก็ล้วนมีแขกมาพักกันเต็มร้านรวงบนถนนก็มีหัวการค้ากัน ล้วนเติมสินค้าเพิ่มเข้าไป และมีคนมากมายที่แบกตะกร้าออกมาขายกินทานเล่นบางส่วนกันด้วยฟู่จาวหนิงหาตาเฒ่าจี้อยู่สองวันกว่าจะเจอยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นจงเจี้ยนที่ช่วงนางหาจนเจอตาเฒ่าจี้พักอยู่ในเรือนที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ตอนที่ฟู่จาวหนิงมาถึง ด้านในก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นอย่างกับกำลังรื้อบ้านฟู่จาวหนิงในมือหิ้วขนมข้าวเหนียวถั่วแดงกับแตงน้ำตาลที่เพิ่งซื้อมาจากข้างทาง เดินเข้าไปเคาะประตูคนด้านในเหมือนจะได้ยินเสียงเคาะประตู แต่กลับมีเสียงร้อนรนเสียงหนึ่งดังลอดออกมาจากร่องประตู"คนของโรงหมอเมตตาหน้าไม่อายเสียจริง! โรงหมอเมตตาเวลานี้เปลี่ยนไปเสียแล้ว ไม่ใช่โรงหมอเมตตาเหมือนอดีตอีกแล้ว! พวกเขาตอนนี้ลืมความตั้งใจเดิมตอนสถาปนาโรงหมอเมตตาเสียแล้วหรือ? พันธมิตร
นางยื่นมือมากดจุดชีพจรที่หน้าอกของตาเฒ่าจี้ ถ้าคุมแรงได้พอดี จะช่วยให้เขาหายใจได้คล่องขึ้นบ้างรอจนมีคนรินน้ำเข้ามา ฟู่จาวหนิงก็ยิบเอาผงยาถุงเล็กใบหนึ่งออกมาเทเข้าไปในน้ำ เขย่าๆ เตรียมจะป้อนให้กับตาเฒ่าจี้นี่คือยาที่นางสกัดขึ้นเอง เพิ่มกำลังวังชาคอยปกป้องหัวใจ ก่อนหน้านี้มีลูกพี่หลายคนเข้ามาจองเพื่อจะซื้อกับนางด้วย"ช้าก่อน นี่มันยาอะไรของเจ้าน่ะ?"ข้างๆ มีชายหนุ่มกลางคนคนหนึ่งรีบเข้ามาขวางนางไว้ ให้นางดูอาการยังพอว่า แต่ให้นางป้อนยากับผู้อาวุโสจี้ พวกเขารู้สึกน่ากังวลใครจะรู้ว่านี่มันยาอะไร?"เป็นยาที่เพิ่มกำลังวังชาและปกป้องหัวใจ" ฟู่จาวหนิงยื่นแก้วไปด้านหน้าเขา "เจ้าจะลองดื่มดูก่อนไหม?"ชายหนุ่มชะงักยานี่ลองดื่มกันด้วยหรือ?"เจ้าเป็นใครพวกเราก็ยังไม่รู้ ถ้าเจ้าให้ผู้อาวุโสจี้ดื่มอะไรมั่วซั่วลงไปล่ะ"ผู้อาวุโสจี้เองก็ฟื้นขึ้นมาตอนนี้พอดี ค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เห็นกับฟู่จาวหนิง ดวงตาเขาเพ่งสมาธิ จากนั้นก็ลิงโลดขึ้นทันที "ศิษย์ของข้า?"ศิษย์?นี่คือศิษย์ที่ผู้อาวุโสจี้เพิ่งรับมาเช่นนั้นหรือ?คนเหล่านี้ตกตะลึงขึ้นทันที"ดื่มนี่ลงไปเสีย" ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกเล็กๆ ประคองตัวเขาข