บทที่ 1
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต่ในเมื่อเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เธอจึงตั้งใจจะใช้ชีวิตหลังจากนี้ของเธอให้มีความสุขที่สุดกับครอบครัวที่มีอยู่ของเธอในโลกนิยายแห่งนี้และจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวหรือข้องเกี่ยวกับเหล่าบรรดาตัวเอกของเรื่องนี้โดยเด็ดขาด ตอนแรกที่เธอได้เห็นตัวเองในกระจกเธอยอมรับว่าเธอตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเรือนร่างหน้าตาที่สะสวยจนเกินไป ผิวขาวผ่องเนียนใส หน้าตาสะสวยไร้สิวฝ้าไร้ริ้วรอย ดวงตาสีอัลมอนด์ ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูอ่อน ซึ่งต่างจากรูปร่างหน้าตาของเธอสิ้นเชิง ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเรียกความสนใจของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้อง " คุณหนูค่ะ คุณผู้หญิงให้ดิฉันมาตามคุณหนูไปพบที่ห้องรับแขกค่ะ " หญิงรับใช้เอ่ยขึ้นอยู่ที่หน้าประตูห้องของหญิงสาว " ค่ะเดี๋ยวชลินลงไปค่ะ " หญิงสาวขานตอบหญิงรับใช้ออกไป ก่อนจะลุกเดินลงไปยังชั้นล่างตามหญิงรับใช้ไปติดๆ ครั้นเธอลงมาถึงห้องรับแขก เธอจึงพบว่าพ่อแม่ของเธอนั้นมีแขกแวะมาเยี่ยมเยียน ทำให้เธอต้องเดินเข้าไปยกมือไหว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นการไม่ให้เสียมารยาทจนเกินไปกับแขกที่แวะมาเยี่ยมเยียนครอบครัวของเธอ " สวัสดีค่ะคุณน้ามีนา คุณน้าชัชวาลย์ " " สวัสดีหนูชลิน " ชายวัยกลางคนเอ่ยทักทายกลับชลิน " สวัสดีจ้ะหนูชลิน หนูเป็นยังไงบ้างจ๊ะ? " หญิงวัยกลางคนทักทายกลับชลินลูกสาวของเพื่อนสนิทก่อนจะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง " ชลินสบายดีค่ะ คุณน้าทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วงชลินหรอกนะคะ ขอบคุณคุณน้าทั้งสองมากเลยนะคะที่คอยดูแลและเป็นห่วงชลินมาโดยตลอด ขอบคุณค่ะ " ชลินระบายยิ้มให้กับมีนาเพื่อนสนิทของแม่และชัชวาลย์ผู้เป็นสามี ระยะเวลาที่ชลินคนก่อนยังไม่ตายแล้วเธอยังไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้ ท่านทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ทั้งคอยดูแลเอาใจใส่ คอยเป็นห่วงเป็นใย คอยอยู่เคียงข้างหญิงสาวอยู่เสมอ ไม่ว่าหญิงสาวจะเอาแต่ใจแค่ไหน จะทำสิ่งที่ดีและไม่ดีต่อคนรักของลูกชายมากเท่าใดท่านทั้งสองก็ยังคงอยู่ข้างเธออยู่ตลอด จนถึงขั้นจะตัดขาดความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกกันเลยทีเดียว แต่นั้นมันเป็นชลินคนก่อนที่ได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วไม่ใช่กับชลินคนปัจจุบันนี้ ซึ่งเธอจะไม่ขอข้องเกี่ยวกับคนเหล่านั้นอีกแน่นอน เธออยากใช้ชีวิตที่มีอยู่ของเธอในตอนนี้อยู่กับครอบครัวของเธอให้มีความสุขมากกว่า " แม่มีนาต้องขอโทษแทนพี่ชรันเขาด้วยนะหนูชลิน หนูอย่าโกรธเคืองพี่เขาเลยนะลูก " " ขอโทษนะคะคุณน้า แต่หลังจากนี้คุณน้าอย่าแทนตัวเองว่าแม่อีกเลยนะคะ ชลินว่ามันไม่เหมาะกับชลินอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะและหลังจากนี้ชลินเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกคุณน้าแบบนั้นอีกแล้วด้วย " " หนูชลิน " มีนาเอ่ยขึ้นเสียงเบาหวิว ความรู้สึกผิดท่วมท้นอยู่เต็มอก การที่เธอไปเยี่ยมหญิงสาวรุ่นลูกเพียงแค่วันที่เธอตกบรรไดนั้น ก็เพราะเธอและสามีต้องไปจัดการลูกชายตัวดีของเธอที่หนีไปอยู่ต่างจังหวัดกับคนรัก กว่าเธอและสามีจะจบเรื่องนี้ได้ก็ปาเข้าไปสองสามวันแล้วพอจะไปเยี่ยมหญิงสาวอีกครั้งก็พบว่าเธอนั้นได้ออกจากโรงพยาบาลไปเสียแล้ว นั้นเลยทำให้เธอและสามีตรงดิ่งมาหาหญิงสาวถึงที่บ้านอย่างที่เห็น " แต่ถึงหนูชลินกับตาชรันไม่ได้เป็นคู่หมั้นกันแล้วแต่พ่อกับแม่ก็ยังเป็นพ่อกับแม่ของหนูชลินเสมอนะ " ชัชวาลย์เอ่ยขึ้น ถึงเขาจะเป็นคนไม่ค่อยชอบพูดชอบจากับใครแต่เขาก็รักและเอ็นดูลูกสาวของเพื่อนสนิทของภรรยาดั่งลูกสาวอีกคนของเขาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นใครทำให้เธอเสียใจเขาเองก็จะไม่ไว้หน้าคนคนนั้นเหมือนกัน " ใช่หนูชลิน หนูยังคงเป็นลูกของแม่มีนากับพ่อชัชอยู่เสมอนะ แม้ว่าตอนนี้หนูกับชรันจะไม่ได้หมั้นหมายกันแล้วก็ตาม " มีนายกยิ้มอ่อนโยนให้กับชลินลูกสาวของเพื่อนสนิทที่เธอรักและเอ็นดูดั่งลูกสาวของเธอ " ชลินลูก แม่กับพ่อเคารพในการตัดสินใจของลูกนะ " นันทิชาเอ่ยขึ้นระหว่างบทสนทนาของทั้งสามคน " ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ แม่มีนา พ่อชัช " ชลินคลี่ยิ้มให้กับทุกคนภายในห้อง เธอบอกว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับตัวเอกของเรื่องแต่ไม่ใช่กับพ่อแม่ของพวกเขานี้ " แบบนี้สิจ๊ะ " มีนายิ้มร่าออกมาอย่างดีใจ " หึ " ชัชวาลย์เพียงยกยิ้มมุมปากเพียงเท่านั้น แต่ทว่าภายในใจของเขากลับดีใจเป็นอย่างมากที่เด็กน้อยที่เขารักและเอ็นดูดั่งลูกสาวกลับมาเรียกเขาและภรรยาว่าพ่อแม่อีกครั้ง " แม่ดีใจนะที่ลูกยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เร็วแบบนี้ " นันทิชาเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปกอบกุมมือบางของลูกสาวเธอเอาไว้ ชลินเพียงยกยิ้มให้กับแม่ของเธอเพียงเท่านั้น " จริงสิมีนา พรุ่งนี้เป็นงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่โชว์รูมของเธอนี่ เธอช่วยหารถให้กับลูกสาวของฉันหน่อยได้ไหม " " ได้สินัน พรุ่งนี้เดี๋ยวฉันจะล็อกรถที่ดีและเหมาะกับหนูชลินให้นะ แต่ว่าเธอไม่ต้องจ่ายเงินฉันหรอกนะถือว่ารถคันนี้ฉันให้เป็นของขวัญหนูชลินก็แล้วกัน " " ได้ยังไงกันมีนา รถคันนี้ฉันจะซื้อให้ลูกสาวของฉันเพื่อฉลองที่ลูกสาวของฉันเป็นอิสระจากลูกชายของเธอ เพราะฉะนั้นเธอต้องคิดตามราคารถจริงไม่อย่างนั้นฉันจะโกรธเธอจริงๆด้วยนะ " " ครึ่งได้ไหมนัน ฉันเองก็อยากมีส่วนร่วมด้วยนะ " มีนาทำหน้าออดอ้อนเพื่อนสนิทจนอีกคนถึงกับใจอ่อนให้ " ก็ได้ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทหรอกนะถึงยอมนะ " เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยตามอุปนิสัยของเธอตอนที่เธอและเพื่อนสนิทแย่งกันจ่ายค่าขนมและอาหารกันตั้งแต่มัธยมจนมันกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว " ขอบใจมากนะเพื่อนรัก " มีนายิ้มแป้นขึ้นอย่างดีอกดีใจที่เธอได้มีส่วนร่วมกับการซื้อรถให้กับชลินในครั้งนี้ด้วย " คุณแม่ คุณพ่อ แม่มีนา พ่อชัช ชลินว่าไม่จำเป็นต้องซื้อรถให้กับชลินหรอกค่ะ ชลินเกรงใจ " " เกรงใจอะไรกันลูก แม่ว่าดีซะอีกลูกจะได้ไม่ต้องรอรถคันเก่าของลูกนานไง ใช่ไหมค่ะพี่พี? " นันทิชาหันไปถามความคิดเห็นจากสามี " ใช่ลูก พ่อว่าเราซื้อคันใหม่มาไว้สรรเปลี่ยนก็ดีเหมือนกันนะ " " แม่ก็เห็นด้วยนะหนูชลิน " มีนาช่วยเสริมนันทิชาและรณพีร์ " พ่อก็เห็นด้วยนะหนูชลิน " ชัชวาลย์เสริมขึ้นอีกแรง " อย่างนั้นก็ได้ค่ะ ชลินขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ แม่มีนาและพ่อชัชมากเลยนะคะ " ชลินยกมือขึ้นไหว้ทั้งสี่คนพร้อมรอยยิ้มที่สดใส ทั้งห้าคนอยู่พูดคุยอยู่กินอาหารเย็นด้วยกันจนเสร็จ มีนาและชัชวาลย์จึงขอตัวกลับบ้าน ส่วนชลินและพ่อแม่ของเธอก็ต่างแยกย้ายกันขึ้นห้องของตนเอง ชลินขึ้นห้องมาได้ก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาพลางคิดว่าพรุ่งนี้เธอจะหลีกเลี่ยงต่อพวกตัวเอกยังไงดี " เฮ้ย " ถอนหายใจออกมาอย่างปลง ผ่านไปสักพักชลินก็ผลอยหลับไป รุ่งเช้าหญิงสาวถูกผู้เป็นแม่ปลุกให้ตื่นขึ้นมาแต่งตัวเพื่อไปงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่โชว์รูมของเพื่อนสนิทแม่อย่างมีนา ชลินแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีน้ำเงินสั้นถึงหัวเข่าส่วนบนเป็นสายเดี่ยวคอวี ส่วนรองเท้าเป็นรองเท้าส้นเปิดหน้ารัดข้อสูงประมาณ 3 เซน " พร้อมยังลูก? " เสียงทุ้มดังขึ้น " ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมค่ะคุณพ่อ " เสียงเนือยถูกเปล่งออกมาจากชลิน " หึ ไปกันนัน " ยิ้มมุมปากให้กับลูกสาว จากนั้นจึงหันไปชวนภรรยา " ค่ะพี่พี ไปกันชลินลูก " " ค่ะคุณแม่ " ภายในโชว์รูมมีรถหรูราคาแพงมากมายพร้อมกับมีสาวสวยยืนประจำรถหรูเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาดู เหล่าบรรดานักธุรกิจและเซเลบมากหน้าหลายตาพากันเดินดูรถหรูกันไม่หวั่น เมื่อคนเริ่มทยอยกันเข้ามาภายในโชว์รูมมากขึ้น ชลินจึงเอ่ยชวนพ่อแม่ของเธอให้เดินชมรถหรูอีกฝั่งแทน " คันนี้ก็สวยนะลูก " นันทิชาพยักหน้าให้กับลูกสาวได้ดูรถหรูทรงมินิ เธอว่าทรงแบบนี้เหมาะกับลูกสาวของเธอที่สุดแล้ว " ก็สวยดีนะคะคุณแม่ กระทัดรัดดีแถมจอดง่ายด้วยค่ะ " " ช่างสรรหาคำพูดเสียจริงนะเรา " รณพีร์เอ่ยหยอกเย้าลูกสาว " คุณพ่อล่ะก็ " ชลินทำหน้ามุ่ยใส่พ่อของเธอแบบไม่จริงจังนัก ทว่านั่นก็เรียกเสียงหัวเราะจากผู้เป็นพ่อแม่ของเธอได้เป็นอย่างดี " คุณรณพีร์สวัสดีค่ะ สวัสดีนัน สวัสดีจ้ะหนูชลิน " มีนาเดินเข้ามาทักทายครอบครัวเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มที่สดใส " สวัสดีค่ะแม่มีนา พ่อชัช " ชลินยกมือไหว้ท่านทั้งสองอย่างนอบน้อม " สวัสดีหนูชลิน สวัสดีครับคุณรณพีร์ คุณนัน " " สวัสดีค่ะคุณชัช สวัสดีมีนา " " สวัสดีครับคุณชัช คุณมีนา " " หนูชลินแม่มีนากับพ่อชัชเตรียมรถที่เหมาะกับหนูไว้แล้วนะจ๊ะ ทางนี้จ๊ะ " มีนาจูงมือของชลินเดินมายังรถหรูมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล เปิดประทุน (mini Convertible) สีน้ำเงิน เธอประเมินดูแล้วว่ารุ่นนี้เหมาะกับลูกสาวของเพื่อนสนิทของเธอที่สุดแล้ว " คันนี้จ้ะสวยไหม? " " สวยมากเลยค่ะแม่มีนา ชลินชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ " ชลินยิ้มแป้นให้กับมีนาและชัชวาลย์ " แม่มีนาดีใจนะจ๊ะที่หนูชลินชอบ " มีนายิ้มร่าเมื่อลูกสาวของเพื่อนสนิทชอบรถที่เธอและสามีเลือกให้ " หึ ชรันฉันหวังว่าแม่นั้นคงไม่ได้ทำของใส่แม่กับพ่อของนายหรอกหน่ะ ทำไมแม่กับพ่อของนายถึงได้หลงรักแม่นั้นกันจัง รักมากกว่านายที่เป็นลูกอีก " ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งร่างสูงกำยำ ใบหน้าคมแบบฉบับไทยแท้ เอ่ยขึ้นต่อเพื่อนสนิท " หึ คงไม่พ้นใช้มารยาอีกตามเคย " ชายหนุ่มผิวขาวร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาออกไปทางพระเอกเกาหลี แสยะยิ้มเย้ยหยันให้กับหญิงสาวที่ยืนอยู่กับพ่อแม่ของตน Talk. กดคอมเม้นต์ กดหัวใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับไรท์ตัวน้อยคนนี้ด้วยนะคะและอย่าลืมเก็บเข้าชั้นกันด้วยน้าา เพื่อไม่ให้พลาดตอนต่อไปกันนะจ๊ะ 1 คอมเม้นต์ = 1 กำลังใจ ขอบคุณคุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่านนะคะบทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต