แชร์

บทที่ 29

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
นี่มันรูบิคยุคโบราณหรือนี่?

แต่ก็เป็นเพียงรูบิคสามคูณสามขั้นพื้นฐานเท่านั้น

อีกทั้งยังเป็นรูบิคที่ทำจากหยกเสียด้วย

ผู้คนมองสิ่งของที่อยู่ในมือของปานปู้ ผู้คนสงสัยกันอย่างยิ่ง

ชาวต้าเฉียน นอกจากหยุนเจิงแล้ว ก็ไม่มีใครเคยเห็นสิ่งของเช่นนี้มาก่อน

ปานปู้มองไปที่ผู้คนด้วยแววตาหยิ่งยโส “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าต้าเฉียนนั้นวรรณกรรมสูงส่ง มีปราชญ์ที่มากความสามารถมากมาย”

“วันนี้ ข้าผู้เป็นราชครูจึงได้นำของสิ่งนี้มาทดสอบทุกท่าน ดูสิว่าจะมีใครในต้าเฉียนที่สามารถแก้ของสิ่งนี้ได้หรือไม่!”

“หากต้าเฉียนไม่มีนายทหารที่แกร่งกล้า และไม่มีทั้งปราชญ์ผู้ปราดเปรื่องรอบรู้ แล้วเหตุใดราชครูเช่นข้าต้องทำการคาราวะด้วย?”

ผู้คนพอได้ฟังคำของปานปู้ก็ฉงนใจยิ่ง

“ข้าขอลอง!”

เซียวว่านโฉวเป็นคนแรกที่พุ่งตัวออกไป เขาตะคอกด้วยความรังเกียจ "ของพรรค์นี้ ข้าสามารถบดขยี้มันได้ด้วยมือเดียว!"

“…”

ใบหน้าหยุนเจิงกระตุก มองไปที่ชายชราอย่างหมดคำจะพูด

ผู้อื่นให้เจ้ามาแก้ลูกรูบิค!

ไม่ใช่ให้เจ้ามาทุบจนแตก!

“ท่านแม่ทัพใหญ่เจียง เกรงว่าเจ้าจะไม่เข้าใจคำของข้า”

ปานปู้หัวเราะกล่าว “ข้าให้เจ้าแก้ของสิ่งนี้ ไม่ใช่ให้เจ้าทุบตีมั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 30

    ปานปู้มองไปทางหยุนลี่อย่างเหยียดหยามราวกับกำลังมองลิงอย่างไรอย่างนั้น “นี่เพิ่งจะแก้ได้ด้านเดียวเอง ยังมีอีกตั้งห้าด้าน!”“ล้วนใช้หลักการเดียวกันทั้งนั้น!”หยุนลี่หัวเราะอย่างได้ใจ “แก้ได้ด้านหนึ่งแล้ว ด้านที่เหลือก็เช่นเดียวกันมิใช่รึ?”ผู้คนพอได้ยินก็พยักหน้าตามหยุนเจิงที่มองหยุนลี่หมุนลูกรูบิควนอยู่กับที่เดิม ก็อดลอบส่ายหัวไม่ได้ไอ้งั่งเอ้ย!ของที่แก้ง่ายเช่นนี้ ยังให้ผู้อื่นนำมาข่มขู่พวกเจ้าได้?พวกเจ้าคิดว่าตนเป็นคนฉลาดจริงๆ หรือ?ล้วนเป็นพวกเก่งแต่โอ้อ้วดทั้งนั้น!เสิ่นลั่วเยี่ยนที่เห็นหยุนเจิงส่ายหัว ก็แค่นเสียงเหอะ “อิจฉารึไง”“ข้าเนี่ยนะอิจฉาเขา?”หยุนเจิงเบะปาก “เขาแก้ไม่ได้หรอก!”“เจ้าอิจฉาเขาชัดๆ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนแค่นเสียงเหอะ “ถ้าเจ้าเก่งก็ลองไปแก้ดูสิ! หากทำไม่ได้ก็อย่ามาแช่งผู้อื่นด้วยความอิจฉาอยู่ที่นี่!”มุมปากหยุนเจิงกระตุก พูดถามขึ้นว่า “นี่เจ้าคงไม่ได้ชอบเจ้าสามหรอกนะ?”“ถุย!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพ่นถุยเบาๆ พูดอย่างรังเกียจเต็มใบหน้า “เป็นคนที่ไร้น้ำใจที่สุดก็คือราชวงศ์! ข้าไม่อยากเกี่ยวดองกับใครทั้งนั้นในเชื้อพระวงศ์นี้!”เอ๋?ยัยเด็กนี่ก็ไม่ได้โง่นี

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 31

    องค์ชายหก?หยุนเจิง?เศษสวะนั่น?ในแวบแรก ในสมองของแต่ละคนมีคำศัพท์ดังด้านบนผุดขึ้นแต่คำพวกนี้ พูดถึงหยุนเจิงคนเดียวเมื่อครู่เขาว่าเยี่ยงไรนะ?แค่ป้านน้ำชาเดียว เขาก็สามารถแก้ปริศนาของสิ่งนี้ได้?เศษสวะผู้นี้บ้าไปแล้วหรือ?มีผู้เพียบพร้อมทั้งด้านบู๊บุ๋นและองค์ชายพร้อมทั้งเครือญาติมากมายเพียงนี้ ยังไม่สามารถแก้ปริศนาของเจ้าสิ่งนี้ได้ เขายังจะมาพูดอีกว่าเพียงเวลาป้านน้ำชาเดียวก็สามาถแก้ปริศนาของสิ่งนี้ได้?แม้นจะอยากเรียกร้องความสนใจ แต่ก็ไม่ควรคุยโวถึงเพียงนี้!เสิ่นลั่วเยี่ยนเห็นผู้คนต่างมองมาทางนี้ นางแทบจะกระอักเลือด จึงรีบออกแรงดึงหยุนเจิง เพื่อส่งสัญญาณให้เขานั่งลงเจ้าคนขี้ขลาดตาขาวไร้ความสามารถนี่ เป็นบ้าหรือไง!ตอนที่ควรจะลุกยืนขึ้นมาแก่งแย่งแสดงความสามารถกลับไม่ยืนคืน ตอนที่ไม่ควรจะยืนขึ้นมาหาแสง เขากลับกระตือรือร้นขึ้นมา?แถมยังจะเวลาแค่ป้านน้ำชาเดียวอีก?ให้เวลาเขาครึ่งปี เขาก็คงแก้ปริศนาของสิ่งนี้ไม่ได้!“น้องหก นั่งลง!”สีหน้าขององค์ชายรองย่ำแย่ทันที รีบแค่นเสียงดุว่า “นี่เป็นเรื่องใหญ่ของรัฐ ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะมาทำตัวไม่รู้หนักรู้เบา!”สวีสือฝู่มองไปทางห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 32

    ตายเสียเถอะ! ตายเสียเถอะ!ยิ่งตายเร็วยิ่งดี!หากเขาตายเร็วขึ้น ตนก็ไม่ต้องแต่งงานกับเขาแล้ว!หยุนเจิงยิ้ม “ท่านราชครูมั่นใจเพียงนี้เลยหรือว่าข้าจะแก้ปริศนาไม่ได้?”“แน่นอน!”ปานปู้พูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า “ของสิ่งนี้ข้าเป็นคนทำขึ้น ตัวข้าเองยังมิสามารถแก้ได้ภายในเวลาเพียงป้านน้ำชาเดียวเลย!”“หา?”หยุนเจิงชะงักงัน มองดูปานปู้อย่างตกตะลึงอะไรของท่าน!ของนี้ออกมาจากมือของตนเอง แต่กลับไม่สามารถทำให้กลับกลายเป็นดังเดิมได้?แล้วคนผู้นี้คิดจัดทำของเช่นนี้ออกมาได้อย่างไรเล่า?หยุนลี่เห็นสภาพตะลึงงันของหยุนเจิง ก็ลอบหัวเราะในใจยกใหญ่เจ้าเศษสวะ ตะลึงค้างไปเลยล่ะสิ?ตอนนี้คุยโวเกินตัวไปแล้วล่ะสิท่าคนอย่างเขาเนี่ยนะ คิดอยากจะติดลมบนกับเขา!เหตุใดจึงไม่ลองตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาของตนเองเสียบ้าง!“หยุนเจิง!”ทันใดนั้นเสียงของจักรพรรดิเหวินก็เปลี่ยนเป็นเข้มงวดขึ้นมาก ตรัสด้วยโทสะว่า “นั่งลง!”“เสด็จพ่อ ได้โปรดเชื่อลูกด้วย!”หยุนเจิงมองไปทางจักรพรรดิเหวินอย่างนิ่งสงบคราหนึ่ง แล้วพูดกับปานปู้ว่า “ท่านราชครู ในเมื่อท่านบอกว่าท่านไม่สามารถแก้ปริศนาของสิ่งนี้ได้ภายในชั่วเวลาป

