Share

บทที่ 10

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
“…”

เสิ่นลั่วเยี่ยนใบหน้ากระตุกอย่างคุมไม่ได้ ตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออดว่า “ใครจะไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้า ต่อให้ข้าต้องตาย ก็จะไม่ตายพร้อมกับเจ้า!”

ต้องขนาดนี้เลยหรือ?

ยัยเด็กโง่นี่!

แค่หยอกล้อเล่นนิดหน่อย นางยังคิดถือเป็นจริงจัง?

สติปัญญานาง ดูท่าแล้วคงไม่ได้สูงมากนัก?

นางฝึกสมองแต่ไปขึ้นที่กล้ามเนื้อแล้วหรือไง?

เสียงกบร้องระงม แมลงวันบินดังหวี่ๆ ทั้งวี่ทั้งวันไม่มีใครฟัง

ไก่ขันเพียงยามเช้า แต่กลับปลุกสรรพสิ่งให้ตื่นจากภวังค์ได้

คำพูดหากไม่มีใครฟัง ก็อย่าได้พูดพล่ามเลย

หยุนเจิงลอบหัวเราะในใจ แล้วพูดหยอกล้อขึ้นอีกว่า “เสด็จพ่อได้พระราชทานงานสมรสแล้ว หากพวกเราล้วนตกตายกันไปหมด คาดว่าเสด็จพ่อคงสั่งให้คนฝังเราไว้ด้วยกัน!”

เสิ่นลั่วเยี่ยนฟังคำพูดของหยุนเจิงใบหน้าก็กระตุกขึ้นมาอีก

แม้กระทั่งความตายก็มิอาจพรากนางไปจากไอ้สวะนี่ได้งั้นหรือ?

“เอาล่ะ”

หยุนเจิงค่อยๆ ยืดตัวยืนขึ้น แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เสด็จพ่อได้ตัดสินพระทัยแล้ว ราชวงศ์เราในเวลานี้ก็มีเรื่องมากมาย พวกเจ้าก็อย่าได้ไปหาเรื่องใส่ตัวอีกเลย”

กล่าวจบ หยุนเจิงก็ปลีกตัวจากไป

อย่างไรเขาก็ได้เตือนพวกนางแล้ว

หากพวกนางยังไม่ฟัง จะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทให้ได้ ตอนนั้นซวยขึ้นมา ก็อย่ามาหาว่าตนไม่ได้เตือนพวกนางก็แล้วกัน!

หยุนเจิงพอออกจากจวนตระกูลเสิ่น ก็รีบกลับไปเรือนปี้ปัว

ตอนที่เขามาถึงปากประตู ถึงพบว่าองครักษ์หน้าประตูเปลี่ยนคนแล้ว

นี่มันอะไรกัน?

“คาราวะองค์ชายหก!”

ขณะที่หยุนเจิงยังสับสน องครักษ์ทั้งสองก็มาทำการคาราวะเขา

หยุนเจิงมองไปที่ทั้งคู่อย่างงุนงง “พวกเจ้าคือ…”

โจวมี่ค้อมกายตอบ “เรียนองค์ชายหก พวกเราสองคนเดิมที่เป็นองครักษ์หน่วยอวี่หลิน นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเราเป็นองครักษ์ประจำกายขององค์ชายหกพ่ะย่ะค่ะ”

คนจากหน่วยองครักษ์อวี่หลิน?

หยุนเจิงใจกระตุกเต้น

นี่เป็นสายที่จักรพรรดิเหวินส่งมา?

หรือว่าจักรพรรดิเหวินจะเป็นห่วงว่าพวกหยุนลี่กับซูเฟยจะทำไม่ดีต่อตน ก็เลยส่งองครักษ์อวี่หลินมาแทนองครักษ์เดิมของตน?

หรือจะเป็นไปได้ทั้งสอง?

“อ้อ”

หยุนเจิงรีบเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ ถามขึ้นว่า “พวกเจ้าชื่ออะไร”

“โจวมี่!”

“เกาเหอ!”

“เช่นนั้นก็รบกวนพวกเจ้าแล้ว” หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ

“องค์ชายทรงตรัสเกินไปแล้ว”

ทั้งสองรีบส่ายหน้า

พอนางกำนัลในเรือนเห็นหยุนเจิงเดินเข้าประตูไป ก็รีบมองหน้าส่งสายตากัน แล้วรีบวิ่งเหยาะๆ ไปให้บริการเขา

“ไปให้พ้น!”

หยุนเจิงตวาดไล่นางกำนัล สีหน้าเย็นช้า “คุกเข่าลงให้หมดแล้วตบหน้าตัวเอง ข้าสั่งให้พวกเจ้าหยุดเมื่อไหร่ พวกเจ้าค่อยหยุด!”

เขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะสังเกตเห็นข้อผิดปกติ

แม้แต่ตุ๊กตาหุ่นดินเผายังมีอารมณ์โกรธอยู่สามส่วน แต่นี่เขาเป็นถึงองค์ชาย

หากเขาไม่สั่งสอนเสียบ้าง ถึงจะเป็นปัญหา

ต่อให้เขามีใจกว้างเมตตาต่อผู้อื่น แต่ก็ไม่ควรจะถึงขั้นนี้

ทว่า สั่งสอนได้ แต่อย่าให้ถึงชีวิต

แต่ก่อนเป็นปอดแหกเพียงนั้น หากตอนนี้ทำตัวสุขุมมากเกินไป ก็จะถูกสงสัยได้อย่างง่ายดาย

นางกำนัลได้ยินคำพูดของหยุนเจิงก็กลัวยิ่งนัก เสียงคุกเข่า “ตุ้บตั้บ” ดังขึ้นติดต่อกัน

“ขอองค์ชายอภัยโทษด้วย บ่าวเองก็ไม่มีทางเลือกเพคะ!”

“องค์ชายโปรดยกโทษด้วย!”

“องค์ชายโปรดเมตตา…”

ในใจพวกนางกลัวตายจะแย่

พวกนางทำอะไรไป ในใจพวกนางรู้เป็นอย่างดี

เพียงแต่ว่า พวกนางนึกไม่ถึงว่า เศษสวะอย่างเขาที่ถีบจนองค์ชายสามมีสภาพเป็นเช่นนั้น ยังสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยได้

หยุนเจิงมองพวกนางด้วยสายตาเย็นชา แล้วตะโกนเสียงดัง “เกาเหอ!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เกาเหอรีบวิ่งเข้ามา

หยุนเจิงปรายตามองพวกนางกำนัลอย่างไม่แยแส แล้วสั่งว่า “เฝ้าพวกนางไว้ ใครไม่ออกแรงตบปากตัวเอง ก็รบกวนเจ้าด้วย!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

เกาเหอรับคำสั่ง

พวกนางกำนัลเหล่านั้นตกใจแทบตาย ไม่กล้าร้องขอความเมตตาอีก รีบตบหน้าตัวเองอย่างแรง

เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ…

ทันใดนั้น เสียงในเรือนปี้ปัวก็ดังขึ้นอย่างก้องกังวาน

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 11

    ในวังหลวงยามวิกาล“ตรวจสอบได้ความหรือยัง”จักรพรรดิเหวินเงยประพักตร์ขึ้นจ้องถามองค์รักษ์เงา“กราบทูลฝ่าบาท ตรวจสอบได้ความแล้วพ่ะย่ะค่ะ”องค์รักษ์เงาค้อมกาย ค่อยๆ รายงานความจริงตามที่ได้สืบได้จากองครักษ์ที่จับตัวมาจากเรือนปี้ปัว“จับเข้าคุกสวรรค์?”จักรพรรดิเหวินตบไปที่กองฎีกา พูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “กำเริบเสิบสานยิ่งนัก ไม่มีคำอนุญาตจากข้า แต่เจ้าสามกลับกล้าจับเจ้าหกเข้าคุกสวรรค์? มิน่าเล่า เจ้าหกจึงได้ตกใจกลัวจนมาขอความตายกับข้า!”จักรพรรดิเหวินกริ้วเป็นอย่างมาก หายใจหอบแรง“ฝ่าบาทได้โปรดคลายโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”มู่ซุ่นที่รับใช้อยู่ข้างกายรีรบกล่าวเตือนอย่างเป็นห่วง “องค์ชายสามอาจจะแค่อยากหยอกล้อองค์ชายหกก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ อย่างไรเสีย คนสนิทขององครัชทายาทได้ไปหาองค์ชายหกก่อนตาย…”จักรพรรดิเหวินยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย หันสายตาไปมองมู่ซุ่น “เจ้าคิดว่าเจ้าหกมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีขององค์รัชทยาท?”“เรื่องนี้…”มู่ซุ่นตัวกระตุกอย่างแรงแล้วรีบตอบว่า “บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่รู้? เช่นนั้นก็แปลว่าเป็นไปไม่ได้ล่ะสิ?”จักรพรรดิเหวินส่งเสียงเหอะเบาๆ “หากเจ้าเป็นองค์รัชทายาท เจ้าจะคนไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 12

    ที่พำนักของหยุนเจิงในตอนนี้ ยังเป็นที่พักที่เขาพักตั้งแต่สมัยยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำพอจักรพรรดิเหวินนึกถึงหยุนเจิง ในใจก็ลอบด่าว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ขึ้นอีกตนลืมเรื่องนี้ เขาเองก็ไม่กล้ามาทูลขอเลยหรือไง?ไร้ประโยชน์จริงๆ!หลังจากจักรพรรดิเหวินไตร่ตรองไปครู่หนึ่ง ก็มีรับสั่งไปยังมู่ซุ่น “สั่งคนให้ไปทำความสะอาดจวนของอวี๋หมิ่น ขุนนางที่มีความผิดติดตัว ทำทั้งคืนจัดการให้สะอาด รุ่งเช้าวันพรุ่งให้ไปที่เรือนปี้ปัว พระราชทานแก่หยุนเจิง! บ่าวรับใช้ในจวน ให้จัดใหม่ตามกฎมณเฑียรบาล!”…จวนองค์ชายสามมีเสียงโอดครวญดังมาจากหยุนลี่เป็นครั้งคราวสวีสือฝู่กับซูเฟยมาเยี่ยมหยุนลี่ที่จวนพอเห็นสภาพของหยุนลี่ สองพี่น้องทั้งสงสารทั้งโกรธหยุนลี่ถูกสวะอย่างหยุนเจิงทำร้าย?ที่มันเรื่องตลกระดับฟ้าสวรรค์ยังต้องหัวเราะ!นอกจากจะโกรธเคืองแล้ว สวีสือฝู่ก็อดสั่งสอนหยุนลี่ไม่ได้ว่า “เจ้าเองก็เลอะเลือน เจ้าจะใส่ความอะไรสวะอย่างหยุนเจิงก็ได้ แต่กลับไปใส่ความว่าเขาเป็นพรรคพวกขององค์รัชทายาท! คำพูดนี้พอพูดออกไป อย่าว่าแต่พวกขุนนางบู๊บุ๋นในราชสำนักเลย ตัวเจ้าเองได้ยินแล้วเจ้าเชื่องั้นรึ?”หยุนเจิงติดตา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 13

