“ห้องนี้คือ 106 คุณพักอยู่ที่นี่ชั่วคราวเถอะ”หลังจากที่จัดแจงที่พักให้หมิงอิ่งอิ่งเรียบร้อย ทุกอย่างเหมาะสม หลินเฟิงไตร่ตรองครู่หนึ่ง ก็เดินออกจากประตูใหญ่คฤหาสน์อ่าวเทียนสุ่ยตามลำพัง ตรงกลางถนนที่มืดมิด รถหรูลินคอล์นจอดลงตรงหน้าหลินเฟิงช้า ๆหลินเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าไฟรถของรถหรูแล้วถอนหายใจพูดว่า:“ดูท่าซือหม่าหาวคิดอยากตายจริง ๆ สินะ”“ไอ้หนุ่ม หาเรื่องตระกูลซือหม่าของฉัน ยังคิดจะจากไปง่าย ๆ งั้นเหรอ?”ประตูรถเปิดออก ชายชราหนวดเคราสีเทาที่สวมชุดสีดำทั้งตัวลงมาจากรถ และมองไปทางหลินเฟิงด้วยท่าทางทะนงองอาจ: “ไอ้หนุ่ม นายจะต้องชดใช้กับความประมาทเลินเล่อของนายเอง!”“ส่วนพวกคุณ ก็จะต้องชดใช้เพราะความไม่รู้ของตัวเองหรือไม่?”หลินเฟิงถามชายชรากลับด้วยสีหน้านิ่งเฉยนี่ทำให้ชายชราสีหน้าเย็นชา เขาหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้น: “นายที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้น่ะเหรอ อยากจะมางัดข้อกับคนแก่อย่างฉัน?”“นายคู่ควรด้วยเหรอ?”“ประโยคนี้ส่งกลับไปให้คุณเหมือนกัน ตาแก่”สายตาของหลินเฟิงเผยความเฉียบคมออกมา เขาไม่พูดพล่ามอีกต่อไป จากนั้นดีดตัวขึ้น เด้งออกไปเหมือนกระแสไฟ และปรากฏที่ตรงหน้าของชายชรา
ทวารทั้งเจ็ดมีเลือดไหล ตายไปอย่างน่าอนาถที่สุด“ออกรถ ไปโรงแรมจิ่วโจว”หลินเฟิงเปิดประตูรถ ขึ้นรถยนต์ลินคอล์นของชายชราในตอนนี้คนขับรถตกใจจนมึนงงไม่มีเวลาครุ่นคิดอย่างอื่น เพื่อรอดชีวิตคนขับรถทำได้เพียงฟังคำสั่งของหลินเฟิง เลี้ยวหัวรถและขับไปทางโรงแรมจิ่วโจวและในตอนนี้ ภายในโรงแรม ซือหม่าหาวกำลังสวมชุดคลุมอาบน้ำ เพลิดเพลินกับการนวดของเผิงหย่าฟางเขานอนคว่ำอยู่บนเตียง มือกำโทรศัพท์เอาไว้“คุณชายซือหม่าย ทำไมเสียงของคุณท่าทางดูอารมณ์ไม่ดี”อีกฝ่ายของโทรศัพท์กลับมีเสียงพูดของกู้เฉินดังขึ้น“เป็นเพราะช่วงนี้ตัวทำเงินในบริษัทของผมหนีไปแล้วน่ะสิ แม่ง”ซือหม่าเจียด่าทอคำหยาบ และบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แก่กู้เฉิน“อะไรนะ?!”กู้เฉินที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์นิ่งอึ้งอย่างเห็นได้ชัด และยืนยันกับหม่าซือเจียซ้ำ ๆ ว่าหลินเฟิงที่เขาพูดถึงเป็นหลินเฟิงคนไหน“คุณชายซือหม่าย ผมเกลี้ยกล่อมให้คุณรีบหนีไปเถอะครับ”หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กู้เฉินที่อยู่อีกฝ่ายขอโทรศัพท์ก็พูดขึ้น: “หลินเฟิงคนนั้นความสามารถแข็งแกร่งมาก อีทั้งนิสัยใช้อำนาจบาตรใหญ่ ถ้าหากผมเดาไม่ผิด ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ระหว
“ตรงนี้มีที่ให้เธอพูดจาด้วยเหรอ?”หลินเฟิงสายตาเย็นชาหวาดมองเผิงหย่าฟาง ในดวงตาเต็มไปด้วยแรงสังหารแต่เผิงหย่างฟางไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย เธอแอ่นอกเผชิญหน้ากับหลินเฟิงแล้วพูดว่า: “นายก็แค่ถือว่าถังหว่านนังผู้หญิงต่ำช้าคนนั้นหนุนหลังนายไม่ใช่เหรอ?”“ฉันยอมรับว่าตระกูลถังมีความสามารถอยู่บ้าง แต่คุณชายซือหม่าก็ใช่ว่าจะกลัวตระกูลถัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายหน้าตัวเมียที่เกาะถังหว่าอย่างนาย ทางที่ดีนายควรจะสำนึกถึงสถานะของตัวเอง!”การดูถูกเหยียดหยามติดต่อกันของเผิงหย่าฟางทำให้หลินเฟิสีหน้าเปลี่ยนไปเย็นชา“แก…หุบปาก!”เห็นความดุดันบนตัวของหลินเฟิงยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง ซือหม่าหาวก็รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี เขารีบตวาดเผิงหย่าฟางให้หุบปาก แต่เผิงหย่าฟางไม่มีท่าทีจะหยุดด้วยซ้ำ แต่กลับพูดยั่วโมโหหลินเฟิงต่อ: “คุณชายซือหม่าทำการตรวจสอบนายเรียบร้อย ได้ยินว่านายมีอดีตภรรยาคนหนึ่ง แต่น่าเสียดายอดีตภรรยาของนายอีกสองวันก็จะแต่งงานกับคุณชายของตระกูลกู้เมืองเจียงโจวแล้ว”“ถ้าฉันเป็นนาย คงจะหาที่ที่ไม่มีคนและเช็ดน้ำตาไปตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่านายเอาความกล้ามาจากไหน ยังกล้ามาพาลเกเรถึงที่คุณชายซือหม่า!”
ชายชรามีหนวดเครายาวเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว และยืนตะโกนอยู่ที่ด้านหลังหลินเฟิง: “ฉันบอกให้นายปล่อยมือ นายไม่ได้ยินหรือไง?!”“หือ?”หลินเฟิงหันหน้าไปช้า ๆ ก็เห็นงานปักสีขาวตรงหน้าอกชุดสูทของชายชราเป็นตัวอักษรหรงตัวใหญ่ ๆ“คนของตระกูลหรง?”หลินเฟิงถามโดยไร้ความรู้สึก“ในเมื่อรู้แล้ว ยังไม่รีบปล่อยคุณชายซือหม่าอีกเหรอ?”“คุณชายซือหม่าตอนนี้ได้รับการปกป้องจากตระกูลหรงของเรา หลินเฟิง ถ้าหากนายทำอะไรมั่วๆ งั้นก็อย่าโทษที่ตระกูลหรงของฉันเห็นนายเป็นศัตรู!”ชายชราตะโกนเสียงดัง“หึ”หลินเฟิงไม่ยอมรับการข่มขู่จากชายชราตระกูลหรง แต่กลับส่ายหน้าแล้วหัวเราะพูดว่า: “ซือหม่าหาวคนนี้แหกกฏของผมก่อน อีกทั้งยังขู่ว่าจะฆ่าครอบครัวของผม ถ้าหากผมปล่อยเขาไป เขาจะคลายปมกับผมได้เหรอ?”“นายปล่อยคุณซือหม่าหาวก่อน ตระกูลหรงของฉันรับประกันที่ตรงนี้ จะไม่ให้เขาทำอะไรซี้ซั้ว”ชายชราขมวดคิ้ว และรับประกันต่อหลินเฟิง“หึ”หลินเฟิงส่งเสียงในลำคอเบา ๆ และปล่อยมือออก ไว้ชีวิตซือหม่าหาวสักครั้ง“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ไว้หน้าตระกูลหรงของพวกคุณ”ในเมื่อหลินเฟิงก็ไม่อยากมีปัญหากับทุกคนไปหมดซือหม่าหาวหายใจ
ชายชราหันหน้ามองไปทางซือหม่าหาวแล้วพูดเกลี้ยกล่อม:“คุณชายซือหม่าหาว วันนี้คุณยอมก้มหัวให้คุณหลินเฟิงก่อน รับความผิด และรับประกันว่าต่อไปจะไม่มาหาเรื่องคุณหลินเฟิงแล้ว พวกคุณสองคนเปลี่ยนจากการต่อสู้เป็นมิตรภาพกัน แบบนี้เป็นอย่างไร?”“ฉันก้มหัวรับผิดต่อเขา?”ซือหม่าหาวสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป และมองชายชราอย่างไม่อยากจะเชื่อ“ถูกต้อง”ชายชราพยักหน้า ถือว่าเป็นการยืนยันวิธีคำพูดนี้”ทำไมกัน?!”ซือหม่าหาวชี้ไปทางหลินเฟิงแล้วพูดอย่างโมโห: “ไอ้หมอนี่ไม่เพียงขวางทางมั่งคั่งของฉัน ถึงขั้นที่วิ่งมาคุกคามความปลอดภัยของฉันถึงที่นี่ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ยังจะให้ฉันขอโทษเขาเหรอ?!”“ไม่มีทาง! พวกนายเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลหรงไม่ใช่เหรอ?หรือว่าไอ้หมอนี่จะกล้าแตะต้องพวกนายงั้นเหรอ? เขามีความกล้าขนาดนี้จริง ๆ เหรอ?”อันที่จริงชายชราเป็นพ่อบ้านของตระกูหรงประจำเมืองเจียงโจวเขาในฐานะพ่อบ้านตระกูลหรง เส้นสายที่รู้จักจึงมีมากมายอยู่แล้วเขาเคยได้ยินนายกรัฐมนตรีฉินเซี่ยวเทียน และผู้ว่าหลิวกั๋วฮุยเล่าเรื่องของวัยรุ่นที่ชื่อหลินเฟิงคนนี้นานแล้วเขายังได้ยินว่าหมอนี่กับถังหว่านคู่หมั้นของคุณชายหรงยวน
“นาย...หลินเฟิง นาย...”หลินเฟิงคนนี้เห็นได้ชัดว่าบ้าบิ่นยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้ ชายชราถลึงตาโต และล้มลงบนพื้นด้วยความไม่เต็มใจยอมรับจัดการชายชราภายในหมัดเดียว หลินเฟิงถึงได้มองไปทางบอดี้การ์ดของตระกูลหรงที่เหลืออยู่จากนั้นพูดอย่างเรียบเฉย: “เพื่อปกป้องไอ้โง่คนนี้ ดูท่าตระกลหรงของพวกคุณ ไม่เสียดายที่จะเป็นศัตรูกับหลินเฟิง? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกคุณก็อย่าคิดที่จะกลับไปเลย!”“หลินเฟิง! แกมันเป็นคนบ้า!”เห็นภาพนี้ ซือหม่าหาวตกใจจนงุนงงไปหมดพลังอำนาจของตระกูลหรงที่เมืองจิงเขารู้ดีเป็นอย่างมาก ไม่เพียงที่เมืองจิง ทั่วทั้งประเทศหรงต่างนับว่าเป็นที่หนึ่งที่สองถึงขั้นที่อาศัยสำนักหลงผานเมืองหนานไห่ หรงตระกูลหรงมีอิทธิพลใหญ่โตแทบจะทั่วทั้งประเทศมังกร“ไอ้หมอนี่หรือว่าเป็นบ้าจริง ๆ? เพื่อฆ่าเขาแล้ว ถึงขั้นที่ไม่เสียดายที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลหรง เขามีที่มาอย่างไรกันแน่?!”ซือหม่าหาวกำลังคิดแบบนี้ บอดี้การ์ดตระกูลหรงที่อยู่ข้างกายพากันมุ่งหน้าไปทางหลินเฟิง“ไอ้สารเลว คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าฆ่าพ่อบ้านตระกูลหรงเมืองเจียงโจวของเรา!”“แกใจกล้ามากจริง ๆ!”เห็นหลินเฟิงกล้าลงมือจริง ๆ พวกบอด
ในตอนที่หลินเฟิงกำลังจะจัดการศพของซือหม่าหาว ประตูลิฟต์ที่อยู่ข้าง ๆ เปิดออกกกะทันหันใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้าหลินเฟิง“หลินเฟิง?”คนที่อยู่ในลิฟต์กลับเป็นหลี่ฮุ่ยหรานหลินเฟิงเหลือบมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความเฉยเมย เธอผอมลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีขอบตาดำคล้ำอย่างรุนแรง ถึงแม้เธอใช้การแต่งหน้าปกปิด แต่จะปิดบังหลินเฟิงที่อยู่ด้วยกันกับเธอมาสามปีได้อย่างไรดูท่าหลายวันมานี้เธอใช้ชีวิตได้ไม่ดีเท่าไหร่นักหลินเฟิงไม่ได้พูดจาตอนนี้เขากับหลี่ฮุ่ยหรานตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว อีกทั้งอีกสองวันหลี่ฮุ่ยหรานก็จะแต่งงานกับกู้เฉิน หลินเฟิงไม่มีอะไรจะพูดกับเธอแต่ใครจะรู้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานพุ่งมาตรงหน้า และจับมือของหลินเฟงเอาไว้: “หลินเฟิง ฉันได้ยินมาจากกู้เฉินว่า คุณกับซือหม่าหาวของตระกูลซือหม่ามีปัญหากัน”“คุณอย่าวู่วามเด็ดขาดนะ! ไป ฉันพาคุณไปขอโทษคุณชายซือหม่า”“ตระกูลซือหม่าช่วงนี้เพิ่งจะร่วมธุรกิจกับตระกูลหรง ตอนนี้ซือหม่าหาวเป็นคนของหลงยวนแล้ว ถ้าคุณมีปัญหากับซือหม่าหาว...”หลี่ฮุ่ยหรานยังพูดไม่จบ รูม่านตาก็หดตัวลง เพราะมองเห็นศพที่ไร้ลมหายใจ นอนคว่ำอยู่ตรงที่บันไดศพหนึ่ง“นี่
เธอเพิ่งจะได้ยินจากกู้เฉินว่าหลินเฟิงได้ไปบาดหมางกับซือหม่าหาวเข้าแล้ว จึงรีบมาหาอย่างรีบร้อน อยากจะพาหลินเฟิงไปขอโทษซือหม่าหาวอย่าว่าแต่พูดขอโทษเลยหลินเฟิงได้สังหารซือหม่าหาวไปแล้วเวลานี้ก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับอีกแล้วเรื่องมาจนถึงตอนนี้ หลี่ฮุ่ยหรานยังคงไม่ยอมแพ้ ก่อนจะกัดฟันแล้วพูดว่า “หลินเฟิง คุณไม่เข้าใจฉันก็ไม่เป็นไร ไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันก็ไม่เป็นไร แต่ฉันจะไม่ให้คุณตายต่อหน้าฉัน”“ไม่อย่างแน่นอน”หลังจากที่พูดจบแล้ว หลี่ฮุ่ยหรานก็เช็ดน้ำตาแล้วต่อสายโทรศัพท์หากู้เฉิน“กู้เฉิน ฉันอยากจอร้องคุณสักเรื่อง....”กระวนกระวายใจมากหลินเฟิงออกมาจากโรงแรม ก่อนจะนั่งบนรถแล้วต่อยพวงมาลัยอย่างแรง“ไอ้เลว!”ถึงแม้ว่าจะรู้มานานแล้วว่าหลี่ฮุ่ยหรานกำลังจะแต่งงานกับกู้เฉิน เมื่อคิดถึงใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานเมื่อครู่นี้ หลินเฟิงก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายอยู่ในใจ กู้เฉินสันดานแบบไหน หลินเฟิงรู้ดีก่อนหน้านี้เขาก็ได้ยินจากไป๋จินเต๋อว่า กู้เฉินนั้นกำลังจะลงมือกับหลินเฟิงในวันแต่งงานของหลี่ฮุ่ยหรานเช่นนั้นหลินเฟิงไม่ไปงานแต่งงานของหลี่ฮุ่ยหรานก็ได้สินะ?คำตอบคือทำไม่ไ