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 33

    จักรพรรดิเหวินไม่อยากทอดพระเนตรอีก จึงหันพระวรกายไปอีกด้านทันทีภายใต้สายตาที่จับจ้องมาของผู้คน หยุนเจิงตรวจสอบรูบิครอบหนึ่ง จากนั้นสองมือก็เริ่มขยับ...ยังไม่รอจนผู้คนดึงสติกลับมาได้ หยุนเจิงก็หยุดท่าทางลงแล้วภายใต้สายตาที่งุนงงของผู้คน หยุนเจิงชูรูบิคขึ้นสูงรูม่านตาของปานปู้หดตัวลงทันที มองไปที่รูบิคในมือของหยุนเจิงอย่างงุนงง เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเองเป็นไปไม่ได้!เหตุใดจึงว่องไวเพียงนี้?ผู้คนแห่งต้าเฉียนมองไปที่รูบิคในมือของหยุนเจิง ก็ล้วนอึ้งจนตาค้างแค่นี้ก็…แก้ปริศนาได้แล้ว?ผู้คนขยี้ตาของตนเองอย่างแรง ไม่อยากจะเชื่อฉากที่อยู่ตรงหน้าทว่า รูบิคก็ยังคงเป็นรูบิคนั่นเพียงแต่ ทั้งหกด้านนั้น แต่ละด้านเป็นสีเดียงกันแก้ปริศนาได้แล้วจริงๆ!นี่มันไม่ใช่ชั่วเวลาเพียงป้านน้ำชาเดียวที่หยุนเจิงพูด!แต่มันคือชั่วขณะหายใจเดียวต่างหาก เขาก็สามารถแก้ได้แล้ว!หยุนลี่กับองค์ชายท่านอื่นตะลึงค้างไปนี่เป็นไปได้อย่างไรพวกเขาลองแกะแงะไปครึ่งค่อนวัน อย่างมากก็แก้ได้เพียงด้านเดียว!แต่เจ้าเศษสวะผู้นี้เหตุใดจึงสามารถแก้ปริศนาของสิ่งนี้ได้ไวเพียงนี้?สมควรตาย!นี่มันเรื่อ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 34

    หยกกรุ๊งกริ๊ง?หยกกรุ๊งหยกกริ๊งบิดาเจ้าสิ!สอดส่องดูทิศทางแห่งสวรรค์ในยามค่ำคืนมารดาเจ้าสิ!หากบอกว่าเจ้าทะลุมิติมา ยังจะฟังดูน่าเชื่อถือหน่อย!หยุนเจิงกระแหนะกระแหนขึ้นอย่างรุนแรงในใจ จากนั้นก็ส่ายหัวกล่าวว่า “ไม่ ของสิ่งนี้เรียกว่ารูบิค!”“รูบิค?”ปานปู้ขมวดคิ้วมุ่นนี่เป็นหยกกรุ๊งกริ๊งที่ตนเป็นคนคิดค้นขึ้นแท้ๆ!หยุนเจิงหัวเราะ จากนั้นกล่าวว่า “ไม่ปิดบังท่านราชครู ตอนที่ข้าอายุสิบขวบ ข้าก็เคยพบเห็นของสิ่งนี้ในบันทึกโบราณของราชวงศ์ข้าแล้ว ตอนที่ไม่มีอะไรทำข้าได้ลองใช้ไม้ทำของสิ่งนี้ขึ้นมา!”“อีกทั้ง รูบิคที่ข้าเล่น ทั้งหมดมีถึงสิบหกช่องแล้ว!”“ยากกว่าหยกกรุ๊งกริ๊งของเจ้ามาก!”กริ้บกริ้ว!พวกนางกำนัลกับองครักษ์ในเรือนปี้ปัวถูกกำจัดไปหมดแล้วตนจะแต่งอย่างไรก็ไม่มีใครคัดค้านได้ตนจะว่าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น!ปานปู้ฟังคำของหยุนเจิง ใบหน้าชราของเขาอดกระตุกไม่ได้สิบหกช่อง?เขาอายุเพียงสิบขวบก็สามารถทำหยกกรุ๊งกริ๊งออกมาได้แล้ว?นี่จะเป็นไปได้อย่างไร!“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”ปานปู้ดวงตาแดงก่ำ กัดฟันกล่าว “เจ้าก็แค่โชคดีเท่านั้น!”“งั้นรึ?”หยุนเจิงส่ายหัวยิ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 35

    หลับตา!ทั้งยังแก้ปริศนาของสิ่งนี้ภายในชั่วเวลาป้านน้ำชาเดียวอีก?บ้าไปแล้ว!หยุนเจิงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!เศษสวะไร้ประโยชน์ผู้นี้ ชนะเดิมพันเพราะโชคช่วยไปคราหนึ่ง ยังจะทำตัวเหลิงอีก!จักรพรรดิเหวินโกรธจนสั่นไปทั้งพระวรกาย ดวงเนตรทั้งคู่แทบลุกเป็นไฟ มองไปยังหยุนเจิงหยุนเจิงกลับไม่ได้ใช้เรื่องใหญ่ของรัฐไปเป็นเดิมพันยังคงใช้ศีรษะของเขาเป็นเดิมพันแถมยังจะปิดตาแก้ปริศนารูบิคอีกเหตุใดเขาจึงไม่พูดไปเสียเลยว่าเขาจะใช้วิธีของเทพเซียนมาแก้รูบิคไอ้เด็กเวรนี่ เขาอยากตายมากขนาดนี้เลยหรือไงจักรพรรดิเหวินโทสะพุ่งขึ้น หากไม่ใช่เพราะไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าคณะทูตเป่ยหวน่ะก็ เขาถีบหยุนเจิงไปตั้งนานแล้วเสิ่นลั่วเยี่ยนเองก็โกรธเป็นอย่างมากตอนแรก หยุนเจิงใช้วิธีเดิมพันเพื่อเรียกคือดินแดนของต้าเฉียนที่เสียไป ได้สร้างคุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ไว้แต่ปรากฏว่า ไอ้เวรนี่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ยังจะเดิมพันกับราชครูแห่งเป่ยปวนอีก?และยังจะใช้ศีรษะของเขาเป็นเดิมพัน!นี่ยังไม่ได้รนหาที่ตายหรอกหรือ?หลับตาแก้ปริศนาของสิ่งนี้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้!พอคิดว่าตนฉุดเดิงหยุนเจิงกี่ครั้งก็มิอ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 36

