Share

บทที่ 14

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
พอเห็นหยุนเจิงเดินเข้ามา พวกคนในห้องก็รีบลุกขึ้นทำการคาราวะ

แม้กระทั่งคนที่มีนิสัยแข็งกระด้างอย่างเสิ่นลั่วเยี่ยนยังลุกขึ้นคาราวะ

เอ๋?

หยุนเจิงประหลาดใจ

พวกนางเปลี่ยนนิสัยไวมาก?

เมื่อวานไม่ได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท วันนี้ก็เลยยอมรับความจริงแล้ว?

“ล้วนเป็นคนบ้านเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้หรอก!”

หยุนเจิงหัวเราะ สายตาของเขากวาดไปเจอชายหนุ่มที่มีราศีวีรบุรุษ “เจ้าเป็นใคร”

ชายหนุ่มมีแววดูถูกพาดผ่านตาไปแวบหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นตอบว่า “ทูลองค์ชาย ข้าหยวนกุยนายกองทหารม้าแห่งหน่วยทหารรักษาเมืองตะวันออก บิดาคือแม่ทัพหยวนฉงแห่งหน่วยทหารรักษาเมืองตะวันออก”

หยวนฉง?

พวกองค์ชายสาม?

หยุนเจิงในใจกระตุก

เมื่อวานตอนอยู่ในท้องพระโรง หยวนฉงเป็นคนที่โลดเต้นอย่างยินดีมากที่สุดคนหนึ่ง!

ในเมื่อเป็นคนขององค์ชายสาม เช่นนั้นก็อย่าหาว่าตนไม่เกรงใจแล้วกัน!

“ที่แท้ก็คือนายกองทหารม้าหยวนนี่เอง”

หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ แล้วถามขึ้นว่า “นายกองทหารม้าหยวนวันนี้มาทำอะไรหรือ”

หยวนกุยยิ้มจนคิ้วยิ้มตาม พูดขึ้นอย่างไม่เสแสร้างว่า “ขข้าได้ยินว่าคุณหนูเสิ่นอารมณ์ไม่ดี จึงได้ตั้งใจ…”

“อะแฮ่มๆ…”

เยี่ยจื่อกระแอมไอเบาๆ ตัดบทหยวนกุย จากนั้นนางก็รีบกล่าวต่อว่า “นายกองทหารม้าหยวนกับข้าเป็นเครือญาติกัน ตอนแรกเขามาเพื่อชวนข้าไปขี่ม้าเล่นรอบเมือง แต่พอได้ยินว่าลั่วเยี่ยนอารมณ์ไม่ดี ก็เลยจะชวนลั่วเยี่ยนออกไปขี่ม้าเล่นด้วยกัน”

เยี่ยจื่อพูดพลางเบิกตาโตจ้องหยวนกุยไปคราหนึ่ง

เจ้าคนไร้สมองคนนี้ เรื่องมาชวนเสิ่นลั่วเยี่ยนไปขี่ม้าเล่นนี่พูดซี้ซั้วเช่นนี้ได้ด้วยหรือไงกัน?

เสิ่นลั่วเยี่ยนจะเป็นพระชายาองค์ชายหกอยู่แล้ว!

แม้ว่าเสิ่นลั่วเยี่ยนจะปฏิเสธหยวนกุยไปแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าหากองค์ชายหกทราบเรื่องนี้แล้วเขาจะคิดอย่างไรบ้าง

หากเรื่องนี้ไปถึงพระกรรณของจักรพรรดิเหวินแล้วล่ะก็ ไม่แน่ว่าจะเกิดปัญหาใดขึ้นมาอีก!

หยวนกุยถูกเยี่ยจื่อจ้องเขม็งไปทีหนึ่งก็เข้าใจความหมายของนางทันที ทันใดมีเหงื่อเย็นไหลวาบกลางหลัง จึงรีบพูดต่ออย่างให้ความร่วมมือว่า “ใช่ๆ ข้าจะมาชวนพี่จื่อเออร์ไปเดินเล่น…”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!”

หยุนเจิงหัวเราะแล้วกวาดสายตาไปทางเยี่ยจื่อ

นางฉลาดยิ่งนัก!

แต่มาทำลายโอกาสที่เขาจะจัดการหยวนกุยเสียนี่!

เวลานี้ ฮูหยินเสิ่นเปิดปากพูดช้าๆ ว่า “เมื่อวานพวกเราคุกอยู่นอกวังไปทั้งคืน ตัวข้าร่างกายอ่อนแอ โชคร้ายที่ถูกลมหนาว กลัวว่าจะแพร่โรคให้กับองค์ชาย ข้าขอไปก่อน เชิญองค์ชายตามสบาย!”

พูดจบ ฮูหยินเสิ่นก็เดินออกจากห้องโถงหลักไปเลย

“ข้าต้องไปเฝ้าเนี่ยนฉืออ่านหนังสือ ขอตัวก่อน”

พูดจบ เว่ยซวงก็กล่าวลาไปเช่นกัน

หยุนเจิงมองตามแผ่นหลังของพวกนาง พลันเข้าใจกระจ่างแจ้ง

มิน่าพวกนางถึงได้มีท่าทีเกรงอกเกรงใจ คาราวะตนอย่างดีในตอนแรก

ที่แท้ก็รอเขาอยู่ที่นี่กันนี่เอง!

เห็นชัดว่าต้องการตบหน้าเขาต่อหน้าคนอื่นนี่นา!

หยวนกุยมองไปทางหยุนเจิงอย่างล้อเลียน “องค์ชาย พวกเรายังจะไปขี่ม้าเล่นกันที่ชานเมือง หากไม่มีธุระอย่างอื่น พวกเราขอตัวก่อน!”

เจ้าคนโง่งมคนนี้ก็อยากตบหน้าตนเช่นกันงั้นหรือ?

คอยดูบิดาจะจัดการพวกโง่เง่าเต่าตุ่นอย่างพวกเจ้าอย่างไร!

หยุนเจิงแค่นเสียงเหอะอย่างเยือกเย็น “ข้าเองก็ไม่ได้มีธุระอะไร ไปขี่ม้าเล่นกับพวกเจ้าด้วยเลยแล้วกัน!”

เสิ่นลั่วเยี่ยนพอได้ยินดังนั้น ก็ไม่พอใจขึ้นแล้ว ถามอย่างดูแคลนว่า “เจ้าเนี่ยนะ? ขี่ม้าเป็นด้วยรึ?”

“ก็ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่”

หยุนเจิงหัวเราะอย่างเหนียมอายแล้วถามหยวนกุยว่า “นายกองทหารม้าหยวน เจ้าเป็นหน่วยทหารรักษาเมือง แสดงว่าทักษะขี่ม้าของเจ้าต้องดีมากใช่หรือไม่?”

ไร้สาระ!

หยวนกุยดูแคลนหยุนเจิงอยู่ในใจ แต่กลับยิ้มตอบว่า “ทักษะการขี่ม้าเป็นทักษะขั้นพื้นฐานของหน่วยทหารรักษาเมือง คนที่จะเป็นนายกองทหารม้าได้ ทักษะการขี่ม้ายิงธนูต้องดีมากเท่านั้น!”

“จริงหรือ?”

หยุนเจิงพูดอย่างดีใจว่า “นายกองทหารม้าหยวน อีกไม่กี่วันข้าก็ต้องไปดินแดนทะเลทรายแล้ว แต่ทักษะการขี่ม้าของข้าแย่มาก เมื่อครู่ระหว่างทางมาที่นี่ องครักษ์ของข้าสองคนนี้ยังกลัวว่าข้าจะตกจากหลังม้าอยู่เลย เจ้ามาช่วยสอนข้าขี่ม้าเป็นไง?”

ระหว่างที่หยุนเจิงพูด สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยการยกย่องหยวนกุย

แต่ในใจเขากลับพูดว่า: เจ้าตัวโง่งม รีบตกหลุมมาเลยนะ พ่อรอเหยียบเจ้าให้ตายอยู่นี่…

Comments (1)
goodnovel comment avatar
Chotiros Thongmanogun
ไม่แต่งได้ไหมทั้งตระกูลงี่เง่ามาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 15

    สอนเขาขี่ม้า?หยวนกุยคิดในใจ รีบหัวเราะเหอะๆ พยักหน้ารับ “ในเมื่อองค์ชายตรัสเช่นนี้แล้ว หยวนกุยไม่กล้าไม่ทำตาม!”ดีเลย ให้เขาได้เห็นทักษะการขี่ม้าของตนหน่อย!ให้เขาเห็นว่าตัวเองนั้นใช้ไม่ได้แค่ไหน ไม่ได้เรื่องแค่ไหน!หากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิเหวินพระราชทานการสมรสให้ เสิ่นลั่วเยี่ยนต้องเป็นของเขาแน่นอน!แม้ว่าตนจะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์อะไรไม่ได้ แต่ก็ขอตบหน้าเขาแรงๆ สักที จะได้ระบายโทสะในใจด้วย!“เช่นนั้นพวกเจ้าไปเถอะ ข้าไม่ไปแล้ว!”เสิ่นลั่วเยี่ยนไม่มีความสนใจจะไปด้วยแต่แรก ยิ่งพอหยุนเจิงหน้าด้านหน้าทนขอตามไปด้วยให้ได้ นางยิ่งไม่อยากไปกว่าเดิมนางไม่อยากเห็นหยุนเจิงแม้แต่วินาทีเดียว!เยี่ยจื่อพอได้ยิน ก็ใบ้รับประทานครู่หนึ่งแล้วรีบพูดว่า “ลั่วเยี่ยน พวกเราออกไปเดินเล่นให้สบายอารมณ์กันเถอะ! เจ้ากับองค์ชายหกจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นด้วย”ในใจเยี่ยจื่อก็ขมขื่นมากเช่นกัน ตัวนางไม่อยากให้เสิ่นลั่วเยี่ยนซวยไปด้วย จึงยอมเอาขี้เถ้ามาสุมหัวตนเอง ตอนนี้นางมาบอกว่าไม่ไปด้วย ไม่ได้เป็นการขายตนเองหรอกหรือ?นางไม่อยากเห็นหน้าคนไร้ประโยชน์คนนั้น แล้วคิดว่าตนอยากเห็นหรือไงหากมีเสิ่นลั่วเยี่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 16

    นางเก็บคะแนนที่เคยให้หยวนกุยไปก่อนหน้านี้เขาไม่ใช่คนที่มีกำลังแต่ไร้สมอง แต่โง่เง่าจริงๆ!เยี่ยจื่อมองหยวนกุยอย่างดูแคลน แล้วดึงตัวเสิ่นลั่วเยี่ยนที่อยู่ข้างๆ เบาๆ เตือนให้นางเก็บอาการหน่อย“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”หยุนเจิงลุกขึ้น รีบดึงตัวโจวมี่ขึ้นมา“ขอพระทัยองค์ชายที่ทรงเป็นห่วง ข้าน้อยไม่เป็นไร”โจวมี่ปัดเศษฝุ่นบนตัว“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”หยุนเจิงถอนหายใจโล่ง แล้วมองไปทางหยวนกุย “นายกองทหารม้าหยวน ครั้งหน้าที่เจ้าดันตัวข้า อย่าออกแรงเยอะเช่นนี้อีก”ออกแรง?หยวนกุยชะงักงันตนไม่ได้ออกแรงสักนิด!ก็แค่แรงปกติธรรมดเนี่ย!“บังอาจ หยวนกุยเจ้ากล้าผลักองค์ชายหกตกม้างั้นรึ?”มีเสียงดังขึ้นข้างหูหยวนกุยหยวนกุยพอได้ยิน ก็เกิดไหวพริบขึ้นมา รีบอธิบายว่า “ข้า ข้าไม่ได้ออกแรงสักนิด เป็นองค์ชายหกเองที่ตกลงไปโดยไม่ระวังตน!”“เลอะเลือน!”ใบหน้าเกาเหอเย็นดั่งน้ำค้าง “เจ้าหมายความว่าองค์ชายใส่ร้ายเจ้า?”“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร!”หยุนเจิงรีบออกมาช่วยพูด หัวเราะเหอะๆ กล่าวว่า “ข้าว่านายกองทหารม้าหยวนก็ไม่ได้ตั้งใจ คงกะแรงไม่ถูก เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก”หยวนกุยฟังคำพูดของหยุนเจิงแล้วก็แทบจะด่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 17

    ณ จวนหยวน “อะไรนะ?”หยวนฉงลุกขึ้นพรวดอย่างรุนแรง ถีบไปที่หยวนกุยจนเขาล้มกองกับพื้น พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “เดรัจฉาน เจ้ากล้าผลักองค์ชายหกตกม้า? เจ้าไม่อยากอยู่แล้วหรือไง”“ท่านพ่อ ข้าไม่ได้ผลักเขาจริงๆ นะขอรับ!”หยวนกุยร้องไห้อยู่กับพื้น “เขาตกลงไปเองชัดๆ!”“ไร้สาระ!”หยวนฉงโกรธจัด “หากเจ้าไม่ได้ผลักเขาตกลงไป แล้วเจ้าหัวเราะเยาะอะไร?”“ข้า…”หยวนกุยอ่อนยวบแยบ ในใจร้องว่าไม่ยุติธรรมไม่หยุด“นายท่าน อย่าบันดาลโทสะเลยเจ้าค่ะ!”มารดาหยวนกุยหัวเราะเหอะๆ แล้วเดินมาทางเขา “ก็แค่องค์ชายหกที่ไม่ได้เรื่องเอง? ต่อให้กุยเออร์จะตั้งใจผลักเขาตกลงม้า แล้วจะเป็นเช่นไร? เกรงว่าฝ่าบาทเองคงลืมไปแล้วว่ามีลูกชายคนนี้อยู่ จะมาทำอะไรเพราะเศษสวะคนหนึ่งได้อย่างไร…”เพี๊ยะ!มารดาหยวนกุยยังพูดไม่ทันจบ หยวนฉงก็ตบนางฉาดใหญ่หยวนฉงจ้องมองภรรยาของเขาอย่างโกรธกริ้ว ตวาดว่า “องค์ชายหกตอนนี้มีใจเด็ดเดี่ยวจะส่งตัวเองไปตาย ฝ่าบาทกำลังอยู่ในช่วงโทษตัวเองที่ลืมบุตรชายคนนี้ไปนาน แล้วเจ้าจะมาบอกกับข้าว่าไม่เป็นไร?”“อะไรนะ?”มารดาหยวนกุยเปลี่ยนสีโดยพลัน กระทั่งลืมความเจ็บปวดบนใบหน้า “เช่นนั้น…เช่นนั้นพวกเรา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 18

    หยวนฉงเขียนจนถึงคล้อยบ่าย จึงได้เขียนเทียบเชิญร้อยกว่าใบเสร็จระหว่างนั้น หยุนเจิงยังให้คนยกน้ำชาและของว่างมาให้ระหว่างนั้น หยุนเจิงยังเลือกเทียบเชิญบางฉบับ สั่งให้บ่าวรับใช้ในจวนรีบไปส่งให้พวกขุนนาง“แม่ทัพหยวนช่างอ่อนน้อมถ่อมตนเหลือเกิน ลายมือของท่านนี้เขียนได้ดีกว่าข้าตั้งหลายส่วน”หยุนเจิงยิ้มตาหยีชมเชยหยวนฉงไปประโยคหนึ่ง “เดี๋ยวข้าจะไปมอบเทียบเชิญให้เหล่าขุนนางท่านอื่นที่ราชสำนัก ไม่รั้งพวกท่านไว้กินข้าวเย็นด้วยกันแล้วนะ”“พ่ะย่ะค่ะๆ”หยวนฉงพยักหน้าหงึกๆ ถามขึ้นว่า “เช่นนั้นองค์ชายให้อภัยลูกสุนัขนี้แล้วหรือ?”“ให้อภัยไม่ให้อภัยอะไรกัน”หยุนเจิงโบกมือ “ข้าไม่ได้นับเป็นเรื่องอะไรเสียด้วยซ้ำ ข้ารู้ว่านายกองทหารม้าหยวนไม่ได้ตั้งใจ”“ใช่ ใช่พ่ะย่ะค่ะ!”หยวนฉงเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขม่นหยวนกุยไปทีหนึ่ง “ยังไม่รีบขอบพระทัยองค์ชายอีก?”หยวนกุยแม้จะอัดอั้นตันใจ แต่ก็ปั้นหน้าพูดว่า “ขอบพระทัยองค์ชายที่มีพระทัยกว้างขวางพ่ะย่ะค่ะ”“เอาล่ะ ข้าส่งพวกเจ้าออกจวนไปแล้วกัน!”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ“ไม่บังอาจรบกวนองค์ชาย”หยวนฉงพูดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวที่จู่ๆ หยุนเจิงก็ทำดีด้วย“ไม่เ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 19

    หลังจากหยุนเจิงส่งสองพ่อลูกหยวนฉงไปแล้ว ก็รีบพาเกาเหอรุดไปที่จวนจิ้งกั๋วกงเทียบเชิญที่เขามาส่งมอบให้เองกับมือ แน่นอนว่าคนแรกต้องเป็นของสวีสือฝู่!สวีสือฝู่เป็นถึงลุงขององค์ชายสามเชียวนะ!ขอแค่เขาจัดการสวีสือฝู่ได้ ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าคนอื่นจะไม่เอาของขวัญมาให้“องค์ชาย มีคำพูดหนึ่ง ข้าน้อยไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด?”ระหว่าทาง เกาเหอที่ลังเลมาครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็เปิดปากพูดแล้ว“เจ้าว่ามาเถิด”หยุนเจิงหัวเราะเกาเหอเค้นเสียงหัวเราะเล็กน้อย แล้วพูดสีหน้าจริงจัง “องค์ชายไปมอบเทียบเชิญที่จิ้งกั๋วกงด้วยตนเอง ก็เป็นการตบหน้าตนเองแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”“ข้ารู้ว่าพวกเขาล้วนดูแคลนข้า”หยุนเจิงปั้นหน้าถอนถอนหายใจแล้วค่อยๆ พูดขึ้นว่า “ข้าเองก็รู้ว่าพวกเขาไม่มาที่จวนเพื่อร่วมงานเลี้ยงหรอก แต่ข้าปฏิบัติตามหลักประเพณีให้ดีก็พอแล้ว…”เกาเหอสะอึกเล็กน้อย แล้วไม่พูดต่อแล้วไม่นาน ทั้งสองก็มาถึงจวนจิ้งกั๋วกงเวลานี้ ฟ้าก็มืดลงแล้ว“องค์ชายหก?”สวีสือฝู่พอรู้ว่าหยุนเจิงมา ก็ตะลึงงันกันไปทั้งบ้านองค์ชายหกมาทำไม?หรือจะมาขอขมาลาโทษ?ต่อให้จะมาขอขมา ก็ควรไปจวนองค์ชายสามสิ!จะวิ่งวุ่นมาหา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 20

    หยุนเจิงพูดพลาง ยังแสร้งทำท่าเหนียมอาย พอสวีสือฝู่ได้ยินคำพูดนี้ของหยุนเจิงเขาก็อยากจะด่าเสียยกใหญ่เขาทำถูกต้องตามครรลองก็พอ แล้วให้พวกเขาเชิญตามสะดวก?แล้วมารดามันสิตอนนี้จะจะให้พวกเขาทำตามสะดวกได้อย่างไรล่ะ?องค์ชายมาส่งมอบเทียบเชิญด้วยตนเอง นี่ทำตามครรลองมากพอแล้วกระมัง?องค์ชายทำขนาดนี้แล้ว หากพวกเขาไม่สนอง เรื่องนี้ถึงพระกรรณขององค์จักรพรรดิเหวินเข้าให้ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าพวกเขาไม่รู้หลักครรลองคลองธรรมแล้ว!สวีสือฝู่ด่ากราดในใจไม่หยุด แต่ใบหน้ากลับเค้นรอยยิ้มออกมา “องค์ชายวางใจได้ วันมะรืนหากแม้นพวกเราจะไม่ได้ไปด้วยตนเอง แต่อย่างไรก็จะเตรียมของขวัญไปถึงที่จวน ยินดีกับองค์ชายด้วยที่ได้จวนใหม่”“อ้ะ?”หยุนเจิงเบิกตาโพลง รีบโบกมือพูดว่า “ข้า…ข้าไม่ได้จะให้พวกเจ้ามอบของขวัญให้จริงๆ นะ”“องค์ชายไม่ต้องอธิบาย พวกกระหม่อมย่อมเข้าใจดี”สวีสือฝู่ยิ้มอย่างหน้าเนื้อใจเสือว่า “องค์ชายทำตามครรลองได้ดีเยี่ยงนี้ พวกกระหม่อมก็ต้องปฏิบัติตามครรลองให้ดีด้วยเช่นกัน!”“นี่…”หยุนเจิงหัวเราะอย่างเกรงใจ “เช่นนั้นพวกเราขอตัวลา”“ส่งเสด็จองค์ชาย!”สวีสือฝู่ตะโกนร้องอย่างเสแสร้าง แต่ในใจก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 21

    สองวันให้หลัง งานเลี้ยงฉลองจวนใหม่องค์ชายหกที่เชิญพวกขุนนางมาก็เริ่มขึ้นแล้วทว่า นอกจวนองค์ชายหกนั้นคึกคักยิ่ง มีขุนนางจากราชสำนักหรือไม่ก็พวกผู้อาวุโสที่จะส่งคนมามอบของขวัญเป็นพักๆ ไม่ขาดสาย แต่ล้วนมามอบของแล้วจากไปเลย ไม่แม้นแต่จะย่างเข้าประตูจวนเมื่อเทียบกับความคึกคักนอกจวนแล้ว ภายในจวนกลับเงียบเหงาจนวังเวงหยุนเจิงนั่งวางแผนของอนาคตของที่เรือนหลัง วันนี้รับของมามากมาย อย่างไรตอนนี้ก็จะมีเงินแล้วถัดมาก็ต้องสั่งสมกำลังคนของตนเองสักหน่อยแล้ว!แต่ก็ห้ามให้คนอื่นรู้แผนการในใจของเขาเด็ดขาด ดังนั้น เขาไม่สามารถเรียกบรรดาเหล่าจอมยุทธ์มาที่จวนได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นแล้ว“เรียนองค์ชาย คุณหนูเสิ่นมาแล้วเพคะ”เวลานี้ มีสาวรับใช้มารายงาน“นำนางเข้ามาเถิด!”หยุนเจิงแม้นจะโบกมือขึ้นอย่างเฉยเมย แต่ในใจกลับสงสัยเสิ่นลั่วเยี่ยนมาทำอะไร?คงไม่ได้มาหัวเราะเยาะตัวเองหรอกนะ?หรือว่า นางคิดตกแล้ว รู้ว่างานในวันนี้ ใครจะไม่มาก็ได้ แต่นางต้องมา?รอเสิ่นลั่วเยี่ยนเข้ามาแล้ว หยุนเจิงก็ให้สาวรับใช้ออกไป“เจ้าไม่ได้จัดงานเลี้ยงเข้าจวนหรอกหรือ เหตุใดจึงไม่จัดสุราอาหารเลยล่ะ?”เสิ่นลั

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 22

    หยุนเจิงหัวเราะเยาะ “อย่าพูดขู่อีกเลย! ความกล้าระดับนี้ของเจ้า เหตุใดตอนนั้นต้องรับราชโองการทั้งน้ำตาด้วยเล่า?”“ข้า…”เสิ่นลั่วเยี่ยนพูดไม่ออก เจ็บใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัวนางอยากจัดหยุนเจิงสักยก แต่ก็ไม่อาจทำอะไรหยุนเจิงได้ ทำได้เพียงนั่งจมอยู่กับความโกรธตรงนั้นหยุนเจิงยิ้มองเสิ่นลั่วเยี่ยน แล้วถามขึ้นอีกว่า “เจ้ามาที่นี่เอง หรือเพราะคนอื่นบอกเจ้าให้มาล่ะ?”เสิ่นลั่วเยี่ยนแค่นเสียงเหอะ “หากไม่ใช่เพราะแม่ข้าไม่สบาย ข้าคงไม่มาเองหรอก!”นางไม่อยากมาจริงๆ แต่ไม่มาไม่ได้ก็เหมือนกับที่พี่สะใภ้รองเยี่ยจื่อบอกนาง ที่นี่อีกไม่นานก็จะเป็นบ้านของนางแล้ว!ต่อให้มาเพียงแค่เป็นพิธี นางก็ต้องมาสักครู่!หยุนเจิงมองสภาพที่ไม่ยินยอมพร้อมใจของนาง ก็ส่ายศีรษะแล้วหัวเราะ “หากเจ้าไม่อยากเห็นหน้าข้า เจ้าก็ไปที่อื่นเถิด หรือว่าเจ้าจะกลับบ้านก็ได้นะ”เสิ่นลั่วเยี่ยนพอได้ยินก็รีบลุกขึ้นทันทีกระนั้น นางก็ไม่ได้ขยับเท้าเดินไปไหนเวลาชั่วครั่วจากนั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนก็นั่งลงอีก มองหยุนเจิงจากหัวจรดเท้า“นี่เจ้ากำลังทำอะไร?”หยุนเจิงถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจเสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องตาของหยุนเจิง “พี่สะใภ้ร

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1598

    เขารู้เพียงว่า ท่านอ๋องผู้นี้ ซึ่งผ่านศึกมานับไม่ถ้วน มิใช่คนที่จะเมตตาปรานีใครได้ง่ายๆอู๋โหย่วเต๋อสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในที่สุดก็พยายามรวบรวมเรี่ยวแรง ขยับร่างที่อ่อนแรงของตนขึ้นคุกเข่าให้เรียบร้อย“ขอ… ขอท่านอ๋องเมตตาด้วย…”“ได้! ข้าจะให้เจ้า!”หยุนเจิงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปมองหลิวอู่และหลี่เจี่ย “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกตระกูลอู๋ ทั้งบิดา บุตร และพ่อบ้านผู้นี้ จะเป็น วัวไถนา ของพวกเจ้า! ให้พวกมันลากคันไถให้พวกเจ้า! ส่วนเรื่องอาหารไม่ต้องห่วง ข้าจะเป็นคนดูแลเอง ข้าจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่อดตาย!”อะไรนะ?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ไม่เพียงแต่อู๋โหย่วเต๋อเท่านั้นที่ตะลึงงัน แม้แต่หลิวอู่และหลี่เจี่ยเองก็ตกตะลึงเช่นกันภายในแคว้นต้าเฉียน ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนถูกใช้ให้ลากคันไถแทนวัวแต่เรื่องเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับชาวบ้านยากไร้ที่ไม่มีเงินเช่าวัวเท่านั้นทว่า เรื่องให้ตระกูลอู๋กลายเป็นวัวไถนาให้พวกเขา แม้แต่ในฝัน พวกเขาก็ไม่เคยกล้าคิด!พวกเขานิ่งอึ้งไปอยู่นาน ก่อนจะได้สติ รีบคุกเข่ากระแทกพื้นและกล่าวเสียงดัง “ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋อง! ขอขอบพระคุณในพระเมตตาอันล้ำลึก!”ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1597

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้ซับซ้อนอะไรเพียงแค่อู๋โหย่วเต๋อโลภอยากได้วัวไถนาของเหล่าหลิวโถวเดิมทีเขาตั้งใจจะใช้เงินซื้อวัวจากเหล่าหลิวโถวในราคาถูก แต่เหล่าหลิวโถวกลับไม่ยอมขายให้ไม่ว่าจะอย่างไรเมื่ออู๋โหย่วเต๋อหมดความอดทน จึงใส่ร้ายว่าเหล่าหลิวโถวขโมยวัวของตระกูลอู๋ไป และกล่าวว่า หากไม่ได้ขโมยจริง ก็ต้องมีทะเบียนวัวมายืนยันแต่ปัญหาก็คือ วัวตัวนี้เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทานให้เหล่าหลิวโถว! แล้วเหล่าหลิวโถวจะมีทะเบียนวัวจากที่ใดกัน?เหล่าหลิวโถวพูดจนปากจะฉีกก็ยังแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ เขายืนกรานว่าวัวตัวนี้เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทานให้ แต่ไม่ว่าอย่างไร อู๋โหย่วเต๋อก็ไม่ยอมฟัง ซ้ำยังข่มขู่ว่าจะพาตัวเหล่าหลิวโถวไปแจ้งความที่ศาลเหล่าหลิวโถวเป็นคนซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต พอได้ยินว่าต้องไปแจ้งความก็ถึงกับตกใจกลัวสุดท้าย วัวตัวนั้นก็ถูกอู๋โหย่วเต๋อแย่งไปจนได้หลังจากวัวถูกพาออกไป เหล่าหลิวโถวก็ร้องไห้ไม่หยุด ราวกับจิตวิญญาณหลุดออกจากร่างเมื่อหลิวอู่และหลี่เจี่ยได้ยินข่าวอีกครั้ง เหล่าหลิวโถวก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว… เขาแขวนคอตายใต้ต้นไม้ข้างกระท่อมของตัวเอง“ที่พวกเขาก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1596

    อู๋โหย่วเต๋อเห็นท่าไม่ดีจึงไม่กล้าเอนกายต่อ รีบลุกจากเก้าอี้ไม้ไผ่ แล้วเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มประจบ“นายทหาร ข้ามิทราบว่ามีใครในจวนข้าทำเรื่องผิดไป…”“พาตัวไป!”เสิ่นควานไม่แม้แต่จะให้เขาพูดจบ โบกมือสั่งการทันที ทหารองครักษ์สองนายตรงเข้าไปจับกุมอู๋โหย่วเต๋อ“ปล่อยข้านะ!”อู๋โหย่วเต๋อโกรธจัด “พวกเจ้าคิดว่าเป็นใคร ถึงกล้าบุกเข้ามาอาละวาดในตระกูลอู๋ของข้า? อย่าคิดว่าใส่ชุดเกราะแล้วจะขู่ข้าได้ ข้า…”ผัวะ!ยังไม่ทันที่อู๋โหย่วเต๋อจะพูดจบ ทหารองครักษ์นายหนึ่งก็ซัดหมัดเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรงอู๋โหย่วเต๋อร้องลั่น ร่างกายโค้งงอราวกับกุ้งต้ม“เจ้าด้วย! จับไป!”เสิ่นควานปรายตามองพ่อบ้าน ก่อนจะสั่งต่อไปยังเหล่าทหาร “ปิดล้อมตระกูลอู๋! หากไม่มีคำสั่งจากท่านอ๋อง ห้ามผู้ใดเข้าออกเด็ดขาด!”“รับทราบ!”กองทหารองครักษ์รับคำสั่งทันทีท่านอ๋อง!เมื่อได้ยินคำนี้ พ่อบ้านถึงกับรู้สึกว่าโลกหมุนคว้าง ก่อนจะล้มลงนั่งก้นกระแทกพื้น ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดท่านอ๋อง! เป็นท่านอ๋องจริงๆ!สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว!อู๋โหย่วเต๋อที่กำลังเจ็บจนหน้าบิดเบี้ยวก็ถึงกับแข็งค้างไปชั่วขณะ ราวกับว่าเขา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1595

    ตระกูลอู๋นายท่านอู๋โหย่วเต๋อกำลังเอนกายบนเก้าอี้ไม้ไผ่ รับไออุ่นจากแสงแดดอย่างสบายใจ บนร่างยังมีผ้าขนสัตว์นุ่มคลุมอยู่สาวรับใช้สองนางคุกเข่าอยู่ข้างซ้ายขวาของเขา พลางนวดเฟ้นให้เป็นจังหวะเป็นตอน บางครั้งยังถูกอู๋โหย่วเต๋อใช้มือบีบเค้นร่างกายพวกนางไปด้วยสาวรับใช้ทั้งสองไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง ได้แต่ปล่อยให้อู๋โหย่วเต๋อกระทำตามใจขณะที่อู๋โหย่วเต๋อกำลังหลับตาเพลิดเพลิน พ่อบ้านก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“นายท่าน!”พ่อบ้านดูร้อนรน รีบเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเบาๆ ข้างหูอู๋โหย่วเต๋อลืมตาขึ้นทันที โบกมือไล่สาวรับใช้ทั้งสองออกไป ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “เหล่าหลิวโถวตายแล้ว? ตายได้อย่างไร?”พ่อบ้านตอบกลับ “เจ้าเฒ่านั่นบอกว่าจะออกไปเข้าห้องส้วมเมื่อคืน แต่กลับไปหยิบเชือกป่านแล้วแขวนคอตายใต้ต้นไม้ ตอนที่มีคนพบเข้าก็แข็งทื่อไปแล้ว…”“แขวนคอตายรึ?”อู๋โหย่วเต๋อถอนหายใจโล่งอกก่อนจะบ่นอย่างไม่พอใจ “มันแขวนคอตายเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา เจ้าจะร้อนรนไปทำไม?”“ข้าน้อยแค่กลัวว่าเรื่องที่เจ้าเฒ่านั่นพูดไว้จะเป็นความจริง…” พ่อบ้านสีหน้าไม่สู้ดีนัก “นายท่าน วัวตัวนั้นจะเป็นของที่ท่านอ๋องมอบให้เหล่าหลิวโถวจริ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1594

    พวกเขาต่างรู้ดีว่า การนำโหวซื่อไคมาขายแบบนี้ ย่อมทำให้โหวซื่อไคมีความแค้นต่อพวกเขาแน่นอนว่าโหวซื่อไคคงไม่คิดร่วมมือกับพวกเขาอีกหากต้องการแบ่งผลประโยชน์ในครั้งนี้ ก็มีเพียงให้หยางหุยโจวเป็นผู้เชื่อมโยงความสัมพันธ์เท่านั้น“เรื่องนี้… ไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง?”หยางหุยโจวรู้สึกโลภขึ้นมา แต่กลับทำเป็นวางตัวไว้ก่อนหากสามารถฟันกำไรจากพวกซูเฮ่อเหนียนอีกทาง หลังจากได้จากโหวซื่อไคไปแล้ว นั่นก็หมายความว่า ตนไม่ต้องลงทุนแม้แต่ตำลึงเดียว แต่กลับสามารถกอบโกยเงินมหาศาลได้!เงินขาวๆ กองโตเช่นนี้ จะให้ตนไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?“ใต้เท้ากล่าวอะไรเช่นนั้น!”ซูเฮ่อเหนียนหัวเราะ “หากมิใช่เพราะใต้เท้า พวกเราคงยังไม่รู้เลยว่าโหวซื่อไคมีเส้นทางทำเงินเช่นนี้! นี่เป็นสิ่งที่ใต้เท้าควรได้รับอยู่แล้ว!”“ถูกต้อง!”ซูซ่งฝู่รีบเสริม “ขอใต้เท้าอย่าได้ปฏิเสธเลย!”อืม… พวกเขากล่าวมาถึงเพียงนี้แล้ว จะปฏิเสธก็ใช่ที่!หยางหุยโจวรู้สึกยินดีจนแทบกลั้นไม่อยู่ แต่สีหน้ายังคงสงบนิ่ง “เช่นนั้น… ข้าขอไปหารือกับโหวซื่อไคก่อน แล้วค่อยว่ากัน”สำเร็จแล้ว!ซูเฮ่อเหนียนและซูซ่งฝู่สบตากัน ก่อนจะเผยรอยยิ้มพึงพอใจตราบใดที่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1593

    “เจ้าแน่ใจหรือว่าเขามิได้หลอกเจ้า?”หยางหุยโจวยังคงระมัดระวัง จึงย้ำถามอีกครั้ง“แน่ใจ!”โหวซื่อไคพยักหน้าหนักแน่น “เขากล่าวว่าสามารถสอนข้าได้ต่อหน้า! รอจนข้าเรียนรู้วิธีได้แล้ว ค่อยจ่ายเงินให้เขาก็ยังไม่สาย! หากมิเป็นเช่นนี้ ข้าย่อมไม่เชื่อเขาแน่!”อืม เช่นนี้ก็สมเหตุสมผลหากเป็นการสอนกันต่อหน้า ก็ถือว่ามีเหตุผลอยู่แต่ว่า เขาเองก็แปลกใจยิ่งนักผางลู่ซานมีวิธีการเช่นไร ถึงกล้ารับประกันว่าน้ำตาลแดงห้าจินจะได้เป็นน้ำตาลขาวหนึ่งจิน?หากเป็นเรื่องจริง นี่จะกลายเป็นเส้นทางทำเงินมหาศาลทีเดียว!“หากน้ำตาลขาวผลิตได้ง่ายเพียงนี้ เหตุใดเขาจึงมีเพียงสิบจินเท่านั้น?”หยางหุยโจวถามต่อ“เขาไม่กล้าทำอย่างเปิดเผย”โหวซื่อไคกล่าวเสียงต่ำ “ข้าเคยได้ยินเขาพูดว่า ก่อนหน้านี้เคยมีคนสนิทของหยุนเจิงหักหลัง ขายเส้นทางทำเงินมากมายออกไป! ทำให้หยุนเจิงไม่ไว้ใจผู้ใดอีก เขาจึงไม่กล้าซื้อน้ำตาลแดงมากเกินไป เกรงว่าหยุนเจิงจะสงสัย…”คนที่ทรยศหยุนเจิง?นั่นไม่ใช่จางซูหรอกหรือ?หยางหุยโจวแค่นยิ้มในใจ ไม่ซักไซ้เรื่องนี้ต่ออีก แล้วถามว่า “เจ้าขาดอยู่อีกหนึ่งแสนตำลึงเท่านั้นหรือ?”“ยังขาดอยู่อีกมาก”โหวซ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1592

    “ขอรับ!”องครักษ์ทั้งสองรับคำสั่ง แล้วเข้ามาจับกุมโหวซื่อไคทันทีโหวซื่อไคตกใจจนหน้าซีด รีรออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบร้องตะโกนออกมา “ใต้เท้า ข้า… ข้ายอมพูด! ข้าจะพูด!”เมื่อเห็นโหวซื่อไคยอมอ่อนข้อ หยางหุยโจวจึงส่งสัญญาณให้องครักษ์ปล่อยตัวเขา“ว่ามา!”หยางหุยโจวกล่าวเสียงขึงขัง แสดงอำนาจขุนนางเต็มที่“เรื่องนี้…”โหวซื่อไคลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะลองกล่าวอย่างระมัดระวัง “ใต้เท้า ขอเจรจาเป็นการส่วนตัวสักคราเถิด?”หยางหุยโจวพยักหน้า แล้วพาโหวซื่อไคเดินออกไปอีกทางครานี้ โหวซื่อไค “สารภาพ” อย่างว่าง่ายน้ำตาลขาวเหล่านี้ล้วนมาจากซั่วเป่ย เป็นผางลู่ซานที่ขายให้แก่เขาผางลู่ซานเป็นผู้ดูแลโรงงานทั้งหมดในซั่วเป่ย รวมถึงโรงงานผลิตน้ำตาลขาวด้วยดังนั้น ผางลู่ซานจึงแอบกักตุนและยักยอกน้ำตาลขาวไว้ไม่น้อยแต่เพราะเขาไม่กล้าออกหน้าขายเองโดยตรง จึงเลือกขายผ่านโหวซื่อไคเหตุที่เขาไม่กล้าบอกที่มาของน้ำตาลขาว ก็เพราะกลัวหยุนเจิงล่วงรู้เรื่องนี้ หากหยุนเจิงรู้เข้า ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่ผางลู่ซานก็ต้องเอาชีวิตมาทิ้ง!หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดจบ โหวซื่อไคยังหยิบตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงออกมายัดใส่มือหย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1591

    ตอนเที่ยวันรุ่งขึ้นง โหวซื่อไคถูกเชิญไปที่จวนซูซ่งฝู่อีกครั้งเพื่อดื่มสุราวันนี้ ไม่เพียงแต่มีซูซ่งฝู่และซูเฮ่อเหนียน ยังมีหยางหุยโจวร่วมอยู่ด้วยหลายคนมิได้ร่วมรับประทานอาหารกันในเรือนหลักของจวนซูซ่งฝู่ แต่เลือกไปยังศาลาเย็นในสวนหลังบ้าน ดูจากท่าทีแล้วชัดเจนว่ามีเรื่องจะพูดคุยกัน“หลานรัก ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก นี่คือใต้เท้าหยาง หยางหุยโจว ผู้ช่วยที่ปรึกษาจวนรัชทายาท!”ซูซ่งฝู่กล่าวพลางหัวเราะ พลางแนะนำโหวซื่อไค“ข้าน้อยคารวะใต้เท้าหยาง”โหวซื่อไครีบคารวะหยางหุยโจวทันที“โหวซื่อไค เจ้ายอมรับความผิดหรือไม่?”หยางหุยโจวมองโหวซื่อไคด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าฉายแววไม่พอใจเจ้ายอมรับความผิดหรือไม่?ประโยคแรกที่หยางหุยโจวเอ่ยออกมา ทำให้โหวซื่อไคถึงกับตกตะลึงโหวซื่อไคมองอย่างงุนงง “ข้าน้อยโง่เขลาเกินไป มิทราบว่าใต้เท้าหยางกล่าวถึงเรื่องใด?”“ในเมื่อเจ้าคิดจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ ข้าก็จะเตือนเจ้าให้สักหน่อย”หยางหุยโจวจ้องโหวซื่อไคด้วยสายตาเย็นเยียบ “น้ำตาลขาว!”น้ำตาลขาว?แววตาของโหวซื่อไคพลันส่องประกายความเข้าใจขึ้นมาวูบหนึ่งเข้าใจแล้วพวกเขามุ่งเป้ามาที่น้ำตาลขาวนี่เอง!นี่ช่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1590

    หลังจากออกจากตระกูลซู โหวซื่อไคก็รีบเดินทางไปยังหัวเมืองสี่ทิศเพื่อทำการซื้อขายน้ำตาลแดงหัวเมืองสี่ทิศแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาณาเขตของตระกูลซูโดยสมบูรณ์ การกระทำของโหวซื่อไค ย่อมไม่อาจเล็ดลอดสายตาของคนในตระกูลซูไปได้จากพฤติกรรมของโหวซื่อไค พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่า น้ำตาลขาวนั้นผลิตขึ้นจากน้ำตาลแดงที่ผ่านกระบวนการกลั่นให้บริสุทธิ์เมื่อคิดถึงกำไรอันมหาศาลของน้ำตาลขาว ซูซ่งฝู่ก็รีบเรียกประชุมผู้อาวุโสทั้งหกของตระกูลซูในทันที เพื่อหารือกันว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจน้ำตาลขาวนี้ได้อย่างไรโอกาสอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว!หากมีเงินให้หา ยังนิ่งเฉยอยู่ ก็คงเป็นพวกโง่งมเต็มที!แต่ว่า โหวซื่อไคกลับปากแข็งเกินไปและที่สำคัญ ดูเหมือนว่าโหวซื่อไคจะไม่ต้องการให้ตระกูลซูเข้ามาแบ่งส่วนแบ่งในธุรกิจนี้เลย!หากต้องการเข้ามาในธุรกิจน้ำตาลขาว ก็ต้องหาทางให้โหวซื่อไคเปิดปากให้ได้ขณะที่ทุกคนกำลังหารือกันว่าจะบีบให้โหวซื่อไคพูดออกมาได้อย่างไร จู่ๆ ก็มีคนจากจวนของซูเฮ่อเหนียนรีบรุดเข้ามา เขาก้มกระซิบข้างหูซูเฮ่อเหนียนอย่างลับๆ“ว่าอย่างไรนะ!?”ซูเฮ่อเหนียนถึงกับลุกพรวดขึ้นทันที ก่อนจะลากพ่อบ้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status