Share

บทที่ 21

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
สองวันให้หลัง งานเลี้ยงฉลองจวนใหม่องค์ชายหกที่เชิญพวกขุนนางมาก็เริ่มขึ้นแล้ว

ทว่า นอกจวนองค์ชายหกนั้นคึกคักยิ่ง มีขุนนางจากราชสำนักหรือไม่ก็พวกผู้อาวุโสที่จะส่งคนมามอบของขวัญเป็นพักๆ ไม่ขาดสาย แต่ล้วนมามอบของแล้วจากไปเลย ไม่แม้นแต่จะย่างเข้าประตูจวน

เมื่อเทียบกับความคึกคักนอกจวนแล้ว ภายในจวนกลับเงียบเหงาจนวังเวง

หยุนเจิงนั่งวางแผนของอนาคตของที่เรือนหลัง วันนี้รับของมามากมาย อย่างไรตอนนี้ก็จะมีเงินแล้ว

ถัดมาก็ต้องสั่งสมกำลังคนของตนเองสักหน่อยแล้ว!

แต่ก็ห้ามให้คนอื่นรู้แผนการในใจของเขาเด็ดขาด ดังนั้น เขาไม่สามารถเรียกบรรดาเหล่าจอมยุทธ์มาที่จวนได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นแล้ว

“เรียนองค์ชาย คุณหนูเสิ่นมาแล้วเพคะ”

เวลานี้ มีสาวรับใช้มารายงาน

“นำนางเข้ามาเถิด!”

หยุนเจิงแม้นจะโบกมือขึ้นอย่างเฉยเมย แต่ในใจกลับสงสัย

เสิ่นลั่วเยี่ยนมาทำอะไร?

คงไม่ได้มาหัวเราะเยาะตัวเองหรอกนะ?

หรือว่า นางคิดตกแล้ว รู้ว่างานในวันนี้ ใครจะไม่มาก็ได้ แต่นางต้องมา?

รอเสิ่นลั่วเยี่ยนเข้ามาแล้ว หยุนเจิงก็ให้สาวรับใช้ออกไป

“เจ้าไม่ได้จัดงานเลี้ยงเข้าจวนหรอกหรือ เหตุใดจึงไม่จัดสุราอาหารเลยล่ะ?”

เสิ่นลั
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 22

    หยุนเจิงหัวเราะเยาะ “อย่าพูดขู่อีกเลย! ความกล้าระดับนี้ของเจ้า เหตุใดตอนนั้นต้องรับราชโองการทั้งน้ำตาด้วยเล่า?”“ข้า…”เสิ่นลั่วเยี่ยนพูดไม่ออก เจ็บใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัวนางอยากจัดหยุนเจิงสักยก แต่ก็ไม่อาจทำอะไรหยุนเจิงได้ ทำได้เพียงนั่งจมอยู่กับความโกรธตรงนั้นหยุนเจิงยิ้มองเสิ่นลั่วเยี่ยน แล้วถามขึ้นอีกว่า “เจ้ามาที่นี่เอง หรือเพราะคนอื่นบอกเจ้าให้มาล่ะ?”เสิ่นลั่วเยี่ยนแค่นเสียงเหอะ “หากไม่ใช่เพราะแม่ข้าไม่สบาย ข้าคงไม่มาเองหรอก!”นางไม่อยากมาจริงๆ แต่ไม่มาไม่ได้ก็เหมือนกับที่พี่สะใภ้รองเยี่ยจื่อบอกนาง ที่นี่อีกไม่นานก็จะเป็นบ้านของนางแล้ว!ต่อให้มาเพียงแค่เป็นพิธี นางก็ต้องมาสักครู่!หยุนเจิงมองสภาพที่ไม่ยินยอมพร้อมใจของนาง ก็ส่ายศีรษะแล้วหัวเราะ “หากเจ้าไม่อยากเห็นหน้าข้า เจ้าก็ไปที่อื่นเถิด หรือว่าเจ้าจะกลับบ้านก็ได้นะ”เสิ่นลั่วเยี่ยนพอได้ยินก็รีบลุกขึ้นทันทีกระนั้น นางก็ไม่ได้ขยับเท้าเดินไปไหนเวลาชั่วครั่วจากนั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนก็นั่งลงอีก มองหยุนเจิงจากหัวจรดเท้า“นี่เจ้ากำลังทำอะไร?”หยุนเจิงถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจเสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องตาของหยุนเจิง “พี่สะใภ้ร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 23

    งานเลี้ยงขึ้นจวนใหม่ของหยุนเจิงที่ไม่มีใครมาร่วม ทำให้เขาได้กำไรเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวจักรพรรดิเหวินแม้นจว่าจะไม่ได้มาร่วมงานด้วยพระองค์เองเนื่องจากมีพระราชกิจติดตัว แต่ก็สั่งให้คนนำของมามอบให้เขาแล้วจักรพรรดิเหวินได้มอบของขวัญแล้ว บรรดาองค์ชายองค์หญิงก็ต้องมอบของด้วยเช่นกันยังมีผู้คนมากมายที่เขาไม่ได้ส่งเทียบเชิญให้ คนพวกนั้นล้วนส่งคนมามอบของขวัญแก่เขาแค่คิดคร่าวๆ ของพวกนี้ที่ได้รับมีมูลค่าราวหนึ่งแสนตำลึงเงินแล้วสิ่งที่น่าปวดหัวตอนนี้คือ จะทำยังไงให้เขามีกองทัพทหารในมือขึ้นจริงๆเพิ่งรับของมาวันนี้ วันรุ่งก็นำไปขายเลย หากบอกกล่าวออกไป ดูท่าคงไม่ดีนัก!หยุนเจิงคิดจนถึงดึกดื่น ก็ไม่สามารถหากเหตุผลที่ดีมากพอที่จะแปลงของพวกนี้เป็นเงินสด สุดท้ายจึงคร้านจะคิดต่ออย่างไรเสียในวันแต่งงานก็ต้องได้รับของกำนัลอีกมากโขถึงเวลานั้นค่อยคิดหาทางแปลงเป็นเงินสดก็แล้วกัน!กลางดึก ในพระราชวัง“สถานการณ์ทางเจ้าหกเป็นเช่นไรบ้าง”จักรพรรดิเหวินสั่งให้คนรอบกายออกไป เรียกองครักษ์เงามาพูดคุยด้วยเป็นการส่วนตัวองครักษ์เงาตอบว่า “ขุนนางบู๊บุ๋นทั้งทั้งราชสำนัก ต่างก็ส่งของกำนัลไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ เพี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 24

    จะมาอย่างสันติหรือจะท้ารบ ก็ยังไม่ทราบได้กำลังทหารของเขาไม่เท่าเป่ยหวน คดีขององค์รัชทายาทก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียวแคว้นรอบๆ ก็คอยจ้องจะเขมือบตลอดเวลาต่อให้เอาชนะเป่ยหวนได้ หากต้าเฉียนได้รับบาดเจ็บสาหัด เขาจะหยุดยั้งพวกแคว้นที่หิวโซรอบๆ ได้อย่างไรเล่าพอถึงตอนนั้น แคว้นพวกนั้นก็จะโจมตีต้าเฉียน ต้าเฉียนก็สิ้นแล้วแต่จะให้ส่งเสบียงกรังแก่เป่ยหวน เขาก็ทนไม่ได้จริงๆ!ปวดเศียร ปวดเศียรเวียนเกล้าจริงๆ!จักรพรรดิเหวินครุ่นคิดทั้งคืนจนถึงรุ้งเช้า ถึงตัดสินพระทัยได้ให้ไปเถอะ!ต้าเฉียนไม่ได้เตรียมมือพร้อมทำการสู้รบ หากเปิดศึกตอนนี้ โอกาสจะชนะแทบจะเป็นสูญ…ช่วงบ่าย สองวันให้หลังหยุนเจิงเพิ่งซื้อหญิงสาวที่ถูกพ่อผีพนันของนางขายไปที่หอโคมเขียวมา ในวังก็มีคนมาหาแล้ว“คืนนี้ฮ่องเต้จะทรงจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตเป่ยหวนที่วังว่านโซ่ว เชิญองค์ชายหกพร้อมด้วยพระชายาองค์ชายหกเข้าร่วมงานตรงตามเวลาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ได้เลย รบกวนกงกงมากแล้ว!”หยุนเจิงพูดตอบ แล้วให้คนมาตบรางวัลให้กงกงที่มาส่งข่าวกงกงที่เพิ่งได้รับเงินราลวัลก็กล่าวขอบพระทัย แล้วจากไปอย่างชื่นบาน“จากนี้ไป เจ้าก็ชื่อซินเซิงแล้วก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 25

    วังว่านโซ่วยังเร็วอยู่กว่าจะถึงเวลาเริ่มงานเลี้ยงค่ำทว่า ภายนอกพระราชวังมีคนคอยท่าอยู่เป็นจำนวนมากแล้วนี่เป็นถึงงานเลี้ยงที่จักรพรรดิเหวินจัดขึ้นเพื่อต้อนรับคณะทูตเป่ยหวนเชียวนะ เป็นยามแสดงให้เห็นถึงความเกรียงไกรของราชวงศ์ต้าเฉียน ไม่มีใครกล้ามาสายเป็นดังที่เสิ่นลั่วเยี่ยนคาดไว้ นอกจากเชื้อพระวงศ์แล้ว คนที่มาล้วนเป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนักขุนนางที่ต่ำกว่าขั้นสาม แทบจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงาน“น้องหก วันนี้ลมอะไรหอบเจ้ามาได้ล่ะ?”“ข้าคิดว่าน้องหกจะแสร้งป่วยเสียอีก!”“นี่ก็คือพี่หกงั้นหรือ? เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าไม่เคยพบมาก่อนเลยล่ะ?”“เจ้าเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง? อย่าว่าเจ้าไม่เคยเจอเลย ข้าเองก็เคยเห็นพี่หกเจ้ามากนัก เขาพบตัวได้ยากกว่านางนารีในป่าลึกเสียอีก …”องค์ชายและองค์หญิงที่ตามหลังหยุนเจิงกับเสิ่นลั่วเยี่ยนมาต่างพูดหยอกเขาขึ้นมา แม้แต่เจ้าแปดที่เพิ่งอายุได้ 13 ชันษาก็หัวเราะเยาะเขากับเขาด้วยเสิ่นลั่วเยี่ยนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการหัวเราะเยาะของผู้คน ในใจนางแค้นยิ่งนัก แต่หยุนเจิงกลับสงบนิ่งผิดปกติ ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดเลย“น้องหก เจ้าพูดอะไรสักอย่างสิ!”องค์ชายห้า

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 26

    หยุนเจิงเงยหน้าขึ้นมองไปยังบรรดาองค์ชายองค์หญิงด้วยสีหน้า ‘อมทุกข์’ สายตาที่ตอบรับหยุนเจิงนั้นราวกับมองเห็นเทพเจ้าแห่งโรคระบาด พวกเขารีบจากไปตามทางของตน กลัวว่าจะโดนเทพเจ้าโรคระบาดนี่มาขอยืมเงินในระหว่างนี้ คนที่มาล้อมรอบพวกเขาไว้หลีกหายไปจนหมดไม่มีคนกลุ่มนี้ หยุนเจิงรู้สึกว่าอากาศรอบตัวบริสุทธิ์ขึ้นไม่น้อย“เจ้าอายคนเขาบ้างไหมนั่น!”เสิ่นลั่วเยี่ยนโกรธจนตัวสั่น พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงย่ำแย่ว่า “รู้ทั้งรู้ว่าพวกเขาจะไม่ยืมเงินให้เจ้าแน่นอน เจ้ายังจะกล้าเปิดปากพูด? ข้าล่ะรู้สึกอายคนแทนเจ้าจริงๆ!”“ก็ข้าไร้ซึ่งหนทางแล้วนี่?” หยุนเจิงสูดจมูก สายตาตกไปบนตัวเสิ่นลั่วเยี่ยน “ไม่เช่นนั้น เจ้าให้ข้ายืมหน่อยไหม…”“อย่าแม้แต่จะคิด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนสกัดความคิดของหยุนเจิง หันหน้าไปทางอื่นหากเป็นไปได้ นางอยากจะหารูมุดหนีไปจริงๆขณะนั้นเอง หยุนลี่มาถึงก็มีกลุ่มคนหนึ่งกรูกันเข้ามาพรรคพวกขององค์ชายสามมีอำนาจมากที่สุดในราชวงศ์นี้พอหยุนลี่มาถึงก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางทันทีหยุนลี่มองปราดเดียวก็เห็นหยุนเจิงกับเสิ่นลั่วเยี่ยนที่ยืนกันอยู่สองคนด้านข้างจังหวะที่หยุนลี่เห็นหยุนเจิง มีความเฉี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 27

    ยืมเงิน?พอหยุนลี่ได้ยินคำพูดนี้ของหยุนเจิง หน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำไอ้เวรนี่!ไหลไปตามน้ำเก่งจริงๆ!เอาล่ะ!ให้ยืมก็ให้ยืมสิ!ดีเหมือนกันจะได้ทำเล่นบทเปลี่ยนความเกลียดชังเป็นมิตรภาพต่อหน้าผู้คนสักหน่อยหากในอนาคตเกิดเรื่องอะไรกับไอ้เวรนี่ ก็อย่าสาวมาถึงตัวเขาก็แล้วกัน!“น้องหก เจ้าจะยืมเงินสักเท่าไหร่ล่ะ?”หยุนลี่สอบถาม!“สามหมื่นตำลึง!”หยุนเจิงเปิดปากก็โลภเอาทรัพย์คำเลย พูดความต้องการของตัวเองขึ้นมาอย่างน่าสงสารความหมายนั่นก็คือ สามวันยังไม่พอเสียด้วยซ้ำ จะให้ดีก็เพิ่มเงินให้เขายืมอีกหน่อยสาม...สามหมื่นตำลึง?ใบหน้าหยุนลี่กระตุกแรงๆ หนึ่งที แทบจะกระทืบเขาไปทีหนึ่งองค์ชายอย่างพวกเขา เดือนหนึ่งได้รับเงินก็แค่หนึ่งพันตำลึงเจ้าสุนัขตัวนี้ เปิดปากก็จะเอาสามหมื่นตำลึง!คิดว่าเขาเป็นท้องพระคลังหรือไง?หยุนลี่โกรธจนจะตายแล้ว แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรได้มาก ทำได้เพียงนำตัวเงินหยัดเข้ามือหยุนเจิง “ตั๋วเงินที่พี่สามนำติดตัวมานี้เอาให้เจ้าทั้งหมด หากไม่พอ เจ้าก็ไปขอยืมกับพี่สองเจ้าเถอะ!”พูดจบ หยุนลี่ก็รีบวิ่งหนี ในใจคิดอย่างเกลียดแค้นว่า: แล้วข้าจะจัดการเจ้าอย่างสาสม!

