หลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงเธอคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ในพินัยกรรมของคุณปู่ตระกูลหลี่ก็บอกเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว ว่าให้ตัวเธอออกจากตระกูลหลี่ แล้วกลับไปตามหลินเฟิง กลับไปทำตามความต้องการของตัวเองและพอเธอเห็นธาตุแท้ของกู้เฉิน เธอก็ยิ่งตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่แต่คำพูดของกู้เฉินกลับทำให้เธอสิ้นหวังอย่างยิ่งถ้าเธอเลือกที่จะตายมากกว่าเชื่อฟัง เช่นนั้นหลินเฟิงก็จะต้องถูกเขาตามแก้แค้นอยู่ดีใช่ หลินเฟิงเก่งเรื่องการต่อสู้มากแต่ไม่ว่าเขาจะต่อสู้เก่งมากแค่ไหน หรือมีพลังมากเพียงใด แต่เขาจะเอาชนะตระกูลหลง ตระกูลใหญ่แห่งเมืองจิงได้อย่างนั้นเหรอ?ตระกูลหลงมีศิษย์ในสำนักกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ มากกว่าล้านคน ผู้แข็งแก่งที่อยู่ในลำดับสวรรค์ก็มีเยอะจนนับไม่ถ้วนนั่นมันไม่มีทางเป็นไปได้!จุดจบของหลินเฟิงจะต้องน่าอัปยศอย่างแน่นอนกระทั่งอาจจะทำให้ถังหว่านต้องเข้ามาพัวพันไปด้วยไม่เพียงแค่ถังหว่าน ตระกูลหลี่ จางกุ้ยหลาน จางซิน แล้วก็ยังมีหลี่ซือกรุ๊ปที่ตัวเองทุ่มแทสร้างขึ้นมาตั้งสามปีนั่นอีก ทั่งหมดนี่อาจจะพังทลายเพราะตัวเธอเองก็ได้หลี่ฮุ่ยหรานเงียบไปหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็มองไปทางก
หลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากอยากที่จะพูด แต่ในใจกลับทำให้พูดไม่ออก“ฮุ่ยหราน ผมรู้ว่าระหว่างเราอาจมีเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ผมก็หวังว่าคุณจะมองเห็นความจริง อย่าได้ถูกคนจูงจมูกได้ง่าย ๆ”“แต่ก่อนอื่นคุณก็ต้องเชื่อใจผมก่อน”หลินเฟิงหันไปมองหลี่ฮุ่ยหราน และพูดอย่างจริงจัง“คุณเชื่อใจผมไหม? หลี่ฮุ่ยหราน? ”“ฉันเชื่อคุณ หลินเฟิง ฉันเชื่อคุณ! ”ในใจหลี่ฮุ่ยหรานอยากที่จะตะโกนออกไปแบบนั้น พร้อมกับยื่นมือไปหาหลินเฟิง ตอนนี้เธออยากที่จะเหวี่ยงตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของหลินเฟิงมากแต่ในความทรงจำ หลินเฟิงไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้กับเธอเลยสักครั้ง“ฮุ่ยหราน คุณคงจะไม่ลืมไปแล้วหรอกใช่ไหม? ”ในขณะที่หลี่ฮุ่ยหรานไม่สามารถควบคุมแรงกระตุ้นในใจของเธอได้ กู้เฉินที่อยู่ด้านข้างก็ยิ้มเยาะเย้ย และสาดน้ำเย็นใส่เธอ“นั่นสิ! ยังมีกู้เฉิน......คุณชายหลงยวนแห่งตระกูลหลง...... ”เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของหลี่ฮุ่ยหรานก็เต็มไปด้วยความขมขื่นเธออยากจะไปกับหลินเฟิง คิดอยากไปเป็นร้อยครั้งหมื่นครั้ง แต่เธอจะทำแบบนั้นได้ยังไง?เธอรู้อารมณ์ของหลินเฟิงดี เขาจะไม่มีวันยอมแพ้อย่างแน่นอนและการที่เขาเลือกที่จะไม่ยอมแพ้ ก็เท่าก
“คุณตบผมงั้นเหรอ?”หลินเฟิงมองไปยังใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานด้วยความไม่เชื่อ“ฉัน...... ”ฝ่ามือของหลี่ฮุ่ยหรานยังคงสั่นอยู่ เมื่อมองไปที่รอยแดงบนใบหน้าของหลินเฟิง เธอรู้สึกเป็นทุกข์มากจนหัวใจของเธอสั่น แต่เธอก็ไม่สามารถขอโทษออกไปได้เธอทำได้แค่ทำเป็นบ้าใส่หลินเฟิง แล้วผลักเขาออกไป“พอได้แล้วหลินเฟิง!” หลี่ฮุ่ยหรานยืนอยู่ตรงหน้ากู้เฉิน และตะโกนใส่หลินเฟิง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลพราก“คุณทำร้ายคุณปู่จนตาย หรือคุณยังอยากจะฆ่าคู่หมั้นของฉันอีกคนงั้นเหรอ? ”“หลินเฟิง คุณไสหัวออกไปซะ! จากนี้ไประหว่างเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก! ”“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก คุณไสหัวไปสิ! ”หลินเฟิงมองไปยังท่าทางตีโพยตีพายของหลี่ฮุ่ยหราน ทันใดนั้นเขาก็คลายหมัดที่กำแน่นลง แล้วเผยรอยยิ้มฝืน ๆ ออกมา พร้อมกับพูดว่า “ฮุ่ยหราน คุณจำเป็นต้องขู่ผมขนาดนี้เลยเหรอ? ”“จะต้องเป็นไอ้สารเลวนั่นขู่คุณใช่ไหม? ”“คุณบอกผมมา ผมจะช่วยคุณจัดการเอง คุณเชื่อผมสิ”หลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้ามองตาของหลินเฟิงตรง ๆ เธอกลัวว่าอีกเดี๋ยวเธอจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เธอจึงทำได้เพียงก้มศีรษะลง และตะโกนอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง “ไม่มีใครข่มขู่ฉันท
แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว แต่เขาก็ไม่เสียดายชีวิตที่จะต้องติดตามสุภาพบุรุษคนนี้ เขากัดฟัน เงยหน้าขึ้น และดื่มไวน์แดงเข้าไปหนึ่งขวดแต่แค่เพียงครึ่งขวดก็ทำให้เขาหน้าแดง ร่างกายของเขาเซไปมา แทบจะพยุงตัวเองเอาไว้ไม่ได้“จ้าวเทียนหวา นายไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองขนาดนั้นหรอก”ไวน์ขวดที่อยู่ในมือของหลินเฟิงถูกเขาดื่มจนหมดแล้ว แต่ท่าทางของเขากลับเหมือนคนที่ยังไม่ได้ดื่ม“ไม่ครับ......คุณชายหลินอย่าพูดเลยครับ ผม จ้าวเทียนหวามีวันนี้ได้ ก็ล้วนเป็นเพราะ......เป็นเพราะ...... ”เห็นได้ชัดว่าลิ้นของจ้าวเทียนหวาพันกันจนพูดจาไม่รู้ความหลินเฟิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็เรียกบอดี้การ์ดของจ้าวเทียนหวาที่อยู่ไกลออกไปตรงหน้าประตูเข้ามา“ไปส่งเขากลับบ้านเถอะ”“ช่วงนี้นายติดตามฉันไปทำงานก็เสียแรงไปไม่น้อย ยังไงช่วงนี้ก็พักผ่อนให้มาก ๆ”จ้าวเทียนหวาพยายามดิ้น แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดของเขาพาตัวไปจ้าวเทียนหวาจากไปแล้ว ตรงที่นั่งขนาดใหญ่ ก็เหลือเพียงแค่หลินเฟิงที่นั่งดื่มอยู่คนเดียวหลังจากนั้นไม่นาน ขวดเปล่าจำนวนมากก็กองสะสมกันอยู่ตรงนั้นแม้ว่าหลินเฟิงจะเป็นยอดฝีมือมาแต่กำเนิด แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจ
คำพูดของหลี่ซือวี่ยิ่งช่วยกระตุ้นความโกรธของเหล่าพวกอันธพาลได้สำเร็จแน่นอนว่าหลี่ซืออวี่เองก็ไม่กลัวเช่นกันเธอเคยได้เห็นหลินเฟิงลงมือมาก่อนแล้ว พวกอันธพาลไม่กี่คนพวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟิงเลยสักนิดยิ่งไม่ต้องพูดถึงภูมิหลังของหลินเฟิงผู้ชายที่ทั้งหล่อเหลา ทั้งร่ำรวย แถมยังมีภูมิหลังที่ดีแบบนี้ มันทำให้หลี่ซืออวี่สนใจตั้งนานแล้ว หากว่าพี่สาวของตัวเอง หลี่ฮุ่ยหรานไม่เอาแต่ปิดบังที่อยู่ของเขากับเธอ ป่านนี้เธอคงจะตามจีบเขาไปแล้วแล้ววันนี้ก็ดันบังเอิญเจอเขาที่นี่ เธอจะปล่อยโอกาสดี ๆ แบบนี้ไปได้ยังไง?อันธพาลธรรมดา ๆ อย่างเมิ่งฉือเมื่อเทียบกับหลินเฟิงแล้ว เมิ่งฉือก็เหมือนแมลงที่อยู่ในห้องน้ำเท่านั้น“เจ้าหนู ฉันขอแนะนำให้แกคิดดี ๆ นะ รีบไสหัวไปซะ ฉันจะเตือนแกเป็นครั้งสุดท้าย” เมิ่งฉือมองหลินเฟิงอย่างเย็นชาหลินเฟิงขมวดคิ้วและเหลือบมองหลี่ซืออวี่ที่อยู่ข้าง ๆวันนี้เขาก็อารมณ์ไม่ดีมากพออยู่แล้ว นี่ยังจะมีแมลงวันพวกนี้มาคอยก่อกวนหลินเฟิงอีก“ถ้าจะหาเรื่องก็ไปหาคนอื่น ทางที่ดีพวกนายก็อย่ามายั่วโมโหฉันจะดีกว่า”หลินเฟิงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหลี่ซืออวี่ได้ เขาจึงทำได้แค่ขมวดคิ้ว
หลินเฟิงเดินโซเซไปหาเมิ่งฉือ และพูดด้วยสีหน้าที่ดูไร้อารมณ์ “ฉันเคยเตือนแกแล้ว แต่แกก็ดันไม่ฟัง เพราะงั้นจะมาโทษฉันก็ไม่ได้”“พี่เหมิงถูกทำร้ายแล้ว รีบลุยเข้าไปสิวะ! ”ลูกน้องทั้งสองก็เริ่มโจมตีเข้าไปพร้อมกัน ต่างก็หยิบขวดไวน์ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาแต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ยกมันขึ้นมา หลินเฟิงก็มอบขวดไวน์ให้พวกเขาด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก่อนแล้ว เขาฟาดขวดไปที่หัวของทั้งสองจนเลือดอาบ จากนั้นทั้งสองก็ทรุดตัวลงกับพื้นทันที“แกถ้ากล้าทำร้ายพี่เหมิง แกได้ตายสมใจอยากแน่ แกจะไม่ได้ตายดีหรอก! ”หนึ่งในลูกน้องเอามือปิดหน้าเอาไว้ เลือดหยดลงมาจากหน้าผาก พร้อมกับส่งเสียงหอนอย่างน่าสมเพช“พี่หลินเฟิงหล่อมาก พี่ฆ่าไอ้สารเลวสามคนนี้ให้ตาย ๆ ไปเลย! ” เมื่อหลี่ซืออวี่เห็นทั้งสามคนได้รับบทเรียนจากหลินเฟิง เธอก็ปรบมืออย่างตื่นเต้น หลินเฟิงเหลือบมองเธออย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรำคาญใจ ทำให้ความตื่นเต้นบนใบหน้าของหลี่ซืออวี่ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความกลัวขึ้นมาหากไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้หาเรื่องมาให้เขา ตัวเองก็คงจะไม่ถูกแมลงวันสามตัวนี้เข้ามาตอมไม่ใช่รึไง?หลินเฟิงโยนขว
ทุกคนที่อยู่ในบาร์ต่างก็กำลังดูละครฉากนี้อยู่เมื่อพวกเขาเห็นรูปร่างหน้าตาของเหยาปินอย่างชัดเจน หลายคนก็อุทานออกมาต้องเข้าใจก่อนว่า เหยาบินคนนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากหากว่าเขามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ นั่นก็หมายความว่าที่นี่เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น“แย่แล้ว แย่แล้ว ฉันยังบอกอยู่เลยว่าพี่ชายขี้เมาคนนั้นหล่อมาก คิดไม่ถึงเลยว่าอันธพาลนี่จะรู้จักกับเหยาปิน พี่ชายคนนั้นจบเห่แล้วล่ะ”ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดคนหนึ่งยืนถอนหายใจกลางฟลอร์เต้นรำ“ฉันได้ยินมาว่า ถ้าถูกเหยาปินจับได้ ก็เหมือนเหลือชีวิตอยู่อีกแค่ครึ่งเดียว วันนี้พี่ชายคนนั้นโชคไม่ดีเลยจริง ๆ ที่ต้องเจอกับคนที่รับมือยากแบบนี้”“ชิ ใครใช้ให้เขาไปจีบผู้หญิงของคนอื่นกันล่ะ? ”“เธอก็แหกตาดูดี ๆ สิ เป็นฝ่ายหญิงต่างหากที่วิ่งเข้าหาเขาก่อน ดูไม่ออกรึไง? ”ในขณะที่มีการพูดคุยกันไปต่าง ๆ นานาภายในบาร์ หลี่ซืออวี่เองก็ตัวสั่นด้วยความกลัวเช่นกันเหยาปินเป็นนักจับกุมที่เก่งที่สุดในเจียงโจวเป็นคนที่มีความสามารถ อีกทั้งยังลงมือได้โหดเหี้ยมอีกต่างหากแม้ว่าเธอจะเป็นแค่นักศึกษาในวิทยาลัย แต่เธอก็มักจะออกไปเที่ยวในบาร์และไนต์คลับอยู่บ่อย ๆ เธอจึงพอจ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับดวงตาที่แวววาวไปด้วยดวงดาวของหลี่ซืออวี่ หลินเฟิงก็โบกมือแล้วพูดว่า “ซืออวี่ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับผู้จับกุมเหยาหน่อย วันนี้เธอกลับไปก่อนนะ”“อ่อ”หลี่ซืออวี่ทำปากมุ่ย ในใจเธอรู้สึกไม่เต็มใจนิดหน่อยแต่เธอไม่ใช่คนโง่ พวกเขาต้องการหารือเกี่ยวกับเรื่องสำคัญ ขืนตัวเองยังเอาแต่เข้าไปก่อกวนหลินเฟิง ก็มีแต่จะทำให้หลินเฟิงไม่พอใจซะเปล่า เพราะงั้นเธอจึงเลือกเดินออกจากไดนาสตี้บาร์พร้อมกับความรู้สึกผิดหวังอยู่นิดหน่อย“เสวี่ยฮุ่ยเอ้ย เสวี่ยฮุ่ย เธอนี่มันจิ้งจอกน้อยเจ้าเล่ห์จริง ๆ! ”หลี่ซืออวี่เดินออกจากประตูบาร์พร้อมกับกระเป๋าถือในมือ และแอบกล่าวโทษหลินเสวี่ยฮุ่ยในใจพี่ชายเธอเก่งกาจมากขนาดนี้ แถมผู้จับกุมอันดับหนึ่งแห่งเจียงหลินยังให้ความเคารพมากขนาดนั้นอีก เรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมไม่บอกเธอเลยสักนิด?หรือเธอกลัวว่าตัวเองจะแย่งพี่ชายเธอไปรึไง?อันที่จริง หลี่ซืออวี่เองก็นับว่าทำผิดต่อหลินเสวี่ยฮุยเช่นกันแม้แต่ตัวหลินเสวี่ยฮุ่ยเองก็เกรงว่าคงจะไม่คิดว่าหลินเฟิงจะเก่งกาจมากขนาดนี้เหมือนกัน ในมุมมองของหลินเสวี่ยฮุ่ย หลินเฟิงก็เป็นเพียงแค่ประธานกรรมการระดับสูงของตระกูลถัง
ไฝเสน่ห์ที่อยู่ใต้ตาของเธอ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเธอเป็นพิเศษเมื่อเผชิญกับสาวสวยแบบนี้เปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่นมาก็คงจะต้านทานไว้ไม่อยู่“หลินเฟิง เป็นอะไรไหม?”หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่บนหน้าจอสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่เป็นไร”หลินเฟิงส่ายหน้า เขาไม่อยากให้หลี่ฮุ่ยหรานเห็นท่าทางในตอนนี้ ไม่งั้นจะต้องหึงหวงและเข้าใจผิดแน่นอนแต่ถึงแม้หลินเฟิงจิตใจฟุ้งซ่าน แต่ไม่ถึงกับหลงกลของเทพธิดาฉู่คนนี้จริงๆหลินเฟิงเข้าใจอย่างสุดซึ้งผู้หญิงที่ยิ่งสวย ลับหลังก็ยิ่งอันตรายยิ่งเป็นผู้หญิงที่รุกหนัก ก็ยิ่งมีหวังผลต่อคุณเทพธิดาฉู่ปรากฏตัวในสายตาของหลินเฟิงหลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เป็นการกระทำที่เธอตั้งใจเธอหาหลินเฟิง อีกทั้งรุกเข้าหาถึงขนาดนี้ ต้องหวังผลอะไรต่อเขาอย่างแน่นอน“คุณฉู่ ที่ดินที่คุณต้องการพวกเราจัดการเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ที่คุณพูดว่าจะพัฒนาเมืองสถานบันเทิง โครงการนี้ฉันก็ทำหนังสือแผนงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว”“นี่คือรายละเอียดแบบแผนของหนังสือแผนงาน คุณดูสิคะ”หลี่ฮุ่ยหรานเปิดพาวเวอร์พอยต์ออกมา เธอใช้น้ำเสียงที่ชำนาญการแนะนำแผนการให้กับเท
หลี่ฮุ่ยหรานกระแอมเล็กน้อยและพูดว่า:“ฉันส่งที่อยู่ไปให้คุณแล้ว คุณออกมาเดี๋ยวนี้เลยเถอะ”“อ่อใช่ การร่วมมือต้องให้คุณเซ็นชื่อ แต่ต้องหลังจากที่พวกเราประชุมผ่านวิดีโอกันเสร็จ”“เข้าใจแล้วยัง?”“เข้าใจ”หลินเฟิงพยักหน้าหลังจากวางโทรศัพท์ หลินเฟิงหันหลังกลับไปมองคฤหาสน์ที่เงียบสงุด จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆวุ่นวายอยู่นานก็เพื่อที่จะมาดื่มชาหนึ่งแก้วหลินเฟิงไม่เข้าใจแต่เขาไม่มีเวลาให้ยืดเยื้อ จึงรีบสตาร์ทรถมายบัค เร่งขับไปยังที่อยู่ที่หลี่ฮุ่ยหรานส่งให้เขาเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงหลินเฟิงเดินเข้าไปในร้านกาแฟร้านหนึ่ง สายตามองไป ก็เห็นใบหน้าที่เขาคุ้นเคยคนหนึ่ง“คุณคือ...คนที่ถนนเสรี...”หลินเฟิงตกตะลึงเล็กน้อยในตอนนี้ผู้หญิงที่นั่งไขว้ห้าง สวมชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำ เผยผิวพรรณที่ขาวผ่องออกมา เธอก็คือเทพธิดาฉู่ในคืนนั้นที่ให้เบาะแสกับเขาที่ถนนเสรีเธอยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างสง่างาม และจิบหนึ่งคำเผยรอยยิ้มที่ยั่วยวนที่สุดไปทางหลินเฟิงที่เข้ามาในร้านถึงขั้นที่ยังอ้าริมฝีปากแดง เลียนิ้วมือของตัวเอง“คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอหน้ากันไวขนาดนี้นะหนุ่มหล่อ”เธอยิ้มสวยหยาดเยิ้มหลินเฟิง
ในที่สุดหลินเฟิงก็ไม่สามารถระงับความสงสัยในใจได้ ก่อนจะขมวดคิ้วพร้อมกับถามขึ้น“ทำไม? ไม่ได้งั้นเหรอ?”ราชาหลินแห่งตอนใต้จิบชาอีกครั้ง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ดูเหมือนว่าทักษะของหยินหลิงก็ดีขึ้นไม่น้อย หลังจากนี้ลูกก็สามารถให้เธอชงให้ลูกดื่มได้”หลินเฟิงเร่งรีบมาตลอดทาง พร้อมกับครุ่นคิดเรื่องของราชาหลินแห่งตอนใต้ก่อนจะนึกถึงสายตาของเขาที่แทบจะขอร้องอ้อนวอนแล้วยังบอกว่าจุดจบของตัวเองใกล้เข้ามาแล้ว....“เหอะ!”หลินเฟิงทำเสียงออกมาอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินจากไปเดิมทีคิดว่าคราวนี้เขาจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าชายคนนี้จะยังเหมือนเดิม ทำเหมือนตัวเองเป็นเด็กและไม่พูดไม่อธิบายอะไรสักอย่าง“คุณลุง แบบนี้...แบบนี้ดีแล้วงั้นเหรอ?”เมื่อเห็นหลินเฟิงจากไป หยินหลิงก็มองไปทางราชาหลินแห่งตอนใต้ด้วยความกังวลเล็กน้อย“มีอะไรที่ไม่ดีงั้นเหรอ?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นมาแล้วจิบอีกครั้ง“ไม่ต้องห่วง ฉันได้เก็บสิ่งที่ควรจะเหลือไว้ให้กับเจ้าเด็กสารเลวนั้นแล้ว บางครั้งการไม่รู้อะไรเลยก็ถือว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง”“ตามนิสัยของเด็กคนนั้น หากบอกเขาไปในตอนนี้ ก็กลัว
วันรุ่งขึ้น หลินเฟิงก็เดินออกจากบ้านตระกูลถังเพียงลำพังเขาไม่ได้บอกใครว่าตัวเองไปที่ไหน แล้วแอบขับรถไปที่หน้าวิลล่าแห่งหนึ่งในเขตชานเมืองที่เมืองจิงวิลล่าแห่งนี้สร้างขึ้นในป่าไผ่ ถึงแม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็เงียบสงบและหรูหรา แล้วก็ไม่มีความเร่งรีบที่วุ่นวายเหมือนอย่างในเมืองแค่ได้เห็นวิลล่าแห่งนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกสงบมากขึ้นไม่น้อยเขาผลักประตูเข้าไป และยังไม่ทันได้เข้าห้องโถง ก็ไม่กลิ่นชาจาง ๆเพียงได้ยินเสียงเก่า ๆที่คุ้นเคยดังมาจากในประตู“มาแล้วเหรอ”“อืม”หลินเฟิงก้าวเข้าไปในห้องเขามองเห็นราชาหลินแห่งตอนใต้พ่อของตัวเอง ที่ในเวลานี้กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงหลัก และล้อมรอบด้วยกลิ่นหอมจาง ๆของชาที่เล็ดลอดออกมาจากชามชาโบราณในมือของเขา“พี่ชาย พี่นั่งสิ”ร่างสวยงามที่ไม่รู้ว่าเดินมาจากทางไหน เธอถือถ้วยชาแบบเดียวกัน ก่อนจะวางลงอีกด้านหนึ่งของโต๊ะที่อยู่ตรงข้ามกับราชาหลินแห่งตอนใต้หลินเฟิงหันกลับไปมอง ร่างนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหยินหลิงที่เคารพนอบน้อม“......”เดิมทีหลินเฟิงอยากจะพูดขอบคุณเรื่องของถังว่านหลี่ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร จึงทำได้เพียงพยักหน้า ก่อนจะนั่งลงอีกด้านหนึ่ง
ถังว่านหลี่กล่าวต่อไปว่า :“ในวันนั้นที่ฉันถูกกลุ่มพันธมิตรบู๊พาตัวไป เป็นหลินเฟิงที่ยืนขึ้นและขู่หยินหลิง ผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ หากเธอไม่ตอบตกลงที่จะปฏิบัติต่อฉันอย่างดี ตอนนั้นหลินเฟิงก็จะแตกหักกับผู้นำ!”“สุดท้าย แม้ว่าผู้นำของเมืองจิงจะโกรธอยู่ แต่ก็ปกป้องฉันไว้”“เธอพูดเรื่องของหลินเฟิงกับฉันเยอะมาก....”“จริง ๆแล้วพวกเราตระกูลถัง ไม่เหมาะสมกับหลินเฟิงเลย”ถังว่านหลี่มองหลินเฟิงด้วยสายตาซับซ้อน จากนั้นก็เช็ดน้ำตา ก่อนจะพูดอย่างขมขื่นว่า :“หลินเฟิง ต่อจากนี้ไปจะมอบถังหว่านให้กับนาย ไม่ลำบากใจใช่ไหม?”“ไม่ลำบากใจครับ”หลินเฟิงพยักหน้า ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเช่นกัน“ไม่ลำบากใจก็ดี....”ถังว่านหลี่ถอนหายใจ จากนั้นก็พูดว่า :“หลินเฟิง จากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ฉันถังว่านหลี่ที่อยู่ตรงนี้ จะเป็นครอบครัวของนาย”“อืม”จริง ๆแล้วหลินเฟิงรู้สึกผิดหวังกับตระกูลถังแต่ท่าทางของถังว่านหลี่กับถังเจี้ยนหยวน ในที่สุดก็ทำให้หลินเฟิงกลับมาอบอุ่นในหัวใจ“สุดท้าย หลินเฟิง”ถังว่านหลี่เอ่ยขึ้นเบา ๆว่า : ผู้นำกลุ่มพันธมิตรหยินหลิงขอให้ฉันนำคำพูดมาให้คุณด้วย”“ข้อความ...อะไร?”
มองสายตาซาบซึ้งใจของถังว่านหลี่ หลินเฟิงยิ้มแล้วส่ายหน้าแสดงออกว่าไม่เป็นไรแต่ตอนนี้ในใจเขากลับเกิดความรู้สึกผิดต่อหยินหลิงเล็กน้อยคิดว่าปกป้องถังว่านหลี่เอาไว้ หยินหลิงก็คงต้องแบกรับความลำบากเอาไว้มากมาย“ว่านหลี่ ครั้งนี้นายสามารถกลับมาได้ ทั้งหมดเป็นเพราะความพยายามของหลงยวนคุณชายของตระกูลหลง“ถ้าหากว่าไม่ใช่เขามีคุณธรรมลงโทษคนในครอบครัวที่ทำผิด ฆ่าน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง เพื่ออธิบายที่ไปที่มาของเรื่องราว”“ไม่แน่ตอนนี้นายก็อาจจะยังอยู่ในคุกก็ได้!”ในตอนนี้ คนระดับสูงของตระกูลถังออกหน้าเขาแสดงท่าที่ไม่เห็นด้วยต่อการกระทำที่ถังว่านหลี่ซาบซึ้งต่อหลินเฟิง“จริงด้วยอาถังว่านหลี่ อาขอบคุณหลินเฟิงทำไม เป็นคุณชายหลงยวนที่ส่งคนมาจัดการปัญหาโดยเฉพาะ นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน อาถึงกลับมาได้”“เขาพูดจาดีๆ กับผู้ว่ารัฐมนตรีเมืองจิงมากมาย”“จุ๊จุ๊ ดูท่าคุณชายหลงยวนมีความจริงใจต่อตระกูลถังของเรา พบว่าน้องสาวของตัวเองได้ทำร้ายคุณ จึงฆ่าญาติที่ทำผิดโดยตรง!”“เกรงว่าก็คงเป็นเพราะอาว่านหลี่เป็นพ่อของพี่ถังหว่านสินะ?”“เฮ้อ คุณชายหลงยวนก็ลุ่มหลงต่อพี่ถังหว่านมาก! น่าเสียดายพี่ถังหว่านจ
“ไม่...เขาฆ่าหลงเซียวของตระกูลหลง นั่นเป็นถึงลูกหลานสายตรงของตระกูลหลงเชียวนะ ตระกูลหลงไม่มีทางปล่อยตระกูลถังของเราไปอย่างแน่นอน!”“เจี้ยนหยวน นายต้องให้ความสำคัญกับภาพรวมนะ!”“ให้ความสำคัญกับภาพรวมงั้นเหรอ...”ถังเจี้ยนหยวนหยุดชะงักเล็กน้อยจากนั้นบนใบหน้าก็เผยสีหน้าเยาะหยันออกมาเล็กน้อย“ไม่สู้ คุณดูจดหมายที่กลุ่มพันธมิตรบู๊ส่งมาก่อนดีไหม?”ถังเจี้ยนหยวนนำจดหมายที่ถูกเปิดมาแล้วยื่นให้กับถังเทียนเต๋อ“หนังสือแจ้งตระกูลถัง”“ข้าพเจ้าผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิง เป็นเพราะก่อนหน้านี้เข้าใจถังว่านหลี่ตระกูลถังผิดไป จึงขออภัยตระกูลถังอย่างสุดซึ้ง...”ถังเทียนเต๋อจ้องมองเนื้อหาที่อยู่บนจดหมายยิ่งดู สีหน้ายิ่งไม่เป็นธรรมชาติ หลังจากที่เห็น “ลายเซ็นของผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิง” ตัวอักษรสุดท้ายคนทั้งคนก็ทรุดนั่งลงบนพื้นงุนงงไปหมด“พ่อ มันคือจดหมายอะไร? ในจดหมายเขียนว่ายังไงเหรอ?”ถังว่านเฉวียนรีบถามขึ้นมา“มันคือ...คือจดหมายที่ผู้ว่ารัฐมนตรีเขียนเองกับมือ”ถังเทียนเต๋อกลืนน้ำลาย และพูดอย่างยากลำบาก:“เขารู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวแล้ว อีกทั้ง...อีกทั้งทางด้านตระกูลหลงเองก็ยอ
