Share

บทที่ 2

Author: Gukak
last update Last Updated: 2024-11-15 20:00:58

กว่าจะออกมาจากห้องไอ้ท่านประธานบ้านั่นได้เล่นเอาภูริเครียดไปเลยจริงๆ ช็อตแรกเปิดประตูมาก็เจอระเบียง ไอ้ส่วนนี้เขาเห็นมันตั้งแต่แอบแง้มประตูฟังแล้วล่ะ ตอนนั้นคิดว่านี่เป็นบ้านสองชั้นทั่วๆ ไป ตกแต่งหรูหน่อยเพราะมีเงินไง ที่ไหนได้...มันไม่ใช่บ้าน

มันเป็นคอนโด...ใช่ มันเป็นคอนโดที่มีสองชั้น? เกิดมาเพิ่งเจอ ทำไมต้องคอนโดสองชั้น ทำไมไม่ซื้อบ้านสองชั้นแทน  ภูริปวดหัวตึบๆ แทบจะเอายาเม็ดหลายสิบแผงนั้นประคบหัวตัวเองเผื่อมันจะดีขึ้น

กว่าจะหาลิฟต์เจอ กว่าจะเดินออกมาจนถึงหน้าปากซอยโดยที่ไม่รู้ว่าเขามีรถเอาไว้รับส่ง กว่าจะโบกแท็กซี่ได้...โบกกี่คันแม่งบอกส่งรถ เติมแก๊สตลอด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาพี่แท็กซี่ใจดีสักคันมารับผู้โดยสารไปส่งบ้าน แล้วถ้ารู้ว่าตรงที่ยืนอยู่นี่คือที่ไหนเขาก็ไม่โบกแท็กซี่หรอก ประเด็นคือภูริไม่รู้ว่าเขากำลังอยู่ที่ไหนแล้วจะนั่งรถสายอะไรถึงบ้านได้

ในความเอ๋อมีความเอ๋อ เลยมาจากที่รอรถแท็กซี่เมื่อครู่นี้แค่ไม่เกินหนึ่งกิโลก็เจอกับสถานนีรถไฟฟ้า ภูริอยากจะร้องไห้ หยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมาดูยิ่งชอกช้ำระกำใจเข้าไปใหญ่ นี่ต้นเดือน...เขาเหลือเงินติดตัวไว้ใช้แค่สองพัน และหนึ่งในสองพันนั้นยังต้องเอามาจ่ายค่าแท็กซี่ที่มิตเตอร์ขึ้นไวแปลกๆ อีก

ภูริเลือกลงหน้าซอยหมู่บ้าน ตอนนี้เขาหิวนิดๆ และคิดว่าถ้าให้แท็กซี่ต่ออีกหน่อยเงินเขาอาจจะหายไปอีกเป็นร้อยได้ ซอยบ้านภูริไม่ลึกมาก เดินตรงไปราวห้าร้อยเมตรก็ถึงทางเข้าหมู่บ้าน ระหว่างทางก็มีร้านขายของกินตั้งเรียงๆ กันอยู่ กินพื้นทางเท้าสำหรับคนเดินไปเกินครึ่ง แต่ไม่เป็นไร...มันก็สะดวกดีถ้าคิดอีกแง่ว่าคนในหมู่สามารถออกมาหากินแถวนี้ได้ง่ายๆ

ค่ารถสองร้อยแปดสิบ จริงๆ มีเศษห้าบาทแต่พี่แท็กซี่ไม่ทอนให้ ภูริไม่อยากแตกแบงค์ร้อยอีกเขาก็เลยแวะซื้อแค่ลูกชิ้นด้วยเศษยี่สิบบาทนั้น แล้วไอ้ลูกชิ้นก็ช่างแพง...ไม้ละห้าบาทมีลูกชิ้นแค่สี่ลูก เอาวะ อย่างน้อยก็ดีกว่าสามลูกล่ะจริงไหม

ลูกชิ้นสี่ไม้กับเศษผักฉลาดน้อยในถุงถือว่าเป็นของรองท้องที่ไม่เลวร้ายนักในยามนี้ ภูริเดินทางต่อไปเรื่อยๆ กินลูกชิ้นทีละลูกอย่างใจเย็น เคี้ยวช้าๆ จะได้อิ่มเร็วหน่อย แล้วยัดผักเข้าปากเยอะๆ ที่จริงกะหล่ำนี่ภูริไม่ชอบตรงก้านมันเท่าไหร่ ตอนนี้หิว ไม่ชอบก็กินได้

แต่แล้ว...ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น!

“หงิงๆ...” ไอ้หมาผู้ไม่รู้จักทำมาหากินกำลังเดินตามหลังเขาพลางส่งเสียงร้องขอความเมตา ซึ่งก็คือลูกชิ้นที่อยู่ในมือภูรินั่นเอง เขาเหลือบสายตาไปมอง...มองแบบเหยียดเต็มที่อีกด้วย

“อยากกินรึไง” หมาตอบได้ก็บอกว่าใช่น่ะเซ่ หิวจะแย่ส่งมาให้ข้าสักไม้หนึ่ง ในใจหมานั้นช่างเกรี้ยวกราดและดุดันราวกับมาเฟีย แต่สิ่งที่แสดงออกนั้นคือการเอียงคอนิดๆ แล้วทำตาหวานๆ ส่งเสียงอ้อนๆ

“หงิงงงงง” มนุษย์ต้องตายด้วยท่าพิฆาตนี้อย่างแน่นอน แต่ว่า...ไม่ใช่มนุษย์ที่ชื่อภูริแน่ๆ

“ฝันไปเหอะ กูไม่ให้มึงหรอก...” มียักคิ้วใส่หมาด้วย คิดว่าเท่มาก เท่จนสาวๆ ต้องร้องขอชีวิต เสียแค่ตรงนี้ไม่มีสาวที่ไหนจะมาร้องกรี๊ดกร๊าดใส่

“หงิง หงิงงงง” เจ้าหมามากเล่ยังไม่ยอมถอยง่ายๆ บางทีมนุษย์คนนี้อาจจะเป็นพวกซึนเดเระ ปากไม่ตรงกับใจ ข้างในคงอยากจะเอาเจ้าลูกชิ้นกลมอ้วนน่ากินนั้นมาป้อนถึงปากอยู่แล้ว

“ไม่!” ภูริเหลือกตาใส่เจ้าหมาข้างถนน ท่าทางอย่างกับนายผู้สูงศักดิ์มองต่ำมาที่ปุถุชนธรรมดา จากนั้นสาวเท้าเร็วๆ หนีเจ้าหมานั่นไปยังทางเข้าของหมู่บ้าน

อาจจะเพราะเผลอตัวไป เสียงเถียงกับหมาจึงดังไปถึงป้อมยาม รปภ.ชะโงกหน้าออกมามองชายหนุ่มพนักงานออฟฟิตเชิดหน้าใส่หมาตัวผอมแห้งกะร่องก่อง เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดี ก็เป็นคนในหมู่บ้าน เห็นกันทุกวัน แล้วสิ่งหนึ่งที่เขาเห็นก็คือ...ผู้ชายคนนี้มักเถียงกับหมาเรื่องของกินบ่อยๆ ทำเชิดใส่ ทำหยิ่งใส่ แต่ก็เหมือนทุกครั้ง...เดี๋ยวเขาก็เอาลูกชิ้นแบ่งให้หมากินอยู่ดี

นั่นไง...เดินวนกลับไปเอาลูกชิ้นให้หมาแล้ว

“ไม่เคยใจแข็งตลอดรอดฝั่งเลยนะครับ” ลุงยามส่งเสียงเย้าแหย่

“ไม่เอาความจริงมาพูดเล่นสิลุง” ภูริยิ้มบางๆ เขาส่งลูกชิ้นให้หมาตัวนี้อีกหนึ่งไม้แล้วถึงเดินจากไป

บ้านของภูริเป็นเพียงทาวด์เฮ้าส์ธรรมดา ขนาดสิบเจ็ดตารางวา มีสองชั้น สามห้องนอนสองห้องน้ำ หลังที่ภูริอาศัยอยู่ซอยสุดท้าย เดินไกลแต่สงบดี มือหนึ่งถือถุงลูกชิ้นเปล่าเหลือแค่ไม้เสียบ อีกมือถือถุงยาระงับฟีโรโมน

ตลอดทางเขาครุ่นคิดหนักมาก เขาเป็นเบต้า...แล้วทำไมต้องกิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเขาจำได้อยู่ จำได้แม่นเลยล่ะ แต่ภูริก็หลอกตัวเองว่าไม่หรอก...มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น ภูริพยายามจะทำให้ความทรงจำอันชัดเจนนั้นพล่าเลือนด้วยการใส่ฟิวเตอร์ให้มันฟุ้งๆ เบลอๆ เป็นสีเทาเจือจาง...

ได้ผลไหม...ได้ก็ดีดิ!

ความคิดบ้าบอหมดไปเมื่อเดินมาถึงบ้านตัวเอง แม่นั่งอยู่ห้องโถงชั้นล่าง น้องสาวนั่งข้างๆ เขาไม่แปลกใจเพราะนี่เย็นมากแล้วและน้องสาวก็คงเลิกเรียนนานแล้วด้วย บ้านนี้มีภูริทำงานอยู่คนเดียว น้องสาววัยสิบแปดกำลังเรียน ปวส.คอมพ์พิวเตอร์ธุรกิจปีหนึ่ง เธอชื่อว่า ‘ภูฟ้า’ เป็นคนตั้งคำถามกับเขาว่าเขาอยากให้ชีวิตรักของเขาเปิดตัวแบบไหน น้องเป็นหนอนหนังสือน่ะ...ชอบอ่านนิยายตามเว็บไซต์ เขาตอบไปแล้วว่ายังไงก็ได้ ขอแค่ไม่เปิดมาเจอสุดที่รักในอนาคตกำลังฆ่าหั่นศพสามีเก่าของเธอก็พอ

เขากับน้องสาวอายุห่างกันเจ็ดปี เพราะน้องสาวเขานี่เป็นลูกหลง...เคยคิดว่าแม่ไม่น่าพลาดท้องเลยให้ตาย การมีน้องสาวมันปวดหัวนะจะบอกให้ แล้วพ่อพอมีน้องได้ไม่ถึงสองขวบก็มาเลิกรากับแม่ไป แม่ของภูริอายุเข้าเลขสี่มาเกินครึ่งทาง เธอรับจ้างสักรีดเสื้อผ้าของคนในหมู่บ้านนี่แหละ เงินที่ได้ไม่เยอะนัก พอเป็นค่าอาหารของแม่และน้องสาวอยู่ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นก็...ภูริไง

“พี่ภู!” คุณน้องที่น่ารักตรงเข้ามาต้อนรับเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เธอสูงแค่อกของเขา

“หายไปไหนมา เมื่อคืนไม่กลับบ้านทำไมไม่บอก...แม่กับน้องรอกินข้าวเนี่ยไม่รู้หรือไง” สกิวการบ่นมาแล้ว แต่ว่า...เขาหายไปทั้งคืนเลยเหรอ?

“เอ่อ...ผมไปนอนบ้านเพื่อนมา”

“ไปนอนจนลืมเอาของกลับมาด้วยเหรอ ทำอะไรไม่รู้จักระมัดระวังเลย อายุไม่ใช้น้อยๆ แล้วนะแกน่ะ” อย่าว่าลืมเลย...ของอยู่ไหนดีกว่า ตอนไปที่ลิฟต์ภูริไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปด้วย ข้าวของต่างๆ ของเขาน่าจะยังอยู่ที่โต๊ะทำงาน แล้วเขาก็ไม่ได้กลับเข้างาน หายอีกตั้งหนึ่งคืน...

มันดุเดือดมากจนสลบยาวเลยอ๋อวะ?

“โทษทีครับ”

“พี่ภูกินไรยัง”

“มีแต่มาม่า” ทันทีที่น้องสาวถามจบ คนเป็นแม่ก็สวนขึ้นมา

“โหยแม่ ไข่กับปลากระป๋องก็ยังมี ต้มมาม่าใส่ไข่กับปลากระป๋องกินกัน”

“ไม่ได้ มันเปลือง...จะใส่ก็แค่ไข่พอแล้ว” แม่ว่ากลับมาอีก

“เอ่อไม่เป็นไร พี่กินมาแล้ว...ฟ้ากับแม่อะกินไรยัง” ภูริเดินโอบเอวน้องสาวเข้าบ้าน เธอนั่งลงข้างแม่และภูริตรงไปเอาน้ำมาดื่ม

“กินแล้วพี่ กินข้าวไข่เจียวน่ะ” น้องสาวตอบเสียงใส

“ก็ไม่รู้ว่าแกจะกลับบ้านไหม ติดต่อก็ไม่ได้ แม่เลยไม่ทำเผื่อ แล้วนั่นมันถุงอะไร...ยาเหรอ?” ภูริรีบเอามันหลบ

“ไม่มีไรแม่ ผมไปอาบน้ำก่อนนะ” ว่าจบก็เดินขึ้นชั้นสองไปยังห้องของตัวเอง

ห้องภูริติดกับห้องน้ำ เดินขึ้นมาชั้นสองปุ้บเจอประตูตัวเองตรงกับหัวบันไดพอดี แม่บอกว่าเธอจะไม่ยอมอยู่ห้องที่ตรงกับบันไดเพราะมันจะเป็นห้องของผี น้องได้ฟังก็กลัวไปด้วย เขาซึ่งเป็นผู้ชายคนเดียวจึงต้องมานอนห้องนี้...แต่ผู้ชายก็กลัวผีนะเว้ยเนี่ย!

มันไม่สำคัญแล้วว่าห้องนี้จะมีผีไหม เขาเองก็อยู่ที่นี่มานาน ถ้าจะมีคงเจอไปหลายรอบแล้ว เจ้าตัวไม่อาบน้ำอย่างที่พูดกับแม่ ตรงไปทิ้งร่างลงบนเตียง อย่าคิดถึงการปล่อยร่างกายให้ร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงโลกดังซึ่ม! นะ ไม่ใช่ๆ เตียงแข็งขนาดนี้ทิ้งไปหลังหักพอดีดิ มันต้องค่อยๆ นั่งก่อน แล้วถึงเอนตัวนอนหนุนหมอนที่ถึงจะสีซีดแล้วแต่ก็สะอาดสะอ้าน

ถุงยาถูกวางไว้ข้างตัว เขาหยิบมันออกมาทีละแผง ยาหนึ่งแผงมีทั้งหมดสิบเม็ด ท่านประธานนั่นให้เขามาสิบแผงได้...ร้อยเม็ดเลยเหรอ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองกลายเป็นโอเมก้าอะ มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ นะ...โลกเราไม่เคยระบุถึงการเปลี่ยนแปลงอันน่าฉงนนี้ขึ้นมาเลย

หรือเคยมีวะ?

บ้าหน่า มันจะไปมีได้ยังไง คนเปลี่ยนกรุ๊ปเลือดตัวเองยังไม่ได้เลย การเป็นอัลฟ่า เบต้าหรือโอเมก้ามันก็เปลี่ยนไม่ได้เช่นกันดิ หรือเขาไม่ตั้งใจเรียนเลยพลาดวิชาอะไรสักวิชาที่สำคัญไปนะ? ช่างแม่งเหอะ...ยังไงก็ไม่ใช่โอเมก้า ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่

ภูริเริ่มเกิดอาการสะกดจิตตัวเอง เขาเคยดูหนังผีของไทยเรื่องหนึ่งที่คนเป็นแม่มันไปเรียนวิชาสะกดจิตมา สามารถสะกดจิตให้กระดาษกลายเป็นมีดฆ่าคนได้ สะกดจิตให้ลูกที่ตายมีชีวิตขึ้นมาได้ งั้น...ถ้าเขาสะกดจิตตัวเองว่าเขาเป็นเบต้า ไม่ได้กลายร่างเป็นโอเมก้า เขาก็จะเป็นเบต้าเหมือนเคย น่อว...ความคิดนี้ช่างบรรเจิด!

ทว่าร่างกายกลับทรยศเขา...

ด้วยความที่เพิ่งกลายเป็นโอเมก้า ทำให้อาการฮีตครั้งแรกนั้นเกิดขึ้น ภูริไม่รู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก เขาเป็นเบต้ามาตลอดจึงไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับโอเมก้านัก คิ้วได้รูปเริ่มขมวด หัวใจเต้นแรง...และภาพของท่านประธานนั่นก็วิ่งพล่านอยู่ในหัวเขา

ไม่ใช่แค่ภาพ...แม่งมาทั้งความต้องการเลยล่ะ!

ทรมานสุดในชีวิตลูกผู้ชายคือแม่มาเคาะห้องตอนกำลังชักวู้ อีกนิดเดียว...สไลด์สักสองทีก็จะน้ำพุ่ง แต่เสียงเคาะนั้นมันดังขึ้น เขาตกใจรีบหยุดทุกการกระทำ นั่นในวัยสิบสอง หลังจากนั้นไม่เคยอยากกระหายค้างคานานๆ อีก จนมานี่อะ...ยี่สิบห้า

กลิ่นฟีโรโมนเฉพาะตัวฟุ้งกระจายออกมาตามรูขุมขน ผิวหนังหรือแทบจะทุกสัดส่วนในร่างกายของภูริ อุณภูมิเขาสูงขึ้น...หน้าแดงมีเลือดฝาดดูน่าขยี้ขย้ำ หากเหล่าอัลฟ่าได้กลิ่นนี้คงกรูเข้ามาในห้องและมัวเมาอยู่กับฟีโรโมนของเขาแน่ ดีที่แม่และน้องสาวเป็นเพียงเบต้า และเหล่าเบต้านั้นมีประสาทการรับรู้ฟีโรโมนได้น้อยมากถึงแทบไม่มีเลยก็ว่าได้

อะไรก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้กำลังตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเอง ภูริไม่อยากจะเชื่อว่าเขากลายเป็นโอเมก้า...แต่ถ้าไม่เป็นโอเมก้าเขาจะฮีตขึ้นมาเหรอ ฮีตไม่พอ ยังไปนึกถึงหน้าประธานนั่นอีก...ในหัวเขามีภาพเรือนกายของท่านประธาน ได้กลิ่นตัว...กลิ่นเหงื่อ จังหวะการกอดรัด ลมหายใจกระชั้นชิดที่แสนจะหยาบโลนและเร้าอารมณ์

เขาเกือบเอื้อมมือไปกุมน้องชายตนเองเพื่อลงโทษที่มันโด่เด่ในเวลาแบบนี้ แต่มืออีกข้างมันเสือกกำลังแผงยาเสียงก่อน...คือแค่คิดว่าจะจับนั่นก็เสียวแล้ว แผงยาคมๆ ทำให้เขารู้สึกมีสติขึ้นมาเล็กน้อย ภูริรีบแกะมันออกมาหนึ่งเม็ด โยนเข้าปากแล้วกลืนทั้งที่มันฝืดคอไปหมด

ว่าแต่...คำเตือนมันเขียนไว้ไงนะ?

ก่อนจะไปคิดถึงตรงนั้น ยาแม่งติดคอ! เกือบหล่อแล้วเมื่อกี้นี้ กลืนยาเท่ๆ เสียหน่อย ปรากฏว่าคาคอไม่ลงกระเพาะก็เลยต้องตะเกียกตะกายไปที่ห้องน้ำ เปิดก๊อกเอาปากรองน้ำประปาแล้วรีบกลับเข้าห้องตัวเองให้ไวที่สุด กลัวฟีโรโมนพวกนี้จะฟุ้งออกไปด้านนอก

ภูริทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง ไม่แผ่วเบาเหมือนครั้งแรก ความอยากทำให้การควบคุมร่างกายของตัวเองนั้นเป็นไปได้ยาก อารมณ์เหมือนเมาทั้งที่ไม่ได้กินเหล้าอะไรเลย เขาก็เลยรู้สึกเจ็บเมื่อร่างกระแทกไปกับเตียง ซ้ำร้ายโดนแผงยาจำนวณมากตำหลังไปหมดอีก โคตรซวย...นี่มันซวยขั้นเทพชัดๆ

“เป็นจริงๆ เหรอวะเนี่ย...” ภูริเอาผ้าห่มขึ้นมาห่อตัวเองเอาไว้ พัดลมถูกเปิดไว้ที่เบอร์สาม แต่มันช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอก เขากลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าเขาฮีต ผ้าห่มห่อตัวแบบนี้อาจจะระงับกลิ่นฟีโรโมนได้บ้าง

แต่ระงับความอยากไม่ได้นะจ๊ะ!

ร่างโปร่งเริ่มกอดตัวเองด้วยความทรมาน เพิ่งรู้ก็วันนี้นี่แหละว่าพวกโอเมก้าต้องทรมานกับอาการฮีตขนาดไหน เขาอยากจะหยิบเอายามาอ่านคำเตือน อ่านฉลาก อ่านอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองรู้เรื่องยาตัวนี้มากกว่ามันเป็นยาระงับฟีโรโมน ดวงตาเริ่มพล่า มีหยาดน้ำคลอ...ไม่ใช่ว่าเศร้าจนอยากจะร้องไห้อะไร มันทรมานและมันก็อยากมาก...พวกโอเมก้าจัดการกับเรื่องพวกนี้ยังไง ต่อสู้กับความต้องการในรูปแบบไหน...คงไม่ใช่วิ่งโล่ไปหาใครมาผสมพันธุ์หรอกใช่ไหมนะ?

ให้ตายเถอะ...เมื่อไหร่ยาจะออกฤทธิ์!

ยาระงับฟีโรโมนบวกอาการฮีตที่เขาได้รับมาเป็นยาเกรดดี สามารถระงับอาการฮีตและฟีโรโมนได้ถึงแปดชั่วโมง ออกฤทธิ์เร็ว ไร้ผลข้างเคียง ในขณะที่ยาส่วนใหญ่ตามท้องตลาดมักออกฤทธิ์ช้า ควบคุมได้ในระยะเวลาสั้นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นสี่ถึงหกชั่วโมง และมีผลข้างเคียงแล้วแต่ตัวบุคคล เช่นเวียนหัว อาเจียน อ่อนเพลียหรือเซื่องซึม

ภาพของท่านประธานและฉากเนื้อแนบเนื้อหายไป ความกระหายลดน้อยลงจนภูริสามารถผ่อนลมหายใจให้ช้าลงและสูดลึกเข้าเต็มปอด เขาถีบผ้าห่มออก เหงื่อของเขาชุ่มโชกจนเสื้อเชิ้ดเปียกปอน เขาคงต้องอาบน้ำอีกครั้ง...เจ้าตัวนอนมองเพดานสีครีมตัวเอง

การสะกดจิตไม่ได้ผล…อุตส่าห์สะกดจิตตัวเองตั้งหลายนาทีแหนะ น่าเศร้าเป็นบ้า นี่เขาจะกลายเป็นโอเมก้าจริงๆ เหรอ แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อไปแบบไหน...แบบที่ต้องพึ่งยาระงับฟีโรโมนและอาการฮีตตัวเองไปตลอดขีวิตหลังจากนี้อะนะ

โห...ทุกวันนี้ก็ลำบากจะตายอยู่แล้ว

การที่บ้านเขาเป็นภูมิแพ้นี่ก็แย่แล้ว ไหนจะกรรมพันธุ์ที่ดื้อต่อตัวยาอีก ทำไมแม่งไม่ดื้อต่อภูมิแพ้มั้งวะ...สู้ไม่เคยชนะเลยให้ตายดิ แต่ก็นั่นแหละ ความป่วยทางกรรมพันธุ์นี้สร้างปัญหาเรื่องการเงินให้เขาเอาการ ถ้าเขาต้องกลายเป็นโอเมก้า...เขาก็ต้องพึ่งยาพวกนี้ ต้องซื้อมันมากิน ค่าใช้จ่ายในบ้านก็จะเพิ่มขึ้น

สมองรันตัวเลขคร่าวๆ ขึ้นมา จากการทำงานอยู่ฝ่ายขายยาทำให้เขาพอจะนึกราคายาระงับฟีโรโมนได้บ้าง และตัวที่ท่านประธานนำมาให้เขานี่ก็เป็นตัวที่ดีระดับหนึ่ง ราคาเอาการไม่ใช่น้อย พวกมีเงินหรือมีอันจะกินเขามักซื้อมาใช้กัน ถ้าระดับภูริ...หมดถุงนี้เขาก็คงซื้อได้แค่ยาราคาเบาๆ ตามร้านขายยาทั่วไป

แต่มันจะกินได้นานเท่าไหร่กัน...

ยาที่เคยกินส่วนใหญ่แทบไม่มีผลต่อเขาแล้ว เป็นหวัดบางทีก็ต้องปล่อยให้หายเองเพราะกินยาไปมันก็ช่วยอะไรเขาแทบจะไม่ได้เลย เขาเชื่อว่ายาระงับตัวนี้จะมีผลต่อตัวเขาได้ไม่นานนัก...

หายนะมาเยือนกูแล้วไง!

คิดไปคิดมาก็ปวดหัว ไม่ต้องไล่ให้ไปหายาแก้ปวดหัวมากินนะ ไอ้ยาสามัญประจำบ้านนี่มันก็แค่ของประดับที่กินจริงๆ ไม่เคยได้ผลอะไรเลย บางทีภูริก็คิดว่ามันอาจจะเป็นยาหลอกก็เป็นไปได้ ก็ถ้ายาจริงมันต้องช่วยอะไรเขาได้บ้างดิ...

นอกจากกลายเป็นโอเมก้าโดยไม่ได้ตั้งใจและไม่อยากจะให้เป็น เขายังมานั่งนึกถึงหน้าประธานตอนฮีตอีก หน้าว่าแย่แล้ว...นึกออกยันสัมผัส นึกออกยันลมหายใจ นึกออกแม่งยันจังหวะการกระแทกเลยให้ตาย

เหล่าโอเมก้ากับอัลฟ่าจะมีคู่แท้ มันเป็นไปได้ยากมากที่หนึ่งชีวิตของพวกเขาจะมาบรรจบเจอกัน ว่ากันว่าหนึ่งในแสนคนเห็นจะได้ นี่เขาคงไม่โชคร้ายซ้ำซ้อนถึงขั้นที่ว่าคู่แท้ของเขาเป็นท่านประธานอะไรนั่นหรอกนะ แบบนั้นมันแย่มากเลยนะเว้ย เขาดูรังเกียจโอเมก้าอะ…ดูแบบไม่อยากจะสุงสิงด้วย แล้วก็ยังชอบมองเหยียดชนชั้นที่ต่ำกว่า

ก็รู้ว่าพวกชั้นสูงนี่มันก็จะหัวสูงหน่อยๆ มองอะไรมองข้างบนไม่มองข้างล่าง เขาเจอฤทธิ์อัลฟ่ามาเยอะ แผนกเขานี่อัลฟ่าเป็นส่วนใหญ่ และพวกนั้นก็มักรังแกเขาที่เป็นเบต้าแต่ทำงานได้ดีกว่าพวกอัลฟ่า

ว่าง่ายๆ แม่งอิจฉา...

ภูริตัดสินใจทิ้งเรื่องหนักสมอง ลุกขึ้นมาถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำอาบท่าอีกหนหนึ่ง ห้องเขาร้อน มีแค่พัดลม นอนตัวเหนียวๆ แบบนี้ใครมันจะไปหลับลง จะว่าไปใกล้เข้าหน้าร้อนแล้วนี่หว่า...โหย ฤดูแห่งความตายชัดๆ แค่นอนก็ตายได้ ร้อนตายอะ!

ถึงภูริจะบอกตัวเองว่าเลิกคิดเถอะเรื่องปวดหัวพรรค์นั้นน่ะ คิดไปก็เท่านั้น แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี แต่เขาก็สลัดมันออกจากหัวเขาไม่ได้ นี่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่ใช่การโยกย้ายตำแหน่งจากพนักงานขายไปเป็นพนักงานเดินเอกสารนะที่จะทำใจได้ง่ายดายขนาดนั้น ชั่วนาทีหนึ่งเขาก็เกิดนอยขึ้นมา…ชีวิตมันเศร้าของเหล้าสักขวด

เออ…ไปเมาสักทีให้หายเครียดดีไหม?

ไม่ดี…ไม่ใช่คนดีแต่เงินไม่พอ!

เศร้าซ้ำซ้อนไปอีกชีวิต เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ นุ้งผ้าขนหนูผืนประจำก่อนจะแต่งตัวด้วยกางเกงบอลและเสื้อยืดธรรมดาในห้อง เขากะว่าจะลงไปนั่งเล่นกับน้องสาว แต่ถ้าไม่เก็บข้าวของให้เรียบร้อยเขาก็ยังลงไปไหนไม่ได้ ทั้งยาระงับอาการ ทั้งเสื้อผ้าตัวเอง

ชีวิตพนักงานเงินเดือนอย่างเขาไม่มีอะไรมาก กินลูกชิ้นแล้วโกหกว่าอิ่มกินข้าวมา นั่งดูละครกับน้องและแม่ด้วยความสนุกสนานทั้งที่ในใจด่าไอ้พระเอกหน้าโง่นั่นปาวๆ มันดูโง่จริงๆ นะ นางเอกแกล้งตัวเป็นผู้ชายเสือกจับไม่ได้ นี่นางเอกนมเล็กหรือพระเอกพิการทางสายตา นอกจากนี้ยังตามเทียวมาวนเวียนรอบตัวนางเอกในชุดผู้ชายราวกับว่างงาน กว่าละครอันไร้ประโยชน์นอกจากสร้างความบาดหมางจะผ่านพ้นไปได้ก็ล่อมาสี่ทุ่มกว่า เดี๋ยวมีข่าวจากนั้นมีรายการอะไรสักอย่าง…

ภูริตั้งใจจะดูรายการตอนดึกนั้นต่อ น้องสาวก้มหน้าอ่านนิยายในมือถือระหว่างรอข่าวจบลง ส่วนแม่นั้นตั้งใจดูข่าวใจจดใจจ่อทั้งยังบ่นพึมพำอะไรมากมายก็ไม่รู้ เขาชินแล้ว นี่เป็นครอบครัวเขา อยู่ด้วยกันทุกวัน…เป็นแบบนี้ทุกวัน

แต่ที่ไม่เหมือนทุกวันคือ…เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังฮีตอีกแล้ว!

เพิ่งกินยาไปเมื่อสี่ชั่วโมงก่อนเองนะเว้ย!!!

.

.

.

Related chapters

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 3

    แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา เป็นการเปลี่ยนแปลงที่โคตรยากจะทำใจยอมรับและมีผลต่อสภาพจิตใจประมาณหนึ่ง แต่ชีวิตต้องดำเนินโดยมีเงินเป็นปัจจัยหลัก เพราะงั้นภูริก็ต้องไปทำงาน...หลังกินมื้อเช้ากับแม่และน้อง ภูริเดินเท้าออกมาขึ้นรถไฟฟ้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก ส่วนน้องสาวเขานั่งวินมอเตอร์ไซก์ไปเรียน มันใกล้กว่าเลยไม่ต้องกลัวรถติด เขาดิ...อยากนั่งรถเมล์เหมือนกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ทว่ารถในเมืองกรุงแม่งติดยิ่งกว่าอะไรดี รถไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกที่ไม่เลวร้ายนักถ้าไม่นับว่าคนช่วงเวลานี้โคตรจะเยอะเลยให้ตาย เข้าไปเบียดเสียดจนเกือบได้เมียมาหลายรอบและแน่นอนว่าก่อนเขาจะออกมาจากบ้าน เขาได้มีการกรอกยาเข้าปากไปเป็นที่เรียบร้อย มันจะกลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของเขาหลังจากนี้ ภูริไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนเป็นโอเมก้าของตัวเองจะส่งผลอย่างไรบ้างในอนาถคต เขาคิดไปหลายทางมาก แต่มันเป็นแค่การคิดไปก่อน ต้องเจอจริงๆ ถึงรู้ว่าจะจัดการอย่างไรลงรถไฟฟ้าแล้วเดินต่ออีกห้านาทีจะถึงบริษัท ก่อนจะเดินเข้าที่ทำงานขนาดใหญ่ ภูริแวะซื้อน้ำจากร้านริมทาง ใกล้ๆ กันจะเ

    Last Updated : 2024-11-16
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 4

    เขาเกลียดโอเมก้า!ครั้งแรกที่อีธานรู้จักกับโอเมก้าคือตอนอายุสิบสาม ลูกพี่ลูกน้องของเขาได้พาเขาไปเที่ยวที่ที่หนึ่ง ที่นั่นเขาบอกว่ามันเป็นสวรรค์ของเหล่าอัลฟ่าชั้นสูงเลยก็ว่าได้ อีธานเป็นเด็กวัยรุ่นที่อยากรู้อยากเห็น อยากลองไปหมดทุกสิ่งอย่างเขาถูกเลี้ยงมาท่ามกลางวงล้อมของอัลฟ่า แม่บ้านทุกคน คนใช้ทุกคนเป็นอัลฟ่าหมด โรงเรียนที่เขาเรียนก็เป็นโรงเรียนเฉพาะที่รับแต่พวกตระกูลดังๆ อัลฟ่าเลือดเข้มข้นเท่านั้นจึงจะสามารถเรียนที่นี่ได้ เป็นสังคมชั้นสูง...ที่สูงจนคนธรรมดาไม่อาจเข้าใจดังนั้นอีธานไม่เคยเจอโอเมก้าตัวเป็นๆ มาก่อน ไอ้แค่ออกข่าว ออกทีวี หนังละครอะไรพวกนี้มันค่อนข้างห่างตัวเขาพอสมควร เมื่อลูกพี่ลูกน้องพาไปเขาเลยคาดหวังที่จะเห็นอะไรที่สวยงาม เวลาเขาเห็นโอเมก้าในทีวี พวกนี้จะมีเสน่ห์มาก ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ตามทว่าสิ่งที่อีธานได้เจอ...มันผิดกับที่เขาคาดหวัง“นี่แหละตัวตนของโอเมก้า” พี่คนนั้นผายมือให้อีธานได้เห็น ตอนนั้นอยู่ชั้นสอง...มองไปข้างล่างเจอแต่โอเมก้ากำลังปรนเปรอผู้ชาย ในคนเหล่านั้นมีทั้งหญิงและชาย กลิ่นฟีโรโมนรุนแรงจนน่าเวียนหัว“เราไป

    Last Updated : 2024-11-17
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 5

    “ขออนุญาตครับ” ประตูถูกเปิดด้วยน้ำมือของผู้มาใหม่ อลันเป็นมือขวาของอีธาน ทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัวเมื่อครั้งก่อนที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในลิฟต์ อีธานพยายามตั้งสติอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเพื่อจะกดลิฟต์ให้เคลื่อนขึ้นไปยังชั้นบนสุด ชั้นนั้นเป็นชั้นทำงานของเขา เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกออลันก้เป็นคนเข้ามาช่วยเหลือทั้งคู่ที่สภาพดูแทบไม่ได้ ทั้งฟีโรโมนของโอเมก้าคนนี้ก็รุนแรงจนแม้แต่อลันที่กินยาต้านแล้วยังเกิดการตื่นตัวอลันเป็นคนจัดการพาทั้งท่านประธานและพนักงานฝ่ายขายคนนี้มาส่งที่คอนโดอีธาน สัญชาตญาณของอีธานได้บอกเจ้าของมันแล้วว่านี่คือคู่แห่งโชคชะตา แต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคู่แห่งโชคชะตาคนนี้ อีธานสั่งให้อลันนำข้อมูลส่วนตัวที่มีในเอกสารสมัคงานของภูริมามอบให้แก่ตน ระหว่างนั้นภูริก็หลับไม่ได้สติอยู่ในห้องหับมิดชิดเพราะเวลาที่อีธานเห็นภูริ...ได้กลิ่นของภูริ...เขาจะมีความต้องการเกิดขึ้นอีกทั้งที่ใช้ยาต้านชนิดรุนแรงพอรู้ว่าภูริเป็นเบต้า เขาไม่อยากจะเชื่อในข้อมูลเพราะยังไงซะเบต้าก็ไม่มีทางเกิดการฮีตและปล่อยฟีโรโมนฟุ้งขนาดนี้ได้ มันดูตลกเกินไป...คู่แห่งโชคชะตาเ

    Last Updated : 2024-11-18
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 6

    ภูริอยากจะเกาหัวจนหนังหัวหลุดออกมาเพราะคำพูดคำจาของท่านประธาน แต่ทำแบบนั้นไม่ได้ เดี๋ยวโดนหาว่าไม่มีมารยาทและทำตัวน่าเกลียดอีก แต่เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมท่านประธานต้องมาดุเขาแบบนั้นด้วยน่ะ เขาทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ? ครั้นจะถามก็ไม่กล้าเช่นเดิม ท่าทางน่ากลัวแบบนั้นใครจะกล้าพูดอะไรเล่า นอกจาก...ครับขานรับไปแล้วก็ยังต้องนั่งตัวลีบ หางลู่หูตกไปอีกพักหนึ่งเพราะอีธานยังจ้องเขาไม่ไปได้ ทำอย่างกับจ้องมากๆ แล้วเขาจะหายไปจากตรงนี้ อันที่จริง ให้เขาไปทำงานซะมันก็จบเรื่องแล้วแท้ๆ ช่างเถอะ พออีธานเดินกลับไปนั่งโต๊ะ คงสบายใจที่ได้ใส่อารมณ์กับตนแล้วมั้ง ภูริก็หยิบเอาเอกสารมานั่งอ่านโอ้...ภูริเป็นคนขยัน!เปล่า กูไม่มีไรทำภูริคิดแล้วก้เถียงกับตัวเองขำๆ ระหว่างนั่งอ่านกฎการปฏิบัติตัวของโอเมก้าในที่ทำงานแห่งนี้ เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจจะอ่านมันหรอก เขาเป็นเบต้า ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์อันมากมายของเหล่าโอเมก้า ตอนนี้มันกลายร่างแล้วไง ต้องมาใส่ใจนิดหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ยากเกินจะทำความเข้าใจ อ่านไปได้ราวครึ่งชั่วโมงเขาก็ไม่มีอะไรทำอีก นั่งพิงโซฟาตัวนุ่มนิ่มเอาไว้ แอร์เย็น...ท

    Last Updated : 2024-11-19
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 7

    หลังจากกินมื้อเช้ากับแม่และน้องสาวเรียบร้อยแล้ว ภูริก็เดินไปแอบกินยาต้านเงียบๆ พยายามปกปิดเรื่องที่เขาได้กลายเป็นโอเมก้าเต็มตัวแทนที่จะเบต้าธรรมดาๆ อย่างที่เคยเป็น ก็ลองนึกดูดิ ถ้าแม่กับน้องรู้ แม่กับน้องจะตกใจขนาดไหนอะ ลูกกับพี่ชายเป็นเบต้ามาตลอดนะเฮ้ย จู่ๆ มากลายพันธุ์ บ้าเถอะ ไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้ง่ายๆ หรอก ขนาดตัวภูริเองที่มักเป็ฯคนคิดในแง่บวกมาตลอดยังอดนอยไม่ได้เลยเมื่อวานนี้แต่ที่ยิ่งกว่านอยอะ...แม่งคิดถึงบางคนม่ายยยย เราจะไม่ยอมรับว่าเราคิดถึงไอ้ประธานโหดนั่น มันน่าเศร้าเกินไป ผู้ชายคนนั้นบ้าๆ บวมๆ เดี๋ยวกอดเขา ฟัดเขาอย่างกับเขาเป็นคนรัก แต่แล้วก็ด่าเขาสาดเสียเทเสียอย่างกับเขาเป็นคุณโส เอาตรงๆ บางทีก็งงใจ ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงกับสิ่งที่ท่านประธานนั่นปฏิติบัติกับเขาเหมือนกัน“พี่ภูคะ มีใครมา...” ภูฟ้า น้องสาวแสนน่ารักน่าชังในสายตาภูริเดินเข้ามาสะกิดบอก อย่าเพิ่งว่าเขาเป็นโลลิค่อนนะเว้ย การที่อวยน้องตัวเองไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นพวกจิตไม่ปกติดีแบบนั้น“หืม?” ภูริรีบเก็บแผงยาเข้ากระเป๋าของตัวเอง แล้วดื่มตามเยอะๆ“พี่ออกไปดูไหม รถหรูเชีย

    Last Updated : 2024-11-20
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 8