    ปานปู้ฟังคำพูดของหยุนเจิงไปด้วย สีหน้าเดี๋ยวคล้ำเดี๋ยวซีด ราวกับว่าเพิ่งโดนคนลากไปตบกลางสี่แยกมาเขาอยากโต้แย้งเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีทางโต้ได้เรื่องราวก็ประจักษ์อยู่ตรงหน้าแล้ว!ของที่ตัวเองสร้างขึ้นมา หยุนเจิงปิดตาแก้ปริศนา ยังใช้เวลาน้อยกว่าที่ตนแก้ปริศนาเสียอีก!หากเขาพูดว่าไมได้ครูพักลักจำมา ใครจะเชื่อเล่า?“ฮ่าๆ…” เสียงหัวเราะดังปลุกผู้คนที่ตกอยู่ในภวังค์ให้ตื่นขึ้นเซียวว่านโฉวจ้องไปที่ปานปู้ หัวเราะเสียงดังกล่าว “ท่านราชครูเอ๋ย พวกท่านลักจำเรียนไปจากราชวงศ์ของข้า แล้วตอนนี้ยังจะมาโอ้อวดรูบิคต่อหน้าราชวงศ์ข้าอีก นี่ไม่ใช่เรื่องน่าขบขันหรอกหรือ?”ผู้คนพอได้ยินคำพูดของเซียวว่านโฉวก็ชะงักงันไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังขึ้น“อวี้กั๋วกงพูดถูกต้อง!”“ศิษย์ยังจะอยากจะมาทดสอบฝีมืออาจารย์ จะไม่ใช่เรื่องน่าขบขันได้อย่างไรเล่า”“ท่านราชครูเอ๋ย สิ่งที่เป่ยหวนต้องเรียนรู้ยังมีอีกมาก!”“อวี้กั๋วกงพูดได้มีเหตุผล…”หยุนเจิงชนะเดิมพันอีกครั้ง ตอนนี้ผู้คนดีใจเป็นอย่างมากมีเพียงหยุนลี่และพรรคพวกของเขาที่หน้าดำคล้ำขึ้น แต่ก็ต้องพยายามเค้นเอารอยยิ้มออกมาสมควรตาย!คนโง่งมผู

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 37

    หลังจากที่ปานปู้คุกเข่าลง คนอื่นๆ ในคณะทูตเป่ยหวนก็คุกเข่าลงตามต่อให้พวกเขาจะไม่ยินยอมเสียเพียงใด ตอนนี้ก็ต้องคุกเข่าลงหากพวกเขาคิดเบี้ยวบัญชีตอนนี้ ตอนที่ขอเสบียงก็ไม่ต้องเจรจาแล้วจักรพรรดิเหวินทอดพระเนตรเห็นคนเป่ยหวนที่คุกเข่าอยู่กับพื้นก็เปรมปรีดิ์เป็นอย่างยิ่งห้าปีแล้ว!ราชครูเป่ยหวนผู้นี้ที่เกือบทำให้ตนถูกจับตัวไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ในที่สุดก็มาคุกเข่าอยู่ต่อหน้าตนแล้ว!เท่านี้ ก็นับว่าเป็นการระบายความโกรธเมื่อห้าปีก่อนแล้ว!ที่สำคัญคือ ยังสามารถเรียกคืนดินแดนที่เสียไปได้!ต่อให้ตนตายไปแล้ว ก็มีหน้าไปเจอบรรพบุรุษแล้ว!ตำราประวัติศาสตร์ในชนรุ่นหลัง ก็จะไม่มีใครว่าตนเป็นฮ่องเต้ที่ทำให้เสียดินแดนแล้ว!จักรพรรดิเหวินพระทัยปริ่มล้น ตั้งใจยื้อเวลาไปสักพัก แล้วค่อยๆ ยกพระหัตถ์ขึ้น “คณะทูตทุกท่าน เชิญถามตัวตามสบาย! ใครก็ได้ จัดที่นั่งให้คณะทูต!”“ขอบพระทัยจักรพรรดิต้าเฉียน!”ชาวเป่ยหวนค่อยๆ ลุกขึ้น สีหน้าดูไม่ดีสักเท่าไหร่โดยเฉพาะปานปู้ เขาจ้องไปที่หยุนเจิงอย่างโหดเหี้ยมคราหนึ่งหยุนเจิงเบะปาก ในใจลอบด่าเขาว่าสุนัขเฒ่าไม่ช้าบิดาก็จะทำลายเป่ยหวนให้สิ้น!ดูสิว่าเจ้าจะยัง

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1598

    เขารู้เพียงว่า ท่านอ๋องผู้นี้ ซึ่งผ่านศึกมานับไม่ถ้วน มิใช่คนที่จะเมตตาปรานีใครได้ง่ายๆอู๋โหย่วเต๋อสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในที่สุดก็พยายามรวบรวมเรี่ยวแรง ขยับร่างที่อ่อนแรงของตนขึ้นคุกเข่าให้เรียบร้อย“ขอ… ขอท่านอ๋องเมตตาด้วย…”“ได้! ข้าจะให้เจ้า!”หยุนเจิงตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปมองหลิวอู่และหลี่เจี่ย “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกตระกูลอู๋ ทั้งบิดา บุตร และพ่อบ้านผู้นี้ จะเป็น วัวไถนา ของพวกเจ้า! ให้พวกมันลากคันไถให้พวกเจ้า! ส่วนเรื่องอาหารไม่ต้องห่วง ข้าจะเป็นคนดูแลเอง ข้าจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่อดตาย!”อะไรนะ?เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเจิง ไม่เพียงแต่อู๋โหย่วเต๋อเท่านั้นที่ตะลึงงัน แม้แต่หลิวอู่และหลี่เจี่ยเองก็ตกตะลึงเช่นกันภายในแคว้นต้าเฉียน ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนถูกใช้ให้ลากคันไถแทนวัวแต่เรื่องเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับชาวบ้านยากไร้ที่ไม่มีเงินเช่าวัวเท่านั้นทว่า เรื่องให้ตระกูลอู๋กลายเป็นวัวไถนาให้พวกเขา แม้แต่ในฝัน พวกเขาก็ไม่เคยกล้าคิด!พวกเขานิ่งอึ้งไปอยู่นาน ก่อนจะได้สติ รีบคุกเข่ากระแทกพื้นและกล่าวเสียงดัง “ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋อง! ขอขอบพระคุณในพระเมตตาอันล้ำลึก!”ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1597

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้ซับซ้อนอะไรเพียงแค่อู๋โหย่วเต๋อโลภอยากได้วัวไถนาของเหล่าหลิวโถวเดิมทีเขาตั้งใจจะใช้เงินซื้อวัวจากเหล่าหลิวโถวในราคาถูก แต่เหล่าหลิวโถวกลับไม่ยอมขายให้ไม่ว่าจะอย่างไรเมื่ออู๋โหย่วเต๋อหมดความอดทน จึงใส่ร้ายว่าเหล่าหลิวโถวขโมยวัวของตระกูลอู๋ไป และกล่าวว่า หากไม่ได้ขโมยจริง ก็ต้องมีทะเบียนวัวมายืนยันแต่ปัญหาก็คือ วัวตัวนี้เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทานให้เหล่าหลิวโถว! แล้วเหล่าหลิวโถวจะมีทะเบียนวัวจากที่ใดกัน?เหล่าหลิวโถวพูดจนปากจะฉีกก็ยังแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ เขายืนกรานว่าวัวตัวนี้เป็นของที่หยุนเจิงพระราชทานให้ แต่ไม่ว่าอย่างไร อู๋โหย่วเต๋อก็ไม่ยอมฟัง ซ้ำยังข่มขู่ว่าจะพาตัวเหล่าหลิวโถวไปแจ้งความที่ศาลเหล่าหลิวโถวเป็นคนซื่อสัตย์มาตลอดชีวิต พอได้ยินว่าต้องไปแจ้งความก็ถึงกับตกใจกลัวสุดท้าย วัวตัวนั้นก็ถูกอู๋โหย่วเต๋อแย่งไปจนได้หลังจากวัวถูกพาออกไป เหล่าหลิวโถวก็ร้องไห้ไม่หยุด ราวกับจิตวิญญาณหลุดออกจากร่างเมื่อหลิวอู่และหลี่เจี่ยได้ยินข่าวอีกครั้ง เหล่าหลิวโถวก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว… เขาแขวนคอตายใต้ต้นไม้ข้างกระท่อมของตัวเอง“ที่พวกเขาก

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1596

    อู๋โหย่วเต๋อเห็นท่าไม่ดีจึงไม่กล้าเอนกายต่อ รีบลุกจากเก้าอี้ไม้ไผ่ แล้วเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มประจบ“นายทหาร ข้ามิทราบว่ามีใครในจวนข้าทำเรื่องผิดไป…”“พาตัวไป!”เสิ่นควานไม่แม้แต่จะให้เขาพูดจบ โบกมือสั่งการทันที ทหารองครักษ์สองนายตรงเข้าไปจับกุมอู๋โหย่วเต๋อ“ปล่อยข้านะ!”อู๋โหย่วเต๋อโกรธจัด “พวกเจ้าคิดว่าเป็นใคร ถึงกล้าบุกเข้ามาอาละวาดในตระกูลอู๋ของข้า? อย่าคิดว่าใส่ชุดเกราะแล้วจะขู่ข้าได้ ข้า…”ผัวะ!ยังไม่ทันที่อู๋โหย่วเต๋อจะพูดจบ ทหารองครักษ์นายหนึ่งก็ซัดหมัดเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรงอู๋โหย่วเต๋อร้องลั่น ร่างกายโค้งงอราวกับกุ้งต้ม“เจ้าด้วย! จับไป!”เสิ่นควานปรายตามองพ่อบ้าน ก่อนจะสั่งต่อไปยังเหล่าทหาร “ปิดล้อมตระกูลอู๋! หากไม่มีคำสั่งจากท่านอ๋อง ห้ามผู้ใดเข้าออกเด็ดขาด!”“รับทราบ!”กองทหารองครักษ์รับคำสั่งทันทีท่านอ๋อง!เมื่อได้ยินคำนี้ พ่อบ้านถึงกับรู้สึกว่าโลกหมุนคว้าง ก่อนจะล้มลงนั่งก้นกระแทกพื้น ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดท่านอ๋อง! เป็นท่านอ๋องจริงๆ!สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว!อู๋โหย่วเต๋อที่กำลังเจ็บจนหน้าบิดเบี้ยวก็ถึงกับแข็งค้างไปชั่วขณะ ราวกับว่าเขา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1595

    ตระกูลอู๋นายท่านอู๋โหย่วเต๋อกำลังเอนกายบนเก้าอี้ไม้ไผ่ รับไออุ่นจากแสงแดดอย่างสบายใจ บนร่างยังมีผ้าขนสัตว์นุ่มคลุมอยู่สาวรับใช้สองนางคุกเข่าอยู่ข้างซ้ายขวาของเขา พลางนวดเฟ้นให้เป็นจังหวะเป็นตอน บางครั้งยังถูกอู๋โหย่วเต๋อใช้มือบีบเค้นร่างกายพวกนางไปด้วยสาวรับใช้ทั้งสองไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง ได้แต่ปล่อยให้อู๋โหย่วเต๋อกระทำตามใจขณะที่อู๋โหย่วเต๋อกำลังหลับตาเพลิดเพลิน พ่อบ้านก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา“นายท่าน!”พ่อบ้านดูร้อนรน รีบเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเบาๆ ข้างหูอู๋โหย่วเต๋อลืมตาขึ้นทันที โบกมือไล่สาวรับใช้ทั้งสองออกไป ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “เหล่าหลิวโถวตายแล้ว? ตายได้อย่างไร?”พ่อบ้านตอบกลับ “เจ้าเฒ่านั่นบอกว่าจะออกไปเข้าห้องส้วมเมื่อคืน แต่กลับไปหยิบเชือกป่านแล้วแขวนคอตายใต้ต้นไม้ ตอนที่มีคนพบเข้าก็แข็งทื่อไปแล้ว…”“แขวนคอตายรึ?”อู๋โหย่วเต๋อถอนหายใจโล่งอกก่อนจะบ่นอย่างไม่พอใจ “มันแขวนคอตายเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา เจ้าจะร้อนรนไปทำไม?”“ข้าน้อยแค่กลัวว่าเรื่องที่เจ้าเฒ่านั่นพูดไว้จะเป็นความจริง…” พ่อบ้านสีหน้าไม่สู้ดีนัก “นายท่าน วัวตัวนั้นจะเป็นของที่ท่านอ๋องมอบให้เหล่าหลิวโถวจริ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1594

