มันเทศ เป็นอาหารช่วยชีวิตในยามแห้งแล้ง!“ห๊า?”ฉินชีหู่สับสนนี่นับว่าเป็นผลงานใหญ่แล้ว?หยุนเจิงไม่สนใจจะอธิบายกับฉินชีหู่ รีบเรียกอวี๋ซื่อจงมา “เร็ว สั่งคนไปขุดของพวกนี้ออกมาให้หมด! ใช่แล้ว ตอนที่บรรจุ ต้องบรรจุดินเข้าไปด้วย อย่าให้ถูกความเย็นจนเน่าเสีย! เร็ว!”หยุนเจิงตื่นเต้นมากมารดาเขาสิ!นี่สิคือของดีที่แท้จริง!เจียเหยาสตรีผู้นี้ นึกไม่ถึงว่าจะแอบปลูกมันเทศ?นางคิดจะใช้มันเทศมาคลี่คลายวิกฤตขาดแคลนเสบียงของเป่ยหวนหรือ?ครอบครัวคนอื่นขุดมันฝรั่งที่ไซบีเรีย นางกลับปลูกมันเทศที่ซีบีเรียยังดีที่เขาพบแล้ว!เอาไป เอาไปให้หมด!มันเทศสักลูกก็ไม่เหลือทิ้งไว้ให้นาง!แต่ว่า ผลผลิตของสิ่งนี้ในทางเหนือคงสู้ผลผลิตของทางใต้ได้กระมัง?ช่างมันแล้ว!ต่อให้แย่เพียงใดก็ยังให้ผลผลิตสูงกว่าข้าวสาลี!“นี่มันคือสิ่งใดกันแน่? ทำให้เจ้าดีใจเพียงนี้!”เสิ่นลั่วเยี่ยนมองหยุนเจิงด้วยความสงสัยพวกเขาโจมตีชนเผ่าหลายแห่งก่อนหน้านี้ ยึดม้าศึกมามากมาย ไม่เห็นหยุนเจิงตื่นเต้นเช่นนี้!ก็แค่ของดำปี๋ชิ้นหนึ่ง ทำให้หยุนเจิงตื่นเต้นได้เพียงนี้แล้ว?“สมบัติ มันคือสมบัติแน่นอน!”หยุนเจิงข่มความตื
เช้าวันที่สอง พวกหยุนเจิงนำทหารถอนทัพครั้งนี้พวกเขาโจมตีชนเผ่าของเป่ยหวนทั้งหมดสี่แห่ง ทั้งยังเอาชนะกองกำลังเจียเจียปู้ด้วยยึดม้าศึกได้จำนวนมหาศาลตอนนี้พวกเขาสามารถทำได้ถึงหนึ่งคนขี่ม้าสองตัว ยังมีคนจำนวนน้อยสามารถหนึ่งคนขี่ม้าสามตัวพวเขาเพิ่งจากไปไม่ถึงสองชั่วยาม เจียเหยานำกองทหารม้าชั้นยอดหนึ่งหมื่นมาถึงยังชนเผ่าของตนเอง“รีบปล่อยคน!”เจียเหยาสั่งหนึ่งประโยค ไม่สนใจไปตรวจสอบความเสียหายของชนเผา แต่รีบควบม้าไปยังแปลงดินที่เพาะปลูกมันเทศดินของนางทันทีนางภาวนาในใจไม่หยุด ภาวนาขอให้พวกหยุนเจิงไม่ถูกตาต้องใจของในดินเหล่านี้ภาวนาขอให้หยุนเจิงไม่มีนิสัยดับความหวังของคนถึงเพียงนั้นไม่นาน เจียเหยามาถึงยังที่ดินที่ปลูกมันเทศดินของนางเมื่อเห็นที่ดินถูกขุดจนเละเทะไปทั้งผืน เจียเหยาเหมือนถูกฟ้าฝ่า เกือบร่วงหล่นจากหลังม้าหลังพยายามควบคุมสติอย่างหนัก เจียเหยารีบร้อนกระโดดลงหลังม้า วิ่งโซซัดโซเซไปยังที่ดินเละเทะไปทั้งผืนหญ้าที่ปกคลุมอยู่บนดินเหล่านั้นล้วนกระจัดกระจายเป็นหย่อมๆ อยู่ด้านข้าง ดินถูกพลิกขึ้นมาราวกับถูกสุนัขขุดเจียเหยาทรุดลงไปกับพื้น ปัดดินโคลนด้วยความกระวนกระวาย ต
พวกเขาสูญเสียอย่างหนักแล้ว หากเสบียงเหล่านั้นถูกเผาทิ้งอีก พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหนีไปทางด้านหลังแล้วไม่ได้!เวลานี้ นางไม่อาจถูกหยุนเจิงจูงจมูกเดินได้อีกต่อไปแล้ว!เจียเหยาพยายามสูดหายใจลึก จากนั้นกัดคำรามเสียงต่ำ “นอกจากเหลือคนทิ้งไว้หนึ่งร้อยคน ทั้งหมดไปกับข้า!”กล่าวจบ เจียเหยาขี่ม้าออกไปทันทีนางตอนนี้ไม่ได้คิดจะไปสังหารหนึ่งหมื่นกว่าคนของหยุนเจิงให้ราบคราบสิ้นซากนางแค่อยากไล่ตามไปเท่านั้น!ต่อให้ต้องบังคับพวกหยุนเจิงที่กำลังหลบหนีให้ทิ้งมันเทศดินเหล่านั้นไว้ก็ตามขอแค่หยุนเจิงทิ้งมันเทศดินเหลือไว้ให้นาง ต่อให้ต้องมองดูพวกหยุนเจิงจากไปต่อหน้าต่อตา นางก็ยินดี!ไม่นาน เจียเหยานำกองทัพหนึ่งหมื่นออกเดินทางไม่หยุดบนทุ่งหญ้า ต้องการหากองทัพของพวกเขาหยุนเจิงให้เจอนั้นง่ายดายแค่ตามรอยเท้ามาไปตลอดทางก็สามารถหาเจอแล้วเพื่อไล่ตามพวกหยุนเจิง เจียเหยาไม่สนใจม้าศึกม้าศึกที่ต้องเดินทางไกลว่าท้องหิวหรือไม่ เร่งเดินทัพไปตลอดทาง ระหว่างทางเปลี่ยนม้าไม่หยุด รับประกันว่าม้าศึกที่บรรทุกคนนั้นได้พักผ่อนหลังไล่ตามสองชั่วยาม ในที่สุดสายสืบก็พบร่องรอยกองทัพของพวกหยุนเจิงเวล
เจ้าจับไว้ไม่อยู่ ยกให้ข้าดีกว่า!คำพูดหนึ่งประโยคของหยุนเจิง จุดไฟโทสะของเจียเหยาขึ้นมาในชั่วพริบตา“หยุนเจิง!”ดวงตาทั้งสองของเจียเหยาเต็มไปด้วยไฟโทสะ คำรามต่ำด้วยแรงอาฆาตเข้มข้น “ข้าไม่อยากเสียเวลาพูดไร้สาระกับเจ้า! หากเจ้าไม่ทิ้งมันเทศดินเอาไว้ ต่อให้กองทัพข้าต้องพังย่อยยับ ก็ต้องเก็บเจ้าเอาไว้ในอยู่บนแผ่นดินเป่ยหวนข้าตลอดไป!”ไฟโทสะไร้สิ้นสุดของจเจียเหยาถูกจุดขึ้นแล้วเจียเหยารู้ พวกเขามากันด้วยความเร็ว กำลังรบจึงลดลง หากต้องปะทะกับพวกหยุนเจิง ทหารม้าหนึ่งหมื่นของนาง ไม่ได้มีความมั่นใจสิบส่วนว่าจะจัดกการทหารม้าของพวกหยุนเจิงได้แต่ตอนนี้นางไม่สนใจสิ่งใดมากมายแล้วนางจำเป็นต้องแย่งมันเทศดินกลับมา!สู้กับต้าเฉียนจนถึงตอนนี้ เป่ยหวนพลังแคว้นเสียหายอย่างหนักการเพราะปลูกมันเทศดินที่ให้ผลผลิตสูงน่ามหัศจรรย์เป็นบริเวณกว้าง สามารถฟื้นฟูพลังแคว้นเป่ยหวนได้อย่างรวดเร็วมีเพียงต้องฟื้นฟูพลัง จึงสามารถไปหาต้าเฉียนเพื่อล้างความอัปยศได้!“ขอแค่เจ้ากล้าทำสงคราม ข้าก็ทำเป็นเพื่อนเจ้าให้ถึงที่สุด!”นัยน์ตาหยุนเจิงไหววูบแววเย็นชา ร้องตะโกนถาม “เหล่าชายชาตรีต้าเฉียน กล้าสู้กับทหารม้าเป่
“ดำปี๋ทั้งแถบ มองไม่ชัด แต่อย่างน้อยมีคนนับหมื่น!”สายสืบตอบอย่างรีบร้อนคนนับหมื่น?ในใจเจียเหยาเศร้าโศกแค่ต่อกรกับกองทหารม้าของพวกหยุนเจิง นางยังไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะเลยตอนนี้กองหนุนนับหมื่นมาถึงอีก?เจียเหยากำหมัดแน่น ตัวสั่นไม่หยุดเนิ่นนาน เจียเหยาปล่อยมือลงอย่างห่อเหี่ยว คำรามด้วยความโศกเศร้า “กองทัพ...ล่าถอย!”ตอนที่กล่าวคำว่า “ล่าถอย” ออกมา เจียเหยาแทบกระอักเลือดมันเทศดินเหล่านั้น ถูกกำหนดว่านำกลับมาไม่ได้แล้ว!หยุนเจิง!บัญชีนี้ ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าไม่ช้าก็เร็ว!เจียเหยาถอยทัพอย่างรวดเร็วด้วยใจที่ไม่ยินยอมระหว่างที่ล่าถอย เจียเหยายังไม่ลืมหันหัวกลับมา มองหยุนเจิงด้วยความเครียดแค้นจากที่ไกลๆแม้จะเห็นใบหน้าของหยุนเจิงไม่ชัด แต่นางแทบจะล็อกสายตาไว้ที่หยุนเจิงที่อยู่หน้าขบวน“เห้อ นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะล่าถอยแล้ว?”มองดูทหารม้าเป่ยหวนที่ล่าถอยราวกับกระแสน้ำ เสิ่นลั่วเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดปกติพวกเขาเตรียมจะที่จะสู้ตายในสนามรบแล้ว นึกไม่ถึงว่ากองทัพศัตรูจะถอยแล้ว?หยุนเจิงรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งเจียเหยาไม่ใช่เล่นถึงชีวิตหรือ?เหตุใดจู่ๆ ก็ถอยแล้วล่ะ
ท้องฟ้ายามใกล้ค่ำ ในที่สุดตู๋กูเช่อก็นำกำลังมารวมกับพวกหยุนเจิงตู๋กูเช่อเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกหยุนเจิง รีบระดมทหารม้าหนึ่งหมื่นคน ออกเดินทางด้วยสัมภาระเบา ตอนที่หยุดพักผ่อนไม่กี่ชั่วยามที่ชายแดนชิง ฟ้ายังไม่สว่าง พวกเขาแบกสัมภาระเบาเดินหน้าไปสนับสนุนพวกหยุนเจิงเมื่อเข้าใจสถานการณ์แล้ว หยุนเจิงถามทันที “พวกเจ้าพบทหารบาดเจ็บที่พวกเราส่งกลับไปเหล่านั้นหรือไม่?”“พบแล้ว”ตู๋กูเช่อตอบ “ท่านอ๋องวางใจ พวกเราเป็นแค่กองทัพหน้าเท่านั้น ด้านหลังยังมีกองทัพใหญ่ตามมาทางนี้ ข้าสั่งคนไปบอกคนข้างหลังให้รับพวกเขาแล้ว”“เช่นนั้นก็ดี!”หยุนเจิงถอยหายใจด้วยความโล่งอกเขากลัวว่าทหารเหล่านั้นจะถูกศัตรูจับไป!ในเมื่อต้องเคลือนไหวในถิ่นศัตรู หากกล่าวว่าไม่กังวลปัญหานี้เลยสักนิดนั้น ไม่เป็นไม่ได้เลยตู๋กูเช่อหัวเราะ จากนั้นก็กล่าว “ใช่แล้ว ท่านอ๋อง พวกเราได้รับข่าว ทางด้านโย่วเสียนอ๋องโปหลวนเหมือนจะมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ตอนนี้ไม่รู้สถานการณ์ทางนั้นว่าเกิดเรื่องใดกันแน่”กองกำลังโปปลวนมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ?หยุนเจิงครุนคิดเงียบๆ จากนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย “โปหลวนอาจได้รับข่าวที่เจียเหยาบังคับสยบช
เป่ยหวนตอนนี้ไม่ต้องป้องกันอันตรายจากธรรมชาติ ภายในก็ยังเกิดปัญหาด้วยด้วยสถานการณ์เช่นนี้ หากเป่ยหวนยังไม่ล่าถอย พวกเขาก็สามารถหาโอกาสบุกไปได้ตลอดเวลา วันนี้ฆ่าชนเผ่านี้ พรุ่งนี้ฆ่าอีกชนเผ่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เป่ยหวนก็จะอ่อนแอลงเรื่อยๆตอนนี้ แม้พวกเขาจะทิ้งพี่ดินไป แต่อย่างน้อยคนกับปศุสัตว์ยังอยู่นี่เป็นปัญหาตามสภาพความเป็นจริงคนอยู่ไร้บ้าน คนและบ้านยังอยู่มีบ้านไร้คน เสียทั้งคนทั้งบ้านผู้หญิงคนนี้ มองเรื่องราวได้ละเอียดลึกซึ้ง!เปลี่ยนเป็นคนอื่น คงไม่มีจิตวิญญาณกล้าหาญมากมายเช่นนางเจียเหยาเริ่มล่าถอยแล้ว ทางด้านจั่วเสียนอ๋อง ตอนนี้คงไม่มีปัญหาใดมากแล้วได้!ขอแค่ตั้งใจไปจัดการโปหลวนก็พอแล้ว!หยุนเจิงขบคิดเงียบๆ ออกคำสั่งกองทัพหยุดพักทันที เช้าตรู่พรุ่งนี้ ออกเคลื่อนทัพไปยังชายแดนเว่ย!อีกทั้งทหารบาดเจ็บเหล่านี้ ต้องเอามันเทศและคนบาดเจ็บสาหัสกลับไปด้านหลังหลังออกคำสั่งเสร็จ หยุนเจิงสั่งตู้กุยหยวน “พรุ่งนี้ เจ้านำกองทหารโลหิตไปตรวจสอบพื้นที่ที่พบป่าพรุ ดูว่าชนเผ่าโดยรอบอพยพออกไปหมดแล้วหรือไม่! หลังตรวจสอบชัดเจน ค่อยกลับมารวมตัวกับพวกเราที่ชายแดนเว่ย!”พวกเจียเห
เที่ยงของวันที่สองหยุนเจิงนำกองทัพสามหมื่นคุ้มกันส่งเสบียงเข้าประจำการที่ชายแดนเว่ย คนของนักรบภูตสิบแปดพาชาวเป่ยหวนหลายคนที่สภาพจนตรอกมาหาพวกเขาทุกคนล้วนเลือดย้อมไปทั่วตัว บนตัวยังมีบาดแผลเห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่านการต่อสู้นองเลือดมา“นี่มันเรื่องใดกัน? พวกเขาเป็นใคร?”หยุนเจิงถามภูตเก้าตอบทันที “องค์ชาย ท่านนี้คือโย่วเสียนอ๋องโปหลวนแห่งเป่ยหวน ตอนที่พวกเราแทรกแซงเข้าไปในทุ่งหญ้ามู่หม่า พบพวกเขาที่ถูกทหารม้านับร้อยไล่ตามล่าโดยบังเอิญ พวกเราช่วยเขากำจัดทหารไล่ตาม โย่วเสียนอ๋องรู้ตัวตนของพวกเรา จึงขอร้องพวกเราให้พาพวกเขากลับมาพบท่านอ๋อง...”“ข้าโปหลวน คาราวะท่านอ๋อง!”ภูตเก้าเพิ่งกล่าวจบ โปหลวนผมเผ้าพะรุงพะรังรีบกระโดดขึ้นมาทำความเคารพหยุนเจิงโปหลวนคุกเข่าข้างเดียว มือขวาวางไว้ตำแหน่งหัวใจในเป่ยหวน นี่นับว่าเป็นการทำความเคารพสูงสุดแล้วการทำความเคารพที่สูงกว่านี้ ก็คือการกราบแล้วนอนราบไปกับพื้นแล้วแต่ว่า นั่นเป็นการทำความเคารพบูชาสวรรค์และบรรพบุรุษเมื่อเห็นการทำความเคารพของโปหลวน ทหารคนสนิทที่เหลือพากันทำความเคารพตามโปหลวนหยุนเจิงกระโดดลงหลังม้า มองประเมินโปหลวนตั้งแต่
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่