Share

บทที่ 12

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
last update Last Updated: 2024-01-31 11:43:56
ที่พำนักของหยุนเจิงในตอนนี้ ยังเป็นที่พักที่เขาพักตั้งแต่สมัยยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ

พอจักรพรรดิเหวินนึกถึงหยุนเจิง ในใจก็ลอบด่าว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ขึ้นอีก

ตนลืมเรื่องนี้ เขาเองก็ไม่กล้ามาทูลขอเลยหรือไง?

ไร้ประโยชน์จริงๆ!

หลังจากจักรพรรดิเหวินไตร่ตรองไปครู่หนึ่ง ก็มีรับสั่งไปยังมู่ซุ่น “สั่งคนให้ไปทำความสะอาดจวนของอวี๋หมิ่น ขุนนางที่มีความผิดติดตัว ทำทั้งคืนจัดการให้สะอาด รุ่งเช้าวันพรุ่งให้ไปที่เรือนปี้ปัว พระราชทานแก่หยุนเจิง! บ่าวรับใช้ในจวน ให้จัดใหม่ตามกฎมณเฑียรบาล!”

จวนองค์ชายสาม

มีเสียงโอดครวญดังมาจากหยุนลี่เป็นครั้งคราว

สวีสือฝู่กับซูเฟยมาเยี่ยมหยุนลี่ที่จวน

พอเห็นสภาพของหยุนลี่ สองพี่น้องทั้งสงสารทั้งโกรธ

หยุนลี่ถูกสวะอย่างหยุนเจิงทำร้าย?

ที่มันเรื่องตลกระดับฟ้าสวรรค์ยังต้องหัวเราะ!

นอกจากจะโกรธเคืองแล้ว สวีสือฝู่ก็อดสั่งสอนหยุนลี่ไม่ได้ว่า “เจ้าเองก็เลอะเลือน เจ้าจะใส่ความอะไรสวะอย่างหยุนเจิงก็ได้ แต่กลับไปใส่ความว่าเขาเป็นพรรคพวกขององค์รัชทายาท! คำพูดนี้พอพูดออกไป อย่าว่าแต่พวกขุนนางบู๊บุ๋นในราชสำนักเลย ตัวเจ้าเองได้ยินแล้วเจ้าเชื่องั้นรึ?”

หยุนเจิงติดตามองค์รัชทายาทเพื่อก่อกบฏ?

คำพูดเช่นนี้ แม้แต่สุนัขในวังยังไม่เชื่อเลย!

คนไร้ประโยชน์เช่นนั้น แค่เห็นเลือดยังต้องหดหัว!

สภาพเช่นนี้จะก่อกบฏ?

ในใจหยุนลี่ทั้งหดหู่ทั้งโกรธเคือง กัดฟันพูดว่า “ข้าแค่อยากข่มขู่เศษสวะอย่างมัน ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะกล้าลงมือกับข้า!”

“หากเขาไม่ลงมือตอบโต้ จะให้เขารอความตายหรือไง?”

สวีสือฝู่ก็โกรธจนตาเบิกโพลง แล้วกำชับอีกว่า “สองวันนี้เจ้าพักอยู่ในจวนก่อน อย่าไปหาเรื่องหยุนเจิงอีก!”

“เพราะอะไร?”

หยุนลี่พูดเสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ปล่อยไอ้เศษสวะไปง่ายๆ เช่นนี้ ข้าจะกลืนโทสะนี้ลงท้องได้อย่างไร?”

“เลอะเลือนนัก!”

สวีสือฝู่พูดเสียงสูงทันที กำชับอีกทีว่า “ตอนนี้ฝ่าบาทต้องทรงทราบเรื่องไปแล้ว จนถึงตอนนี้ฝ่าบาทยังไม่เสด็จมาเยี่ยมเยียนเจ้า ก็เพราะต้องการจะส่งสัญญาณเป็นการตักเตือนเจ้า! หากตอนนี้เจ้ายังจะไปหาเรื่องหยุนเจิงอีก เท่ากับเจ้ากำลังหาเรื่องใส่ตัว!”

สวีสือฝู่ไม่เหมือนกับเด็กอ่อนอย่างหยุนลี่ เขานับว่าเป็นจอมวางแผนขั้นสูงแล้ว

วันนี้ในท้องพระโรง จักรพรรดิเหวินก็ได้ส่งสัญญาณเตือนซูเฟยแล้ว

อย่าคิดว่าหยุนเจิงผู้นั้นเป็นพรรคพวกก่อกบฏกับองค์รัชทายาทเลย ต่อให้เป็นจริง หากจักรพรรดิเหวินไม่อนุญาต หยุนลี่ก็ไม่มีสิทธิ์ส่งตัวหยุนเจิงไปคุกสวรรค์ได้

การที่เขาข่มขู่หยุนเจิงเช่นนี้ ช่างโง่งมจริงๆ!

“ฟังที่ลุงเจ้าพูดเถอะ”

ซูเฟยเกลี้ยกล่อม “สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนปกติ หากเจ้าไม่ยอมทนอาจแผ่ขยายเป็นเรื่องใหญ่ได้”

“แต่ข้ากลืนโทสะนี้ลงท้องไม่ได้!” หยุนลี่ยังคงพูดอย่างโกรธกริ้ว

“ไม่รีบ!”

สวีสือฝู่โบกมือแล้วพูดอย่างเจ้าแผนการว่า “อีกไม่กี่วัน พวกกองทัพเป่ยหวนก็จะรุดมาถึงเมืองหลวงแล้ว รอให้ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยวางแผนส่งตัวเศษสวะนั้นให้ไปรับมือกับพวกเป่ยหวนก็ได้!”

