คนที่แทบรอไม่ไหวที่จะได้แก้แค้นอย่างหลี่เยว่หรูที่เห็นหลี่ฮุ่ยหรานกำลังรีบสวมรองเท้าอย่างเร่งรีบ เธอก็ขมวดคิ้วและพูดออกไปว่า “อย่าบอกนะว่าพี่จะไปปกป้องไอ้สารเลวที่มันลวนลามฉัน?”“ปัง! ”หลี่ฮุ่ยหรานเพิกเฉยต่อเธอ แล้วรีบวิ่งออกจากประตูด้วยรองเท้าส้นสูงฝนด้านอกตกค่อนข้างหนัก ทำให้ทุกอย่างมืดไปหมดและภายใต้ความมืดมิดนั้น ร่างสูงก็ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน มองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานที่กำลังวิ่งโผล่พ้นความมืดเข้ามาใกล้ ๆ ด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์“เปรี้ยง! ”เสียงฟ้าร้องฟ้าแลบก็ดังสนั่นไปทั่วบริเวณรอบ ๆ ในทันที หลี่ฮุ่ยหรานถือโอกาสที่ฟ้าแลบมองเห็นรูปร่างหน้าตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ นอกจากหลินเฟิงแล้ว เธอยังจะมองเห็นใครได้อีก?“หลินเฟิง เข้าไปข้างในก่อนเถอะ! มีเรื่องอะไร พวกเราก็ค่อยว่ากัน! ”หลี่ฮุ่ยหรานยื่นมือออกไปหาหลินเฟิง และพูดท่ามกลางสายฝน “หลินเฟิง ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรไม่เชื่อคุณ คุณช่วยยกโทษให้ฉันได้ไหม? ”ร่างนั้นยังคงไม่พูดอะไรออกมาหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขาเลิกสนใจหลี่ฮุ่ยหรานแล้วโดยสิ้นเชิง“โธ่เอ้ย ฮุ่ยหราน ลูกออกมาได้ยังไง ฝนตกหนักขนาดนี้ แกไม่เอาร่มออกมาด้วยล่ะ”จางกุ้ยหล
หวงติ่งคนนี้ก็หยิ่งมากเช่นกัน เห็นสวีเฉียงและคนอื่น ๆ เขาก็ไม่พอใจ และพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ว่าฉันบอกให้พวกแกอยู่แต่ในบ้านห้ามออกมาไม่ใช่รึไง?”“เรื่องตรงนี้ปล่อยให้พวกฉันจัดการก็พอแล้ว”เนื่องจากหวงติ่งหมัดคุนหลุนคนนี้มีพลังที่แข็งแกร่งมาก ทุกครั้งที่เขาลงมือก็มักจะส่งผลให้ร่างกายของคู่ต่อสู้นั้นระเบิด และมีเลือดกระจายอย่างมาก เพราะงั้นเขาจึงมักไม่ชอบให้มีคนมาดูอยู่ข้าง ๆ“ได้ ๆ ๆ”สวีเฉียงเองก็ไม่กล้าเถียง จากนั้นเขาก็ดึงจางซินเข้าบ้านไป“ฮุ่ยหราน ไปได้แล้ว ปล่อยให้คนที่สวีเฉียงพามาจัดการหลินเฟิงไป พวกเราไม่ต้องเข้าไปยุ่ง”จางกุ้ยหลานกำลังจะดึงหลี่ฮุ่ยหรานไป แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ หลี่ฮุ่ยหรานจะสะบัดมือจางกุ้ยหลานออก และถามแม่ของเธอออกไปว่า “แม่คะ! ที่หลินเฟิงพูดหมายความว่ายังไง? เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของหลินเฟิง? ”“นางเด็กอัปลักษณ์นั่น...... ”จางกุ้ยหลานรู้สึกสะอึกสะอักเกินกว่าจะพูด จากนั้นเธอก็โกรธขึ้นมา แล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้แกก็ไม่ต้องยุ่งแล้ว มันเกี่ยวข้องกับการกลับมาของตระกูลหลี่แห่งเจียงหนานของพวกเรา ฮุ่ยหราน แกแค่ต้องแต่งงานกับคุณชายกู้ก็พอแล้ว! ”“แม่คะ! ”หล
