เสื้อผ้าของเขายังไม่ได้เปิดขึ้น พอเห็นว่าบนตัวมีผ้าขาวพันไว้หนา หน้าอกเองก็ยังพันเอาไว้บนหัวโกนไปเล็กน้อย พันผ้าไว้ด้วยฮูหยินหลินมองสภาพของเข้าก็ร้องไห้ขึ้นมา "หมอเทวดาฟู่ เขา เขา...""หัวของเขาถูกกระแทกอย่างแรง ทำการผ่าตัดเล็กๆ ไปแล้ว แผลที่หน้าอกก็ลึกมาก อวัยวะภายในบาดเจ็บจนเลือดคั่ง ดูดออกมาแล้ว ก่อนหน้าที่จะสลบเป็นไปได้มากว่าถูกมัดแล้วตีทำร้าย แต่ว่าตอนนี้เขายังเคลื่นอย้ายไปไหนมาไหนไม่ได้ พวกท่านถ้าคิดจะพาเขากลับไป ต้องระมัดระวังอย่างมาก ต้องทำแคร่มาคอยแบกยก"ฟู่จาวหนิงเอาส่วนใหญ่บอกกับแม่สามีลูกสะใภ้แล้ว"ไม่ใช่บอกว่า แค่ล้มตกลงมาจากหน้าผาในเขาหรอกหรือ? ทำไมถึงถูกมัดแล้วเฆี่ยนตีได้กัน?" ฮูหยินร้องไห้จนเงยหน้าไม่ขึ้นฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงพบว่าพวกเขายังไม่รู้ว่าแผลของหลินต๋าไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เกิดจากคนกระทำ"แผลที่หน้าอกเขา ก็น่าจะเกิดจากคนกระทำด้วย แม้สิ่งที่ทำร้ายจะเป็นเถาวัลย์หนาม แต่ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่ กำลังแตกต่างกัน บาดแผลก็แตกต่างกัน""ใครกันแน่ที่มาทำร้ายลูกๆ ของบ้านเรา ต๋าเอ๋อร์ของพวกเราปกติแม้จะเกเรบ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปทำเรื่องที่ร้ายแรงอะไรนี่นา!""คืนนี้ยังต้องสัง
ใครจะมาเป็นพ่อแม่คนที่สองให้ท่านกัน?ฟู่จาวหนิงมองชายกลางคนร่างใหญ่ตรงหน้า พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง"รองผู้บัญชาการหลิน ท่านเองก็อายุใกล้จะสี่สิบแล้วกระมัง? ท่านมองหมอเทวดาฟู่ดีดีสิ คนเขาเพิ่งจะอยู่วัยหนุ่มสาว..." ผิงเหอกงเองก็พูดไม่ออกคนเขาเป็นหมอเทวดาอายุยังไม่ทันยี่สิบ ดอกไม้ที่เพิ่งจะเบ่งบาน แล้วจะให้มาเป็นพ่อแม่คนที่สองชายตัวเขื่องอย่างท่านเนี่ยนะ?ให้ตายเถอะ เขารังเกียจแทนฟู่จาวหนิงขึ้นมา"เอ่อ! หมอเทวดาฟู่ท่านอายุน้อยเพียงนี้เชียว?!"รองผู้บัญชาการหลินเงยหน้าขึ้น ตอนนี้จึงเพิ่งได้เห็นหน้าตาฟู่จาวหนิงชัดๆเขาเองก็งงงันไปแล้วฟู่จาวหนิงยิ่งพูดไม่ออก นี่เมื่อครู่เขายังไม่ทันจะมองนางเลย ก็โขกหัวตึงตึงตึงสามครั้งเสียแล้ว"รองผู้บัญชาการหลินรีบลุกขึ้นเถิด"ฮูหยินหลินใหญ่เองก็ยังไม่ทันเห็นลูกชายของตน นางก้มหน้ารองไห้มองหลานชายบนเตียง ในใจรู้สึกยิ่งซาบซึ้งกับฟู่จาวหนิงลูกชายคนนี้ร่างใหญ่โต แล้วยังดูดุร้ายด้วย กว่าจะเลี้ยงดูหลานให้ดูดีเช่นนี้ ถ้าต้องมาตายจากไป นางคงไม่มีนางไปพบสามีแล้วรอจนรองผู้บัญชาการหลินฟังเรื่องทั้งหมดจบ ในใจก็หวาดผวาขึ้นมาเขาขอบคุณฟู่จาวหนิงอีกหลายคร
ฟู่จาวหนิงบอกเรื่องที่ต้องระวังกับพวกเขาอย่างละเอียด จากนั้นจึงออกจากจวนตระกูลหลิวนางขี่ม้าของจวนผิงเหอกงมา เซียวหลันยวนกลับใช้วิชาตัวเบาเข้ามา ตอนนี้ขากลับจึงขี่ม้ากลับพร้อมนางผิงเหอกงขี่ม้าตามอยู่ด้านหลัง ตอนนี้ฟ้ามืดแล้วเขายังไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงยังจะไปรักษาขาให้เซี่ยนอันไหมแต่เขากลับรู้สึกว่าชายหนุ่มสวมหน้ากากที่วิทยายุทธ์สูงส่งคนนี้ไม่ควรเข้าไปยั่วโมโห จึงไม่กล้าเอ่ยขึ้นตรงๆยังดีที่ฟู่จาวหนิงกลับไปที่เรือนผิงเหอกงก่อนไป๋หู่กับเสี่ยวชิ่นขับรถม้าไปรับจวนผิงเหอกง เตรียมรับตัวฟู่จาวหนิง"ข้าไปรักษาให้คุณชายน้อยเหอก่อนเดี๋ยวกลับมา" ฟู่จาวหนิงลงจากรถม้า บอกกับเซียวหลันยวน "ท่านจะกลับไปก่อนไหม?""ข้าจะรอเจ้า""คุณชายเองก็เข้ามาด้วยเถิด ข้าจะให้คนนำน้ำชามาให้!" ผิงเหอกงรีบต้อนรับคนเข้าไปองค์หญิงใหญ่รอพวกเขาอยู่นานแล้ว พอเห็นฟู่จาวหนิง นางก็รีบเดินเข้ามาตำหนิด้วยสีหน้าไม่พอใจ"เจ้าไปที่ไหนมากัน? ทำไมไปทั้งครึ่งค่อนวัน! เชิญเจ้าให้มาช่วยรักษาขาของอันเอ๋อร์ แต่เจ้ากลับวิ่งไปสนใจคนอื่นทำไม? เจ้าเป็นหมอของอันเอ๋อร์ แล้วปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เจ้า..."ผิงเหอกงคิดไม่ถ
ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "อืม ยังไม่ตายชั่วคราว"เหอเซี่ยนอันน้ำตาไหลอาบลงมา"ดีจริงๆ หลังจากนี้รอให้พวกเขาหายดี ข้าจะต้องให้พวกเขามาโขกศีรษะให้ท่านให้ได้"ฟู่จาวหนิงนึกถึงตอนที่รองผู้บัญชาการหลินโขกศีรษะตึงๆๆ วันนี้ขึ้นมา "ไม่ต้องหรอก"นางไม่ได้มีงานอดิเรกที่จะต้องให้คนมาโขกศีรษะให้ส่งเดชแบบนั้นพอรักษาครั้งที่สองให้กับเหอเซี่ยนอัน ปฏิเสธการเลี้ยงอาหารอย่างอบอุ่นของผิงเหอกง ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนก็ขึ้นรถม้ากลับไป"คุณหนู นายท่านบอกว่า ทางนั้นมีคนมากมายรู้จักแล้ว ให้ย้ายไปพักอีกที่หนึ่ง ของไว้จะย้ายตามไปให้"ฟู่จาวหนิงเลิกม่านออกมอง ไม่ได้กลับไปยังเส้นทางเรือนนั้นจริงๆนางเองก็ไม่ได้ใส่ใจ"สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินก็พาไปด้วยแล้ว ไม่ต้องกังวล" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นหลานหรงบอกกับเขาไว้แล้วพวกเขาจะต้องตามไปด้วยแน่เดิมทีที่นั่นพวกของท่านอารองก็รู้จัก ไม่ได้ปลอดภัยเอาเสียเลย ใครจะรู้ว่าตอนไหนจะพาคนเข้าไปหาอีก?ฟู่จาวหนิงพอนึกถึงคนป่วยที่อยู่ในมือตอนนี้ ก็ถอนหายใจออกมา"คิดไม่ถึงว่าแค่ครู่เดียวก็จะต้องมารักษามากถึงขนาดนี้"นางยังคิดว่าพรุ่งนี้จะดึงเอาของประหลาดนั่นออกมาจากหัวของฟู่จิ
"ดีเลย"เสิ่นเสวียนเปลี่ยนที่พักมาอีกแห่ง ครั้งนี้คือเรือนที่ไม่เด่นสะดุดตาในซอยที่ค่อนข้างเงียบสงบมืดสลัวเส้นหนึ่งสวนคะนึงหลังจากเข้าประตูมาจึงพบว่า ด้านในยังใหญ่กว่าเรือนเดิมระดับหนึ่งเซียวหลันยวนหลังจากเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสงบเยือกเย็นรอบๆ"ที่นี่ท่านลุงจัดวางองครักษ์ลับไว้ไม่น้อย" เซียวหลันยวนเอ่ยเสียงต่ำกับฟู่จาวหนิงเดินมาไม่กี่ก้าวไป๋รื่อก็ออกมาต้อนรับเซียวหลันยวนมองการก้าวเดินเข้ามาของเขา สายตาขรึมลงเล็กน้อย"คุณหนูจาวหนิง อาเขย เชิญตามข้ามา"ไป๋รื่อมาพาพวกเขาเข้าไป แล้วยังกำชับให้เดินตามเขาด้วยเซียวหลันยวนจูงมือฟู่จาวหนิงพูดขึ้นมาก็แปลก แม้จะเห็นทางเดินปูด้วยหินเรียบง่าย มีต้นไม้ดอกไม้สูงเท่าคนอยู่สองฝั่ง แต่พอเดินขึ้นมากลับรู้สึกสับสน"ที่นี่วางค่ายกลประตูพิเศษไว้" เซียวหลันยวนพูดบาๆ ข้างหูฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงรู้สึกประหลาดใจพอตรงหน้าสว่าง หอสองชั้นหอหนึ่งก็ปรากฏขึ้น"เอ๋? ที่นี่ดูใหญ่โตกว่ามากเลย""คุณหนู อาเขย นายท่านกำลังรอท่านข้าวเย็นกับพวกท่าน""ท่านลุงยังไม่กินอีกหรือ? ค่ำขนาดนี้ยังทนหิวรอพวกเราได้อย่างไรกัน?" ฟู่จาวหนิงรีบดึงเซียวหลันยวนเ
เสิ่นเสวียนเชื่อใจเซียวหลันยวนแล้วจริงๆอันที่จริงเซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาด"ข้าคิดว่าท่านลุงอย่างน้อยก็คงรอให้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินหายดี ตรวจสอบความจริงจนชัดเจนเสียก่อน"พอยืนยันว่าเรื่องในครั้งนั้นไม่เกี่ยวกับพวกเขา และเขาจะไม่ล้างแค้นอีกจึงค่อยหันมาเชื่อใจเขาแต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินยังไม่ทันหายดี เขายังมีท่าทีเป็นศัตรูกับสามีภรรยาตระกูลฟู่อยู่ เสิ่นเสวียนกลับเชื่อใจเขาขึ้นมาแล้ว"น่าจะเพราะท่านลุงตรวจสอบอะไรเจอเข้ากระมัง?" ฟู่จาวหนิงคาดเดา"ก็ไม่แน่ ท่านลุงเองถ้าตรวจสอบพบอะไรเข้า จะต้องพูดออกมาแล้วแน่นอน ไม่จำเป็นต้องมาปิดบังพวกเรา""นั่นก็..."ฟู่จาวหนิงก็ไม่เข้าใจขึ้นมาเหมือนกันว่าเพราะอะไรพอเห็นท่าทางสงสัยของนาง เซียวหลันยวนเองกลับเข้าใจขึ้นมาแล้วเขาหัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา"ท่านลุงนี่มันจิ้งจอกเฒ่าชัดๆ""อื๋อ?""ท่านลุงแบท่าทีของเขาออกมาแล้ว คือจะบอกกับข้าว่า เขาเชื่อใจตัวข้า เชื่อว่าถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเจอกับอะไร ข้าจะไม่ระบายความโกรธ จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับความรักระหว่างเรา"เสิ่นเสวียนใช้สิ่งนี้มาบอกกับเขา ไม่ว่าอย่างไร ท่าทีของตระกูลเสิ่นก็แสด
สวนคะนึงเป็นสถานที่ที่หรูหราไปทุกส่วนสัดจริงๆ ตอนแรกสุดพวกเขายังมองไม่ออก ที่เข้ามาในซอยยาวลึกเงียบสงบก็มองไม่ออกเอาเสียเลย ว่าในนี้จะมีสวนคะนึงใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วยฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ ว่าซอยที่เงียบสงบนี้ก็เหมือนจะมีค่ายกลประตูพิเศษอยู่ด้วยกระมัง ไม่น่าจะใช่สถานที่ที่ใครก็บุกเข้ามาได้"เครื่องนอนในนี้เป็นของที่ตากใหม่ทั้งหมด อบกลิ่นสนไว้จางๆ เสื้อผ้าในชั้นกำแพงล้วนเป็นของใหม่ทั้งหมด คุณหนูกับอาเขยสามารถเปลี่ยนได้ตามใจชอบ น้ำในเตาทองแดงบนเตาถ่านก็ค่อนข้างร้อน ตอนที่ดื่มคุณหนูกับอาเขยโปรดระวังด้วย"เสี่ยวเยว่เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา "ประตูทางขวาด้านในหากเดินเข้าไปจะมีน้ำพุร้อนอยู่ คุณหนูกับอาเขยสามารถอาบน้ำที่นั่นได้ หากมีเรื่องให้ข้าน้อยรับใช้..."ฟู่จาวหนิงตาเป็นประกายน้ำพุร้อน?ใช้แบบที่นางคิดนั่นหรือเปล่า? น้ำพุร้อนในร่ม? ไม่ใช่กระมัง หรูได้ขนาดนี้เชียว!"ไม่ต้องแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นแต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยต้องการให้สาวใช้มาปรนนิบัติข้างกาย และรู้ว่าตอนฟู่จาวหนิงอาบน้ำก็ไม่ต้องการเช่นกัน ดังนั้นจึงปฏิเสธไปตรงๆเสี่ยวเยว่พยักหน้า "เช่นนั้นข้าน้อยขอพาเสี
ตัวฟู่จาวหนิงไหลลงไปในน้ำเซียวหลันยวนตกตะลึง รีบเข้าไปอุ้มนางขึ้นมาพออุ้มขึ้นมา ก็เหมือนจะมีปฏิกิริยาอยู่บ้าง เหมือนเปลือกตาจะเผยอเล็กน้อย น่าจะเพราะพอเห็นเขาจึงปิดลงไปอีกนางยังขดตัวเข้ามาในอ้อมกอดเขา เสียงก็งึมงำเหมือนละเมอ"อายวน ข้าง่วง"ไม่เคยได้ยินฟู่จาวหนิงใช้น้ำเสียงเช่นนี้พูดกับเขามาก่อน ดูออดอ้อนเสียเหลือเกิน แค่สี่คำนี้ก็ทำเอากระดูกของเซียวหลันยวนอ่อนยวบไปแล้วเดิมทีเขาที่เลือดกำลังพล่านไปทั้งตัว ตอนนี้ใจก็อ่อนลงมาเสียอย่างนั้นนางคงเหนื่อยแล้วจริงๆแล้วเขายังคิดอย่างป่าเถื่อนอีกว่าตอนที่อาบน้ำด้วยกันจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้ต้องตื่นเต้นเร้าใจอีก"เจ้านอนเถอะ" เสียงทุ้มต่ำของเขาปลอบมาคำหนึ่ง หลังจากนั้นก็ปลดเสื้อผ้าที่เปียกของนางออก หยิบชุดคลุมนอกสะอาดที่อยู่ข้างๆ มา จากนั้นก็อุ้มนางไปบนเตียงเขาไปหยิบชุดมาชุดหนึ่งจากตู้ที่กำแพง เปลี่ยนให้กับนางอย่างเบามือที่สุดฟู่จาวหนิงก็เหมือนรู้ว่าเป็นเขา จึงไม่ได้ขัดขืน แล้วยังให้ความร่วมมือด้วย เพียงแต่ง่วงหนักมาก กระทั่งหนังตายังหนักจนลืมไม่ขึ้นเซียวหลันยวนตั้งแต่เล็กจนโตเคยทำเรื่องอย่างการปรนนิบัติคนเช่นนี้เสียที่ไหน?แ