บทที่ 4
หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที " เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู " สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ " " ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน " ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก " " ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา " ตามใจลูกก็แล้วกันนะ " " ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ " " เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก " " ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม " ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออกจากร้านจิวเวลรี่ตรงไปยังโซนผักและผลไม้กันต่อ " ชลินลูกดูสิองุ่นน่ากินทั้งนั้นเลย " ชลินเข็นรถเข้ามาดูตามที่แม่บอก กวาดตาดูองุ่นหลายสายพันธุ์ จากนั้นจึงพยักหน้าให้กับแม่ของเธออย่างเห็นด้วย " เราเอาไปอย่างละสองพวงลูกว่าดีไหม? " " ดีค่ะคุณแม่ มาค่ะเดี๋ยวชลินช่วย " เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอและแม่จึงเดินไปเช็กบิลแล้วนั่งรถกลับบ้านกัน ชลินนั่งเล่นอยู่กับแม่สักพักก่อนเธอจะปลีกตัวออกมาหาเพื่อนสนิทของเธอที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แต่จะว่าเป็นเพื่อนของเธอมันก็ไม่ใช่อีกนั้นแหละเพราะว่าอีกคนเป็นเพื่อนของชลินคนที่เธอดันหลุดมาเข้าอยู่ในร่างต่างหาก " ชลินทางนี้ " " ฮ้า " ชลินเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิทอย่างมินตราที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ " สวัสดีมิน " " สวัสดีแก ไม่เจอตั้งนานสวยขึ้นนะยะ " " ฮึ เธอก็เหมือนกันแหละน่า " ยิ้มขำให้กับเพื่อนสนิท " เอ๋...นี้แกดื่มยาแล้วลืมเขย่าขวดหรือยังไงยะทำไมถึงได้พูดเพราะกับฉันแบบนี้ " คิ้วสวยถูกเลิกขึ้นอย่างสงสัย " เปล่า...ฉันก็แค่อย่างเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างนะ มันไม่ดีเหรอ? " " ดีสิ ดีมากเลยแก แกเวอร์ชั่นนี้ดูดีที่สุดฉันชอบ ปรบมือให้เลยค่ะเพื่อน " พูดจบก็ปรบมือดัง แป๊ะ แป๊ะ ให้กับเพื่อนสนิท " เวอร์อ่ะมิน " พูดพร้อมกับหันไปมองรอบโต๊ะ " อะไรแกไม่ต้องอายหรอกน่าพวกเรามันคนหน้าหนาอยู่แล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ต้องอายหรอกเชื่อฉัน " " อื้อ " พร้อมพยักหน้าให้กับเพื่อน " แกนั้นใช่คู่หมั้นของแกเปล่าอ่ะ? " " อืม เคยเป็นแต่ตอนนี้เป็นอดีตไปแล้ว " " จริง...ตั้งแต่ตอนไหนยะ? " มินตราแสดงสีหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจากผู้เป็นเพื่อน " อาทิตย์ก่อนนะ เธออย่าสนใจเลยนะ กลับมาเรื่องของเธอกันต่อดีกว่า " ชลินเบี่ยงเบนความสนใจของเพื่อนสาวให้กลับมาอยู่ในบทสนทนาของเธอต่อ " เออ...เค ๆ " มินตราพยักหน้ารับรู้ " อยู่นั้นเป็นไงบ้างลองเล่าให้ฉันฟังบ้างสิ " " ดีมากอ่ะแก มีแต่หนุ่มตาน้ำข้าวมาขายขนมจีบให้ฉันทุกวันเลยล่ะ เอาไว้วันหลังเดี๋ยวฉันจะแนะนำให้สักคนนะ งานดีมากน่ะบอกเลย " ยักคิ้วให้กับเพื่อนสาวอย่างมีเลศนัย " ฮึ ได้สักคนก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ไม่เหงา " พูดออกไปอย่างทันเพื่อนสาว " จ้าคุณเพื่อน " พร้อมยิ้มขำออกมา " เดี๋ยวเถอะมิน " ทำท่างอนตุ๊บป่องเพื่อนสาวที่กำลังหัวเราะขำอยู่ไม่หยุด " ขอโทษแก มันไม่ไหวจริง ๆ อ่ะ ซอรี่นะ " " ง่ะ เธอก็หยุดขำสักทีสิมิน ดูสิคนเขามองเรากันหมดแล้ว " ตีเข้าที่แขนเพื่อนเบา ๆ " มันหยุดไม่ได้นี่ " " มิน " " สวัสดีชลิน สวัสดีครับคุณ? " ชายหนุ่มสูงขาวเดินเข้ามาทักทายหญิงสาวทั้งสองคนพร้อมกับชายหนุ่มสูงผิวน้ำผึ้งผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขา " สวัสดีค่ะ ดิฉันมินตราเป็นเพื่อนสนิทของชลินเองค่ะ " " สวัสดีค่ะคุณชรัน สวัสดีค่ะคุณการันต์ " ชลินทักทายกลับเพื่อเป็นการไม่ให้เสียมารยาทต่อชายหนุ่มทั้งสองเกินไป " อืม สวัสดี " การันต์ทักทายกลับหญิงสาวตรงหน้าของตนอย่างราบเรียบ " ขอพวกผมนั่งด้วยจะได้ไหมครับคุณมินตรา? " ชรันยิ้มขึ้นให้กับเพื่อนสนิทของชลิน " ได้ค่ะ เชิญนั่งเลยค่ะ " มินตรารีบกุลีกุจอตอบชรันออกไปโดยไม่หันมาถามความคิดเห็นจากเพื่อนสนิทอย่างชลินเลยสักนิด " ขอบคุณครับ/ขอบคุณครับ " สองหนุ่มตอบขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะเดินมาหย่อนก้นนั่งเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ โดยชรันนั่งประกบมินตราตามด้วยการันต์ที่นั่งประกบชลิน " วันนี้ผมขอเลี้ยงเองนะครับ " " จริงเหรอคะคุณชรัน? " เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างดี๊ด๊า " จริงครับคุณมินตรา คุณมินตรากับชลินสามารถสั่งได้เต็มที่เลยนะครับ " " งู้ย...หล่อแถมยังใจดีอีกนะคะคุณชรันเนี่ย " " ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับคุณมินตรา " " ทำไมเห็นพวกฉันแล้วเงียบไปเลยล่ะชลิน เมื่อกี้ฉันยังได้ยินเธอกับเพื่อนพูดกันสนุกสนานอยู่เลยนี้แถมยังเป็นเรื่องผู้ชายอีกด้วย นี้พึ่งจะถูกเพื่อนฉันถอดหมั้นไปเองไม่ใช่หรือไง แต่อย่างว่าแหละนะคนอย่างเธอมันคงจะคันมาก จนไม่สามารถทนได้เลยต้องให้เพื่อนหาผู้ชายมาให้สินะ โถ่ ๆ ช่างน่าสมเพชเสียจริง " เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบต่อหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างตนอย่างเย้ยหยัน แต่ภายในใจกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยสักนิด " นี่นาย " ชลินหันไปพูดเบา ๆ ต่อชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกายพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาให้กับชายหนุ่มแบบสุด ๆ " หึ ฉันสามารถช่วยเธอได้นะชลินถ้าเธอต้องการ " ส่งยิ้มยียวนให้กับชลิน " การันต์! " เสียงหวานดังลอดไรฟันออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ " ชลินสั่งอะไรเพิ่มไหม? " มินตราที่เห็นเพื่อนไม่พูดไม่จาเอาแต่เงียบจึงหันไปถามหวังจะชวนคุย " ไม่อ่ะ ฉันพอแล้วเธอสั่งตามสบายเลย " ชลินฝืนยิ้มให้กับเพื่อนสาวทั้งที่ภายในใจอย่างจะลุกเดินหนีออกไปจากที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอด " แน่ใจนะ " " แน่ใจเธอสั่งเลย " " โอเค " ก่อนมินตราจะหันไปสั่งของกินเพิ่ม ส่วนชรันได้แต่แอบมองการกระทำของทั้งสองคนอยู่เงียบ ๆ แต่ดูจากท่าทางของชลินแล้วเพื่อนของเขามันก็เอาเรื่องใช่ย่อยเหมือนกัน " เป็นไงสนใจข้อเสนอของฉันหรือเปล่า หื้ม? " การันต์เมื่อสบโอกาสเขาจึงยื่นใบหน้าเข้ามากระซิบกระซาบข้างใบหูของชลิน ลมร้อนเป่ารดใบหูของเธอจนต้องหันมาทำตาขวางใส่เขา ความขุ่นเคืองเริ่มปะทุขึ้นจนเธออยากจะกระชากหัวของเขามาขยำแรง ๆ สักทีสองที แล้วตบท้ายด้วยการตบหน้าสักฟาดสองฟาดให้หายจากอาการโมโห " คุณการันต์ " ชลินพูดเสียงเบาหวิว แสดงสีหน้าขุ่นเคืองเป็นอย่างมากต่อเขา เธอไม่คิดเลยว่าไอ้พระรองมันจะเป็นหมาบ้ากัดคนอื่นไม่เลือกแบบนี้ ตอนแรกเธอแค่ไม่ชอบอีกคนเท่านั้นแต่ตอนนี้เธอสักจะเกลียดอีกคนเข้าแล้วสิ " ตอบมาสิ " เซ้าซี้ถามไม่เลิก " ฉันไม่สนถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นนาย " แล้วหันมาสนใจเพื่อนสาวของเธอต่อ " ชลินชิมไหม? " พร้อมตักเค้กมาจ่อปากของเธอ " อืม " ชลินอ้าปากรับเค้กสตอเบอรี่จากเพื่อนสาวพร้อมกับลิ้มรสชาติเปรี้ยวหวานที่กระจายอยู่ทั่วโพรงปากของเธอ " อร่อยปะ? " มินตราทำหน้าลุ้นไปกับเพื่อน " อืมอร่อยดี " " ชลินเย็นนี้คุณแม่ให้ชวนเธอไปทานอาหารเย็นที่บ้าน อย่าลืมล่ะ " ชรันที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น ก่อนจะเอ่ยขอตัวกลับไปทำงานของเขาต่อ " ผมกลับก่อนนะครับคุณมินตรา " " ค่ะคุณชรัน ขอบคุณสำหรับค่าขนมและน้ำนะคะ " มินตรายิ้มแย้มให้กับชายหนุ่มทั้งสองคน " หึ ผมกลับก่อนนะครับคุณมินตรา น้องชลิน " ยิ้มกริ่มให้กับทั้งสองสาว แต่ทว่ากับชื่อคนด้านหลังกลับเป็นการยั่วยวนกวนอารมณ์ของเธอมากกว่า " บายค่ะ คุณชรัน คุณการันต์ " " บายค่ะ " ชลินตอบอย่างราบเรียบบวกกับอารมณ์ขุ่นเคืองและเบื่อหน่าย " บายครับ/บายครับ " ชายหนุ่มตอบขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะพากันเดินออกไปจากร้านกาแฟ " เป็นไงบ้างแก แกโอเคป่ะ? " " เธอจะมาถามฉันอะไรตอนนี้ค่ะคุณมินตรา " " ขอโทษได้ป่ะล่ะ " ทำหน้าหงอยเหงาใส่เพื่อนสาว เพื่อหวังให้อีกคนเห็นใจ " ไม่ได้ค่ะ " ชลินพูดแกล้งมินตรา " โถ่แกนี่ฉันเพื่อนรักของแกเลยนะโว้ยชลิน แกจะไม่ให้อภัยฉันจริง ๆ เหรอ " น้ำเสียงโอดครวญดังขึ้น เมื่อได้รับคำปฎิเสธจากเพื่อนสาว " ฮึ " ชลินส่ายหัวให้กับเพื่อน นั่งอยู่อีกสักพักจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ทว่าพอชลินมาถึงบ้านเธอถึงกับต้องชะงักไปเมื่อเจอเข้ากับการันต์ที่กำลังนั่งคุยอยู่กับพ่อแม่ของเธอ " อ้าวชลินกลับมาแล้วเหรอลูก มานั่งนี่ก่อนสิ " นันทิชาที่เห็นลูกสาวยืนอยู่จึงเอ่ยทักท้วงลูกสาวให้เข้ามานั่งกับทุกคน " ค่ะคุณแม่ " ชลินเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งอยู่ข้างแม่ของเธอ พร้อมกับจ้องมองการันต์เขม็ง " ชลินลูกมีอะไรจะบอกพ่อกับแม่เหรอเปล่าคะ? " " ไม่มีนี้ค่ะคุณแม่ " ชลินส่ายหน้าขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย " แน่ใจนะลูกชลิน " รณพีร์เอ่ยย้ำลูกสาวอีกครั้ง " แน่ใจค่ะ ชลินไม่มีอะไรจะบอกคุณพ่อกับคุณแม่จริง ๆ ค่ะ " " แล้วที่ลูกกับพี่การันต์คบกันล่ะค่ะ ไม่คิดจะบอกพ่อกับแม่หรือไงกัน หื้อ? " นันทิชายิ้มกริ่มให้กับลูกสาวของเธอ ซึ่งรณพีร์เองก็ไม่ต่างกัน " คบกับพี่การันต์? " ชลินขมวดคิ้วขึ้นหนักกว่าเดิม มีคำถามมากมายไหลเข้ามาในหัวของเธอไม่หยุด แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นเธอไปคบหาดูใจกับไอ้คุณพระรองจอมกวนโอ๊ยนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน ชลินหันไปมองค้อนการันต์เขม็ง ก่อนจะหันกลับมาหาพ่อแม่ของเธอตามเดิม " ใช่ไงลูก ตอนที่ลูกยังกลับมาไม่ถึงบ้านการันต์ได้เล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นลูกไม่ต้องเป็นกังวลอะไรแล้วนะ พ่อกับแม่ไม่ว่าอะไรลูกหรอกแถมตอนนี้ลูกก็ไม่ได้มีพันธะอย่างเมื่อก่อนแล้วด้วย ตอนนี้ลูกจะรักใครชอบใครหรือคบหาดูใจกับใครมันก็เป็นสิทธิ์ของลูกแล้วล่ะนะ " ยิ้มอ่อนให้กับลูกสาว " ใช่ลูกที่พ่อเขาพูดมามันก็ถูกนะคะ ดีซะอีกลูกจะได้มีคนดูแลด้วย เนอะพี่การันต์ " " ครับคุณน้า " " คุณน้าอะไรกันเรียกพ่อกับแม่ก็ได้ค่ะพี่การันต์ ไหน ๆ ก็จะมาเป็นเขยบ้านนี้แล้วนี่ค่ะ จริงไหมคะพี่พี? " " จริงครับนัน ต่อไปนี้เราก็ทำตัวตามสบายล่ะการันต์ไม่ต้องมากพิธีรีตรองหรอกนะ " " ครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์กล่าวขึ้นอย่างนอบน้อมถ่อมตน " ถ้าอย่างนั้นอยู่คุยกันไปนะลูก แม่กับพ่อจะออกไปทำธุระกันสักหน่อย แล้วเจอกันตอนเย็นค่ะลูกสาว ฟอด " " อ่ะ! คุณแม่... " น้ำเสียงยานคางดังออกมาจากริมฝีปากของชลิน " ไปกันค่ะพี่พี แม่ไปก่อนนะคะพี่การันต์ฝากน้องด้วยนะคะ " " ครับคุณแม่ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผมจะดูแลน้องให้เป็นอย่างดีเลยครับ " " ขอบใจนะคะพี่การันต์ แม่กับพ่อไปก่อนนะลูก " " ค่ะคุณแม่ " รณพีร์และนันทิชาเดินออกไปแล้ว ทำให้ตอนนี้ภายในห้องรับแขกมีเพียงชลินกับการันต์เท่านั้น " นี้นาย นายมาพูดแบบนี้กับพ่อแม่ของฉันได้ยังไงกัน แล้วฉันไปคบกับนายตอนไหนกันไม่ทราบ " ชลินแผดเสียงใส่การันต์ทันทีที่พ่อแม่ของเธอเดินลับสายตาไปแล้ว " ทำไมจะพูดไม่ได้ล่ะครับที่รัก เมื่อกี้เราทั้งสองคนยังตอบตกลงคบกันอยู่เลยนะครับ หึ หึ " ยกยิ้มยียวนบริเวณมุมปาก เพื่อปั่นประสาทหญิงสาวตรงหน้า " การันต์ ฉันเริ่มจะทนนิสัยสันดานต่ำตมของนายไม่ไหวแล้วนะ! " พูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด...บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทนำติ๊ก ติ๊ก...เสียงกดเมาส์ที่ถูกเลื่อนไปตามตัว อักษรของนิยายเรื่องโปรดของหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง ร่างกายบอบบาง ดวงตากลมโตราวกับตาของกวาง ขนตาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม เมื่อหญิงสาวอ่านจบก็บ่นออกมาตามประสานักอ่านตัวท็อป พลางทิ้งตัวไปกับเก้าอี้" เฮ่อ...น่าสงสารนางร้ายซะมัด อย่าให้เจอไรท์เตอร์นะ แม่จะเขย่าตัวแล้วถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้กับนางร้ายได้ลงคอ ไรท์ใจร้ายมากเลยนะรู้ตัวบ้างไหม นางไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิดนางก็แค่จะมาทวงของนางคืนแค่นั้นเองนะ ทำไมต้องทำร้ายนางถึงขนาดนั้นด้วยอ่ะเราไม่เข้าใจเลย? "" ส่วนพระรองนี้ก็อีกคนอะไรอย่างไงเอาแต่ว่านางร้ายเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ได้ ตัวเองดีนักแหละแหวะจะอ้วก "หญิงสาวบ่นอยู่คนเดียวจนพอใจถึงได้ลุกเดินออกไปหาอะไรกิน พอกินเสร็จเธอก็เก็บกวาดล้างจานชามเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนอนของเธอดังเดิม เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาไม่นานก็ผลอยหลับไป" ชลิน ชลินลูกรีบตื่นขึ้นมาได้แล้วนะลูกแม่กับพ่อใจจะขาดอยู่แล้ว แม่ผิดเองแม่ขอโทษ ลูกรีบตื่นขึ้นมาสักทีเถอะนะ แม่ขอโทษ ฮึก! " เสียงหวานแอบติดแหบเล็กน้อยดังขึ้นรบกวนหญิงสาว จนทำให้เธอต้องลืมต
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 8 เมื่อชายหนุ่มเคลียร์ทุกอย่างให้แก่หญิงสาวคนรักเสร็จ ทั้งสามคนจึงปรึกษาหารือกันต่อว่าจะเอายังไงต่อกันดี สุดท้ายก็ได้คำตอบคือต้องหาคนที่ทำมาลงโทษให้ได้ มุกดาที่เข้าใจชลินผิดรีบเอ่ยขอโทษญาติผู้น้อง ส่วนชลินไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้เลยไม่ติดใจอะไรยอมให้อภัยแก่หญิงสาวญาติผู้พี่ของนางร้ายในนิยายที่เธอชอบอ่านอย่างง่ายดาย " ตามนี้นะครับคุณมุกดา " " ค่ะคุณการันต์ ชลินฉันสักจะอิจฉาเธอแล้วสิ " หญิงสาวหันมายิ้มกริ่มให้กับญาติผู้น้องอย่างหยอกเย้า " มันน่าอิจฉาตรงไหนมุกดา เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขา อ้ะ! พี่การันต์เจ้าเล่ห์แค่ไหนกันหน่ะ " เมื่อเธอพูดผิดจึงรีบแก้พร้อมปรายตามองเขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ " หึ " การันต์ยกยิ้มมุมปากให้กับหญิงสาวคนรักให้กับท่าทีปฏิกิริยาของเธอ " ฉันไม่เห็นนะฉันเห็นแค่คุณการันต์คนดี คนเก่ง เท่านั้นเอง " " เฮ้อ! " ชลินทำเสียงขึ้นจมูกในสิ่งที่หญิงสาวญาติผู้พี่พูด " คุณการันต์ไม่น่าตาบอดมาหลงรักยายชลินเลยนะคะ " " หึ ผมหลงไปแล้วจะให้ทำยังได้ล่ะครับคุณมุกดา " " ฮึ นั้นสินะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับไปทำงานของดิฉันต่อก่อนนะคะ " มุกดาเอ่ยขอตัวกับทั้งสองคน " ครับ "
บทที่ 7 หญิงสาวที่นั่งรอคนรักอยู่บนเตียงนอน พลางวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวเมื่อคนรักเดินเข้ามาหา เธอยกยิ้มอ่อนหวานให้กับคนรัก พยายามทำตัวใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมมันยังใช้ได้ผลกับพวกคนโง่พวกนั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งคนตรงหน้าของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เสียดายอย่างเดียวที่พ่อแม่ของอีกคนไม่ได้โง่เหมือนลูกชายไม่อย่างนั้นเธอได้อยู่สุขสบายไปนานแล้ว " ทำไมยังไม่นอนอีกครับ ฮึ่ม? " " ข้าวรอพี่รันอยู่ไงค่ะ " ยกยิ้มหวานปนยั่วยวนคนรักที่เธอไม่เคยรักเขาเลยแม้แต่นิด ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด อยู่สุขสบายของเธอและครอบครัวของเธอก็เท่านั้น แต่คนที่เธอรักและอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอที่มีอยู่ด้วยก็คือการันต์เพื่อนสนิทของอีกคนต่างหาก " งั้นเหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนแต่อยากทำอย่างอื่นแทนล่ะ ข้าวจ้าวจะว่ายังไงครับ " ส่งสายตาแพรวพราวให้หญิงสาวคนรักที่เขารักหมดทั้งหัวใจตั้งแต่แรกเห็น " แล้วพี่รันอยากจะทำอะไรล่ะค่ะ ข้าวพร้อมทำตามใจพี่รันเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ " เธอพูดบดชายหนุ่มคนรักอย่างชรันออกไป พร้อมกับไล่ปลายนิ้วสัมผัสไปกับแผ่นอกของเขาอย่างยั่วยวน " หึ อย่ายั่วพี่
บทที่ 6 การันต์เฝ้าตามง้อชลินไม่หยุด คอยซื้อโน่นซื้อนี่มาฝากเธอและครอบครัวอยู่เสมอไม่เคยขาดมือ ตกเย็นก็คอยอยู่ฝากท้องกับครอบครัวของเธออยู่ตลอด จนเธอคุ้นชิน " เย็นนี้ผมขอฝากท้องอีกนะครับคุณพ่อคุณแม่ " การันต์ " ได้สิค่ะพี่การันต์ " นันทิชา " อืม ยินดีเสมอเจ้าลูกเขย " รณพีร์ " คุณพ่อคุณแม่ค่ะ เอ่อคือว่า... " ชลินเอ่ยขึ้นหวังจะค้านแต่ทว่ากลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น " อะไรคะชลินลูก? " นันทิชา " นั้นสิลูกมีอะไรไหนบอกพ่อกับแม่มาสิ? " รณพีร์ " เปล่าคะ ไม่มีอะไรค่ะคุณพ่อคุณแม่ " ชลินยกยิ้มฝืด ๆ ให้กับพ่อแม่ของเธอ " อะไรกันลูกคนนี้เนี่ย " นันทิชา " โอเค พ่อจะเชื่อเราก็แล้วกันนะ " รณพีร์ " หึ " การันต์ ชลินจ้องหน้าคมสันของการันต์แว๊บเดียวก็หันมามองหน้าพ่อแม่ของเธอต่อ เนื่องจากเธอยังเคืองอีกฝ่ายอยู่ " ชลินลูกแม่กับพ่อจะไม่อยู่บ้านเดือนหนึ่งนะลูก พอดีแม่กับพ่อจะไปฮันนีมูนกันที่ต่างประเทศนะคะ แม่ฝากลูกดูแลบ้านด้วยน่ะ " พลางหันไปส่งยิ้มให้กับสามีของเธอ " ทำไมคราวนี้ถึงเร็วจังค่ะคุณแม่? " เธอถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะทุกครั้งพ่อและแม่ของเธอจะต้องไปทุกสิ้นปีนี้ แต่นี่มันเหลืออีก
บทที่ 5 หลังจากวันนั้นไม่นานการันต์ก็เล่นป่าวประกาศว่าตนและชลินนั้นได้คบหาดูใจกันอยู่ ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าชลินกับการันต์จะคบกันได้ เพราะว่าทั้งสองคนชอบหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอดยามที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน แต่เพราะชายหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมแถมยังจูบเธอโชว์ต่อหน้าพนักงานทุกคนภายในบริษัทของเขาอีก จึงทำให้ทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจในวินาทีต่อมา ส่วนมินตราที่ได้รับรู้เรื่องนี้เข้าก็โทรหาชลินเพื่อนสาวของเธอไม่หยุด แต่พอเธอได้คำตอบจนพอใจของเธอแล้ว เธอจึงเหลือไว้แต่เพียงอาการอยากแซวเพื่อนของเธอเท่านั้น แต่ทว่าแซวมากก็ไม่ได้เพราะกลัวเพื่อนจะงอนเอา เธอจึงเลือกแซวพอเป็นพิธี " ชลินไปทานข้าวกัน " การันต์เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของชลินอย่างถือวิสาสะ ชลินช้อนตาขึ้นมองแขกผู้มาเยือนที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างเสียมารยาท " ฉันยังไม่หิว นายหิวก็ไปทานก่อนสิ " " ไม่ฉันจะรอไปทานข้าวพร้อมเธอ " " การันต์นายเลิกก่อกวนกับฉันสักพักจะได้ไหม นายไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังใช้สมาธิในการทำงานอยู่น่ะ " ตวัดตาใส่อีกคนเขม็ง " ให้ฉันช่วยไหมล่ะหืม? " ชันแขนไปกับโต๊ะพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว " ไม่ต้
บทที่ 10 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาการันต์ได้พิสูจน์ตัวเองให้ชลินได้รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ใจในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ทั้งแสดงความรักอันบริสุทธิ์ที่ไร้การแก้แค้นไร้ความเกลียดชังนั้นด้วย วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองบ้านสกุลดังจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันซึ่งนั้นก็หมายความว่าวันนี้เป็นวันหมั้นหมายของชลินและการันต์นั้นเอง พิธีการต่าง ๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ข่าวที่ทั้งคู่ได้หมั้นหมายต่างถูกแพร่กระจายอยู่วนสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกคนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีแก่ทั้งคู่ ต่างจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งดูรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของเธอ ก่อนจะปาโทรศัพท์ลงแหมะบนที่นอนกว้าง สองมือขยำผ้าปูเตียงจนยับยู่ยี้ ใบหน้าหวานติดน่ารักแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นและได้รับรู้เป็นอย่างมาก จนอยากจะร้องกรี้ดออกมาให้สุดเสียงที่มีแต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากแฟนหนุ่มยังอยู่ในคอนโดแห่งนี้กับเธอ " ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับข้าว? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงคนรัก พลางใช้ตาคมสังเกตถึงความผิดปกติของเธอไปด้วย " ข้าวไม่เป็นไรค่ะพี่รัน แล้วพี่รันจะทานข้าวเลยไหมค่ะ เดี๋ยวข้าวจะไปทำให้ทานค่ะ " พลางยิ้ม
บทที่ 4หญิงสาวที่ออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มอดีตคู่หมั้นพร้อมกับแม่ของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอกับแม่ของเธอกำลังตรงดิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของคลายเหงากัน พอมาถึงปุ๊บแม่ของเธอก็พาเธอมายังร้านจิวเวลรี่ร้านประจำของท่านทันที" เส้นนี้สวยไหมลูก? " นันทิชายกสร้อยคอหยดน้ำประดับพลอยเม็ดเล็กทาบบริเวณคอระหงหวังโชว์ให้ลูกสาวดู" สวยค่ะคุณแม่ มันเข้ากับคุณแม่มากเลยค่ะ "" ฉันเอาเส้นนี้ล่ะค่ะ " หันไปส่งสร้อยคอให้กับผู้จัดการของร้าน" ค่ะคุณหญิง รอดิฉันสักครู่นะคะ " " ไม่เอาสักเส้นสองเส้นหรอกชลินลูก "" ไม่ดีกว่าค่ะคุณแม่ ซื้อไปชลินก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่ดีค่ะ " พร้อมกับยิ้มตอบมารดา" ตามใจลูกก็แล้วกันนะ "" ขออนุญาตนะคะของคุณหญิงได้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุนเครื่องเพชรและเครื่องประดับของทางร้านจิวเวลรี่ของเรานะคะ "" เครื่องประดับของที่นี่มีแต่สวย ๆ งาม ๆ ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน ฉันกับลูกกลับก่อนนะไปกันชลินลูก "" ขอขอบคุณคุณหญิงกับคุณชลินมากนะคะ ขอบคุณค่ะ " ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างนอบน้อม" ขอบคุณเช่นกันค่ะ " ชลินส่งยิ้มให้กับผู้จัดการสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอและแม่จะเดินออก
บทที่ 3 สุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้มาส่งเธออยู่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคืออีกฝ่ายมาส่งเธอถึงบ้านอีกด้วยนี้สิ แถมพ่อแม่ของเธอยังชวนอีกฝ่ายทานอาหารเย็นด้วยกันอีก อุตส่าห์ว่าจะไม่ยุ่งกับคนพวกนี้แล้วนะแต่ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอกันนักนะ " ขับรถกลับดี ๆ ล่ะพี่การันต์ " นันทิชาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงชายหนุ่ม " ครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมลานะครับ " ยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม " ค่ะพี่การันต์ " " ขับระวังด้วยล่ะเรามืดค่ำอย่างนี้อย่าขับเร็วล่ะ " " ครับคุณน้าผมจะขับระวัง ๆ ครับ ผมกลับก่อนนะชลิน " " อืม...บายค่ะ " ชลินตอบการันต์เพื่อรักษามารยาทต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ แต่ภายในใจกลับอยากไล่ตะเพิดให้อีกคนไปไกล ๆ จากเธอเสียเต็มประดา การันต์ยิ้มให้ชลินเสร็จจึงเดินออกจากบ้านขึ้นรถหรูของเขา ก่อนจะขับออกจากบริเวณบ้านของเธอไป ชลินเห็นดังนั้นจึงขอตัวขึ้นห้องของตัวเองบ้าง หลังจากเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับการันต์มาครึ่งค้อนวัน ชลินเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอเพื่อค้นหาข้อมูลบริษัทคู่แข่งของพระเอกนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เมื่อได้ข้อมูลมามากพอสมควรแล้วเธอจ