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 28

    หยุนเจิงรู้สึกว่าไอ้ตัวเลวนี่ไม่ได้มาว่าการทูต แต่มาเพื่อประกาศสงครามต่างหาก!เมื่อเห็นท่าทีสูงศักดิ์ของพวกคณะทูตเป่ยหวน พวกที่ยืนอยู่ฝั่งสนับสนุนให้ทำสงครามก็รู้สึกคันเหงือกขึ้นมาทันทีพระเนตรของจักรพรรดิเหวินก็ฉายแสงเย็นเฉียบ พยายามระงับความโกรธ สายตาจ้องไปที่ปานปู้เป็นชั่วเวลาหนึ่งห้าปีก่อนที่เขาเสด็จออกรับที่ซั่วเป่ย หลงกลอุบายของปานปู้ผู้นี้แหละ ถึงได้ถูกกองทัพของพวกเป่ยหวนล้อมรอบเอาไว้ได้แม้ว่าเสิ่นหนานเจิงจะเอาความชีวิตเข้าแลกเพื่อแก้กล แต่กำลังของต้าเฉียนนั้นร่อยหรอแล้ว สุดท้ายถูกบีบให้ขีดแบ่งสามเขตเมืองที่อยู่เหนือแม่น้ำไป๋สุ่ยเพื่อแลกกับความสงบสุขวันนี้ได้พบกับปานปู้อีกครั้ง ก็เท่ากับว่าเป็นการพบหน้ากันของศัตรูเก่าอีกครั้ง แน่นอนว่าตาต้องแดงขึ้นมา“ฮ่องเต้แห่งต้าเฉียน ไม่พานพบกันห้าปี สีหน้าของท่านดีขึ้นกว่าเดิมมากเลยนี่!”ปานปู้ยืนขึ้นมั่น มองไปที่จักรพรรดิเหวินหน้าเปื้อนรอยยิ้มเพียงแต่ รอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยการเสียดสี“บังอาจ!”อวี้กั๋วกงเซียวว่านโฉวตบโต๊ะเตี้ยแล้วลุกขึ้น กล่าวขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “คณะทูตเป่ยหวนเข้าเฝ้าพระพักตร์ เหตุใดจึงไม่คาราวะต่อฮ่องเต

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 29

    นี่มันรูบิคยุคโบราณหรือนี่?แต่ก็เป็นเพียงรูบิคสามคูณสามขั้นพื้นฐานเท่านั้นอีกทั้งยังเป็นรูบิคที่ทำจากหยกเสียด้วยผู้คนมองสิ่งของที่อยู่ในมือของปานปู้ ผู้คนสงสัยกันอย่างยิ่งชาวต้าเฉียน นอกจากหยุนเจิงแล้ว ก็ไม่มีใครเคยเห็นสิ่งของเช่นนี้มาก่อนปานปู้มองไปที่ผู้คนด้วยแววตาหยิ่งยโส “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าต้าเฉียนนั้นวรรณกรรมสูงส่ง มีปราชญ์ที่มากความสามารถมากมาย”“วันนี้ ข้าผู้เป็นราชครูจึงได้นำของสิ่งนี้มาทดสอบทุกท่าน ดูสิว่าจะมีใครในต้าเฉียนที่สามารถแก้ของสิ่งนี้ได้หรือไม่!”“หากต้าเฉียนไม่มีนายทหารที่แกร่งกล้า และไม่มีทั้งปราชญ์ผู้ปราดเปรื่องรอบรู้ แล้วเหตุใดราชครูเช่นข้าต้องทำการคาราวะด้วย?”ผู้คนพอได้ฟังคำของปานปู้ก็ฉงนใจยิ่ง“ข้าขอลอง!”เซียวว่านโฉวเป็นคนแรกที่พุ่งตัวออกไป เขาตะคอกด้วยความรังเกียจ "ของพรรค์นี้ ข้าสามารถบดขยี้มันได้ด้วยมือเดียว!"“…”ใบหน้าหยุนเจิงกระตุก มองไปที่ชายชราอย่างหมดคำจะพูดผู้อื่นให้เจ้ามาแก้ลูกรูบิค!ไม่ใช่ให้เจ้ามาทุบจนแตก!“ท่านแม่ทัพใหญ่เจียง เกรงว่าเจ้าจะไม่เข้าใจคำของข้า”ปานปู้หัวเราะกล่าว “ข้าให้เจ้าแก้ของสิ่งนี้ ไม่ใช่ให้เจ้าทุบตีมั

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1498

    “อืม เรื่องนี้เจ้าต้องใส่ใจให้มาก!” จักรพรรดิเหวินตรัสเตือน “อย่าปล่อยให้คนของเจ้าหกแฝงตัวอยู่รอบตัวเจ้าเพื่อสืบข่าวอีกต่อไป!” ในชั่วขณะนั้น หยุนลี่เริ่มคิดถึงผู้คนที่เคยร่วมวางแผนกำจัดหยุนเจิงกับเขาก่อนหน้านี้ เฉียวเหยียนเซียน ฮั่วเหวินจิ้ง... แม้กระทั่งหยวนกุยก็ยังไม่รอดพ้นจากความสงสัยของเขา แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมน่าสงสัย หรือว่า คนของเจ้าหกที่แฝงตัวอยู่ จะซ่อนตัวได้ลึกถึงเพียงนี้? “กลับเมืองหลวงแล้วค่อยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที!” จักรพรรดิเหวินยกพระหัตถ์ขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้หยุนลี่วางใจ ก่อนจะมองเขาด้วยความอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกเจ้าหกบีบเงินไปถึงสี่ล้านตำลึง ในใจเจ้าคงอึดอัดและเจ็บปวด ข้าจึงให้จางซูช่วยสร้างโรงกลั่นสุราไว้ กลับไป ข้าจะยกโรงกลั่นนั้นให้เจ้า” “เสด็จพ่อ เรื่องนี้... ลูกไม่อาจรับได้พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนลี่ตกใจ รีบปฏิเสธพร้อมกับโบกมือไปมา “ไม่มีอะไรที่เจ้าจะรับไม่ได้! แผ่นดินนี้ข้าก็จะยกให้เจ้าแล้ว ข้ายังจะมาสนใจโรงกลั่นสุราอีกหรือ?” จักรพรรดิเหวินตรัสพร้อมส่ายพระพักตร์เบาๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1497

    เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น จักรพรรดิเหวินทรงส่งคนมาแจ้งว่า พระองค์จะเสด็จออกจากหัวเมืองสี่ทิศในวันนี้ เมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตาม ก่อนเสด็จจากไป จักรพรรดิเหวินได้ทรงมีพระบัญชาให้โจวเต้ากงนำกองทัพไปประจำการแนวหน้าที่จูโจว และให้จ้าวจี๋นำกองทัพกลับไปยังตะวันตกเฉียงเหนือ กองกำลังในมือของหยุนเจิงมีมากพออยู่แล้ว หากปล่อยให้กองทัพสามหมื่นนายในจูโจวอยู่ภายใต้การควบคุมของหยุนเจิงด้วย อาจทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาได้ สำหรับเรื่องนี้ หยุนเจิงไม่มีความคิดเห็นใดๆ เมื่อสองวันก่อน ตอนที่เขาเข้าไปถวายพระพรจักรพรรดิเหวิน พระองค์ก็ได้ทรงบอกเรื่องนี้ไว้แล้ว อย่างไรเสีย โจวเต้ากงก็ได้ส่งข่าวลับมาให้เขาทราบอยู่ก่อนแล้ว หากเขาต้องการบุกจูโจวจริงๆ โจวเต้ากงก็คงจะนำกองทัพยอมจำนนเสียเอง หลังจากทานมื้อเช้า หยุนเจิงและเจียเหยาก็นำขุนนางทั้งหลายออกไปส่งจักรพรรดิเหวิน หยุนลี่ และคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงพิธีการออกจากหัวเมืองสี่ทิศ ก่อนจากกัน หยุนเจิงก็รักษาคำพูดโดยการคืนป้ายทองคำให้แก่จักรพรรดิเหวิน และกระซิบพูดบางอย่างกับหยุนลี่ ไม่นานหลังจากออกจากหัวเม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1496

    อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พูดจบ หยุนลี่ก็รู้สึกเสียใจในทันที ตอนนี้เขาควรจะแสดงความอ่อนข้อให้ไอ้สุนัขนี่แท้ๆ! ทำไมถึงปล่อยให้คำพูดไม่กี่คำของมันทำให้ตนต้องมาต่อกรกับมันอีกแล้วล่ะ? เฮ้อ! เจ้าไอ้สุนัขนี่ เวลาพูดจามันช่างยั่วโมโหจริงๆ! “ได้ๆ” หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง “เช่นนั้นข้าขอไปส่งพี่สามด้วยตนเอง” “ไม่ต้องลำบากน้องหกหรอก!” หยุนลี่รีบปฏิเสธ ไม่อยากอยู่ต่อให้นานไปกว่านี้ เกรงว่าจะถูกเล่นงานอีก “ก็ได้!” หยุนเจิงไม่ดึงดัน “อ้อ จริงสิ พี่สาม ตอนเดินทางผ่านจูโจว ก็อย่าลืมช่วยข้าเก็บหนี้ด้วยนะ” เก็บหนี้? เมื่อได้ยินสองคำนี้ หยุนลี่แทบจะกระโดดขึ้นมาด่ามารดา ถ้าเสด็จพ่อไม่เตือน เขาคงไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกเจ้าไอ้สุนัขนี่หลอกอีกแล้ว! ไร้ยางอาย! หยุนลี่สบถอย่างโมโหในใจ แต่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง “น้องหกไม่ต้องห่วง พี่สามในฐานะองค์รัชทายาท ก็แพ้เดิมพันเจ้าต่อหน้าผู้คนไปแล้ว พี่สามจะผิดคำพูดได้อย่างไร?” หยุนลี่เริ่มตระหนักว่าการพูดคุยกับหยุนเจิงก็มีข้อดีอยู่บ้าง อย่างน้อย มันช่วยฝึกความอดทนของเขาได้เป็นอย่างดี “ขอบคุณพี่สามมาก!” ใบหน้าของหยุนเจิงเต็มไปด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1495

    จวนอ๋องขณะที่หยุนเจิงและเจียเหยากำลังเตรียมตัวทานมื้อค่ำ หยุนลี่ก็นำคนมาส่งรางวัลที่จักรพรรดิเหวินมอบให้ การที่จักรพรรดิเหวินให้หยุนลี่ องค์รัชทายาท มาส่งรางวัลด้วยตัวเอง ทำให้เจียเหยารู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังอยู่ไม่น้อย รางวัลอะไรก็ไม่สำคัญ ขอแค่เป็นของที่มีค่าและขายได้ก็พอ แต่เมื่อขันทีอ่านรายชื่อสิ่งของที่เป็นรางวัลเสียงดัง เจียเหยาก็ถึงกับอึ้งไป หวีหยกขาวประดับทองคำ ปิ่นทองคำประดับดอกไม้ เครื่องประดับปิ่นทองที่แกว่งไปมาได้ ต่างหูแก้ว รวมถึงแป้งฝุ่นและเครื่องประทินโฉม... ทั้งหมดล้วนเป็นของใช้สำหรับผู้หญิง! แม้ว่าสิ่งของเหล่านี้จะมีค่าอยู่บ้าง แต่ทำไมนางกลับรู้สึกว่ารางวัลนี้แฝงความนัยบางอย่าง เมื่อขันทีอ่านรายชื่อรางวัลจนจบ เจียเหยาก็ยังไม่สามารถตั้งสติกลับมาได้ “เจียเหยา ควรขอบคุณเสด็จพ่อได้แล้ว” หยุนเจิงเตือนจากด้านข้าง ในตอนนี้เอง เจียเหยาจึงได้สติกลับมา “ลูกขอบพระคุณเสด็จพ่อสำหรับรางวัล” เจียเหยาขอบคุณด้วยรอยยิ้มฝืนๆ หยุนเจิงยิ้มพลางเดินไปหาหยุนลี่ “พี่สาม ท่านมาถูกเวลาพอดี พวกเรากำลังจะทานมื้อค่ำ! หากพี่สามไม่รังเกียจ ทำไมไม่ร่วมโต๊ะทา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1494

