Share

บทที่ 9

Author: Gukak
last update Last Updated: 2024-11-22 20:00:57

พอเห็นว่าเขาไม่รู้ไม่ชี้อะไร พวกนั้นก็หัวเราะกันเบาๆ กระซิบกระซาบทำเหมือนว่าเสียงจากเครื่องคาราโอเกะมันจะดังกลบทั้งหมด ภูริไม่สนหรอก เขายังคงยิ้ม ดูพวกนี้ที่หลงระเริงในแผนการของตัวเองแล้วก็ตลกดี

“ผมชงเหล้าให้นะครับ” ภูริอาศัยที่ว่าแก้วเหล้าของพวกหัวหน้าพร่องไปเกินครึ่งมาเป็นจังหวะในแผนการร้ายของตัวเอง

โชคดีเหลือเกินที่พวกนี้มองภูริเป็นเบ๊ ก็เลยเอาถังน้ำแข็ง เหล้าและโซดาวางไว้ข้างกายเขา ส่วนพกนั้นนั่งห่างออกไปจะได้สั่งให้ภูริงเหล้าให้ได้ เมื่อภูริอาสาบริการก็ไม่มีใครปฏิเสธ ส่งแก้วเหล้าทั้งห้าใบมาให้

พวกนั้นกำลังรอเวลาภูริดื่มแก้วของตัวเองจนหมด เรียกว่าถ้าเร่งเวลาผ่านช่วงเหล้าไหลลงคอไปถึงยาออกฤทธิ์ได้คงทำกันไปแล้ว เมื่อภูริหันหลังชงเหล้า พวกเขาหันไปกระซิบด่าความโง่งมของภูริอีก

ด่าเข้าไปเถอะ เพราะอีกไม่นานก็คงด่าอะไรไม่ออก ภูริคิดอย่างชั่วร้ายในใจ เขาคิดว่าในแก้วเหล้าเขาคงไม่ใช่ยาพิษ แต่มันก็ต้องไม่ยาที่ดีที่เอาไว้บำรุงร่างกายเขาแน่ๆ เขาค่อยๆ เทเหล้าจากแก้วของตัวเองลงแก้วอีกห้าใบเบาๆ ก่อนชงเหล้าเนียนๆ

“ขอบใจ นายชงเหล้าอร่อยนะภูริ” อัลฟ่าคนสนิทพิชัยเอ่ยขึ้น รอยยิ้มนั้นช่างเจ้าเล่ แต่เขาก็ตอบโต้ด้วยรอยยิ้มเย็นตาดูแล้วสบายใจไปให้

“ขอบคุณครับ แฮ่ๆ” เขายกเหล้าที่แอบชงใหม่เมื่อกี้ขึ้นดื่ม...

เคยเห็นหมาหิวไหม? หมาหิวโซที่แหงนหน้ามองอาหารบนโต๊ะเจ้านาย อยากจะกินมันใจจะขาดแต่ไม่สามารถกระโดดขึ้นไปได้ ก็เลยได้แต่จับจ้องหวังให้เจ้าของนำอาหารเหล่านั้นมาวางตรงหน้า ตอนนี้พวกอัลฟ่าทั้งห้ามีสีหน้าแบบนั้นเลย โดยเฉพาะพิชัยที่เก็บอาการไม่มิด

“โห ไม่ต้องรีบเมาก็ได้นะภู...”​ เขาวางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะเตรียมชงใหม่

“ผมคอแข็งจะตาย” น้ำเสียงขำขันของเขาได้รับการตอบโต้เป็นเสียงหัวเราะเยาะเย้ย

“อะๆ มา...เรามาหมดแก้วให้ค่ำคืนนี้ดีกว่า” พิชัยยกแก้วของตัวเองขึ้น ทุกคนยกตามรวมถึงภูริด้วย

คราววนี้กลายเป็นภูริมองพวกนั้นเหมือนหมาแทน เอ้ย...ไม่เอาดิ เราไม่เป็นหมา เราต้องเป็นอะไรที่น่ารักน่าชังกว่านั้นเช่น ชูก้าอาย! นึกแล้วก็ขำ ตาโตๆ หน้าซื่อๆ เข้ากับเขาอยู่นะ เหล้าสีอำพันค่อยๆ พร่องลงทีละน้อย เมื่อถึงช่วงก้นแก้วแล้วมันก็หายวาบราวกับแก้วรั่ว ทุกคนพร้อมใจส่งแก้วมาที่เขา และภูริก็ยินดีที่จะชงแก้วต่อไปให้ทุกคน

ประมาณแก้วที่สาม พิชัยคว้าคอของพนักงานคนสนิทเข้ามาจูบปาก ภูริแอบตกใจนะ ไอ้ฉากอย่างเนี่ยมันไม่ควรเกิดขึ้นต่อหน้าเขาเว้ย มันอุจาดตา บ้า...”ไม่เอาเราไม่มอง เห่อๆ ใครว่าไม่มองนะ จ้องตาแทบจะถลนอยู่แล้ว

และไม่เพียงพิชัยเท่านั้น เพราะอีกสามคนที่เหลือก็เริ่มจะขยับเข้าหากัน กระดุมถูกปลดอย่างรวกเร็วและหื่นกระหาย ภูริเผลอมองแก้วเหล้า สิ่งที่หัวหน้าเขาใส่เข้าไปคงจะเป็นยากระตุ้นความใคร่ล่ะมั้ง โหย...แล้วดูใช่คำ เรียกว่ายาปลุกก็คงจะพอ

แต่ว่าถ้าเป็นยาปลุกจริง เขาไม่อยู่ต่อหรอกนะ เดี๋ยวโดนลากไปนี่ไม่โอเคเท่าไหร่ ฉากชายกับชายเอากันนี่ก็ขอแค่เป็นฉากของตัวเองกับอีธานพอล่ะ อย่ามีคนอื่นเข้ามาแจมด้วยเลย สงสารลูกตากับสมองของตัวเองที่ต้องมาเห็นและจดจำความอนาถเหล่านี้

“นายเป็นโอเมก้าสินะภู...” ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นหนี อัลฟ่าที่นั่งข้างๆ ก็หันมาหาเขา คว้ามือเขาเอาไว้แล้วตั้งใจกระชากให้ลงมาอยู่บนตัก ทว่าภูริไม่เมาขนาดนั้น ยังคงมีสติและเขาจะไม่ยอมเป็นของใครก็ได้ง่ายๆ

ไม่หล่อราวเทพบุตรหรือไม่รวยล้นฟ้าอย่างอีธาน...อย่าหวังจะได้แอ้มหนุ่มรูปงามอย่างเขาเลยเหอะ เอาตรงๆ ถ้าเป็นก่อนมีอีธานมาติดพันธุ์ ภูริไม่ตั้งสเปกอะไรใครเอาไว้สูงนะ ขอแค่เป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ น่ารัก นิสัยดี เข้ากับแม่กับน้องเราได้ มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือน ชอบอยู่ติดบ้าน ชอบอ่านหนังสือ ชอบดูแลทุกๆ คนไม่ว่าจะเขา น้องสาวหรือแม่ของเขาเองก็ตาม อาจจะเป้ฯคนรักสัตว์ด้วย อย่างรักชูก้าอายอะไรเงี้ย รักน้ำรักปลารักภูริ เห็นไหม...ก่อนมีอีธานสเปกก็ปกติทั่วไป แต่พอมีคนระดับอีกธานมาเป็น...เอิ่ม

ไม่อยากยอมรับเลยเว้ย!

นั่นแหละ พอมีอีธาน ความคิดก็เปลี่ยนไป อย่างน้อยต้องดีกว่าอีธานไม่งั้นภูริจะไม่ชายตามอง หึหึ เมื่อก่อนหล่อเลือกได้ ตอนนี้ก็ยังหล่อเลือกได้แถมยังมีเสน่ห์เหลือเกินอีกต่างหาก ไม่ค่อยเข้าข้างความหน้าตาดีของตัวเองเท่าไหร่เลยเนอะ

ภูริปัดมืออีกฝ่ายออก เขาแรงไม่เยอะเท่าอัลฟ่าที่มีปัญญาเข้าฟิตเนสทุกอาทิตย์หรอก แต่ตอนนี้เขาสติดีสุด ไม่เมามากและก็ไม่ได้ฮีตเหมือนพวกนี้ ดังนั้นแรงของเขาก็เลยมากกว่าชั่วคราว ร่างโปร่งลุกขึ้น คว้ากระเป๋าได้ก็เดินหลบเลี่ยงออกมา

แต่เดี๋ยวนะ...

ขวามือของเขามันก็เป็นกำแพงธรรมดาแหละ แต่มันมีโต๊ะวางแจกันดอกไม้อยู่ และดันเห็นว่ามีมือถือของใครบางคน...ท่าจะมีเงินด้วยแหละ ไม่งั้นมือถือไม่หรูขนาดนี้ มันถูกตั้งเอาไว้ เหมือนจะหลบมุมแต่ก็ไม่หลบมุม

อ๋อ...กะวางยาเขาแล้วถ่ายคลิปสินะ ก็ขอให้ได้คลิปดีๆ เอาไว้ชมกันตอนนอนอยู่ห้องคนเดียว บางทีอาจเป็นคลิปที่ทำให้คนในห้องกลับมามีอารมณ์ปึ๋งปั๋งจนต้องเล่นตื้ดๆ ก็ได้ใครจะไปรู้ ภูริยิ้มกว้าง มั่นใจว่ากล้องไม่ได้สูงพอจะเห็นใบหน้าของเขา ซึ่งมันดีแล้ว เกิดมาเห็นแบบนี้เดี๋ยววกกลับมาเล่นงานเขาอีกซวยตาย!

“ขอให้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลยนะครับ...” เสียงทุ้มนุ่มของเขาดังแว่วเข้าหูพวกเมาราคะในห้อง ทว่าไม่มีใครมีสติพอจะสนใจ

ภูริออกมาแล้ว ล็อกให้พร้อม เสียงเพลงก็ยังคงมีคลอเคลียอยู่ แต่ถ้าเอาหูแนบประตูคงได้ยินเสียงครวญครางของคนข้างใน ว่าแต่...อัลฟ่าจับอัลฟ่าเป็นคู่ได้ไหมนะ ภูริไม่แน่ใจในข้อนี้ แต่แน่ใจว่าคนที่พิชัยกัดเข้าไปนั้นน่าจะเจ็บเอาการ เห็นแล้วยังเจ็บแทนเลย

เป็นการยืนส่องที่ดูโรคจิตไปนิดเมื่อภาพที่อยู่ข้างในนั้นติดเรตอาร์ เชื่อว่าถ้าบรรยายมันออกไปทั้งหมดน่าจะโดนเว็บแยนได้ในทันทีที่อัปโหลดเสร็จ มันอุรุงตุงนังและเร่าร้อน ต้องบวกคำว่าเลอะเทอะเข้าไปด้วยนะ ทั้งเหล้าเอย น้ำแข็งเอย ทุกอย่างถูกจับนำมาเป็นเครื่องมือของเล่นของพวกนั้นแทบทุกอย่าง

โอ๊ะ! ถ้าขวดโซดาถูกยัดเข้าไปในนั้นล่ะก็...ระวังหมดสนุกนะ ภูริล่ะอยากตะโกนเตือน แต่อีกส่วนที่แสนจะชั่วร้ายภายในก็สั่งให้ยืนมอง หน้าตาอาจดูโง่และใส่ซื่อ ทว่ารอยยิ้มเหมือนโรคจิตเข้าไปทุกที

โถ...โดนเขาแกล้ง โดนเขากดดันมาสารพัด วันหนึ่งได้เอาคืนบ้าง ใครมันจะไม่สะใจล่ะถามจริง แถมเป็นการเอาคืนที่เขาแทบไม่ต้องลงแรงอะไรเลย แค่เทเหล้าจากแก้วตัวเองใส่แก้วคนพวกนั้นก็เท่านั้น เรียกเหนื่อยเหรอ...นั่งทำงานตามพวกนี้สั่งเหนื่อยกว่าเยอะ

สมองเริ่มสั่งการให้เขาเดินออกไปจากจุดนี้ หากพนักงานเดินมาเห็นเขาด้อมๆ มองๆ เข้ามาในห้องอาจจะเกิดความสงสัยและจับได้ในที่สุดว่าพวกนั้นกำลังเอากัน ไม่ๆ ใช้คำว่าเอากันไม่ได้ ต้องเรียกว่ากำลังรบราฆ่าฟันประชากรตัวน้อยๆ ที่ชื่อลูกอ๊อดกันอยู่

เอ่อ...ใช้คำว่าเอากันประหยัดบรรทัดมากกว่านะเนี่ย

ช่างมัน เอาเป็นว่าเรารู้กันว่าเขากำลังทำอะไร กฎของห้องคาราโอะแทบทุกที ถ้าไม่วีไอพีจริงๆ เขาไม่ให้จัดปาร์ตี้ร่อนจ้อนอย่างนั้น ถ้าเกิดจับได้ เรื่องนี้คงยุติเร็วกว่าที่ควรจะเป็น แต่ว่าเขาก็ยังยืนดูอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับไปได้ การได้เห็นคนที่หยิ่งผยองเหล่านั้นตกต่ำลงมาบ้างมันฮิลหัวใจได้ดีจริงๆ เลย

“!!!” ในระหว่างที่มัวเมากับการดูมหรสพติดเรต เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างอยู่ข้างหลัง มันเป็นมวลพลังงานอันน่ายำเกรง ขนนี่ลุกไปเลยครับ!

เมื่อหันไปมองด้วยการสโลว์โมชั่น เขาก็สบเข้ากับดวงตาสีฟ้าแสนดุดดันและเกรี้ยวกราดของอีธาน ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดสูทสีเทา เลิกงานแต่ไม่เลิกดูดีอะว่างั้นเถอะ รอยยิ้มภูริค่อยๆ หายไป กลายเป็นสงบเสงี่ยมเจียมตัวขึ้นมาทันทีราวกับมีเสียงสั่งการดังอยู่ในสมอง

อีธานขยัยเท้าเข้าหาภูริเพียงหนึ่งก้าวก็ถึงตัว ร่างสูงชะโงกหน้าข้ามไหล่ของภูริเพื่อจะได้มองเข้าไปในห้องนั้นผ่านกระจกบานเล็ก แล้วก้ได้เห็นสิ่งที่น่ารังเกียจ อีธานเกลียดการเสพสมกันมากกว่าหนึ่งคู่แบบนี้เป็นที่สุด มันดูเหมือนสัตว์ชั้นต่ำที่ทำทุกอย่างเพื่อสนองราคะ อีธานเบี่ยงหน้าออก กลับมายืนสบตาภูริอีกครั้ง

“เกิดอะไรขึ้น” เพียงคำถามง่ายๆ แต่การตอบนั้นยากประหนึ่งว่านี่คือข้อสอบข้อที่ชี้ชะตาชีวิตตัวเอง แต่...เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะเว้ย!

“พวกเขาโดนยาครับ” ว่าจบ ต้นแขนขวาของเขาก็โดนอีกฝ่ายคว้าเอาไปบีบ เจ็บนี้ไม่ใช่รสปูอัดแน่ๆ ว่าแต่มีใครเขาเข้าใจมุกไหม ไอ้เจ็บนี้รสปูอัด รสปูอัดเนี่ย?

“ยาอะไร” ไหล่ห่อเหี่ยวไปหมดแล้ว ไม่ใช่แค่ความกลัวแต่มันคือความเจ็บ ไม่ต้องเป็นหมอลักษณ์ก็สามารถฟันธงได้ว่าแขนเขาช้ำแน่นอน!