อยากที่จะกินทั้งสองฝั่งหลินเฟิงเหลือบมองรอยยิ้มที่น่าขยะแขยงของหวงติ่ง และตะโกนออกไปว่า“ไสหัวไปซะ”รอยยิ้มบนใบหน้าของหวงติ่งแข็งทื่อทันที“เจ้าหนู แน่ใจนะว่าแกอยากจะรนหาที่ตายจริง ๆ? ”“คนที่รนหาที่ตายนั่นมันแกต่างหาก” หลินเฟิงค่อย ๆ จ้องมองไปยังใบหน้าของหวงติ่งช้า ๆ และจ้องมองตรงเข้าไปในดวงตาของเขา แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าไม่อยากตาย ก็ถอยไปซะ”พอหวงติ่งได้ยิ่นสิ่งที่หลินเฟิงพูด เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฉันอยู่บนถนนสายนี้มาหลายปีแล้ว แล้วก็ยังไม่เคยเจอใครที่กล้าสั่งให้ฉันหลีกทางให้”“วันนี้แกก็ได้ยินแล้วนี่”หลินเฟิงยังคงไม่แสดงสีหน้า เมื่อหวงติ่งเห็นแบบนั้น เขาก็โกรธจนสูญเสียการควบคุมในที่สุด เขาคว้าไหล่ของหลินเฟิง และพุ่งหมัดชกเข้าไปตรงท้องของหลินเฟิง“รนหาที่ตายนักนะ! ”รอยยิ้มกระหายเลือดปรากฏบนขึ้นบนใบหน้าของหวงติ่ง ราวกับว่าเขาจะสามารถเห็นฉากที่ท้องของหลินเฟิงถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ด้วยหมัดที่พุ่งผ่านช่องท้องส่วนล่างของเขาในหมัดเดียว“บูม! ”แต่แล้วก็มีฉากที่เปลี่ยนให้รอยยิ้มบนใบหน้าของหวงติ่งให้กลายเป็นความประหลาดใจเกิดขึ้นหมัดคุนหลุนที่ไร้เทียมทานของเขา ในระยะห่างที่ใกล้ม
พอมาถึงจุดนี้ หลินเฟิงคือคนที่ทำลายแก๊งอันธพาลในตลาดมืดด้วยตัวคนเดียวจางกุ้ยหลานและคนอื่น ๆ ที่อยู่ในบ้านของตระกลูหลี่ที่มีฉนวนกันเสียง บวกกับเสียงฝนตกฟ้าร้อง จึงไม่มีใครได้ยินเสียงการสังหารหมู่อยู่ฝ่ายเดียวที่เกิดขึ้นด้านนอก รวมถึงเสียงกรีดร้องของพวกอันธพาลก็ด้วยพวกเขาคิดว่า แม้ว่าหลินเฟิงจะสู้ได้ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็รับมือกับคนมากมายขนาดนั้นไม่ได้อย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหมัดคุนหลุน หวงติ่งผู้โด่งดังในตลาดมืดเป็นผู้ลงมืออีกต่างหากอดีตสามีที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง คงได้ตายสมใจอยากแล้วไม่ใช่รึไง?จางกุ้ยหลานถึงขั้นนำไวน์แดงลาฟิตต์ที่เตรียมไว้ออกมาล่วงหน้า แล้วเทให้โจวอวี้เฟิ่งและคนอื่น ๆ จากนั้นก็รอฉลองให้กับร่างของหลินเฟิงที่หวงติ่งอุ้มเข้ามา“ซินซิน หนูได้ส่งรูปภาพไปให้ตระกูลถังแล้วหรือยัง? ”จางกุ้ยหลานมองไปทางจางซินจางซินพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้ม“ว่างใจเถอะค่ะคุณป้า แม้ว่าหนูจะเกลียดถังหว่านมากแค่ไหน แต่ขอแค่เธอได้รู้ว่าคนที่เธอเลี้ยงดูมาแอบเลี้ยงดูนางเด็กสารเลวนั่นอยู่โดยไม่บอกเธอล่ะก็ เธอจะต้องโกรธแน่นอนค่ะ”“แล้วตอนนี้พวกเราก็โยนร่างของหลินเฟิงให้เธอไปด้วย ไม่แ
“หลินเฟิง แกกล้าเหรอ!”จางกุ้ยหลานดูเหมือนคนเสียสติ แต่เพราะเสียงกรีดร้องของหลี่เยว่หรูถึงทำให้เธอได้สติกลับมา“ช่วยฉันด้วย! ฉันเจ็บ! เจ็บจะตายอยู่แล้ว! ”“เร็วเข้า! ”จางกุ้ยหลานชี้ไปทางหลินเฟิง แล้วสาปแช่งเขา“แกมันสัตว์นรก แกรู้มั้ยว่าคนที่แกเพิ่งทำร้ายไปเมื่อกี้คือใคร? เธอคือคนของตระกูลหลี่แห่งเจียงหนาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเจียงหนาน และเป็นสะใภ้ของผู้นำตระกูลเชียวนะ! ”“ตอนนี้แกก็ปล่อยเยว่หรูอย่างเชื่อฟังซะ แกยังพอจะขอความเมตตาได้ ฉันจะช่วยออกหน้าขอร้อง ให้ไว้ชีวิตแกได้นะ หากขืนแกยังดึงดันต่อไป แกได้ตายสมใจแน่! ”“ฮึ...... ”หลินเฟิงเห็นว่าจางกุ้ยหลานยังคงพูดเพ้อเจ้ออยู่ทั้งที่สถานการณ์ตรงหน้าเป็นแบบนี้ มือของเขาก็ยิ่งออกแรงมากขึ้น สีหน้าของเยว่หรูนั่นเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นทันที“ฮือ ๆ ๆ! ”หลี่เยว่หรูเหยียดฝ่ามือของเธอออกไป ราวกับต้องการขอความช่วยเหลือจากจางกุ้ยหลาน“แม่คะ แม่เลิกขู่เขาได้แล้วค่ะ เขามันบ้าไปแล้ว! ”จางซินคว้าป้าของเธอเอาไว้ แล้วตะโกนใส่สวีเฉียงเพื่อให้ไปเอาตัวของหลินเสวี่ยฮุ่ยออกมาจากห้องใต้ดิน“รีบไปสิ! ถ้ายังไม่ไปล่ะก็ หลี่เยว่หรูได้ตายจริง
“ใช่ครับ ใช่ ๆ ผมคือสวีเฉียง คุณหลิน ก่อนหน้านี้ผมได้ล่วง......”ก่อนที่สวีเฉียงจะทันได้พูดจบ หลินเฟิงก็พุ่งหมัดออกไปหมัดนี้มาพร้อมกับการไหลเวียนของชี่แท้ ราวกับสายฟ้าที่ทะลุผ่านอากาศ ก่อนที่หมัดจะกระแทกเข้าไปที่หน้าอกของสวีเฉียงจนลอยปลิวออกไปร่างใหญ่ของเขากระแทกเข้ากำแพงวิลล่าตระกูลหลี่อย่างแรง ตันเถียนของเขาพังทลาย หน้าอกของเขายุบตัวลง ลูกตากลอกเป็นสีขาวเห็นได้ชัดว่ามีลมออกมาเยอะมาก แต่ลมที่เข้าไปกลับมีน้อย“ว้าย——!”เมื่อเห็นว่าสวีเฉียงถูกหลินเฟิงต่อยตัวปลิว จางซินก็กรีดร้องออกมา เอามือกุมหัวตัวเองเอาไว้แล้วคุกเข่าลงกับพื้น จากนั้นเธอก็ไม่กล้าพูดจากรุนแรงออกมาอีกเธอไม่เหมือนกับป้าของเธอ เธอได้เห็นตัวตัวตนของหลินเฟิงอย่างแท้จริงเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา ถ้าขืนตัวเองยังกล้าพูดออกไปอีก คนต่อไปที่จะต้องตายก็คงเป็นเธอ“หลินเฟิง แก! ”จางกุ้ยหลานทั้งโกรธและหวาดกลัว เธอชี้ไปทางหลินเฟิงด้วยนิ้วที่สั่นเทา พร้อมกับสาปแช่ง “ดีนี่ แกมันพวกตาขาว ไม่เพียงแค่ไม่รักษาให้เยว่หรู วันนี้แกถึงขั้นกล้ามาก่อความวุ่นวายในวิลล่าตระกูลหลี่อีก! ”“แล้วฆ่าคนต่อหน้าพวกเราอีก! ”“ตระกูลหลี่แห่งเจ
ถังหว่านพาคนบุกเข้ามายังตระกูลหลี่ ทันทีที่มาถึง เธอก็เห็นกองศพกระจัดกระจายอยู่เต็มลานหน้าบ้าน ใจของเธอเต้นแรง ทั้งยังได้ยิ่นเสียงปืนดังขึ้นมาจากในตัวตึกอีกหลังจากที่เธอพาฉินอิ๋งเข้าไปในวิลล่าตระกูลหลี่แล้ว ถังได้เห็นร่างของหลี่เยว่หรูถูกยัดอยู่ตรงมุมห้อง แล้วก็ยังมีจางซินที่นั่งกุมหัวตัวเองเอาไว้นอกจากนี้ยังมีโจวอวี้เฟิ่งที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น แล้วก็จางกุ้ยหลานที่ถือแจกันเอาไว้ในมือพร้อมกับสีหน้าที่ดูซีดเซียว“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เสวี่ยฮุ่ยอยู่ที่ไหน? ! ”จางกุ้ยหลานกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง ทันทีที่เห็นถังหว่านที่กำลังจ้องมองเธออยู่ เธอก็รู้สึกราวกับว่าดาวช่วยชีวิตของเธอมาถึงแล้วเธอฝืนยิ้มแล้วพูดกับถังหว่านออกไปว่า“คุณถังคะ คุณ......คุณรู้มั้ยคะว่าหลินเฟิงน่ะ หลินเฟิงเขา......เขาแอบเลี้ยงดูนางเด็ก...... ”“ผลัวะ! ”ถังหว่านไม่คิดที่จะฟังจางกุ้ยหลาน เธอตบเข้าไปที่ขมับทันที“น้องสาวของฉัน หลินเสวี่ยฮุ่ยอยู่ที่ไหน? ”“หากเกิดอะไรขึ้นกับเสวี่ยฮุ่ยล่ะก็ ฉันจะเอาชีวิตของพวกแกทุกคน! ”เมื่อเผชิญกับความโกรธของถังหว่าน จางกุ้ยหลานก็รู้สึกหวาดกลัวมาก ไม่กล้าแม้แต่จะปริป
“คนดี ๆ ไม่ควรมีจุดจบแบบนี้”“ใช่แล้ว คนดี ๆ ไม่ควรที่จะมีจุดจบเช่นนี้”ถังหว่านเองก็ถอนหายใจเช่นกันหลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง ถังหว่านก็เหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงถามหลินเฟิง พร้อมกับมองไปทางหลินเฟิง “หลี่ฮุ่ยหราน เธอล่ะ? เธอรู้รึเปล่าว่าเสวี่ยฮุ่ยถูกจางกุ้ยหลานลักพาตัวไป? ”“ผมเองก็ไม่รู้” หลินเฟิงส่ายหัว“อย่างงั้นเหรอ...... ”หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ถังหว่านก็ยืนขึ้น และจูบหน้าผากของหลินเฟิงเบา ๆ เธอลูบหัวของหลินเฟิงแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“ถ้าเช่นนั้น ผู้คุ้มกันหลินเฟิง ฉันในฐานะประธานกรรมการของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง ฉันอนุญาตให้คุณหยุดงานหนึ่งสัปดาห์เป็นกรณีพิเศษ หลังจากหนึ่งสัปดาห์แล้ว จะต้องกลับมาทำงานพร้อมกับความสดใสนะ”“ฮึ...... ” หลินเฟิงหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา “ขอบคุณมานะ ถังหว่าน”“ฮึ ๆ การดูแลสุขภาพของพนักงาน เป็นส่วนหนึ่งของงานของฉันในฐานะหัวหน้า เอาล่ะ มีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันมานะ”ถังหว่านยิ้มเล็กน้อยพลางเดินออกจากห้องของหลินเฟิง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่เปิดประตูจะพบเข้ากับหลินเสวี่ยฮุ่ยที่กำลังพยายามเงี่ยหูแอบฟังอยู่“เสวี่ยฮุ่ย ที่เธอกำลังทำอะไรอยู