บทที่ 3
สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจึงคิดหาวิธีที่จะส่งข้อมูลเหล่านี้ให้กับพ่อพระเอกผู้แสนดีของเรื่องนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนพ่อแม่ของอีกฝ่ายที่ดีต่อเธอมาโดยตลอดและถือเป็นการทำดีครั้งสุดท้ายทิ้งท้ายในฐานะว่าที่คู่หมั้นให้กับอีกฝ่ายด้วยก็แล้วกัน " จริงสิในนิยายเขียนเอาไว้ว่าคุณพระเอกเขามีแอคเคานต์หลักนี้นา " พูดกับตัวเองจบก็เริ่มพิมพ์แอคเคานต์ส่วนตัวของชรันทันที เมื่อเช็กแน่แล้วว่าเป็นแอคเคานต์ของอีกฝ่าย จึงกดส่งข้อมูลทั้งหมดที่เธอได้รู้มาจากนิยายที่เธอได้อ่านมาและจากการที่เธอได้หาเพิ่มเติมในเมื่อสักครู่นี้ไปให้กับชายหนุ่ม ตึ่ก! " เสร็จเรียบร้อยที่เหลือก็อยู่ที่ความฉลาดของคุณพระเอกกับคุณพระรองแล้วล่ะนะ " แอ่นหลังอย่างสบายอารมณ์ 🔸คอนโดมิเนียมหรูหราใจกลางเมือง🔸 การันต์ที่พึ่งอาบน้ำเสร็จ เดินมาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนหนานุ่มขนาดคิงไซส์ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กข้อความ อีเมล์ ต่าง ๆ ที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อรายงานต่อตน คุณได้รับข้อความอีเมลจากชรัน [ แนบรูปเอกสารสำคัญต่าง ๆ ] ' การันต์นายดูนี้สิฉันไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นคนส่งข้อมูลสำคัญเหล่านี้มาให้กับฉันกันนะ แต่ที่แน่ ๆ ฉันคิดว่าคนคนนี้หวังดีต่อบริษัทของฉันและของนายอย่างแน่นอน นายพอจะช่วยสืบได้ไหมว่าใครกันที่เป็นเจ้าของแอคเคานต์ตัวนี้ ฉันอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงได้กล้าส่งข้อมูลสำคัญเหล่านี้ให้กับทางเรากันนะ ' [ ตอบกลับ ] ' อืมได้สิ เดี๋ยวฉันจัดการให้ ' จบการสนทนาแบบข้อความ การันต์วางโทรศัพท์ลงเปลี่ยนเป็นหยิบโน๊ตบุ๊คมาแทน จากนั้นก็เริ่มสืบเสาะหาเจ้าของแอคเคานต์ลับที่ส่งข้อมูลฝั่งคู่แข่งทางบริษัทมาให้กับเพื่อนสนิทของเขา ไม่นานเกินรอเขาก็หาเจ้าของแอคเคานต์ลับเจอ มุมปากหนากระตุกยิ้มขึ้นเมื่อรู้ว่าใครเป็นเจ้าของแอคเคานต์ลับที่เพื่อนสนิทของเขาขอให้สืบเสาะหาให้ " หึ แสบจริง ๆ เลยนะยัยตัวแสบ " ปิดโน๊ตบุ๊คลงแล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงดังเดิม ก่อนจะล้มตัวลงนอน ชลินตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อมาช่วยแม่ทำขนมไทยไปให้กับมีนาเพื่อนสนิทของแม่ ชลินปั้นแป้งที่ถูกผสมแล้วเป็นก้อนกลม ๆ เล็ก ๆ พอทำเสร็จเธอก็นำมาส่งให้กับแม่ของเธอ " โห้น่ากินจังเลยค่ะคุณแม่ " ตาลุกวาวเมื่อเห็นขนมที่ทำเสร็จถูกตักขึ้นถ้วยเล็กพร้อมประดับประดาอย่างสวยงาม " ลองชิมดูสิ นี่แม่สอนทำบัวลอยไข่หวานสูตรของคุณยายเลยนะ " ยิ้มหวานให้แก่ลูกสาว " ชลินจะชิมแล้วนะคะ อึ๋มอร่อยมากเลยค่ะคุณแม่ " " จะไม่อร่อยได้ไงค่ะนี้สูตรของคุณยายเลยนะ " " อย่างนี้ชลินก็ต้องขอบคุณคุณยายแล้วสินะคะที่ทำให้ชลินได้ทานของอร่อยอย่างนี้นะคะ " " นั้นสิ " อมยิ้มให้กับลูกสาวของเธอ " คริ คริ คริ " ขำออกมาอย่างมีความสุข " ชลินลูกช่วยตักบัวลอยให้แม่อีกชุดหน่อยสิลูก แม่จะเอาไปฝากพี่การันต์เขาด้วย " " ค่ะคุณแม่ " ชลินตักอีกชุดเสร็จก็นำมาวางใกล้แม่ของเธอ " ได้แล้วค่ะคุณแม่ " " ขอบใจลูก วันนี้ไปเป็นเพื่อนแม่หน่อยนะชลิน " หันมาพูดกับลูกสาวเสร็จก็หันกลับมาจัดของต่อ " ค่ะคุณแม่ " พลางคิดในใจ ' นี้คงจะไม่ให้เธอเอาไปให้ตานั้นด้วยหรอกนะ เธอยิ่งไม่อยากคลุกคลีกับตานั้นอยู่ด้วย เฮ้อ ' " ชลินเป็นอะไรหรือเปล่าลูก? " " เปล่าค่ะคุณแม่ ชลินไม่ได้เป็นอะไรค่ะ " " แม่ก็นึกว่าลูกเป็นอะไรเสียอีก ดูสิคิ้วขมวดเข้าหากันหมดแล้ว " เอ่ยหยอกเย้าลูกสาวของตัวเอง " คุณแม่ค่ะ " ทำหน้าเง้างอนผู้เป็นแม่ ทว่านั่นกลับเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนภายในห้องครัวได้เป็นอย่างดี " คุณแม่ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ " " คุณแม่... " ชลินลากเสียงยืดยาวให้กับแม่ของเธอ " คุณหญิงอย่าแกล้งคุณหนูสิค่ะ ดูสิคุณหนูหน้าแดงหมดแล้วค่ะ " " อื้อป้าอรเอากับคุณแม่ด้วยเหรอคะเนี่ย ถ้าทุกคนยังแกล้งชลินอยู่อีกชลินจะงอนจริง ๆ นะคะ " " ฮึ แสบจริงนะเราน่ะ " " คุณแม่อ่ะ " ชลินแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีพีชอ่อน คอเหลี่ยมแขนตุ๊กตาเข้ากลีบ รองเท้าส้นสูงประมาณ 5 นิ้วสีดำคาดหัวรัดข้อ กระเป๋าสะพายข้างสายโซ่สีครีมแบรนด์ดัง ตอนนี้เธอและแม่ของเธอก็มาถึงบริษัทของคุณพระเอกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชลินและนันทิชาผู้ซึ่งเป็นมารดานั่งรอมีนาผู้เป็นเพื่อนสนิทของผู้เป็นแม่และชัชวาลย์ผู้เป็นสามีของเพื่อนสนิทอยู่ภายในห้องรับแขกของบริษัท โดยมีขนม กาแฟและน้ำถูกนำเข้ามาเสิร์ฟให้เธอและแม่ของเธอ จากพนักงานต้อนรับที่หน้าฟอนต์ " คุณน้าสวัสดีครับ ผมไม่คิดว่าจะมาเจอคุณน้าที่นี่นะครับเนี่ย แล้วนี่คุณน้ามาทำอะไรที่นี่เหรอครับ? " การันต์ที่แวะเข้ามาคุยธุระกับเพื่อนสนิทแล้วเดินผ่านมาแถวห้องรับรองแขกเขาจึงได้พบเข้ากับนันทิชาและชลินเข้าด้วยความบังเอิญ เขาจึงเดินเข้ามาทักทายสองแม่ลูกอย่างทุกครั้งที่ได้พบเจอ " สวัสดีค่ะพี่การันต์ วันนี้น้ากับชลินตื่นมาทำบัวลอยไข่หวานกันตั้งแต่เช้านะคะ น้ากับชลินเลยทำมาเผื่อมีนาและครอบครัวด้วย แต่ว่าน้าให้ชลินเตรียมให้กับพี่การันต์ด้วยนะคะ นี้ค่ะ " นันทิชาหันมาหยิบกล่องใส่ของหวานนำมายื่นให้กับชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนที่อีกคนจะรับไปถือเอาไว้ " ขอบคุณครับคุณน้า ขอบคุณชลิน " " ทานให้หมดด้วยนะคะพี่การันต์ " " ได้เลยครับคุณน้า ผมจะทานไม่ให้เหลือเลยครับ " ก่อนจะหันมาส่งยิ้มยียวนให้กับชลิน แต่ชลินกลับทำเฉยไม่สนใจอีกฝ่ายมากนัก แต่ทว่าเธอก็ขานตอบอีกคนออกไปเพื่อไม่ให้ดูเป็นการเสียมารยาทจนเกินงาม " ค่ะ " " คุณน้าขึ้นไปพร้อมผมดีกว่าครับ นั่งรอตรงนี้คงรออีกนานแน่เลยครับ " ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะหันไปพูดกับแม่ของหญิงสาวต่อ " ค่ะพี่การันต์ เก็บของเร็วค่ะลูกเราจะขึ้นไปพร้อมพี่การันต์กันค่ะ " " ค่ะคุณแม่ " " มาครับผมช่วย " เดินเข้ามาแย่งของจากมือของหญิงสาว แล้วเดินนำหน้าทั้งสองคนไปยังลิฟต์ของผู้บริหารแทนที่จะเป็นลิฟต์ของพนักงาน " มารยาทเสียสุด ๆ ชิ! " ชลินพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินตามแม่ของเธอมาติด ๆ " เร็วสิชลินลูก " " ค่ะคุณแม่ ชลินเร็วสุดได้แค่นี้แหละค่ะ " " เอ๊ะ! ลูกคนนี้นี่ " " หึ " การันต์เหยียดยิ้มให้กับหญิงสาว ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติยามที่แม่ของหญิงสาวหันมายิ้มอ่อนให้ " ตอแหลมากค่ะไอ้คุณพระรองบ้า " ชลินพึมพำกับตัวเอง ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ทั้งสามคนจึงเดินตรงดิ่งมายังห้องของผู้บริหาร " สวัสดีค่ะคุณการันต์ สวัสดีค่ะคุณหญิง สวัสดีค่ะคุณชลิน " เลขาหน้าห้องเมื่อเห็นทั้งสามคนเดินเข้ามาเธอจึงรีบลุกขึ้นมาต้องรับและเธอก็เป็นอีกคนที่ไม่ชอบชลินมากเช่นเดียวกัน " สวัสดีจ้ะ หนูครีม " นันทิชา " สวัสดีค่ะ " ชลิน " สวัสดีครับคุณครีม ตอนนี้ชรันอยู่ในห้องไหมครับ? " " อยู่ค่ะ คุณการันต์กับคุณหญิงเข้าไปด้านในได้เลยนะคะ " เสียงหวานเอ่ยขึ้น เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปข้างในเธอจึงปรายตามองชลินอย่างเหยียดแล้วเดินกลับไปนั่งประจำที่ทำงานของตัวเองต่อ " เฮ้อ... " ชลินถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วเดินตามทั้งสองคนเข้าไปข้างใน ใครจะชอบเธอหรือไม่ชอบเธอ เธอไม่สนใจหรอกนะแต่ขออย่างเดียวอย่าได้เข้ามายุ่งวุ่นวายหรือมาระรานต่อเธอก็พอไม่อย่างนั้นเธอเอาคืนอย่างสาสมแน่ ชลินเดินเข้ามาก็เห็นทุกคนนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินมานั่งลงข้างแม่ของเธอ โดยที่เธอไม่ลืมที่จะทักทายเจ้าของห้องด้วย " สวัสดีค่ะคุณชรัน คุณข้าวจ้าว " " สวัสดีชลิน " ทักทายกลับอย่างขอไปที " สวัสดีค่ะคุณชลิน " ยิ้มแย้มให้กับชลินดั่งคนใสซื่อ " เสียดายจัง...น้าว่าจะมาชวนแม่ของพี่ชรันไปทำสปาซะหน่อยเห็นทีวันนี้จะมาเก้อเสียแล้ว " " ผมต้องขอโทษด้วยนะครับคุณน้า เห็นทีคุณน้าคงจะต้องมาชวนคุณแม่เป็นวันหลังแล้วล่ะครับ " " นั่นนะสิ...ถ้าอย่างนั้นน้ากับน้องไม่รบกวนพี่ชรันกับพี่การันต์แล้วล่ะค่ะ น้ากับน้องขอตัวกลับก่อนนะคะ " " ครับคุณน้า " ชรัน " ครับคุณน้า " การันต์ " กลับกันค่ะชลินลูก " " ค่ะคุณแม่ " ชลินเห็นแม่เดินออกพ้นบานประตูแล้ว เธอจึงหันมามองการันต์พร้อมกับพูดสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับยกยิ้มมุมปาก " ขอให้คุณการันต์ทานของหวานแล้วติดคอตายนะคะ " เธอทำหน้ายียวนใส่พระรองเสร็จก็เดินออกไปจากห้องทันที " หึ ยัยตัวแสบ " " ยังไงการันต์ เอาเรื่องของนายกับชลินนะเรื่องอื่นยังไม่ต้องเล่า " " ก็ไม่ทำไมนี้ " ตอบเพื่อนสนิทด้วยท่าทีชิว ๆ " นายจริงจัง? " จ้องเพื่อนสนิทเขม็ง เขาไม่อะไรมากหรอกนะถ้าเพื่อนของเขาจะรักและจริงจังกับหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของเขา แต่ที่เขาคาดคั้นอีกคนก็เพราะเขาไม่อยากให้เพื่อนของเขาไปเล่นกับความรู้สึกของหญิงสาวที่เขามองเหมือนน้องสาวของเขา แต่เพราะว่าเขาและอีกฝ่ายเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันมาตั้งแต่เด็กพอโตขึ้นหญิงสาวก็ชอบตามติดตามหึงหวงเขาไปทั่วจนทำให้เขาเบื่อหน่ายและรำคาญ จากที่เอ็นดูเธอดั่งน้องสาวมันเลยกลับกลายมาเป็นรังเกียจเดียดฉันท์เธอในที่สุด " ไม่รู้ดิความรู้สึกของฉันยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าได้รู้จักเธอมากขึ้นกว่านี้ ฉันอาจจะชัดเจนกับความรู้สึกของฉันเองก็ได้ " " แต่ฉันขอนายอย่างเดียวนะการันต์ ถ้าเกิดว่านายรู้แล้วว่านายไม่ได้มีความรู้สึกเหล่านั้นต่อชลิน นายต้องหยุดทุกอย่างลงทันที ถือว่าฉันขอร้องนายแล้วกันนะเพื่อน " " อืม "...บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทนำติ๊ก ติ๊ก...เสียงกดเมาส์ที่ถูกเลื่อนไปตามตัว อักษรของนิยายเรื่องโปรดของหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง ร่างกายบอบบาง ดวงตากลมโตราวกับตาของกวาง ขนตาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม เมื่อหญิงสาวอ่านจบก็บ่นออกมาตามประสานักอ่านตัวท็อป พลางทิ้งตัวไปกับเก้าอี้" เฮ่อ...น่าสงสารนางร้ายซะมัด อย่าให้เจอไรท์เตอร์นะ แม่จะเขย่าตัวแล้วถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับนางร้ายได้ลงคอ ไรท์ใจร้ายมากเลยนะรู้ตัวบ้างไหม นางไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิดนางก็แค่จะมาทวงของนางคืนแค่นั้นเองนะ ทำไมต้องทำร้ายนางถึงขนาดนั้นด้วยอ่ะเราไม่เข้าใจเลย? "" ส่วนพระรองนี้ก็อีกคนอะไรอย่างไงเอาแต่ว่านางร้ายเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ ตัวเองดีนักแหละแหวะจะอ้วก "หญิงสาวบ่นอยู่คนเดียวจนพอใจถึงได้ลุกเดินออกไปหาอะไรกิน พอกินเสร็จเธอก็เก็บกวาดล้างจานชามเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนอนของเธอดังเดิม เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาไม่นานก็ผลอยหลับไป" ชลิน ชลินลูกรีบตื่นขึ้นมาได้แล้วนะลูกแม่กับพ่อใจจะขาดอยู่แล้ว แม่ผิดเองแม่ขอโทษ ลูกรีบตื่นขึ้นมาสักทีเถอะนะ แม่ขอโทษ ฮึก! " เสียงหวานแอบติดแหบเล็กน้อยดังขึ้นรบกวนหญิงสาว จนทำให้เธอต้องลืมต
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต