บทที่ 8
เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ " " อื้อ " จากนั้นหญิงสาวก็เดินออกไปจากห้องทำงานของญาติผู้น้องทันที ชลินหันมองการันต์แล้วทำหน้ามุ่ยใส่อีกคน ก่อนจะลุกขึ้นหมายจะเดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แต่ทว่ากลับถูกชายหนุ่มดึงแขนจนเสียหลักนั่งทับหน้าตักของเขา เธอหันขวับจ้องเขาเขม็งอย่างไม่พอใจ " พี่การันต์...อะไรของพี่เนี่ยเรียกดี ๆ ไม่เป็นหรือไง! " " มันไม่ได้อารมณ์นี้นา " ทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวคนรักที่นั่งอยู่บนตักของเขาพลางกระชับอ้อมแขนที่โอบกอดขึ้นกว่าเดิม " พี่การันต์ " เธอกดเสียงหวานให้ต่ำลง " ครับหนู " " โอ้ย...ไม่คุยด้วยแล้ว! " กระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว ต่างจากชายหนุ่มที่เอาแต่ยิ้มร่าอย่างชอบใจ " ไอ้คนบ้า " เธอพึมพำกับตัวเองพร้อมกับเบี่ยงหน้าหนีเขาด้วยความเง้างอน " พี่ได้ยินนะครับ " ก้มลงมากระซิบข้างใบหูของเธอพลางขบติ่งหูเล็กเบา ๆ " อื้อ...พี่การันต์ " " หึ น่าเอาฉิบ " " คนทะลึ่งเดี๋ยวเถอะปล่อยชลินเลยนะ คนบ้า " ตีแขนของเขาสองสามทีหวังให้เขาปล่อย " ไม่ " " พี่การันต์ปล่อย! " " ไม่! " 🔸ณ คอนโดมิเนียมหรู🔸 หญิงสาวที่กำลังทำอาหารให้กับคนรักทานอย่างขมักเขม้นอยู่ในห้องครัว เธอเลือกทำอาหารที่ไม่มีกลิ่นฉุนอย่างต้มจืดเต้าหู้หมูสับและยำทะเลรวม เมื่อทำเสร็จเธอจึงนำมาวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นจึงเดินเข้าไปเรียกคนรักให้ออกมาทาน ชายหนุ่มที่กำลังนั่งเคลียร์งานอยู่ช้อนตาขึ้นมองหญิงสาวคนรักที่กำลังเดินเข้ามาหาตนเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ข้างกายเขา " ทานอาหารกันค่ะ " " ครับ...วันนี้ข้าวทำอะไรให้พี่ทานบ้างครับหืม? " " วันนี้ข้าวทำต้มจืดเต้าหู้หมูสับกับยำทะเลรวมให้พี่รันทานค่ะ " หันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรักของเธอ " น่าทานนะเนี่ย " " ถ้างั้นก็ทานให้หมดเลยนะคะพี่รัน " " ได้เลยครับพี่จะทานไม่ให้เหลือเลยครับ " ข้าวจ้าวยิ้มร่าให้กับคำพูดของชรัน เธอตักข้าวใส่จานแล้วยื่นให้คนรัก จากนั้นทั้งสองจึงเริ่มลงมือทานอาหารเช้าด้วยกัน " อร่อยไหมคะพี่รัน? " " อร่อยครับ " ชรันยิ้มอ่อนให้กับหญิงสาวคนรัก ถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นมันล้วนแต่เป็นความจริงทั้งนั้น ข้าวจ้าวได้ยินดังนั้นก็ยกยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ ในใจเต้นระริกไม่หยุด พลางคิดว่าถ้าเธอไปทำให้การันต์ทานอีกคนจะชอบเหมือนที่ชรันชอบไหมนะ แค่เธอได้คิดว่าอีกฝ่ายจะชอบอาหารที่เธอทำให้ทานเธอก็มีความสุขมากแล้ว " ทานให้หมดเลยนะคะ " " ครับ พี่จะทานให้หมดเลยครับ " 🔸ณ บ้านของชลิน🔸 หญิงวัยกลางคนที่ยังสวยผุดผ่องดั่งวัยแรกแย้มกับหญิงวัยกลางคนที่ยังคงดูน่ารักไม่เปลี่ยนแปลงจากตอนเป็นสาวมากนัก กำลังปรึกษาหารือกันเรื่องลูกชายของอีกฝ่ายกันอยู่ ซึ่งมีนากลัดกลุ้มใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก สุดท้ายทนความกดดันไม่ไหวจึงมาขอคำปรึกษาจากเพื่อนสนิทของเธออย่างนันทิชา " นันเธอช่วยฉันทีนะ " เอ่ยขอร้องเพื่อนสนิทอย่างสุดจะทน สีหน้าเป็นกังวลถูกแสดงออกมาให้เพื่อนสาวได้เห็น จนเพื่อนสาวเห็นใจ " อืม...เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะช่วยเธอเองนะมีนา " " ขอบคุณนะนัน " " ไม่เป็นไรนาฉันกับเธอเราเพื่อนกันนี้ มีอะไรก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว จริงไหม? " มีนาพยักหน้าให้กับเพื่อนสาวพร้อมกับยกยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ตอนแรกเธอจะไม่อะไรกับหญิงสาวคนรักของลูกชายแล้วนะ กะว่าจะปล่อยเลยตามเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อลูกชายของเธอรักอีกฝ่ายมากเธอและสามีก็ต้องยอมรับอีกฝ่ายเป็นลูกสะใภ้ แต่ทว่าพอนานวันเข้านิสัยด้านลบของอีกฝ่ายก็เริ่มเผยออกมาให้เธอและสามีได้เห็น จนกระทั่งในวันนี้ที่เธอหมดความอดทนกับอีกฝ่าย จึงได้มาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทของเธอ " ฉันเองก็คงต้องเตือนให้ชลินกับพี่การันต์รู้เรื่องนี้แล้วสิ ไม่อย่างนั้นทั้งสองคนได้มีปัญหากันเพราะผู้หญิงคนนี้แน่ " " ใช่อันนี้ฉันเห็นด้วยกับเธอนัน " " แล้วเธอจะไม่เตือนลูกชายเธอหน่อยเหรอมีนา " " ฮึ แล้วเธอคิดว่าถ้าฉันเตือนแล้วลูกชายของฉันจะฟังหรือไงนัน เธอก็เห็นนี้ว่าลูกชายของฉันหลงรักผู้หญิงคนนั้นมากขนาดไหนนะ " " มันก็จริงของเธอ " นันทิชาเห็นด้วยกับเพื่อนสาวอย่างยิ่ง ยิ่งเธอได้เห็นอาการของลูกชายเพื่อนแล้วบอกเลยว่ายิ่งกว่าโดนทำเสน่ห์ใส่เสียอีก ชลินขยับร่างกายบิดไปมาเพื่อคลายความเมื่อยล้า ส่วนการันต์ที่เอางานมาทำอยู่บริษัทของหญิงสาวทำเพียงช้อนตามองเท่านั้น " เมื่อยเหรอ? " เสียงทุ้มเอ่ยเรียกสายตาจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี " นิดหน่อยค่ะ พี่การันต์ช่วยนวดให้ชลินหน่อยสิ " เธอลุกขึ้นเดินตรงดิ่งมาหาเขา ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาข้างตัวเขา แล้วหันหลังให้เพื่อให้เขานวดให้ ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นที่มุมปากส่ายหน้าให้กับคนตรงหน้าเบา ๆ อย่างเอ็นดู เขายื่นมือไปกดที่ไหล่ของเธอไม่แรงมากนักบีบนวดอยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ " อื้อ " ริมฝีปากบางส้มอมชมพูเผยอขึ้นเปล่งเสียงออกมาให้ได้ยินยามที่ชายหนุ่มกดนิ้วลงมาตามไหล่สะบักของเธอ การันต์ที่ได้ยินเสียงหวานที่ถูกเปล่งออกมาก็เกิดการกระตุ้นภายในร่างกาย ช่วงล่างเริ่มขยายตัวจนรู้สึกแน่น อึดอัดไปหมด มากกว่าความคิดก็เห็นเป็นร่างกายของเขานี้แหละที่ลุกพรวดพราด ไปลงกลอนประตูเอาไว้แน่นกั้นคนขัดจังหวะของเขา ส่วนหญิงสาวก็ได้แต่หันไปมองอย่างงวยงง แต่ทว่าเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับผลักตัวเธอให้นอนราบไปกับโซฟา มันทำให้เธอรู้ได้ทันทีในการกระทำของเขาเมื่อครู่ " ดะ...เดี๋ยวก่อนค่ะพี่การันต์ " เสียงหวานเอ่ยปากห้ามชายหนุ่มคนรักที่มีดีกรีเป็นถึงพระรองในนิยายที่เธอชอบอ่านพร้อมกับก้นด่าอีกฝ่ายไม่ยั้ง " ไม่ไหว...พี่อดทนต่อไปไม่ไหวแล้วชลิน...พี่ขอนะครับคนดี " ส่งสายตาอ้อนวอนต่อหญิงสาวคนรัก " แต่ว่า..." สีหน้ากังวลปรากฏอยู่บนใบหน้าสวยทันที ความกระอักกระอ่วนแสดงออกมาให้ชายหนุ่มได้เห็น จนเธอรู้สึกอึดอัดไปหมด " หนู... " สีหน้าบวกกับเสียงทุ้มที่กำลังออดอ้อนทำให้หญิงสาวรู้สึกใจอ่อน ยอมพยักหน้าตอบรับเขาไปอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มเมื่อหญิงสาวตอบรับความต้องการของเขาแล้ว เขานั้นก็ไม่รอช้าดึงร่างบางขึ้นมาบดจูบอย่างกระหาย สอดเรียวลิ้นหยาบหนาเข้าไปเกี่ยวกวัดดูดดื่มดึงลิ้นเรียวบางให้ละหวั่น มือหนาลูบไล้อย่างซุกซนก่อนจะเปลี่ยนมาปลดกระดุมเสื้อของหญิงสาวออกจนหมด เผยให้เห็นชั้นในลูกไม้สีหวานเซ็กซี่ที่โอบอกประทุมขนาดพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป มือหนาสอดเข้าไปกอบกุมบีบขยำล้นปลิ้นออกมาตามซอกนิ้ว บีบขยำอยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ จนหญิงสาวร้องครางประท้วงออกมา " อื้อ... " จุ๊บ! " ฮ่า...ชลินหนูชังหวานเหลือเกิน " เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นชิดริมฝีปากบาง ลมหายใจอุ่นร้อนราดรดบนใบหน้าสวยหวาน ชลินเหลือบมองริมฝีปากหนาเขม็งอย่างนึกเสียดาย ก่อนจะช้อนสายตาจ้องมองใบหน้าของการันต์ มือบางถูกยกขึ้นมาทาบทับแก้มของเขา " พี่การันต์ชลินอยากจูบพี่อีก " สายตาอ้อนวอนถูกส่งไปให้ยังคนเหนือร่าง ริมฝีปากเผยอออกอย่างเชิญชวนชายหนุ่มคนรัก " หึ...ได้สิครับ " ว่าจบก็ประกบริมฝีปากของตนเข้ากับริมฝีปากของหญิงสาวคนรักอีกครั้ง จุ๊บ...จ๊วบ...จ๊วบ... " ฮึก...อื้อส์...อื้มส์...จุ๊บ...จ๊วบ " ทั้งคู่จูบกันอย่างดุเดือดอยู่สักพัก การันต์ก็ผละออกมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองสองสามเม็ด ปลดเข็มขัดออกรูดซิปกางเกงลงพร้อมกับองคชาตที่ดีดผึ่งออกมาสูดอากาศภายนอก ชลินที่กำลังเบลอเมื่อเห็นเข้าก็ถึงกลับเบิกตาโพลงโตกับขนาดของมัน " พี่การันต์ชลินกลัว " เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างสั่นเทาดวงตาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว " ไม่เป็นไรหนู หนูไม่ต้องกลัวนะพี่จะทำเบา ๆ มันเจ็บแค่แปบเดียวเดี๋ยวมันก็หาย หนูเชื่อพี่นะครับ จุ๊บ! " ก้มลงไปจูบหน้าผากของเธอเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบโยน " แต่ชลินกลัว " ช้อนสายตาจ้องมองยังชายหนุ่มคนรัก ดวงตาสั่นระริกไม่หยุด เธอเคยได้ยินเพื่อน ๆ ของเธอคุยกันยามที่ออกไปทานอาหารกลางวันด้วยกันว่ายามที่ตนนั้นมีอะไรกับแฟนหนุ่มครั้งแรก มันเจ็บมากเหมือนช่องทางนั้นจะฉีกขาดแถมมันยังมีเลือดออกมาด้วย เพียงแค่เธอคิดถึงคำพูดเหล่านั้นจากเพื่อน ๆ ของเธอมันก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บจี้ดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่ทว่าชลินกลับหลงลืมไปว่าเจ้าของร่างคนเก่าที่มีดีกรีเป็นถึงนางร้ายนั้นไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องขนาดนั้น " มันไม่เป็นไรจริง ๆ ชลิน หนูเชื่อพี่สิครับคนดี " " พี่การันต์จะไม่ทำให้ชลินเจ็บใช่ไหม? " " มันจะเจ็บแค่แปบเดียวครับ หนูเชื่อพี่นะ " " อื้อ...อ " เธอพยักหน้าตอบรับคำของเขา การันต์เลื่อนมือไปถกกระโปรงทรงเอของเธอขึ้นถึงเอวคอด เกี่ยวดึงแพตตี้จิ๋วออกจากขาเรียวสวยแล้ววางมันลงกับพื้นห้อง เลื่อนตัวลงไปจนใบหน้าคมสันถึงช่วงล่างของเธอ จ้องมองโหนกนูนที่กำลังคายน้ำออกมาตาไม่กะพริบ ลำคอแห้งผาก มือหนาแปลเปลี่ยนจากเอวคอดมาจับเรียวขาสวยแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นกว่าเดิม แล้วลูบไล้ไปตามต้นขาจนมาถึงโหนกนูนกลีบงามของหญิงสาว ลูบไล้กดติ่งเสียวจนเธอเสียวกระสันไปทั้งเรือนร่าง ร่องสวาทคายน้ำออกมามากจนฉ่ำเยิ้ม " อื้อส์...อ้าาส์...เสียว... " ปรายตาต่ำลงมองอีกคนที่กำลังเล่นอยู่กับติ่งเสียวกระสันของเธอ การันต์ช้อนตาขึ้นมองหญิงสาวคนรักพร้อมกระตุกยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์มีเล่ห์นัย จากนั้นก็ฝังใบหน้าคมสันของตนเข้าไปดูดซับร่องสวาทของเธอที่ฉ่ำแฉะทั้งที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานที่บิดเบี้ยวเหยเกจากความเสียวซ่านที่เขาเป็นคนมอบให้ " อื้อส์...พี่การันต์ชลินเสียว...ฮึก...อ้าส์...พี่การันต์เลิกดูดเลียตรงนั้นสักทีมันสกปรกนะคะ " ชลินดิ้นพล่านกระตุกหงึก ๆ หลายต่อหลายครั้งแถมร่องสวาทของเธอยังผลิตน้ำไม่หยุดฉ่ำแฉะเลอะโซฟา จ๊วบ จ๊วบ แผล็บ แผล็บ! การันต์ผละใบหน้าออกตามที่ชลินต้องการพร้อมกับตวัดปลายลิ้นเลียตามขอบปากของตัวเอง สายตาหื่นกระหายจ้องมองเธออย่างจะกลืนกินเธอทั้งตัว ทำให้เธอรู้สึกวูบวาบร้อนระอุไปทั้งร่าง...บทนำติ๊ก ติ๊ก...เสียงกดเมาส์ที่ถูกเลื่อนไปตามตัว อักษรของนิยายเรื่องโปรดของหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง ร่างกายบอบบาง ดวงตากลมโตราวกับตาของกวาง ขนตาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม เมื่อหญิงสาวอ่านจบก็บ่นออกมาตามประสานักอ่านตัวท็อป พลางทิ้งตัวไปกับเก้าอี้" เฮ่อ...น่าสงสารนางร้ายซะมัด อย่าให้เจอไรท์เตอร์นะ แม่จะเขย่าตัวแล้วถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับนางร้ายได้ลงคอ ไรท์ใจร้ายมากเลยนะรู้ตัวบ้างไหม นางไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิดนางก็แค่จะมาทวงของนางคืนแค่นั้นเองนะ ทำไมต้องทำร้ายนางถึงขนาดนั้นด้วยอ่ะเราไม่เข้าใจเลย? "" ส่วนพระรองนี้ก็อีกคนอะไรอย่างไงเอาแต่ว่านางร้ายเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ ตัวเองดีนักแหละแหวะจะอ้วก "หญิงสาวบ่นอยู่คนเดียวจนพอใจถึงได้ลุกเดินออกไปหาอะไรกิน พอกินเสร็จเธอก็เก็บกวาดล้างจานชามเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนอนของเธอดังเดิม เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาไม่นานก็ผลอยหลับไป" ชลิน ชลินลูกรีบตื่นขึ้นมาได้แล้วนะลูกแม่กับพ่อใจจะขาดอยู่แล้ว แม่ผิดเองแม่ขอโทษ ลูกรีบตื่นขึ้นมาสักทีเถอะนะ แม่ขอโทษ ฮึก! " เสียงหวานแอบติดแหบเล็กน้อยดังขึ้นรบกวนหญิงสาว จนทำให้เธอต้องลืมต
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต