บทที่ 6
การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีกตั้งสามเดือนเลยนะ " ก็คราวนี้พ่อเขาจะพาแม่ไปหาเพื่อนด้วยก็เลยว่าจะไปกันเร็วหน่อยนะคะ สิ้นปีนี้เราจะได้อยู่ฉลองปีใหม่กับลูกไงค่ะ " " ใช่ลูก ทุกสิ้นปีเราไม่เคยได้อยู่ฉลองด้วยกันเลย พ่อกับแม่เลยตั้งใจว่าสิ้นปีนี้พ่อกับแม่จะอยู่ฉลองกับลูกอยู่ที่บ้านของเรากันนะ " ยกยิ้มให้กับลูกสาวของเขา " พี่การันต์ก็มาฉลองกับแม่ พ่อ และน้องด้วยนะคะ อย่าลืมล่ะ " นันทิชาหันมาเอ่ยชวนคนรักของลูกสาว " ใช่การันต์มาให้ได้นะ ฉลองหลายคนน่าสนุกดี " รณพีร์เอ่ยเสริมภรรยาของตน " ครับคุณพ่อคุณแม่ ผมรับปากครับ " การันต์ตอบพ่อแม่ของชลินแต่ทว่าสายตายังคงจดจ้องอยู่ที่หญิงสาว " ดีค่ะ รับปากแล้วต้องมาให้ได้นะคะ " " ผมมาได้แน่นอนครับคุณแม่ คุณแม่สบายใจได้เลยนะครับ " " ต้องอย่างนี้สิถึงจะมาเป็นเขยบ้านนี้ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า " รณพีร์หัวเราะออกมาอย่างชอบใจในตัวลูกเขยคนนี้ การันต์ได้ยินอย่างนั้นก็ยกยิ้มขึ้น พลางส่งสายตาแห่งชัยชนะให้กับชลิน ชลินที่เห็นอย่างนั้นจึงหันหน้ามาหาแม่ของเธอแทน " ขออนุญาตนะคะคุณผู้หญิงคุณผู้ชาย โต๊ะอาหารได้เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ " หญิงชราผู้ซึ่งเป็นแม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่เอ่ยขึ้นและเธอยังเป็นแม่นมของรณพีร์ซึ่งเป็นพ่อของหญิงสาวด้วย เธอทั้งรักและเอ็นดูคุณหนูของเธอมาก ใครที่ทำอะไรไม่ดีต่อคุณหนูของเธอ เธอก็จะเอาคืนคนเหล่านั้นคืนให้คุณหนูของเธอเช่นเดียวกัน " จ๊ะแม่อุ่น เราไปทานอาหารเย็นกันดีกว่าค่ะ " นันทิชาเอ่ยชวนทุกคนไปทานอาหาร ซึ่งทุกคนก็ต่างพยักหน้าให้กับเธอ " เชิญกลับบ้านของนายได้แล้ว แล้วถ้าเป็นไปได้นายอย่ามาที่นี่อีกเลยจะดีกว่า " เมื่ออาหารเย็นจบลงชลินจึงเอ่ยปากไล่ชายหนุ่มกลับทันที ที่เธอกล้าไล่อีกฝ่ายก็เพราะตอนนี้พ่อแม่ของเธอได้ขึ้นไปพักผ่อนอยู่ในห้องของพวกท่านแล้ว " ชลินอย่าใจร้ายกับแฟนได้ป่ะ " ดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่พอใจ " ใครเป็นแฟนนายกัน ฉันกับนายไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ เลิกมโนได้แล้วป่ะ " เสียงหวานตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัวอีกคน " ชลินอย่าทำให้ฉันโมโหโกรธไปมากกว่านี้นะ ฉันรับรองได้เลยว่าเธอจะได้อายคนในบ้านหลังนี้แน่นอน แล้วก็เลิกงอนฉันได้แล้วไม่อย่างนั้นฉันจะจับเธอกดลงเตียงเพื่อง้อเธอแน่ เธอรู้ว่าฉันพูดจริงทำจริงเสมอชลิน เพราะฉะนั้นอย่าท้าทายอำนาจมืดของฉันเลยที่รัก " เสียงทุ้มต่ำกดข่มหญิงสาวตรงหน้าหวังเตือนเธอให้รับรู้ว่าตอนนี้ตัวเขากำลังอยู่ในห้วงอารมณ์แบบไหน ชลินเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ดวงตาตวัดจ้องมองใบหน้าคมสันไม่กระพริบ " นายก็เลิกยุ่งกับฉันสักที อุ๊บ อึก...ก " ชลินที่ตั้งใจจะพูดให้พระรองที่แสนจะรังเกียจในตัวของชลินคนก่อน ก่อนที่ชลินคนนี้ซึ่งเป็นเธอจะเข้ามาอยู่ในร่างของชลินคนที่เป็นนายร้ายของนิยายเรื่องที่เธอได้อ่านมาแถมนิยายเรื่องนี้มันก็ยังอัพไม่ทันจบอีกด้วย แล้วเธอก็ดันโชคร้ายหลุดเข้ามาในนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเธอเองก็ไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าตอนจบของนิยายเรื่องนี้มันจะจบยังไง เธอก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้ตอนจบของนิยายเรื่องนี้นางร้ายต้องตุยอีกครั้งเลย เพราะเธอยังไม่อยากมาตุยเย่ปาติเก้อะไรแบบนี้หรอกนะ ชลินพยายามขัดขืนและผลักการันต์ออกแต่ทว่าอีกคนกลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด การันต์ส่งลิ้นหยาบหนาเข้ามาหยอกล้อลิ้นเรียวบางของเธอจนพอใจก็ผละริมฝีปากออก ก่อนจะหายใจราดรดกระทบใบหน้าของเธออย่างจัง พร้อมกับกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากหยักหนาอย่างพึงพอใจในผลงานของเขา " แฮ่ก...แฮ่ก... " ชลินหอบหายใจแรง แข้งขาอ่อนแรงขึ้นมาทันควัน จนประคองร่างกายของตัวเองไม่อยู่ต้องกำเสื้อเชิ้ตของการันต์เอาไว้แน่นเพื่อทรงตัวเองไม่ให้ล้มพับไปนั่งที่พื้น " เป็นไงที่นี่จะเลิกดื้อใส่ฉันได้หรือยัง ฮึ่ม? " เลิกคิ้วถามหญิงสาวทั้งที่มุมปากยังยิ้มอยู่ " การันต์ " เสียงหวานถูกเปล่งออกมาอย่างไม่พอใจ " ฮึ่ม? " ทำหน้ายียวนกวนบาทาให้หญิงสาว " อื้อ! ปล่อยฉันเลยนะไอ้บ้าการันต์! " ขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่มอย่างเหลืออด " หึ ถ้ายังดื้อใส่ฉันอีก ฉันจูบปากเธอบวมแน่ที่รัก จุ๊บ " ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บปากอวบอิ่มเพียงแปบเดียวก็ผละออกมาส่งยิ้มหวานพิมพ์ใจให้กับเธอที่ยังคงอยู่ในการกักคุมของเขา " อื้อส์ การันต์ปล่อยสักที " เสียงหวานอ่อนลงกว่าเดิมและพยายามผลักดันอีกฝ่ายให้ออกจากตัวของเธอ " พูดก่อนสิว่าจะไม่ดื้อใส่ฉันอีก " " ไม่ แล้วต่อไปนี้ก็เลิกยุ่งเลิกตอแยกับฉันเสียที ทำเป็นไม่รู้จักกันยิ่งดี " ดวงตาแดงก่ำสั่นระริก เนื่องจากความขุ่นเคืองที่มีต่อชายหนุ่มมีอยู่มาก " ไม่มีวันชลิน เธอก็รู้ว่าเวลาฉันคิดจะทำอะไรฉันก็มักจะทำให้ความคิดนั้นมันเป็นจริงอยู่เสมอ " " แต่นายเกลียดฉัน " เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างสั่นเครือ " แต่ก่อนอาจใช่แต่ตอนนี้ไม่ " ตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง " คบกับฉันนะชลิน ต่อไปนี้ให้ฉันได้เป็นคนดูแลและปกป้องเธอนะ " การันต์ส่งสายตาจริงจังให้กับหญิงสาว ยกมือซ้ายขึ้นมาเกลี่ยแก้มเนียนเบา ๆ หวังให้เธอเชื่อใจและมั่นใจในสิ่งที่เขาพูดออกมา " การันต์นายแน่ใจแล้วใช่ไหมว่านายอยากจะดูแลฉันไม่ใช่เพียงแค่ต้องการจะเอาชนะฉันเท่านั้น " ชลินจ้องตาของการันต์จริงจังเช่นเดียวกัน " ฉันแน่ใจชลินและฉันก็อยากให้เธอลองเปิดใจให้ฉันสักครั้งจะได้ไหม? " " แต่ฉันไม่ใช่คนแสนดีอย่างข้าวจ้าวนะการันต์ " " ฉันรู้ " " แต่นายก็ยัง " " แล้วมันยังไงชลินในเมื่อคนที่ฉันสนใจคือเธอไม่ใช่ข้าวจ้าว " " การันต์ " เสียงหวานเอ่ยขึ้นแผ่วเบา " ตกลงคบกับฉันนะชลิน " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน " อื้อ ฉันตกลง " ก่อนจะเบี่ยงหน้าหนีอย่างเขินอาย จะไม่ให้เธอเขินอายได้ยังไงล่ะก็ในเมื่อเธอไม่เคยมีแฟนหรือมีคนรักมาก่อนเลยนี้ " หึ น่ารักจังเลยนะ " หยอกล้อแฟนหมาด ๆด้วยความเอ็นดู " อะแฮ่ม!...มาหวานอะไรกันตรงนี้ค่ะ " นันทิชาที่เดินลงมาดื่มน้ำเห็นทั้งสองคนหยอกล้อกันจึงเอ่ยปากแซวทั้งคู่ขึ้น ยิ่งได้เห็นแก้มลูกสาวแดงระเรื่อก็ยิ่งชอบ " อ๊ะ!...คุณแม่...นายปล่อยฉันได้แล้ว " ตบเข้าที่แขนของชายหนุ่มที่ได้เลื่อนขั้นเป็นแฟนหมาด ๆ เบา ๆ เมื่อเจอสายตาล้อเลียนของมารดา " หึ " การันต์ปล่อยแขนของตัวเองออกจากหญิงสาว แล้วหันไปยกยิ้มให้กับมารดาของเธอที่กำลังเดินลงมาหาเขาและเธอ " อะไรกันนี่เขินแม่เหรอคะชลิน หื้ม? " " คุณแม่ค่ะเลิกแซวชลินเดียวนี้เลยนะคะไม่อย่างนั้นชลินจะโกรธคุณแม่จริง ๆ ด้วยนะคะ " ทำหน้าบู๊ใส่แม่ของเธอ " ฮึ ฮึ จริง ๆ เลยเด็กคนนี้เนี่ย แม่ไปดื่มน้ำดีกว่า ตามสบายเลยนะคะพี่การันต์แม่อนุญาตเต็มที่ค่ะ " " ขอบคุณครับคุณแม่ " ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ผู้หญิงตรงหน้าของเขาต้องหลุดมือไปอีกแล้ว เขารักของเขามาเป็น 20 ปี เพราะฉะนั้นอย่าหวังว่าผู้ชายหน้าไหนจะได้เธอไป แม้แต่เพื่อนสนิทของเขาเองก็ตาม " นี่กลับบ้านของนายได้แล้ว นี่มันดึกมากแล้วนะการันต์ " ชลินพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง " ห่วง? " เลิกคิ้วถามแฟนสาว " อืมห่วงเพราะฉะนั้นนายกลับบ้านได้แล้ว " " หึ ฉันกลับก็ได้พรุ่งนี้เดี๋ยวเข้ามารับไปส่งที่บริษัทนะ " การันต์ยกยิ้มมุมปาก วันนี้เขาจะยอมถอยแต่โดยดีเพื่อให้เธอได้ปรับตัวก็แล้วกัน " ขับรถกลับดีดีนะ " " ขอบคุณ จุ๊บ " พูดจบเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาจุ๊บริมฝีปากของเธออีกครั้งด้วยความรวดเร็ว " นี้! " ชลินที่กำลังจะร้องด่าอีกฝ่ายก็ต้องชะงักไปเมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างของมารดาที่กำลังยืนถือแก้วน้ำพร้อมกับยิ้มกริ้มให้กับเธอและเขาอยู่ทางด้านหลัง " หึ ผมลานะครับคุณแม่ " การันต์หันไปด้านหลังเพื่อกล่าวคำร่ำลาแม่ของแฟนสาว จากนั้นเขาจึงเดินออกไปขึ้นรถของเขาทันที " คนนี้แม่ให้ผ่านไม่มีหักนะคะลูก แม่ขึ้นไปนอนล่ะ ฝันดีค่ะลูกสาวของแม่ " " ฝันดีค่ะคุณแม่ " ชลินยิ้มร่าให้กับแม่ของเธอ ก่อนจะเดินขึ้นตามแม่ของเธอไปติด ๆ ภายในรถคันหรูที่มีร่างสูงกำยำผิวสีน้ำผึ้งกำลังบังคับพวงมาลัยรถให้วิ่งไปตามท้องถนน เปิดเพลงสากลฟังเพื่อผ่อนคลาย ขับไปสักพักก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้นจนเขาต้องกดรับ " ฮัลโหลน้องข้าวจ้าวมีอะไรหรือเปล่าครับถึงได้โทรหาพี่ดึกขนาดนี้ " [ พอดีข้าวจ้าวมีเรื่องจะปรึกษาพี่การันต์หน่อยค่ะ พรุ่งนี้พี่ว่างมาเจอข้าวจ้าวที่โรงแรมลัมไหมค่ะ? ] เสียงหวานพูดขึ้นอย่างรนปนเศร้า " ได้สิครับแล้วเจอกันนะครับน้องข้าวจ้าว " [ แล้วเจอกันค่ะพี่การันต์ ] ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตัดสายทันทีเมื่อความต้องการของเธอลุล่วง การันต์ขับรถสักพักก็มาถึงคอนโดหรูของเขา เขาจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพก็ขึ้นไปห้องของตนเองที่อยู่ชั้นสูงสุดของตึก...บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทนำติ๊ก ติ๊ก...เสียงกดเมาส์ที่ถูกเลื่อนไปตามตัว อักษรของนิยายเรื่องโปรดของหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง ร่างกายบอบบาง ดวงตากลมโตราวกับตาของกวาง ขนตาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม เมื่อหญิงสาวอ่านจบก็บ่นออกมาตามประสานักอ่านตัวท็อป พลางทิ้งตัวไปกับเก้าอี้" เฮ่อ...น่าสงสารนางร้ายซะมัด อย่าให้เจอไรท์เตอร์นะ แม่จะเขย่าตัวแล้วถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับนางร้ายได้ลงคอ ไรท์ใจร้ายมากเลยนะรู้ตัวบ้างไหม นางไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิดนางก็แค่จะมาทวงของนางคืนแค่นั้นเองนะ ทำไมต้องทำร้ายนางถึงขนาดนั้นด้วยอ่ะเราไม่เข้าใจเลย? "" ส่วนพระรองนี้ก็อีกคนอะไรอย่างไงเอาแต่ว่านางร้ายเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ ตัวเองดีนักแหละแหวะจะอ้วก "หญิงสาวบ่นอยู่คนเดียวจนพอใจถึงได้ลุกเดินออกไปหาอะไรกิน พอกินเสร็จเธอก็เก็บกวาดล้างจานชามเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนอนของเธอดังเดิม เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาไม่นานก็ผลอยหลับไป" ชลิน ชลินลูกรีบตื่นขึ้นมาได้แล้วนะลูกแม่กับพ่อใจจะขาดอยู่แล้ว แม่ผิดเองแม่ขอโทษ ลูกรีบตื่นขึ้นมาสักทีเถอะนะ แม่ขอโทษ ฮึก! " เสียงหวานแอบติดแหบเล็กน้อยดังขึ้นรบกวนหญิงสาว จนทำให้เธอต้องลืมต
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต