ทวารทั้งเจ็ดมีเลือดไหล ตายไปอย่างน่าอนาถที่สุด“ออกรถ ไปโรงแรมจิ่วโจว”หลินเฟิงเปิดประตูรถ ขึ้นรถยนต์ลินคอล์นของชายชราในตอนนี้คนขับรถตกใจจนมึนงงไม่มีเวลาครุ่นคิดอย่างอื่น เพื่อรอดชีวิตคนขับรถทำได้เพียงฟังคำสั่งของหลินเฟิง เลี้ยวหัวรถและขับไปทางโรงแรมจิ่วโจวและในตอนนี้ ภายในโรงแรม ซือหม่าหาวกำลังสวมชุดคลุมอาบน้ำ เพลิดเพลินกับการนวดของเผิงหย่าฟางเขานอนคว่ำอยู่บนเตียง มือกำโทรศัพท์เอาไว้“คุณชายซือหม่าย ทำไมเสียงของคุณท่าทางดูอารมณ์ไม่ดี”อีกฝ่ายของโทรศัพท์กลับมีเสียงพูดของกู้เฉินดังขึ้น“เป็นเพราะช่วงนี้ตัวทำเงินในบริษัทของผมหนีไปแล้วน่ะสิ แม่ง”ซือหม่าเจียด่าทอคำหยาบ และบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แก่กู้เฉิน“อะไรนะ?!”กู้เฉินที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์นิ่งอึ้งอย่างเห็นได้ชัด และยืนยันกับหม่าซือเจียซ้ำ ๆ ว่าหลินเฟิงที่เขาพูดถึงเป็นหลินเฟิงคนไหน“คุณชายซือหม่าย ผมเกลี้ยกล่อมให้คุณรีบหนีไปเถอะครับ”หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กู้เฉินที่อยู่อีกฝ่ายขอโทรศัพท์ก็พูดขึ้น: “หลินเฟิงคนนั้นความสามารถแข็งแกร่งมาก อีทั้งนิสัยใช้อำนาจบาตรใหญ่ ถ้าหากผมเดาไม่ผิด ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ระหว
“ตรงนี้มีที่ให้เธอพูดจาด้วยเหรอ?”หลินเฟิงสายตาเย็นชาหวาดมองเผิงหย่าฟาง ในดวงตาเต็มไปด้วยแรงสังหารแต่เผิงหย่างฟางไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย เธอแอ่นอกเผชิญหน้ากับหลินเฟิงแล้วพูดว่า: “นายก็แค่ถือว่าถังหว่านนังผู้หญิงต่ำช้าคนนั้นหนุนหลังนายไม่ใช่เหรอ?”“ฉันยอมรับว่าตระกูลถังมีความสามารถอยู่บ้าง แต่คุณชายซือหม่าก็ใช่ว่าจะกลัวตระกูลถัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายหน้าตัวเมียที่เกาะถังหว่าอย่างนาย ทางที่ดีนายควรจะสำนึกถึงสถานะของตัวเอง!”การดูถูกเหยียดหยามติดต่อกันของเผิงหย่าฟางทำให้หลินเฟิสีหน้าเปลี่ยนไปเย็นชา“แก…หุบปาก!”เห็นความดุดันบนตัวของหลินเฟิงยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง ซือหม่าหาวก็รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี เขารีบตวาดเผิงหย่าฟางให้หุบปาก แต่เผิงหย่าฟางไม่มีท่าทีจะหยุดด้วยซ้ำ แต่กลับพูดยั่วโมโหหลินเฟิงต่อ: “คุณชายซือหม่าทำการตรวจสอบนายเรียบร้อย ได้ยินว่านายมีอดีตภรรยาคนหนึ่ง แต่น่าเสียดายอดีตภรรยาของนายอีกสองวันก็จะแต่งงานกับคุณชายของตระกูลกู้เมืองเจียงโจวแล้ว”“ถ้าฉันเป็นนาย คงจะหาที่ที่ไม่มีคนและเช็ดน้ำตาไปตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่านายเอาความกล้ามาจากไหน ยังกล้ามาพาลเกเรถึงที่คุณชายซือหม่า!”
ชายชรามีหนวดเครายาวเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว และยืนตะโกนอยู่ที่ด้านหลังหลินเฟิง: “ฉันบอกให้นายปล่อยมือ นายไม่ได้ยินหรือไง?!”“หือ?”หลินเฟิงหันหน้าไปช้า ๆ ก็เห็นงานปักสีขาวตรงหน้าอกชุดสูทของชายชราเป็นตัวอักษรหรงตัวใหญ่ ๆ“คนของตระกูลหรง?”หลินเฟิงถามโดยไร้ความรู้สึก“ในเมื่อรู้แล้ว ยังไม่รีบปล่อยคุณชายซือหม่าอีกเหรอ?”“คุณชายซือหม่าตอนนี้ได้รับการปกป้องจากตระกูลหรงของเรา หลินเฟิง ถ้าหากนายทำอะไรมั่วๆ งั้นก็อย่าโทษที่ตระกูลหรงของฉันเห็นนายเป็นศัตรู!”ชายชราตะโกนเสียงดัง“หึ”หลินเฟิงไม่ยอมรับการข่มขู่จากชายชราตระกูลหรง แต่กลับส่ายหน้าแล้วหัวเราะพูดว่า: “ซือหม่าหาวคนนี้แหกกฏของผมก่อน อีกทั้งยังขู่ว่าจะฆ่าครอบครัวของผม ถ้าหากผมปล่อยเขาไป เขาจะคลายปมกับผมได้เหรอ?”“นายปล่อยคุณซือหม่าหาวก่อน ตระกูลหรงของฉันรับประกันที่ตรงนี้ จะไม่ให้เขาทำอะไรซี้ซั้ว”ชายชราขมวดคิ้ว และรับประกันต่อหลินเฟิง“หึ”หลินเฟิงส่งเสียงในลำคอเบา ๆ และปล่อยมือออก ไว้ชีวิตซือหม่าหาวสักครั้ง“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ไว้หน้าตระกูลหรงของพวกคุณ”ในเมื่อหลินเฟิงก็ไม่อยากมีปัญหากับทุกคนไปหมดซือหม่าหาวหายใจ
ชายชราหันหน้ามองไปทางซือหม่าหาวแล้วพูดเกลี้ยกล่อม:“คุณชายซือหม่าหาว วันนี้คุณยอมก้มหัวให้คุณหลินเฟิงก่อน รับความผิด และรับประกันว่าต่อไปจะไม่มาหาเรื่องคุณหลินเฟิงแล้ว พวกคุณสองคนเปลี่ยนจากการต่อสู้เป็นมิตรภาพกัน แบบนี้เป็นอย่างไร?”“ฉันก้มหัวรับผิดต่อเขา?”ซือหม่าหาวสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป และมองชายชราอย่างไม่อยากจะเชื่อ“ถูกต้อง”ชายชราพยักหน้า ถือว่าเป็นการยืนยันวิธีคำพูดนี้”ทำไมกัน?!”ซือหม่าหาวชี้ไปทางหลินเฟิงแล้วพูดอย่างโมโห: “ไอ้หมอนี่ไม่เพียงขวางทางมั่งคั่งของฉัน ถึงขั้นที่วิ่งมาคุกคามความปลอดภัยของฉันถึงที่นี่ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ยังจะให้ฉันขอโทษเขาเหรอ?!”“ไม่มีทาง! พวกนายเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลหรงไม่ใช่เหรอ?หรือว่าไอ้หมอนี่จะกล้าแตะต้องพวกนายงั้นเหรอ? เขามีความกล้าขนาดนี้จริง ๆ เหรอ?”อันที่จริงชายชราเป็นพ่อบ้านของตระกูหรงประจำเมืองเจียงโจวเขาในฐานะพ่อบ้านตระกูลหรง เส้นสายที่รู้จักจึงมีมากมายอยู่แล้วเขาเคยได้ยินนายกรัฐมนตรีฉินเซี่ยวเทียน และผู้ว่าหลิวกั๋วฮุยเล่าเรื่องของวัยรุ่นที่ชื่อหลินเฟิงคนนี้นานแล้วเขายังได้ยินว่าหมอนี่กับถังหว่านคู่หมั้นของคุณชายหรงยวน
“นาย...หลินเฟิง นาย...”หลินเฟิงคนนี้เห็นได้ชัดว่าบ้าบิ่นยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้ ชายชราถลึงตาโต และล้มลงบนพื้นด้วยความไม่เต็มใจยอมรับจัดการชายชราภายในหมัดเดียว หลินเฟิงถึงได้มองไปทางบอดี้การ์ดของตระกูลหรงที่เหลืออยู่จากนั้นพูดอย่างเรียบเฉย: “เพื่อปกป้องไอ้โง่คนนี้ ดูท่าตระกลหรงของพวกคุณ ไม่เสียดายที่จะเป็นศัตรูกับหลินเฟิง? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกคุณก็อย่าคิดที่จะกลับไปเลย!”“หลินเฟิง! แกมันเป็นคนบ้า!”เห็นภาพนี้ ซือหม่าหาวตกใจจนงุนงงไปหมดพลังอำนาจของตระกูลหรงที่เมืองจิงเขารู้ดีเป็นอย่างมาก ไม่เพียงที่เมืองจิง ทั่วทั้งประเทศหรงต่างนับว่าเป็นที่หนึ่งที่สองถึงขั้นที่อาศัยสำนักหลงผานเมืองหนานไห่ หรงตระกูลหรงมีอิทธิพลใหญ่โตแทบจะทั่วทั้งประเทศมังกร“ไอ้หมอนี่หรือว่าเป็นบ้าจริง ๆ? เพื่อฆ่าเขาแล้ว ถึงขั้นที่ไม่เสียดายที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลหรง เขามีที่มาอย่างไรกันแน่?!”ซือหม่าหาวกำลังคิดแบบนี้ บอดี้การ์ดตระกูลหรงที่อยู่ข้างกายพากันมุ่งหน้าไปทางหลินเฟิง“ไอ้สารเลว คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าฆ่าพ่อบ้านตระกูลหรงเมืองเจียงโจวของเรา!”“แกใจกล้ามากจริง ๆ!”เห็นหลินเฟิงกล้าลงมือจริง ๆ พวกบอด
ในตอนที่หลินเฟิงกำลังจะจัดการศพของซือหม่าหาว ประตูลิฟต์ที่อยู่ข้าง ๆ เปิดออกกกะทันหันใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้าหลินเฟิง“หลินเฟิง?”คนที่อยู่ในลิฟต์กลับเป็นหลี่ฮุ่ยหรานหลินเฟิงเหลือบมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความเฉยเมย เธอผอมลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีขอบตาดำคล้ำอย่างรุนแรง ถึงแม้เธอใช้การแต่งหน้าปกปิด แต่จะปิดบังหลินเฟิงที่อยู่ด้วยกันกับเธอมาสามปีได้อย่างไรดูท่าหลายวันมานี้เธอใช้ชีวิตได้ไม่ดีเท่าไหร่นักหลินเฟิงไม่ได้พูดจาตอนนี้เขากับหลี่ฮุ่ยหรานตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว อีกทั้งอีกสองวันหลี่ฮุ่ยหรานก็จะแต่งงานกับกู้เฉิน หลินเฟิงไม่มีอะไรจะพูดกับเธอแต่ใครจะรู้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานพุ่งมาตรงหน้า และจับมือของหลินเฟงเอาไว้: “หลินเฟิง ฉันได้ยินมาจากกู้เฉินว่า คุณกับซือหม่าหาวของตระกูลซือหม่ามีปัญหากัน”“คุณอย่าวู่วามเด็ดขาดนะ! ไป ฉันพาคุณไปขอโทษคุณชายซือหม่า”“ตระกูลซือหม่าช่วงนี้เพิ่งจะร่วมธุรกิจกับตระกูลหรง ตอนนี้ซือหม่าหาวเป็นคนของหลงยวนแล้ว ถ้าคุณมีปัญหากับซือหม่าหาว...”หลี่ฮุ่ยหรานยังพูดไม่จบ รูม่านตาก็หดตัวลง เพราะมองเห็นศพที่ไร้ลมหายใจ นอนคว่ำอยู่ตรงที่บันไดศพหนึ่ง“นี่
เธอเพิ่งจะได้ยินจากกู้เฉินว่าหลินเฟิงได้ไปบาดหมางกับซือหม่าหาวเข้าแล้ว จึงรีบมาหาอย่างรีบร้อน อยากจะพาหลินเฟิงไปขอโทษซือหม่าหาวอย่าว่าแต่พูดขอโทษเลยหลินเฟิงได้สังหารซือหม่าหาวไปแล้วเวลานี้ก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับอีกแล้วเรื่องมาจนถึงตอนนี้ หลี่ฮุ่ยหรานยังคงไม่ยอมแพ้ ก่อนจะกัดฟันแล้วพูดว่า “หลินเฟิง คุณไม่เข้าใจฉันก็ไม่เป็นไร ไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันก็ไม่เป็นไร แต่ฉันจะไม่ให้คุณตายต่อหน้าฉัน”“ไม่อย่างแน่นอน”หลังจากที่พูดจบแล้ว หลี่ฮุ่ยหรานก็เช็ดน้ำตาแล้วต่อสายโทรศัพท์หากู้เฉิน“กู้เฉิน ฉันอยากจอร้องคุณสักเรื่อง....”กระวนกระวายใจมากหลินเฟิงออกมาจากโรงแรม ก่อนจะนั่งบนรถแล้วต่อยพวงมาลัยอย่างแรง“ไอ้เลว!”ถึงแม้ว่าจะรู้มานานแล้วว่าหลี่ฮุ่ยหรานกำลังจะแต่งงานกับกู้เฉิน เมื่อคิดถึงใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานเมื่อครู่นี้ หลินเฟิงก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายอยู่ในใจ กู้เฉินสันดานแบบไหน หลินเฟิงรู้ดีก่อนหน้านี้เขาก็ได้ยินจากไป๋จินเต๋อว่า กู้เฉินนั้นกำลังจะลงมือกับหลินเฟิงในวันแต่งงานของหลี่ฮุ่ยหรานเช่นนั้นหลินเฟิงไม่ไปงานแต่งงานของหลี่ฮุ่ยหรานก็ได้สินะ?คำตอบคือทำไม่ไ
“นังผู้หญิงโง่นั้นก็เป็นแค่หมากที่ฉันเอามาใช้ทำให้หลินเฟิงอับอายก็เท่านั้นแหละ”“อีกสามวันข้างหน้าฉันต้องการให้หลินเฟิงอับอาย และต้องการให้หลี่ฮุ่ยหรานเสียศักดิ์ศรีที่มีทั้งหมด ให้หลินเฟิงมันเห็นผู้หญิงของตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นเหยียดหยามศักดิ์ศรี”เสียงหัวเราะของกู้เฉินดังมาตามสาย“ไปบอกคุณชายหลงยวน ทางฝั่งฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือรอแค่ยอดฝีมือของทางนั้นมาถึงก็พอแล้ว”“ครับ”บอดี้การ์ดวางสายอย่างหวาดระแวงก่อนจะมองไปทางหลินเฟิงพร้อมกับสั่นไปทั้งตัวเขากลัวว่าหลินเฟิงจะโมโหแล้วเอาชีวิตของเขาใครจะไปคิดว่าหลินเฟิงไม่ได้โมโหด้วยซ้ำ แต่สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า หรือจะบอกว่าเหม่อลอยก็ได้“คะ...คุณหลิน?”ต่อให้หลินเฟิงจะเหม่อลอย แต่เขาก็ไม่กล้าหนีไปจึงได้แต่เรียกอีกคนทั้งน้ำตา“ออกไปเถอะ”ผ่านไปนานกว่าหลินเฟิงจะดึงสติกลับมาก่อนจะมองไปทางบอดี้การ์ดคนนั้น “ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ อย่าคิดจะต่อกรกับฉัน แล้วถ้าถึงในวันงานแต่งทางที่ดี...อย่าโผล่หน้าไป”“ครับ ๆๆ! คุณหลิน ผม...ผมจะไม่บอกใครเรื่องนี้เด็ดขาด และจะไม่โผล่หน้าไปที่งานแต่งงานด้วย”บอดี้การ์ดคนนั้นรู้สึกโล่งใจ ก่อนที
ตอนนี้ ทุกคนต่างคิดว่าคนที่พ่ายแพ้และมีเลือดไหลออกมาก็คือหลินเฟิงแต่...“แค่กแค่กแค่ก.พี่ใหญ่ รีบ...รีบหนี”เสียงไอที่อ่อนแรงดังขึ้นมาท่ามกลางหมอกควัน“อะไรกัน?!”หานเวยที่กุมข้อมือที่หักของตัวเอง คุกเข่าอยู่บนพื้นถลึงตาโต เขาได้ยินอะไร?เขาเหมือนกับได้ยินเสียงที่อ่อนแรงของน้องชายตัวเองแถมยังให้เขาหนีไปอีก?ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่?ไม่ถึงสองวินาที ควันฝุ่นหายไปจนหมด ในที่สุดหานเวยก็เห็นภาพตรงหน้าแล้วเห็นเพียงแค่หลินเฟิงยื่นหมัดออกมาอย่างเงียบสงบคิดไม่ถึงว่าจะโจมตีโดนหน้าอกของหานกั๋วโดยตรงแบบนี้!ศพของหานกั๋วห้อยอยู่ที่แขนของหลินเฟิง แขนกับศีรษะตก ไม่มีลมหายใจแล้ว!“อะไร?!”หานเวยตกตะลึงจนหน้าถอดสี น้องชายของเขาถูกหมัดธรรมดาๆ แบบนี้...ฆ่าตายงั้นเหรอ?!”“ฮะ?!”หลี่เหวินเชาก็แสดงความตกตะลึงออกมากับผลลัพธ์แบบนี้เป็นเพราะเขารู้ว่าหลินเฟิงก็เป็นนักบู๊ถึงแม้จจะออกจากเมืองเจียงโจวไประยะหนึ่งแล้ว แต่เขาได้ยินมาจากที่ต่างๆ ว่าความสามารถของหลินเฟิงนั้นแข็งแกร่งมากด้วยเหตุนี้ เขาจึงเตือนประธานโจวโดยเฉพาะและประธานโจวก็ไม่ได้สะเพร่า จ่ายเงินไปก้อนใหญ่ เชิญพี่น้องตระกูลหาน
“ในเมื่อพวกนายหาที่ตาย งั้นฉันก็จะตอบสนองพวกนาย!”หลินเฟิงสายตาเย็นชา พลิกฝ่ามือตบออกไป ทำให้หมัดของหานเวยแตกหักทันที“หือ?!”ความรู้สึกที่กระดูกแตกหักนั้นชัดเจนจนดังเข้ามาในหัวของหลินเฟิงหลังจากเสียงร้องโอดครวญของหานเวย หลินเฟิงกลับยืนอยู่กับที่และมองฝ่ามือของตัวเองด้วยความตกตะลึง เขาจำได้ว่า...ตัวเองน่าจะไม่ได้มีแรงมากมายขนาดนี้หรอกมั้ง?”ตามแผนการย้อนโจมตีที่หลินเฟิงวางแผนเอาไว้เขาจะผลักกำปั้นที่ดุดันของหานเวยออก จากนั้นใช้หมัดอีกข้างหนึ่งโจมตีกลับ ต่อยหน้าผากของหานเวยจนแตก ทำให้เขาตายในทันทีแต่สิ่งที่ทำให้หลินเฟิงประหลานใจเล็กน้อยก็คือ ฝ่ามือที่เขาทำเพื่อป้องกันการโจมตีของหานเวย กลับเป็นเหมือนกับมีดสับเต้าหู้ ที่ตัดทั้งกำปั้นของหานเวยโดยตรงภายใต้ความแอบตกตะลึง หลินเฟิงกลับลืมที่จะโจมตีต่อไปเขายืนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม มองฝ่ามือของตัวเองด้วยความงุนงง“พลังชี่แท้ภายในร่างกายไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่นิด มีเพียงหนึ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือระดับความแข็งแกร่งของร่างกายของฉัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”หลินเฟิงตั้งตัวไม่ได้ชั่วขณะ“ไอ้หนุ่ม นายใช้วิธีชั่วร้ายอะไร?!”เห็
เถ้าแก่โจวเห็นสองพี่น้องตระกูลหานพูดออกมา เขาก็ขมวดคิ้ว และบ่นพึมพำในใจเขาหันหน้ามองไปทางหลี่เหวินเชา“นายมั่นใจว่าเขาก็คือหลินเฟิง? สามีของหลี่ฮุ่ยหราน?”“ถูกต้อง!”หลี่เหวินเชาจ้องมองหลินเฟิง และแสยะยิ้มพูดว่า: “ประธานโจว คุณวางใจได้ ต่อให้เขากลายเป็นขี้เถ้าผมก็จำได้”“หึ ถ้าหากไม่ใช่ นายรู้จุดจบนะ”ประธานโจวยิ้มเยาะได้ยินคำพูดแบบนี้ หลี่เหวินเชาตัวสั่นไปหมด และก็รีบยิ้มประจบสอพอพูดว่า:“ประธานโจวพูดอะไรกันครับ ผมจะกล้าหลอกคุณได้ยังไงล่ะ?!”“คนผู้นี้ก็คือหลินเฟิงแน่นอน ถ้าหากผมพูดผิด คุณก็ฆ่าผมได้เลย!”“อีกอย่าง ผมยังค้างเงินคุณอยู่อีกสี่ร้อยห้าสิบล้านบาท!”ต่อให้ทำเพื่อเอาหลี่ซื่อกรุ๊ปมาจำนำ ผมก็ไม่สามารถบอกคุณได้ ถูกไหมครับ?”หลินเฟิงที่อยู่กลางวงล้อมรอบถือว่าได้ยินชัดเจนแล้วที่แท้หลี่เหวินเชาติดหนี้ประธานโจวคนนี้ ถูกบีบบังคับให้คิดหาวิธี จึงทำได้แค่เอาพี่สาวของตัวเองออกมาเป็นเกาะกำบัง“ไอ้เวร...”หลินเฟิงสีหน้าดุดัน ครอบครัวของหลี่ฮุ่ยหรานทำไมถึงไร้มนุษยธรรมแบบนี้? เอาเปรียบหลี่ฮุ่ยหรานอย่างถึงที่สุด?“หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ที่ไหน?”เมื่อเห็นว่าคนที่ออยู่รอบๆ จะลงมือ
ประธานโจว ประธานโจว! ผมพาคนมาแล้ว!”“รบกวนคุณให้พรรคพวกของคุณลงมือ กำจัดหลินเฟิงคนนี้ซะ!”หลี่เหวินเชาลงจากรถ ตะโกนไปด้วย พร้อมทั้งวิ่งไปในโรงงานร้าง“หึหึ...”แต่ในตอนนี้ ชายแก่ที่ดูอายุประมาณหกสิบปี สวมชุดสูทลายทาง ปากคาบซิการ์เดินออกมาจากภายในโรงงานหลินเฟิงก็จำคนคนนี้ได้เช่นกันตอนนั้นที่งานประมูล เคยพูดคุยกับหลี่ฮุ่ยหรานหลินเฟิงจำได้ว่า คนคนนี้เหมือนจะยังถูกคนนอกเรียกว่าหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเจิ้งเต๋อนามสกุลโจวตอนนั้น ข้างกายของเขายังมีฉู่ฮวาจิ่นติดตามอยู่ด้วยเมื่อเห็นหลินเฟิงลงมาจากรถ และเดินเข้ามาด้วยท่าทางสบายใจ ประธานโจวคนนี้ก็สูบซิการ์ พ่นควันออกมา และหัวเราะเบาๆ พูดว่า:“นายคือหลินเฟิง สามีของหลี่ฮุ่ยหราน?”“ถูกต้อง”หลินเฟิงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของเขา เหลือบมองหลี่เหวินเชาที่อยู่ข้างๆ ตระกูลโจว และส่ายหน้าด้วยความเหยียดหยาม:“เดิมทีคิดว่าช่วงเวลาที่นายออกจากเมืองเจียงโจว น่าจะมีความคืบหน้าอยู่บ้าง แต่คิดไม่ถึงว่านายจะไร้ยางอายแบบนี้”“หึ ไร้ยางอายก็ต้องดูว่าเป็นใคร!”หลี่เหวินเชาพูดยิ้มเยาะ: “สำหรับขยะแบบนาย ไม่มีคำพูดอะไรที่น่าประนีประนอมด้วย!”“
“หลี่เหวินเชา? พี่สาวนายล่ะ?”หลินเฟิงตะโกนขึ้นเสียงดัง ทำให้หลี่เหวินเชาตกใจจนเกือบโยนโทรศัพท์มาในตอนที่เขาเห็นว่าคนที่มาถึงคือหลินเฟิง ก็ทำสีหน้าไม่พอใจทันที“ไม่รู้ อย่ามาถามฉัน!”หลังจากตอบกลับด้วยความหงุดหงิด หลี่เหวินเชาก็ตกอยู่ในโลกเกมของตัวเองอีกครั้งหลินเฟิงเห็นภาพนี้ ก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยโดยเฉพาะเรื่องที่หลี่เหวินเชาคนนี้เอาเท้าวางไว้บนโต๊ะที่ปกติหลี่ฮุ่ยหรานไว้ใช้ทำงาน ถึงขั้นที่เอกสารจำนวนมากถูกเหยียบจนมีรอยเท้า“เอ๊ะ? หัวหน้าหลิน?”ในตอนนี้ เลขาที่หลี่ฮุ่ยหรานโยกย้ายมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปของเมืองเจียงโจวเห็นหลินเฟิง เธอจำหลินเฟิงได้แน่นอนอยู่แล้วเธอรีบดึงหลินเฟิงไปที่ด้านข้างและพูดเสียงเบาว่า:“โทรศัพท์ของประธานหลี่หายไปเมื่อคืน พวกเราหาทั้งคนก็ตามหาไม่พบ เมื่อครู่ประธานหลี่ไปเยี่ยมแม่ของเธอที่โรงพยาบาลแล้ว“ประธานหลี่กำชับกับฉัน หากเห็นคุณกลับมาก็ให้บอกเธอสักคำ”หลินเฟิงฟังเลขาที่อยู่ข้างๆ อธิบายกับเขากลับรู้สึกได้ว่าหลี่เหวินเชากำลังแอบมองเขาอยู่รอตอนที่หลินเฟิงมองไปทางหลี่เหวินเชา เขาก็รีบเคลื่อนสมาธิไปที่บนโทรศัพท์ ปากก็ตะโกนไม่หยุดแสร้งทำท่าเป็นใช้
ออกมาจากในร้านกาแฟ หลินเฟิงท่าทางเหนื่อยล้าเล็กน้อยต่อไปถ้าหากหลี่ฮุ่ยหรานให้เขาทำเรื่องอะไรแบบนี้อีก ตีให้ตายเขาก็ไม่ทำหรอกมองดูรถมัสแตงเปิดประทุนสีดำคันหนึ่งที่จอดอยู่หน้าร้าน ในหัวของหลินเฟิงนึกถึงคำพูดที่ฉู่ฮวาจิ่นพูดเมื่อครู่นี้“เป็นศัตรูกับฉัน ไม่มีผลดีอะไรต่อคุณสักนิด”“ถ้าหากคุณยอมรับฉันอย่างว่าง่าย ฉันก็สามารถให้ข่าวสารของประเทศมังกรทั้งหมดที่คุณอยากรู้ได้นะ!”“เพื่อแสดงความจริงใจ...”“ตึกร้างทั่วทั้งแถบที่อยู่นอกเมืองเจิ้งเต๋อ คุณให้ประธานหลี่กว้านซื้อเอาไว้ ใช้เวลาไม่กี่วัน ตรงนั้นก็จะถูกรื้อถอน”“มูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่า!”หลินเฟิงถามฉู่ฮวาจิ่นทันทีว่าได้ยินข่าวนี้มาจากที่ไหน แต่ทว่าเธอเพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัย“ไมอาจบอกได้ นอกจากว่าคุณจะรับปากฉัน”เดินออกจากร้านกาแฟ หลินเฟิงล้วงโทรศัพท์ออกมา โทรไปหาจ้าวเทียนหัว“คุณชายหลิน”จ้าวเทียนหัวยังคงมีความนอบน้อม รับสายของหลินเฟิงอย่างรวดเร็ว“ไปตรวจสอบผู้หญิงที่ชื่อว่าเชียนเปี้ยนฮวาจิ่นให้ฉันหน่อย”“เชียนเปี้ยนฮวาจิ่น?”จ้าวเทียนหัวได้ยินชื่อนี้ น้ำเสียงก็ประหลาดใจย่างเห็นได้ชัด“ทำไม นายรู้จักเธอเหรอ?”
“คุณอยากจะทำอะไรกันแน่?!”หลินเฟิงปิดโน้ตบุ๊คลง และจ้องมองเทพธิดาฉู่“ฉันไม่ได้อยากทำอะไรนะ ฉันแค่ชอบคุณเท่านั้นเอง!”เทพธิดาฉู่หัวเราะคิกคัก ทำให้หลินเฟิงโมโหมากยิ่งขึ้น“หึ”หลินเฟิงไม่ได้สนใจเธอ จะหันหลังเดินจากไป“เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน!”เทพธิดาฉู่รีบเข้ามาดึงแขนของหลินเฟิงเอาไว้ จากนั้นยิ้มขอโทษ: “คุณอย่าโกรธนะ หรือว่าคุณไม่อยากรู้เหรอว่าฉันเป็นใคร? หลินชิงเสวียน?”“อะไรนะ?”หลินเฟิงนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง รีบหันหน้ากลับมา“คุณรู้ชื่อของผมในอดีต? พูดมา! คุณเป็นใครกันแน่?”“ฉันน่ะเหรอ...”เทพธิดาฉู่ส่ายหน้า แสร้งทำเป็นเคร่งขรึมพูดว่า:“ฉันเป็นคนเร่ร่อนที่มีบ้านแต่กลับไปไม่ได้ เหมือนกับคุณ”“......”หลินเฟิงรวบรวมหยวนชี่ทั้งห้าที่อยู่ภายในร่างกาย แผ่นซ่านพลังออกมารอบตัวเห็นได้ชัดว่า หลินเฟิงเตรียมจะลงมือแล้วในเมื่อผู้หญิงคนนี้พูดดีๆ ไม่ฟัง งั้นหลินเฟิงก็จะใช้ไม้แข็งกับเธอแล้ว!”“โธ่ อย่าใจร้อนขนาดนี้สิ! คุณเป็นคนใจร้อนจริงๆ เลยนะ”เทพธิดาฉู่ถอยหลังไปสองก้าว ยิ้มออดอ้อนและพูดว่า:“ในเมื่อคุณอยากรู้ขนาดนี้ งั้นฉันบอกคุณก็ได้”“ชื่อของฉันมีหลายชื่อ บอกคุณชื่อไหนดีล่ะ? อืม อ่
“อะไรนะ? หลินเฟิง ทางด้านคุณทำอะไรกันอยู่?”หลี่ฮุ่ยหรานได้ยินเสียงที่อุจาดของเทพธิดาฉู่ จึงตวาดเสียงต่ำที่ตรงหน้าจอ“ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง!”หลินเฟิงนิ่งอึ้งทันที เขาถึงนึกขึ้นได้มิน่าล่ะตอนที่เขาเจอเทพธิดาฉู่ครั้งแรกก็รู้สึกว่าเธอคุ้นตาที่แท้เธอก็คือผู้หญิงของประธานโจวคนนั้นที่หลินเฟิงได้เจอ ตอนงานประมูลที่เมืองเจิ้งเต๋อตอนนั้นเธอก็เชิญเขาไปงานเลี้ยงหน้ากากอะไรสักอย่างเพียงแต่เขาไม่ได้สนใจ ดังนั้นจึงไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไปใส่ใจคิดไม่ถึงว่าเธอยังจะมาปรากฏตัวที่เมืองจิง!“คุณมีเป้าหมายอะไรกันแน่?!”หลินเฟิงสายตาเฉียบคม จับเท้าสวยของเทพธิดาฉู่ที่ยื่นมาตรงจุดอ่อนของเขา และตวาดเสียงทุ้มต่ำ“โอ๊ย คุณทำฉันเจ็บนะ...ถึงแม้ฉันก็ไม่ได้รังเกียจก็เถอะ แต่คุณทำแบบนี้ต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้ คุณต้องการจริงๆ เหรอ?”เทพธิดาฉู่บอกให้หลินเฟิงมองไปอีกทางหลินเฟิงหันหน้ากลับไปมองถึงได้พบว่าไม่รู้ว่าที่ร้านกาแฟมีลูกค้าเพิ่มมาสองโต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้พวกเขาต่างจ้องมองหลินเฟิงกับเทพธิดาฉู่อยู่อีกทั้งหลินเฟิงในตอนนี้ก็จับเท้าของเทพธิดาฉู่เอาไว้อยู่ บรรยากาศคลุมเครือและหวานซึ้งอย่างถึง
ไฝเสน่ห์ที่อยู่ใต้ตาของเธอ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเธอเป็นพิเศษเมื่อเผชิญกับสาวสวยแบบนี้เปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่นมาก็คงจะต้านทานไว้ไม่อยู่“หลินเฟิง เป็นอะไรไหม?”หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่บนหน้าจอสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่เป็นไร”หลินเฟิงส่ายหน้า เขาไม่อยากให้หลี่ฮุ่ยหรานเห็นท่าทางในตอนนี้ ไม่งั้นจะต้องหึงหวงและเข้าใจผิดแน่นอนแต่ถึงแม้หลินเฟิงจิตใจฟุ้งซ่าน แต่ไม่ถึงกับหลงกลของเทพธิดาฉู่คนนี้จริงๆหลินเฟิงเข้าใจอย่างสุดซึ้งผู้หญิงที่ยิ่งสวย ลับหลังก็ยิ่งอันตรายยิ่งเป็นผู้หญิงที่รุกหนัก ก็ยิ่งมีหวังผลต่อคุณเทพธิดาฉู่ปรากฏตัวในสายตาของหลินเฟิงหลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เป็นการกระทำที่เธอตั้งใจเธอหาหลินเฟิง อีกทั้งรุกเข้าหาถึงขนาดนี้ ต้องหวังผลอะไรต่อเขาอย่างแน่นอน“คุณฉู่ ที่ดินที่คุณต้องการพวกเราจัดการเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ที่คุณพูดว่าจะพัฒนาเมืองสถานบันเทิง โครงการนี้ฉันก็ทำหนังสือแผนงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว”“นี่คือรายละเอียดแบบแผนของหนังสือแผนงาน คุณดูสิคะ”หลี่ฮุ่ยหรานเปิดพาวเวอร์พอยต์ออกมา เธอใช้น้ำเสียงที่ชำนาญการแนะนำแผนการให้กับเท