บทที่ 7
หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่สิครับข้าว " เสียงแหบพร่าถูกเปล่งออกมาจากปากหนา " ข้าวไม่ได้ยั่วค่ะ แต่ว่าข้าวอยากโดนพี่รันทำรักจะแย่อยู่แล้วต่างหากล่ะค่ะ " " หึ คืนนี้อย่าหวังว่าจะได้นอนนะครับข้าว " ชรันดันให้หญิงสาวคนรักนอนราบลงไปกับเตียงนอน ก่อนบทรักบทสวาทอันเร้าร้อนของทั้งคู่จะเริ่มต้นขึ้น อโรม่าที่ถูกเปิดไว้ตั้งแต่ทั้งคู่เข้ามาภายในห้องต่างลอยฟุ้งส่งกลิ่นกระจายอยู่ทั่วห้อง ช่วยสร้างบรรยากาศให้กับทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี การันต์ที่กลับมาถึงคอนโดแล้ว เขานั้นไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปหาคนที่เขารักมาตลอด 20 กว่าปี จากนั้นจึงไปจัดการตัวเองแล้วเข้านอนเนื่องจากพรุ่งนี้เขามีประชุมแต่เช้า ส่วนชลินที่ได้รับข้อความจากคนที่พึ่งของเธอคบแบบจริงจังเมื่อตอนหัวค่ำ พลางยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเขินอาย ก่อนจะตอบข้อความของชายหนุ่มกลับคืน จากนั้นเธอจึงเข้านอนตามเวลาปกติของเธอ รุ่งอรุณสาดส่องผ่านเข้ามาทางระเบียงห้องนอนของหญิงสาวที่กำลังหลับใหลอยู่ ผ่านไปสักพักแสงก็สาดส่องเข้ามากระทบเข้ากับใบหน้าของเธออย่างจัง ทำให้เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอขยับตัวลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการตัวเอง เมื่อทุกอย่างเสร็จจึงเตรียมตัวไปทำงานที่บริษัทของครอบครัวเธอ " จะไปทำงานแล้วเหรอลูก ไม่ทานอาหารเช้าก่อนเหรอคะ? " นันทิชาเมื่อเห็นลูกสาวเดินลงมาจึงรีบเอ่ยทักขึ้น " ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่เดี๋ยวชลินเข้างานไม่ทันค่ะ " ยิ้มให้แม่ของเธอ ก่อนจะขอตัวไปทำงาน " ชลินไปก่อนนะคะ บายค่ะ " จากนั้นเธอก็เดินออกมาทันที " เอ๊ะลูกคนนี้นี่ พรขอโทรศัพท์มือถือให้ฉันหน่อยสิ " นันทิชาที่เป็นห่วงลูกสาวจึงเรียกให้เด็กรับใช้นำโทรศัพท์มือถือมาให้กับเธอ เพื่อจะต่อสายหาคนที่จะจัดการกับลูกสาวของเธอได้ดีกว่าเธอ " ค่ะคุณหญิง " พรเด็กรับใช้ที่ทำงานอยู่ที่บ้านหลังนี้มา 7 ปีกว่ารีบนำโทรศัพท์มือถือมาให้กับคุณหญิงของเธอ " พรได้ยัง? " นันทิชาเอ่ยเร่งเด็กรับใช้ในบ้านของเธอ " ได้แล้วค่ะ นี้ค่ะคุณหญิง " พรยื่นโทรศัพท์มือถือให้กับคุณหญิงแล้วถอยออกมายืนอยู่ห่าง ๆ " ขอบคุณ " นันทิชาเอ่ยขอบคุณอีกคน จากนั้นจึงยกโทรศัพท์เทียบหูเพื่อต่อสายหาว่าที่ลูกเขยของเธอทันที [ สวัสดีครับคุณแม่ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าครับถึงได้โทรหาผมเช้าอย่างนี้ครับ? ] ปลายสายถามขึ้นด้วยความสงสัย " สวัสดีค่ะพี่การันต์ พอดีแม่มีเรื่องจะรบกวนพี่การันต์ให้ช่วยหน่อยนะคะ " จากนั้นเธอจึงเล่าสิ่งที่เธอต้องการให้แก่ว่าที่ลูกเขยของเธอได้รับรู้ [ ได้ครับคุณแม่ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับเดี๋ยวผมจัดการให้เองครับ ] " ขอบคุณนะคะพี่การันต์ แม่ฝากด้วยนะคะ " จบในสิ่งที่ต้องการแล้วทั้งคู่จึงวางสายลง " แค่นี้ก็เรียบร้อย พรเธอไปเตรียมตัวซะวันนี้ฉันจะพาเธอไปทำสปา " หันไปพูดกับเด็กรับใช้อย่างมีความสุข " ค่ะคุณหญิง " เด็กสาวรีบไปเตรียมตัวอย่างที่คุณหญิงของบ้านบอกเธอ ไม่นานเธอก็เตรียมตัวเสร็จ " ไปกัน " " ค่ะคุณหญิง " การันต์ที่พึ่งวางสายของคุณหญิงนันทิชาแม่ของหญิงสาวที่เขารักมาเนิ่นนานลงแล้ว เขาไม่รอช้ารีบเร่งการประชุมให้เสร็จเร็วขึ้น เมื่อการประชุมเสร็จลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจึงไม่รอช้ารีบออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับเลขาของเขาและปล่อยให้เลขาทำหน้าที่ขับรถให้อย่างเคย เขาและเลขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบริษัทของแฟนสาว " คุณกลับได้เลยนะคุณเค ไม่ต้องรอผม " " ครับบอส " การันต์ลงจากรถเดินตรงดิ่งไปยังห้องทำงานของชลิน สองมือถือถุงใส่อาหารมาสองสามอย่าง ชายหนุ่มทำท่าจะผลักประตูเข้าไปภายในห้องกลับต้องชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงของเลขาสาวของแฟนสาวดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง " ขอโทษนะคะพอดีคุณชลินเธอกำลังคุยธุระกับคู่ค้าอยู่นะคะ เชิญคุณนั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ " " ไม่เป็นไรครับ แต่ผมคิดว่าผมน่าจะเข้าไปได้โดยไม่ต้องขออนุญาตเจ้านายของคุณนะครับ " " เอ่อแต่ว่า..." หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจ " หึ ขอบคุณนะครับ " พูดจบการันต์ก็ถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปภายในห้องทำงานของแฟนสาว " ตามนี้นะคะ " " ครับคุณชลิน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับคุณชลินนะครับ " " ทางนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ " " ชลิน " การันต์เอ่ยเรียกแฟนสาวอย่างไม่ชอบใจนักที่เห็นผู้ชายมาจับไม้จับมือของเธอ " ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ " " ค่ะคุณพบ " " ขอบคุณนะครับ " ยกยิ้มอ่อนโยนให้กับหญิงสาวที่พึ่งได้ร่วมธุรกิจด้วยกัน ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกจากห้องของเธอไป การันต์มองชายหนุ่มที่ได้จับมือแฟนสาวของเขาเขม็งอย่างจะกินเลือดกินเนื้ออีกคนให้ได้ยังไงยังงั้น เมื่ออีกคนเดินผ่านไปพร้อมกับเลขาของแฟนสาว เขาจึงเดินเข้ามาหาเธอก่อนจะวางอาหารที่ซื้อติดมือมาด้วยลงบนโต๊ะกระจกเตี้ย จากนั้นดึงตัวเธอให้เข้ามาหาแล้วก้มหน้าลงไปบดจูบริมฝีปากเธออย่างรุนแรง เพื่อเป็นการลงโทษเธอที่ยอมให้ชายอื่นถูกเนื้อต้องตัวในขณะที่เธอนั้นมีแฟนอยู่แล้ว... ชลินที่ถูกการันต์จู่โจมโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว เบิกตาโพลงขึ้นอย่างตกใจ เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำอะไรอย่างนี้ในบริษัทของเธอ แต่เธอลืมคิดไปว่าเขาเคยทำแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในบริษัทของเขา แต่ทว่าพอเธอคิดได้มันกลับสายไปเสียแล้ว มือหนาของเขาเริ่มเลื้อยขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อของเธอออกเผยให้เห็นชุดชั้นในลูกไม้สีครีมที่โอบอุ้มอกประทุมขนาดพอดีของเธอ จ๊วบ จ๊วบ! เสียงบดจูบดูดดื่มดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน ชลินขยำเสื้อของการันต์เพื่อรั้งกายของเธอเอาไว้เนื่องจากแข้งขาของเธอเริ่มอ่อนแรงลง " ฮึก...ฮื้อ...จ๊วบ...จุ๊บ...แฮก...