“ใช่ครับ ใช่ ๆ ผมคือสวีเฉียง คุณหลิน ก่อนหน้านี้ผมได้ล่วง......”ก่อนที่สวีเฉียงจะทันได้พูดจบ หลินเฟิงก็พุ่งหมัดออกไปหมัดนี้มาพร้อมกับการไหลเวียนของชี่แท้ ราวกับสายฟ้าที่ทะลุผ่านอากาศ ก่อนที่หมัดจะกระแทกเข้าไปที่หน้าอกของสวีเฉียงจนลอยปลิวออกไปร่างใหญ่ของเขากระแทกเข้ากำแพงวิลล่าตระกูลหลี่อย่างแรง ตันเถียนของเขาพังทลาย หน้าอกของเขายุบตัวลง ลูกตากลอกเป็นสีขาวเห็นได้ชัดว่ามีลมออกมาเยอะมาก แต่ลมที่เข้าไปกลับมีน้อย“ว้าย——!”เมื่อเห็นว่าสวีเฉียงถูกหลินเฟิงต่อยตัวปลิว จางซินก็กรีดร้องออกมา เอามือกุมหัวตัวเองเอาไว้แล้วคุกเข่าลงกับพื้น จากนั้นเธอก็ไม่กล้าพูดจากรุนแรงออกมาอีกเธอไม่เหมือนกับป้าของเธอ เธอได้เห็นตัวตัวตนของหลินเฟิงอย่างแท้จริงเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา ถ้าขืนตัวเองยังกล้าพูดออกไปอีก คนต่อไปที่จะต้องตายก็คงเป็นเธอ“หลินเฟิง แก! ”จางกุ้ยหลานทั้งโกรธและหวาดกลัว เธอชี้ไปทางหลินเฟิงด้วยนิ้วที่สั่นเทา พร้อมกับสาปแช่ง “ดีนี่ แกมันพวกตาขาว ไม่เพียงแค่ไม่รักษาให้เยว่หรู วันนี้แกถึงขั้นกล้ามาก่อความวุ่นวายในวิลล่าตระกูลหลี่อีก! ”“แล้วฆ่าคนต่อหน้าพวกเราอีก! ”“ตระกูลหลี่แห่งเจ
ถังหว่านพาคนบุกเข้ามายังตระกูลหลี่ ทันทีที่มาถึง เธอก็เห็นกองศพกระจัดกระจายอยู่เต็มลานหน้าบ้าน ใจของเธอเต้นแรง ทั้งยังได้ยิ่นเสียงปืนดังขึ้นมาจากในตัวตึกอีกหลังจากที่เธอพาฉินอิ๋งเข้าไปในวิลล่าตระกูลหลี่แล้ว ถังได้เห็นร่างของหลี่เยว่หรูถูกยัดอยู่ตรงมุมห้อง แล้วก็ยังมีจางซินที่นั่งกุมหัวตัวเองเอาไว้นอกจากนี้ยังมีโจวอวี้เฟิ่งที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น แล้วก็จางกุ้ยหลานที่ถือแจกันเอาไว้ในมือพร้อมกับสีหน้าที่ดูซีดเซียว“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เสวี่ยฮุ่ยอยู่ที่ไหน? ! ”จางกุ้ยหลานกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง ทันทีที่เห็นถังหว่านที่กำลังจ้องมองเธออยู่ เธอก็รู้สึกราวกับว่าดาวช่วยชีวิตของเธอมาถึงแล้วเธอฝืนยิ้มแล้วพูดกับถังหว่านออกไปว่า“คุณถังคะ คุณ......คุณรู้มั้ยคะว่าหลินเฟิงน่ะ หลินเฟิงเขา......เขาแอบเลี้ยงดูนางเด็ก...... ”“ผลัวะ! ”ถังหว่านไม่คิดที่จะฟังจางกุ้ยหลาน เธอตบเข้าไปที่ขมับทันที“น้องสาวของฉัน หลินเสวี่ยฮุ่ยอยู่ที่ไหน? ”“หากเกิดอะไรขึ้นกับเสวี่ยฮุ่ยล่ะก็ ฉันจะเอาชีวิตของพวกแกทุกคน! ”เมื่อเผชิญกับความโกรธของถังหว่าน จางกุ้ยหลานก็รู้สึกหวาดกลัวมาก ไม่กล้าแม้แต่จะปริป