    หยุนลี่พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ลูกจะฝึกฝนตนเองอย่างจริงจัง และจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวังเป็นอันขาด!” “อืม!” จักรพรรดิเหวินพยักหน้าเบาๆ ก่อนถามต่อ “แล้วเจ้าคิดว่า ข้าควรให้รางวัลเจียเหยาอย่างไรดี?” “เอ่อ?” คำถามนี้ของจักรพรรดิเหวินทำให้หยุนลี่ถึงกับงงงัน ควรให้รางวัลเจียเหยาอย่างไร? เรื่องนี้ยังต้องถามด้วยหรือ? ก็คงแค่ให้ตามธรรมเนียมพอเป็นพิธีเท่านั้นมิใช่หรือ? หรือว่าจะต้องให้รางวัลใหญ่โตกับเจียเหยาจริงๆ? สิ่งที่ให้กับเจียเหยา สุดท้ายก็จะตกไปอยู่กับเจ้าหกอยู่ดีมิใช่หรือ? การให้รางวัลใหญ่กับเจียเหยา มีความแตกต่างอะไรกับการสนับสนุนศัตรูโดยตรงกันเล่า? เหตุผลง่ายๆ เช่นนี้ ตนยังเข้าใจ เสด็จพ่อจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? แต่เสด็จพ่อกลับถามเช่นนี้ ตกลงว่าเสด็จพ่อมีความตั้งใจอะไรแฝงอยู่กันแน่? หยุนลี่เต็มไปด้วยความสงสัยในใจ พยายามคิดอย่างหนักถึงเจตนาของจักรพรรดิเหวิน คิดไปคิดมา หัวใจของหยุนลี่พลันสะดุ้งขึ้น หรือว่า... เสด็จพ่อกำลังคิดจะดึงเจียเหยาเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียวกับพระองค์? หากต้องให้รางวัลใหญ่กับเจียเหยา ดูเหมือนเหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ก็คือเรื่อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1493

    จักรพรรดิเหวินเพิ่งจากไปได้ไม่นาน เจียเหยาก็ขี่ม้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าหยุนเจิง เจียเหยากระโดดลงจากม้า มองหยุนเจิงด้วยรอยยิ้มสดใส “เป็นอย่างไรบ้าง ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าขายหน้าหรอกใช่หรือไม่?” “ชูหน้าชูตาทีเดียว!” หยุนเจิงหัวเราะดังลั่น “เมื่อครู่เสด็จพ่อยังบอกว่า จะให้รางวัลเจ้าในภายหลังด้วย!” รางวัล? ดวงตาของเจียเหยาส่องประกายขึ้นทันที ก่อนจะยิ้มถามด้วยความคาดหวัง “รางวัลที่เสด็จพ่อให้ข้า เจ้าคงไม่คิดจะยึดไว้เองหรอกนะ?” หยุนเจิงหัวเราะ พลางแหย่นางว่า “โถ่ พอมีรางวัลก็เรียกเสด็จพ่อ แต่พอไม่มีรางวัลก็เป็นเสด็จพ่อของเจ้า?” ใบหน้าของเจียเหยาขึ้นสีแดงระเรื่อ รีบแก้ตัวอย่างลนลาน “ก่อนหน้านี้ข้าแค่ยังไม่ชินเท่านั้นเอง!” “อืม อืม ข้าเชื่อเจ้า” หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง “ไปเถอะ กลับกันก่อน ค่อยว่ากันทีหลัง! วางใจเถอะ รางวัลที่เสด็จพ่อให้เจ้า ข้าไม่อยากได้หรอก” “เช่นนั้นก็ค่อยยังชั่ว!” เจียเหยาพูดยิ้มๆ อย่างพอใจ แม้นางจะไม่รู้ว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลอะไร แต่ไม่ว่าอย่างไร รางวัลจากเสด็จพ่อย่อมไม่ใช่สิ่งของธรรมดา สำหรับนาง การได้อะไรมาก็ถือว่าได้กำไรแล้ว นางไม่กล้าค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1492

    หยุนลี่ถอนหายใจในใจอย่างเงียบๆ ในขณะที่หยุนลี่กำลังคิดฟุ้งซ่าน รอบแรกของการแข่งขันก็จบลงแล้ว ทหารคนหนึ่งแบกเป้ายิงธนูวิ่งมาทางนี้ “เชิญฝ่าบาทตรวจสอบเป้าพ่ะย่ะค่ะ!” เป้าของเฉียวเหยียนเซียน มีลูกธนูสามดอก ซึ่งสองดอกยิงเข้ากลางเป้า และอีกดอกหนึ่งห่างจากกลางเป้าสองนิ้ว เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ หยุนลี่ก็รู้ได้ทันทีว่าสภาพจิตใจของเฉียวเหยียนเซียนได้รับผลกระทบ ไม่เช่นนั้น ด้วยความสามารถของเฉียวเหยียนเซียน ธนูทั้งสามดอกควรจะเข้ากลางเป้าทั้งหมด ส่วนเป้าของเจียเหยา ธนูทั้งสามดอกเข้ากลางเป้าทั้งหมด และแทบจะเป็นตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด “ยอดเยี่ยม!” เมื่อเห็นเช่นนี้ แม้แต่หยุนลี่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมด้วยความจริงใจ หากเจียเหยาต้องการลอบสังหารใครสักคน ตราบใดที่ระยะห่างพอเหมาะ และให้นางมีโอกาสง้างธนูตั้งลูกศร เกรงว่าคนผู้นั้นจะไม่มีโอกาสหนีรอดเลยแม้แต่น้อย ทันใดนั้น หยุนลี่รู้สึกถึงความเย็นวาบที่แล่นขึ้นมาบริเวณด้านหลังลำคอ “ยอดเยี่ยมจริงๆ!” จักรพรรดิเหวินพยักหน้าเบาๆ เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกทึ่ง “หญิงผู้นี้ หากเกิดในต้าเฉียน จะดีแค่ไหนกัน!” “เสด็จพ่อ เจียเหยาในตอนนี้ก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1491

    เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเจียเหยา ทุกคนถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง ทำได้เช่นนี้ด้วยหรือ? ไม่ต้องพูดถึงทหารธรรมดา แม้แต่เหล่าแม่ทัพในกองทัพไม่น้อยยังตกตะลึงจนพูดไม่ออก แม้กระทั่งหยุนเจิงที่เคยได้ยินเจียเหยาบอกแล้วว่านางยิงธนูเช่นนี้ได้ ก็ยังอดทึ่งในใจไม่ได้ศิลปะการยิงธนูของหญิงคนนี้ เรียกได้ว่าเข้าขั้นเทพเจ้าเลยทีเดียว ภายใต้สายตาตกตะลึงของผู้คน ลูกธนูที่เจียเหยายิงออกไปพุ่งตรงเข้าสู่เป้า ตรงกลางเป้า! ครั้งนี้ ผู้คนยิ่งตกตะลึงกว่าเดิม ยิงธนูเช่นนี้ ไม่เพียงแต่โดนเป้า ยังตรงกลางเป้าด้วย? นี่มันศิลปะการยิงธนูที่ท้าทายสวรรค์ขนาดไหนกัน! ท่ามกลางเสียงร้องอุทานของผู้คน เจียเหยาใช้ท่าตะขอทองกลับหัว หยิบลูกธนูอีกครั้ง พร้อมกับเอนตัวลงนอนบนหลังม้า ใช้เท้าทั้งสองยันคันธนูไว้ แล้วดึงสายธนูด้วยมือเดียวพร้อมตั้งลูกธนู ผู้คนที่ยังไม่ทันตั้งสติจากภาพก่อนหน้า เมื่อเห็นวิธีการยิงธนูเช่นนี้ ยิ่งทำให้ผู้ชมรอบสนามตกใจจนแทบคางหลุด ฟิ้ว! ลูกธนูแหวกอากาศออกไปอีกครั้ง พุ่งตรงเข้าสู่เป้าตัวที่สอง ตรงกลางเป้าอีกครั้ง! นี่…นี่มันทำได้ด้วยหรือ? ทุกคนอ้าปากค้าง ราวกับไม่เชื่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1490

    “พ่ะย่ะค่ะ!” หยุนลี่รับคำสั่งแล้วถอยออกไป เมื่อหยุนลี่จากไป ขุนนางทั้งหลายและผู้ติดตามของจักรพรรดิเหวินก็ล่าถอยออกไปอย่างรู้กาลเทศะ จักรพรรดิเหวินเรียกหยุนเจิงเข้ามาใกล้ เอ่ยถามเสียงเบา “เจ้าคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่?” “ไม่มีอะไร ลูกแค่อยากทำเรื่องนี้ให้แน่นอนขึ้นเท่านั้น” หยุนเจิงอธิบาย “ก่อนหน้านี้ลูกก็เคยพูดเรื่องนี้กับพี่สามแล้ว และพี่สามก็รับปากไว้! แต่ลูกกลัวว่าพี่สามจะคิดได้ทันที แล้วส่งคนไปจับตัวเมิ่งหยุนฉี่มาหาลูกตรงๆ แล้วให้ลูกไปเก็บเงินจากเมิ่งหยุนฉี่เอง...” เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง จักรพรรดิเหวินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ ด้วยความขบขัน เจ้าลูกตัวดีคนนี้ ที่แท้ก็กำลังรอเจ้าสามอยู่ตรงนี้เอง! คิดแล้วก็เสียเปล่าที่ตนยังกังวลว่าเจ้าลูกตัวดีนี่จะคิดแผนการเล่นงานเจ้าสามหนักๆ อีกครั้ง! แต่ว่าก็ว่าเถอะ เจ้าลูกตัวดีนี่ช่างรอบคอบจริงๆ!ถ้าตนเป็นเจ้าสาม ก็คงจะจับตัวเมิ่งหยุนฉี่มาโยนให้เขาโดยตรงแน่นอน หนี้สองล้านตำลึงเช่นนี้ จะเก็บได้ง่ายๆ ที่ไหนกัน? แม้ว่าองค์รัชทายาทหยุนลี่จะช่วยเก็บหนี้ ก็ต้องดูว่าเมิ่งหยุนฉี่จะมีเงินมากขนาดนั้นหรือไม่! เฮ้อ! เจ้า

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status