แฮ่ก... " ชลินหอบหายใจรัว จากการถูกแฟนหนุ่มสูบพลังไป " ที่หลังอย่าให้ผู้ชายคนไหนมาถูกเนื้อต้องตัวอีก นอกจากฉัน พ่อของเธอและคุณอาชัชวาลเท่านั้น เข้าใจไหมชลิน " การันต์เอ่ยเตือนแฟนสาว เขาไม่ชอบใจเอาเสียเลยที่มีคนมาถูกเนื้อต้องตัวของเธอแบบนี้ " แต่ฉันกับคุณพบแค่คุยธุรกิจกันเองนะ " ชลินเอ่ยเถียงคนตรงหน้า เมื่ออีกคนพูดเรื่องไร้สาระอย่างไม่มีเหตุผล " ชลิน " เสียงทุ้มแข็งขึ้นเมื่อหญิงสาวไม่ยอมเชื่อฟังแถมยังดื้อรั้นใส่เขาอีก " โอเค ๆ ฉันยอมทำตามที่นายพูดก็ได้ พอใจนายหรือยัง " สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเขาอยู่ดี " ยัง...ต่อไปนี้เธอต้องเรียกฉันว่าพี่การันต์แล้วแทนตัวเองด้วยชื่อ ส่วนฉันจะแทนตัวเองว่าพี่แล้วเรียกเธอว่าหนู เข้าใจไหม? " การันต์พูดในสิ่งที่เขาต้องการจากหญิงสาวอีก " เข้าใจค่ะพี่การันต์ที่นี่จะพอใจได้ยังค่ะ พอดีชลินมีงานต้องทำต่อไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับพี่หรอกนะคะ " ชลินพูดปัดเพื่อหลบหลีกการทะเลาะวิวาทกับคุณพระรองที่ดันมาเป็นแฟนของเธอในตอนนี้ " อึ่มพี่พอใจแล้วครับ กลับไปทำงานของหนูต่อเถอะ แต่เอ๊ะเดี๋ยวก่อนหนูต้องมาทานข้าวก่อนครับแล้วค่อยไปทำงานของหนูต่อได้ มาเร็วอย่าช้าหนู " เขาพึ่งคิดได้ว่าเธอยังไม่ได้ทานข้าวเช้ามาเลย เลยรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินไปนั่งเก้าอี้ทำงานของเธอ " คะ? " เอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย " มาทานข้าวก่อนครับ หนูยังไม่ได้ทานข้าวเช้าไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวหนูก็เป็นโรคกระเพาะหรอก " " ชลินดื่มกาแฟกับขนมปังแล้วค่ะพี่การันต์ " " แค่นั้นมันจะพออะไรมาทานข้าวครับ นี้พี่อุตส่าห์ตั้งใจซื้อมาให้เลยนะ หนูจะไม่ทานจริง ๆ เหรอ ฮึ่ม? " " อื้อ...ทานก็ได้ค่ะ " สุดท้ายเธอก็ต้องจำยอมให้เขาอยู่ดี ชลินเดินไปอีกห้องซึ่งเป็นห้องที่เธอใช้เก็บจานชามยามฉุกเฉิน เธอหยิบมาสามสี่ใบพร้อมช้อนส้อมสองคู่ เดินกลับมาหาคุณพระรองที่เป็นของเธอในตอนนี้ ยื่นจานชามให้อีกฝ่ายแกะอาหารใส่ส่วนตัวเธอทำเพียงแค่นั่งมองอีกฝ่ายทำและรอทานเท่านั้น " นี่ไม่คิดจะช่วยพี่แกะเลยเหรอ? " " ไม่ค่ะถ้าพี่อยากให้ชลินทานพี่ก็ต้องแกะค่ะ " ตอบเสียงเรียบพร้อมเผยใบหน้าเปี่ยมสุขให้กับอีกคน " หึ แสบจริงนะชลิน " พึมพำกับตัวเองพลางแกะอาหารใส่จานจนครบ " พี่การันต์ เดี๋ยวเถอะ! " เธอขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจเขา " อะไรมันเป็นความจริงนี้ อ่ะพี่แกะเสร็จแล้วทานสิ " เลื่อนจานอาหารไว้ตรงหน้าของเธอ เธอเลือกที่จะไม่พูดต่อแล้วลงมือทานอาหารข้างหน้าเธอโดยมีเขาจ้องมองตาไม่กะพริบ " ทำไมพี่การันต์ไม่ทานด้วยกันคะ? " เธอช้อนตามองเขา " พี่ทานมาแล้วครับ หนูทานเลย " " อ่อค่ะ " เธอพยักหน้ารับรู้แล้วลงมือทานอาหารต่อ แต่ทว่าจากนั้นไม่นานกลับมีหญิงสาวเดินเข้ามา โดยที่อีกคนไม่เคาะประตูห้องเพื่อขออนุญาตเจ้าของห้องก่อนแต่อย่างใด เดินพรวดพราดเข้ามาอย่างเสียมารยาท " คุณเข้าไม่ได้นะคะ! " เสียงหวานติดแหลมเล็กน้อยเอ่ยไล่หลังหญิงสาวมาติด ๆ ก่อนที่จะปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของหญิงสาวที่เข้ามาในห้องของเจ้านายเธออย่างไร้มารยาท " ชลินแกทำแบบนี้กับฉันได้ไงฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของแกนะ แล้วนั้นมันก็ไม่ใช่ฝีมือของฉันด้วย ฉันอยู่กับแกมากี่ปีแล้วแกไม่รู้จักนิสัยสันดานของฉันหรือไงห๊ะ! " หญิงสาวตวาดใส่เจ้าของห้องอย่างไม่พอใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำกับเธอเป็นอย่างมาก เธอรับไม่ได้เพราะนั่นมันเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ ชลินจ้องมองหญิงสาวที่พรวดพราดเข้ามาในห้องทำงานของเธออย่างงวยงง พลางคิดว่าหญิงสาวคนนี้เป็นญาติฝั่งไหนของชลินที่เป็นนางร้ายในนิยายที่เธอดันหลุดเข้ามาอยู่ในร่างกันนะ สุดท้ายเธอก็คิดได้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นญาติทางบิดาของเธอ " ห้ะ!?...อะไรของเธอฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะมุกดา " เธอขมวดคิ้วมุ่นเมื่อถูกอีกฝ่ายโว้ยวายใส่ " มันจะไม่ใช่แกได้ยังไงก็ในเมื่อแกเป็นคนเซ็นเอกสารทุกอย่าง! " " เธอจะบ้าหรือไงฉันพึ่งจะกลับมาทำงานได้แค่ไม่กี่วันเองนะ " เธอเถียงกลับอีกคนไปอย่างไม่ยอมแพ้ เธอไม่ได้ทำเรื่องอะไรเธอจะยอมรับผิดแทนคนอื่นด้วย " ถ้าไม่ใช่แกแล้วมันจะเป็นใคร! " " ฉันจะไปรู้กับเธอเหรอ! " ขึ้นเสียงมาขึ้นเสียงกลับเช่นกัน " ขอโทษที่ขัดนะครับคุณมุกดา ผมว่าเรื่องนี้มันต้องมีคนจัดฉากทำให้คุณกับชลินผิดใจกันแน่ครับ พอคุณมุกดากับชลินทะเลาะกัน มันก็จะเข้าตามแผนการของคน ๆ นั้นพอดีแถมยังกำจัดคุณทั้งสองให้พ้นทางของเขาคนนั้นอีกด้วย ผมว่าเรื่องนี้เราทุกคนต้องร่วมมือกันตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วล่ะครับ " การันต์รีบเข้ามาสงบศึกทั้งสองคน เพราะเขาไม่อยากจะให้แฟนสาวของเขามีปัญหากับใคร แถมคนที่เธอมีปัญหาด้วยในตอนนี้ยังเป็นมุกดาที่เป็นถึงญาติของเธออีกมันจะยิ่งแย่ไปใหญ่...บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทนำติ๊ก ติ๊ก...เสียงกดเมาส์ที่ถูกเลื่อนไปตามตัว อักษรของนิยายเรื่องโปรดของหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง ร่างกายบอบบาง ดวงตากลมโตราวกับตาของกวาง ขนตาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม เมื่อหญิงสาวอ่านจบก็บ่นออกมาตามประสานักอ่านตัวท็อป พลางทิ้งตัวไปกับเก้าอี้" เฮ่อ...น่าสงสารนางร้ายซะมัด อย่าให้เจอไรท์เตอร์นะ แม่จะเขย่าตัวแล้วถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับนางร้ายได้ลงคอ ไรท์ใจร้ายมากเลยนะรู้ตัวบ้างไหม นางไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิดนางก็แค่จะมาทวงของนางคืนแค่นั้นเองนะ ทำไมต้องทำร้ายนางถึงขนาดนั้นด้วยอ่ะเราไม่เข้าใจเลย? "" ส่วนพระรองนี้ก็อีกคนอะไรอย่างไงเอาแต่ว่านางร้ายเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ ตัวเองดีนักแหละแหวะจะอ้วก "หญิงสาวบ่นอยู่คนเดียวจนพอใจถึงได้ลุกเดินออกไปหาอะไรกิน พอกินเสร็จเธอก็เก็บกวาดล้างจานชามเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนอนของเธอดังเดิม เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาไม่นานก็ผลอยหลับไป" ชลิน ชลินลูกรีบตื่นขึ้นมาได้แล้วนะลูกแม่กับพ่อใจจะขาดอยู่แล้ว แม่ผิดเองแม่ขอโทษ ลูกรีบตื่นขึ้นมาสักทีเถอะนะ แม่ขอโทษ ฮึก! " เสียงหวานแอบติดแหบเล็กน้อยดังขึ้นรบกวนหญิงสาว จนทำให้เธอต้องลืมต
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต