เมื่อคืนนี้นางเหมือนจะหลับไปในบ่อน้ำพุร้อน!นางเดิมทีรู้สึกว่าสองวันนี้เหนื่อยจริงๆ คิดไม่ถึงว่าร่างกายจะเหนื่อยกว่าที่นางจินตนาการไว้เสียอีก ถึงกับแช่น้ำพุร้อนแล้วหลับไปเลยแบบนี้แล้วใครอุ้มนางมาบนเตียงล่ะ ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางล่ะ?"เซียวหลันยวน!"ฟู่จาวหนิงร้องขึ้นมาด้วยสัญชาติญาณเซียวหลันยวนผลักประตูเข้ามา"ตื่นแล้วหรือ?" เขายืนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้เข้ามาทันที เพราะอุณหภูมิด้านนอกลดต่ำลงมาแล้ว บนตัวเขามีความเย็นอยู่ "ตอนดีดีก็เรียกว่าอายวน ตอนนี้กลับมาเรียกชื่อสกุลแล้วหรือ?""เมื่อคืน..."เขาเห็นนางใช้สองมือจับเสื้อผ้า ดวงตาขรึมลงเล็กน้อยนี่หน้าแดงหน่อยๆ ด้วยหรือ? คิดอะไรอยู่ในหัวกัน?จู่ๆ เขาก็เกิดความอยากจะหยอกล้อนางขึ้นมา ถามว่า "เรื่องเมื่อคืนนี้เจ้าลืมหมดเลยหรือ?"พูดอะไรน่ะ!ฟู่จาวหนิงมองตาเขา เลิกผ้าห่มลงมาจากเตียง"หมายถึงเรื่องที่ท่านอุ้มข้ามาบนเตียงแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าหรือ?""ยังมีค่ำคืนที่ยาวนานตอนหลังอีก ครั้งแรกของเจ้ากับข้า...""เฮอะ ข้าเป็นหมอนะ ท่านคิดว่าข้าโง่หรือ?"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเขาจะแหย่นางเช่นนี้ ยื่นนิ้วออกมาแทงหน้าอกเขา "หลังจาก
ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนยาให้เซียวหลันยวนครั้งนี้พอเห็นแผลเป็นบนหน้าเขาอีกครั้ง ฟู่จาวหนิงก็หัวเราะมีเสียงขึ้นมาแล้ว"เซียวหลันยวน ประสิทธิภาพยานั่นดีเอามากๆ เลย! แผลเป็นเล็กลงมามากแล้ว!"พอได้ยินความตื่นเต้นในน้ำเสียงนาง อารมณ์ของเซียวหลันยวนก็เบิกบานขึ้นมาเขามองออกถึงประกายที่เจิดจ้าในดวงตานาง"ใบหน้าข้าจะดีขึ้นได้หรือ?""ข้าคิดว่าได้!""เจ้าดีใจขนาดนี้เชียว?""แน่นอนสิ" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า ทายาให้เขาอย่างละเอียดพลางพูดขึ้นว่า "ถึงแม้ไม่ว่าหน้ของนานจะฟื้นฟูได้หรือไม่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับข้า แต่มันส่งผลกับท่านี่ ท่านเองก็ไม่ลองคิดถึงท่าทีก่อนหน้านี้ของท่านดูล่ะ"เซียวหลันยวนในตอนนั้นก็สุนัขเสียเหลือเกิน นางแค่คิดก็โมโหแล้วโชคดีที่เขาคิดออก ไม่เช่นนั้นถ้าเขายังทำตัวน่ารำคาญต่อไป พวกเขาคงได้แยกทางกันแน่นอนนางไม่รังเกียจใบหน้าเขา แต่ว่ารังเกียจท่าทีพังทลายของเขา ที่เอาแต่คิดจะผลักไสนางจะผลักไสก็ไม่ให้มันเด็ดขาด มาอิดๆ ออดๆ ทำเอาคนอึดอัดสายตาเซียวหลันยวนตกอยู่บนหน้านางตลอด "หลังจากนี้จะไม่มีอีกแล้ว"ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนเป็นเช่นไร เขาก็จะไม่ให้นางห่างกายอีก นางเป็นของเขา เขาไม่อ
เหอเซ๊่ยนอันตอนนี้จึงค่อยๆ ปล่อยมือเขายืนนิ่ง ไม่ล้มลงแล้วเหอเซี่ยนอันเงยหน้ามองฟู่จาวหนิง"ข้า ข้ายืนได้แล้ว?"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "ใช่แล้ว""ท่านพ่อ! ท่านแม่! พี่หญิงรอง!" เหอเซี่ยนอันตื่นเต้นดีใจร้องเรียกขึ้นมา "พวกท่านเห็นไหม? ข้ายืนได้แล้ว!""โฮ!"องค์หญิงใหญ่ร้องไห้ออกมาทันทีผิงเหอกงเองก็ตาชื้น ออกแรงพยักหน้า"่น้องชาย ขาของเจ้าดีแล้วจริงๆ!" คุณหนูรองเหอเองก็ตื่นเต้นยินดี กระโดดเหยงขึ้นมา"ลองเดินดูสักสองสามก้าว"ฟู่จาวหนิงบอกกับเหอเซี่ยนอันเหอเซี่ยนอันก็ค่อยๆ ขยับเดินอย่างระมัดระวังนอกจากจะมีอาการชาหน่อยๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก เขาเดินได้อีกครั้งแล้ว!"เจ้าไม่ได้เดินมานานมาก ต้องปรับตัวอีกหลายวัน ช่วงนี้ทุกวันก็ลุกออกมาเดินช้าๆด้วยล่ะ ค่อยๆ เพิ่มจำนวนก้าว พอปรับตัวได้ค่อยเพิ่มความเร็ว ไปทีละขั้นๆ""ขอรับ ข้าจะฟังท่าน!"เหอเซี่ยนอันทั้งร้องไห้ทั้งร้องตะโกน ขาของเขาไม่พิการแล้ว มันกลับมาดีแล้ว!รองผู้บัญชาการหลินกับนายท่านหลิวพอได้ยินข่าว ก็มาดูเหอเซี่ยนอันที่จวนผิงเหอกงด้วยเช่นกันพอเห็นว่าเขาเดินได้แล้วจริง พวกเขาก็ส่งของขวัญชิ้นใหญ่มาให้"พวกเขาต้องของคุณผิง
"ผิงเหอกงรู้ว่าไหมว่าหมอเทวดาฟู่อยู่กับใคร?""คุณชายสวมหน้ากากนั่นน่ะหรือ?"หลายวันนี้ เซียวหลันยวนจะมารับฟู่จาวหนิงอยู่ทุกวัน แต่ทุกวันก็สวมหน้ากาก เขาจึงไม่เคยเห็นใบหน้าจริงๆ ของอีกฝ่ายมาก่อนเลย แต่ก็รู้ว่าวรยุทธของเขาลึกล้ำมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังคอยปกป้องฟู่จาวหนิงด้วยพวกกเขาล้วนจูงมือกันตลอด นั่นแสดงว่าเป็นสามีของฟู่จาวหนิง"ไม่ได้หมายถึงเขา""แล้วหมายถึงใครล่ะ? พ่อครัวเลื่องชื่อตู้หรือ? นางเป็นหลานของผู้อาวุโสตู้ เรื่องนี้ข้ารู้""ไม่ใช่ผู้อาวุโสตู้ด้วย""แล้วท่านพูดถึงใครกันล่ะนั่น? พูดมาตรงๆ เลย! อย่าวกไปวนมา" ผิงเหอกงเหลืออดหน่อยๆ"เสิ่นเสวียน!"รองผู้บัญชาการหลินพูดออกมาตรงๆ"เสิ่นเสวียน นางเรียกว่าท่านลุง! แม้จะไม่รู้ว่าเป็นลุงหลานแท้ๆ หรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรก็มีความสัมพันธ์ระดับนี้อยู่ แล้วข้าก็ได้ยินข่าวเมืองหมานทางนั้นด้วย เมืองหมานทางนั้นมีเหมืองแร่หิน ช่วงนี้ได้ยินว่าส่งหินชุดหนึ่งออกไป เป็นภารกิจที่หนักหนามาก"ผิงเหอกงขมวดคิ้วรองผู้บัญชาการหลินพูดต่อ "ดังนั้น ทางนั้นก็จะส่งนักโทษไปยังเหมืองแร่หิน ให้พวกเขาขนย้ายก้อนหินแร่ ท่านก็รู้อยู่ ว่างานหนักขนาดนั้น ถ้า
"ไม่มี ไม่มีแล้วจริงๆ"นายท่านหลิวรีบโบกไม้โบกมือ "ข้าเองก็กลัวไหม? ดังนั้นทุกคนในบ้านจึงตรวจสอบกันอย่างละเอียด มีแค่คนนั้นล่ะที่มีปัญหา""เขาเป็นใครท่านตรวจสอบดีแล้วหรือยัง? เป้าหมายที่แฝงมาอยู่ในบ้านของท่านตรวจสอบแล้วหรือยัง?" ผิงเหอกงถามขึ้นอีก"ยังตรวจสอบไม่ได้ กำลังตรวจสอบต่ออยู่...""ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ผิงเหอกงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่หลังจากวันนั้น เขาก็ตรวจสอบเข้มในบ้าน ตรวจกันจนแทบจะคว่ำบ้านเลยทีเดียวรองผู้บัญชาการหลินเองก็ด้วย ทุกคนกลัวกันหมดใครเองก็ไม่รู้ว่าสายลับทำไมจึงแฝงเข้ามาในบ้านตระกูลหลิว คิดจะทำอะไร ใครจะรู้ว่ายังมีคนจะแฝงเข้ามาในบ้านพวกเขาอีกไหม เฝ้ารอพริบตาที่จะพุ่งออกมาแล้วเอามีดแทงหลัง"ตอนนี้กลับมาเรื่องของบ้านตระกูลเสิ่นก่อน ท่าทีของฝ่าบาทคือคิดจะทรมารเสิ่นฉยง เรื่องนี้จะต้องไปอยู่กับลูกเขยคนโตของท่านแน่" รองผู้บัญชาการหลินมองผิงเหอกง "แต่ว่าตอนนี้หมอเทวดาฟู่กับมีความสัมพันธ์กับบ้านตระกูลเสิ่น ผิงเหอกง ท่านลองดูแล้วกันว่าจะทำอย่างไร"เรื่องนี้ พวกเขาเองก็อยากจะช่วยหมอเทวดาฟู่อยู่นายท่านหลินพยักหน้า "ถูกต้อง พวกเรายังไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนบุญคุณหมอเทวดาฟ
เสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนกำลังลงหมากกันฟู่จาวหนิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เวลานี้แล้ว พวกเขาสองคนยังมีเวลาว่างมานั่งเล่นหมากรุกอีกหรือ?"ท่านลุง ข้าคิดว่าพวกท่านจะยุ่งกันแทบจะไม่มีเวลากินข้าวเสียอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ไม่ขนาดนั้น" เสิ่นเสวียนยิ้มๆ"สองวันก่อนงานอวยพรใหญ่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ท่านปฏิเสธจักรพรรดิต้าชื่อไปเช่นนั้น ท่านไม่มีแผนรับมือภายหลังเลยหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเดิมทีงานอวยพรใหญ่เองนางก็อยากจะไปดู แต่มีคนไข้หนักอย่างหลินต๋ากับหลิวเกาไหลสองคนติดตัวอยู่ แล้วยังมีเหอเซี่ยนอันอีก นางไปไหนไม่ได้จริงๆ"กำลังรอแผนรับมือภายหลังของเขาอยู่น่ะ ก่อนหน้านั้นก็เหมือนจะพอมีเวลาให้หย่อนใจได้บ้าง" เสิ่นเสวียนตอนนี้ยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอยู่ "ถึงอย่างไรฝ่าบาทเองก็ต้องคิดให้ดี ว่าควรจะใช้วิธีการไหนกับตระกูลเสิ่นของพวกเรา"เซียวหลันยวนลุกขึ้นไปหยิบผ้าเปียกจากถังน้ำข้างๆ มาบิด แล้วเช็ดมือให้ฟู่จาวหนิงอย่างละเอียดละออหลายวันนี้หลังจากนางกลับมา เขาก็จะทำงานละเอียดเช่นนี้ให้เช็ดมือให้นาง เทน้ำให้นางฟู่จาวหนิงตอนแรกก็ไม่ค่อยชิน แต่ไม่กี่วันนางก็ชินเสียแล้ว ควา
ฟู่จาวหนิงคิดๆ "เข้านั้นข้าก็ต้องทำยาล้างปอดกับบรรเทาอาการเจ็บคอให้เขาหน่อย วัตถุดิบยาที่อาจารย์ให้มาก็ได้ใช้พอดีเลย""เจ้าไปสกัดยาเถอะ ข้าจะไปหยิบของว่างมาให้เจ้า""ดีเลย"เซียวหลันยวนเดินออกไป หลานหรงก็แวบตัวออกไปเช่นกัน"ท่านอ๋อ ท่านหูมาขอพบ""เขายังไม่ออกจากเมืองหลวงอีกหรือ?""ยังขอรับ""เขาอยู่ที่ไหน?""อยู่ที่หออันดับหนึ่ง" หลานหรงคิดๆ แล้วพูดว่า "ท่านหูเหมือนจะไปพบกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาแล้ว นอกจากนั้นยังหาตัวคนหนึ่งพบ และคนคนนั้นเป็นไปได้มากว่าอาจจะเป็นรุ่นหลังของนางกำนัลแคว้นตงฉิง"รุ่นหลังของนางกำนัลแคว้นตงฉิง?เซียวหลันยวนตกตะลึงไป"ให้เขาเปลี่ยนสถานที่"เปลี่ยนสถานที่?"ไม่ไปที่หออันดับหนึ่ง"เจ้าของหออันดับหนึ่งในเมื่อไม่จริงใจแล้ว เขาเองก็จะไม่ไปอีก"ขอรับ"เซียวหลันยวนหยิบของว่างเข้ามา ฟู่จาวหนิงยังกำลังสกัดยาอยู่เขาหยิบชิ้นหนึ่งส่งไปมุมปากนาง "อ้าปากสิ"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำสั่งก็ทำตาม อ้าปากขึ้นมากัดคำหนึ่ง "ขนมถั่วแดงหรือ? หวานจัง""ใส่น้ำตาลดอกกุ้ยลงไปด้วย พ่อครัวของสวนคะนึงนี้ไม่เลวเลย"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า การเคลื่อนไหวที่มือยังไม่หยุด นางกำลังฝา
เสิ่นเสวียนมองของที่ฟู่จาวหนิงส่งเข้ามา อดกุมหน้าผากไม่ได้"เตรียมไว้เยอะขนาดนี้เชียว?"สิ่งที่ฟู่จาวหนิงส่งเข้ามาเป็นห่อขนาดใหญ่ ด้านในใส่ยาเอาไว้เต็มพิกัด"ข้าเองก็ไม่รู้ว่าท่านลุงคนโตทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง แต่เตรียมตัวไว้ก็ไม่เสียหลาย ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสส่งของไปได้ แน่นนอนว่าต้องนำไปมากหน่อย"ฟู่จาวหนิงกระทั่งรู้สึกยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่ช่วงนี้นางยุ่งมาก คงจะสกัดยาได้มากกว่านี้เพื่อส่งไปแล้วแต่ว่าก่อนหน้านี้ไม่แน่ใจว่าผิงเหอกงจะยอมช่วยไหม"ลุงคนโตของเจ้าถ้าได้ของแล้วกลัวว่าจะมึนไปหมดนี่สิ""วัตถุดิบยาในนี้ข้าเขียนชื่อกับวิธีใช้พร้อมปริมาณไว้แล้ว ลุงคนโตพอเห็นก็น่าจะรู้ว่าใช้อย่างไร และยังมียาคุ้มครองหัวใจกับลูกกลอนล้างปอดด้วย สองอย่างนี้ไม่ว่าจะมีเรื่องหรือไม่มีเรื่องก็สามารถให้ท่านลุงคนโตกินก่อนได้เลย"แค่ยาคุ้มครองหัวใจ ถ้าออกมาจากมือของฟู่จาวหนิง ก็ถือว่ามูลค่าไม่ธรรมดาแล้วแล้วห่อยาใหญ่ขนาดนี้ อัดแน่นแบบนี้ ราคาแพงมหาศาลเลยทีเดียวเสิ่นเสวียนให้คนรับ "รอท่านลุงคนโตของเจ้ากลับมาก่อน จะต้องให้เขามาขอบคุณเจ้าดีดี"เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องพูดเยอะแล้วเสิ่นเสวียนให้ค
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ
เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก
เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน
เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ
เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ
สายตาที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเซียวหลันยวนดูซับซ้อนมาก ดูลังเล กำลังตัดสินใจและดูเจ็บปวดทรมานมากแต่หลังจากนี้นางกลับละทิ้งเรื่องที่จะกลับเมืองหลวงหาคนอื่นหรือกระทั่งเรื่องไปแคว้นหมิ่น แล้วิคดจะอยู่ข้างกายเจ้าอารามแทนหรือ?นี่มัน...ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนความคิดกะทันหันของนางมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตอนนี้นางกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อวัดคะเนดารานี้เสียแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสัมผัสได้ถึงอะไรกันนะ?"องค์หญิงใหญ่พักอยู่ที่นี่สองสามวันก่อนก็ได้ เอาไว้ค่อยว่ากัน"เจ้าอารามเหลือบมองกระจกทรงมุมที่แสงดับไปแล้วผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แอบถอนหายใจในใจเขาเองก็ทำไม่สำเร็จ บิดชะตาฝูอวิ้นกลับมาไม่ได้ชั่วคราวผิดพลาดตรงไหนกันแน่นะ?เจ้าอารามมองต่อไปทางฟู่จาวหนิง จากการทำนายส่วนตัวของเขา ทำนายไปทำนายมา ต้นกำเนิดตัวแปรทั้งหมดก็คือฟู่จาวหนิงดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับฟู่จาวหนิง เขาต้องมาขบคิดให้ดีจริงจัง""เจ้าอารามรับข้าไว้เถอะ แม้ข้าจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ก็ยังเรียนรู้ได้ ข้าเรียนรู้ทำกับข้าว จริงด้วย ข้าเป็นแแม่สื่อได้ด้วยนะ หลังจากนี้ชายเส
บนพื้นมีสามจุดเปล่งแสงขึ้นรางๆ ปรากฏรูปร่างสามแบบคือ แปดเหลี่ยม ทรงกลม ทรงมุมฟู่จาวหนิงเดินเข้าไปสองก้าว จึงพบว่านั่นเป็นกระจกหลากสีเรียบลื่นสามชิ้นสลักฝังอยู่บนพื้น ใต้กระจกน่าจะเป็นหินหยกผิวเรียบ และระหว่างหยกกับกระจกมีของเหลวสีแดงเจือสีเงินไหลเอื่อยๆ อยู่ยิ่งไปกว่านั้น เพียงไม่นาน ด้านบนยังมีแสงระยิบเหมือนดวงดาว ราวกับจำลองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวออกมาเจ้าอารามเดินเข้าไปใกล้ กวักมือให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"มานี่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ค่อนข้างว่าง่าย เดินเข้าไปทันทีเจ้าอารามส่งลูกปัดหยกสีดำเม็ดหนึ่งให้นาง"นั่งขัดสมาธิ กำลูกปัดเม็ดนี้ไว้ สัมผัสดูว่ามันนำเจ้าไปยังมิติดาราไหน แล้วจงชี้ออกมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามที่เขาบอกนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น สองมือกุมลูกปัดนั้น ตั้งสมาธิสัมผัสผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงหันหลังอย่างลังเลไปทางทรงมุมนั้น"ทางนี้"ฟู่จาวหนิงยืนมองอยู่ข้างๆจากที่นางเห็น เจ้าอารามเหมือนคนที่กำลังเล่นละครหลอกคนอย่างไรอย่างนั้น เรื่องแบบนี้จะทำนายดวงชะตาออกมาได้อย่างไร?กำลูกปัดลูกหนึ่งไว้ ก็สามารถชักนำให้ตนเองเลือกกระจกหลากสีแผ่นไหนแบ
ดาวสองดวงนั้นประกายจ้ามาก แล้วยังอยู่ใกล้มากด้วย ส่องประกายให้กันและกัน เหมือนขานรับกันและกันไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นดาวสองดวงนี้ ฟู่จาวหนิงรู้สึกมีความสุขขึ้นมานางมองไปทางเซียวหลันยวน ถามขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านเห็นดาวดวงไหนหรือ?"เซียวหลันยวนไม่ตอบ แต่กุมมือนางมัน จับนิ้วนางชี้ออกไป"เอ๋?"ที่เซียวหลันยวนชี้ก็คือดาวสองดวงนั้น!หรือพวกเขาจะมองเห็นแบบเดียวกัน?แน่นอนว่าอาจจะเพราะดาวสองดวงนั้นสว่างไสวมากที่สุด คนอื่นเองก็อาจจะมองเห็นพวกมันด้วยฟู่จาวหนิงคิดเช่นนี้ เลยมองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่กลับเห็นนางมองไปทางอื่นนางมองไล่ตามสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไป ตรงนั้นมีดาวดวงหนึ่ง สว่างอยู่เหมือนกัน แต่ดาวที่อยู่รอบๆ เล็กเอามากๆ จึงส่องระยับอยู่เพียงดวงเดียวที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองอยู่น่าจะเป็นดวงนั้นกระมัง?ตอนที่นางจะเก็บสายตาก็กวาดไปเห็นซางจื่อพอดี และเห็นซางจื่อก็กำลังมองท้องฟ้า แต่สายตาของเขาดูสับสน สีหน้าเองก็ตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงคิดๆ ถอยหลังสองก้าวไปอยู่ข้างๆ ซางจื่อซางจื่อเก็บสายตากลับ มองไปทางนาง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ นางก็มาอยู่ข้างๆ"ซางจื่อ เจ้าชอบดาวดวงไหน?"ซา
"แต่ก่อนท่านเคยเห็นเขาระบำมาก่อนไหม?""ไม่มีเคยเลย"ตอนที่พวกเขาหยุดเท้ายืนมอง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็มาถึงข้างกายพวกเขานางเองก็มองการร่ายรำบนแท่นชมดาว สายตาดูเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ"ข้าได้ยินว่า แต่ก่อนตงฉิงก็มีระบำทำนายดวงดาวอยู่ประเภทหนึ่ง คิดค้นขึ้นมาโดยตระกูลราชครูตงฉิง นี่เป็นระบำที่ลึกลับมาก จังหวะก้าวเท้าทุกก้าวล้วนพิถีพิถัน นำมาซึ่งพลังแห่งดวงดาว ทำให้ผู้ทำนายดวงดาวมีพลังที่ลึกลับมากขึ้น ผลลัพธ์การทำนายเองก็แม่นยำขึ้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ลืมสิ่งที่เซียวหลันยวนพูดไว้เมื่อครู่ เรื่องที่ไม่ให้นางเข้ามาใกล้นัก แต่มายืนอยู่ข้างกายพวกเขา พูดเรื่องที่ตนเองรู้มาก่อนหน้านี้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ตระกูลราชครูของตงฉิง?" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้ยินองค์จักรพรรดิของข้าบอกมา" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นว่านางยอมพูดกับตนเอง ก็รู้สึกเหมือนได้รับเกียรติจนประหลาดใจขึ้นมา "ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ได้ยินว่าองค์จักรพรรดิข้าค้นหาตระกูลราชครูตงฉิงอยู่ตลอด ว่ากันว่า ตระกูลราชครูนั้นรู้ความลับมากมายของตงฉิง สามารถช่วยให้อาณาจักรมั่นคงได้ด้วย"เซียวหลันยวนร้องเฮอะขึ้นมาต้