“ฮ่าๆ...”จักรพรรดิเหวินหัวเราะเบิกบานใจป็นพิเศษทว่าพวกหยุนเจิงกลับทำหน้าแปลกประหลาดเป่ยหวนไม่เพียงแต่ไม่วุ่นวาย ทั้งยังรวบรวมอำนาจได้อย่างสมบูรณ์สำหรับต้าเฉียนแล้วนี่ไม่ใช่ข่าวดีกระมัง?เหตุใดจักรพรรดิเหวินทรงดีพระทัยเช่นนี้?หรือว่า เขาคิดว่าสตรีอย่างเจียเหยาทำตัวเป็นจักรพรรดิเป็นเรื่องน่าตลกหรือ?“เสด็จพ่อ ท่านกำลังหัวเราะสิ่งใดพ่ะย่ะค่ะ?”เนิ่นนาน หยุนเจิงทนไม่ไหวเอ่ยปากถามจักรพรรดิเหวินหนุมพระวรกายกลับมา จากนั้นก็ตบไหล่หยุนเจิงหนักๆ ตรัสด้วยเสียงหัวเราะ “เจ้ามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเจียเหยาไม่ใช่หรือ? ตามคำพูดของรัชสมัยข้า ต่อไป ประมุขใหญ่เป่ยหวนพบเจ้าแล้ว ก็ต้องเรียกเจ้ามาลุงเขย! ฮ่าๆ...”เมื่อตรัสถึงสิ่งที่น่าตลก จักรพรรดิเหวินทรงอดไม่ได้ที่จะทรงหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง“……”เมื่อได้ฟังคำดำรัสของจักรพรรดิเหวิน ทุกคนล้วนจนใจเกิดสิ่งใดขึ้นระหว่างหยุนเจิงและเจียเหยา นายพลมากมายในซั่วเป่ยรู้ดีก็เป็นแค่สามีภรรยาในนามก็เท่านั้นหรือจักรพรรดิเหวินคิดจะให้เจียเหยามาเป็นลูกสะใภ้ให้ได้?หยุนเจิงฆ่าพ่อและพี่ของเจียเหยาหมดแล้ว!ไม่ว่าเช่นไรเจียเหยาก็ไม่มีทางยอมแต่งงานก
สองวันให้หลัง จักรพรรดิเหวินรีบไปยังชายแดนเว่ยอีกครั้งเวลานี้ สะพานตรงแม่น้ำสาขาของแม่น้ำไป๋สุ่ยที่ชายแดนเว่ยสร้างเสร็จไปแล้วเบื้องต้นจักรพรรดิเหวินฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ฉับพลัน ขี่ม้าไปรอบๆ ทุ่งหญ้ามู่หม่าหนึ่งรอบให้ได้ ทำเอาพวกตู๋กูเช่อเป็นห่วงอย่างมากยังดี จักรพรรดิเหวินไม่ได้หลงระเริงเกินไป เพียงแค่ไปเดินพอเป็นพิธีก็กลับมาแล้วเมื่อรู้ว่าตู้กุยหยวนตายในสนามรบ จักรพรรดิเหวินได้เสด็จไปยังหลุมศพของตู้กุยหยวนและประทับอยู่ด้านหน้าหลุมชั่วครู่ ได้แต่งตั้งตู้กุยหยวนเป็นแม่ทัพตั้งเป่ยขั้นสาม นำฉายาอูเลี่ยที่มอบให้หยุนเจิงไม่สำเร็จ ได้มอบให้กับตู้กุยหยวนแทนแล้ว เพื่อเป็นเกียรติแก่ความสำเร็จของเขาต่อไป จักรพรรดิเหวินเสด็จไปกราบไหว้ที่สุสานผู้พลีชีพที่เหล่าทหารได้หลั่งเลือดสละชีพเพื่อต้าเฉียนสำหรับข้อนี้ ทุกคนไม่คัดค้านจักรพรรดิเหวินเป็นจักรพรรดิของต้าเฉียนไปกราบไหว้ทหารผู้เสียชีวิตเหล่านั้น สำหรับเหล่าทหารผู้เสียชีวิต นับว่าเป็นเกียรติยศต่อให้ตอนนี้พวกเขาไม่อาจเพลิดเพลินกับเกียรติยศได้แล้วก็ตามหยุนเจิงแม้เข้าใจเจตนารมณ์ของจักรพรรดิเหวิน แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางจักรพรรดิเหวินพาท
ดังนั้น ต่อให้เขารู้เป้าหมายจักพรรดิเหวินตั้งแต่แรกเริ่ม เขาก็ไม่ขัดขวางเพียงแต่ไม่รู้ เงินบำนาญและรางวัลที่เสด็จพ่อกล่าวถึง จะเป็นความจริงหรือไม่สีพระพักตร์ของจักรพรรดิเหวินค่อยๆ อบอุ่นขึ้น จากนั้นก็ทรงชี้แผ่นป้ายหิน “กลับไปสั่งให้คนสลักลงแผ่นหินตั้งไว้ที่ประตูทางเข้าสุสานผู้พลีชีพ ผู้พบแผ่นหิน เหมือนดั่งพบข้า! ผู้ใดกล้าขี่ม้าเข้าไป ประหาร!”“พ่ะย่ะค่ะ!”หยุนเจิงรับคำสั่งจักรพรรดิเหวิน “อีกอย่าง ข้าออกเงินส่วนตัว เจ้าส่งคนไปสร้างศาลสักการะบริเวณใกล้ๆ ให้วิญญาณวีรบุรุษเหล่านี้ได้รับการจุดธูปจากชาวบ้าน!”“ก่อนหน้านี้ลูกก็มีแผนการนี้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”หยุนเจิงตอบ “แต่ว่า ลูกวางแผนว่าหลังสบยเป่ยหวนแล้ว ค่อยสั่งให้คนสร้าง!”“ได้ เช่นนั้นทำตามแผนการของเจ้า!”ในเมื่อหยุนเจิงวางแผนแล้ว จักรพรรดิเหวินจึงไม่ตรัสสิ่งใดมากจากนั้น ทุกคนก็ติดตามจักรพรรดิเหวินไปจากสุสานผู้พลีชีพตอนที่กำลังขึ้นไปบนกำแพงชายแดนเว่ย จักรพรรดิเหวินรับสั่งให้ทุกคนถอยไปอีกครั้ง พระองค์เสด็จขึ้นไปบนกำแพงเพียงลำพัง ประทับอยู่บนกำแพงเมืองที่ผุพังขอชายแดนเว่ย ไม่รู้ทรงคิดสิ่งใดอยู่ฉวยโอกาสนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนดึ
สี่วันให้หลัง งานแต่งงานของหยุนเจิงและเยี่ยจื่อจัดขึ้นที่ติ้งเป่ยแม้บอกว่าไม่จัดใหญ่โต ทว่าจัดได้คึกคักยิ่งนักหยุนเจิงเป็นเจ้าบ่าวครั้งที่สอง ภายในใจทั้งดีใจ ทั้งรู้สึกผิดนับดูแล้ว เมี่ยวอินต่างหากที่เป็นผู้หญิงคนแรกของเขาทว่า จวบจนทุกวันนี้เมี่ยวอินยังไม่มีสถานะอย่างเป็นทางการเลยหลังเขาแต่งงานกับเยี่ยจื่อ เมี่ยวอินล้วนไม่เคยโผล่มาเห้อ!ปมระหว่างเมี่ยวอินกับเสด็จพ่อ ไม่มีวันคลี่คลายไปตลอดกาลงานแต่งงานของเมี่ยวอิน มีเพียงเขาต้องชดเชยให้นางภายหลังเท่านั้นเขาต้องมอบงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับนาง!หยุนเจิงสาบานเงียบๆ ในใจเทียบกับงานแต่งของเสิ่นลั่วเยี่ยนแล้ว งานแต่งงานของหยุนเจิงกับเยี่ยจื่อเรียบง่ายกว่ามากไม่มีกำหนดการรับเจ้าสาวใด มีเพียงกราบไว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันฮูหยินเสิ่นในฐานะแม่บุญธรรมนั่งอยู่ตรงนั้น มองดูเยี่ยจื่อผ้าคลุมศีรษะ ภายในใจมีความรู้สึกนับร้อยนางควรค่ากับความใจดีของนาง แล้วก็ควรค่ากับเยี่ยจื่อมีเพียงข้อเดียว คือผิดต่อลูกชายนางเองหน้ามือหลังมือถ้วนเป็นเนื้อ!คนที่ยังมีชีวิต สุดท้ายก็สำคัญกว่าคนที่จากไปแล้ว!หลินเอ๋อร์ หากเจ้าจะโทษ เ
“ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นกัน”เยี่ยจื่อพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็เงยหน้ามองหยุนเจิง “บางที ฝ่าบาทนำราชโองการฉบับนี้เป็น...” “ยังจะเรียกฝ่าบาท?” หยุนเจิงมุมปากยิ้ม “ควรเรียกเสด็จพ่อ”เสด็จพ่อหรือ?เยี่ยจื่อเมื่อได้ฟัง ใบหน้าแดงเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่อยู่เรียกฝ่าบาทมาตั้งหลายปี จู่ๆ ให้เปลี่ยนเป็นเรียกเสด็จพ่อ นางยังไม่ค่อยคุ้นชินเยี่ยจื่อยิ้มด้วยความเขินอาย จากนั้นก็กล่าวอย่างถ่อมตน “เจ้าสังหารประมุขใหญ่เป่ยหวน กอบกู้สามเมืองชายแดน ฝ่าบาทควรพระราชทานรางวัลให้เจ้ามากมาย...”หยุนเจิงรู้ว่าเยี่ยจื่อต้องการกล่าวสิ่งใด จึงยื่นนิ้วมือไปปิดริมฝีปากแดงของเยี่ยจื่อคนงาม กล่าวอย่างจริงจัง “ราชโอกาสการของเสด็จพ่อสำหรับข้าแล้ว เป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่สุดแล้ว!”บางที ในมุมที่เสด็จพ่อยืนอยู่ รางโองการฉบับเดียวทดแทนรางวัลของเขาได้ ได้กำไรอย่างแน่นอนแต่มองจากมุมที่เขายืนอยู่ รางโองการฉบับนี้ เป็นรางวัลที่ดีที่สุดแล้วตำแหน่งขุนนาง?ตำแหน่งซั่วเป่ยเจี๋ยตู้สื่อ พร้อมตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ฝู่กั๋วของเขา ต่อให้ประทานตำแหน่งให้อีก ก็ไม่มีตำแหน่งที่ดีไปกว่านี้แล้ว ทรัพย์สินเงินทอง?เขาสามารถหาเงินเองได้ขอแค่
วันที่สองตอนเช้า หยุนเจิงและเยี่ยจื่อไม่สนใจความอบอุ่น รีบตื่นแต่เช้าไปคาราวะจักรพรรดิจักรพรรดิเหวินในสถานะพ่อ ตรัสทักทายง่ายๆ กับทั้งสองคนไม่กี่ประโยคหลังเสวยอาหารเช้า จักรพรรดิเหวินก็ทรงเสด็จจากไปสามวันให้หลัง พวกหยุนเจิงส่งจักรพรรดิเหวินออกจากด่านเป่ยลู่ส่วนภรรยาและลูกของฉินชีหู่ มาถึงด่านเป่ยลู่แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่หยุนเจิงได้พบลูกสาวลูกชายของฉินชีหู่ ครั้งนั้นที่ดื่มสุราที่บ้านตระกูลฉิน เขาไม่ได้พบภรรยาและลูกของฉินชีหู่ลูกสาวหนึ่ง ลูกชายสองลูกสาวของฉินชีหู่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเสิ่นเนี่ยนฉือ แล้วก็ลูกชายที่ยังเล็กสองคน ดูไปแล้วคงอายุไม่ถึงสามขวบ ดูเหมือนฝาแฝด แต่กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิงคนหนึ่งหน้าตานิสัยดุดัน อีกครั้งใบหน้าสะอาดหมดจดมองดูเหล่าลูกชายของฉินชีหู่ หยุนเจิงอดไม่ได้ที่จะนึกเลื่อมใสในใจเจ้าฉินชีหู่ นอนอยู่บ้านในปีนั้น เอาแต่ผลิตลูก!จักรพรรดิเหวินเดินมาข้างหน้า อุ้มลูกชายคนเล็กหน้าตาสะอาดหมดจดในสายตาเด็กน้อย จักรพรรดิเหวินไม่ใช่จักรพรรดิจักรพรรดิเหวินทรงเพิ่งอุ้มเด็กน้อย เด็กน้อยก็เอื้อมมือไปคว้าเคราของจักรพรรดิเหวิน“เจ้าตัวเล็ก อยู่นิ่งหน่อ
จักรพรรดิเหวินถามหยุนเจิงอีกครั้ง“นี่...”หยุนเจิงกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น “นี่คงไม่ใช่...ลูกชายของพี่ใหญ่กระมัง?”ท่าทางของจักรพรรดิเหวินและฉินชีหู่ที่มีต่อเด็กคนนี้ ผิดปกติจริงแท้บวกกับเด็กคนนี้เรียกเขาเช่นนี้ หยุนเจิงคิดถึงได้เพียงรัชทายาทองค์ก่อน“อื้ม”จักรพรรดิเหวินพยักพระพักตร์ ถอนพระทัยเบาๆ “พี่ใหญ่เจ้ามีลูกชายสองหญิงหนึ่ง ข้ามาทันได้ช่วยเด็กชายคนนี้...” กล่าวจบ จักรพรรดิเหวินค่อยๆ ตรัสเล่าความจริงออกมาหนึงปีก่อน รัชทายาทองค์ก่อนก่อกบฏล้มเหลว จึงฆ่าตัวตายด้วยความจนใจไม่ว่ารัชทยาทองค์ก่อนถูกตราหน้าว่าก่อกบฏหรือไม่ หรือว่าเขามีใจคิดก่อกบฏจริง ขอเพียงเขายกทัพ เรื่องนี้ก็ไม่มีที่ว่างให้ถอยกลับแล้วจักรพรรดิเหวินอยากจะรักษาลูกชายสองคนกับลูกสาวหนึ่งคนของรัชทยาทองค์ก่อน ทว่าไม่อาจทำได้เปิดเผย ทำได้เพียงแอบส่งคนไปช่วยเวลานั้น พระชายารัชทายาทองค์ก่อนได้พาลูกๆ ไปยังบ้านมารดาเมื่อรู้ข่าวรัชทายาทองค์ก่อนพ่ายแพ้และฆ่าตัวตาย พระชายารัชทายาทองค์ก็รู้ว่าครอบครัวคงหลบไม่พ้นคราวเคราะห์ ตอนที่ไปล้อมป้อมเมืองอวี่หลิน จึงจุดไปเผาจวน ตั้งใจพาลูกชายสองลูกสาวหนึ่งของรัชทายาทองค์ก่อนติ
จักรพรรดิเหวินมอบหมายเรื่องมากมายให้หยุนเจิง จากนั้นถึงเสด็จตามหยุนเจิงออกจากห้องหลังส่งจักรพรรดิเหวินออกจากด่านเป่ยลู่ ฉินชีหู่กล่าวขอบพระทัยจักรพรรดิเหวินอีกครั้ง“อย่ามาใช้ลูกไม้นี้กับข้า!”จักรพรรดิเหวินถีบฉินชีหู่ด้วยความหงุดหงิด กล่าวด้วยสีพระพักตร์เคร่งขรึม “ข้าช่วยขจัดความกังวลด้านหลังให้เจ้าแล้ว เจ้าช่วยเจ้าหกตีเป่ยหวนให้ดี! พวกสารเลวอย่างเจ้าสองคนหากยังไม่อาจตีเป่ยหวนจนศิโรราบ ข้าจะทำให้พวกเจ้าศิโรราบ!”“พ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสองคนรับคำสั่ง“ไสหัวกลับไปเถอะ!”จักรพรรดิเหวินโบกมือให้ทั้งสองคนด้วยความรำคาญ “ข้าอยู่ที่เมืองจักรพรรดิ รอข่าวดีจากพวกเจ้า!”ตรัสจบ จักรพรรดิไม่อยากตรัสไร้สาระกับพวกเขาอีก ทรงพลิกตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วพวกโจวไต้ทำความเคารพหยุนเจิงอย่างรีบง่าย จากนั้นก็พลิกตัวขึ้นหลังม้าอย่างรวดเร็วไม่นาน จักรพรรดิเหวินพาเหล่าราชองรักษ์ออกเดินทางมองจักรพรรดิเหวินที่จากไปไกล ทุกคนโค้งคำนับอีกครั้ง“พี่ใหญ่ฉิน จากด่านเป่ยลู่ปรับย้ายทหารและม้าหนึ่งหมื่นไปยังแนวหน้า เจ้านำทัพไปแนวหน้า ก็ถือโอกาสพาลูกและภรรยาของเจ้ากลับติ้งเป่ย ข้าไปรับเมี่ยวอิน!” หยุนเจิงหลังจากสั่ง