“ผมไม่รู้”

“ไม่รู้? มัวเซ็กส์กันขนาดนั้นนายบอกว่าไม่รู้งั้นเหรอ นั่นคุณพิชัยหัวหน้างานนายนะภูริ” สมองมีก็คิดบ้างเซ่ ภูริอยากตอบแบบนี้ที่สุดในชั่ววินาทีนี้เลย แต่ก็ตอบไม่ได้

“ก็คงยาปลุกมั้งครับ” พอพูดจบ รอยยิ้มเหยียดหยามของอีธานก็ทิ่มแทงเข้ามาในร่างเขาอย่างจัง

เขาไม่ได้รักอีธาน แต่ทำไมเขาถึงปวดใจที่อีธานมองเขาแบบนั้น…มันเลวร้ายกว่าการที่อีธานมองเหยียดเขาในฐานะโอเมก้า ภูริอธิบายไม่ถูกว่าตอนนี้ธานมองเขาแบบไหน ก็เขาไม่ใช่อีธาน เขาจะไปเข้าใจทั้งหมดของอีธานได้อย่างไร ช่างมันเถอะ...นี่ไม่ใช่นิยายดราม่า งั้นตัดเข้ามุกแป๊บ!

“นายหมั่นไส้เขาก็เลยมอมยาพวกเขาใช่ไหม” อ่าฮ้า...นี่แหละมั้งที่เสียดแทงความรู้สึก ภูริเงยหน้า ส่งยิ้มหวานหยดให้กับคำกล่าวหาที่ร้ายแรง เขาเกือบจะเป็นคนที่โดนจับข่มขืนอยู่ในนั้น แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่...กลับเป็นเขาที่ทำเรื่องโหดร้ายด้วยการมอมยาหัวหน้าตัวเอง

เอาเหอะ...ชีวิตมีอะไรยุติธรรมเหรอ?

“มั้ง...ผมคงทำอะไรชั่วๆ อย่างนั้นแหละ” อีธานแทบจะตบหน้าอวดดีของภูริ ความหวาดกลัวที่มีตอนแรกมันหายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยความผยอง เขารู้สึกผิดหวังในตัวผู้ชายคนนี้ คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่แท้ของเขา

“นายมันน่าขยะแขยงภูริ คนอย่างนาย...มันไม่มีค่าคู่ควรอะไรกับใครเลย”

“ครับ” ภูริพยักหน้า ท้าทายแววตาดุดันของอีกฝ่าย

อีธานเดือดมาก เขาเดือดจนเผลอจับไหล่ของภูริเต็มแรง แต่ร่างโปร่งก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกมาสักคำ ทั้งยังคงมองตอบโต้ละสายตา กลายเป็นอีธานเสียเองที่หงุดหงิกจนทนไม่ได้ ต้องเป็นฝ่ายปล่อยมือจากไหล่ของภูริ ตั้งใจจะไปให้ไกลจากคนคนนี้

ทว่า...เขาไปได้แค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นเอง

“เฮ้! คุณจะพาผมไปไหนเนี่ย” ภูริตกใจ ก็จู่ๆ เล่นเดินกลับมากระชากข้อมือของเขาให้ตามไปเนี่ย อะไรวะ…เฮ้ย เป็นอะไร!

นี่ถ้าเป็นเมียอย่างเป็นทางการนะ สิ่งแรกที่จะทำก็คือพาไอ้คุณอีธานเนี่ยไปหาจิตแพทย์ ให้เขาตรวจเช็กเลยนะว่า มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวไล่ เดี๋ยวลาก เดี่ยวด่าเดี๋ยวปล้ำ คนปกติเขาไม่เป็นงี้นะ มีแต่คนไม่ปกติอะ

ช่วงขาที่ต่างที่กันพอสมควร ทำให้ภูริก้าวตามอีธานแทบไม่ทัน ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนกระทั่งมาถึงรถยนต์คันหรู ภูริตั้งใจว่าจะสะบัดมืออีกฝ่ายออกแล้วเดินไปที่หน้าร้านอาหาร ติดตรงไหนรู้มะ ติดตรงอีธานดันเหวี่ยงเขาเข้ามาในรถก่อนที่เขาจะได้ออกแรงสะบัดอะไร

เอาวะ จังหวะที่อีธานเดินอ้อมรถเนี่ยแหละ ภูริรีบตั้งสติแล้วเปิดประตูรถเพื่อจะหนีไปจากเงื้อมือของคุณประธานโรคจิต แต่บางที...นี่อาจเป็นนิยายตบจูบก็ได้ เพราะเขาหนีไม่รอดไง อีธานคว้าข้อมือได้แล้วดึงอย่างแรงจนเขาหงายหลังทับอีกร่าง

อีธานไม่สนใจว่าภูริจะล้มระเนระนาดขนาดไหน เขาเอื้อมไปคว้าประตูเพื่อปิด จากนั้นก็สตาร์ทรถแล้วออกตัวอย่างไว กันไม่ให้พนักงานขายขี้ดื้อหนีไปได้ แล้วก็ไม่ต้องถามหาเหตุผลกับอีธานในตอนนี้ เขาเอาอารมณ์นำ...เขาหมั่นไส้ภูริที่ดื้อและเกเร

ดื้อและเกรเรเนี่ยนะ! ภูริไม่ใช่เด็กอายุสิบเจ็ดสิบแปดที่เขาจะมาใช้คำนี้ด้วย คงเพราะสิ่งที่ภูริทำลงไปในห้องคาราโอเกะนั้นล่ะมั้ง มันทำให้เขาผิดหวัง แล้วทำไมต้องผิดหวังวะ! ก็ไม่ได้รักไม่ได้ชอบอะไรไอ้นี่อยู่แล้วปะ

บ้าบอชิบหายเลย!

“ผมจะบอกอลันให้พาคุณไปพบจิตแพทย์” ทั้งที่กำลังหัวเสียอยู่ ภูริก็พูดขึ้นมา

“นายจะหาว่าผมเป็นบ้า”

“เปล่านะ ผมว่าคุณป่วย...ผมไม่ได้ว่าคุณบ้า” เจ้าตัวหันมามองหน้าเขาตรงๆ สีหน้าไม่มีความกวนแต่เป็นความจริงจังที่...

ไม่อยากยอมรับว่ามัน...มัน...มันละลายความโกรธของเขาเนี่ย!

“ผมไม่ได้ป่วย ถ้าผมจะป่วยก็ป่วยเพราะคุณนั่นแหละ เพราะคุณมากลายเป็นโอเมก้า ผมก็เลยต้องกลายเป็นคู่แท้ของคุณ”

“นั่นป่วย?” ภูริเกาแก้มตัวเบาๆ มันคือป่วยใช่ไหม?

“เออ! ป่วย”

“อ๋อ งั้นผมคงป่วยกว่า...เป็นเบต้าอยู่ดีๆ แท้ๆ กลายร่างเฉย” ร่างโปร่งว่าจบก้หันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง อีธานเห็นว่าอีกฝ่ายลอบถอนหายใจเบาๆ

“ผมถามจริง คุณทำแบบนั้นไปทำไม”

“ผมตอบไปแล้ว”

“มันแค่นั้นจริงๆ เหรอ แค่นั้นถึงกับต้องทำให้พวกเขาเป็นแบบนั้นเหรอคุณภูริ ผมไม่คิดว่าคนอย่างคุณจะทำ...” ภูริหันหน้ามา

“ผมเวียนหัว...ผมเมาอะคุณ” แล้วก็พูดตัดบทอีธานเสียดื้อๆ

“ภูริ! นายนี่มันน่าหงุดหงิด น่าโมโห...ผมอยากจับคอคุณแล้วบีบมันแหลกเลยจริงๆ ให้ตายดิ!!!” ปากต่อว่าอย่างเกรี้ยวกราด แต่ก้เปิดกระจกและชะลอลดเข้าข้างทาง

คนดื่มเหล้าจะเวียนหัวง่าย ภูริดื่มไปไม่น้อย เมื่อต้องมานั่งก็เป็นไปได้ที่จะเมารถร่วมด้วย ทันทีที่รถจอดเข้าข้างทางภูริก็รีบเปิดประตูลงไปยืนรับลมที่โชยเข้าหาตัวเองทันที นึกถึงภาพแสนโรแมนติกอยู่ใช่ไหม ภาพที่เส้นผมของภูริปลิวไสวกับใบหน้าแดงก่ำจากแอลกอฮอล์ อีธานลงมาจากรถแล้วมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ ในหัวใจ

โอเค...มันใกล้เคียง

ถ้าไม่มีรถขยะขับผ่านมาพอดีอะนะ….

“เอ่อ...ผมว่าผมทนเมารถไหวอะ อุ...แหวะ เหม็นชิบ ใครให้มึงขับผ่านตอนนี้วะ แม่ง เตะล้อหักเลย!” ภูริสบถด่าเบาๆ แล้วรีบขึ้นรถหรูทันที อีธานก็ไม่รอช้า เหยียบคันเร่งต่อไปโดยไม่ลืมปิดกระจกรถด้วย

ความสงบมาพร้อมกลิ่นขยะที่ยังอบอวลอยู่ในรถจางๆ ภูริเอนหลังเอาหัวพิงเบาะ ตากรอกไปมาเพราะตอนนี้มึนได้ที่เลยจริงๆ เขาพยายามจะหาจุดโฟกัส มองไปข้างนอกก็แล้ว ภาพที่ข้าวของผ่านไปไวๆ แม่งน่าเวียนหัวมาก ก็เลยหันกลับมามองหน้าอีธาน...

“คุณเป็นคนหล่อมากเลย” มองไม่พอ เพ้ออีก

“ขอบคุณ”​ ถึงคำมันจะห้วนแต่คนหล่ออะ ทำไรแม่งก็ดูดี

“คุณอีธาน...” รอยยิ้มบางๆ ของภูริถูกส่งไปให้คนขับรถ…เรียกคนขับรถนี่เสียเหมือนกัน เอาประธานบริษัทตัวเองมาขับรถ ไม่โหดจริงทำไม่ได้อะบอกเลย

“อะไรของคุณ เวียนหัวก็นอนไป ไม่ต้องมาชวนผมคุยอะไรทั้งนั้น ไม่ผมอยากคุยกับคุณ แล้วถ้าคุณยังเอาแต่พูดจนเวียนหัวทนไม่ได้อ้วกออกมา ผมจะถีบคุณลงข้างทาง ปล่อยให้คุณนอนมันอยู่ป้ายรถเมล์จนถึงเช้าไปเลย!”

“ผมอยากอะ”​ สั้น...ง่าย...ได้ใจความ

เอี๊ยดดดดด!!!

เสียงเบรกดังสนั่นจนล้อลากไปกับถนน กลิ่นยางไหม้คละคลุ้งพร้อมกับเสียงแตรที่บีบด่าเป็นทางยาว แต่ขณะที่ทุกคนก่นด่าไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาเหยียบเบรกกลางถนน ไอ้คนเหยียบเบรกกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร ในดวงตาสีฟ้ากระจ่างสวยของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าคนพูดพร้อมกับหัวใจที่เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ

แล้วแค่มันบอกว่าอยาก ทำไมต้องอยากไปกับมันด้วยวะ!

อีธานละสายตาจากใบหน้าอันยั่วยวนของภูริ เขาหันกลับมาสนใจถนนและความเร็วของรถแทน ภายในหัวคือไปไกลมากแล้ว...แถมเรตมากด้วย เป็นอีกครั้งที่อีธานรู้สึกว่าเป้าหมายปลายทางนั้นไกลแสนไกล ขนาดความเร็วแตะสองร้อยแล้วเขาก็ยังรู้สึกว่ามันช้ามากอยู่ดี

ร่างข้างๆ นั่งขยับไปมาสองสามครั้ง เหมือนไม่สบายเนื้อสบายตัว เสื้อเชิ้ตใส่ทำงานถูกปลดกระดุมด้วยมือเจ้าของเสื้อ เผยให้เห็นร่างกายที่ไม่ขาวมากแต่ก็ผิวเนียนละเอียดเอาเรื่อง อีธานเห็นมันแค่หางตา แต่เขากลับรู้สึกถึงสัมผัสจากการนั้นได้โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้แตะต้องอะไรเขาเลย

“อย่ามาแก้ผ้าในรถผมนะภูริ!”

“ผมแค่ร้อน...อยากดับร้อนเร็วๆ จังครับอีธาน...” ไม่น่าพูดกับมันเลย ไม่น่าให้มันพูดตอบด้วย เพราะเสียงกระเส่านั้นมันกำลังกระชากความอดทนของท่านปรธานหนุ่มอย่างเขาให้ขาดสะบั้น!

“ร้อนก็เปิดแอร์อีกสิวะ”

“ผมอยาก...อยากมีอะไรกับคุณนะ” คำตอบไม่ตรงคำถาม แต่เสือก...ตรงใจเกินไป!

.

.

.

Related chapters

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 10

    “โอย...ฮึก” แค่ขยับตัวนิดเดียวนะเนี่ย อะไรจะปวดระบมขนาดน้าน! หรือว่า...โดนท่านประธานกระทืบข้อหาปลุกปล้ำแกวะ? ไม่น่านะ ก็เพราะเมื่อวานอีธานดูจะพออกพอใจกับการจ้วงแทงร่างกายเขาเสียพรุนบนกายมีผ้าห่มผืนบางคลุมอยู่ มันมีสีขาวและเหมือนคนคลุมต้องการทำให้เขาเหมือนศพอะ เลยคลุมมันทั้งตัวยันปลายเท้า พอภูริพยายามลุกนั่งจนสำเร็จ เขาก็พบกับร่องรอยประหลาดที่คาดว่าน่าจะโดนตัวอะไรสักตัวขบกัด เอาเป็นว่าเขารู้ว่าตัวนั้นคือตัวอะไร จะไม่เรียกร้องเอาค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอีธานป้อนน้ำให้เขาจนอิ่มตื๊อไปหมดอีกอย่าง...เขาเริ่มเอง!ข้อเนี่ยแหละที่ทำให้ไม่สามารถปริปากเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ทั้งสิ้น ต่อให้บอบช้ำไปทั้งกายและปวดระบมไปทั้งร่างก็ตาม ภูริมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง ปลายเท้าเขามีกางเกง ข้างๆ ที่นอนมีเสื้อและอันเดอร์แวร์ อยากร้องโอ้โหดังๆ ความกระจัดกระจายของเสื้อผ้านี้ไม่บ่งบอกถึงความดุเดือดเมื่อคืนเท่าไหร่เลยเนอะ แล้วนอกจากเสื้อผ้าตนเองที่ตกอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ก็ยังมีเสื้อผ้าของอีธานปะปนไปด้วยภูริลุกขึ้นด้วยท่าทางเหมือนคนอายุเจ็ดสิบปลายๆ ที่ร่างกายหมดแล้วซึ่งเรี่ยว

    Last Updated : 2024-11-23
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 11

    อีธานกินของหวานเรียบร้อยก็กลับเข้าห้องไปอาบน้ำอาบท่า ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่กระจัดกระจายอยู่ให้ภูริเก็บกวาด อยากจะให้ถามสักคำว่าเก็บกวาดไหวไหม? เห่อๆ คนอย่างอีธานคงไม่มานั่งถามหรอกว่าไหวหรือเปล่า เป็นไงบ้างจ้ะคนดี บรื้ย...คิดก็ขนลุกแล้วอะภูริตั้งสติเล็กน้อย เสื้อไม่โดนถอดแต่กางเกงมันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเอาออกไปอะเนาะ เขาคว้ากางเกงเดินเข้าห้องน้ำ ความไม่ใส่ถุงยางนี้ช่างเลอะเทอะเสียจริงเชียว ร่างโปร่งแอบเบะปากคนเดียว นี่ต้องมาจ้วงแทงก้นตัวเองอีกแล้วเหรอ ทำใจไม่ได้จริงๆ นะเนี่ย รู้สึกกระดากอายอย่างกับสาวน้อยเพิ่งหัดช่วยตัวเองครั้งแรก ไม่ดิ เทียบเป็นฝันเปียกครั้งแรกอาจจะดูดีกว่าเอ๊ะ...หรือแม่มไม่มีอะไรดูดีเลย???ช่างมันเหอะ ภูริส่ายหัวให้กับความคิดเรื่อยๆ มาเรียงๆ ของตัวเอง รีบจัดการกับร่างกายแล้วออกมาทำความสะอาดบ้านโดยไม่ต้องให้เจ้าของบ้านออกมาด่าหรือต่อว่าเขาเลยแม้แต่นิดเดียวขณะที่เช็ดปัดกวาดครัวอยู่ อีธานอาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วลงมาในชุดกางเกงขายาวผ้าร่มกับเสื้อกล้าม กลิ่นสบู่ที่เป็นยี่ห้อเดียวกัน ทว่าพออยู่บนร่างกายที่ต่างกันกลิ่นมันก็ดันต่างกันไปด้วย