    ปัง!กรี๊ด!!! ภูริถึงกับสาวแตกในใจเพราะจู่ๆ ก็มีใครบางคนมาตบโต๊ะเขาเสียงดังสนั่น เขาอยากเงยหน้าแล้วถามเหลือเกินว่า เจ็บไหม? เอ๊ะ...หรือเขาควรสนใจว่าโต๊ะทำงานของเขายังปลอดภัยอยู่กันล่ะ คำถามกวนประสาทในหัวหายไปทันทีเมื่อเขาเห็นว่าคนที่ตบโต๊ะนั้นเป็นใคร ร่างโปร่งรีบลุกขึ้นยืนกุมมือต่ำ ก็คนคนนี้เป็นหัวหน้าเขานี่หว่า“เมื่อวานคุณหายไปไหนมา”​ ตาบอดเหรอตอนท่านประธานลากเขาไปที่ลิฟต์น่ะ ภูริล่ะอยากจะตอบแบบนี้กลับไปจริงๆ ให้ตายเถอะ“ท่านประธานใช้งานครับ” พอบอกออกไปอย่างนั้น อีกฝ่ายก็ใช้สายตาสำรวจร่างกายของเขาท่านที เห็นนะเว้ย สายตานั้นละลาบละล้วงมาก ถึงหัวหน้าจะหล่อ แต่ขอโทษ...อีธานหล่อกว่าและสายตาเร่าร้อนกว่าเยอะเดี๋ยวนะ เราเปรียบเทียบเพื่อ? หัวหน้าไม่ได้จะแดกเขาเสียหน่อย คิดอะไรบ้าบอจริงเชียว สมองนี่ก็น้า...ทำไมยังคงทำงานวนเวียนอยู่กับอีธานก็ไม่รู้ เพิ่งจะห่างกันได้ไม่นานนี่เองด้วยซ้ำ“นายเป็นนายบำเรอให้คุณอีธานล่ะสิ ที่บอกว่าเป็นเบต้านี่โกหกใช่ไหม เมื่อวานนี้กลิ่นฟีโรโมนฟุ้งมาก มึงต้องเป็นโอเมก้าแน่ๆ” เกลียดสัญชาตญาณอั

    Last Updated : 2024-11-21
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 9

    พอเห็นว่าเขาไม่รู้ไม่ชี้อะไร พวกนั้นก็หัวเราะกันเบาๆ กระซิบกระซาบทำเหมือนว่าเสียงจากเครื่องคาราโอเกะมันจะดังกลบทั้งหมด ภูริไม่สนหรอก เขายังคงยิ้ม ดูพวกนี้ที่หลงระเริงในแผนการของตัวเองแล้วก็ตลกดี“ผมชงเหล้าให้นะครับ” ภูริอาศัยที่ว่าแก้วเหล้าของพวกหัวหน้าพร่องไปเกินครึ่งมาเป็นจังหวะในแผนการร้ายของตัวเองโชคดีเหลือเกินที่พวกนี้มองภูริเป็นเบ๊ ก็เลยเอาถังน้ำแข็ง เหล้าและโซดาวางไว้ข้างกายเขา ส่วนพกนั้นนั่งห่างออกไปจะได้สั่งให้ภูริงเหล้าให้ได้ เมื่อภูริอาสาบริการก็ไม่มีใครปฏิเสธ ส่งแก้วเหล้าทั้งห้าใบมาให้พวกนั้นกำลังรอเวลาภูริดื่มแก้วของตัวเองจนหมด เรียกว่าถ้าเร่งเวลาผ่านช่วงเหล้าไหลลงคอไปถึงยาออกฤทธิ์ได้คงทำกันไปแล้ว เมื่อภูริหันหลังชงเหล้า พวกเขาหันไปกระซิบด่าความโง่งมของภูริอีกด่าเข้าไปเถอะ เพราะอีกไม่นานก็คงด่าอะไรไม่ออก ภูริคิดอย่างชั่วร้ายในใจ เขาคิดว่าในแก้วเหล้าเขาคงไม่ใช่ยาพิษ แต่มันก็ต้องไม่ยาที่ดีที่เอาไว้บำรุงร่างกายเขาแน่ๆ เขาค่อยๆ เทเหล้าจากแก้วของตัวเองลงแก้วอีกห้าใบเบาๆ ก่อนชงเหล้าเนียนๆ“ขอบใจ นายชงเหล้าอร่อยนะภูริ” อัลฟ่าคนสนิทพิชัยเอ่

    Last Updated : 2024-11-22
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 10

    “โอย...ฮึก” แค่ขยับตัวนิดเดียวนะเนี่ย อะไรจะปวดระบมขนาดน้าน! หรือว่า...โดนท่านประธานกระทืบข้อหาปลุกปล้ำแกวะ? ไม่น่านะ ก็เพราะเมื่อวานอีธานดูจะพออกพอใจกับการจ้วงแทงร่างกายเขาเสียพรุนบนกายมีผ้าห่มผืนบางคลุมอยู่ มันมีสีขาวและเหมือนคนคลุมต้องการทำให้เขาเหมือนศพอะ เลยคลุมมันทั้งตัวยันปลายเท้า พอภูริพยายามลุกนั่งจนสำเร็จ เขาก็พบกับร่องรอยประหลาดที่คาดว่าน่าจะโดนตัวอะไรสักตัวขบกัด เอาเป็นว่าเขารู้ว่าตัวนั้นคือตัวอะไร จะไม่เรียกร้องเอาค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอีธานป้อนน้ำให้เขาจนอิ่มตื๊อไปหมดอีกอย่าง...เขาเริ่มเอง!ข้อเนี่ยแหละที่ทำให้ไม่สามารถปริปากเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ทั้งสิ้น ต่อให้บอบช้ำไปทั้งกายและปวดระบมไปทั้งร่างก็ตาม ภูริมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง ปลายเท้าเขามีกางเกง ข้างๆ ที่นอนมีเสื้อและอันเดอร์แวร์ อยากร้องโอ้โหดังๆ ความกระจัดกระจายของเสื้อผ้านี้ไม่บ่งบอกถึงความดุเดือดเมื่อคืนเท่าไหร่เลยเนอะ แล้วนอกจากเสื้อผ้าตนเองที่ตกอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ก็ยังมีเสื้อผ้าของอีธานปะปนไปด้วยภูริลุกขึ้นด้วยท่าทางเหมือนคนอายุเจ็ดสิบปลายๆ ที่ร่างกายหมดแล้วซึ่งเรี่ยว

    Last Updated : 2024-11-23

Latest chapter

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทส่งท้าย

    บริษัทยายักษ์ใหญ่ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์เรื่องการบริหารจัดการกับเหล่าผู้คนที่แตกต่างด้านเพศสภาพ อีธานถูกยกย่องให้เป็นผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงที่มีทัศนะคติดี มองการไกลและให้ความเท่าเทียมกับอัลฟ่า เบต้า หรือแม้กระทั่งชนชั้นที่ต่ำสุดอย่างโอเมก้า ชื่อของบริษัทถุกยกย่องให้เป็นบริษัทต้นแบบในการบริหารผู้คนที่แตกต่าง และจัดการกับการเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ในสังคมในหน้าสัมภาษณ์ อีธานกล่าวว่า...ทุกชนชั้นล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ละคนมีความสามารถที่อาจจะด้อยกว่ากันบ้างในบางเรื่อง แต่มีเรื่องด้อยก็ต้องมีเรื่องเด่น เพราะงั้นจะแค่มุมด้อยของเขามาตัดสินมันทั้งชนชั้นไม่ได้ คุณต้องมองมันให้เป็นรายบุคคลและเข้าใจถึงธรรชาติของชนชั้นนั้นๆด้วยความเป็นอัลฟ่าระดับสูง รูปร่าง หน้าตาและฐานะ อีธานกลายเป็นที่จับตามองของสาวน้อยสาวใหญ่ ความสุขุมและเบดกายของเขากลบคำที่ว่าผู้บริหารบริษัทยามันต้องเนิร์ด สวมแว่นและดูแก่หงำเหงือกไปอย่างสิ้นเชิงหญิงสาวหรือแม้แต่ชายหนุ่มที่อ่านข่าวนล้วนจับตามองถึงเรื่องคู่ครอง อีธานกล่าวว่าตัวเขานั้นยังไม่มีใคร ยังไม่เจอคู่แท้ และยังไม่เจอคนที่ถูกใจจริงๆ ตอนนี้

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 37 [TheEnd]

    เรื่องราวระหว่างคนสองคนที่เกิดขึ้นด้วยความไม่ได้ตั้งใจเดินทางมาถึงจุดสุดท้าย...แรกเริ่มเดิมทีอีธานก็ไม่ได้ต้องการมีคู่แห่งโชคชะตาอยู่แล้ว การตัดสินใจมันเริ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาสั่งให้ทีมวิจัยค้นคว้าตัวยาเพื่อแก้คู่แท้ วันที่รู้ว่าตัวเองจะมีคู่ครอง...เขาไม่โอเคกับมันจริงๆ ที่ผ่านมาภูริแสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเองไม่ได้แย่ถึงขนาดเป็นคู่ครองของใครไม่ได้ แต่อีธานก็ไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจของตัวเองอยู่ดีอุดมการณ์เขามั่นคงพอๆ กับการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง อีธานไม่ได้รักภูริ เราอยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อนร่วมเตียง มีเซ็กซ์กัน ไปทำงานด้วยกัน กินข้าวเช้า กลางวันเย็นด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน การดูแลเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเรามันเป็นเพียงไมตรีจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งเมื่อหนังผีเรื่องนั้นจบลง อีธานและภูริก้เดินออกมาด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันไป ภูริน่ะตื่นเต้นกับหนัง ดูก็รู้ว่าเขาแฮปปี้กับช่วงเวลาชั่วโมงครึ่งที่ผ่านมามากแค่ไหน เขาไม่ค่อยได้มาดูหนังนี่นะ พอเจอหนังดีโดนใจก็เลยปลื้มปริ่ม แต่คนที่คิดว่าจะพามาตกใจเล่นกลับเอาแต่นั่งกอดเขานิ่ง ไม่สะดุ้งกับหนังเลยแม้แต่นิดเดียว...อีธานมองหน้าภูร

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 36

    “วันนี้เงินเดือนออกหนิ” อีธานเอ่ยขึ้นขณะต่างคนต่างลงจากรถหลังการปรับเปลี่ยนกฎและโยกย้ายตำแหน่งพนักงานได้ไม่กี่วัน ภูริก็กลับมาทำงานทั้งที่ยังไม่หายดี เขามีรอยช้ำอยู่ตามตัวแต่มันก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไร การนอนอยู่ห้องอีธานเฉยๆ คอยทำความสะอาด จัดนู้นจัดนี่แล้วก็ดูทีวีไปวันๆ มันก็ดี แต่เขาก็กลัวว่าเงินเดือนจะไม่พอใช้เลยรีบกลับมาทำงานอีธานไม่พอใจใหญ่เลย ไม่พอใจที่เขาดื้อไม่ฟัง อีธานบอกให้เขารักษาตัวเองให้หายดีก่อน เขาไม่หายดีตรงไหน? ขึ้นโยกได้นี่ก็ถือว่าร่างกายแข็งแรงสุดๆ แล้ว เพราะงั้นคำบ่นอีธานจึงตกไปเมื่อภูริมีเป้าหมายที่ชัดเจนพอกลับมาทำงาน ด้วยไม่มีใครมาขัดขวางเหมือนเมื่อก่อน ภูริจึงออกงานนอกเยอะขึ้น เขาสามารถทำยอดได้เกินเป้าในทุกๆ การขาย ด้วยรอยยิ้ม ด้วยไมตรี เมื่อก่อนภูริขายของเก่งอยู่แล้ว ตอนนี้ได้โชว์ศักยภาพของตัวเองเต็มที่ขึ้นไปอีก ไม่แปลกเลยที่ผลการทำงานในเดือนนี้ของเขาจะดีเกิดคาดไปไกลอีธานยังแปลกใจเลยคิดดูเถอะ ไอ้กระจอกคนนี้ไม่กระจอกนะเว้ย เพื่อปากท้องทั้งสาม ของตัวเอง แม่และน้อง ทำให้ภูริเป็นคนขยัน อืม...เขาขยันเป็นเรื่องปกตินะ เมื่อก่อนก็ขยัน ตอนน

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 35

    ภูริอุ่นอาหาร เทมันใส่จานแล้วก็เอามาเสิร์ฟ ตามด้วยน้ำเปล่าเย็นๆ เป็นการปิดท้ายก่อนเดินมานั่งข้างๆ แล้วเริ่มทานมื้อเที่ยง ภูริไม่ได้ถาม ไม่ได้ชวนคุยอะไร ต่างคนต่างกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันหมดบอกความจริงให้หนึ่งอย่าง...ภูริไม่ได้มารยาทดีแต่โคตรหิว!คือเมื่อเช้ามันตื่นไมไหวก็เลยนอนลากยาวมานี่แหละเที่ยงวัน น้ำท่าก็ไม่อาบ แค่ล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อย กินยาก่อนอาหาร ยาระงับฟีโรโมนแล้วถึงมาอุ่นข้าว ท้องเขาแม่งถือป้ายร้องประท้วงกันเย้วๆ ตอนที่กลิ่นอาหารแม่งลอยออกมาจากตู้อบ อารมณ์แบบ...กินเลยไม่รอร้อนได้ไหมวะ แต่จะให้กินอาหารเย็นๆ มันก็ไม่อร่อย ดังนั้นเพื่อรสชาติที่ดีเขาต้องรออีกนิสสสสแล้วพอกำลังจะอิ่มหนำสำราญใจกับอาหารเที่ยงควบมื้อเช้าอีธานก็ดันโพล่มา ด้วยการเป็นคนดีโลกจดจำ ภูริก็เลยต้องบริการอุ่นและเสิร์ฟอาหารให้เจ้าของห้อง เคยได้ยินไหม อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย ปั้นวัว ปั้นควายให้ลูกท่านเล่นน่ะ แค่อีธานไม่มีลูก ภูริเลยไม่ได้โชว์สกิวปั้นดินที่แสนจะห่วยแตกสมัยเรียนอาจารย์วิชาศิลปะนี่กุมขมับเลยนะ เพราะให้ทำอะไรก็เละเทะไม่มีชิ้นดี

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 34

    เช้าวันนี้อีธานตื่นเร็วกว่าปกติ เขามีการประชุมใหญ่รออยู่ในช่วงเช้าเพราะหัวหน้าของหลายแผนกถูกจับ โดยเฉพาะหัวหน้าแผนกที่มีความสำคัญมากอย่างเซลล์ ซีอีโอบางคนก็หลุดออกจากตำแหน่งไปเตรียมตัวขึ้นศาลข้อหาฉ้อโกงเรียบร้อย เรียกว่าวันนี้งานอีธานค่อนข้างจะเยอะเลยทีเดียว เพราะงั้นจึงสายไม่ได้ร่างสูงค่อยๆ ลุกจากที่นอนเพื่อไม่ให้ภูริตื่น ที่จริงแล้วภูรินอนพื้นนั่นแหละ แต่อีธานอุ้มขึ้นมานอนด้วยกันตอนอีกฝ่ายหลับสนิทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภูริบาดเจ็บอยู่ เขาอยากให้ภูรินอนอย่างสบายบ้างก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆไม่ได้ชอบการนอนกอดภูริเลยแม้แต่นิดเดียว!ก็นะ...นั่นเป็นข้ออ้างที่เขาพยายามยัดมันใส่หัวตัวเอง เพื่อปฏิเสธความรู้สึกที่แท้จริง ภูริทำให้อีธานได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมันก็ใช่ แต่ความตั้งใจเดิมของอีธานไม่ได้เปลี่ยนไป เขายังไม่อยากมีคู่เป็นโอเมก้าอยู่ดีนี่มันอยู่คนละส่วนกับการดูถูกชนชั้นอื่น เป็นแค่ความต้องการส่วนตัวที่ฝังรากลึกมานานเป็นสิบปี ระยะเวลาเหล่านั้นมันพังครืนลงไม่ได้ง่ายนัก ต่อให้อีกฝ่ายจะไม่ให้โอเมก้าแต่กำเนิดก็ตามที“เหวย...วันนี้ตื่นก

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 33

    ปลายกระบอกมือสีเงินแวววาวจรดลงที่ขมับของอัลฟ่าผู้คร่อมทับร่างภูริ อีธานโพล่มาถึงตรงนี้ได้โดยที่คนอื่นไม่รับรู้เลยแม้แต่น้อย เขาปล่อยให้พวกนี้รู้ว่าเขาเข้ามาใกล้ก็ตอนที่เอาปืนจ่อหัวพวกเรียบร้อยพลังควบคุมคนตามธรรมที่อีธานมีนั้นเขาสามารถควบคุมมันได้ จะใช้มากใช้น้อยหรือไม่ใช้เลยเขาก็ทำได้ อย่างตอนเดินเข้ามาก็ไม่ใช้...ค่อยๆ ย่องประชิดเพื่อไม่ให้ใครไหวตัวทัน และตอนนี้เขาก็เริ่มที่จะใช้ความสามารพิเศษทางสายเลือดของตัวเองกดดันพวกปลายแถวเหล่านี้ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบคอเอาไว้ อัลฟ่าชั้นล่างทั้งสี่ต่างไม่กล้าขยับเขยื้อนแม้ว่าจะยังไม่เห็นปืนกระบอกงามในมือของอีธานด้วยซ้ำ ความหวาดกลัวที่เอ่อท้นขึ้นมานี่คงไม่ต่างอะไรกับการยืนเผชิญหน้าจ่าฝูงผู้แข่งแกร่งเท่าไหร่นัก“ลุกออกมา” อีธานเอาปลายกระบอกปืนดันหัวคนที่คร่อมภูริอยู่ มันค่อยๆ ขยับแล้วออกมาคุกเข่าอยู่ข้างๆ ร่างโปร่งพอเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นอีธาน ภูริก้รีบลุกขึ้นยืนอย่างโซซัดโซเซ เข้งขาไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ทั้งยังขวัญหนีดีฟ่อจากการที่โดนจู่โจม นัยน์สีดำคู่นั้นเคลือบไปด้วยหยาดน้ำ...ภูริดึงผ้าที่อุดปากตัวเองออกแล้ว

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 32

    จนแล้วจนรอดอีธานก็ไม่ได้ให้นาฬิกากับภูริ ในเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนไม่คิดอะไรเขาก็จะทำบ้าง พาไปเลี้ยงข้าว กลับบ้านอาบน้ำอาบท่าแล้วก็แยกย้ายกันนอน ซึ่งก่อนนอนก็มักมีกิจกรรมที่เสื้อผ้าไม่เกี่ยวเกิดขึ้นมันเป็นแบบนั้นเสมอ...แล้วก็แยกย้ายกันไปนอนที่ใครที่มันจากแผนที่อีธานขอให้วิชุตาช่วยเหลือ ในที่สุดก็มาถึงได้เสียที หลัจากปล่อยให้เหตุการณ์อันย่ำแย่ในออฟฟิตของเขาดำเนินต่อมาอีกหลายวัน เมื่อวานนี้เงินภูริออก อีธานได้ขอก๊อปปี้สลิปเงินเดือนมาจากอลันภูริมีโอทีแค่ห้าชั่วโมงทั้งที่ทำโอแม่งเกือบทุกวัน ค่าคอมพ์มีแต่น้อยกว่าที่คาด ก็คงไม่มีอะไรให้เถียงสำหรับค่าคอมพ์ ภูริเพิ่งออกงานนอกตอนเลยกลางเดือนมาแล้วและแค่ไม่กี่เจ้าเท่านั้น โดยรวมภูริก็ได้เงินไม่มากอยู่ดีหลังเลิกงานอีธานมีนัดกับวิชุตาเพื่อดูของที่เธอได้รับจากการสั่งซื้อด่วนเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาให้ภูริไปรอที่ห้างสรรสินค้าใกล้ๆ เสร็จธุระแล้วถึงจะไปรับ ภูริเป็ฯคนง่าย...อะไรก็ได้จึงยอมไปไม่ใช่อะไร...มีหนี้ต้องเคลียร์ใบออเดอร์และของอยู่ตรงหน้าเขา ข้างซ้ายมีวิชุตาและข้างขวาเป็นอลัน พวกเขากำลังตรวจสอบนัมเบ

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 31

    ออกมาจากบริษัทตอนเก้าโมงกว่า เจอลูกค้าตอนสิบโมงครึ่งจนตอนนี้เที่ยงสิบห้างานเพิ่งเสร็จ ภูริปิดการขายได้อย่างสวยงามและยอดขายรอบนร้ก็เป็นที่น่าภูมิใจสุดๆ นึกถึงคำพูดอีธานตอนแรกๆ ที่เจอกันขึ้นมาเลยแฮะ ที่หาว่าเขาเป็นคนไร้มารยาท ทำตัวแบบนี้เป็นเซลล์ไดยังไง หึหึ อยากให้มาเห็นผลงานเขาหน่อยจะได้ถอนคำพูดพวกนั้นทิ้งไป เขามีความเป็นนักขายนะเว้ย แต่แค่...เลือกปฏิบัติต่อคนอะนะในห้างสรรพสินค้าที่ลูกค้านัดมานั้นมาของกินเยอะแยะมากมาย เหมือนมีการจัดบูธขายอาหารไทยมากมาย เรียงกันเป็นตับ เห็นแล้วท้องร้องหนักมาก ร้องว่าจะกินจะกินจะกิน ติดอย่าง...ติดเงินภูริได้ค่าน้ำมันมาห้าร้อย เขาเติมทั้งห้าร้อยเลยเพราะว่าใบเสร็จนี่ต้องส่งกลับให้บริษัท เคยได้ยินมาว่ามันโกงค่าน้ำมันได้ อย่างเติมสามร้อยแล้วให้เขาออกใบเสร็จเป็นห้าร้อยแลกกับทิปเล็กๆ น้อยๆ แต่ภูริไม่เคยทำ แค่ได้ยินเขาเล่าๆ กัน ส่วนใบเซอร์นี่ก็โกงได้...แค่อันตรายหน่อยหากโดนจับได้ล่ะนะเรื่องโ​กงกินอะไรพวกนี้ตัดออกไปจากหัวภูริได้เลย สมองเขาคิดแค่จะหมุนเงินยังไงให้มันชนเดือนโดยไม่ต้องไปหยิบยืมใครเขา การเป็นหนี้มันเป็นลาภอันประเสริฐนะ ถ้า

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 30

    คำว่าน้อยใจของภูริมีผลต่ออีธานมากกว่าที่ภูรินึกเอาไว้...พอกลับมาที่ห้องแล้วอีธานก็สั่งให้ภูริไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่สบายๆ สักตัว เป็นชุดนอนปกติของตัวเองก็ได้แล้วมานอนที่เตียง หมอเพิ่งให้กินยาก็ต้องนอนพักผ่อน ซึ่งการที่อีธานให้นอนเตียงเนี่ยทำเอาภูริยืนจ้องหน้าอีกฝ่ายไปเป็นนาที“ผีเข้าปะ?” คิดออกแค่นั้นอีธานทำเหมือนคำพูดของภูริมันไร้สาระเกินกว่าจะตอบ เดินหนีไปอาบน้ำอาบท่าปล่อยให้ภูริเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอน ออกมาก็เจอภูรินอนซุกตัวใต้ผ้าห่ม หลับตาพริ้มดูมีความสุข น่าแปลก...เห็นภูริมีความสุขแล้วอีธกานก็พลอยมีความสุขไปด้วยอีธานขึ้นนอนข้างๆ ภูริ ต่างคนต่างนอนหลับไปทั้งที่มันเพิ่งจะเป็ฯเวลาเที่ยงวัน นอไปนอนมาภูริก็คว้าเอวอีธานมากอด ซุกแขนล่ำๆ นั้นแล้วหลับน้ำลายยืด คนรู้สึกตัวไวแอบลืมตามก่อนจะหลับไปโดยไม่ว่าหรือไล่ให้เอาหน้าออกไปจากแขนตนบ่ายอีธานทำอาหารให้ภูริกิน แต่ภูริอยากจะเอาอาหารเมื่อวานนี้ไปอุ่น ไม่มีคำอธิบายหรอก แล้วก็รู้ว่าอีธานไม่ยอมทำก็เลยเอาเข้าไมโครเวฟเอง เผอิญว่าเตาอบของอีธานนั้นเป็นเตาอบเครื่องใหญ่ ไม่ใช่ไ

DMCA.com Protection Status