แต่โชคดีที่ถังจวินเตรียมป้องกันไว้ตั้งนานแล้วเขาปล่อยพลังชี่แท้ออกมา สกัดกั้นเอาไว้สุดพลังกระสุนเม็ดนี้ถึงแม้จะยังคงยิงโดนหน้าอกของเขา แต่ไม่ได้สร้างความบาดเจ็บให้กับเขามากเท่าไหร่นักเพียงแค่กระเทือนกระดูกซี่โครงของเขาจนหักถึงแม้จะสภาพย่ำแย่ แต่อย่างน้อยถังจวินก็รับไว้ได้เห็นถังหว่านท่าทางแน่วแน่แบบนี้ ถังเทียนเต๋อเตรียมจะเปลี่ยนวิธีการสายตาของเขามองข้ามถังหว่าน มองไปทางหลินเฟิงแล้วพูดว่า8“หลินเฟิง นายฆ่าหลงเซียวลูกหลานสายตรงของตระกูลหลง ความผิดมหันต์แบบนี้ นายยังอยากจะสร้างความเดือดร้อนให้ตระกูลถังของฉันงั้นเหรอ?!”“......”“หยุดเถอะ”ในที่สุดหลินเฟิงก็ลงมือแล้วเพียงแต่มือที่เขาลงมือนั้น จับไปที่ปากกระบอกปืนขของถังหว่าน เขาส่ายหน้าให้ถังหว่านช้าๆถ้าหากปล่อยให้เรื่องราวดำเนินต่อไปแบบนี้เกรงว่าสุดท้ายคงจะวุ่นวายจนไม่สามารถจบเรื่องราวได้ความคิดของถังหว่านเขาเข้าใจ แต่เขาก็ไม่อยากให้ถังหว่านฆ่าคน“คนที่ฆ่าหลงเซียวไม่ใช่ฉัน แต่...ความผิดนี้ฉันสามารถรับเอาไว้ได้”หลินเฟิงมองไปทางคนตระกูลถัง ยื่นมือออกไปห้ามถังหว่านที่จะพูดคำออกมาด้วยความร้อนใจและหัวเราะเยาะพูดว่
เมื่อเขาเห็นว่าถังเทียนเต๋อออกคำสั่ง ก็ไม่มีความคิดอย่างอื่นอีก ก่อนจะโบกมือเรียกให้หน่วยลับของตัวเองที่อยู่ใกล้ตัว จับถังหว่านและหลินเฟิงให้ได้“ออกไป!”เมื่อเห็นว่าหน่วยลับที่อยู่รอบ ๆกำลังเข้ามาใกล้พวกเขามาขึ้นเรื่อย ๆในที่สุดถังหว่านก็โมโหแล้วเธอหันกลับไปคว้าปืนพกสีเข้มออกมาจากใต้หมอนของตัวเอง แล้วเล็งไปที่ถังจวิน“หากพวกคุณกล้าก้าวมาอีกก้าวหนึ่ง ฉันก็จะฆ่าพวกคุณ!”“ยังมีพวกแก ถังเทียนเต๋อ ไอ้แก่หนังเหนียวอย่างแก ถ้าพวกเขากล้าเข้ามาอีกก้าวหนึ่ง ฉันก็จะฆ่าแกก่อน!”“ถังหว่าน! เธอจะกบฏงั้นเหรอ?!”ถังเทียนเต๋อพูดด้วยความโกรธ“ถังหว่าน วางอาวุธซะ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่!”ถังว่านเฉวียนก็ตะโกนอย่างเด็ดขาด“เหอะ แน่จริงก็ยิงฉันให้ตายเลย ฉันไม่เชื่อว่าวันนี้เธอจะกล้ายิงฉัน”ถังว่านเชวีย ลูกชายคนรองของถังเทียนเต๋อยิ้มเยาะ แล้วเดินตรงไปหาถังหว่าน“ปัง!”ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน คิดไม่ถึงว่าถังหว่านจะเหนี่ยวไกปืนไปที่หน้าอกของถังว่านเชวียโดยตรงหลังจากถูกยิง ถังว่านเชวียยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆรอจนเขาก้มหน้ามองดูหน้าอกตรงกลางหัวใจของตัวเอง ที่มีเลือดไหลออกมา พร้อมกับแสด