Share

บทที่ 3

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update Last Updated: 2024-01-31 11:43:56
ภายในตำหนัก จักรพรรดิเหวินเรียกเหล่าขุนนางมารวมตัวกันด่วนเพื่อหารือรับมือเรื่องเป่ยหวนขอเสบียงอาหาร

ณ ตอนนี้จักรพรรดิเหวินกำลังปวดเศียรเวียนเกล้าเป็นอย่างยิ่ง

หากมอบเสบียงให้เป่ยหวน ก็เท่ากับว่าสนับสนุนศัตรูของแคว้นต้าเฉียน

แต่หากไม่มอบเสบียงให้ เป่ยหวนก็ไม่มีทางรอดในเหมันตฤดูที่จะมาถึง และต้องลงทางใต้เพื่อปล้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อถึงตอนนั้น ทางเหนือที่กำลังทำการฟื้นฟูมาเป็นเวลาหลายปี คงต้องเข้าสู่สงครามอันวุ่นวายอีกครั้ง

แคว้นต้าเฉียนเพิ่งจะประสบกับแผนการก่อกบฏขององค์รัชทายาท ศึกภายในยังไม่นิ่ง

ตอนนี้หากต้องทำศึกกับเป่ยหวน โอกาสชนะมีน้อยมาก

และแม้ว่าจะชนะ ก็เกรงว่าจะเป็นชัยชนะที่น่าสังเวช

และในขณะที่จักรพรรดิเหวินกำลังปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่นั้น ฝ่ายสงครามกับฝ่ายสันติก็กำลังโต้เถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสันติมีความได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด

จักรพรรดิเหวินฟังการโต้เถียงนี้จนปวดเศียรเวียนเกล้า อีกทั้งยังไม่อาจได้

และในตอนนี้เอง ซูเฟยร้องห่มร้องไห้เดินพรวดพราดเข้ามาโดยไม่สนการขัดขวางขององครักษ์ที่อยู่ด้านหน้าตำหนักแต่อย่างใดเลย “ฝ่าบาท ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับลี่เออร์ด้วยเพคะ! ฮือๆๆ…”

“ค่อกๆ…”

จักรพรรดิเหวินส่งเสียงไอค่อกแค่ก ส่งสายตาให้กับซูเฟย “ข้ากำลังหารือเรื่องสำคัญกับเหล่าขุนนางอยู่ ซูเฟยกลับไปก่อน มีเรื่องอันใดค่อยว่ากันทีหลัง!”

ซูเฟยไม่เพียงแต่จะไม่กลับไป แต่ยังส่งเสียงร้องห่มร้องไห้ดังลั่นกว่าเดิมอีก “ฝ่าบาท หยุนเจิงถีบจุดสำคัญของลี่เออร์ ดีไม่ดีลี่เออร์อาจจะเป็นบุรุษไม่ได้ด้วยซ้ำ! ฮือๆๆ…”

“ว่าอย่างไรนะ?”

สีหน้าของจักรพรรดิเหวินพลันเปลี่ยนไป เขากำลังจะปล่อยโทสะออกมา แต่จู่ๆ ก็สงบนิ่งลง

จากนั้นไม่นานจักรพรรดิเหวินก็หัวเราะพลางกล่าวว่า “ซูเฟยอย่าได้กล่าววาจาเหลวไหลไปเลย นิสัยของเจ้าหกเป็นเช่นไร ข้าย่อมรู้ดี! เขาไม่กล้าทำเช่นนั้นหรอก!”

จิงกั๋วกงก็ออกมาหัวเราะเหอะๆ ก่อนจะกล่าวว่า “แม่นางซูเฟย ฝ่าบาทมีราชกิจต้องทำมากมาย อย่าได้กล่าววาจาล้อเล่นเช่นนี้เลย! องค์ชายหกเป็นคนซื่อสัตย์นิสัยดี จะกระทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?”

ซื่อสัตย์นิสัยดีอย่างนั้นหรือ คงเป็นเพียงแค่คำพูดรื่นหูให้ดูดีนะสิไม่ว่า

องค์ชายหกเป็นคนอ่อนแอ ขี้ขลาด เป็นคนไร้ความสามารถ!

ซูเฟยตกตะลึงนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมาอีก

จักรพรรดิเหวินไม่เชื่อคำพูดของนาง แม้แต่พี่ชายตัวเองแท้ๆ ก็ไม่เชื่อ

แต่สิ่งที่นางพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!

และในตอนนี้เอง องครักษ์ด้านนอกตำหนักก็เข้ามารายงานว่า “กราบทูลฝ่าบาท องค์ชายหกมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ!”

เจ้าหกรึ?

จักรพรรดิเหวินตกใจเล็กน้อยจึงกล่าวถามว่า “เขามาด้วยเหตุอันใด?”

องครักษ์ก้มหน้า กราบทูลด้วยความประหม่าเล็กน้อยว่า “องค์ชายหกบอกว่าองค์ชายหกถีบจุดสำคัญขององค์ชายสาม จึงมาขอรับโทษพ่ะย่ะค่ะ…”

เมื่อได้ยินคำพูดขององครักษ์ เหล่าขุนนางต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น

เป็นไปได้อย่างไร?

องค์ชายหกเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ไร้ความสามารถ เขาจะกล้าทำร้ายร่างกายจุดสำคัญขององค์ชายสามจริงๆ หรือ?

จักรพรรดิเหวินเองก็ตกใจเมื่อได้ยินการกราบทูลขององครักษ์ สีหน้าเขาพลันเปลี่ยนไปอีกครา และตะคอกองครักษ์ด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ไปเอาตัวลูกไม่รักดีเข้ามาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

ไม่นานนักหยุนเจิงก็ถูกนำตัวเข้ามาในตำหนัก

หยุนเจิงมองหน้าเสด็จพ่อจำเป็นผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรอย่างพิจารณา

ยังใช้ได้ แม้จะอายุห้าสิบกว่าแล้ว แต่ก็ถือว่ายังไม่ได้แก่มาก

ไม่เหมือนกับประวัติศาสตร์ที่เขารู้มา คราขึ้นครองราชย์ ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ต้าเฉียนก็จะแต่งตั้งตำแหน่งให้ตนเองเพื่อยกย่องยศฐาบรรดาศักดิ์

และยศฐาบรรดาศักดิ์ของหยุนเกิงผู้นี้ก็คือจักรพรรดิเหวินนั่นเอง

“เจ้าลูกไม่รักดี!”

จักรพรรดิเหวินจ้องมองหยุนเจิงด้วยแววตาอันแผดเผาร้อนดั่งไฟสุมด้วยความโกรธ “นี่เจ้าเตะจุดสำคัญของพี่สามของเจ้าจริงๆ อย่างนั้นหรือ?”

จนถึงตอนนี้แล้วจักรพรรดิเหวินก็ยังไม่เชื่อในความจริงนี้

โดยปกติแล้วเจ้าหกไม่กล้าแม้แต่จะพูดจาเสียงดัง แล้วจะทำร้ายพี่ชายของเขาได้อย่างไรกันเล่า?

“พ่ะย่ะค่ะ!”

หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ

เมื่อได้คำตอบที่แน่ชัดแล้ว สีหน้าของจักรพรรดิเหวินก็ย่ำแย่ขึ้นมาทันที

“เจ้าลูกทรพี นี่เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับพี่สามของเจ้าได้อย่างไร?”

จักรพรรดิเหวินจ้องมองด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และตะคอกว่า “เจ้าก็รู้ ว่าสิ่งที่ข้าไม่ชอบที่สุดก็คือการเห็นพวกเจ้าพิการ”

สีหน้าของสวีสือฝู่เย็นยะเยือกขึ้น เขาโค้งคำนับพลางกล่าวว่า “กระหม่อมคิดว่า องตค์ชายหกไม่เห็นพี่น้องอยู่ในสายตา แม้แต่กับองค์ชายสามยังทำร้ายได้ ปล่อยผ่านไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ! ได้โปรดฝ่าบาททรงถอดยศฐาบรรดาศักดิ์ขององค์ชายหกให้เป็นสามัญชนด้วยพ่ะย่ะค่ะ เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”

เขาเป็นถึงลุงของหยุนลี่!

หยุนลี่เสียหายด้วยน้ำมือของหยุนเจิง จะให้เขาปล่อยหยุนเจิงไปได้อย่างไร?

“นึกไม่ถึงเลยว่าองค์ชายหกจะกล้าลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับองค์ชายสามเช่นนี้ โทษนี้ไม่อาจอภัยได้!”

“ฝ่าบาทเพิ่งจะขึ้นครองราชย์ พระองค์จะลงโทษเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์อย่างรุนแรงเช่นนี้ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ ไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ”

“ได้โปรดฝ่าบาทถอดยศฐานบรรดาศักดิ์ขององค์ชายหกให้เป็นสามัญชนด้วยพ่ะย่ะค่ะ เพื่อเป็นการตักเตือนผู้อื่นไม่ให้เอาเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ”

“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ…”

คำพูดของสวีสือฝู่สะท้อนให้เห็นทันทีว่าองค์ชายสามมีพรรคมีพวก

ทุกคนต่างพากันร้องขอให้จักรพรรดิเหวินถอดยศฐาบรรดาศักดิ์ให้หยุนเจิงเป็นคนธรรมดา

แม้แต่เหล่าขุนนางที่มิได้เอ่ยปากกล่าวแต่อย่างใด แต่ก็ยังมองเขาด้วยสายตาเย็นชาอยู่ข้างๆ

ในตำหนักใหญ่แห่งนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีใครช่วยพูดแทนหยุนเจิงแม้แต่คนเดียว

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของคนเหล่านี้ หยุนเจิงก็อดที่จะชื่นชมการตัดสินใจของตัวเองไม่ได้

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 4

    หากไม่หนีจะอยู่ทำหอกอันใดในวังหลวงล่ะ?หากอยู่ในวังหลวงต่อ ก็ต้องถูกฆ่าตายเป็นแน่!หนี!ต้องหนี!สายตาของจักรพรรดิเหวินดุดันขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา จ้องมองหยุนเจิงพลางกล่าว “เจ้าลูกทรพี เหตุใดเจ้าถึงไม่พูด เราจะให้เจ้าพูด ให้โอกาสเจ้าอธิบาย!”หยุนเจิงรับกับความโกรธโค้งคำนับพลางกล่าว “ลูกไม่อยากอธิบายพ่ะย่ะค่ะ และไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายด้วย! ไม่ว่าอย่างไร ลูกก็บังอาจทำร้ายพี่สามเช่นนั้น ไปแล้ว! ลูกยอมรับโทษพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยอนคำพูดนี้ของหยุนเจิง สวีสือฝู่ก็อดที่จะทำเสียงเหอะๆ อยู่ในใจไม่ได้ สวะไร้ประโยชน์ก็ยังเป็นสวะไร้ประโยชน์อยู่วันยังค่ำ!ให้โอกาสไปแล้วก็ไม่ใช้ทว่า ต่อให้ให้โอกาสคนไร้ประโยชน์อธิบายมันก็ไร้ค่าอยู่ดี!เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ให้จักรพรรดิเหวินถอดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายไร้ประโยชน์นี้ให้เป็นสามัญชนคนธรรมดาสวีสือฝู่ครุ่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโค้งคำนับและกล่าวว่า “ฝ่าบาท ในเมื่อองค์ชายหกยอมรับโทษแล้ว โปรดฝ่าบาทลดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายหกเป็นสามัญชนคนธรรมดา เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”“โปรดฝ่าบาทลดยศฐาบรรดาศักดิ์องค์ชายหกเป็นสามัญชนเพื่อไม่

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 5

    เช่นนั้น ให้เริ่มที่หยุนเจิงเป็นคนแรกเลยก็แล้วกัน!คำพูดของหยุนเจิงทรงพลัง ดังก้องไปทั้งตำหนักเมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ความเป็นวีรบุรุษก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในใจของคนหลายคนแม่ทัพหลายคนไม่ได้สนิทมักคุ้นกับหยุนเจิง ยากมากที่จะได้รับความชื่นชมจากพวกเขาไม่นานนักหลายคนต่างเอ่ยปากกล่าวออกมาว่า“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าเรากับเป่ยหวนจะเปิดศึกรบกัน! หากองค์ชายหกลงสนามออกรบด้วยตัวเอง จะเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้กองทัพได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท! องค์ชายหกมีฐานะสูงศักดิ์ แต่ยังใจกล้าออกรบไม่กลัวตาย กระหม่อมเป็นชาวต้าเฉียน จะเสียดายชีวิตได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ?”“ได้โปรดฝ่าบาทอนุญาตองค์ชายหกด้วยพ่ะย่ะค่ะ เพื่อเป็นการเพิ่มขวัญกำลังให้ให้เหล่าทหาร!”ในขณะที่แม่ทัพกล่าวนั้น ก็มีเสียงสนับสนุนปรากฏขึ้นไม่น้อยโดยเฉพาะฝ่ายบู๊พวกเขาไม่ได้หวังว่าหยุนเจิงจะฆ่าศัตรูในสนาม แต่หยุนเจิงสามารถทำให้ขวัญกำลังของกองทัพแข็งแกร่งขึ้นได้จริงๆสำหรับทางเหนือที่อาจเปิดศึกสงครามได้ตลอดเวลานั้น เรื่องนี้เป็นข่าวดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ขอ

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 6

    ซูเฟยสีหน้าเปลี่ยนทันที รีบร้อนพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาทเพคะ แม้ว่าลี่เออร์จะไม่เป็นไรมาก แต่…”“หุบปาก!”จักรพรรดิเหวินเบิกพระเนตรจ้องไปที่ซูเฟย “เจ้าหกนิสัยเช่นไร ขุนนางบู๊บุ๋นทั่วทั้งราชสำนักต่างรู้ดี! หากวันนี้ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่อง เจ้าหกจะกล้าทำเช่นนี้กับเจ้าสามหรือ ข้าก็ไม่อยากไล่ถามถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้แล้ว เรื่องนี้จบเพียงเท่านี้!”ซูเฟยชะงักงัน ตอนนี้นางยิ้มไม่ออกแล้วจักรพรรดิเหวินปรามซูเฟยแล้วก็โบกพระหัตถ์ไปยังหยุนเจิงอย่างเหนื่อยล้า “แล้วเจ้าก็กลับไปขอโทษที่สามของเจ้าด้วย เรื่องนี้ก็ให้มันผ่านไปเช่นนี้เถอะ!”ซวยแล้ว!แสดงเกินบทบาท!หยุนเจิงค่อยๆ มองไปทางสวีสือฝู่กับซูเฟย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสองพี่น้องนี้จะกระโดดขึ้นมาคัดค้านแม้ว่าสวีสือฝู่กับซูเฟยไม่กล้าดื้อดึงสุดขีดอีก แต่คำพูดของจักรพรรดิเหวินเมื่อครู่นี้ได้ตัดความคิดที่จะเรียกร้องให้จักรพรรดิเหวินลดหยุนเจิงเป็นเพียงสามัญชนแล้วจากนี้ย่อมมีโอกาสจัดการหยุนเจิง!พอหยุนเจิงเห็นว่าคาดหวังอะไรจากคนตัวดีสองคนนี้ไม่ได้เลย เขาจึงคุกเข่าลง “ตุ้บ“ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่มีพระทัยกว้างขวาง!”หยุนเจิงพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “แต

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 7

    ไม่ว่าหยุนเจิงจะยินยอมหรือไม่ จักรพรรดิเหวินก็ได้ออกราชโองการแล้ว เขาก็ทำได้แต่ยอมรับเอาเถอะ!แต่งงานพระราชทานก็พระราชทานมาเถอะ!เอาอำนาจทหารมาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!จะยังไง จะดีจะร้ายยังไงตนก็ยังคงเป็นองค์ชายอยู่นะ!พิธีมงคลสมรสขององค์ชาย ต่อให้พวกขุนนางจะดูถูกตนมากเพียงใด อย่างไรก็ต้องเออออตามกันอืม ฉวยโอกาสทำเงิน!ยิ่งมากยิ่งดีมีทัพทหารม้าแล้วก็ต้องมีเงินมีเสบียงกรังด้วย!เพียงแต่ หากเป็นเช่นนี้ ก็ต้องอยู่ที่เมืองหลวงอีกสักช่วงหนึ่งสินะ!พวกหยุนลี่กับซูเฟยก็ต้องฉวยโอกาสนี้แก้แค้นตนแน่ๆ!ช่วงเวลาที่อยู่เมืองหลวงนี้ เป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงอันตรายมากแน่ๆต้องรีบหาวิธีรับมือ!“องค์ชายหก ช้าก่อน!”ขณะที่หยุนเจิงเดินไปคิดไปนั้น หัวหน้าขันทีมู่ซุ่นผู้รับใช้ข้างกายจักรพรรดิเหวินก็ไล่ตามเขามาหยุนเจิงหยุดฝีเท้า หันหลังกลับดูมู่ซุ่น “หัวหน้ามู่เรียกข้าด้วยเรื่องอันใดหรือ”หยุนเจิงมองมู่ซุ่น จิตใจของเขาตื่นตระหนกขึ้นมามู่ซุ่นเป็นคนสนิทใกล้ตัวพ่อจำเป็นนั่นเชียวนะแม้แต่องค์รัชทายาทองค์ก่อนยังต้องให้เกียรติมู่ซุ่นถ้าหากว่าสามารถชักชวนมู่ซุ่นมาเป็นพวก…ไม่ช้า หยุนเจิงก็ยกเลิ

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 8

    มู่ซุ่นหัวเราะเหอะๆ แล้วเหงยหน้ามองหยุนเจิง“ไม่ต้องมากพิธี!”หยุนเจิงยกมือขึ้นเล็กน้อย ในใจคิดว่ามู่ซุ่นช่างเป็นผู้รู้ความจริงๆ“ขอบพระทัยเพคะ”ทั้งกลุ่มคนจึงยืดตัวยืนตรง“ฮูหยินเสิ่น ยินดีด้วย ยินดีด้วยจริงๆ!”เมื่อมู่ซุ่นเห็นฮูหยินเสิ่นเขาจึงรีบกล่าวยินดีฮูหยินเสิ่นยินดียิ่ง รีบถามขึ้นว่า “หัวหน้ามู่เจ้าคะ มีเรื่องอันใดให้ยินดีหรือ”มู่ซุ่นลีลาเล็กน้อย ก่อนจะถามขึ้นอีกว่า “คุณหนูเสิ่นลั่วเยี่ยนอยู่ไหนหรือ”เสิ่นลั่วเยี่ยนพอได้ยิน ก็รีบก้าวเท้าไปด้านหน้าหนึ่งก้าว “ข้าน้อยคาราวะท่านหัวหน้ามู่เจ้าค่ะ”หยุนเจิงมองเสิ่นลั่วเยี่ยนอย่างละเอียดดวงตาสดใสฟันขาวสะอาด รูปร่างสูงเพรียวมีร่องรอยของความกล้าหาญระหว่างคิ้วนับว่าเป็นสาวงามที่ห้าวหาญ!มู่ซุ่นมองที่เสิ่นลั่วเยี่ยนแวบหนึ่ง แล้วส่งเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหัน “เสิ่นลั่วเยี่ยนรับราชโอการ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนตกใจค้าง รีบคุกเข่าลงรับราชโองการ“ฝ่าบาทมีราชโองการ: ตระกูลเสิ่น จงรักภักดีมิเสื่อมคลาย มีศีลธรรมอันดี สมเป็นมาตรฐานของราชวงศ์เรา! วันนี้เป็นฤกษ์ดี มีราชโองการให้พระราชทานเสิ่นลั่วเยี่ยนเป็นพระชายาเอกขงอองค์ชายหก เลือกวั

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 9

    เสิ่นเนี่ยนฉือ!เสิ่นลั่วเยี่ยนมองไปที่หลานสาวของตนนี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงหนึ่งเดียวของพี่ชายคนโตนาง!เสิ่นลั่วเยี่ยนเห็นเสิ่นเนี่ยนฉือร้องไห้โฮเพราะความตกใจ ใจนางจึงอ่อนลงเว่ยซวงรีบวิ่งไปอุ้มลูกสาวของตนมา ขอร้องน้ำตานองหน้า “ลั่วเยี่ยน พวกเราตายไม่เป็นไร แต่เนี่ยนฉือยังมีอายุไม่ถึงเจ็ดปีเลย!”เสิ่นลั่วเยี่ยนเห็นหลานสาวมีน้ำตาอาบสองแก้ม มือที่กำหมัดแน่นของนางก็คลายออกตุ้บ!เสิ่นลั่วเยี่ยนคุกเข่าลง น้ำตาแห่งความเสียใจและความโกรธไหลผ่าน“หม่อมฉัน…รับราชโองการ ขอบพระทัยฝ่าบาท!”ขณะที่พูดสองประโยคนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนราวกับว่าตนได้ดึงพลังงานทั้งหมดออกจากร่างไปแล้วกระทั่งตอนที่เสิ่นลั่วเยี่ยนรับราชโองการ สีหน้าของมู่ซุ่นจึงได้แปรเปลี่ยนเป็นดี“เช่นนั้นข้าก็ขอตัวกลับไปรายงานก่อน สำหรับเรื่องกำหนดวันสมรสนั้น จะแจ้งให้ทราบภายหลัง!”พูดไปมู่ซุ่นก็มองไปที่หยุนเจิง “องค์ชายหก พวกเรากลับวังกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“หัวหน้ามู่เชิญกลับก่อนเถอะ ข้าอยากจะพูดคุยกับพวกนางสักหน่อย”หยุนเจิงยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “หัวหน้ามู่ คุณหนูเสิ่นตกใจจนเสียการควบคุม เรื่องในวันนี้ ขอหัวหน้ามู่รายงานเสด็

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 10

    “…”เสิ่นลั่วเยี่ยนใบหน้ากระตุกอย่างคุมไม่ได้ ตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออดว่า “ใครจะไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้า ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะไม่ตายพร้อมกับเจ้า!” ต้องขนาดนี้เลยหรือ?ยัยเด็กโง่นี่!แค่หยอกล้อเล่นนิดหน่อย นางยังคิดถือเป็นจริงจัง?สติปัญญานาง ดูท่าแล้วคงไม่ได้สูงมากนัก?นางฝึกสมองแต่ไปขึ้นที่กล้ามเนื้อแล้วหรือไง?เสียงกบร้องระงม แมลงวันบินดังหวี่ๆ ทั้งวี่ทั้งวันไม่มีใครฟังไก่ขันเพียงยามเช้า แต่กลับปลุกสรรพสิ่งให้ตื่นจากภวังค์ได้คำพูดหากไม่มีใครฟัง ก็อย่าได้พูดพล่ามเลยหยุนเจิงลอบหัวเราะในใจ แล้วพูดหยอกล้อขึ้นอีกว่า “เสด็จพ่อได้พระราชทานงานสมรสแล้ว หากพวกเราล้วนตกตายกันไปหมด คาดว่าเสด็จพ่อคงสั่งให้คนฝังเราไว้ด้วยกัน!”เสิ่นลั่วเยี่ยนฟังคำพูดของหยุนเจิงใบหน้าก็กระตุกขึ้นมาอีกแม้กระทั่งความตายก็มิอาจพรากนางไปจากไอ้สวะนี่ได้งั้นหรือ?“เอาล่ะ”หยุนเจิงค่อยๆ ยืดตัวยืนขึ้น แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เสด็จพ่อได้ตัดสินพระทัยแล้ว ราชวงศ์เราในเวลานี้ก็มีเรื่องมากมาย พวกเจ้าก็อย่าได้ไปหาเรื่องใส่ตัวอีกเลย” กล่าวจบ หยุนเจิงก็ปลีกตัวจากไปอย่างไรเขาก็ได้เตือนพวกนางแล้วหากพวกนางยังไม่ฟั

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 11

    ในวังหลวงยามวิกาล“ตรวจสอบได้ความหรือยัง”จักรพรรดิเหวินเงยประพักตร์ขึ้นจ้องถามองค์รักษ์เงา“กราบทูลฝ่าบาท ตรวจสอบได้ความแล้วพ่ะย่ะค่ะ”องค์รักษ์เงาค้อมกาย ค่อยๆ รายงานความจริงตามที่ได้สืบได้จากองครักษ์ที่จับตัวมาจากเรือนปี้ปัว“จับเข้าคุกสวรรค์?”จักรพรรดิเหวินตบไปที่กองฎีกา พูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “กำเริบเสิบสานยิ่งนัก ไม่มีคำอนุญาตจากข้า แต่เจ้าสามกลับกล้าจับเจ้าหกเข้าคุกสวรรค์? มิน่าเล่า เจ้าหกจึงได้ตกใจกลัวจนมาขอความตายกับข้า!”จักรพรรดิเหวินกริ้วเป็นอย่างมาก หายใจหอบแรง“ฝ่าบาทได้โปรดคลายโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”มู่ซุ่นที่รับใช้อยู่ข้างกายรีรบกล่าวเตือนอย่างเป็นห่วง “องค์ชายสามอาจจะแค่อยากหยอกล้อองค์ชายหกก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรเสีย คนสนิทขององครัชทายาทได้ไปหาองค์ชายหกก่อนตาย…”จักรพรรดิเหวินยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันสายตาไปมองมู่ซุ่น “เจ้าคิดว่าเจ้าหกมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีขององค์รัชทยาท?”“เรื่องนี้…”มู่ซุ่นตัวกระตุกอย่างแรงแล้วรีบตอบว่า “บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่รู้? เช่นนั้นก็แปลว่าเป็นไปไม่ได้ล่ะสิ?”จักรพรรดิเหวินส่งเสียงเหอะเบาๆ “หากเจ้าเป็นองค์รัชทายาท เจ้าจะคนไ

    Last Updated : 2024-01-31

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1306

    ขณะเดียวกัน ผู้เลี้ยงเหยี่ยวที่ได้รับข่าวสารก็ควบม้ามาอย่างรวดเร็ว“องค์หญิง! ข่าวจากฝั่งจิ้งเป่ยอ๋องมาถึงแล้ว!”ผู้เลี้ยงเหยี่ยวมาถึงเบื้องหน้าพวกเขา และส่งข้อความที่ได้รับมาอย่างรวดเร็วเจียเหยารับข้อความนั้น แล้วใช้ไฟจากไม้ขีดจุดกองหญ้าแห้งเล็กๆ เพื่อเริ่มถอดรหัสข้อความกองกำลังของเราสลายกองทัพศัตรูแล้ว ให้รีบมาจับเชลยทางตะวันตกของแม่น้ำหยางฉางข้อความของหยุนเจิงนั้นสั้นกระชับอย่างไรก็ตาม ขณะที่เจียเหยาอ่านข้อความ นางกลับนิ่งอึ้งไปเจียเหยาถูตาอย่างแรง ก่อนจะตรวจสอบข้อความอีกครั้งอย่างละเอียด กลัวว่าตนเองจะถอดรหัสผิดแต่ไม่ว่านางจะถอดรหัสอีกกี่ครั้ง เนื้อหาก็ยังเหมือนเดิมหยุนเจิงนำกองกำลังสลายทัพเจ็ดหมื่นของกุ่ยฟางได้แล้วหรือ?นี่…เป็นไปได้อย่างไร?กุ่ยฟางยังมีกองกำลังถึงเจ็ดหมื่นไม่ใช่หรือ!หยุนเจิงมีกำลังพลแค่หมื่นกว่านาย และในจำนวนนั้นมีทหารม้าเพียงห้าพันเท่านั้น!พวกเขายังไม่ทันโจมตี ยังไม่ได้สมทบกับหยุนเจิงเพื่อโจมตีศัตรู หยุนเจิงก็สลายกองทัพศัตรูได้แล้ว?นี่มันบ้าไปแล้ว!หยุนเจิงทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?ถึงแม้ขวัญกำลังใจของกุ่ยฟางจะตกต่ำ ก็ไม่น่าจะถูกทำลายลงได

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1305

    บนทุ่งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อวี่ซื่อจงและเจียเหยายังคงนำทัพบุกโจมตีพวกเขาใช้กลยุทธ์ในการเดินทัพเช่นเดียวกัน โดยให้กองหน้าเตรียมหญ้าแห้งสำหรับกองหลังอย่างไรก็ตาม เมื่อรวมกำลังพลของกองทหารมณฑลเหนือและเป่ยหวนเข้าด้วยกัน ก็มีจำนวนถึงสองหมื่นนายทำให้ความเร็วในการบุกโจมตีของพวกเขาช้าลงจากความเร็วในปัจจุบัน พวกเขาต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งวันถึงจะไปสมทบกับหยุนเจิงได้เมื่ออวี่ซื่อจงนำกองทหารม้า 10,000 นายมาถึงทุ่งหญ้าเล็กๆ ที่เจียเหยากล่าวถึง ทหารกองทหารมณฑลเหนือก็เริ่มปฏิบัติการกันเองโดยไม่ต้องรอคำสั่งบางคนเริ่มปล่อยม้าให้เล็มหญ้า บางคนเริ่มเก็บเกี่ยวหญ้าแห้งเพื่อเตรียมไว้ให้กองกำลังเป่ยหวนที่ตามมาบางส่วนรวบรวมถุงน้ำของทุกคนแล้ววิ่งไปยังต้นน้ำเพื่อเติมน้ำอวี่ซื่อจงหยุดพัก หยิบข้าวคั่วกำมือเล็กๆ ใส่ปากเคี้ยวอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิดในใจหลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง กองกำลังเป่ยหวนที่เป็นกองหลังก็มาถึงขณะนั้น กองทหารมณฑลเหนือได้เตรียมหญ้าแห้งให้ม้าศึกของพวกเขาเรียบร้อยแล้วเมื่อเจียเหยามาหา อวี่ซื่อจงยังคงจมอยู่ในความคิดของตัวเอง“แม่ทัพอวี่ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”เจี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1304

    ทัวต๋า?หยุนเจิงสะดุดใจ ก่อนจะสั่งกองทหารองครักษ์ว่า “ไปตามเหมิงตัวมา ให้เขาตรวจดูว่าคนผู้นั้นคือทัวต๋าหรือไม่!”กองทหารองครักษ์รับคำสั่งแล้วรีบรุดไปไม่นาน หยุนเจิงก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนคนผู้นั้นก็คือทัวต๋า ราชาแห่งกุ่ยฟางจริงๆรถม้าของทัวต๋าพลิกคว่ำระหว่างการถอนกำลัง กองทหารกุ่ยฟางที่หนีตายอย่างลนลานอาจไม่ได้สังเกตเห็นทัวต๋าเลยทัวต๋าที่หมดสติถูกหามเข้ามาเมี่ยวอินเงยหน้ามองหยุนเจิงแล้วถาม “ให้ข้าตรวจดูอาการของทัวต๋าก่อนหรือไม่?”“อย่าเพิ่งไปสนใจเขา!”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ “ช่วยหวังชี่รักษาบาดแผลก่อน!”ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของกุ่ยฟาง นับได้ว่าถูกทำลายจนหมดสิ้นตามสถานการณ์ปกติ ต่อให้ทัวต๋าตาย กุ่ยฟางก็ควรจะยอมแพ้แล้วหากกุ่ยฟางยังไม่ยอมแพ้ เขาก็ยังมีวิธีจัดการกุ่ยฟางต่อให้ทัวต๋าตาย ยังมีทัวฮวนและเหมิงตัวอยู่มิใช่หรือ?เพียงแต่ถ้าทัวต๋ายังมีชีวิตอยู่ อาจช่วยลดความยุ่งยากได้บ้างแต่ในใจเขา ชีวิตของทัวต๋าไม่มีค่ามากเท่าชีวิตของหวังชี่เลย“เข้าใจแล้ว!”เมี่ยวอินไม่พูดอะไรอีก และลงมือใช้เส้นด้ายจากลำไส้แกะเย็บบาดแผลของหวังชี่ที่ทำความสะอาดแล้วผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมง เมี่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1303

    จนกระทั่งฟ้าสว่างจ้า สนามรบที่อยู่ไกลออกไปจึงค่อยๆ สงบลงทหารกุ่ยฟางหลบหนีอย่างไร้ทิศทาง หยุนเจิงก็ไม่ได้ส่งคนไล่ตามในตอนนี้ ทหารกุ่ยฟางตกอยู่ในอาการคุ้มคลั่งพวกทหารเหล่านั้นไม่มีความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่ มีเพียงความคิดที่จะเอาชีวิตรอดใครที่ขวางทางพวกเขา พวกเขาก็พร้อมจะสู้ตายถ้าส่งคนไปไล่ตามตอนนี้ พวกเขาจะต้องสูญเสียมากปล่อยให้พวกมันหนีไปก่อน!อย่างไรเสีย พวกมันก็ถอนกำลังอย่างลนลาน แถมยังไม่มีเสบียงติดตัวรอจนพวกมันหมดแรงวิ่ง แล้วค่อยส่งคนไปจับตัวถึงตอนนั้น อาจไม่ต้องจับตัวพวกมันด้วยซ้ำ แค่พวกทหารที่หนีแตกพ่ายรู้ว่าการยอมแพ้จะทำให้พวกเขามีข้าวกิน พวกมันก็จะเข้ามายอมจำนนเองหยุนเจิงวางกล้องส่องทางไกลลง แล้วหันไปสั่งชวีจื้อว่า “รีบพาคนไปกวาดล้างสนามรบ ฆ่าศัตรูที่บาดเจ็บสาหัสให้ตายอย่างรวดเร็ว! ระวังแยกแยะคนของเราให้ดี!”“ขอรับ!”ชวีจื้อรับคำสั่ง แล้วนำคนเข้าไปยังสนามรบที่เต็มไปด้วยความพินาศคนของพวกเขาจะผูกผ้าขาวไว้รอบข้อเท้า เพียงแค่เลิกกางเกงขึ้นมาก็จะมองเห็นแม้ว่าจะเสียเวลาอยู่บ้าง แต่วิธีนี้ช่วยลดโอกาสที่จะฆ่าทหารบาดเจ็บฝ่ายตัวเองได้มากที่สุดขณะที่ชวีจื้อนำคนเข้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1302

    เมื่อพวกเขาบุกเข้าไป ความโกลาหลในกองทัพกุ่ยฟางก็ยิ่งแพร่กระจายออกไปทหารที่ประสาทตึงเครียดถึงขีดสุดสูญเสียความเชื่อใจต่อคนรอบข้าง บนสมรภูมินั้นดูเหมือนว่าทุกแห่งหนจะเต็มไปด้วยศัตรู“เกิดอะไรขึ้น?”ชื่อเหยียนที่ได้ยินเสียงความวุ่นวาย รีบวิ่งออกมาจากกระโจม และเจอกับทหารที่หน้าตาตื่นตระหนกวิ่งมารายงาน“ฝ่าบาท ศัตรูบุกเข้ามาแล้ว! ทั่วทั้งค่ายมีแต่ศัตรู...”ทหารรายงานด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก“อะไรนะ?”ชื่อเหยียนถึงกับใจสั่นไหวในค่ายเต็มไปด้วยศัตรูอย่างนั้นหรือ?หรือศัตรูบุกโจมตีครั้งใหญ่จริงๆ?ชื่อเหยียนตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก แต่พยายามบังคับตัวเองให้สงบ แล้วตะโกนสั่งเสียงดัง “ตีเกราะ! รีบตีเกราะเดี๋ยวนี้! ส่งคำสั่งไปยังทุกกอง ต้องสกัดศัตรูให้ได้ ฆ่าศัตรูแล้วไล่มันกลับไป!”ทันทีที่คำสั่งของชื่อเหยียนถูกส่งออกไป เสียงกลองดังกึกก้องไปทั่วค่าย“ตึง ตึง ตึง...”เสียงกลองที่ดังถี่ยิบเป็นสัญญาณบอกการโจมตีเมื่อได้ยินเสียงกลองดังนี้ กองทหารกุ่ยฟางก็เริ่มโจมตี “ศัตรู”ทว่าทุกครั้งที่พวกเขาโจมตี ความโกลาหลกลับยิ่งลุกลามเร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกลองถี่ยิบดังมาจากกองทัพกุ่ยฟาง ใบหน้าของหย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1301

    ทั้งคืนที่ผ่านมา กองทหารมณฑลเหนือสร้างความปั่นป่วนขึ้นแทบทุกหนึ่งชั่วโมงชื่อเหยียนก็ไม่อาจรู้ได้ว่าที่กองทหารมณฑลเหนือทำนั้นคือการเตรียมโจมตีจริงหรือเป็นเพียงกลอุบายถ่วงเวลา เขาทำได้เพียงให้เหล่าทหารระมัดระวังอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการบุกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวจากกองทหารมณฑลเหนือเหล่าทหารต่างนอนไม่หลับ แม้แต่ชื่อเหยียนเองก็ไม่อาจข่มตาได้อย่าว่าแต่กองทหารมณฑลเหนือสร้างเสียงดังทั้งคืนเลย ต่อให้พวกกองทหารมณฑลเหนือเงียบสนิท เขาก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดีในยามนี้ ชื่อเหยียนทั้งหวังให้ฟ้าสางเร็วขึ้น และในขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้ฟ้าสางขัดแย้งในใจอย่างมาก แต่สิ่งที่รู้สึกยิ่งกว่านั้นคือความหมดหนทางหากฟ้าสางเร็วขึ้น กองทหารมณฑลเหนือคงหยุดเล่นสงครามประสาทเช่นนี้เสียทีแต่การที่ฟ้าสางก็หมายความว่า เวลาที่เหลือให้เขาตัดสินใจว่าจะยอมรับเงื่อนไขของหยุนเจิงหรือไม่นั้นเหลือน้อยเต็มทีจนถึงตอนนี้ชื่อเหยียนก็ยังไม่ได้ตัดสินใจในยามนี้ ชื่อเหยียนเพียงหวังให้ทัวต๋าตื่นขึ้นมาเร็วๆเช่นนี้ เรื่องหนักอกหนักใจทั้งหมดก็จะไม่ตกอยู่ที่เขาอีกต่อไปด้านนอก ท้องฟ้าเริ่มจะสว่างแล้วหลังจากเผาไหม้ตลอดทั้งคืน ไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1300

    แม้พวกเขาจะหารือกันมาเป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไรมาบางคนสนับสนุนให้ยอมรับเงื่อนไขของหยุนเจิง ขณะที่บางคนยังคงคัดค้านทั้งสองฝ่ายไม่สามารถโน้มน้าวอีกฝ่ายได้หนึ่งชั่วโมงผ่านไป“โครมคราม…”เสียงฝีเท้าม้าที่ดังกึกก้องดังขึ้นอีกครั้งทหารกุ่ยฟางเตรียมพร้อมป้องกันอีกครั้งทว่า ครั้งนี้ก็เหมือนครั้งก่อน ยังคงเป็นแค่เสียงตะโกนและเสียงฝีเท้าม้า แต่ไม่มีการโจมตีจริงเสียงตะโกนและเสียงโห่ร้องของกองทหารมณฑณทางเหนือนั้นดังสนั่น แต่ไม่มีการบุกโจมตีแต่อย่างใดเมื่อทราบว่าศัตรูถอยไปอีกครั้ง ชื่อเหยียนและเหล่าแม่ทัพต่างพากันโกรธจัดครั้งแรก ยังพอสงสัยได้ว่า ศัตรูอาจพบว่าพวกเขาเตรียมพร้อมอย่างดี จึงตัดสินใจถอยกลับไปแต่การกลับมาครั้งที่สองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าศัตรูจงใจ“ศัตรูชัดเจนว่าต้องการทำให้พวกเราไม่ได้พักผ่อน!”“พวกมันใช้เล่ห์กลนี้เพื่อทำลายขวัญกำลังใจของเรา!”“ไม่แน่ว่าพวกมันอาจต้องการให้เราหมดแรง แล้วจึงบุกโจมตีเราอย่างกะทันหัน!”“อย่างไรก็ตาม ศัตรูไม่มีเจตนาดีแน่นอน เราต้องระวังให้มาก…”ในช่วงเวลานั้น เหล่าแม่ทัพต่างกัดฟันแสดงความคิดเห็นของตนเองกลยุทธ์ของศัตรูนี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1299

    ในยามค่ำคืนหลังจากการเดินทัพตลอดทั้งวัน ทหารของกุ่ยฟางส่วนใหญ่ต่างอ่อนล้าจนหมดแรงสำหรับการล่าถอยครั้งใหญ่เช่นนี้ หากสภาพอากาศไม่เลวร้าย ก็มักจะไม่ตั้งค่ายพักแรมในทุกคืนในฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศเย็นเช่นนี้ ทหารหลายคนใช้เพียงหญ้าแห้งบางๆ รองนอนเพื่อพักผ่อนเนื่องจากเกรงว่าศัตรูจะโจมตีในยามวิกาล ทหารทั้งหมดจึงสวมเกราะไม่ห่างจากตัวเลยและไม่ใช่เพียงคืนนี้ แต่ตั้งแต่เริ่มล่าถอย พวกเขาก็เป็นเช่นนี้มาตลอดแม้ทุกคนจะเข้าใจถึงความจำเป็นของสิ่งนี้ แต่การทำเช่นนี้ต่อเนื่องเป็นเวลานานกลับสร้างความกดดันทางจิตใจให้กับพวกเขาอย่างมากการที่ต้องกังวลเรื่องการโจมตีในยามวิกาลทุกวัน และต้องสวมเกราะอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดอย่างมากรอบบริเวณที่พวกเขาตั้งค่าย มีการก่อกองไฟไว้มากมายกองไฟเหล่านี้ให้แสงสว่างในยามค่ำคืน และเพิ่มความรู้สึกปลอดภัยให้กับพวกเขากลุ่มทหารที่สวมเกราะและถืออาวุธเดินลาดตระเวนรอบบริเวณค่ายพัก เพื่อป้องกันการโจมตีในยามวิกาลจากศัตรู“เจ้าว่า พวกเราต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ถึงจะล่าถอยกลับไปได้?”“ใครจะไปรู้ล่ะ? ขอให้กลับไปได้เร็วๆ ก็แล้วกัน!”“เฮ้อ องค์ราชาก็จริงเช

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1298

    แต่ถึงจะโกรธ ชื่อเหยียนก็ต้องเริ่มพิจารณาเงื่อนไขของหยุนเจิง“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางเป็นไปได้!”“ถ้าอย่างนั้น สู้ตายกับหยุนเจิงดีกว่า!”“แต่ถ้าเราพ่ายแพ้ล่ะ?”“ทหารเกือบทั้งหมดของเราอยู่ที่นี่ หากพ่ายแพ้ พวกเรากุ่ยฟางก็จบสิ้น!”“ความจริงแล้ว พวกเราอาจต้องพิจารณาเงื่อนไขของหยุนเจิงดู! หากตอนนี้พวกเราไม่ยอมรับข้อเสนอ เมื่อกองทัพอีกสายของพวกเขาบุกเข้ามา เกรงว่าเราคงไม่มีแม้แต่โอกาสจะเจรจาขอสงบศึก...”เหล่าแม่ทัพของกุ่ยฟางเริ่มถกเถียงกันอย่างดุเดือดอีกครั้งมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนการต่อสู้ ฝ่ายที่สนับสนุนการเจรจา และฝ่ายที่ลังเลไม่เพียงแต่ทหารราบที่ไร้ขวัญกำลังใจ แม่ทัพที่นำกองทัพก็แทบจะหมดความเชื่อมั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่รู้ว่ามู่ลี่จวีพ่ายแพ้เมื่อคนฉลาดอย่างทัวฮวนยังเลือกที่จะนำทัพมายอมจำนน นั่นแสดงให้เห็นว่าศึกครั้งนี้แทบไม่มีความหวังที่จะชนะ“ฝ่าบาท พวกเราห้ามยอมรับเงื่อนไขของหยุนเจิงเด็ดขาด!”มู่ลี่จวีพยายามโน้มน้าวอย่างเต็มกำลัง “แทนที่พวกเราจะยกทรัพย์สินและเสบียงให้พวกเขาเปล่าๆ สู้ส่งทหารสองหมื่นนายไปตัดทางล่าถอยจะดีกว่า! ฤดูหนาวกำลังจะมาถึงในไม่ช้า ศัตรูที่ยกทัพ

DMCA.com Protection Status