ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนยาให้เซียวหลันยวนครั้งนี้พอเห็นแผลเป็นบนหน้าเขาอีกครั้ง ฟู่จาวหนิงก็หัวเราะมีเสียงขึ้นมาแล้ว"เซียวหลันยวน ประสิทธิภาพยานั่นดีเอามากๆ เลย! แผลเป็นเล็กลงมามากแล้ว!"พอได้ยินความตื่นเต้นในน้ำเสียงนาง อารมณ์ของเซียวหลันยวนก็เบิกบานขึ้นมาเขามองออกถึงประกายที่เจิดจ้าในดวงตานาง"ใบหน้าข้าจะดีขึ้นได้หรือ?""ข้าคิดว่าได้!""เจ้าดีใจขนาดนี้เชียว?""แน่นอนสิ" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า ทายาให้เขาอย่างละเอียดพลางพูดขึ้นว่า "ถึงแม้ไม่ว่าหน้ของนานจะฟื้นฟูได้หรือไม่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับข้า แต่มันส่งผลกับท่านี่ ท่านเองก็ไม่ลองคิดถึงท่าทีก่อนหน้านี้ของท่านดูล่ะ"เซียวหลันยวนในตอนนั้นก็สุนัขเสียเหลือเกิน นางแค่คิดก็โมโหแล้วโชคดีที่เขาคิดออก ไม่เช่นนั้นถ้าเขายังทำตัวน่ารำคาญต่อไป พวกเขาคงได้แยกทางกันแน่นอนนางไม่รังเกียจใบหน้าเขา แต่ว่ารังเกียจท่าทีพังทลายของเขา ที่เอาแต่คิดจะผลักไสนางจะผลักไสก็ไม่ให้มันเด็ดขาด มาอิดๆ ออดๆ ทำเอาคนอึดอัดสายตาเซียวหลันยวนตกอยู่บนหน้านางตลอด "หลังจากนี้จะไม่มีอีกแล้ว"ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนเป็นเช่นไร เขาก็จะไม่ให้นางห่างกายอีก นางเป็นของเขา เขาไม่อ
เหอเซ๊่ยนอันตอนนี้จึงค่อยๆ ปล่อยมือเขายืนนิ่ง ไม่ล้มลงแล้วเหอเซี่ยนอันเงยหน้ามองฟู่จาวหนิง"ข้า ข้ายืนได้แล้ว?"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "ใช่แล้ว""ท่านพ่อ! ท่านแม่! พี่หญิงรอง!" เหอเซี่ยนอันตื่นเต้นดีใจร้องเรียกขึ้นมา "พวกท่านเห็นไหม? ข้ายืนได้แล้ว!""โฮ!"องค์หญิงใหญ่ร้องไห้ออกมาทันทีผิงเหอกงเองก็ตาชื้น ออกแรงพยักหน้า"่น้องชาย ขาของเจ้าดีแล้วจริงๆ!" คุณหนูรองเหอเองก็ตื่นเต้นยินดี กระโดดเหยงขึ้นมา"ลองเดินดูสักสองสามก้าว"ฟู่จาวหนิงบอกกับเหอเซี่ยนอันเหอเซี่ยนอันก็ค่อยๆ ขยับเดินอย่างระมัดระวังนอกจากจะมีอาการชาหน่อยๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก เขาเดินได้อีกครั้งแล้ว!"เจ้าไม่ได้เดินมานานมาก ต้องปรับตัวอีกหลายวัน ช่วงนี้ทุกวันก็ลุกออกมาเดินช้าๆด้วยล่ะ ค่อยๆ เพิ่มจำนวนก้าว พอปรับตัวได้ค่อยเพิ่มความเร็ว ไปทีละขั้นๆ""ขอรับ ข้าจะฟังท่าน!"เหอเซี่ยนอันทั้งร้องไห้ทั้งร้องตะโกน ขาของเขาไม่พิการแล้ว มันกลับมาดีแล้ว!รองผู้บัญชาการหลินกับนายท่านหลิวพอได้ยินข่าว ก็มาดูเหอเซี่ยนอันที่จวนผิงเหอกงด้วยเช่นกันพอเห็นว่าเขาเดินได้แล้วจริง พวกเขาก็ส่งของขวัญชิ้นใหญ่มาให้"พวกเขาต้องของคุณผิง
"ผิงเหอกงรู้ว่าไหมว่าหมอเทวดาฟู่อยู่กับใคร?""คุณชายสวมหน้ากากนั่นน่ะหรือ?"หลายวันนี้ เซียวหลันยวนจะมารับฟู่จาวหนิงอยู่ทุกวัน แต่ทุกวันก็สวมหน้ากาก เขาจึงไม่เคยเห็นใบหน้าจริงๆ ของอีกฝ่ายมาก่อนเลย แต่ก็รู้ว่าวรยุทธของเขาลึกล้ำมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังคอยปกป้องฟู่จาวหนิงด้วยพวกกเขาล้วนจูงมือกันตลอด นั่นแสดงว่าเป็นสามีของฟู่จาวหนิง"ไม่ได้หมายถึงเขา""แล้วหมายถึงใครล่ะ? พ่อครัวเลื่องชื่อตู้หรือ? นางเป็นหลานของผู้อาวุโสตู้ เรื่องนี้ข้ารู้""ไม่ใช่ผู้อาวุโสตู้ด้วย""แล้วท่านพูดถึงใครกันล่ะนั่น? พูดมาตรงๆ เลย! อย่าวกไปวนมา" ผิงเหอกงเหลืออดหน่อยๆ"เสิ่นเสวียน!"รองผู้บัญชาการหลินพูดออกมาตรงๆ"เสิ่นเสวียน นางเรียกว่าท่านลุง! แม้จะไม่รู้ว่าเป็นลุงหลานแท้ๆ หรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรก็มีความสัมพันธ์ระดับนี้อยู่ แล้วข้าก็ได้ยินข่าวเมืองหมานทางนั้นด้วย เมืองหมานทางนั้นมีเหมืองแร่หิน ช่วงนี้ได้ยินว่าส่งหินชุดหนึ่งออกไป เป็นภารกิจที่หนักหนามาก"ผิงเหอกงขมวดคิ้วรองผู้บัญชาการหลินพูดต่อ "ดังนั้น ทางนั้นก็จะส่งนักโทษไปยังเหมืองแร่หิน ให้พวกเขาขนย้ายก้อนหินแร่ ท่านก็รู้อยู่ ว่างานหนักขนาดนั้น ถ้า
"ไม่มี ไม่มีแล้วจริงๆ"นายท่านหลิวรีบโบกไม้โบกมือ "ข้าเองก็กลัวไหม? ดังนั้นทุกคนในบ้านจึงตรวจสอบกันอย่างละเอียด มีแค่คนนั้นล่ะที่มีปัญหา""เขาเป็นใครท่านตรวจสอบดีแล้วหรือยัง? เป้าหมายที่แฝงมาอยู่ในบ้านของท่านตรวจสอบแล้วหรือยัง?" ผิงเหอกงถามขึ้นอีก"ยังตรวจสอบไม่ได้ กำลังตรวจสอบต่ออยู่...""ท่านต้องระวังหน่อยนะ"ผิงเหอกงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่หลังจากวันนั้น เขาก็ตรวจสอบเข้มในบ้าน ตรวจกันจนแทบจะคว่ำบ้านเลยทีเดียวรองผู้บัญชาการหลินเองก็ด้วย ทุกคนกลัวกันหมดใครเองก็ไม่รู้ว่าสายลับทำไมจึงแฝงเข้ามาในบ้านตระกูลหลิว คิดจะทำอะไร ใครจะรู้ว่ายังมีคนจะแฝงเข้ามาในบ้านพวกเขาอีกไหม เฝ้ารอพริบตาที่จะพุ่งออกมาแล้วเอามีดแทงหลัง"ตอนนี้กลับมาเรื่องของบ้านตระกูลเสิ่นก่อน ท่าทีของฝ่าบาทคือคิดจะทรมารเสิ่นฉยง เรื่องนี้จะต้องไปอยู่กับลูกเขยคนโตของท่านแน่" รองผู้บัญชาการหลินมองผิงเหอกง "แต่ว่าตอนนี้หมอเทวดาฟู่กับมีความสัมพันธ์กับบ้านตระกูลเสิ่น ผิงเหอกง ท่านลองดูแล้วกันว่าจะทำอย่างไร"เรื่องนี้ พวกเขาเองก็อยากจะช่วยหมอเทวดาฟู่อยู่นายท่านหลินพยักหน้า "ถูกต้อง พวกเรายังไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนบุญคุณหมอเทวดาฟ
เสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนกำลังลงหมากกันฟู่จาวหนิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เวลานี้แล้ว พวกเขาสองคนยังมีเวลาว่างมานั่งเล่นหมากรุกอีกหรือ?"ท่านลุง ข้าคิดว่าพวกท่านจะยุ่งกันแทบจะไม่มีเวลากินข้าวเสียอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ไม่ขนาดนั้น" เสิ่นเสวียนยิ้มๆ"สองวันก่อนงานอวยพรใหญ่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ท่านปฏิเสธจักรพรรดิต้าชื่อไปเช่นนั้น ท่านไม่มีแผนรับมือภายหลังเลยหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเดิมทีงานอวยพรใหญ่เองนางก็อยากจะไปดู แต่มีคนไข้หนักอย่างหลินต๋ากับหลิวเกาไหลสองคนติดตัวอยู่ แล้วยังมีเหอเซี่ยนอันอีก นางไปไหนไม่ได้จริงๆ"กำลังรอแผนรับมือภายหลังของเขาอยู่น่ะ ก่อนหน้านั้นก็เหมือนจะพอมีเวลาให้หย่อนใจได้บ้าง" เสิ่นเสวียนตอนนี้ยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอยู่ "ถึงอย่างไรฝ่าบาทเองก็ต้องคิดให้ดี ว่าควรจะใช้วิธีการไหนกับตระกูลเสิ่นของพวกเรา"เซียวหลันยวนลุกขึ้นไปหยิบผ้าเปียกจากถังน้ำข้างๆ มาบิด แล้วเช็ดมือให้ฟู่จาวหนิงอย่างละเอียดละออหลายวันนี้หลังจากนางกลับมา เขาก็จะทำงานละเอียดเช่นนี้ให้เช็ดมือให้นาง เทน้ำให้นางฟู่จาวหนิงตอนแรกก็ไม่ค่อยชิน แต่ไม่กี่วันนางก็ชินเสียแล้ว ควา
ฟู่จาวหนิงคิดๆ "เข้านั้นข้าก็ต้องทำยาล้างปอดกับบรรเทาอาการเจ็บคอให้เขาหน่อย วัตถุดิบยาที่อาจารย์ให้มาก็ได้ใช้พอดีเลย""เจ้าไปสกัดยาเถอะ ข้าจะไปหยิบของว่างมาให้เจ้า""ดีเลย"เซียวหลันยวนเดินออกไป หลานหรงก็แวบตัวออกไปเช่นกัน"ท่านอ๋อ ท่านหูมาขอพบ""เขายังไม่ออกจากเมืองหลวงอีกหรือ?""ยังขอรับ""เขาอยู่ที่ไหน?""อยู่ที่หออันดับหนึ่ง" หลานหรงคิดๆ แล้วพูดว่า "ท่านหูเหมือนจะไปพบกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาแล้ว นอกจากนั้นยังหาตัวคนหนึ่งพบ และคนคนนั้นเป็นไปได้มากว่าอาจจะเป็นรุ่นหลังของนางกำนัลแคว้นตงฉิง"รุ่นหลังของนางกำนัลแคว้นตงฉิง?เซียวหลันยวนตกตะลึงไป"ให้เขาเปลี่ยนสถานที่"เปลี่ยนสถานที่?"ไม่ไปที่หออันดับหนึ่ง"เจ้าของหออันดับหนึ่งในเมื่อไม่จริงใจแล้ว เขาเองก็จะไม่ไปอีก"ขอรับ"เซียวหลันยวนหยิบของว่างเข้ามา ฟู่จาวหนิงยังกำลังสกัดยาอยู่เขาหยิบชิ้นหนึ่งส่งไปมุมปากนาง "อ้าปากสิ"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำสั่งก็ทำตาม อ้าปากขึ้นมากัดคำหนึ่ง "ขนมถั่วแดงหรือ? หวานจัง""ใส่น้ำตาลดอกกุ้ยลงไปด้วย พ่อครัวของสวนคะนึงนี้ไม่เลวเลย"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า การเคลื่อนไหวที่มือยังไม่หยุด นางกำลังฝา
เสิ่นเสวียนมองของที่ฟู่จาวหนิงส่งเข้ามา อดกุมหน้าผากไม่ได้"เตรียมไว้เยอะขนาดนี้เชียว?"สิ่งที่ฟู่จาวหนิงส่งเข้ามาเป็นห่อขนาดใหญ่ ด้านในใส่ยาเอาไว้เต็มพิกัด"ข้าเองก็ไม่รู้ว่าท่านลุงคนโตทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง แต่เตรียมตัวไว้ก็ไม่เสียหลาย ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสส่งของไปได้ แน่นนอนว่าต้องนำไปมากหน่อย"ฟู่จาวหนิงกระทั่งรู้สึกยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่ช่วงนี้นางยุ่งมาก คงจะสกัดยาได้มากกว่านี้เพื่อส่งไปแล้วแต่ว่าก่อนหน้านี้ไม่แน่ใจว่าผิงเหอกงจะยอมช่วยไหม"ลุงคนโตของเจ้าถ้าได้ของแล้วกลัวว่าจะมึนไปหมดนี่สิ""วัตถุดิบยาในนี้ข้าเขียนชื่อกับวิธีใช้พร้อมปริมาณไว้แล้ว ลุงคนโตพอเห็นก็น่าจะรู้ว่าใช้อย่างไร และยังมียาคุ้มครองหัวใจกับลูกกลอนล้างปอดด้วย สองอย่างนี้ไม่ว่าจะมีเรื่องหรือไม่มีเรื่องก็สามารถให้ท่านลุงคนโตกินก่อนได้เลย"แค่ยาคุ้มครองหัวใจ ถ้าออกมาจากมือของฟู่จาวหนิง ก็ถือว่ามูลค่าไม่ธรรมดาแล้วแล้วห่อยาใหญ่ขนาดนี้ อัดแน่นแบบนี้ ราคาแพงมหาศาลเลยทีเดียวเสิ่นเสวียนให้คนรับ "รอท่านลุงคนโตของเจ้ากลับมาก่อน จะต้องให้เขามาขอบคุณเจ้าดีดี"เรื่องอื่นไม่จำเป็นต้องพูดเยอะแล้วเสิ่นเสวียนให้ค
ฟู่จาวหนิงตามออกไปทันที นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อหนังสือของบ้านตระกูลเสิ่นมากเสิ่นเสวียนพานาเดินทะลุส่วนออกมา จนถึงเบื้องหน้าภูเขาจำลองลูกหนึ่ง ยื่นไปตบๆ เขาจำลองนั้นสองสามี จากนั้นก็ลงไปในบางจุดฟู่จาวหนิงเบิกตาโพลง หนังสือคงไม่ได้อยู่ในคลังใต้ดินหรอกใช่ไหม?ภูเขาจำลองเปิดออกไปซ้ายขวา เผยให้เห็นประตูลับบานหนึ่งบนประตูมีกลอนลงไว้ เสิ่นเสวียนหยิบตราหยกชิ้นหนึ่งออกมาใส่ลงไปประตูลับเปิดออก เสิ่นเสวียนก้มหน้าดินลงไปก่อนลึกลับขนาดนี้เชียวหรือ?ฟู่จาวหนิงตามเข้าไป ประตูกับภูเขาจำลองก็ปิดลงมาอีกครั้ง ด้านนอกมองไม่เห็นเลยว่าภูเขาจำลองนี้จะสามารถแยกออกซ้ายขวาได้เช่นนี้จางเดิมทีคิดว่าประตูลับจะตรงไปยังคลังลับใต้ดิน หนังสือคงอยู่ในคลังลับนั้น คิดไม่ถึงว่าพอเข้ามาจะเป็นอุโมงค์ยาว บนพื้นยังปูด้วยรางไม้ บนรางไม้มีรถไม้มีที่นั่งซ้ายขวาที่ทำขึ้นเป็นพิเศษอยู่คันหนึ่งแค่รถไม้นี้ก็ทำให้ฟู่จาวหนิงรู้สึกตกตะลึงได้แล้ว"ขึ้นมาสิ"เสิ่นเสวียนนั่งลงที่ด้านหนึ่ง ยื่นมือดึงฟู่จาวหนิงไปนั่งอีกด้านหนึ่ง"ท่านลุง สิ่งนี้เคลื่อนไหวได้ด้วยอะไรน่ะ?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกประหลาดใจ และแปลกใหม่มากนี่มัน
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