ใครจะมาเป็นพ่อแม่คนที่สองให้ท่านกัน?ฟู่จาวหนิงมองชายกลางคนร่างใหญ่ตรงหน้า พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง"รองผู้บัญชาการหลิน ท่านเองก็อายุใกล้จะสี่สิบแล้วกระมัง? ท่านมองหมอเทวดาฟู่ดีดีสิ คนเขาเพิ่งจะอยู่วัยหนุ่มสาว..." ผิงเหอกงเองก็พูดไม่ออกคนเขาเป็นหมอเทวดาอายุยังไม่ทันยี่สิบ ดอกไม้ที่เพิ่งจะเบ่งบาน แล้วจะให้มาเป็นพ่อแม่คนที่สองชายตัวเขื่องอย่างท่านเนี่ยนะ?ให้ตายเถอะ เขารังเกียจแทนฟู่จาวหนิงขึ้นมา"เอ่อ! หมอเทวดาฟู่ท่านอายุน้อยเพียงนี้เชียว?!"รองผู้บัญชาการหลินเงยหน้าขึ้น ตอนนี้จึงเพิ่งได้เห็นหน้าตาฟู่จาวหนิงชัดๆเขาเองก็งงงันไปแล้วฟู่จาวหนิงยิ่งพูดไม่ออก นี่เมื่อครู่เขายังไม่ทันจะมองนางเลย ก็โขกหัวตึงตึงตึงสามครั้งเสียแล้ว"รองผู้บัญชาการหลินรีบลุกขึ้นเถิด"ฮูหยินหลินใหญ่เองก็ยังไม่ทันเห็นลูกชายของตน นางก้มหน้ารองไห้มองหลานชายบนเตียง ในใจรู้สึกยิ่งซาบซึ้งกับฟู่จาวหนิงลูกชายคนนี้ร่างใหญ่โต แล้วยังดูดุร้ายด้วย กว่าจะเลี้ยงดูหลานให้ดูดีเช่นนี้ ถ้าต้องมาตายจากไป นางคงไม่มีนางไปพบสามีแล้วรอจนรองผู้บัญชาการหลินฟังเรื่องทั้งหมดจบ ในใจก็หวาดผวาขึ้นมาเขาขอบคุณฟู่จาวหนิงอีกหลายคร
ฟู่จาวหนิงบอกเรื่องที่ต้องระวังกับพวกเขาอย่างละเอียด จากนั้นจึงออกจากจวนตระกูลหลิวนางขี่ม้าของจวนผิงเหอกงมา เซียวหลันยวนกลับใช้วิชาตัวเบาเข้ามา ตอนนี้ขากลับจึงขี่ม้ากลับพร้อมนางผิงเหอกงขี่ม้าตามอยู่ด้านหลัง ตอนนี้ฟ้ามืดแล้วเขายังไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงยังจะไปรักษาขาให้เซี่ยนอันไหมแต่เขากลับรู้สึกว่าชายหนุ่มสวมหน้ากากที่วิทยายุทธ์สูงส่งคนนี้ไม่ควรเข้าไปยั่วโมโห จึงไม่กล้าเอ่ยขึ้นตรงๆยังดีที่ฟู่จาวหนิงกลับไปที่เรือนผิงเหอกงก่อนไป๋หู่กับเสี่ยวชิ่นขับรถม้าไปรับจวนผิงเหอกง เตรียมรับตัวฟู่จาวหนิง"ข้าไปรักษาให้คุณชายน้อยเหอก่อนเดี๋ยวกลับมา" ฟู่จาวหนิงลงจากรถม้า บอกกับเซียวหลันยวน "ท่านจะกลับไปก่อนไหม?""ข้าจะรอเจ้า""คุณชายเองก็เข้ามาด้วยเถิด ข้าจะให้คนนำน้ำชามาให้!" ผิงเหอกงรีบต้อนรับคนเข้าไปองค์หญิงใหญ่รอพวกเขาอยู่นานแล้ว พอเห็นฟู่จาวหนิง นางก็รีบเดินเข้ามาตำหนิด้วยสีหน้าไม่พอใจ"เจ้าไปที่ไหนมากัน? ทำไมไปทั้งครึ่งค่อนวัน! เชิญเจ้าให้มาช่วยรักษาขาของอันเอ๋อร์ แต่เจ้ากลับวิ่งไปสนใจคนอื่นทำไม? เจ้าเป็นหมอของอันเอ๋อร์ แล้วปล่อยให้เขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เจ้า..."ผิงเหอกงคิดไม่ถ
ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "อืม ยังไม่ตายชั่วคราว"เหอเซี่ยนอันน้ำตาไหลอาบลงมา"ดีจริงๆ หลังจากนี้รอให้พวกเขาหายดี ข้าจะต้องให้พวกเขามาโขกศีรษะให้ท่านให้ได้"ฟู่จาวหนิงนึกถึงตอนที่รองผู้บัญชาการหลินโขกศีรษะตึงๆๆ วันนี้ขึ้นมา "ไม่ต้องหรอก"นางไม่ได้มีงานอดิเรกที่จะต้องให้คนมาโขกศีรษะให้ส่งเดชแบบนั้นพอรักษาครั้งที่สองให้กับเหอเซี่ยนอัน ปฏิเสธการเลี้ยงอาหารอย่างอบอุ่นของผิงเหอกง ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนก็ขึ้นรถม้ากลับไป"คุณหนู นายท่านบอกว่า ทางนั้นมีคนมากมายรู้จักแล้ว ให้ย้ายไปพักอีกที่หนึ่ง ของไว้จะย้ายตามไปให้"ฟู่จาวหนิงเลิกม่านออกมอง ไม่ได้กลับไปยังเส้นทางเรือนนั้นจริงๆนางเองก็ไม่ได้ใส่ใจ"สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินก็พาไปด้วยแล้ว ไม่ต้องกังวล" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นหลานหรงบอกกับเขาไว้แล้วพวกเขาจะต้องตามไปด้วยแน่เดิมทีที่นั่นพวกของท่านอารองก็รู้จัก ไม่ได้ปลอดภัยเอาเสียเลย ใครจะรู้ว่าตอนไหนจะพาคนเข้าไปหาอีก?ฟู่จาวหนิงพอนึกถึงคนป่วยที่อยู่ในมือตอนนี้ ก็ถอนหายใจออกมา"คิดไม่ถึงว่าแค่ครู่เดียวก็จะต้องมารักษามากถึงขนาดนี้"นางยังคิดว่าพรุ่งนี้จะดึงเอาของประหลาดนั่นออกมาจากหัวของฟู่จิ
"ดีเลย"เสิ่นเสวียนเปลี่ยนที่พักมาอีกแห่ง ครั้งนี้คือเรือนที่ไม่เด่นสะดุดตาในซอยที่ค่อนข้างเงียบสงบมืดสลัวเส้นหนึ่งสวนคะนึงหลังจากเข้าประตูมาจึงพบว่า ด้านในยังใหญ่กว่าเรือนเดิมระดับหนึ่งเซียวหลันยวนหลังจากเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสงบเยือกเย็นรอบๆ"ที่นี่ท่านลุงจัดวางองครักษ์ลับไว้ไม่น้อย" เซียวหลันยวนเอ่ยเสียงต่ำกับฟู่จาวหนิงเดินมาไม่กี่ก้าวไป๋รื่อก็ออกมาต้อนรับเซียวหลันยวนมองการก้าวเดินเข้ามาของเขา สายตาขรึมลงเล็กน้อย"คุณหนูจาวหนิง อาเขย เชิญตามข้ามา"ไป๋รื่อมาพาพวกเขาเข้าไป แล้วยังกำชับให้เดินตามเขาด้วยเซียวหลันยวนจูงมือฟู่จาวหนิงพูดขึ้นมาก็แปลก แม้จะเห็นทางเดินปูด้วยหินเรียบง่าย มีต้นไม้ดอกไม้สูงเท่าคนอยู่สองฝั่ง แต่พอเดินขึ้นมากลับรู้สึกสับสน"ที่นี่วางค่ายกลประตูพิเศษไว้" เซียวหลันยวนพูดบาๆ ข้างหูฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงรู้สึกประหลาดใจพอตรงหน้าสว่าง หอสองชั้นหอหนึ่งก็ปรากฏขึ้น"เอ๋? ที่นี่ดูใหญ่โตกว่ามากเลย""คุณหนู อาเขย นายท่านกำลังรอท่านข้าวเย็นกับพวกท่าน""ท่านลุงยังไม่กินอีกหรือ? ค่ำขนาดนี้ยังทนหิวรอพวกเราได้อย่างไรกัน?" ฟู่จาวหนิงรีบดึงเซียวหลันยวนเ
เสิ่นเสวียนเชื่อใจเซียวหลันยวนแล้วจริงๆอันที่จริงเซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาด"ข้าคิดว่าท่านลุงอย่างน้อยก็คงรอให้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินหายดี ตรวจสอบความจริงจนชัดเจนเสียก่อน"พอยืนยันว่าเรื่องในครั้งนั้นไม่เกี่ยวกับพวกเขา และเขาจะไม่ล้างแค้นอีกจึงค่อยหันมาเชื่อใจเขาแต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินยังไม่ทันหายดี เขายังมีท่าทีเป็นศัตรูกับสามีภรรยาตระกูลฟู่อยู่ เสิ่นเสวียนกลับเชื่อใจเขาขึ้นมาแล้ว"น่าจะเพราะท่านลุงตรวจสอบอะไรเจอเข้ากระมัง?" ฟู่จาวหนิงคาดเดา"ก็ไม่แน่ ท่านลุงเองถ้าตรวจสอบพบอะไรเข้า จะต้องพูดออกมาแล้วแน่นอน ไม่จำเป็นต้องมาปิดบังพวกเรา""นั่นก็..."ฟู่จาวหนิงก็ไม่เข้าใจขึ้นมาเหมือนกันว่าเพราะอะไรพอเห็นท่าทางสงสัยของนาง เซียวหลันยวนเองกลับเข้าใจขึ้นมาแล้วเขาหัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา"ท่านลุงนี่มันจิ้งจอกเฒ่าชัดๆ""อื๋อ?""ท่านลุงแบท่าทีของเขาออกมาแล้ว คือจะบอกกับข้าว่า เขาเชื่อใจตัวข้า เชื่อว่าถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเจอกับอะไร ข้าจะไม่ระบายความโกรธ จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับความรักระหว่างเรา"เสิ่นเสวียนใช้สิ่งนี้มาบอกกับเขา ไม่ว่าอย่างไร ท่าทีของตระกูลเสิ่นก็แสด
สวนคะนึงเป็นสถานที่ที่หรูหราไปทุกส่วนสัดจริงๆ ตอนแรกสุดพวกเขายังมองไม่ออก ที่เข้ามาในซอยยาวลึกเงียบสงบก็มองไม่ออกเอาเสียเลย ว่าในนี้จะมีสวนคะนึงใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วยฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ ว่าซอยที่เงียบสงบนี้ก็เหมือนจะมีค่ายกลประตูพิเศษอยู่ด้วยกระมัง ไม่น่าจะใช่สถานที่ที่ใครก็บุกเข้ามาได้"เครื่องนอนในนี้เป็นของที่ตากใหม่ทั้งหมด อบกลิ่นสนไว้จางๆ เสื้อผ้าในชั้นกำแพงล้วนเป็นของใหม่ทั้งหมด คุณหนูกับอาเขยสามารถเปลี่ยนได้ตามใจชอบ น้ำในเตาทองแดงบนเตาถ่านก็ค่อนข้างร้อน ตอนที่ดื่มคุณหนูกับอาเขยโปรดระวังด้วย"เสี่ยวเยว่เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา "ประตูทางขวาด้านในหากเดินเข้าไปจะมีน้ำพุร้อนอยู่ คุณหนูกับอาเขยสามารถอาบน้ำที่นั่นได้ หากมีเรื่องให้ข้าน้อยรับใช้..."ฟู่จาวหนิงตาเป็นประกายน้ำพุร้อน?ใช้แบบที่นางคิดนั่นหรือเปล่า? น้ำพุร้อนในร่ม? ไม่ใช่กระมัง หรูได้ขนาดนี้เชียว!"ไม่ต้องแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นแต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยต้องการให้สาวใช้มาปรนนิบัติข้างกาย และรู้ว่าตอนฟู่จาวหนิงอาบน้ำก็ไม่ต้องการเช่นกัน ดังนั้นจึงปฏิเสธไปตรงๆเสี่ยวเยว่พยักหน้า "เช่นนั้นข้าน้อยขอพาเสี
ตัวฟู่จาวหนิงไหลลงไปในน้ำเซียวหลันยวนตกตะลึง รีบเข้าไปอุ้มนางขึ้นมาพออุ้มขึ้นมา ก็เหมือนจะมีปฏิกิริยาอยู่บ้าง เหมือนเปลือกตาจะเผยอเล็กน้อย น่าจะเพราะพอเห็นเขาจึงปิดลงไปอีกนางยังขดตัวเข้ามาในอ้อมกอดเขา เสียงก็งึมงำเหมือนละเมอ"อายวน ข้าง่วง"ไม่เคยได้ยินฟู่จาวหนิงใช้น้ำเสียงเช่นนี้พูดกับเขามาก่อน ดูออดอ้อนเสียเหลือเกิน แค่สี่คำนี้ก็ทำเอากระดูกของเซียวหลันยวนอ่อนยวบไปแล้วเดิมทีเขาที่เลือดกำลังพล่านไปทั้งตัว ตอนนี้ใจก็อ่อนลงมาเสียอย่างนั้นนางคงเหนื่อยแล้วจริงๆแล้วเขายังคิดอย่างป่าเถื่อนอีกว่าตอนที่อาบน้ำด้วยกันจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้ต้องตื่นเต้นเร้าใจอีก"เจ้านอนเถอะ" เสียงทุ้มต่ำของเขาปลอบมาคำหนึ่ง หลังจากนั้นก็ปลดเสื้อผ้าที่เปียกของนางออก หยิบชุดคลุมนอกสะอาดที่อยู่ข้างๆ มา จากนั้นก็อุ้มนางไปบนเตียงเขาไปหยิบชุดมาชุดหนึ่งจากตู้ที่กำแพง เปลี่ยนให้กับนางอย่างเบามือที่สุดฟู่จาวหนิงก็เหมือนรู้ว่าเป็นเขา จึงไม่ได้ขัดขืน แล้วยังให้ความร่วมมือด้วย เพียงแต่ง่วงหนักมาก กระทั่งหนังตายังหนักจนลืมไม่ขึ้นเซียวหลันยวนตั้งแต่เล็กจนโตเคยทำเรื่องอย่างการปรนนิบัติคนเช่นนี้เสียที่ไหน?แ
เมื่อคืนนี้นางเหมือนจะหลับไปในบ่อน้ำพุร้อน!นางเดิมทีรู้สึกว่าสองวันนี้เหนื่อยจริงๆ คิดไม่ถึงว่าร่างกายจะเหนื่อยกว่าที่นางจินตนาการไว้เสียอีก ถึงกับแช่น้ำพุร้อนแล้วหลับไปเลยแบบนี้แล้วใครอุ้มนางมาบนเตียงล่ะ ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางล่ะ?"เซียวหลันยวน!"ฟู่จาวหนิงร้องขึ้นมาด้วยสัญชาติญาณเซียวหลันยวนผลักประตูเข้ามา"ตื่นแล้วหรือ?" เขายืนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้เข้ามาทันที เพราะอุณหภูมิด้านนอกลดต่ำลงมาแล้ว บนตัวเขามีความเย็นอยู่ "ตอนดีดีก็เรียกว่าอายวน ตอนนี้กลับมาเรียกชื่อสกุลแล้วหรือ?""เมื่อคืน..."เขาเห็นนางใช้สองมือจับเสื้อผ้า ดวงตาขรึมลงเล็กน้อยนี่หน้าแดงหน่อยๆ ด้วยหรือ? คิดอะไรอยู่ในหัวกัน?จู่ๆ เขาก็เกิดความอยากจะหยอกล้อนางขึ้นมา ถามว่า "เรื่องเมื่อคืนนี้เจ้าลืมหมดเลยหรือ?"พูดอะไรน่ะ!ฟู่จาวหนิงมองตาเขา เลิกผ้าห่มลงมาจากเตียง"หมายถึงเรื่องที่ท่านอุ้มข้ามาบนเตียงแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าหรือ?""ยังมีค่ำคืนที่ยาวนานตอนหลังอีก ครั้งแรกของเจ้ากับข้า...""เฮอะ ข้าเป็นหมอนะ ท่านคิดว่าข้าโง่หรือ?"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเขาจะแหย่นางเช่นนี้ ยื่นนิ้วออกมาแทงหน้าอกเขา "หลังจาก
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