“ตอนนี้ราชวงศ์ของเรายังไม่มั่นคง ฝ่าบาทไม่อยากสู้รบกับพวกเป่ยหวน!”

“ขอเพียงเศษสวะนั่นทำให้คณะทูตเป่ยหวนโกรธ ฝ่าบาทต้องลงโทษเขาอย่างหนักเพราะต้องการระงับความโกรธของพวกเป่ยหวนเป็นแน่!”

หยุนลี่พอได้ยินดังนั้น ดวงตาของเขาก็สว่างวาบ

ยืมดาบฆ่าคน!

ช่างเป็นวิธีที่ดียิ่ง!

หลังที่ครุ่นคิดไปเพียงครู่ หยุนลี่กัดฟันกรอดแล้วพูดว่า “แค่ลงโทษสถานหนักยังไม่พอ เศษสวะนี่ต้องตาย ไม่อาจเหลือโอกาสให้เขาไปที่ซั่วเป่ยเด็ดขาด!”

สวีสือฝู่กับซูเฟยครุ่นคิดแล้วพยักหน้าเบาๆ

ต้องห้ามไม่ให้หยุนเจิงมีชีวิตรอดไปซั่วเป่ยเด็ดขาด พวกเขาเสียหน้าไปขนาดนี้แล้ว!

หยุนเจิงต้องตายเท่านั้น!

ดูท่าแล้ว ก่อนที่คณะทูตเป่ยหวนจะเดินทางมาถึง พวกเขาต้องรีบวางแผนอย่างดีแล้ว!

ครั้งเดียวต้องถึงตาย!

ไม่ให้โอกาสหยุนเจิงมีชีวิตรอด!

จะทำกับเขาเช่นเดียวกับที่ทำกับองค์รัชทายาท!

Comments (1)
goodnovel comment avatar
กิตติศักดิ์ สงคราม
สนุกดีนะ แต่เหรียญหายากเกิน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 13

    วันรุ่งขึ้นเช้าตรู มู่ซุ่นก็มามอบราชโองการพอหยุนเจิงได้ยินรชโองการ ในใจทั้งยินดีทั้งเศร้าหมองที่ยินดีก็เพราะเขาไม่ต้องอยู่ในวังแล้ว สามารถทำอะไรในที่ลับได้บ้างแต่เขาก็กังวลว่าหากจู่ๆ จักรพรรดิเหวินรู้สึกผิดต่อตนเองขึ้นมา สมอเกิดทำงานผิดพลาด หลังพิธีสมรสก็ไม่ส่งตัวเขาไปซั่วเป่ยแล้วหากเป็นเช่นนั้น ก็แย่แล้วจริงๆ!ทว่า ต่อให้ตอนนี้เขาจะกังวลใจก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้เพียงรับราชโองการอย่างหน้าชื่นบานแม้ว่าหยุนเจิงจะอาศัยอยู่ในเรือนปี้ปัวมาหลายปี แต่ของของเขามีไม่มากแค่เก็บเพียงครู่ หยุนเจิงก็พาองครักษ์ทั้งคู่จากไปพอมาถึงจวนอวี๋ เขาเพิ่งจะพบว่าป้ายจวนอวี๋ถูกแกะลงมาแล้ว เปลี่ยนเป็นป้ายจวนองค์ชายหกพอดูป้ายชื่อแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าเร่งทำขึ้นมาทั้งคืน ฝีมือไม่ประณีตเท่าไหร่ แม้แต่สีน้ำมันที่ลงทับยังไม่ทันแห้งดีเสียด้วยซำ!“รับเสด็จองค์ชายหก!”คนในจวนรีบทำการคาราวะให้มันได้อย่างนี้สิ คนไม่น้อยเลยหากรวมชายหญิงทั้งหมดแล้ว น่าจะมีสามสิบกว่าคนในคนพวกนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นสาวรับใช้กับคนสวนยังมีองครักษ์อีกหกนายทว่า คนพวกนี้คงเป็นคนที่จักรพรรดิเหวินให้คนจัดหามาให้ ในใจหยุนเจิงเกิ

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 14

    พอเห็นหยุนเจิงเดินเข้ามา พวกคนในห้องก็รีบลุกขึ้นทำการคาราวะแม้กระทั่งคนที่มีนิสัยแข็งกระด้างอย่างเสิ่นลั่วเยี่ยนยังลุกขึ้นคาราวะเอ๋?หยุนเจิงประหลาดใจพวกนางเปลี่ยนนิสัยไวมาก?เมื่อวานไม่ได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท วันนี้ก็เลยยอมรับความจริงแล้ว?“ล้วนเป็นคนบ้านเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้หรอก!”หยุนเจิงหัวเราะ สายตาของเขากวาดไปเจอชายหนุ่มที่มีราศีวีรบุรุษ “เจ้าเป็นใคร” ชายหนุ่มมีแววดูถูกพาดผ่านตาไปแวบหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นตอบว่า “ทูลองค์ชาย ข้าหยวนกุยนายกองทหารม้าแห่งหน่วยทหารรักษาเมืองตะวันออก บิดาคือแม่ทัพหยวนฉงแห่งหน่วยทหารรักษาเมืองตะวันออก”หยวนฉง?พวกองค์ชายสาม?หยุนเจิงในใจกระตุกเมื่อวานตอนอยู่ในท้องพระโรง หยวนฉงเป็นคนที่โลดเต้นอย่างยินดีมากที่สุดคนหนึ่ง!ในเมื่อเป็นคนขององค์ชายสาม เช่นนั้นก็อย่าหาว่าตนไม่เกรงใจแล้วกัน!“ที่แท้ก็คือนายกองทหารม้าหยวนนี่เอง”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ แล้วถามขึ้นว่า “นายกองทหารม้าหยวนวันนี้มาทำอะไรหรือ”หยวนกุยยิ้มจนคิ้วยิ้มตาม พูดขึ้นอย่างไม่เสแสร้างว่า “ขข้าได้ยินว่าคุณหนูเสิ่นอารมณ์ไม่ดี จึงได้ตั้งใจ…”“อะแฮ่มๆ…”เยี่ยจื่อกระแอมไอเบาๆ ตัด

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 15

    สอนเขาขี่ม้า?หยวนกุยคิดในใจ รีบหัวเราะเหอะๆ พยักหน้ารับ “ในเมื่อองค์ชายตรัสเช่นนี้แล้ว หยวนกุยไม่กล้าไม่ทำตาม!”ดีเลย ให้เขาได้เห็นทักษะการขี่ม้าของตนหน่อย!ให้เขาเห็นว่าตัวเองนั้นใช้ไม่ได้แค่ไหน ไม่ได้เรื่องแค่ไหน!หากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิเหวินพระราชทานการสมรสให้ เสิ่นลั่วเยี่ยนต้องเป็นของเขาแน่นอน!แม้ว่าตนจะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์อะไรไม่ได้ แต่ก็ขอตบหน้าเขาแรงๆ สักที จะได้ระบายโทสะในใจด้วย!“เช่นนั้นพวกเจ้าไปเถอะ ข้าไม่ไปแล้ว!”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่มีความสนใจจะไปด้วยแต่แรก ยิ่งพอหยุนเจิงหน้าด้านหน้าทนขอตามไปด้วยให้ได้ นางยิ่งไม่อยากไปกว่าเดิมนางไม่อยากเห็นหยุนเจิงแม้แต่วินาทีเดียว!เยี่ยจื่อพอได้ยิน ก็ใบ้รับประทานครู่หนึ่งแล้วรีบพูดว่า “ลั่วเยี่ยน พวกเราออกไปเดินเล่นให้สบายอารมณ์กันเถอะ! เจ้ากับองค์ชายหกจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นด้วย”ในใจเยี่ยจื่อก็ขมขื่นมากเช่นกัน ตัวนางไม่อยากให้เสิ่นลั่วเยี่ยนซวยไปด้วย จึงยอมเอาขี้เถ้ามาสุมหัวตนเอง ตอนนี้นางมาบอกว่าไม่ไปด้วย ไม่ได้เป็นการขายตนเองหรอกหรือ?นางไม่อยากเห็นหน้าคนไร้ประโยชน์คนนั้น แล้วคิดว่าตนอยากเห็นหรือไงหากมีเสิ่นลั่วเยี่

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 16

    นางเก็บคะแนนที่เคยให้หยวนกุยไปก่อนหน้านี้เขาไม่ใช่คนที่มีกำลังแต่ไร้สมอง แต่โง่เง่าจริงๆ!เยี่ยจื่อมองหยวนกุยอย่างดูแคลน แล้วดึงตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนที่อยู่ข้างๆ เบาๆ เตือนให้นางเก็บอาการหน่อย“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”หยุนเจิงลุกขึ้น รีบดึงตัวโจวมี่ขึ้นมา“ขอพระทัยองค์ชายที่ทรงเป็นห่วง ข้าน้อยไม่เป็นไร”โจวมี่ปัดเศษฝุ่นบนตัว“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”หยุนเจิงถอนหายใจโล่ง แล้วมองไปทางหยวนกุย “นายกองทหารม้าหยวน ครั้งหน้าที่เจ้าดันตัวข้า อย่าออกแรงเยอะเช่นนี้อีก”ออกแรง?หยวนกุยชะงักงันตนไม่ได้ออกแรงสักนิด!ก็แค่แรงปกติธรรมดเนี่ย!“บังอาจ หยวนกุยเจ้ากล้าผลักองค์ชายหกตกม้างั้นรึ?”มีเสียงดังขึ้นข้างหูหยวนกุยหยวนกุยพอได้ยิน ก็เกิดไหวพริบขึ้นมา รีบอธิบายว่า “ข้า ข้าไม่ได้ออกแรงสักนิด เป็นองค์ชายหกเองที่ตกลงไปโดยไม่ระวังตน!”“เลอะเลือน!”ใบหน้าเกาเหอเย็นดั่งน้ำค้าง “เจ้าหมายความว่าองค์ชายใส่ร้ายเจ้า?”“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร!”หยุนเจิงรีบออกมาช่วยพูด หัวเราะเหอะๆ กล่าวว่า “ข้าว่านายกองทหารม้าหยวนก็ไม่ได้ตั้งใจ คงกะแรงไม่ถูก เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก”หยวนกุยฟังคำพูดของหยุนเจิงแล้วก็แทบจะด่

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 17

    ณ จวนหยวน “อะไรนะ?”หยวนฉงลุกขึ้นพรวดอย่างรุนแรง ถีบไปที่หยวนกุยจนเขาล้มกองกับพื้น พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “เดรัจฉาน เจ้ากล้าผลักองค์ชายหกตกม้า? เจ้าไม่อยากอยู่แล้วหรือไง”“ท่านพ่อ ข้าไม่ได้ผลักเขาจริงๆ นะขอรับ!”หยวนกุยร้องไห้อยู่กับพื้น “เขาตกลงไปเองชัดๆ!”“ไร้สาระ!”หยวนฉงโกรธจัด “หากเจ้าไม่ได้ผลักเขาตกลงไป แล้วเจ้าหัวเราะเยาะอะไร?”“ข้า…”หยวนกุยอ่อนยวบแยบ ในใจร้องว่าไม่ยุติธรรมไม่หยุด“นายท่าน อย่าบันดาลโทสะเลยเจ้าค่ะ!”มารดาหยวนกุยหัวเราะเหอะๆ แล้วเดินมาทางเขา “ก็แค่องค์ชายหกที่ไม่ได้เรื่องเอง? ต่อให้กุยเออร์จะตั้งใจผลักเขาตกลงม้า แล้วจะเป็นเช่นไร? เกรงว่าฝ่าบาทเองคงลืมไปแล้วว่ามีลูกชายคนนี้อยู่ จะมาทำอะไรเพราะเศษสวะคนหนึ่งได้อย่างไร…”เพี๊ยะ!มารดาหยวนกุยยังพูดไม่ทันจบ หยวนฉงก็ตบนางฉาดใหญ่หยวนฉงจ้องมองภรรยาของเขาอย่างโกรธกริ้ว ตวาดว่า “องค์ชายหกตอนนี้มีใจเด็ดเดี่ยวจะส่งตัวเองไปตาย ฝ่าบาทกำลังอยู่ในช่วงโทษตัวเองที่ลืมบุตรชายคนนี้ไปนาน แล้วเจ้าจะมาบอกกับข้าว่าไม่เป็นไร?”“อะไรนะ?”มารดาหยวนกุยเปลี่ยนสีโดยพลัน กระทั่งลืมความเจ็บปวดบนใบหน้า “เช่นนั้น…เช่นนั้นพวกเรา

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 18

    หยวนฉงเขียนจนถึงคล้อยบ่าย จึงได้เขียนเทียบเชิญร้อยกว่าใบเสร็จระหว่างนั้น หยุนเจิงยังให้คนยกน้ำชาและของว่างมาให้ระหว่างนั้น หยุนเจิงยังเลือกเทียบเชิญบางฉบับ สั่งให้บ่าวรับใช้ในจวนรีบไปส่งให้พวกขุนนาง“แม่ทัพหยวนช่างอ่อนน้อมถ่อมตนเหลือเกิน ลายมือของท่านนี้เขียนได้ดีกว่าข้าตั้งหลายส่วน”หยุนเจิงยิ้มตาหยีชมเชยหยวนฉงไปประโยคหนึ่ง “เดี๋ยวข้าจะไปมอบเทียบเชิญให้เหล่าขุนนางท่านอื่นที่ราชสำนัก ไม่รั้งพวกท่านไว้กินข้าวเย็นด้วยกันแล้วนะ”“พ่ะย่ะค่ะๆ”หยวนฉงพยักหน้าหงึกๆ ถามขึ้นว่า “เช่นนั้นองค์ชายให้อภัยลูกสุนัขนี้แล้วหรือ?”“ให้อภัยไม่ให้อภัยอะไรกัน”หยุนเจิงโบกมือ “ข้าไม่ได้นับเป็นเรื่องอะไรเสียด้วยซ้ำ ข้ารู้ว่านายกองทหารม้าหยวนไม่ได้ตั้งใจ”“ใช่ ใช่พ่ะย่ะค่ะ!”หยวนฉงเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขม่นหยวนกุยไปทีหนึ่ง “ยังไม่รีบขอบพระทัยองค์ชายอีก?”หยวนกุยแม้จะอัดอั้นตันใจ แต่ก็ปั้นหน้าพูดว่า “ขอบพระทัยองค์ชายที่มีพระทัยกว้างขวางพ่ะย่ะค่ะ”“เอาล่ะ ข้าส่งพวกเจ้าออกจวนไปแล้วกัน!”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ“ไม่บังอาจรบกวนองค์ชาย”หยวนฉงพูดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวที่จู่ๆ หยุนเจิงก็ทำดีด้วย“ไม่เ

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 19

    หลังจากหยุนเจิงส่งสองพ่อลูกหยวนฉงไปแล้ว ก็รีบพาเกาเหอรุดไปที่จวนจิ้งกั๋วกงเทียบเชิญที่เขามาส่งมอบให้เองกับมือ แน่นอนว่าคนแรกต้องเป็นของสวีสือฝู่!สวีสือฝู่เป็นถึงลุงขององค์ชายสามเชียวนะ!ขอแค่เขาจัดการสวีสือฝู่ได้ ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าคนอื่นจะไม่เอาของขวัญมาให้“องค์ชาย มีคำพูดหนึ่ง ข้าน้อยไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด?”ระหว่าทาง เกาเหอที่ลังเลมาครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็เปิดปากพูดแล้ว“เจ้าว่ามาเถิด”หยุนเจิงหัวเราะเกาเหอเค้นเสียงหัวเราะเล็กน้อย แล้วพูดสีหน้าจริงจัง “องค์ชายไปมอบเทียบเชิญที่จิ้งกั๋วกงด้วยตนเอง ก็เป็นการตบหน้าตนเองแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”“ข้ารู้ว่าพวกเขาล้วนดูแคลนข้า”หยุนเจิงปั้นหน้าถอนถอนหายใจแล้วค่อยๆ พูดขึ้นว่า “ข้าเองก็รู้ว่าพวกเขาไม่มาที่จวนเพื่อร่วมงานเลี้ยงหรอก แต่ข้าปฏิบัติตามหลักประเพณีให้ดีก็พอแล้ว…”เกาเหอสะอึกเล็กน้อย แล้วไม่พูดต่อแล้วไม่นาน ทั้งสองก็มาถึงจวนจิ้งกั๋วกงเวลานี้ ฟ้าก็มืดลงแล้ว“องค์ชายหก?”สวีสือฝู่พอรู้ว่าหยุนเจิงมา ก็ตะลึงงันกันไปทั้งบ้านองค์ชายหกมาทำไม?หรือจะมาขอขมาลาโทษ?ต่อให้จะมาขอขมา ก็ควรไปจวนองค์ชายสามสิ!จะวิ่งวุ่นมาหา

    Last Updated : 2024-01-31
  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 20

    หยุนเจิงพูดพลาง ยังแสร้งทำท่าเหนียมอาย พอสวีสือฝู่ได้ยินคำพูดนี้ของหยุนเจิงเขาก็อยากจะด่าเสียยกใหญ่เขาทำถูกต้องตามครรลองก็พอ แล้วให้พวกเขาเชิญตามสะดวก?แล้วมารดามันสิตอนนี้จะจะให้พวกเขาทำตามสะดวกได้อย่างไรล่ะ?องค์ชายมาส่งมอบเทียบเชิญด้วยตนเอง นี่ทำตามครรลองมากพอแล้วกระมัง?องค์ชายทำขนาดนี้แล้ว หากพวกเขาไม่สนอง เรื่องนี้ถึงพระกรรณขององค์จักรพรรดิเหวินเข้าให้ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าพวกเขาไม่รู้หลักครรลองคลองธรรมแล้ว!สวีสือฝู่ด่ากราดในใจไม่หยุด แต่ใบหน้ากลับเค้นรอยยิ้มออกมา “องค์ชายวางใจได้ วันมะรืนหากแม้นพวกเราจะไม่ได้ไปด้วยตนเอง แต่อย่างไรก็จะเตรียมของขวัญไปถึงที่จวน ยินดีกับองค์ชายด้วยที่ได้จวนใหม่”“อ้ะ?”หยุนเจิงเบิกตาโพลง รีบโบกมือพูดว่า “ข้า…ข้าไม่ได้จะให้พวกเจ้ามอบของขวัญให้จริงๆ นะ”“องค์ชายไม่ต้องอธิบาย พวกกระหม่อมย่อมเข้าใจดี”สวีสือฝู่ยิ้มอย่างหน้าเนื้อใจเสือว่า “องค์ชายทำตามครรลองได้ดีเยี่ยงนี้ พวกกระหม่อมก็ต้องปฏิบัติตามครรลองให้ดีด้วยเช่นกัน!”“นี่…”หยุนเจิงหัวเราะอย่างเกรงใจ “เช่นนั้นพวกเราขอตัวลา”“ส่งเสด็จองค์ชาย!”สวีสือฝู่ตะโกนร้องอย่างเสแสร้าง แต่ในใจก

    Last Updated : 2024-01-31

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1310

    เมื่อเห็นทั้งสองคน ทหารยามที่อยู่หน้ากระโจมรีบคำนับ“ไม่ต้องมากพิธี!”หยุนเจิงโบกมือ แล้วพาเมี่ยวอินเข้าไปในกระโจมแม้ว่าทัวต๋าจะฟื้นสติได้สองสามวันแล้ว แต่สีหน้าของเขายังคงดูแย่มาก แทบไม่มีเลือดฝาด ดูเหมือนคนที่ใกล้สิ้นใจเต็มทีเมื่อเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามา ทัวต๋าถามอย่างแผ่วเบา “หยุน... หยุนเจิง?”นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกันแต่ทัวต๋าก็สามารถตัดสินได้ทันทีว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้คือจิ้งเป่ยอ๋อง หยุนเจิง“ใช่แล้ว!”หยุนเจิงพยักหน้า พร้อมจ้องทัวต๋าด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าคงได้ยินข่าวว่ากองทัพของเจ้าพ่ายแพ้ทั้งสายแล้วใช่หรือไม่? หากยังไม่ทราบ ข้าก็ยินดีบอกให้เจ้าฟัง”ทัวต๋ารู้ข่าวการพ่ายแพ้ของกองทัพแนวหน้าแล้วจริงๆอีกทั้ง ยังรู้ด้วยว่าพวกเขาพ่ายแพ้อย่างไรแม้ว่าเขาจะไม่เคยออกจากกระโจม แต่ก็ได้ยินทหารยามที่อยู่นอกกระโจมพูดถึงเรื่องนี้ไม่น้อย“เจ้าต้องการ…ให้ข้ายอมจำนนหรือ?”ทัวต๋าพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หายใจรัว พร้อมกับคาดเดาจุดประสงค์ของหยุนเจิงได้“ใช่แล้ว!”หยุนเจิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้าจะไม่พูดอ้อมค้อมกับเจ้า ตราบใดที่เจ้ายอมรับเงื่อนไขของข้า ข้าก็จะให้โอกาสเจ้าแ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1309

    เช้าวันรุ่งขึ้น หยุนเจิงก็ได้รับข่าวว่าหวังชี่ฟื้นแล้ว“ดียิ่งนัก!”หยุนเจิงตะโกนด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบเรียกเมี่ยวอินว่า “เร็ว ไปดูหวังชี่กัน!”พูดจบ หยุนเจิงก็คว้ามือเมี่ยวอินแล้ววิ่งไปยังกระโจมที่หวังชี่อยู่โดยไม่รอคำตอบเมื่อพวกเขามาถึงกระโจม ด้านในก็เต็มไปด้วยผู้คนทั้งหมดเป็นทหารใต้บัญชาของหวังชี่“พอแล้ว พอแล้ว! ออกไปกันก่อนเถอะ ข้างในคนแน่นขนาดนี้ เหลวไหลเกินไปแล้ว?”หยุนเจิงไล่ทหารที่ล้อมอยู่ในกระโจมให้ออกไปทั้งหมด แล้วให้เมี่ยวอินจับชีพจรของหวังชี่เพื่อตรวจดูว่าอาการบาดเจ็บของเขาเริ่มคงที่แล้วหรือยังหวังชี่รู้สึกซาบซึ้งใจจนพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา “ขอบ…ขอบคุณฮูหยินเมี่ยว…”“พอแล้ว อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้!”เมี่ยวอินขัดหวังชี่ก่อนจะตั้งใจจับชีพจรของเขาต่อหยุนเจิงพยักหน้าให้หวังชี่เล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้นไม่นาน เมี่ยวอินก็ปล่อยข้อมือของหวังชี่ พร้อมกับถอนหายใจโล่งอกก่อนจะพูดว่า “ชีวิตเจ้าถือว่ารอดมาได้แล้ว! แต่คราวนี้เจ้าบาดเจ็บหนักมาก คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัว”หวังชี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะกล่าวขอบคุณเมี่ยวอินอีกครั้ง “ขอบ…ขอบคุณฮูหยินเมี่ยวอิน…ที่ช่ว

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1308

    หวังชี่ยังคงอยู่ในอาการหมดสติ และมีไข้สูงที่ไม่ลดลงเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าไข้ของหวังชี่เกิดจากร่างกายที่อ่อนแอเกินไป หรือเพราะบาดแผลติดเชื้อเมี่ยวอินเตรียมยาต้มให้คนคอยป้อนหวังชี่ แต่จนถึงตอนนี้ ไข้ของหวังชี่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลงขณะที่หยุนเจิงเดินเข้ามาในกระโจม เมี่ยวอินก็กำลังตรวจอาการของหวังชี่อยู่“เป็นอย่างไรบ้าง?”หยุนเจิงถามด้วยความกังวล“ก็เหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเขาแล้ว!”เมี่ยวอินลุกขึ้นด้วยความอ่อนใจ “หากไข้ของเขาลดลงได้ ก็น่าจะรอดชีวิตได้”สิ่งที่ทำได้ นางได้ทำไปหมดแล้วตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจตจำนงในการมีชีวิตรอดของหวังชี่“เข้าใจแล้ว!”หยุนเจิงถอนหายใจเบาๆ “ไปเถิด ไปเดินเล่นข้างนอกกับข้าหน่อย”เมี่ยวอินพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนถามว่า “ท่านไปดูทัวต๋ามาหรือยัง?”ทัวต๋าฟื้นสติแล้วแต่ร่างกายยังคงอ่อนแอมาก“ยังไม่ได้ไปเลย!”หยุนเจิงส่ายหน้าแล้วยิ้ม “ให้เขาฟื้นตัวก่อนเถิด ถ้าข้าไปคุยกับเขาแล้วเขาโมโหตายไป ข้าก็เสียเวลาพูดเปล่าๆ!”เมี่ยวอินชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มบางๆ “นั่นสิ! ขนาดคนที่แข็งแรงยังแทบทนไม่ไหวกับเงื่อนไขของท่าน แล้วคนที่ใกล้ตายแบบเขายิ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1307

    ขณะที่หยุนเจิงได้รับข้อความตอบกลับจากเจียเหยา เขากำลังตรวจสอบรายงานการรบที่ตู๋กูเช่อส่งมาข้อความตอบกลับของเจียเหยานั้นเรียบง่ายมากมีเพียงสองคำรับทราบ!และไม่ได้เขียนเป็นรหัสลับเพียงสองคำนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รหัสลับหยุนเจิงวางข้อความของเจียเหยาทิ้งไว้ข้างๆ และตรวจสอบรายงานการรบของตู๋กูเช่อต่อองค์ชายรองแห่งโฉวฉือ หยวนเว่ย นำกองกำลังป้องกันด่านเทียนฉงทิ้งป้อมหลบหนีในปัจจุบัน จั่วเริ่นได้นำทัพเข้าไปประจำการที่ด่านเทียนฉงแล้วแต่ผลลัพธ์จากการไล่ล่าโหลวอี้ของตู๋กูเช่อและพวกกลับไม่ดีนักแม้ว่านักรบภูตสิบแปดจะสามารถสร้างความขัดแย้งระหว่างกองทัพโฉวฉือและแคว้นต้าเย่ว์ได้สำเร็จ แต่กลับไม่ได้ทำให้เกิดความโกลาหลในวงกว้าง ทำให้ศัตรูสูญเสียกำลังเพียงสามพันกว่านายเท่านั้นขณะที่ตู๋กูเช่อนำทัพไล่ตาม โหลวอี้ได้นำกองกำลังถอนตัวไปยังพื้นที่ใกล้ชายแดนแคว้นต้าเย่ว์แล้วตู๋กูเช่อนำทัพโจมตี ทำลายศัตรูได้สองพันนาย และจับเชลยได้มากกว่าสี่พันคนกองกำลังใหญ่ของโฉวฉือและแคว้นต้าเย่ว์ถูกโหลวอี้พากลับเข้าไปในแคว้นต้าเย่ว์ตู๋กูเช่อกังวลเรื่องเสบียง จึงหยุดการไล่ล่า และหันไปควบคุมเชลยศึกกล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1306

    ขณะเดียวกัน ผู้เลี้ยงเหยี่ยวที่ได้รับข่าวสารก็ควบม้ามาอย่างรวดเร็ว“องค์หญิง! ข่าวจากฝั่งจิ้งเป่ยอ๋องมาถึงแล้ว!”ผู้เลี้ยงเหยี่ยวมาถึงเบื้องหน้าพวกเขา และส่งข้อความที่ได้รับมาอย่างรวดเร็วเจียเหยารับข้อความนั้น แล้วใช้ไฟจากไม้ขีดจุดกองหญ้าแห้งเล็กๆ เพื่อเริ่มถอดรหัสข้อความกองกำลังของเราสลายกองทัพศัตรูแล้ว ให้รีบมาจับเชลยทางตะวันตกของแม่น้ำหยางฉางข้อความของหยุนเจิงนั้นสั้นกระชับอย่างไรก็ตาม ขณะที่เจียเหยาอ่านข้อความ นางกลับนิ่งอึ้งไปเจียเหยาถูตาอย่างแรง ก่อนจะตรวจสอบข้อความอีกครั้งอย่างละเอียด กลัวว่าตนเองจะถอดรหัสผิดแต่ไม่ว่านางจะถอดรหัสอีกกี่ครั้ง เนื้อหาก็ยังเหมือนเดิมหยุนเจิงนำกองกำลังสลายทัพเจ็ดหมื่นของกุ่ยฟางได้แล้วหรือ?นี่…เป็นไปได้อย่างไร?กุ่ยฟางยังมีกองกำลังถึงเจ็ดหมื่นไม่ใช่หรือ!หยุนเจิงมีกำลังพลแค่หมื่นกว่านาย และในจำนวนนั้นมีทหารม้าเพียงห้าพันเท่านั้น!พวกเขายังไม่ทันโจมตี ยังไม่ได้สมทบกับหยุนเจิงเพื่อโจมตีศัตรู หยุนเจิงก็สลายกองทัพศัตรูได้แล้ว?นี่มันบ้าไปแล้ว!หยุนเจิงทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?ถึงแม้ขวัญกำลังใจของกุ่ยฟางจะตกต่ำ ก็ไม่น่าจะถูกทำลายลงได

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1305

    บนทุ่งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อวี่ซื่อจงและเจียเหยายังคงนำทัพบุกโจมตีพวกเขาใช้กลยุทธ์ในการเดินทัพเช่นเดียวกัน โดยให้กองหน้าเตรียมหญ้าแห้งสำหรับกองหลังอย่างไรก็ตาม เมื่อรวมกำลังพลของกองทหารมณฑลเหนือและเป่ยหวนเข้าด้วยกัน ก็มีจำนวนถึงสองหมื่นนายทำให้ความเร็วในการบุกโจมตีของพวกเขาช้าลงจากความเร็วในปัจจุบัน พวกเขาต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งวันถึงจะไปสมทบกับหยุนเจิงได้เมื่ออวี่ซื่อจงนำกองทหารม้า 10,000 นายมาถึงทุ่งหญ้าเล็กๆ ที่เจียเหยากล่าวถึง ทหารกองทหารมณฑลเหนือก็เริ่มปฏิบัติการกันเองโดยไม่ต้องรอคำสั่งบางคนเริ่มปล่อยม้าให้เล็มหญ้า บางคนเริ่มเก็บเกี่ยวหญ้าแห้งเพื่อเตรียมไว้ให้กองกำลังเป่ยหวนที่ตามมาบางส่วนรวบรวมถุงน้ำของทุกคนแล้ววิ่งไปยังต้นน้ำเพื่อเติมน้ำอวี่ซื่อจงหยุดพัก หยิบข้าวคั่วกำมือเล็กๆ ใส่ปากเคี้ยวอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิดในใจหลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง กองกำลังเป่ยหวนที่เป็นกองหลังก็มาถึงขณะนั้น กองทหารมณฑลเหนือได้เตรียมหญ้าแห้งให้ม้าศึกของพวกเขาเรียบร้อยแล้วเมื่อเจียเหยามาหา อวี่ซื่อจงยังคงจมอยู่ในความคิดของตัวเอง“แม่ทัพอวี่ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”เจี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1304

    ทัวต๋า?หยุนเจิงสะดุดใจ ก่อนจะสั่งกองทหารองครักษ์ว่า “ไปตามเหมิงตัวมา ให้เขาตรวจดูว่าคนผู้นั้นคือทัวต๋าหรือไม่!”กองทหารองครักษ์รับคำสั่งแล้วรีบรุดไปไม่นาน หยุนเจิงก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนคนผู้นั้นก็คือทัวต๋า ราชาแห่งกุ่ยฟางจริงๆรถม้าของทัวต๋าพลิกคว่ำระหว่างการถอนกำลัง กองทหารกุ่ยฟางที่หนีตายอย่างลนลานอาจไม่ได้สังเกตเห็นทัวต๋าเลยทัวต๋าที่หมดสติถูกหามเข้ามาเมี่ยวอินเงยหน้ามองหยุนเจิงแล้วถาม “ให้ข้าตรวจดูอาการของทัวต๋าก่อนหรือไม่?”“อย่าเพิ่งไปสนใจเขา!”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ “ช่วยหวังชี่รักษาบาดแผลก่อน!”ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของกุ่ยฟาง นับได้ว่าถูกทำลายจนหมดสิ้นตามสถานการณ์ปกติ ต่อให้ทัวต๋าตาย กุ่ยฟางก็ควรจะยอมแพ้แล้วหากกุ่ยฟางยังไม่ยอมแพ้ เขาก็ยังมีวิธีจัดการกุ่ยฟางต่อให้ทัวต๋าตาย ยังมีทัวฮวนและเหมิงตัวอยู่มิใช่หรือ?เพียงแต่ถ้าทัวต๋ายังมีชีวิตอยู่ อาจช่วยลดความยุ่งยากได้บ้างแต่ในใจเขา ชีวิตของทัวต๋าไม่มีค่ามากเท่าชีวิตของหวังชี่เลย“เข้าใจแล้ว!”เมี่ยวอินไม่พูดอะไรอีก และลงมือใช้เส้นด้ายจากลำไส้แกะเย็บบาดแผลของหวังชี่ที่ทำความสะอาดแล้วผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมง เมี่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1303

    จนกระทั่งฟ้าสว่างจ้า สนามรบที่อยู่ไกลออกไปจึงค่อยๆ สงบลงทหารกุ่ยฟางหลบหนีอย่างไร้ทิศทาง หยุนเจิงก็ไม่ได้ส่งคนไล่ตามในตอนนี้ ทหารกุ่ยฟางตกอยู่ในอาการคุ้มคลั่งพวกทหารเหล่านั้นไม่มีความหวาดกลัวหลงเหลืออยู่ มีเพียงความคิดที่จะเอาชีวิตรอดใครที่ขวางทางพวกเขา พวกเขาก็พร้อมจะสู้ตายถ้าส่งคนไปไล่ตามตอนนี้ พวกเขาจะต้องสูญเสียมากปล่อยให้พวกมันหนีไปก่อน!อย่างไรเสีย พวกมันก็ถอนกำลังอย่างลนลาน แถมยังไม่มีเสบียงติดตัวรอจนพวกมันหมดแรงวิ่ง แล้วค่อยส่งคนไปจับตัวถึงตอนนั้น อาจไม่ต้องจับตัวพวกมันด้วยซ้ำ แค่พวกทหารที่หนีแตกพ่ายรู้ว่าการยอมแพ้จะทำให้พวกเขามีข้าวกิน พวกมันก็จะเข้ามายอมจำนนเองหยุนเจิงวางกล้องส่องทางไกลลง แล้วหันไปสั่งชวีจื้อว่า “รีบพาคนไปกวาดล้างสนามรบ ฆ่าศัตรูที่บาดเจ็บสาหัสให้ตายอย่างรวดเร็ว! ระวังแยกแยะคนของเราให้ดี!”“ขอรับ!”ชวีจื้อรับคำสั่ง แล้วนำคนเข้าไปยังสนามรบที่เต็มไปด้วยความพินาศคนของพวกเขาจะผูกผ้าขาวไว้รอบข้อเท้า เพียงแค่เลิกกางเกงขึ้นมาก็จะมองเห็นแม้ว่าจะเสียเวลาอยู่บ้าง แต่วิธีนี้ช่วยลดโอกาสที่จะฆ่าทหารบาดเจ็บฝ่ายตัวเองได้มากที่สุดขณะที่ชวีจื้อนำคนเข้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1302

    เมื่อพวกเขาบุกเข้าไป ความโกลาหลในกองทัพกุ่ยฟางก็ยิ่งแพร่กระจายออกไปทหารที่ประสาทตึงเครียดถึงขีดสุดสูญเสียความเชื่อใจต่อคนรอบข้าง บนสมรภูมินั้นดูเหมือนว่าทุกแห่งหนจะเต็มไปด้วยศัตรู“เกิดอะไรขึ้น?”ชื่อเหยียนที่ได้ยินเสียงความวุ่นวาย รีบวิ่งออกมาจากกระโจม และเจอกับทหารที่หน้าตาตื่นตระหนกวิ่งมารายงาน“ฝ่าบาท ศัตรูบุกเข้ามาแล้ว! ทั่วทั้งค่ายมีแต่ศัตรู...”ทหารรายงานด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก“อะไรนะ?”ชื่อเหยียนถึงกับใจสั่นไหวในค่ายเต็มไปด้วยศัตรูอย่างนั้นหรือ?หรือศัตรูบุกโจมตีครั้งใหญ่จริงๆ?ชื่อเหยียนตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก แต่พยายามบังคับตัวเองให้สงบ แล้วตะโกนสั่งเสียงดัง “ตีเกราะ! รีบตีเกราะเดี๋ยวนี้! ส่งคำสั่งไปยังทุกกอง ต้องสกัดศัตรูให้ได้ ฆ่าศัตรูแล้วไล่มันกลับไป!”ทันทีที่คำสั่งของชื่อเหยียนถูกส่งออกไป เสียงกลองดังกึกก้องไปทั่วค่าย“ตึง ตึง ตึง...”เสียงกลองที่ดังถี่ยิบเป็นสัญญาณบอกการโจมตีเมื่อได้ยินเสียงกลองดังนี้ กองทหารกุ่ยฟางก็เริ่มโจมตี “ศัตรู”ทว่าทุกครั้งที่พวกเขาโจมตี ความโกลาหลกลับยิ่งลุกลามเร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกลองถี่ยิบดังมาจากกองทัพกุ่ยฟาง ใบหน้าของหย

DMCA.com Protection Status