    พวกเขาต่างรู้ดีว่า การนำโหวซื่อไคมาขายแบบนี้ ย่อมทำให้โหวซื่อไคมีความแค้นต่อพวกเขาแน่นอนว่าโหวซื่อไคคงไม่คิดร่วมมือกับพวกเขาอีกหากต้องการแบ่งผลประโยชน์ในครั้งนี้ ก็มีเพียงให้หยางหุยโจวเป็นผู้เชื่อมโยงความสัมพันธ์เท่านั้น“เรื่องนี้… ไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง?”หยางหุยโจวรู้สึกโลภขึ้นมา แต่กลับทำเป็นวางตัวไว้ก่อนหากสามารถฟันกำไรจากพวกซูเฮ่อเหนียนอีกทาง หลังจากได้จากโหวซื่อไคไปแล้ว นั่นก็หมายความว่า ตนไม่ต้องลงทุนแม้แต่ตำลึงเดียว แต่กลับสามารถกอบโกยเงินมหาศาลได้!เงินขาวๆ กองโตเช่นนี้ จะให้ตนไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?“ใต้เท้ากล่าวอะไรเช่นนั้น!”ซูเฮ่อเหนียนหัวเราะ “หากมิใช่เพราะใต้เท้า พวกเราคงยังไม่รู้เลยว่าโหวซื่อไคมีเส้นทางทำเงินเช่นนี้! นี่เป็นสิ่งที่ใต้เท้าควรได้รับอยู่แล้ว!”“ถูกต้อง!”ซูซ่งฝู่รีบเสริม “ขอใต้เท้าอย่าได้ปฏิเสธเลย!”อืม… พวกเขากล่าวมาถึงเพียงนี้แล้ว จะปฏิเสธก็ใช่ที่!หยางหุยโจวรู้สึกยินดีจนแทบกลั้นไม่อยู่ แต่สีหน้ายังคงสงบนิ่ง “เช่นนั้น… ข้าขอไปหารือกับโหวซื่อไคก่อน แล้วค่อยว่ากัน”สำเร็จแล้ว!ซูเฮ่อเหนียนและซูซ่งฝู่สบตากัน ก่อนจะเผยรอยยิ้มพึงพอใจตราบใดที่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1593

    “เจ้าแน่ใจหรือว่าเขามิได้หลอกเจ้า?”หยางหุยโจวยังคงระมัดระวัง จึงย้ำถามอีกครั้ง“แน่ใจ!”โหวซื่อไคพยักหน้าหนักแน่น “เขากล่าวว่าสามารถสอนข้าได้ต่อหน้า! รอจนข้าเรียนรู้วิธีได้แล้ว ค่อยจ่ายเงินให้เขาก็ยังไม่สาย! หากมิเป็นเช่นนี้ ข้าย่อมไม่เชื่อเขาแน่!”อืม เช่นนี้ก็สมเหตุสมผลหากเป็นการสอนกันต่อหน้า ก็ถือว่ามีเหตุผลอยู่แต่ว่า เขาเองก็แปลกใจยิ่งนักผางลู่ซานมีวิธีการเช่นไร ถึงกล้ารับประกันว่าน้ำตาลแดงห้าจินจะได้เป็นน้ำตาลขาวหนึ่งจิน?หากเป็นเรื่องจริง นี่จะกลายเป็นเส้นทางทำเงินมหาศาลทีเดียว!“หากน้ำตาลขาวผลิตได้ง่ายเพียงนี้ เหตุใดเขาจึงมีเพียงสิบจินเท่านั้น?”หยางหุยโจวถามต่อ“เขาไม่กล้าทำอย่างเปิดเผย”โหวซื่อไคกล่าวเสียงต่ำ “ข้าเคยได้ยินเขาพูดว่า ก่อนหน้านี้เคยมีคนสนิทของหยุนเจิงหักหลัง ขายเส้นทางทำเงินมากมายออกไป! ทำให้หยุนเจิงไม่ไว้ใจผู้ใดอีก เขาจึงไม่กล้าซื้อน้ำตาลแดงมากเกินไป เกรงว่าหยุนเจิงจะสงสัย…”คนที่ทรยศหยุนเจิง?นั่นไม่ใช่จางซูหรอกหรือ?หยางหุยโจวแค่นยิ้มในใจ ไม่ซักไซ้เรื่องนี้ต่ออีก แล้วถามว่า “เจ้าขาดอยู่อีกหนึ่งแสนตำลึงเท่านั้นหรือ?”“ยังขาดอยู่อีกมาก”โหวซ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1592

    “ขอรับ!”องครักษ์ทั้งสองรับคำสั่ง แล้วเข้ามาจับกุมโหวซื่อไคทันทีโหวซื่อไคตกใจจนหน้าซีด รีรออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบร้องตะโกนออกมา “ใต้เท้า ข้า… ข้ายอมพูด! ข้าจะพูด!”เมื่อเห็นโหวซื่อไคยอมอ่อนข้อ หยางหุยโจวจึงส่งสัญญาณให้องครักษ์ปล่อยตัวเขา“ว่ามา!”หยางหุยโจวกล่าวเสียงขึงขัง แสดงอำนาจขุนนางเต็มที่“เรื่องนี้…”โหวซื่อไคลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะลองกล่าวอย่างระมัดระวัง “ใต้เท้า ขอเจรจาเป็นการส่วนตัวสักคราเถิด?”หยางหุยโจวพยักหน้า แล้วพาโหวซื่อไคเดินออกไปอีกทางครานี้ โหวซื่อไค “สารภาพ” อย่างว่าง่ายน้ำตาลขาวเหล่านี้ล้วนมาจากซั่วเป่ย เป็นผางลู่ซานที่ขายให้แก่เขาผางลู่ซานเป็นผู้ดูแลโรงงานทั้งหมดในซั่วเป่ย รวมถึงโรงงานผลิตน้ำตาลขาวด้วยดังนั้น ผางลู่ซานจึงแอบกักตุนและยักยอกน้ำตาลขาวไว้ไม่น้อยแต่เพราะเขาไม่กล้าออกหน้าขายเองโดยตรง จึงเลือกขายผ่านโหวซื่อไคเหตุที่เขาไม่กล้าบอกที่มาของน้ำตาลขาว ก็เพราะกลัวหยุนเจิงล่วงรู้เรื่องนี้ หากหยุนเจิงรู้เข้า ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่ผางลู่ซานก็ต้องเอาชีวิตมาทิ้ง!หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดจบ โหวซื่อไคยังหยิบตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงออกมายัดใส่มือหย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1591

    ตอนเที่ยวันรุ่งขึ้นง โหวซื่อไคถูกเชิญไปที่จวนซูซ่งฝู่อีกครั้งเพื่อดื่มสุราวันนี้ ไม่เพียงแต่มีซูซ่งฝู่และซูเฮ่อเหนียน ยังมีหยางหุยโจวร่วมอยู่ด้วยหลายคนมิได้ร่วมรับประทานอาหารกันในเรือนหลักของจวนซูซ่งฝู่ แต่เลือกไปยังศาลาเย็นในสวนหลังบ้าน ดูจากท่าทีแล้วชัดเจนว่ามีเรื่องจะพูดคุยกัน“หลานรัก ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก นี่คือใต้เท้าหยาง หยางหุยโจว ผู้ช่วยที่ปรึกษาจวนรัชทายาท!”ซูซ่งฝู่กล่าวพลางหัวเราะ พลางแนะนำโหวซื่อไค“ข้าน้อยคารวะใต้เท้าหยาง”โหวซื่อไครีบคารวะหยางหุยโจวทันที“โหวซื่อไค เจ้ายอมรับความผิดหรือไม่?”หยางหุยโจวมองโหวซื่อไคด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าฉายแววไม่พอใจเจ้ายอมรับความผิดหรือไม่?ประโยคแรกที่หยางหุยโจวเอ่ยออกมา ทำให้โหวซื่อไคถึงกับตกตะลึงโหวซื่อไคมองอย่างงุนงง “ข้าน้อยโง่เขลาเกินไป มิทราบว่าใต้เท้าหยางกล่าวถึงเรื่องใด?”“ในเมื่อเจ้าคิดจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ ข้าก็จะเตือนเจ้าให้สักหน่อย”หยางหุยโจวจ้องโหวซื่อไคด้วยสายตาเย็นเยียบ “น้ำตาลขาว!”น้ำตาลขาว?แววตาของโหวซื่อไคพลันส่องประกายความเข้าใจขึ้นมาวูบหนึ่งเข้าใจแล้วพวกเขามุ่งเป้ามาที่น้ำตาลขาวนี่เอง!นี่ช่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1590

    หลังจากออกจากตระกูลซู โหวซื่อไคก็รีบเดินทางไปยังหัวเมืองสี่ทิศเพื่อทำการซื้อขายน้ำตาลแดงหัวเมืองสี่ทิศแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาณาเขตของตระกูลซูโดยสมบูรณ์ การกระทำของโหวซื่อไค ย่อมไม่อาจเล็ดลอดสายตาของคนในตระกูลซูไปได้จากพฤติกรรมของโหวซื่อไค พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่า น้ำตาลขาวนั้นผลิตขึ้นจากน้ำตาลแดงที่ผ่านกระบวนการกลั่นให้บริสุทธิ์เมื่อคิดถึงกำไรอันมหาศาลของน้ำตาลขาว ซูซ่งฝู่ก็รีบเรียกประชุมผู้อาวุโสทั้งหกของตระกูลซูในทันที เพื่อหารือกันว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจน้ำตาลขาวนี้ได้อย่างไรโอกาสอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว!หากมีเงินให้หา ยังนิ่งเฉยอยู่ ก็คงเป็นพวกโง่งมเต็มที!แต่ว่า โหวซื่อไคกลับปากแข็งเกินไปและที่สำคัญ ดูเหมือนว่าโหวซื่อไคจะไม่ต้องการให้ตระกูลซูเข้ามาแบ่งส่วนแบ่งในธุรกิจนี้เลย!หากต้องการเข้ามาในธุรกิจน้ำตาลขาว ก็ต้องหาทางให้โหวซื่อไคเปิดปากให้ได้ขณะที่ทุกคนกำลังหารือกันว่าจะบีบให้โหวซื่อไคพูดออกมาได้อย่างไร จู่ๆ ก็มีคนจากจวนของซูเฮ่อเหนียนรีบรุดเข้ามา เขาก้มกระซิบข้างหูซูเฮ่อเหนียนอย่างลับๆ“ว่าอย่างไรนะ!?”ซูเฮ่อเหนียนถึงกับลุกพรวดขึ้นทันที ก่อนจะลากพ่อบ้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status