บทที่ 2หญิงสาวผิวขาวผ่อง หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เดินเข้ามาคล้องแขนของชายหนุ่มสูงโปร่ง ริมฝีปากบางถูกระบายยิ้มออกมาให้กับชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกัน" ทำไมถึงพากันมายืนตรงนี้คะ? " เสียงหวานถามขึ้นด้วยความสงสัย" พี่กำลังรอเราอยู่ไงครับ " ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้กับคนรัก" ไปกันได้แล้วมั้ง หวานกันจนมดจะขึ้นตัวฉันอยู่แล้ว " ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขัดจังหวะหวานของเพื่อนสนิทขึ้น" อื้ม...ไปสิ " พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิท" เอ๊ะ! คุณชลินก็มางานนี้ด้วยเหรอคะพี่ชรัน? " เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่เป็นอดีตคู่หมั้นของคนรัก เธอจึงเอ่ยถามคนรักขึ้น เพราะว่าตอนนี้เธอไม่อยากจะปะทะคารมกับอีกฝ่ายมากเท่าไรนัก" แม่พี่คงจะเชิญมานะครับ ข้าวจ้าวอย่าไปสนใจเลยนะครับ "" ใช่ครับข้าวจ้าว ข้าวจ้าวอย่าสนใจแม่นั่นเลยครับ ถ้าแม่นั่นมาหาเรื่องข้าวจ้าวล่ะก็พี่กับชรันจะจัดการให้เอง ข้าวจ้าวไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้นนะครับ "" ขอบคุณค่ะพี่การันต์ "เดินไม่กี่ก้าวทั้งสามคนก็เดินมาถึงครอบครัวของชลินและครอบครัวของชรัน" สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ " ชรันยกมือขึ้นไหว้บุพการีของตนและเพื่อนส
บทที่ 1วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วที่หญิงสาวได้เข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอได้อ่านมาเกือบร่วมสองอาทิตย์ เธอไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในนี้ได้ยังไง แต่ที่เธอรู้ได้ก็คือเธอได้กลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกทั้งพระเอกและพระรองเกลียดชังเป็นอย่างมาก แถมชื่อของนางร้ายดันมาเหมือนชื่อของเธออีกด้วย แต่ทว่ากับพ่อแม่ของเธอมันกลับต่างออกไป ท่านทั้งสองไม่ได้มีชื่อเรียกขานดังพ่อแม่ของเธอเลยสักนิด มันเลยทำให้เธอเริ่มที่จะสงสัยและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดบวกกับความทรงจำของร่างนางร้ายผู้นี้ที่มันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาให้เธอได้รับรู้ไม่หยุด เดิมที่พ่อแม่ของเธอมีชื่อว่า ธานินทร์ กับ ผกากรอง แต่พ่อแม่ที่อยู่กับเธอในตอนนี้ท่านทั้งสองกลับมีชื่อว่า รณพีร์ กับ นันทิชา ซึ่งชื่อของท่านทั้งสองคนมันกลับไปตรงกับตัวละครในนิยายที่เธอพึ่งจะอ่านจบไปหมาดๆ แถมเธอยังด่าว่าไอ้พระรองปากหมาไปหยกๆอีก อาจเป็นเพราะว่าเธอไปด่าว่าไอ้พระรองปากหมานั่นหรือเปล่านะ สวรรค์เลยทำโทษส่งเธอมาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เพื่อเป็นการลงโทษแทนและที่สำคัญคือเข้าร่างใครไม่เข้าดันมาเข้าร่างนางร้ายที่มีแต่คนเกลียดชังอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเธอมันถึงรันทดเช่นนี้กันนะ แต