เหอเซ๊่ยนอันตอนนี้จึงค่อยๆ ปล่อยมือเขายืนนิ่ง ไม่ล้มลงแล้วเหอเซี่ยนอันเงยหน้ามองฟู่จาวหนิง"ข้า ข้ายืนได้แล้ว?"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "ใช่แล้ว""ท่านพ่อ! ท่านแม่! พี่หญิงรอง!" เหอเซี่ยนอันตื่นเต้นดีใจร้องเรียกขึ้นมา "พวกท่านเห็นไหม? ข้ายืนได้แล้ว!""โฮ!"องค์หญิงใหญ่ร้องไห้ออกมาทันทีผิงเหอกงเองก็ตาชื้น ออกแรงพยักหน้า"่น้องชาย ขาของเจ้าดีแล้วจริงๆ!" คุณหนูรองเหอเองก็ตื่นเต้นยินดี กระโดดเหยงขึ้นมา"ลองเดินดูสักสองสามก้าว"ฟู่จาวหนิงบอกกับเหอเซี่ยนอันเหอเซี่ยนอันก็ค่อยๆ ขยับเดินอย่างระมัดระวังนอกจากจะมีอาการชาหน่อยๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก เขาเดินได้อีกครั้งแล้ว!"เจ้าไม่ได้เดินมานานมาก ต้องปรับตัวอีกหลายวัน ช่วงนี้ทุกวันก็ลุกออกมาเดินช้าๆด้วยล่ะ ค่อยๆ เพิ่มจำนวนก้าว พอปรับตัวได้ค่อยเพิ่มความเร็ว ไปทีละขั้นๆ""ขอรับ ข้าจะฟังท่าน!"เหอเซี่ยนอันทั้งร้องไห้ทั้งร้องตะโกน ขาของเขาไม่พิการแล้ว มันกลับมาดีแล้ว!รองผู้บัญชาการหลินกับนายท่านหลิวพอได้ยินข่าว ก็มาดูเหอเซี่ยนอันที่จวนผิงเหอกงด้วยเช่นกันพอเห็นว่าเขาเดินได้แล้วจริง พวกเขาก็ส่งของขวัญชิ้นใหญ่มาให้"พวกเขาต้องของคุณผิง
"ผิงเหอกงรู้ว่าไหมว่าหมอเทวดาฟู่อยู่กับใคร?""คุณชายสวมหน้ากากนั่นน่ะหรือ?"หลายวันนี้ เซียวหลันยวนจะมารับฟู่จาวหนิงอยู่ทุกวัน แต่ทุกวันก็สวมหน้ากาก เขาจึงไม่เคยเห็นใบหน้าจริงๆ ของอีกฝ่ายมาก่อนเลย แต่ก็รู้ว่าวรยุทธของเขาลึกล้ำมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังคอยปกป้องฟู่จาวหนิงด้วยพวกกเขาล้วนจูงมือกันตลอด นั่นแสดงว่าเป็นสามีของฟู่จาวหนิง"ไม่ได้หมายถึงเขา""แล้วหมายถึงใครล่ะ? พ่อครัวเลื่องชื่อตู้หรือ? นางเป็นหลานของผู้อาวุโสตู้ เรื่องนี้ข้ารู้""ไม่ใช่ผู้อาวุโสตู้ด้วย""แล้วท่านพูดถึงใครกันล่ะนั่น? พูดมาตรงๆ เลย! อย่าวกไปวนมา" ผิงเหอกงเหลืออดหน่อยๆ"เสิ่นเสวียน!"รองผู้บัญชาการหลินพูดออกมาตรงๆ"เสิ่นเสวียน นางเรียกว่าท่านลุง! แม้จะไม่รู้ว่าเป็นลุงหลานแท้ๆ หรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรก็มีความสัมพันธ์ระดับนี้อยู่ แล้วข้าก็ได้ยินข่าวเมืองหมานทางนั้นด้วย เมืองหมานทางนั้นมีเหมืองแร่หิน ช่วงนี้ได้ยินว่าส่งหินชุดหนึ่งออกไป เป็นภารกิจที่หนักหนามาก"ผิงเหอกงขมวดคิ้วรองผู้บัญชาการหลินพูดต่อ "ดังนั้น ทางนั้นก็จะส่งนักโทษไปยังเหมืองแร่หิน ให้พวกเขาขนย้ายก้อนหินแร่ ท่านก็รู้อยู่ ว่างานหนักขนาดนั้น ถ้า
"ไม่มี ไม่มีแล้วจริงๆ"นายท่านหลิวรีบโบกไม้โบกมือ "ข้าเองก็กลัวไหม? ดังนั้นทุกคนในบ้านจึงตรวจสอบกันอย่างละเอียด มีแค่คนนั้นล่ะที่มีปัญหา""เขาเป็นใครท่านตรวจสอบดีแล้วหรือยัง? เป้าหมายที่แฝงมาอยู่ในบ้านของท่านตรวจสอบแล้วหรือยัง?" ผิงเหอกงถามขึ้นอีก"ยังตรวจสอบไม่ได้ กำลังตรวจสอบต่ออยู่...""ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ผิงเหอกงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่หลังจากวันนั้น เขาก็ตรวจสอบเข้มในบ้าน ตรวจกันจนแทบจะคว่ำบ้านเลยทีเดียวรองผู้บัญชาการหลินเองก็ด้วย ทุกคนกลัวกันหมดใครเองก็ไม่รู้ว่าสายลับทำไมจึงแฝงเข้ามาในบ้านตระกูลหลิว คิดจะทำอะไร ใครจะรู้ว่ายังมีคนจะแฝงเข้ามาในบ้านพวกเขาอีกไหม เฝ้ารอพริบตาที่จะพุ่งออกมาแล้วเอามีดแทงหลัง"ตอนนี้กลับมาเรื่องของบ้านตระกูลเสิ่นก่อน ท่าทีของฝ่าบาทคือคิดจะทรมารเสิ่นฉยง เรื่องนี้จะต้องไปอยู่กับลูกเขยคนโตของท่านแน่" รองผู้บัญชาการหลินมองผิงเหอกง "แต่ว่าตอนนี้หมอเทวดาฟู่กับมีความสัมพันธ์กับบ้านตระกูลเสิ่น ผิงเหอกง ท่านลองดูแล้วกันว่าจะทำอย่างไร"เรื่องนี้ พวกเขาเองก็อยากจะช่วยหมอเทวดาฟู่อยู่นายท่านหลินพยักหน้า "ถูกต้อง พวกเรายังไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนบุญคุณหมอเทวดาฟ
เสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนกำลังลงหมากกันฟู่จาวหนิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เวลานี้แล้ว พวกเขาสองคนยังมีเวลาว่างมานั่งเล่นหมากรุกอีกหรือ?"ท่านลุง ข้าคิดว่าพวกท่านจะยุ่งกันแทบจะไม่มีเวลากินข้าวเสียอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ไม่ขนาดนั้น" เสิ่นเสวียนยิ้มๆ"สองวันก่อนงานอวยพรใหญ่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ท่านปฏิเสธจักรพรรดิต้าชื่อไปเช่นนั้น ท่านไม่มีแผนรับมือภายหลังเลยหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเดิมทีงานอวยพรใหญ่เองนางก็อยากจะไปดู แต่มีคนไข้หนักอย่างหลินต๋ากับหลิวเกาไหลสองคนติดตัวอยู่ แล้วยังมีเหอเซี่ยนอันอีก นางไปไหนไม่ได้จริงๆ"กำลังรอแผนรับมือภายหลังของเขาอยู่น่ะ ก่อนหน้านั้นก็เหมือนจะพอมีเวลาให้หย่อนใจได้บ้าง" เสิ่นเสวียนตอนนี้ยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอยู่ "ถึงอย่างไรฝ่าบาทเองก็ต้องคิดให้ดี ว่าควรจะใช้วิธีการไหนกับตระกูลเสิ่นของพวกเรา"เซียวหลันยวนลุกขึ้นไปหยิบผ้าเปียกจากถังน้ำข้างๆ มาบิด แล้วเช็ดมือให้ฟู่จาวหนิงอย่างละเอียดละออหลายวันนี้หลังจากนางกลับมา เขาก็จะทำงานละเอียดเช่นนี้ให้เช็ดมือให้นาง เทน้ำให้นางฟู่จาวหนิงตอนแรกก็ไม่ค่อยชิน แต่ไม่กี่วันนางก็ชินเสียแล้ว ควา
ฟู่จาวหนิงคิดๆ "เข้านั้นข้าก็ต้องทำยาล้างปอดกับบรรเทาอาการเจ็บคอให้เขาหน่อย วัตถุดิบยาที่อาจารย์ให้มาก็ได้ใช้พอดีเลย""เจ้าไปสกัดยาเถอะ ข้าจะไปหยิบของว่างมาให้เจ้า""ดีเลย"เซียวหลันยวนเดินออกไป หลานหรงก็แวบตัวออกไปเช่นกัน"ท่านอ๋อ ท่านหูมาขอพบ""เขายังไม่ออกจากเมืองหลวงอีกหรือ?""ยังขอรับ""เขาอยู่ที่ไหน?""อยู่ที่หออันดับหนึ่ง" หลานหรงคิดๆ แล้วพูดว่า "ท่านหูเหมือนจะไปพบกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาแล้ว นอกจากนั้นยังหาตัวคนหนึ่งพบ และคนคนนั้นเป็นไปได้มากว่าอาจจะเป็นรุ่นหลังของนางกำนัลแคว้นตงฉิง"รุ่นหลังของนางกำนัลแคว้นตงฉิง?เซียวหลันยวนตกตะลึงไป"ให้เขาเปลี่ยนสถานที่"เปลี่ยนสถานที่?"ไม่ไปที่หออันดับหนึ่ง"เจ้าของหออันดับหนึ่งในเมื่อไม่จริงใจแล้ว เขาเองก็จะไม่ไปอีก"ขอรับ"เซียวหลันยวนหยิบของว่างเข้ามา ฟู่จาวหนิงยังกำลังสกัดยาอยู่เขาหยิบชิ้นหนึ่งส่งไปมุมปากนาง "อ้าปากสิ"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำสั่งก็ทำตาม อ้าปากขึ้นมากัดคำหนึ่ง "ขนมถั่วแดงหรือ? หวานจัง""ใส่น้ำตาลดอกกุ้ยลงไปด้วย พ่อครัวของสวนคะนึงนี้ไม่เลวเลย"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า การเคลื่อนไหวที่มือยังไม่หยุด นางกำลังฝา
เสิ่นเสวียนมองของที่ฟู่จาวหนิงส่งเข้ามา อดกุมหน้าผากไม่ได้"เตรียมไว้เยอะขนาดนี้เชียว?"สิ่งที่ฟู่จาวหนิงส่งเข้ามาเป็นห่อขนาดใหญ่ ด้านในใส่ยาเอาไว้เต็มพิกัด"ข้าเองก็ไม่รู้ว่าท่านลุงคนโตทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง แต่เตรียมตัวไว้ก็ไม่เสียหลาย ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสส่งของไปได้ แน่นนอนว่าต้องนำไปมากหน่อย"ฟู่จาวหนิงกระทั่งรู้สึกยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่ช่วงนี้นางยุ่งมาก คงจะสกัดยาได้มากกว่านี้เพื่อส่งไปแล้วแต่ว่าก่อนหน้านี้ไม่แน่ใจว่าผิงเหอกงจะยอมช่วยไหม"ลุงคนโตของเจ้าถ้าได้ของแล้วกลัวว่าจะมึนไปหมดนี่สิ""วัตถุดิบยาในนี้ข้าเขียนชื่อกับวิธีใช้พร้อมปริมาณไว้แล้ว ลุงคนโตพอเห็นก็น่าจะรู้ว่าใช้อย่างไร และยังมียาคุ้มครองหัวใจกับลูกกลอนล้างปอดด้วย สองอย่างนี้ไม่ว่าจะมีเรื่องหรือไม่มีเรื่องก็สามารถให้ท่านลุงคนโตกินก่อนได้เลย"แค่ยาคุ้มครองหัวใจ ถ้าออกมาจากมือของฟู่จาวหนิง ก็ถือว่ามูลค่าไม่ธรรมดาแล้วแล้วห่อยาใหญ่ขนาดนี้ อัดแน่นแบบนี้ ราคาแพงมหาศาลเลยทีเดียวเสิ่นเสวียนให้คนรับ "รอท่านลุงคนโตของเจ้ากลับมาก่อน จะต้องให้เขามาขอบคุณเจ้าดีดี"เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องพูดเยอะแล้วเสิ่นเสวียนให้ค
ฟู่จาวหนิงตามออกไปทันที นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อหนังสือของบ้านตระกูลเสิ่นมากเสิ่นเสวียนพานาเดินทะลุส่วนออกมา จนถึงเบื้องหน้าภูเขาจำลองลูกหนึ่ง ยื่นไปตบๆ เขาจำลองนั้นสองสามี จากนั้นก็ลงไปในบางจุดฟู่จาวหนิงเบิกตาโพลง หนังสือคงไม่ได้อยู่ในคลังใต้ดินหรอกใช่ไหม?ภูเขาจำลองเปิดออกไปซ้ายขวา เผยให้เห็นประตูลับบานหนึ่งบนประตูมีกลอนลงไว้ เสิ่นเสวียนหยิบตราหยกชิ้นหนึ่งออกมาใส่ลงไปประตูลับเปิดออก เสิ่นเสวียนก้มหน้าดินลงไปก่อนลึกลับขนาดนี้เชียวหรือ?ฟู่จาวหนิงตามเข้าไป ประตูกับภูเขาจำลองก็ปิดลงมาอีกครั้ง ด้านนอกมองไม่เห็นเลยว่าภูเขาจำลองนี้จะสามารถแยกออกซ้ายขวาได้เช่นนี้จางเดิมทีคิดว่าประตูลับจะตรงไปยังคลังลับใต้ดิน หนังสือคงอยู่ในคลังลับนั้น คิดไม่ถึงว่าพอเข้ามาจะเป็นอุโมงค์ยาว บนพื้นยังปูด้วยรางไม้ บนรางไม้มีรถไม้มีที่นั่งซ้ายขวาที่ทำขึ้นเป็นพิเศษอยู่คันหนึ่งแค่รถไม้นี้ก็ทำให้ฟู่จาวหนิงรู้สึกตกตะลึงได้แล้ว"ขึ้นมาสิ"เสิ่นเสวียนนั่งลงที่ด้านหนึ่ง ยื่นมือดึงฟู่จาวหนิงไปนั่งอีกด้านหนึ่ง"ท่านลุง สิ่งนี้เคลื่อนไหวได้ด้วยอะไรน่ะ?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกประหลาดใจ และแปลกใหม่มากนี่มัน
เสิ่นเสวียนมองนางยิ้มๆ"วันก่อนตอนที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอวยพร บนถนนหลวงมีนกนับร้อยบินผ่าน และยังมีดนตรีสวรรค์ดังแว่ว เรื่องนี้เจ้าเชื่อไหม?"ตอนนั้นฟู่จาวหนิงไม่มีเวลาออกไปดูเลยถ้าจะต้องแย่งไปอยู่แถวหน้าก็สิ้นเปลืองพลังงานไปหน่อย นางขี้เกียจจะไปแย่งและต่อมาก็เห็นแต่คนมากมายดำทมึนไปหมด นางก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าดูแล้ว ใครจะไปคิดว่าจะมีนกนับร้อยบินผ่านกับเสียงดนตรีสวรรค์ดังแว่วแบบนี้ล่ะฟังแล้วรู้สึกไม่น่าเชื่อเลย"เป็นเรื่องจริงหรือ?"เสิ่นเสวียนพยักหน้า "นกนับร้อยบินผ่านเป็นเรื่องจริง แต่ว่า คำว่านกนับร้อยก็ดูจะเป็นคำพูดที่เกินจริงไปหน่อย ตอนนั้นประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ดูอย่างละเอียด อันที่จริงก็เป็นแค่นกฝูงหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่เป็นนกยูงพญาหงส์อะไรแบบนั้น ก็เป็นแค่นกธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไป"ฟู่จาวหนิงเงียบลงมา"แต่จำนวนก็เยอะอยู่ไหม?"ก็น่าจะหลายสิบตัวอยู่กระมัง ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น ถ้ามีนกขนาดฝูงนี้บินผ่าน ก็ถือว่าดึงดูดสายตาผู้คนอยู่ พอบวกกับการจงใจแต่งแต้ม มันก็เลยดูเกินจริงขึ้นมา"เรื่องนี้ ใช้วิธีการอะไรเสียหน่อยก็ไม่ใช่จะทำไม่ได้"ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเกี
เขาอยากไปด้วยกันกับลูกสาว เช่นนี้จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน และยังได้มองอยู่ข้างๆ ถึงสภาพการทำงานของนางด้วย อยู่กับคนเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจนางมากขึ้น รู้จักนางมากขึ้นเขาพลาดที่จะมองดูลูกสาวเติบโตไปหลายปี ตอนนี้อยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้บางที ความสัมพันธ์หลังจากนี้อาจจะดีขึ้นมาอีกก็ได้นิสัยของฟู่จิ้นเชินคือมุ่งมั่นไปที่เป้าหมาย ไม่รีบไม่ร้อน แต่จะไม่ยอมแพ้ และจะคอยคว้าโอกาสทั้งหมดไว้ ก้าวไปยังจุดหมายทีละก้าวๆเหมือนกับตอนที่เขาพาภรรยา รู้ว่าห้ามตายเด็ดขาด จะถูกจับกลับไปไม่ได้ บนพื้นฐษนนี้ ใช้เวลาไปหลายปี แต่เขาก็ไม่ได้ล้มเลิกการตามหาความจริงเรื่องการวางยาในอดีตถ้าหากไม่ใช่มาเจอกับฟู่จาวหนิง อันที่จริงเขาก็ยังทนต่อไปได้ บางทีอาจจะถึงวันที่เขาพบกับความจริงวันนั้นฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนสำหรับตอนนี้ที่นางหันมามองตนเอง ต้องการความเห็นจากเขา ในใจเซียวหลันยวนจึงพอใจมากขึ้นมาเขากุมมือนางไว้ บอกกับนางว่า "ให้เขาไปด้วยก็ดี"เขามองออกแล้ว ฟู่จิ้นเชินนี้ไม่ธรรมดาเลย ฉลาดและตื่นตัว ใจเย็นเฉียบแหลมมีฟู่จิ้นเชินตามไปด้วย ในใจเซียวหลันยวนก็ค่อนข้างจะวางใจถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวตนฐานะเขาไปไหนมา
"สถานที่อย่างเมืองเจ้อค่อนข้างจะพิเศษ พื้นที่ใหญ่โต ประชาชนน้อย และการเดินทางก็สะดวกสบาย" ฟู่จิ้นเชินตอบ "ถ้าหากจะยัดผู้ประสบภัยเข้าไป อันที่จริงก็สามารถทำได้อยู่ ข้าเคยไปเมืองเจ้อในเมืองมีพื้นที่ว่างค่อนข้างกว้างขวางอยู่หลายแห่ง บางครั้งยังมีพวกพ่อค้าพเนจรจากที่ต่างๆ ไปทำตลาดนัดกันที่นั่นด้วย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนมองเขาอย่างเกินคาด"เมืองเจ้อท่านก็เคยไปมาหรือ?"ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวสบตากัน สองสามีภรรยายิ้มอย่างจำใจ"ถ้าจะให้พูด พวกเราไปมาหลายสถานที่เลย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนเองก็เข้าใจขึ้นมา สิบกว่าปีนี้พวกเขาล้วนต้องคอยหลบการไล่ล่าสังหารอยู่ภายนอก แล้วยังมีการไล่จับของจวนทางการอีก แต่ละสถานที่จึงไม่สามารถอยู่ได้นานนัก ดังนั้นพวกเขาจึงหนีไปแทบจะทุกที่"แต่ว่าทางนั้นนาจะขาดแคลนเรื่องวัตถุ ถึงอย่างไรต่อให้มีที่ว่างที่จะจัดวางผู้ประสบภัยเข้าไป นั่นก็ต้องสร้างกระโจมจัดแจงที่พัก ไม่เช่นนั้นวันที่อากาศหนาวเช่นนี้ ก็ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ประสบภัยต้องนอนด้านนอกทนหนาวทนหิวได้"ฟู่จิ้นเชินบอกกับฟู่จาวหนิงว่า "พรุ่งนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย"นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอ่ยถึงม
ดังนั้น จาวหนิงจะต้องไม่ยอมถูกชายหนุ่มคนอื่นดึงดูดแน่ เพราะไม่มีใครเทียบกับเขาได้แล้วระหว่างทาง อ๋องเจวี้ยนอารมณ์ดีมาก กระทั่งยังสามารถคุยกับฟู่จิ้นเชินเรื่องโป๋จีอย่างทัดเทียมกันด้วยรอจนมาถึงจวนอ๋อง พวกเขาก็หารือตัดสินใจออกมาได้แล้ว พรุ่งนี้จะส่งโป๋จียัดเข้าไปในขบวนของอันเหนียน พาเขาออกจากเมืองก่อน หลอกเขา ให้เขาคิดว่ารับปากว่าจะช่วยเขาออกไป รอให้ได้จดหมาย คนของเซียวหลันยวนก็จะคุมตัวเขากลับเมืองหลวง"พรุ่งนี้ข้าจะไปค้นตัวเขาเอง" เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิงคนอื่นล้วนค้นไม่เจอ เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะหาไม่พบ"แล้วนายพันเก๋อล่ะ?""ให้เขาเข้าวังไม่ได้พบกับจักรพรรดิไม่ได้ชั่วคราวก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมีแผนการ"ท่านคิดจะทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว เก๋อมู่กวงมีวรยุทธ์ ฟู่จิ้นเชินยังขังเขาไว้ในวังได้หรือ?"ข้ารู้ว่ามีคนหนึ่งที่พัวพันกับเก๋อมู่กวงอยู่ อ๋องเจวี้ยนส่งคนนั้นไปที่ห้องของเก๋อมู่กวงก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมองไปทางเซียวหลันยวน"เส้นสายของท่านนี่ทั้งเยอะทั้งซับซ้อนจริงๆ""ถึงอย่างไรข้าก็เป็นแค่ประชาชนธรรมดา มีเส้นสายแค่นี้ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงหรอก""ประชาชนธรรมดาไม่มีทางพาคน
ฟู่จิ้นเชินเองก็นับถือเซียวหลันยวน"คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะรู้มากขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงก็ตกใจ "ท่านพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้หรือ?"สำหรับความนับถือของฟู่จิ้นเชิน เซียวหลันยวนไม่สนใจ แต่น้ำเสียงตกใจของฟู่จาวหนิง ทำให้เขารู้สึกภูมิใจขึ้นมาหน่อยๆนางนั่งตัวตรงขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบพูดว่า "อืม ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่"พรวดฟู่จาวเฟยอยากจะขำขึ้นมาทำไมคำพูดพี่เขยถึงดูแปลกๆ?ตอนอยู่ว่างๆ ในบ้านกับท่านปู่กับน้าเซี่ยอันห่าวพกวเขาก็เคยพูดภาษาเฮ่อเหลียนออกมา เพราะพวกเขาอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆแต่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดไปไม่กี่คำก็ยังบอกว่าเรียนยาก สักคำเดียวก็เรียนกันออกมาไม่ได้ความสามารถการเรียนรู้ของพ่อเขาดีมาก แต่ก็ยอมรับว่านี่เรียนยากจริงๆพี่เขยกลับบอกว่าไม่ยาก แต่ว่า ที่โป๋จีพูดรวดเดียวอย่างรวดเร็วขนาดนั้น แล้วพี่เขยยังฟังออกได้ ก็อธิบายได้ว่าเขาเป็นมันทุกอย่างจริงๆ"เรียนมาตอนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงหรือ?" ฟู่จาวหนิงใช้สายตานับถือมองเขา กระพริบตาปริบๆอ๋องเจวี้ยนพอใจขึ้นมาทันที แล้วยังรู้สึกจิตใจหวานชื่นด้วย"ใช่แล้ว""เจ้าอารามสอนมาหรือ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "หรือว่าเ
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง