หวงติ่งคนนี้ก็หยิ่งมากเช่นกัน เห็นสวีเฉียงและคนอื่น ๆ เขาก็ไม่พอใจ และพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ว่าฉันบอกให้พวกแกอยู่แต่ในบ้านห้ามออกมาไม่ใช่รึไง?”“เรื่องตรงนี้ปล่อยให้พวกฉันจัดการก็พอแล้ว”เนื่องจากหวงติ่งหมัดคุนหลุนคนนี้มีพลังที่แข็งแกร่งมาก ทุกครั้งที่เขาลงมือก็มักจะส่งผลให้ร่างกายของคู่ต่อสู้นั้นระเบิด และมีเลือดกระจายอย่างมาก เพราะงั้นเขาจึงมักไม่ชอบให้มีคนมาดูอยู่ข้าง ๆ“ได้ ๆ ๆ”สวีเฉียงเองก็ไม่กล้าเถียง จากนั้นเขาก็ดึงจางซินเข้าบ้านไป“ฮุ่ยหราน ไปได้แล้ว ปล่อยให้คนที่สวีเฉียงพามาจัดการหลินเฟิงไป พวกเราไม่ต้องเข้าไปยุ่ง”จางกุ้ยหลานกำลังจะดึงหลี่ฮุ่ยหรานไป แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ หลี่ฮุ่ยหรานจะสะบัดมือจางกุ้ยหลานออก และถามแม่ของเธอออกไปว่า “แม่คะ! ที่หลินเฟิงพูดหมายความว่ายังไง? เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของหลินเฟิง? ”“นางเด็กอัปลักษณ์นั่น...... ”จางกุ้ยหลานรู้สึกสะอึกสะอักเกินกว่าจะพูด จากนั้นเธอก็โกรธขึ้นมา แล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้แกก็ไม่ต้องยุ่งแล้ว มันเกี่ยวข้องกับการกลับมาของตระกูลหลี่แห่งเจียงหนานของพวกเรา ฮุ่ยหราน แกแค่ต้องแต่งงานกับคุณชายกู้ก็พอแล้ว! ”“แม่คะ! ”หล
อยากที่จะกินทั้งสองฝั่งหลินเฟิงเหลือบมองรอยยิ้มที่น่าขยะแขยงของหวงติ่ง และตะโกนออกไปว่า“ไสหัวไปซะ”รอยยิ้มบนใบหน้าของหวงติ่งแข็งทื่อทันที“เจ้าหนู แน่ใจนะว่าแกอยากจะรนหาที่ตายจริง ๆ? ”“คนที่รนหาที่ตายนั่นมันแกต่างหาก” หลินเฟิงค่อย ๆ จ้องมองไปยังใบหน้าของหวงติ่งช้า ๆ และจ้องมองตรงเข้าไปในดวงตาของเขา แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าไม่อยากตาย ก็ถอยไปซะ”พอหวงติ่งได้ยิ่นสิ่งที่หลินเฟิงพูด เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฉันอยู่บนถนนสายนี้มาหลายปีแล้ว แล้วก็ยังไม่เคยเจอใครที่กล้าสั่งให้ฉันหลีกทางให้”“วันนี้แกก็ได้ยินแล้วนี่”หลินเฟิงยังคงไม่แสดงสีหน้า เมื่อหวงติ่งเห็นแบบนั้น เขาก็โกรธจนสูญเสียการควบคุมในที่สุด เขาคว้าไหล่ของหลินเฟิง และพุ่งหมัดชกเข้าไปตรงท้องของหลินเฟิง“รนหาที่ตายนักนะ! ”รอยยิ้มกระหายเลือดปรากฏบนขึ้นบนใบหน้าของหวงติ่ง ราวกับว่าเขาจะสามารถเห็นฉากที่ท้องของหลินเฟิงถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ด้วยหมัดที่พุ่งผ่านช่องท้องส่วนล่างของเขาในหมัดเดียว“บูม! ”แต่แล้วก็มีฉากที่เปลี่ยนให้รอยยิ้มบนใบหน้าของหวงติ่งให้กลายเป็นความประหลาดใจเกิดขึ้นหมัดคุนหลุนที่ไร้เทียมทานของเขา ในระยะห่างที่ใกล้ม
พอมาถึงจุดนี้ หลินเฟิงคือคนที่ทำลายแก๊งอันธพาลในตลาดมืดด้วยตัวคนเดียวจางกุ้ยหลานและคนอื่น ๆ ที่อยู่ในบ้านของตระกลูหลี่ที่มีฉนวนกันเสียง บวกกับเสียงฝนตกฟ้าร้อง จึงไม่มีใครได้ยินเสียงการสังหารหมู่อยู่ฝ่ายเดียวที่เกิดขึ้นด้านนอก รวมถึงเสียงกรีดร้องของพวกอันธพาลก็ด้วยพวกเขาคิดว่า แม้ว่าหลินเฟิงจะสู้ได้ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็รับมือกับคนมากมายขนาดนั้นไม่ได้อย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหมัดคุนหลุน หวงติ่งผู้โด่งดังในตลาดมืดเป็นผู้ลงมืออีกต่างหากอดีตสามีที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง คงได้ตายสมใจอยากแล้วไม่ใช่รึไง?จางกุ้ยหลานถึงขั้นนำไวน์แดงลาฟิตต์ที่เตรียมไว้ออกมาล่วงหน้า แล้วเทให้โจวอวี้เฟิ่งและคนอื่น ๆ จากนั้นก็รอฉลองให้กับร่างของหลินเฟิงที่หวงติ่งอุ้มเข้ามา“ซินซิน หนูได้ส่งรูปภาพไปให้ตระกูลถังแล้วหรือยัง? ”จางกุ้ยหลานมองไปทางจางซินจางซินพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้ม“ว่างใจเถอะค่ะคุณป้า แม้ว่าหนูจะเกลียดถังหว่านมากแค่ไหน แต่ขอแค่เธอได้รู้ว่าคนที่เธอเลี้ยงดูมาแอบเลี้ยงดูนางเด็กสารเลวนั่นอยู่โดยไม่บอกเธอล่ะก็ เธอจะต้องโกรธแน่นอนค่ะ”“แล้วตอนนี้พวกเราก็โยนร่างของหลินเฟิงให้เธอไปด้วย ไม่แ
“หลินเฟิง แกกล้าเหรอ!”จางกุ้ยหลานดูเหมือนคนเสียสติ แต่เพราะเสียงกรีดร้องของหลี่เยว่หรูถึงทำให้เธอได้สติกลับมา“ช่วยฉันด้วย! ฉันเจ็บ! เจ็บจะตายอยู่แล้ว! ”“เร็วเข้า! ”จางกุ้ยหลานชี้ไปทางหลินเฟิง แล้วสาปแช่งเขา“แกมันสัตว์นรก แกรู้มั้ยว่าคนที่แกเพิ่งทำร้ายไปเมื่อกี้คือใคร? เธอคือคนของตระกูลหลี่แห่งเจียงหนาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเจียงหนาน และเป็นสะใภ้ของผู้นำตระกูลเชียวนะ! ”“ตอนนี้แกก็ปล่อยเยว่หรูอย่างเชื่อฟังซะ แกยังพอจะขอความเมตตาได้ ฉันจะช่วยออกหน้าขอร้อง ให้ไว้ชีวิตแกได้นะ หากขืนแกยังดึงดันต่อไป แกได้ตายสมใจแน่! ”“ฮึ...... ”หลินเฟิงเห็นว่าจางกุ้ยหลานยังคงพูดเพ้อเจ้ออยู่ทั้งที่สถานการณ์ตรงหน้าเป็นแบบนี้ มือของเขาก็ยิ่งออกแรงมากขึ้น สีหน้าของเยว่หรูนั่นเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นทันที“ฮือ ๆ ๆ! ”หลี่เยว่หรูเหยียดฝ่ามือของเธอออกไป ราวกับต้องการขอความช่วยเหลือจากจางกุ้ยหลาน“แม่คะ แม่เลิกขู่เขาได้แล้วค่ะ เขามันบ้าไปแล้ว! ”จางซินคว้าป้าของเธอเอาไว้ แล้วตะโกนใส่สวีเฉียงเพื่อให้ไปเอาตัวของหลินเสวี่ยฮุ่ยออกมาจากห้องใต้ดิน“รีบไปสิ! ถ้ายังไม่ไปล่ะก็ หลี่เยว่หรูได้ตายจริง
“ใช่ครับ ใช่ ๆ ผมคือสวีเฉียง คุณหลิน ก่อนหน้านี้ผมได้ล่วง......”ก่อนที่สวีเฉียงจะทันได้พูดจบ หลินเฟิงก็พุ่งหมัดออกไปหมัดนี้มาพร้อมกับการไหลเวียนของชี่แท้ ราวกับสายฟ้าที่ทะลุผ่านอากาศ ก่อนที่หมัดจะกระแทกเข้าไปที่หน้าอกของสวีเฉียงจนลอยปลิวออกไปร่างใหญ่ของเขากระแทกเข้ากำแพงวิลล่าตระกูลหลี่อย่างแรง ตันเถียนของเขาพังทลาย หน้าอกของเขายุบตัวลง ลูกตากลอกเป็นสีขาวเห็นได้ชัดว่ามีลมออกมาเยอะมาก แต่ลมที่เข้าไปกลับมีน้อย“ว้าย——!”เมื่อเห็นว่าสวีเฉียงถูกหลินเฟิงต่อยตัวปลิว จางซินก็กรีดร้องออกมา เอามือกุมหัวตัวเองเอาไว้แล้วคุกเข่าลงกับพื้น จากนั้นเธอก็ไม่กล้าพูดจากรุนแรงออกมาอีกเธอไม่เหมือนกับป้าของเธอ เธอได้เห็นตัวตัวตนของหลินเฟิงอย่างแท้จริงเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา ถ้าขืนตัวเองยังกล้าพูดออกไปอีก คนต่อไปที่จะต้องตายก็คงเป็นเธอ“หลินเฟิง แก! ”จางกุ้ยหลานทั้งโกรธและหวาดกลัว เธอชี้ไปทางหลินเฟิงด้วยนิ้วที่สั่นเทา พร้อมกับสาปแช่ง “ดีนี่ แกมันพวกตาขาว ไม่เพียงแค่ไม่รักษาให้เยว่หรู วันนี้แกถึงขั้นกล้ามาก่อความวุ่นวายในวิลล่าตระกูลหลี่อีก! ”“แล้วฆ่าคนต่อหน้าพวกเราอีก! ”“ตระกูลหลี่แห่งเจ
ถังหว่านพาคนบุกเข้ามายังตระกูลหลี่ ทันทีที่มาถึง เธอก็เห็นกองศพกระจัดกระจายอยู่เต็มลานหน้าบ้าน ใจของเธอเต้นแรง ทั้งยังได้ยิ่นเสียงปืนดังขึ้นมาจากในตัวตึกอีกหลังจากที่เธอพาฉินอิ๋งเข้าไปในวิลล่าตระกูลหลี่แล้ว ถังได้เห็นร่างของหลี่เยว่หรูถูกยัดอยู่ตรงมุมห้อง แล้วก็ยังมีจางซินที่นั่งกุมหัวตัวเองเอาไว้นอกจากนี้ยังมีโจวอวี้เฟิ่งที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น แล้วก็จางกุ้ยหลานที่ถือแจกันเอาไว้ในมือพร้อมกับสีหน้าที่ดูซีดเซียว“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เสวี่ยฮุ่ยอยู่ที่ไหน? ! ”จางกุ้ยหลานกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง ทันทีที่เห็นถังหว่านที่กำลังจ้องมองเธออยู่ เธอก็รู้สึกราวกับว่าดาวช่วยชีวิตของเธอมาถึงแล้วเธอฝืนยิ้มแล้วพูดกับถังหว่านออกไปว่า“คุณถังคะ คุณ......คุณรู้มั้ยคะว่าหลินเฟิงน่ะ หลินเฟิงเขา......เขาแอบเลี้ยงดูนางเด็ก...... ”“ผลัวะ! ”ถังหว่านไม่คิดที่จะฟังจางกุ้ยหลาน เธอตบเข้าไปที่ขมับทันที“น้องสาวของฉัน หลินเสวี่ยฮุ่ยอยู่ที่ไหน? ”“หากเกิดอะไรขึ้นกับเสวี่ยฮุ่ยล่ะก็ ฉันจะเอาชีวิตของพวกแกทุกคน! ”เมื่อเผชิญกับความโกรธของถังหว่าน จางกุ้ยหลานก็รู้สึกหวาดกลัวมาก ไม่กล้าแม้แต่จะปริป
“คนดี ๆ ไม่ควรมีจุดจบแบบนี้”“ใช่แล้ว คนดี ๆ ไม่ควรที่จะมีจุดจบเช่นนี้”ถังหว่านเองก็ถอนหายใจเช่นกันหลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง ถังหว่านก็เหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงถามหลินเฟิง พร้อมกับมองไปทางหลินเฟิง “หลี่ฮุ่ยหราน เธอล่ะ? เธอรู้รึเปล่าว่าเสวี่ยฮุ่ยถูกจางกุ้ยหลานลักพาตัวไป? ”“ผมเองก็ไม่รู้” หลินเฟิงส่ายหัว“อย่างงั้นเหรอ...... ”หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ถังหว่านก็ยืนขึ้น และจูบหน้าผากของหลินเฟิงเบา ๆ เธอลูบหัวของหลินเฟิงแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“ถ้าเช่นนั้น ผู้คุ้มกันหลินเฟิง ฉันในฐานะประธานกรรมการของบริษัทเภสัชกรรมเชิงถัง ฉันอนุญาตให้คุณหยุดงานหนึ่งสัปดาห์เป็นกรณีพิเศษ หลังจากหนึ่งสัปดาห์แล้ว จะต้องกลับมาทำงานพร้อมกับความสดใสนะ”“ฮึ...... ” หลินเฟิงหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา “ขอบคุณมานะ ถังหว่าน”“ฮึ ๆ การดูแลสุขภาพของพนักงาน เป็นส่วนหนึ่งของงานของฉันในฐานะหัวหน้า เอาล่ะ มีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันมานะ”ถังหว่านยิ้มเล็กน้อยพลางเดินออกจากห้องของหลินเฟิง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่เปิดประตูจะพบเข้ากับหลินเสวี่ยฮุ่ยที่กำลังพยายามเงี่ยหูแอบฟังอยู่“เสวี่ยฮุ่ย ที่เธอกำลังทำอะไรอยู
อีกทั้งยังใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของตัวเอง เพื่อขอร้องให้หลินเฟิงไว้ชีวิตตระกูลหลี่“ขอแค่จากนี้ไปตระกูลหลี่ไม่มายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก งั้นฉันก็ขี้เกียจที่จะไปคิดบัญชีกับพวกเขาด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นนไป ฉัน หลินเฟิง จะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ต่อกันอีก”นี่ก็เป็นความปรารถนาสุดท้ายของคุณปู่ด้วยเช่นกันสุดท้ายคุณปู่ก็เข้าใจตระกูลหลี่ในตอนนี้ ไม่คู่ควรกับหลินเฟิงเลยด้วยซ้ำไม่เหมือนกับสิ่งที่จางกุ้ยหลานพูด ที่บอกว่าหลินเฟิงไม่คู่ควรกับหลี่ฮุ่ยหราน แต่เป็นหลี่ฮุ่ยหรานต่างหากที่ไม่คู่ควรกับหลินเฟิงหลังทานอาหารเช้าเสร็จ หลินเฟิงก็เริ่มฝึกซ้อมตามปกติหลังจากที่เขาฝึกซ้อมจนเสร็จแล้ว เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นพอดีเป็นเหยาปินที่โทรมา“เหยาปินเหรอ? โทรหาฉันมีเรื่องอะไร? ”หลินเฟิงรับสายโทรศัพท์ และเสียงเร่งด่วนของเหยาปินก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง“อาจารย์หลิน......เอ้ย ไม่ใช่ คุณหลินครับ เกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ! ”“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมถึงได้ตื่นตระหนกขนาดนี้? ” หลินเฟิงขมวดคิ้ว“โอวหยางชิ่งครับ! ”“โอวหยางชิ่ง......เธอหนีไปแล้ว! ”“หนีไปแล้วงั้นเหรอ? ” สีหน
ไฝเสน่ห์ที่อยู่ใต้ตาของเธอ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเธอเป็นพิเศษเมื่อเผชิญกับสาวสวยแบบนี้เปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่นมาก็คงจะต้านทานไว้ไม่อยู่“หลินเฟิง เป็นอะไรไหม?”หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่บนหน้าจอสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่เป็นไร”หลินเฟิงส่ายหน้า เขาไม่อยากให้หลี่ฮุ่ยหรานเห็นท่าทางในตอนนี้ ไม่งั้นจะต้องหึงหวงและเข้าใจผิดแน่นอนแต่ถึงแม้หลินเฟิงจิตใจฟุ้งซ่าน แต่ไม่ถึงกับหลงกลของเทพธิดาฉู่คนนี้จริงๆหลินเฟิงเข้าใจอย่างสุดซึ้งผู้หญิงที่ยิ่งสวย ลับหลังก็ยิ่งอันตรายยิ่งเป็นผู้หญิงที่รุกหนัก ก็ยิ่งมีหวังผลต่อคุณเทพธิดาฉู่ปรากฏตัวในสายตาของหลินเฟิงหลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เป็นการกระทำที่เธอตั้งใจเธอหาหลินเฟิง อีกทั้งรุกเข้าหาถึงขนาดนี้ ต้องหวังผลอะไรต่อเขาอย่างแน่นอน“คุณฉู่ ที่ดินที่คุณต้องการพวกเราจัดการเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ที่คุณพูดว่าจะพัฒนาเมืองสถานบันเทิง โครงการนี้ฉันก็ทำหนังสือแผนงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว”“นี่คือรายละเอียดแบบแผนของหนังสือแผนงาน คุณดูสิคะ”หลี่ฮุ่ยหรานเปิดพาวเวอร์พอยต์ออกมา เธอใช้น้ำเสียงที่ชำนาญการแนะนำแผนการให้กับเท
หลี่ฮุ่ยหรานกระแอมเล็กน้อยและพูดว่า:“ฉันส่งที่อยู่ไปให้คุณแล้ว คุณออกมาเดี๋ยวนี้เลยเถอะ”“อ่อใช่ การร่วมมือต้องให้คุณเซ็นชื่อ แต่ต้องหลังจากที่พวกเราประชุมผ่านวิดีโอกันเสร็จ”“เข้าใจแล้วยัง?”“เข้าใจ”หลินเฟิงพยักหน้าหลังจากวางโทรศัพท์ หลินเฟิงหันหลังกลับไปมองคฤหาสน์ที่เงียบสงุด จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆวุ่นวายอยู่นานก็เพื่อที่จะมาดื่มชาหนึ่งแก้วหลินเฟิงไม่เข้าใจแต่เขาไม่มีเวลาให้ยืดเยื้อ จึงรีบสตาร์ทรถมายบัค เร่งขับไปยังที่อยู่ที่หลี่ฮุ่ยหรานส่งให้เขาเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงหลินเฟิงเดินเข้าไปในร้านกาแฟร้านหนึ่ง สายตามองไป ก็เห็นใบหน้าที่เขาคุ้นเคยคนหนึ่ง“คุณคือ...คนที่ถนนเสรี...”หลินเฟิงตกตะลึงเล็กน้อยในตอนนี้ผู้หญิงที่นั่งไขว้ห้าง สวมชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำ เผยผิวพรรณที่ขาวผ่องออกมา เธอก็คือเทพธิดาฉู่ในคืนนั้นที่ให้เบาะแสกับเขาที่ถนนเสรีเธอยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างสง่างาม และจิบหนึ่งคำเผยรอยยิ้มที่ยั่วยวนที่สุดไปทางหลินเฟิงที่เข้ามาในร้านถึงขั้นที่ยังอ้าริมฝีปากแดง เลียนิ้วมือของตัวเอง“คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอหน้ากันไวขนาดนี้นะหนุ่มหล่อ”เธอยิ้มสวยหยาดเยิ้มหลินเฟิง
ในที่สุดหลินเฟิงก็ไม่สามารถระงับความสงสัยในใจได้ ก่อนจะขมวดคิ้วพร้อมกับถามขึ้น“ทำไม? ไม่ได้งั้นเหรอ?”ราชาหลินแห่งตอนใต้จิบชาอีกครั้ง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ดูเหมือนว่าทักษะของหยินหลิงก็ดีขึ้นไม่น้อย หลังจากนี้ลูกก็สามารถให้เธอชงให้ลูกดื่มได้”หลินเฟิงเร่งรีบมาตลอดทาง พร้อมกับครุ่นคิดเรื่องของราชาหลินแห่งตอนใต้ก่อนจะนึกถึงสายตาของเขาที่แทบจะขอร้องอ้อนวอนแล้วยังบอกว่าจุดจบของตัวเองใกล้เข้ามาแล้ว....“เหอะ!”หลินเฟิงทำเสียงออกมาอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินจากไปเดิมทีคิดว่าคราวนี้เขาจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าชายคนนี้จะยังเหมือนเดิม ทำเหมือนตัวเองเป็นเด็กและไม่พูดไม่อธิบายอะไรสักอย่าง“คุณลุง แบบนี้...แบบนี้ดีแล้วงั้นเหรอ?”เมื่อเห็นหลินเฟิงจากไป หยินหลิงก็มองไปทางราชาหลินแห่งตอนใต้ด้วยความกังวลเล็กน้อย“มีอะไรที่ไม่ดีงั้นเหรอ?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นมาแล้วจิบอีกครั้ง“ไม่ต้องห่วง ฉันได้เก็บสิ่งที่ควรจะเหลือไว้ให้กับเจ้าเด็กสารเลวนั้นแล้ว บางครั้งการไม่รู้อะไรเลยก็ถือว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง”“ตามนิสัยของเด็กคนนั้น หากบอกเขาไปในตอนนี้ ก็กลัว
วันรุ่งขึ้น หลินเฟิงก็เดินออกจากบ้านตระกูลถังเพียงลำพังเขาไม่ได้บอกใครว่าตัวเองไปที่ไหน แล้วแอบขับรถไปที่หน้าวิลล่าแห่งหนึ่งในเขตชานเมืองที่เมืองจิงวิลล่าแห่งนี้สร้างขึ้นในป่าไผ่ ถึงแม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็เงียบสงบและหรูหรา แล้วก็ไม่มีความเร่งรีบที่วุ่นวายเหมือนอย่างในเมืองแค่ได้เห็นวิลล่าแห่งนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกสงบมากขึ้นไม่น้อยเขาผลักประตูเข้าไป และยังไม่ทันได้เข้าห้องโถง ก็ไม่กลิ่นชาจาง ๆเพียงได้ยินเสียงเก่า ๆที่คุ้นเคยดังมาจากในประตู“มาแล้วเหรอ”“อืม”หลินเฟิงก้าวเข้าไปในห้องเขามองเห็นราชาหลินแห่งตอนใต้พ่อของตัวเอง ที่ในเวลานี้กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงหลัก และล้อมรอบด้วยกลิ่นหอมจาง ๆของชาที่เล็ดลอดออกมาจากชามชาโบราณในมือของเขา“พี่ชาย พี่นั่งสิ”ร่างสวยงามที่ไม่รู้ว่าเดินมาจากทางไหน เธอถือถ้วยชาแบบเดียวกัน ก่อนจะวางลงอีกด้านหนึ่งของโต๊ะที่อยู่ตรงข้ามกับราชาหลินแห่งตอนใต้หลินเฟิงหันกลับไปมอง ร่างนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหยินหลิงที่เคารพนอบน้อม“......”เดิมทีหลินเฟิงอยากจะพูดขอบคุณเรื่องของถังว่านหลี่ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร จึงทำได้เพียงพยักหน้า ก่อนจะนั่งลงอีกด้านหนึ่ง
ถังว่านหลี่กล่าวต่อไปว่า :“ในวันนั้นที่ฉันถูกกลุ่มพันธมิตรบู๊พาตัวไป เป็นหลินเฟิงที่ยืนขึ้นและขู่หยินหลิง ผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ หากเธอไม่ตอบตกลงที่จะปฏิบัติต่อฉันอย่างดี ตอนนั้นหลินเฟิงก็จะแตกหักกับผู้นำ!”“สุดท้าย แม้ว่าผู้นำของเมืองจิงจะโกรธอยู่ แต่ก็ปกป้องฉันไว้”“เธอพูดเรื่องของหลินเฟิงกับฉันเยอะมาก....”“จริง ๆแล้วพวกเราตระกูลถัง ไม่เหมาะสมกับหลินเฟิงเลย”ถังว่านหลี่มองหลินเฟิงด้วยสายตาซับซ้อน จากนั้นก็เช็ดน้ำตา ก่อนจะพูดอย่างขมขื่นว่า :“หลินเฟิง ต่อจากนี้ไปจะมอบถังหว่านให้กับนาย ไม่ลำบากใจใช่ไหม?”“ไม่ลำบากใจครับ”หลินเฟิงพยักหน้า ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเช่นกัน“ไม่ลำบากใจก็ดี....”ถังว่านหลี่ถอนหายใจ จากนั้นก็พูดว่า :“หลินเฟิง จากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ฉันถังว่านหลี่ที่อยู่ตรงนี้ จะเป็นครอบครัวของนาย”“อืม”จริง ๆแล้วหลินเฟิงรู้สึกผิดหวังกับตระกูลถังแต่ท่าทางของถังว่านหลี่กับถังเจี้ยนหยวน ในที่สุดก็ทำให้หลินเฟิงกลับมาอบอุ่นในหัวใจ“สุดท้าย หลินเฟิง”ถังว่านหลี่เอ่ยขึ้นเบา ๆว่า : ผู้นำกลุ่มพันธมิตรหยินหลิงขอให้ฉันนำคำพูดมาให้คุณด้วย”“ข้อความ...อะไร?”
มองสายตาซาบซึ้งใจของถังว่านหลี่ หลินเฟิงยิ้มแล้วส่ายหน้าแสดงออกว่าไม่เป็นไรแต่ตอนนี้ในใจเขากลับเกิดความรู้สึกผิดต่อหยินหลิงเล็กน้อยคิดว่าปกป้องถังว่านหลี่เอาไว้ หยินหลิงก็คงต้องแบกรับความลำบากเอาไว้มากมาย“ว่านหลี่ ครั้งนี้นายสามารถกลับมาได้ ทั้งหมดเป็นเพราะความพยายามของหลงยวนคุณชายของตระกูลหลง“ถ้าหากว่าไม่ใช่เขามีคุณธรรมลงโทษคนในครอบครัวที่ทำผิด ฆ่าน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง เพื่ออธิบายที่ไปที่มาของเรื่องราว”“ไม่แน่ตอนนี้นายก็อาจจะยังอยู่ในคุกก็ได้!”ในตอนนี้ คนระดับสูงของตระกูลถังออกหน้าเขาแสดงท่าที่ไม่เห็นด้วยต่อการกระทำที่ถังว่านหลี่ซาบซึ้งต่อหลินเฟิง“จริงด้วยอาถังว่านหลี่ อาขอบคุณหลินเฟิงทำไม เป็นคุณชายหลงยวนที่ส่งคนมาจัดการปัญหาโดยเฉพาะ นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน อาถึงกลับมาได้”“เขาพูดจาดีๆ กับผู้ว่ารัฐมนตรีเมืองจิงมากมาย”“จุ๊จุ๊ ดูท่าคุณชายหลงยวนมีความจริงใจต่อตระกูลถังของเรา พบว่าน้องสาวของตัวเองได้ทำร้ายคุณ จึงฆ่าญาติที่ทำผิดโดยตรง!”“เกรงว่าก็คงเป็นเพราะอาว่านหลี่เป็นพ่อของพี่ถังหว่านสินะ?”“เฮ้อ คุณชายหลงยวนก็ลุ่มหลงต่อพี่ถังหว่านมาก! น่าเสียดายพี่ถังหว่านจ
“ไม่...เขาฆ่าหลงเซียวของตระกูลหลง นั่นเป็นถึงลูกหลานสายตรงของตระกูลหลงเชียวนะ ตระกูลหลงไม่มีทางปล่อยตระกูลถังของเราไปอย่างแน่นอน!”“เจี้ยนหยวน นายต้องให้ความสำคัญกับภาพรวมนะ!”“ให้ความสำคัญกับภาพรวมงั้นเหรอ...”ถังเจี้ยนหยวนหยุดชะงักเล็กน้อยจากนั้นบนใบหน้าก็เผยสีหน้าเยาะหยันออกมาเล็กน้อย“ไม่สู้ คุณดูจดหมายที่กลุ่มพันธมิตรบู๊ส่งมาก่อนดีไหม?”ถังเจี้ยนหยวนนำจดหมายที่ถูกเปิดมาแล้วยื่นให้กับถังเทียนเต๋อ“หนังสือแจ้งตระกูลถัง”“ข้าพเจ้าผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิง เป็นเพราะก่อนหน้านี้เข้าใจถังว่านหลี่ตระกูลถังผิดไป จึงขออภัยตระกูลถังอย่างสุดซึ้ง...”ถังเทียนเต๋อจ้องมองเนื้อหาที่อยู่บนจดหมายยิ่งดู สีหน้ายิ่งไม่เป็นธรรมชาติ หลังจากที่เห็น “ลายเซ็นของผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิง” ตัวอักษรสุดท้ายคนทั้งคนก็ทรุดนั่งลงบนพื้นงุนงงไปหมด“พ่อ มันคือจดหมายอะไร? ในจดหมายเขียนว่ายังไงเหรอ?”ถังว่านเฉวียนรีบถามขึ้นมา“มันคือ...คือจดหมายที่ผู้ว่ารัฐมนตรีเขียนเองกับมือ”ถังเทียนเต๋อกลืนน้ำลาย และพูดอย่างยากลำบาก:“เขารู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวแล้ว อีกทั้ง...อีกทั้งทางด้านตระกูลหลงเองก็ยอ
แต่โชคดีที่ถังจวินเตรียมป้องกันไว้ตั้งนานแล้วเขาปล่อยพลังชี่แท้ออกมา สกัดกั้นเอาไว้สุดพลังกระสุนเม็ดนี้ถึงแม้จะยังคงยิงโดนหน้าอกของเขา แต่ไม่ได้สร้างความบาดเจ็บให้กับเขามากเท่าไหร่นักเพียงแค่กระเทือนกระดูกซี่โครงของเขาจนหักถึงแม้จะสภาพย่ำแย่ แต่อย่างน้อยถังจวินก็รับไว้ได้เห็นถังหว่านท่าทางแน่วแน่แบบนี้ ถังเทียนเต๋อเตรียมจะเปลี่ยนวิธีการสายตาของเขามองข้ามถังหว่าน มองไปทางหลินเฟิงแล้วพูดว่า8“หลินเฟิง นายฆ่าหลงเซียวลูกหลานสายตรงของตระกูลหลง ความผิดมหันต์แบบนี้ นายยังอยากจะสร้างความเดือดร้อนให้ตระกูลถังของฉันงั้นเหรอ?!”“......”“หยุดเถอะ”ในที่สุดหลินเฟิงก็ลงมือแล้วเพียงแต่มือที่เขาลงมือนั้น จับไปที่ปากกระบอกปืนขของถังหว่าน เขาส่ายหน้าให้ถังหว่านช้าๆถ้าหากปล่อยให้เรื่องราวดำเนินต่อไปแบบนี้เกรงว่าสุดท้ายคงจะวุ่นวายจนไม่สามารถจบเรื่องราวได้ความคิดของถังหว่านเขาเข้าใจ แต่เขาก็ไม่อยากให้ถังหว่านฆ่าคน“คนที่ฆ่าหลงเซียวไม่ใช่ฉัน แต่...ความผิดนี้ฉันสามารถรับเอาไว้ได้”หลินเฟิงมองไปทางคนตระกูลถัง ยื่นมือออกไปห้ามถังหว่านที่จะพูดคำออกมาด้วยความร้อนใจและหัวเราะเยาะพูดว่
เมื่อเขาเห็นว่าถังเทียนเต๋อออกคำสั่ง ก็ไม่มีความคิดอย่างอื่นอีก ก่อนจะโบกมือเรียกให้หน่วยลับของตัวเองที่อยู่ใกล้ตัว จับถังหว่านและหลินเฟิงให้ได้“ออกไป!”เมื่อเห็นว่าหน่วยลับที่อยู่รอบ ๆกำลังเข้ามาใกล้พวกเขามาขึ้นเรื่อย ๆในที่สุดถังหว่านก็โมโหแล้วเธอหันกลับไปคว้าปืนพกสีเข้มออกมาจากใต้หมอนของตัวเอง แล้วเล็งไปที่ถังจวิน“หากพวกคุณกล้าก้าวมาอีกก้าวหนึ่ง ฉันก็จะฆ่าพวกคุณ!”“ยังมีพวกแก ถังเทียนเต๋อ ไอ้แก่หนังเหนียวอย่างแก ถ้าพวกเขากล้าเข้ามาอีกก้าวหนึ่ง ฉันก็จะฆ่าแกก่อน!”“ถังหว่าน! เธอจะกบฏงั้นเหรอ?!”ถังเทียนเต๋อพูดด้วยความโกรธ“ถังหว่าน วางอาวุธซะ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่!”ถังว่านเฉวียนก็ตะโกนอย่างเด็ดขาด“เหอะ แน่จริงก็ยิงฉันให้ตายเลย ฉันไม่เชื่อว่าวันนี้เธอจะกล้ายิงฉัน”ถังว่านเชวีย ลูกชายคนรองของถังเทียนเต๋อยิ้มเยาะ แล้วเดินตรงไปหาถังหว่าน“ปัง!”ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน คิดไม่ถึงว่าถังหว่านจะเหนี่ยวไกปืนไปที่หน้าอกของถังว่านเชวียโดยตรงหลังจากถูกยิง ถังว่านเชวียยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆรอจนเขาก้มหน้ามองดูหน้าอกตรงกลางหัวใจของตัวเอง ที่มีเลือดไหลออกมา พร้อมกับแสด