“คนดี ๆ ไม่ควรมีจุดจบแบบนี้”“ใช่แล้ว คนดี ๆ ไม่ควรที่จะมีจุดจบเช่นนี้”ถังหว่านเองก็ถอนหายใจเช่นกันหลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง ถังหว่านก็เหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงถามหลินเฟิง พร้อมกับมองไปทางหลินเฟิง “หลี่ฮุ่ยหราน เธอล่ะ? เธอรู้รึเปล่าว่าเสวี่ยฮุ่ยถูกจางกุ้ยหลานลักพาตัวไป? ”“ผมเองก็ไม่รู้” หลินเฟิงส่ายหัว“อย่างงั้นเหรอ...... ”หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ถังหว่านก็ยืนขึ้น และจูบหน้าผากของหลินเฟิงเบา ๆ เธอลูบหัวของหลินเฟิงแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“ถ้าเช่นนั้น ผู้คุ้มกันหลินเฟิง ฉันในฐานะประธานกรรมการของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง ฉันอนุญาตให้คุณหยุดงานหนึ่งสัปดาห์เป็นกรณีพิเศษ หลังจากหนึ่งสัปดาห์แล้ว จะต้องกลับมาทำงานพร้อมกับความสดใสนะ”“ฮึ...... ” หลินเฟิงหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา “ขอบคุณมานะ ถังหว่าน”“ฮึ ๆ การดูแลสุขภาพของพนักงาน เป็นส่วนหนึ่งของงานของฉันในฐานะหัวหน้า เอาล่ะ มีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันมานะ”ถังหว่านยิ้มเล็กน้อยพลางเดินออกจากห้องของหลินเฟิง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่เปิดประตูจะพบเข้ากับหลินเสวี่ยฮุ่ยที่กำลังพยายามเงี่ยหูแอบฟังอยู่“เสวี่ยฮุ่ย ที่เธอกำลังทำอะไรอยู
อีกทั้งยังใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของตัวเอง เพื่อขอร้องให้หลินเฟิงไว้ชีวิตตระกูลหลี่“ขอแค่จากนี้ไปตระกูลหลี่ไม่มายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก งั้นฉันก็ขี้เกียจที่จะไปคิดบัญชีกับพวกเขาด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นนไป ฉัน หลินเฟิง จะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ต่อกันอีก”นี่ก็เป็นความปรารถนาสุดท้ายของคุณปู่ด้วยเช่นกันสุดท้ายคุณปู่ก็เข้าใจตระกูลหลี่ในตอนนี้ ไม่คู่ควรกับหลินเฟิงเลยด้วยซ้ำไม่เหมือนกับสิ่งที่จางกุ้ยหลานพูด ที่บอกว่าหลินเฟิงไม่คู่ควรกับหลี่ฮุ่ยหราน แต่เป็นหลี่ฮุ่ยหรานต่างหากที่ไม่คู่ควรกับหลินเฟิงหลังทานอาหารเช้าเสร็จ หลินเฟิงก็เริ่มฝึกซ้อมตามปกติหลังจากที่เขาฝึกซ้อมจนเสร็จแล้ว เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นพอดีเป็นเหยาปินที่โทรมา“เหยาปินเหรอ? โทรหาฉันมีเรื่องอะไร? ”หลินเฟิงรับสายโทรศัพท์ และเสียงเร่งด่วนของเหยาปินก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง“อาจารย์หลิน......เอ้ย ไม่ใช่ คุณหลินครับ เกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ! ”“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมถึงได้ตื่นตระหนกขนาดนี้? ” หลินเฟิงขมวดคิ้ว“โอวหยางชิ่งครับ! ”“โอวหยางชิ่ง......เธอหนีไปแล้ว! ”“หนีไปแล้วงั้นเหรอ? ” สีหน
เป็นอย่างที่หลินเฟิงคิดโอวหยางชิ่งไม่ได้ติดต่อกับตระกูลเซี่ยงเลยด้วยซ้ำ เธอหนีกลับไปที่สำนักเสินฉือตามลำพังด้วยความลำบากใจเธออาศัยฐานะลูกสาวของผู้อาวุโสของเธอ ทันทีที่เธอกลับมาที่สำนัก เธอก็เริ่มอ่านบันทึกของสำนักต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้งทันทีที่เธอพบสาเหตุของเมื่อสามปีก่อนที่สำนักเสวียนเทียนถูกทำลาย ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความโลภทันทีหยวนชี่ทั้งห้ากลายเป็นอมตะ!โอกาสที่จะกลายเป็นอมตะอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเมื่อเทียบกับสิ่งล่อตาล่อใจที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็นอมตะ คนไร้ค่าอย่างเซี่ยงหลงน่ะเหรอจะมาเทียบได้?ว่ากันว่าทั้งสองเป็นแค่แฟนกันเท่านั้น กระทั่งยังไม่ได้แต่งงานกันเลยด้วยซ้ำเธอจะปล่อยโอกาสนี้ไปตกอยู่ในมือของสำนักจิ่วเซียวได้อย่างไร?พอนึกถึงเรื่องนี้ โอวหยางชิ่งก็เริ่มที่จะเลี่ยงขอความช่วยเหลือจากศิษย์พี่ศิษย์น้องของเธอด้วยเช่นกัน เธอก้าวเดินเข้าไปในห้องใต้หลังคาของพ่อเธอ ที่ซึ่งเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักเสินฉือ พร้อมกับร้อยยิ้มที่ดูมีเลศนัย......ไดนาสตี้บาร์ในเจียงหลิงร่างที่สวยงามสวมชุดสีดำ เผยให้เห็นแผ่นหลังสีขาวราวหิมะของเธอ กำลังนอนอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์อย่างเมามาย
เธอควักปึกกระดาษที่เรียบร้อยออกมา ฟาดมันลงบนบาร์ แล้วพูดแบบติด ๆ ขัด ๆ “รับไปสิ นี่คือพินัยกรรมของคุณปู่ ด้วยพินัยกรรมฉบับนี้ พวกคุณก็จะได้กลับคืนสู่สถานะตระกูลหลี่แห่งเจียงหนานที่พวกคุณฝันถึงได้แล้ว”จางซินมองไปรอบ ๆ สายตามองที่พินัยกรรมพร้อมกับมือที่ยื่นออกไปคว้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ค่ะ ดูสิว่าพี่กำลังทำอะไรอยู่ พินัยกรรมของคุณปู่ไม่สำคัญเลยสักนิด พวกเราก็แค่เป็นห่วงพี่นะคะ”“นั่นสิ” จางกุ้ยหลานขมวดคิ้ว “ลูกแม่ ถ้าขืนลูกยังปล่อยตัวแบบนี้อยู่ เธอยังคงเสื่อมโทรมต่อไป หลี่ซื่อกรุ๊ปก็จะ...... ”“ป้าจางครับ ซินซิน”ในเวลานี้ ก็มีชายร่างสูงสวมชุดสูทเดินเข้ามาจากทางประตูบาร์ จางกุ้ยหลานมองแวบหนึ่งแล้วรีบปิดปากของเธอทันที ราวกับว่าเธอเห็นผู้ช่วยชีวิตของเธอเข้าให้แล้ว“คุณชายกู่ ในที่สุดคุณก็มาสักที คุณช่วยโน้มน้าวฮุ่ยหรานทีเถอะ พวกเราโน้วน้าวเธอมาตั้งนานแล้วก็ไม่มีประโยชน์”“เอาเถอะครับป้าจาง ทุกคนกลับไปก่อนเถอะนะครับ ฮุ่ยหรานเดี๋ยวผมจัดการเอง”ที่แท้คนที่มาก็คือกู้เฉิน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อมองดูหลี่ฮุ่ยหรานที่จมอยู่กับความทนทุกข์แบบนี้ ร่องรอยของความน่ารังเกียจที
ตัดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดออก ทำให้ภาพของหลินเฟิงจากกล้องวงจรปิดดูเหมือนจงใจลวนลามหลี่เยว่หรูเป็นอย่างที่คิด ทันทีที่เอาให้จางกุ้ยหลานและโจวอวี้เฟิ่งดู พวกเธอก็เกือบจะกลายเป็นบ้าไปแล้วถึงได้ทำให้พวกเธอตามไปสร้างปัญหาให้กับหลินเฟิงถึงอ่าวเทียนสุ่ย“ฮุ่ยหราน ต่อให้คุณจะไม่เชื่อผม แต่คุณเองก็น่าจะเชื่อเทคโนโลยีปัจจุบันอยู่ใช่ไหมล่ะ? ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพของอดีตสามีคุณที่กำลังทำเรื่องที่ไม่ควรอยู่ได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ นี่คุณยังจะปกป้องเขาอยู่อีกเหรอ นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปรึเปล่า? ”กู้เฉินจงใจเปลี่ยนสีหน้าให้ดูน่าสงสารแต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะส่ายหัว พูดขึ้นพร้อมกับโบกมือให้ “กู้เฉิน ภาพจากกล้องวงจรปิดที่คุณให้ฉันดูมันค่อนข้างพร่ามัวมากเลยไม่ใช่รึไง? ”“แล้วยังไง? ”ใบหน้าของกู้เฉินเริ่มกระตุก เขาพูดออกมาอย่างเหยียดหยาม “หรือต่อให้อดีตสามีของคุณจะเป็นหมอเทวดา แต่ก่อนหน้านี้เยว่หรูกับป้าอวี้เฟิ่งก็เคยล่วงเกินเขา แล้วตอนนั้นเขาก็เป็นคนพูดเองนี่ ว่าจะไม่รักษาให้เยว่หรูแล้วไม่ใช่รึไง? ”“คุณเองก็เห็นกับตาแล้ว นี่ยังจะเป็นเรื่องเท็จได้อยู่อีกงั้นเหรอ? ”เมื่อหลี่ฮุ่ยหราน
กู้เฉินโบกมือตบเข้าที่ขมับของหลี่ฮุ่ยหราน จนทำให้ดวงดาวปรากฏในดวงตาของหลี่ฮุ่ยหราน“ไม่ยอมดื่มสุราคารวะ กลับชอบสุราลงทัณฑ์! พาตัวไป! ”ในขณะที่หลี่ฮุ่ยหรานถูกพาตัวขึ้นรถบีเอ็ม ก็มีรถมายบัคคันหนึ่งวิ่งเข้ายังลานจอดรถของไดนาสตี้บาร์“หลินเฟิง อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานศพของคุณปู่ตระกูลหลี่แล้ว คุณจะไปร่วมงานด้วยไหม? ”ตรงที่นั่งข้างคนขับ ถังหว่านที่สวมเดรสสีม่วง พร้อมกับรูปร่างที่ยั่วยวน ก็มองไปทางหลินเฟิง“ไป”หลังจากผ่านไปสามวัน หลินเฟิงก็จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้เขาพยักหน้าและพูดออกไปว่า“คุณปู่คือผู้มีพระคุณของผม ไม่ว่าตระกูลหลี่จะเป็นยังไง ผมก็จะไปส่งคุณปู่เป็นครั้งสุดท้ายอยู่ดี”“อืม”ถังหว่านพยักหน้า ในขณะที่เธอกำลังหัวเราะและพูดคุยกับหลินเฟิงเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่กำลังจะสั่งในบาร์อยู่นั้น เธอก็ขมวดคิ้ว และสังเกตเห็นรองเท้าส้นสูงที่หล่นอยู่กลางลานจอดรถนี่มันค่อนข้างจะผิดปกติไปหน่อย“ทำไมตรงนี้ถึงมีรองเท้าส้นสูงหล่นอยู่ได้...... ”ในฐานะผู้หญิง ความรู้สึกของถังหว่านมักจะไวต่อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางมาก พอเธอเห็นขนาดและสไตล์ของรองเท้าส้นสูงข้างนี้ เธอก็ขมวดคิ้วทันทีรา