    Last Updated : 2024-11-24
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 12

    เคยเข้าใจคำว่า...ความเงียบเป็นความกดดันที่หนักหนาที่สุดไหม? ภูริไม่ค่อยเข้าใจหรอกเพราะแม่เขาไม่เคยโกรธเขาแล้วเงียบใส่ มีแต่ด่า บ่น บ่น และบ่น ภูริชินกับการด่าและบ่นเป็นนิสัย ไม่ว่าจะไปที่ไหน เรียนหรือทำงานก็จะเจอคนพวกนี้ ส่วนคนที่เอาแต่เงียบเมื่อไม่พอใจเนี่ย...ภูริห่างไกลจากคนพวกนั้นมากทีเดียว จนมาเจอนี่แหละอยากบ่นอีธานมาก อยากบอกมากว่าแค่อีธานอยู่เฉยๆ ก็มีความกดดันมากอยู่แล้ว นี่ยังมีความไม่พอใจอะไรบางอย่างแผ่กระจายออกมาอีก ถ้าความกดดันในสายเลือดอัลฟ่ามันฆ่าคนได้ เขาคิดว่าตอนนี้เขาน่าจะเหลือแต่เศษซากมากกว่าร่างเนื้ออย่างตอนนี้ด่าเขายังดีกว่าเงียบอีกอะ...ภูริหันหน้าเข้ากระจกหน้าตา มองเงาตัวเองในนั้น สายตาเศร้าและปากเบะๆ นี่น่าตลกเป็นบ้า เออ...เห็นหน้าตัวเองแล้วก็ขำได้ นี่เขายังสติดีอยู่ไหมนะ เอ หรือว่าที่อีธานเงียบก็เพราะว่าไม่พอใจที่เขาเข้าไปช่วยคนคนนั้นเหรอ? แล้วที่ไม่พูดนี่คือกลัวจะอารมณ์เสียใส่เขาหรือเปล่าบ้าไปแล้ว...ไอ้ภูมึงมันหลงตัวเอง เข้าใจว่าตัวมึงมันหล่อมาก หล่อจนอัลฟ่าสาวแทบจะสยบแทบอกเลย แต่นี่ไม่ใช่อัลฟ่าธรรมดานะ ไม่มีทางมาหลงเสน่ห์ของเขาห

    Last Updated : 2024-11-25
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 13

    อีธานแรงเยอะสมกับร่างกายที่กำยำนั่นจริงๆ กว่าจะยอมลุกไปจากตัวเขาได้ก็เล่นเอาเอวแทบคราด ภูรินอนคว่หน้าอยู่บนที่นอนของอีธานในขณะที่เจ้าของห้องเดินไปอาบน้ำอาบท่าแล้ว แหงล่ะ พอใจมากแล้วนี่ กินร่างกายเขายิ่งกว่าของหวานอีก ต้องเรียกว่ากินเป็นมื้อดึกชดเชยก๋วยเตี๋ยวกากๆ นั่นภูริไม่ได้ทิ้งตัวเองบนที่นอนของอีธานนานนัก เขาค่อยๆ ลุกแล้วลงไปนอนข้างเตียงซึ่งเป็นพื้นเปล่าเปลือย อันที่จริงอีธานได้ให้ผ้าห่มมาสองผืนสำหรับปูนอนและห่มกันหนาว แต่เขายังไม่ได้เอามันมาปู กลับมาก็โดนซ้อมเสียก่อนอะนะ แต่ตอนนี้เขาขี้เกียจ ขอลุกทีเดียวตอนไปอาบน้ำก็แล้วกันพื้นหินอ่อนเย็นเชียบแถมยังแข็งกระด้าง ดีนะที่ร่างกายค่อนข้างจะชินกับอะไรที่แข็งทื่อแบบนี้แล้ว ไม่อยากจะบอกเลยว่าที่นอนที่บ้านก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพื้นหินนี่เท่าไหร่นัก นุ่มกว่านิดหน่อยเพราะฟูกแหละ เป็นฟูกยางพารา หึหึ...นุ่มจนอยากหลับไปตลอดกาลเลยความโล่งโจ้งของร่างกายทำให้ภูริรู้สึกแปลกประหลาดนิดหน่อย เขาเลยเอื้อมเอาเสื้อที่ยืมอีธานใส่นั้นมาคลุมช่วงเอวของตัวเองแล้วฟุ่บหน้ากับแขนนต่อไป สมองอันเล็กจ้อยของเขากำลังประมวลผลอยู่ว่าวันนี้เหลือเงิ

    Last Updated : 2024-11-26
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 14

    มันเป็นภาพที่ค่อนข้างแปลกตาเมื่อผู้บริหารระดับสูงอย่างอีธานจะถือกาแฟถุงกระดาษเดินเข้าบริษัท คนรวยอย่างนั้นจะมานั่งกินกาแฟถุงละสามสิบอย่างนี้น่ะเหรอ เป็นไปได้ยากเสียยิ่งกว่าหิมะตกเมืองไทยเสียอีกแต่ยังไงล่ะ...ในเมื่ออีธานไม่สนใจ สายตาสู่รู้ก็จะถูกปัดไปให้พ้นทางของเขาตามจริงเขาก็คิดว่ากาแฟนี้ไม่อร่อยหรอก มันออกจะหวานมากไปหน่อย แล้วก็ขม ไม่ค่อยหอมเหมือนกาแฟที่เขากินบ่อยๆ แต่พอกินมันไปสักพักเขาก็ชักจะชินกับรสชาติของมันแล้วคิดว่ามันก็ไม่เลว ไม่ใช่กาแฟพันธฺดี แต่กาแฟก็คือกาแฟ“ที่ท่านให้ผมหามาอยู่ในนี้แล้วนะครับ ส่วนนี้เป็นเอกสารการประชุมที่จะเริ่มตอนสิบโมง” นั่งประจำที่ได้อลันก็นำเอกสารมาวางเรียงไว้บนโต๊ะอย่างมีระเบียบ โดยไม่วายแอบมองกาแฟถุงนั่นด้วยความสงสัย ทว่าความสงสัยของอลันนั้นอยู่ได้แค่ในใจ“ภูริมีผลงานแย่ขนาดนั้นเหรอ” เมื่อไล่สายตาอ่านเอกสารการทำงานของภูริพร้อมกับดูดกาแฟรสเข้มจัด อีธานก็พบว่าภูริไม่ได้ค่าคอมพ์มาเป็นปีแล้ว เนื่องจากทะเลาะกับลูกค้า พิชัยจึงไม่ให้ภูริออกไปเสนอขายให้ใครอีก ส่วนโอที...ในนี้ไม่มีระบุว่าภูริทำโอทีเลยทะเลาะกับลูกค้า...

    Last Updated : 2024-11-27
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 15

    โชคดีของอีธานที่ภูริโทรเข้ามาตอนพักเบลกพอดี ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถสายโทรเข้ามาของอีกฝ่ายได้เนื่องจากติดประชุม แต่ภูริคงไม่รู้หรอกว่าการโทรหาแล้วตัดสายไปทื่อๆ แบบนี้ทำให้อีธานคิดมาก...เขาเนี่ยนะกำลังคิดมากเรื่องโอเมก้าคนนั้น?บ้าเหอะ!อีธานพยายามละทิ้งความคิดอันไร้สาระออกจากหัวแล้วเดินกลับเข้าห้องประชุมอีกครั้ง นี่เป็นงานของเขาและเขาก็ต้องแยกเรื่องส่วนตัวออกจากงานให้ได้ โดยปกติแล้วอีธานแทบจะไม่เคยพกเรื่องตัวเองเข้าที่ทำงานเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งมามีภูรินี่แหละ แต่เขาก็คือเขา...เขาสามารถวางเรื่องภูริเอาไว้หน้าห้องประชุมได้ง่ายดายกว่าจะประชุมบอร์ดผู้บริหารเสร็จก็กินเวลาไปสองชั่วโมง ตอนนี้เที่ยงวันพอดี อีธานเดินออกมาหน้าห้องขณะพูดคุยกับซีอีโอคนอื่น อันที่จริงพวกเขามีนัดทานมื้อเที่ยงด้วยกันแต่อีธานนั้นขอตัวไปเคลียร์งานของตัวเองในห้อง ทว่าความเป็นจริงคือ...อีธานจะไม่ปล่อยให้ความสงสัยของตัวเองนอนนิ่งโดยไม่ได้รับความกระจ่างจนหมดวันแน่นอน“อลัน ไปตามภูริมาที” น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยสั่งคนสนิท“ครับท่าน”​ และอลันก็มีหน้าที่แค่ทำตามเท่านั้น“เอา

    Last Updated : 2024-11-28
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 16

    มื้อเที่ยงกับอีธานเป็นอาหารไทยที่ถูกตกแต่งมาอย่างสวยงาม ดูน่าเอาไว้ท่ายรูปอัปโหลดลงโซเชี่ยลมากกว่าจะเอามากิน แต่เมื่อได้ลิ้มรสเข้าไป ภูริก็คิดว่ารสชาติเขาดีมากเลย เสียดาย บางอย่างติดเผ็ดมากไปหน่อยสำหรับภูริเมื่อทานมื้อเที่ยงกันเสร็จก็ได้เวลาเข้างานพอดี ก็ครึ่งชั่วโมงแรกเล่นกินเนื้อสดกันบนโต๊ะทำงานนี่นะ อีธานไม่เดินไปส่งภูริเพราะอลันเข้ามาพร้อมสูทสำหรับใส่ไปงานเลี้ยง เห็นว่าภูริเหลือบมองนิดหน่อย แต่เจ้าตัวไม่ได้ถามอะไรแค่เดินออกไปเงียบๆ“อีกครึ่งชั่วโมงต้องเดินทางครับท่าน” อลันรายงานเรื่องเวลา“อืม ให้งานภูริหรือยัง”“ผมจัดการแล้วครับ เดี๋ยวเขาต้องออกไปเสนอของให้ลูกค้ารายหนึ่ง ผมให้คนติดตามไปห่างๆ หนึ่งคน” อีธานฟังพลางเซ็นเอกสารที่ทำค้างไว้ตอนภูริเข้ามา“จับตามองเขาในที่ทำงานด้วยนะ” เพราะเกิดเรื่องวันนี้ขึ้น อีธานจึงปล่อยมันไปเฉยๆ ไม่ได้ ไหนจะเรื่องที่ภูริไม่เคยออกไปเสนอขายของให้กับลูกค้า ไหนจะเรื่องโอทีที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้เลย เขาว่ามันน่าสงสัยเกินไป“ได้ครับ” อลันรับคำโดยไม่ถามคำถามใดๆ เขายืนนิ่งอยู่ครึ่งหนึ่งแล้วก็เดินออกไปเมื่ออีธานก้มหน้าอ

    Last Updated : 2024-11-29
  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 17

    ตอนแรกก็กะว่าจะแวะหาอะไรข้างทางไปกินที่ห้องอยู่หรอกนะ แต่ว่าอีธานดันไม่ยอมจอดให้เขาได้ซื้ออะไรไปกินเลยอ่า ทำไมเหยียบคันเร่งรัวๆ แบบนั้นเล่าท่าน ให้ข้าได้หาอะไรยัดใส่ท้องก่อนมิได้หรือยอย่างไร น่าน...หิวจนเพี้ยน“ผมหิวนะ” เห็นว่ามันผ่านร้านอาหารมาเยอะมากแล้ว และภูริก็จะไม่ทน! นี่ไม่ใช่สีทนได้นะครับ“เดี๋ยวสั่งมากินที่ห้องเอา ผมไม่อยากกินข้าวข้างทาง”“สั่งมากิน? ผมเคยเห็นเพื่อนในแผนกสั่งมานะ...น้อยและแพงมาก คุณไม่กินก็ปล่อยผมลงไปซื้ออะไรมากินคนเดียว” จำได้แม่นเลย ไอ้อาหารคลีนอะไรนั่นน่ะ ข้าวจึ๋งหนึ่ง แต่กล่องสามร้อยกว่าบาท โอ้โห...ขอไปซัดข้าวขาหมูจานละห้าสิบบาทดีกว่า ได้ไข่หนึ่งฟองด้วยนะเว้ย“ก็กินด้วยกันนี่แหละ เดี๋ยวผมจ่ายเอง...โอเคไหม” อีธานหันมามองหน้า และเขาก็ปะทะเข้ากับรอยยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยของภูริเข้าเต็มเปา“ดีคร้าบเจ้านาย” หึ...ปากหวานขึ้นมาทันที“เห็นแก่กินเหมือนกันนะคุณเนี่ย”“เรียกว่าแก่ของฟรีดีกว่า” ภูริส่วเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ขำตัวเองนี่แหละเขาไม่ได้หัวเราะเยาะใครหรอกแต่ไอ้การพูดเอง ขำเองมันค่อนข้างจะแปลกประหลาดสำ

    Last Updated : 2024-11-30

Latest chapter

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทส่งท้าย

    บริษัทยายักษ์ใหญ่ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์เรื่องการบริหารจัดการกับเหล่าผู้คนที่แตกต่างด้านเพศสภาพ อีธานถูกยกย่องให้เป็นผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงที่มีทัศนะคติดี มองการไกลและให้ความเท่าเทียมกับอัลฟ่า เบต้า หรือแม้กระทั่งชนชั้นที่ต่ำสุดอย่างโอเมก้า ชื่อของบริษัทถุกยกย่องให้เป็นบริษัทต้นแบบในการบริหารผู้คนที่แตกต่าง และจัดการกับการเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ในสังคมในหน้าสัมภาษณ์ อีธานกล่าวว่า...ทุกชนชั้นล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ละคนมีความสามารถที่อาจจะด้อยกว่ากันบ้างในบางเรื่อง แต่มีเรื่องด้อยก็ต้องมีเรื่องเด่น เพราะงั้นจะแค่มุมด้อยของเขามาตัดสินมันทั้งชนชั้นไม่ได้ คุณต้องมองมันให้เป็นรายบุคคลและเข้าใจถึงธรรชาติของชนชั้นนั้นๆด้วยความเป็นอัลฟ่าระดับสูง รูปร่าง หน้าตาและฐานะ อีธานกลายเป็นที่จับตามองของสาวน้อยสาวใหญ่ ความสุขุมและเบดกายของเขากลบคำที่ว่าผู้บริหารบริษัทยามันต้องเนิร์ด สวมแว่นและดูแก่หงำเหงือกไปอย่างสิ้นเชิงหญิงสาวหรือแม้แต่ชายหนุ่มที่อ่านข่าวนล้วนจับตามองถึงเรื่องคู่ครอง อีธานกล่าวว่าตัวเขานั้นยังไม่มีใคร ยังไม่เจอคู่แท้ และยังไม่เจอคนที่ถูกใจจริงๆ ตอนนี้

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 37 [TheEnd]

    เรื่องราวระหว่างคนสองคนที่เกิดขึ้นด้วยความไม่ได้ตั้งใจเดินทางมาถึงจุดสุดท้าย...แรกเริ่มเดิมทีอีธานก็ไม่ได้ต้องการมีคู่แห่งโชคชะตาอยู่แล้ว การตัดสินใจมันเริ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาสั่งให้ทีมวิจัยค้นคว้าตัวยาเพื่อแก้คู่แท้ วันที่รู้ว่าตัวเองจะมีคู่ครอง...เขาไม่โอเคกับมันจริงๆ ที่ผ่านมาภูริแสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเองไม่ได้แย่ถึงขนาดเป็นคู่ครองของใครไม่ได้ แต่อีธานก็ไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจของตัวเองอยู่ดีอุดมการณ์เขามั่นคงพอๆ กับการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง อีธานไม่ได้รักภูริ เราอยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อนร่วมเตียง มีเซ็กซ์กัน ไปทำงานด้วยกัน กินข้าวเช้า กลางวันเย็นด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน การดูแลเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเรามันเป็นเพียงไมตรีจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งเมื่อหนังผีเรื่องนั้นจบลง อีธานและภูริก้เดินออกมาด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันไป ภูริน่ะตื่นเต้นกับหนัง ดูก็รู้ว่าเขาแฮปปี้กับช่วงเวลาชั่วโมงครึ่งที่ผ่านมามากแค่ไหน เขาไม่ค่อยได้มาดูหนังนี่นะ พอเจอหนังดีโดนใจก็เลยปลื้มปริ่ม แต่คนที่คิดว่าจะพามาตกใจเล่นกลับเอาแต่นั่งกอดเขานิ่ง ไม่สะดุ้งกับหนังเลยแม้แต่นิดเดียว...อีธานมองหน้าภูร

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 36

    “วันนี้เงินเดือนออกหนิ” อีธานเอ่ยขึ้นขณะต่างคนต่างลงจากรถหลังการปรับเปลี่ยนกฎและโยกย้ายตำแหน่งพนักงานได้ไม่กี่วัน ภูริก็กลับมาทำงานทั้งที่ยังไม่หายดี เขามีรอยช้ำอยู่ตามตัวแต่มันก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไร การนอนอยู่ห้องอีธานเฉยๆ คอยทำความสะอาด จัดนู้นจัดนี่แล้วก็ดูทีวีไปวันๆ มันก็ดี แต่เขาก็กลัวว่าเงินเดือนจะไม่พอใช้เลยรีบกลับมาทำงานอีธานไม่พอใจใหญ่เลย ไม่พอใจที่เขาดื้อไม่ฟัง อีธานบอกให้เขารักษาตัวเองให้หายดีก่อน เขาไม่หายดีตรงไหน? ขึ้นโยกได้นี่ก็ถือว่าร่างกายแข็งแรงสุดๆ แล้ว เพราะงั้นคำบ่นอีธานจึงตกไปเมื่อภูริมีเป้าหมายที่ชัดเจนพอกลับมาทำงาน ด้วยไม่มีใครมาขัดขวางเหมือนเมื่อก่อน ภูริจึงออกงานนอกเยอะขึ้น เขาสามารถทำยอดได้เกินเป้าในทุกๆ การขาย ด้วยรอยยิ้ม ด้วยไมตรี เมื่อก่อนภูริขายของเก่งอยู่แล้ว ตอนนี้ได้โชว์ศักยภาพของตัวเองเต็มที่ขึ้นไปอีก ไม่แปลกเลยที่ผลการทำงานในเดือนนี้ของเขาจะดีเกิดคาดไปไกลอีธานยังแปลกใจเลยคิดดูเถอะ ไอ้กระจอกคนนี้ไม่กระจอกนะเว้ย เพื่อปากท้องทั้งสาม ของตัวเอง แม่และน้อง ทำให้ภูริเป็นคนขยัน อืม...เขาขยันเป็นเรื่องปกตินะ เมื่อก่อนก็ขยัน ตอนน

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 35

    ภูริอุ่นอาหาร เทมันใส่จานแล้วก็เอามาเสิร์ฟ ตามด้วยน้ำเปล่าเย็นๆ เป็นการปิดท้ายก่อนเดินมานั่งข้างๆ แล้วเริ่มทานมื้อเที่ยง ภูริไม่ได้ถาม ไม่ได้ชวนคุยอะไร ต่างคนต่างกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันหมดบอกความจริงให้หนึ่งอย่าง...ภูริไม่ได้มารยาทดีแต่โคตรหิว!คือเมื่อเช้ามันตื่นไมไหวก็เลยนอนลากยาวมานี่แหละเที่ยงวัน น้ำท่าก็ไม่อาบ แค่ล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อย กินยาก่อนอาหาร ยาระงับฟีโรโมนแล้วถึงมาอุ่นข้าว ท้องเขาแม่งถือป้ายร้องประท้วงกันเย้วๆ ตอนที่กลิ่นอาหารแม่งลอยออกมาจากตู้อบ อารมณ์แบบ...กินเลยไม่รอร้อนได้ไหมวะ แต่จะให้กินอาหารเย็นๆ มันก็ไม่อร่อย ดังนั้นเพื่อรสชาติที่ดีเขาต้องรออีกนิสสสสแล้วพอกำลังจะอิ่มหนำสำราญใจกับอาหารเที่ยงควบมื้อเช้าอีธานก็ดันโพล่มา ด้วยการเป็นคนดีโลกจดจำ ภูริก็เลยต้องบริการอุ่นและเสิร์ฟอาหารให้เจ้าของห้อง เคยได้ยินไหม อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย ปั้นวัว ปั้นควายให้ลูกท่านเล่นน่ะ แค่อีธานไม่มีลูก ภูริเลยไม่ได้โชว์สกิวปั้นดินที่แสนจะห่วยแตกสมัยเรียนอาจารย์วิชาศิลปะนี่กุมขมับเลยนะ เพราะให้ทำอะไรก็เละเทะไม่มีชิ้นดี

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 34

    เช้าวันนี้อีธานตื่นเร็วกว่าปกติ เขามีการประชุมใหญ่รออยู่ในช่วงเช้าเพราะหัวหน้าของหลายแผนกถูกจับ โดยเฉพาะหัวหน้าแผนกที่มีความสำคัญมากอย่างเซลล์ ซีอีโอบางคนก็หลุดออกจากตำแหน่งไปเตรียมตัวขึ้นศาลข้อหาฉ้อโกงเรียบร้อย เรียกว่าวันนี้งานอีธานค่อนข้างจะเยอะเลยทีเดียว เพราะงั้นจึงสายไม่ได้ร่างสูงค่อยๆ ลุกจากที่นอนเพื่อไม่ให้ภูริตื่น ที่จริงแล้วภูรินอนพื้นนั่นแหละ แต่อีธานอุ้มขึ้นมานอนด้วยกันตอนอีกฝ่ายหลับสนิทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภูริบาดเจ็บอยู่ เขาอยากให้ภูรินอนอย่างสบายบ้างก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆไม่ได้ชอบการนอนกอดภูริเลยแม้แต่นิดเดียว!ก็นะ...นั่นเป็นข้ออ้างที่เขาพยายามยัดมันใส่หัวตัวเอง เพื่อปฏิเสธความรู้สึกที่แท้จริง ภูริทำให้อีธานได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมันก็ใช่ แต่ความตั้งใจเดิมของอีธานไม่ได้เปลี่ยนไป เขายังไม่อยากมีคู่เป็นโอเมก้าอยู่ดีนี่มันอยู่คนละส่วนกับการดูถูกชนชั้นอื่น เป็นแค่ความต้องการส่วนตัวที่ฝังรากลึกมานานเป็นสิบปี ระยะเวลาเหล่านั้นมันพังครืนลงไม่ได้ง่ายนัก ต่อให้อีกฝ่ายจะไม่ให้โอเมก้าแต่กำเนิดก็ตามที“เหวย...วันนี้ตื่นก

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 33

    ปลายกระบอกมือสีเงินแวววาวจรดลงที่ขมับของอัลฟ่าผู้คร่อมทับร่างภูริ อีธานโพล่มาถึงตรงนี้ได้โดยที่คนอื่นไม่รับรู้เลยแม้แต่น้อย เขาปล่อยให้พวกนี้รู้ว่าเขาเข้ามาใกล้ก็ตอนที่เอาปืนจ่อหัวพวกเรียบร้อยพลังควบคุมคนตามธรรมที่อีธานมีนั้นเขาสามารถควบคุมมันได้ จะใช้มากใช้น้อยหรือไม่ใช้เลยเขาก็ทำได้ อย่างตอนเดินเข้ามาก็ไม่ใช้...ค่อยๆ ย่องประชิดเพื่อไม่ให้ใครไหวตัวทัน และตอนนี้เขาก็เริ่มที่จะใช้ความสามารพิเศษทางสายเลือดของตัวเองกดดันพวกปลายแถวเหล่านี้ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบคอเอาไว้ อัลฟ่าชั้นล่างทั้งสี่ต่างไม่กล้าขยับเขยื้อนแม้ว่าจะยังไม่เห็นปืนกระบอกงามในมือของอีธานด้วยซ้ำ ความหวาดกลัวที่เอ่อท้นขึ้นมานี่คงไม่ต่างอะไรกับการยืนเผชิญหน้าจ่าฝูงผู้แข่งแกร่งเท่าไหร่นัก“ลุกออกมา” อีธานเอาปลายกระบอกปืนดันหัวคนที่คร่อมภูริอยู่ มันค่อยๆ ขยับแล้วออกมาคุกเข่าอยู่ข้างๆ ร่างโปร่งพอเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นอีธาน ภูริก้รีบลุกขึ้นยืนอย่างโซซัดโซเซ เข้งขาไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ทั้งยังขวัญหนีดีฟ่อจากการที่โดนจู่โจม นัยน์สีดำคู่นั้นเคลือบไปด้วยหยาดน้ำ...ภูริดึงผ้าที่อุดปากตัวเองออกแล้ว

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 32

    จนแล้วจนรอดอีธานก็ไม่ได้ให้นาฬิกากับภูริ ในเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนไม่คิดอะไรเขาก็จะทำบ้าง พาไปเลี้ยงข้าว กลับบ้านอาบน้ำอาบท่าแล้วก็แยกย้ายกันนอน ซึ่งก่อนนอนก็มักมีกิจกรรมที่เสื้อผ้าไม่เกี่ยวเกิดขึ้นมันเป็นแบบนั้นเสมอ...แล้วก็แยกย้ายกันไปนอนที่ใครที่มันจากแผนที่อีธานขอให้วิชุตาช่วยเหลือ ในที่สุดก็มาถึงได้เสียที หลัจากปล่อยให้เหตุการณ์อันย่ำแย่ในออฟฟิตของเขาดำเนินต่อมาอีกหลายวัน เมื่อวานนี้เงินภูริออก อีธานได้ขอก๊อปปี้สลิปเงินเดือนมาจากอลันภูริมีโอทีแค่ห้าชั่วโมงทั้งที่ทำโอแม่งเกือบทุกวัน ค่าคอมพ์มีแต่น้อยกว่าที่คาด ก็คงไม่มีอะไรให้เถียงสำหรับค่าคอมพ์ ภูริเพิ่งออกงานนอกตอนเลยกลางเดือนมาแล้วและแค่ไม่กี่เจ้าเท่านั้น โดยรวมภูริก็ได้เงินไม่มากอยู่ดีหลังเลิกงานอีธานมีนัดกับวิชุตาเพื่อดูของที่เธอได้รับจากการสั่งซื้อด่วนเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาให้ภูริไปรอที่ห้างสรรสินค้าใกล้ๆ เสร็จธุระแล้วถึงจะไปรับ ภูริเป็ฯคนง่าย...อะไรก็ได้จึงยอมไปไม่ใช่อะไร...มีหนี้ต้องเคลียร์ใบออเดอร์และของอยู่ตรงหน้าเขา ข้างซ้ายมีวิชุตาและข้างขวาเป็นอลัน พวกเขากำลังตรวจสอบนัมเบ

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 31

    ออกมาจากบริษัทตอนเก้าโมงกว่า เจอลูกค้าตอนสิบโมงครึ่งจนตอนนี้เที่ยงสิบห้างานเพิ่งเสร็จ ภูริปิดการขายได้อย่างสวยงามและยอดขายรอบนร้ก็เป็นที่น่าภูมิใจสุดๆ นึกถึงคำพูดอีธานตอนแรกๆ ที่เจอกันขึ้นมาเลยแฮะ ที่หาว่าเขาเป็นคนไร้มารยาท ทำตัวแบบนี้เป็นเซลล์ไดยังไง หึหึ อยากให้มาเห็นผลงานเขาหน่อยจะได้ถอนคำพูดพวกนั้นทิ้งไป เขามีความเป็นนักขายนะเว้ย แต่แค่...เลือกปฏิบัติต่อคนอะนะในห้างสรรพสินค้าที่ลูกค้านัดมานั้นมาของกินเยอะแยะมากมาย เหมือนมีการจัดบูธขายอาหารไทยมากมาย เรียงกันเป็นตับ เห็นแล้วท้องร้องหนักมาก ร้องว่าจะกินจะกินจะกิน ติดอย่าง...ติดเงินภูริได้ค่าน้ำมันมาห้าร้อย เขาเติมทั้งห้าร้อยเลยเพราะว่าใบเสร็จนี่ต้องส่งกลับให้บริษัท เคยได้ยินมาว่ามันโกงค่าน้ำมันได้ อย่างเติมสามร้อยแล้วให้เขาออกใบเสร็จเป็นห้าร้อยแลกกับทิปเล็กๆ น้อยๆ แต่ภูริไม่เคยทำ แค่ได้ยินเขาเล่าๆ กัน ส่วนใบเซอร์นี่ก็โกงได้...แค่อันตรายหน่อยหากโดนจับได้ล่ะนะเรื่องโ​กงกินอะไรพวกนี้ตัดออกไปจากหัวภูริได้เลย สมองเขาคิดแค่จะหมุนเงินยังไงให้มันชนเดือนโดยไม่ต้องไปหยิบยืมใครเขา การเป็นหนี้มันเป็นลาภอันประเสริฐนะ ถ้า

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 30

    คำว่าน้อยใจของภูริมีผลต่ออีธานมากกว่าที่ภูรินึกเอาไว้...พอกลับมาที่ห้องแล้วอีธานก็สั่งให้ภูริไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่สบายๆ สักตัว เป็นชุดนอนปกติของตัวเองก็ได้แล้วมานอนที่เตียง หมอเพิ่งให้กินยาก็ต้องนอนพักผ่อน ซึ่งการที่อีธานให้นอนเตียงเนี่ยทำเอาภูริยืนจ้องหน้าอีกฝ่ายไปเป็นนาที“ผีเข้าปะ?” คิดออกแค่นั้นอีธานทำเหมือนคำพูดของภูริมันไร้สาระเกินกว่าจะตอบ เดินหนีไปอาบน้ำอาบท่าปล่อยให้ภูริเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอน ออกมาก็เจอภูรินอนซุกตัวใต้ผ้าห่ม หลับตาพริ้มดูมีความสุข น่าแปลก...เห็นภูริมีความสุขแล้วอีธกานก็พลอยมีความสุขไปด้วยอีธานขึ้นนอนข้างๆ ภูริ ต่างคนต่างนอนหลับไปทั้งที่มันเพิ่งจะเป็ฯเวลาเที่ยงวัน นอไปนอนมาภูริก็คว้าเอวอีธานมากอด ซุกแขนล่ำๆ นั้นแล้วหลับน้ำลายยืด คนรู้สึกตัวไวแอบลืมตามก่อนจะหลับไปโดยไม่ว่าหรือไล่ให้เอาหน้าออกไปจากแขนตนบ่ายอีธานทำอาหารให้ภูริกิน แต่ภูริอยากจะเอาอาหารเมื่อวานนี้ไปอุ่น ไม่มีคำอธิบายหรอก แล้วก็รู้ว่าอีธานไม่ยอมทำก็เลยเอาเข้าไมโครเวฟเอง เผอิญว่าเตาอบของอีธานนั้นเป็นเตาอบเครื่องใหญ่ ไม่ใช่ไ

DMCA.com Protection Status