    วันรุ่งขึ้นเช้าตรู มู่ซุ่นก็มามอบราชโองการพอหยุนเจิงได้ยินรชโองการ ในใจทั้งยินดีทั้งเศร้าหมองที่ยินดีก็เพราะเขาไม่ต้องอยู่ในวังแล้ว สามารถทำอะไรในที่ลับได้บ้างแต่เขาก็กังวลว่าหากจู่ๆ จักรพรรดิเหวินรู้สึกผิดต่อตนเองขึ้นมา สมอเกิดทำงานผิดพลาด หลังพิธีสมรสก็ไม่ส่งตัวเขาไปซั่วเป่ยแล้วหากเป็นเช่นนั้น ก็แย่แล้วจริงๆ!ทว่า ต่อให้ตอนนี้เขาจะกังวลใจก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้เพียงรับราชโองการอย่างหน้าชื่นบานแม้ว่าหยุนเจิงจะอาศัยอยู่ในเรือนปี้ปัวมาหลายปี แต่ของของเขามีไม่มากแค่เก็บเพียงครู่ หยุนเจิงก็พาองครักษ์ทั้งคู่จากไปพอมาถึงจวนอวี๋ เขาเพิ่งจะพบว่าป้ายจวนอวี๋ถูกแกะลงมาแล้ว เปลี่ยนเป็นป้ายจวนองค์ชายหกพอดูป้ายชื่อแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าเร่งทำขึ้นมาทั้งคืน ฝีมือไม่ประณีตเท่าไหร่ แม้แต่สีน้ำมันที่ลงทับยังไม่ทันแห้งดีเสียด้วยซำ!“รับเสด็จองค์ชายหก!”คนในจวนรีบทำการคาราวะให้มันได้อย่างนี้สิ คนไม่น้อยเลยหากรวมชายหญิงทั้งหมดแล้ว น่าจะมีสามสิบกว่าคนในคนพวกนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นสาวรับใช้กับคนสวนยังมีองครักษ์อีกหกนายทว่า คนพวกนี้คงเป็นคนที่จักรพรรดิเหวินให้คนจัดหามาให้ ในใจหยุนเจิงเกิ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 14

    พอเห็นหยุนเจิงเดินเข้ามา พวกคนในห้องก็รีบลุกขึ้นทำการคาราวะแม้กระทั่งคนที่มีนิสัยแข็งกระด้างอย่างเสิ่นลั่วเยี่ยนยังลุกขึ้นคาราวะเอ๋?หยุนเจิงประหลาดใจพวกนางเปลี่ยนนิสัยไวมาก?เมื่อวานไม่ได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท วันนี้ก็เลยยอมรับความจริงแล้ว?“ล้วนเป็นคนบ้านเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้หรอก!”หยุนเจิงหัวเราะ สายตาของเขากวาดไปเจอชายหนุ่มที่มีราศีวีรบุรุษ “เจ้าเป็นใคร” ชายหนุ่มมีแววดูถูกพาดผ่านตาไปแวบหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นตอบว่า “ทูลองค์ชาย ข้าหยวนกุยนายกองทหารม้าแห่งหน่วยทหารรักษาเมืองตะวันออก บิดาคือแม่ทัพหยวนฉงแห่งหน่วยทหารรักษาเมืองตะวันออก”หยวนฉง?พวกองค์ชายสาม?หยุนเจิงในใจกระตุกเมื่อวานตอนอยู่ในท้องพระโรง หยวนฉงเป็นคนที่โลดเต้นอย่างยินดีมากที่สุดคนหนึ่ง!ในเมื่อเป็นคนขององค์ชายสาม เช่นนั้นก็อย่าหาว่าตนไม่เกรงใจแล้วกัน!“ที่แท้ก็คือนายกองทหารม้าหยวนนี่เอง”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ แล้วถามขึ้นว่า “นายกองทหารม้าหยวนวันนี้มาทำอะไรหรือ”หยวนกุยยิ้มจนคิ้วยิ้มตาม พูดขึ้นอย่างไม่เสแสร้างว่า “ขข้าได้ยินว่าคุณหนูเสิ่นอารมณ์ไม่ดี จึงได้ตั้งใจ…”“อะแฮ่มๆ…”เยี่ยจื่อกระแอมไอเบาๆ ตัด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 15

    สอนเขาขี่ม้า?หยวนกุยคิดในใจ รีบหัวเราะเหอะๆ พยักหน้ารับ “ในเมื่อองค์ชายตรัสเช่นนี้แล้ว หยวนกุยไม่กล้าไม่ทำตาม!”ดีเลย ให้เขาได้เห็นทักษะการขี่ม้าของตนหน่อย!ให้เขาเห็นว่าตัวเองนั้นใช้ไม่ได้แค่ไหน ไม่ได้เรื่องแค่ไหน!หากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิเหวินพระราชทานการสมรสให้ เสิ่นลั่วเยี่ยนต้องเป็นของเขาแน่นอน!แม้ว่าตนจะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์อะไรไม่ได้ แต่ก็ขอตบหน้าเขาแรงๆ สักที จะได้ระบายโทสะในใจด้วย!“เช่นนั้นพวกเจ้าไปเถอะ ข้าไม่ไปแล้ว!”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่มีความสนใจจะไปด้วยแต่แรก ยิ่งพอหยุนเจิงหน้าด้านหน้าทนขอตามไปด้วยให้ได้ นางยิ่งไม่อยากไปกว่าเดิมนางไม่อยากเห็นหยุนเจิงแม้แต่วินาทีเดียว!เยี่ยจื่อพอได้ยิน ก็ใบ้รับประทานครู่หนึ่งแล้วรีบพูดว่า “ลั่วเยี่ยน พวกเราออกไปเดินเล่นให้สบายอารมณ์กันเถอะ! เจ้ากับองค์ชายหกจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นด้วย”ในใจเยี่ยจื่อก็ขมขื่นมากเช่นกัน ตัวนางไม่อยากให้เสิ่นลั่วเยี่ยนซวยไปด้วย จึงยอมเอาขี้เถ้ามาสุมหัวตนเอง ตอนนี้นางมาบอกว่าไม่ไปด้วย ไม่ได้เป็นการขายตนเองหรอกหรือ?นางไม่อยากเห็นหน้าคนไร้ประโยชน์คนนั้น แล้วคิดว่าตนอยากเห็นหรือไงหากมีเสิ่นลั่วเยี่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 16

    นางเก็บคะแนนที่เคยให้หยวนกุยไปก่อนหน้านี้เขาไม่ใช่คนที่มีกำลังแต่ไร้สมอง แต่โง่เง่าจริงๆ!เยี่ยจื่อมองหยวนกุยอย่างดูแคลน แล้วดึงตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนที่อยู่ข้างๆ เบาๆ เตือนให้นางเก็บอาการหน่อย“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”หยุนเจิงลุกขึ้น รีบดึงตัวโจวมี่ขึ้นมา“ขอพระทัยองค์ชายที่ทรงเป็นห่วง ข้าน้อยไม่เป็นไร”โจวมี่ปัดเศษฝุ่นบนตัว“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”หยุนเจิงถอนหายใจโล่ง แล้วมองไปทางหยวนกุย “นายกองทหารม้าหยวน ครั้งหน้าที่เจ้าดันตัวข้า อย่าออกแรงเยอะเช่นนี้อีก”ออกแรง?หยวนกุยชะงักงันตนไม่ได้ออกแรงสักนิด!ก็แค่แรงปกติธรรมดเนี่ย!“บังอาจ หยวนกุยเจ้ากล้าผลักองค์ชายหกตกม้างั้นรึ?”มีเสียงดังขึ้นข้างหูหยวนกุยหยวนกุยพอได้ยิน ก็เกิดไหวพริบขึ้นมา รีบอธิบายว่า “ข้า ข้าไม่ได้ออกแรงสักนิด เป็นองค์ชายหกเองที่ตกลงไปโดยไม่ระวังตน!”“เลอะเลือน!”ใบหน้าเกาเหอเย็นดั่งน้ำค้าง “เจ้าหมายความว่าองค์ชายใส่ร้ายเจ้า?”“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร!”หยุนเจิงรีบออกมาช่วยพูด หัวเราะเหอะๆ กล่าวว่า “ข้าว่านายกองทหารม้าหยวนก็ไม่ได้ตั้งใจ คงกะแรงไม่ถูก เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก”หยวนกุยฟังคำพูดของหยุนเจิงแล้วก็แทบจะด่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 17

    ณ จวนหยวน “อะไรนะ?”หยวนฉงลุกขึ้นพรวดอย่างรุนแรง ถีบไปที่หยวนกุยจนเขาล้มกองกับพื้น พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “เดรัจฉาน เจ้ากล้าผลักองค์ชายหกตกม้า? เจ้าไม่อยากอยู่แล้วหรือไง”“ท่านพ่อ ข้าไม่ได้ผลักเขาจริงๆ นะขอรับ!”หยวนกุยร้องไห้อยู่กับพื้น “เขาตกลงไปเองชัดๆ!”“ไร้สาระ!”หยวนฉงโกรธจัด “หากเจ้าไม่ได้ผลักเขาตกลงไป แล้วเจ้าหัวเราะเยาะอะไร?”“ข้า…”หยวนกุยอ่อนยวบแยบ ในใจร้องว่าไม่ยุติธรรมไม่หยุด“นายท่าน อย่าบันดาลโทสะเลยเจ้าค่ะ!”มารดาหยวนกุยหัวเราะเหอะๆ แล้วเดินมาทางเขา “ก็แค่องค์ชายหกที่ไม่ได้เรื่องเอง? ต่อให้กุยเออร์จะตั้งใจผลักเขาตกลงม้า แล้วจะเป็นเช่นไร? เกรงว่าฝ่าบาทเองคงลืมไปแล้วว่ามีลูกชายคนนี้อยู่ จะมาทำอะไรเพราะเศษสวะคนหนึ่งได้อย่างไร…”เพี๊ยะ!มารดาหยวนกุยยังพูดไม่ทันจบ หยวนฉงก็ตบนางฉาดใหญ่หยวนฉงจ้องมองภรรยาของเขาอย่างโกรธกริ้ว ตวาดว่า “องค์ชายหกตอนนี้มีใจเด็ดเดี่ยวจะส่งตัวเองไปตาย ฝ่าบาทกำลังอยู่ในช่วงโทษตัวเองที่ลืมบุตรชายคนนี้ไปนาน แล้วเจ้าจะมาบอกกับข้าว่าไม่เป็นไร?”“อะไรนะ?”มารดาหยวนกุยเปลี่ยนสีโดยพลัน กระทั่งลืมความเจ็บปวดบนใบหน้า “เช่นนั้น…เช่นนั้นพวกเรา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 18

    หยวนฉงเขียนจนถึงคล้อยบ่าย จึงได้เขียนเทียบเชิญร้อยกว่าใบเสร็จระหว่างนั้น หยุนเจิงยังให้คนยกน้ำชาและของว่างมาให้ระหว่างนั้น หยุนเจิงยังเลือกเทียบเชิญบางฉบับ สั่งให้บ่าวรับใช้ในจวนรีบไปส่งให้พวกขุนนาง“แม่ทัพหยวนช่างอ่อนน้อมถ่อมตนเหลือเกิน ลายมือของท่านนี้เขียนได้ดีกว่าข้าตั้งหลายส่วน”หยุนเจิงยิ้มตาหยีชมเชยหยวนฉงไปประโยคหนึ่ง “เดี๋ยวข้าจะไปมอบเทียบเชิญให้เหล่าขุนนางท่านอื่นที่ราชสำนัก ไม่รั้งพวกท่านไว้กินข้าวเย็นด้วยกันแล้วนะ”“พ่ะย่ะค่ะๆ”หยวนฉงพยักหน้าหงึกๆ ถามขึ้นว่า “เช่นนั้นองค์ชายให้อภัยลูกสุนัขนี้แล้วหรือ?”“ให้อภัยไม่ให้อภัยอะไรกัน”หยุนเจิงโบกมือ “ข้าไม่ได้นับเป็นเรื่องอะไรเสียด้วยซ้ำ ข้ารู้ว่านายกองทหารม้าหยวนไม่ได้ตั้งใจ”“ใช่ ใช่พ่ะย่ะค่ะ!”หยวนฉงเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขม่นหยวนกุยไปทีหนึ่ง “ยังไม่รีบขอบพระทัยองค์ชายอีก?”หยวนกุยแม้จะอัดอั้นตันใจ แต่ก็ปั้นหน้าพูดว่า “ขอบพระทัยองค์ชายที่มีพระทัยกว้างขวางพ่ะย่ะค่ะ”“เอาล่ะ ข้าส่งพวกเจ้าออกจวนไปแล้วกัน!”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ“ไม่บังอาจรบกวนองค์ชาย”หยวนฉงพูดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวที่จู่ๆ หยุนเจิงก็ทำดีด้วย“ไม่เ

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1570

    หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนสั่งให้คนไปเรียกอวี๋ฝูมา “พระชายาอ๋อง กล่าวว่าพวกเราไม่ได้พักอยู่ที่นี่บ่อยนัก การมีข้ารับใช้มากเกินไปในจวนอ๋อง ก็ไม่ใช่เรื่องดี! เช่นนี้แล้ว เจ้าจงคัดเลือกข้ารับใช้ที่มีไหวพริบดีสักห้าคนให้อยู่ต่อ ส่วนที่เหลือ แจกเงินให้คนละห้าตำลึง แล้วปล่อยพวกเขาไปเถอะ!”เมื่อจำนวนคนลดลง การจับตาดูก็จะง่ายขึ้นก่อนหน้านี้มีข้ารับใช้มากมาย หากต้องจับตาทุกคน คงเป็นเรื่องยากไม่น้อยอวี๋ฝูตกตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อได้สติกลับมา ก็กระวนกระวายเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “ท่านอ๋อง จะให้เหลือเพียงห้าคนเท่านั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? จะให้ข้าเก็บไว้มากกว่านี้อีกหน่อยดีหรือไม่?”“เก็บไว้มากกว่านี้ก็ไร้ประโยชน์”หยุนเจิงส่ายหน้า “ครั้งนี้พวกเราจะพักอยู่ที่นี่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นจวนนี้ก็จะถูกปล่อยว่างเป็นส่วนใหญ่ ขอแค่มีคนดูแลทำความสะอาดก็เพียงพอแล้ว”อวี๋ฝูได้ยินเช่นนั้น ก็รีบโค้งคำนับกล่าวว่า “ข้าน้อยขอขอบพระคุณในพระกรุณาธิคุณแทนพวกเขาพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนเจิงส่ายหน้าพลางยิ้ม “อย่าขอบคุณข้า หากจะขอบคุณ ก็ไปขอบคุณ พระชายาอ๋องเถอะ”“ขอบพระคุณพระชายาอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”อวี๋ฝูรีบหันไปโค้ง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1569

    เมื่อได้รับฟังเรื่องราวจากสตรีทั้งสาม หยุนเจิงก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดที่จริงแล้ว พวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับพวกที่ดักซุ่มโดยตรงขณะเดินทางมาถึงบริเวณที่ศัตรูวางกับดัก หน่วยสำรวจเส้นทางของพวกเขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติ และตระหนักว่าสถานที่นั้นเหมาะสำหรับซุ่มโจมตี จึงรีบออกไปตรวจสอบเมื่อพวกเขาเคลื่อนเข้าไปใกล้ กลุ่มคนที่แฝงตัวอยู่เพิ่งจะล่าถอยไปไม่นาน ร่องรอยบนพื้นดินยังดูสดใหม่ทหารของพวกเขารีบไล่ติดตามไปทันที แต่ก็พบเพียงไม่กี่คนที่ล้าหลังอยู่ไกลๆ ในมือของพวกนั้นยังถือหน้าไม้กำลังสูง ดูจากอาวุธและอุปกรณ์แล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกมันได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีคนเหล่านั้นล่าถอยไปอย่างเด็ดขาด ในที่สุดฝ่ายของหยุนเจิงก็ไม่สามารถไล่ตามทันจากร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ ณ จุดซุ่มโจมตี คาดการณ์ได้ว่าพวกที่ซุ่มอยู่นั้นน่าจะมีประมาณหนึ่งร้อยคน และที่แน่ๆ พวกมันเป็นนักรบที่ผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะก่อนหน้านี้ เนื่องจากอยู่ต่อหน้าข้ารับใช้ในจวนอ๋อง เสิ่นลั่วเยี่ยนจึงไม่สะดวกกล่าวถึงเรื่องนี้ตรงๆ นางจึงโกหกว่าระหว่างทางไม่ได้พบเจอเรื่องใด“หน้าไม้กำลังสูง?”หยุนเจิงขมวดคิ้ว “ดูจากลักษณะแล้ว คงเป็นฝีมือ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1568

    ทัวฮวนและจี้หรานรับคำสั่งจากหยุนเจิง“พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปหัวเมืองสี่ทิศแล้ว ที่นี่ขอฝากให้พวกเจ้าดูแลแทนก่อน”หยุนเจิงกล่าวพลางมองไปที่จี้หราน “เจ้ารู้เรื่องของฟู่โจวดีที่สุด เจ้าต้องช่วยทัวฮวนให้เต็มที่”จี้หรานพยักหน้า เรื่องนี้หยุนเจิงเคยบอกกับเขามาก่อนแล้วทัวฮวนจะเป็นคนที่รับผิดชอบดูแลฟู่โจวโดยแท้จริง ส่วนเขาเป็นเพียงผู้ช่วยส่วนอนาคตของเขาจะได้รับความสำคัญจากหยุนเจิงหรือไม่ ก็คงขึ้นอยู่กับการแสดงฝีมือในครั้งนี้หลังจากนั้น หยุนเจิงกำชับอีกสองสามเรื่อง จึงให้ทั้งสองคนไปพักผ่อนรุ่งเช้า หยุนเจิงก็นำคนออกเดินทางไปหัวเมืองสี่ทิศในขณะเดียวกัน คำสั่งให้บังคับใช้ระบบภาษีใหม่ก็ถูกส่งไปยังทุกมณฑลในฟู่โจว บนถนนหนทางในจิงหยางฝู่เต็มไปด้วยประกาศของทางการ และยังมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายความหมายของภาษีตามที่ดินให้กับชาวบ้านที่อ่านไม่ออกสำหรับเหล่าราษฎรที่ไม่มีที่ดินหรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อย ระบบภาษีใหม่เปรียบเสมือนข่าวดีจากสวรรค์โดยแท้แต่สำหรับชนชั้นที่ครอบครองที่ดินเป็นจำนวนมาก ระบบภาษีใหม่นี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการพรากชีวิตของพวกเขาเลยเมื่อข่าวเรื่องภาษีตามที่ดินแพร่กระจายในฟู่โ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1567

    จนกระทั่งงานเลี้ยงสิ้นสุด หยุนเจิงก็ยังไม่ปรากฏตัวแรงกดดันที่ควรมี เขาได้มอบให้กับเหล่าขุนนางไปแล้วส่วนที่เหลือก็ปล่อยให้ทัวฮวนและจี้หรานเป็นคนจัดการ“ท่านอ๋อง ท่านจะไม่ไปตรวจดูหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เสิ่นควานที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างหยุนเจิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“มีอะไรให้ต้องดูอีกเล่า?” หยุนเจิงส่ายหน้าพลางยิ้ม “เมื่อมีลูกน้องก็ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ ถ้าทุกเรื่องต้องทำเองหมด ข้าคงเหนื่อยตายก่อน!”“จริงด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เสิ่นควานหัวเราะเบาๆ “เมื่อก่อนฮูหยินจื่อก็เพราะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ถึงได้ล้มพับไปทีหนึ่ง”เมื่อเอ่ยถึงเยี่ยจื่อ หยุนเจิงจึงถามขึ้นทันที “แล้วพระชายาอ๋องกับคณะจะถึงหัวเมืองสี่ทิศเมื่อใด?”“คาดว่าราวสองหรือสามวันนี่แหละพ่ะย่ะค่ะ”เสิ่นควานตอบ “เมื่อวานเพิ่งมีข่าวมาว่าพวกนางข้ามด่านเป่ยลู่มาแล้ว แม้การเดินทางจะช้าหน่อย แต่ไม่เกินสามวันต้องถึงหัวเมืองสี่ทิศแน่”เช่นนั้นหรือ?หยุนเจิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เราออกเดินทางไปหัวเมืองสี่ทิศกันเถอะ”“หา?” เสิ่นควานตกตะลึง “ไปเลยหรือ? แล้วเรื่องที่นี่ไม่ต้องสนใจแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ตอนนี้เป็นช่วงสำคัญ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1566

    ซูหานซงขมวดคิ้วและถามจี้หราน “ใต้เท้าจี้ เรื่องสำคัญที่ท่านพูดถึงคือเรื่องอะไร?”เมื่อเขาถามขึ้น ขุนนางที่เหลือต่างก็เร่งถามตามไปด้วยหยุนเจิงทำเช่นนี้ ใครมันจะมีความอยากอาหารได้เล่า!ทุกคนต้องการรู้โดยเร็วว่าเรื่องสำคัญที่จี้หรานพูดถึงคืออะไรเมื่อได้ยินเสียงถามรอบข้าง จี้หรานก็หันไปมองทัวฮวนด้วยท่าทางลำบากใจ “ในเมื่อทุกคนอยากรู้ขนาดนี้ ใต้เท้าทัวฮวน ท่านคิดว่าเราควรบอกพวกเขาก่อนหรือไม่?”ทัวฮวนยิ้มเบาๆ “ก็บอกพวกเขาเถอะ!”จี้หราน “เชิญท่านใต้เท้าเป็นคนพูดเถอะ”ทัวฮวนส่ายหน้าและหัวเราะ “เจ้าเป็นคนบอกเถอะ ข้าเองก็แค่คนที่จะต้องรับความผิดแทนเท่านั้น!”รับความผิดแทนอย่างนั้นหรือ?เมื่อได้ยินคำพูดของทัวฮวน ทุกคนก็พากันหันมองด้วยความแปลกใจทัวฮวนหมายความว่าอย่างไร?เขายอมรับความผิดแทนหยุนเจิงอย่างนั้นหรือ?หรือว่า หยุนเจิงตั้งใจจะจัดการพวกเขาทั้งหมดแล้วโยนความผิดให้ทัวฮวน?นี่...มันจะเปิดเผยขนาดนั้นเชียวหรือ?“ช่างเถอะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะเป็นคนพูดเองก็แล้วกัน!”จี้หรานถอนหายใจ ก่อนจะหยิบหนังสือคำสั่งจากราชสำนักออกมา และกล่าวเสียงดัง “ราชสำนักต้องการปฏิรูประบบภาษี และได้ส

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1565

    บรรยากาศในงานเลี้ยงนี้ช่างแปลกประหลาดมีโต๊ะอยู่สองตัวโต๊ะแรกหยุนเจิง ทัวฮวน จี้หราน และเว่ยหยูนั่งร่วมกันส่วนขุนนางที่ไม่มีครอบครัวหรือคนสนิทถูกจับกุมนั่งอีกโต๊ะหนึ่งและใกล้ๆ โต๊ะนั้นคือกลุ่มคนที่กำลังคุกเข่าด้วยร่างกายสั่นสะท้านในบรรยากาศเช่นนี้ ต่อให้มีอาหารเลิศรสแค่ไหน เหล่าขุนนางก็ไม่มีความอยากอาหารแม้แต่น้อยทุกคนพยายามใช้สมองขบคิด ว่าหยุนเจิงต้องการจะทำอะไรกันแน่ในขณะที่หยุนเจิงและพวกทั้งสี่คนกลับนั่งสนทนาและหัวเราะกันอย่างสบายใจแต่หัวข้อที่พูดคุยล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ตรงหน้าแม้แต่พวกขุนนางที่มีประสบการณ์มากในราชการก็ไม่อาจเดาเจตนาที่แท้จริงของหยุนเจิงได้สายตาของหยุนเจิงกวาดผ่านโต๊ะของเหล่าขุนนางที่นั่งอย่างกังวล เขายิ้มบางๆ ในใจไม่รู้จริงๆ ว่าคนพวกนี้คิดอะไรกันอยู่ไม่กล้าต่อสู้กับข้าตรงๆ แต่กลับมาหาเรื่องข้าแทนหรือ? ถ้าไม่ได้โง่จริงๆ ก็คงไม่ทำเช่นนี้หรอก!หลังจากกินดื่มจนอิ่มหนำสำราญ หยุนเจิงก็ลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นเขาลุกขึ้น ขุนนางทั้งหลายก็ลุกตามด้วยความตกใจ“นั่ง นั่งลงเถอะ!”หยุนเจิงโบกมือพร้อมรอยยิ้ม “ข้าดูออกว่าพวกท่านไม่กล้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1564

    เมื่อจี้หรานเดินเข้ามา ขุนนางทั้งหลายต่างลุกขึ้นแสดงความเคารพ“ท่านทั้งหลายไม่ต้องมากพิธี”จี้หรานยิ้มเหอะๆ “ท่านอ๋องกำลังรอพวกท่านอยู่ในห้องโถงด้านหลัง เชิญตามข้ามา”กล่าวจบ จี้หรานก็เดินนำพวกเขาไปยังห้องโถงระหว่างทาง หูซื่อเฉิงที่สนิทกับจี้หรานรีบก้าวมาใกล้และถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ “ใต้เท้าจี้ ท่านอ๋องจัดเลี้ยงพวกเรานี่หมายความว่าอย่างไรกันแน่?”จี้หรานหันมามองเขาด้วยความสงสัย “คนที่ไปส่งข่าวไม่ได้บอกเจ้าหรือ?”“บอกแล้วสิ!”หูซื่อเฉิงตอบ “แต่พวกเขาแค่บอกว่าท่านอ๋องต้องการพูดคุยเรื่องที่พวกเราลาออก แต่ไม่ได้บอกอะไรมากกว่านั้น”หยุนเจิงแค่ต้องการคุยด้วยอย่างนั้นหรือ? หูซื่อเฉิงย่อมไม่เชื่อหูซื่อเฉิงรู้ดีว่าตัวเองมีจุดอ่อน พอได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดถึงความน่ากลัวของท่านอ๋องผู้นี้ เขาก็ยิ่งกระวนกระวายใจเขาเพียงต้องการรู้ให้ชัดเจนว่าหยุนเจิงต้องการอะไร เพื่อจะได้เตรียมตัวรับมือเมื่อเห็นท่าทีไม่สบายใจของหูซื่อเฉิง จี้หรานก็ลอบถอนหายใจ ก่อนจะตอบแบบปัดไปว่า “ข้ารู้แค่ว่าท่านอ๋องอยากคุยกับพวกท่าน นอกนั้นข้าก็ไม่รู้อะไรอีก”คำตอบของจี้หรานยิ่งทำให้หูซื่อเฉิงกระสับกระส่ายในที่สุด ข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1563

    ราชสำนักส่งคำสั่งกลับมาอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วัน หยุนเจิงก็ได้รับคำสั่งจากราชสำนัก อนุญาตให้เขาใช้ฟู่โจวเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับการปฏิรูปภาษีตามที่ดินในต้าเฉียนเมื่อเห็นเนื้อหาในคำสั่งจากราชสำนัก หยุนเจิงก็เผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมาราชสำนักก็ยังไม่กล้าลงมือเต็มที่!เฮ้อ เจ้าสามนี่ช่างขาดความเด็ดขาดจริงๆ!ในเมื่อเป้าหมายก็เพื่อทำให้อำนาจของตระกูลใหญ่และชนชั้นสูงอ่อนแอลงอยู่แล้ว จะลงมือพร้อมกันไปเลยไม่ได้หรือ?เขาขาดเงินไม่ใช่หรือไง?ถ้าทำให้พวกตระกูลใหญ่และชนชั้นสูงทนไม่ไหวจนลุกฮือต่อต้าน ก็สามารถใช้ข้ออ้างนั้นยึดทรัพย์เข้าราชสำนักได้ไม่ใช่หรือ?การเก็บภาษีตามที่ดินนี้ จะช้าหรือเร็วก็ต้องผลักดันทั่วทั้งแผ่นดินต้าเฉียนอยู่ดีแต่เจ้าสามกลับมัวแต่ค่อยๆ เดินเกมทีละก้าว ราวกับจงใจทำให้ตระกูลใหญ่เหล่านั้นหวาดระแวงไปวันๆหลังจากนึกตำหนิในใจอยู่ครู่หนึ่ง หยุนเจิงก็เรียกทัวฮวนและจี้หรานเข้ามา “ตามแผนที่วางไว้ สั่งให้ทุกอำเภอและทุกมณฑลจัดตั้งกลุ่มคนเพื่ออธิบายนโยบายภาษีใหม่แก่ชาวบ้าน และเริ่มการวัดที่ดินเพื่อจัดทำบัญชีใหม่โดยทันที!”จี้หรานแสดงความกังวลเล็กน้อย “คำสั่งจากมณฑลถึงขุนนางท

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1562

    ไม่ว่าฝ่ายไหนต่างก็อ้างว่าตนเองทำเพื่อราชสำนัก และกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นพวกคนชั่วแม้จักรพรรดิเหวินจะประทับอยู่ตรงนั้น แต่ฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านก็ยังคงโต้เถียงกันไม่หยุด เพียงแค่พยายามควบคุมท่าทีไม่ให้รุนแรงเกินไปจักรพรรดิเหวินไม่ได้ห้ามปราม หรือกล่าวคำใดๆ ราวกับนั่งชมความบันเทิงอยู่ตรงนั้นฟังเสียงโต้เถียงในท้องพระโรงทำให้หยุนลี่รู้สึกปวดหัวทั้งเขาและจักรพรรดิเหวินต่างรู้ดีว่าในวันนี้ ท้องพระโรงแห่งนี้ไม่มีทางสงบสุขได้แต่ถึงจะรู้อยู่แก่ใจ เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัวในใจของหยุนลี่นั้นเต็มไปด้วยคำสาปแช่งหยุนเจิงเจ้าสุนัขนี่ คอยสร้างปัญหาให้ข้าไม่เว้นแต่ละวันมันน่ารำคาญจริงๆ!หลังจากสาปแช่งหยุนเจิงในใจไปหลายร้อยครั้ง หยุนลี่ก็ยกมือขึ้นเพื่อหยุดการโต้เถียง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายว่า “ข้ามีสองคำถามที่อยากถามพวกท่าน”“ข้อแรก หากเจ้าหกยืนกรานที่จะผลักดันภาษีใหม่ในฟู่โจว ราชสำนักจะสามารถหยุดเขาได้หรือไม่?”“ข้อสอง หากราชสำนักไม่สามารถหยุดยั้งได้ และหากชาวบ้านทั่วแผ่นดินรู้ถึงภาษีใหม่ที่เจ้าหกใช้ในฟู่โจว ราชสำนักจะปิดปากพวกเขาได้อย่างไร? หรือว่าราชสำนัก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status