เป็นอย่างที่หลินเฟิงคิดโอวหยางชิ่งไม่ได้ติดต่อกับตระกูลเซี่ยงเลยด้วยซ้ำ เธอหนีกลับไปที่สำนักเสินฉือตามลำพังด้วยความลำบากใจเธออาศัยฐานะลูกสาวของผู้อาวุโสของเธอ ทันทีที่เธอกลับมาที่สำนัก เธอก็เริ่มอ่านบันทึกของสำนักต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้งทันทีที่เธอพบสาเหตุของเมื่อสามปีก่อนที่สำนักเสวียนเทียนถูกทำลาย ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความโลภทันทีหยวนชี่ทั้งห้ากลายเป็นอมตะ!โอกาสที่จะกลายเป็นอมตะอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเมื่อเทียบกับสิ่งล่อตาล่อใจที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็นอมตะ คนไร้ค่าอย่างเซี่ยงหลงน่ะเหรอจะมาเทียบได้?ว่ากันว่าทั้งสองเป็นแค่แฟนกันเท่านั้น กระทั่งยังไม่ได้แต่งงานกันเลยด้วยซ้ำเธอจะปล่อยโอกาสนี้ไปตกอยู่ในมือของสำนักจิ่วเซียวได้อย่างไร?พอนึกถึงเรื่องนี้ โอวหยางชิ่งก็เริ่มที่จะเลี่ยงขอความช่วยเหลือจากศิษย์พี่ศิษย์น้องของเธอด้วยเช่นกัน เธอก้าวเดินเข้าไปในห้องใต้หลังคาของพ่อเธอ ที่ซึ่งเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักเสินฉือ พร้อมกับร้อยยิ้มที่ดูมีเลศนัย......ไดนาสตี้บาร์ในเจียงหลิงร่างที่สวยงามสวมชุดสีดำ เผยให้เห็นแผ่นหลังสีขาวราวหิมะของเธอ กำลังนอนอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์อย่างเมามาย
เธอควักปึกกระดาษที่เรียบร้อยออกมา ฟาดมันลงบนบาร์ แล้วพูดแบบติด ๆ ขัด ๆ “รับไปสิ นี่คือพินัยกรรมของคุณปู่ ด้วยพินัยกรรมฉบับนี้ พวกคุณก็จะได้กลับคืนสู่สถานะตระกูลหลี่แห่งเจียงหนานที่พวกคุณฝันถึงได้แล้ว”จางซินมองไปรอบ ๆ สายตามองที่พินัยกรรมพร้อมกับมือที่ยื่นออกไปคว้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ค่ะ ดูสิว่าพี่กำลังทำอะไรอยู่ พินัยกรรมของคุณปู่ไม่สำคัญเลยสักนิด พวกเราก็แค่เป็นห่วงพี่นะคะ”“นั่นสิ” จางกุ้ยหลานขมวดคิ้ว “ลูกแม่ ถ้าขืนลูกยังปล่อยตัวแบบนี้อยู่ เธอยังคงเสื่อมโทรมต่อไป หลี่ซื่อกรุ๊ปก็จะ...... ”“ป้าจางครับ ซินซิน”ในเวลานี้ ก็มีชายร่างสูงสวมชุดสูทเดินเข้ามาจากทางประตูบาร์ จางกุ้ยหลานมองแวบหนึ่งแล้วรีบปิดปากของเธอทันที ราวกับว่าเธอเห็นผู้ช่วยชีวิตของเธอเข้าให้แล้ว“คุณชายกู่ ในที่สุดคุณก็มาสักที คุณช่วยโน้มน้าวฮุ่ยหรานทีเถอะ พวกเราโน้วน้าวเธอมาตั้งนานแล้วก็ไม่มีประโยชน์”“เอาเถอะครับป้าจาง ทุกคนกลับไปก่อนเถอะนะครับ ฮุ่ยหรานเดี๋ยวผมจัดการเอง”ที่แท้คนที่มาก็คือกู้เฉิน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อมองดูหลี่ฮุ่ยหรานที่จมอยู่กับความทนทุกข์แบบนี้ ร่องรอยของความน่ารังเกียจที
ตัดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดออก ทำให้ภาพของหลินเฟิงจากกล้องวงจรปิดดูเหมือนจงใจลวนลามหลี่เยว่หรูเป็นอย่างที่คิด ทันทีที่เอาให้จางกุ้ยหลานและโจวอวี้เฟิ่งดู พวกเธอก็เกือบจะกลายเป็นบ้าไปแล้วถึงได้ทำให้พวกเธอตามไปสร้างปัญหาให้กับหลินเฟิงถึงอ่าวเทียนสุ่ย“ฮุ่ยหราน ต่อให้คุณจะไม่เชื่อผม แต่คุณเองก็น่าจะเชื่อเทคโนโลยีปัจจุบันอยู่ใช่ไหมล่ะ? ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพของอดีตสามีคุณที่กำลังทำเรื่องที่ไม่ควรอยู่ได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ นี่คุณยังจะปกป้องเขาอยู่อีกเหรอ นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปรึเปล่า? ”กู้เฉินจงใจเปลี่ยนสีหน้าให้ดูน่าสงสารแต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะส่ายหัว พูดขึ้นพร้อมกับโบกมือให้ “กู้เฉิน ภาพจากกล้องวงจรปิดที่คุณให้ฉันดูมันค่อนข้างพร่ามัวมากเลยไม่ใช่รึไง? ”“แล้วยังไง? ”ใบหน้าของกู้เฉินเริ่มกระตุก เขาพูดออกมาอย่างเหยียดหยาม “หรือต่อให้อดีตสามีของคุณจะเป็นหมอเทวดา แต่ก่อนหน้านี้เยว่หรูกับป้าอวี้เฟิ่งก็เคยล่วงเกินเขา แล้วตอนนั้นเขาก็เป็นคนพูดเองนี่ ว่าจะไม่รักษาให้เยว่หรูแล้วไม่ใช่รึไง? ”“คุณเองก็เห็นกับตาแล้ว นี่ยังจะเป็นเรื่องเท็จได้อยู่อีกงั้นเหรอ? ”เมื่อหลี่ฮุ่ยหราน
กู้เฉินโบกมือตบเข้าที่ขมับของหลี่ฮุ่ยหราน จนทำให้ดวงดาวปรากฏในดวงตาของหลี่ฮุ่ยหราน“ไม่ยอมดื่มสุราคารวะ กลับชอบสุราลงทัณฑ์! พาตัวไป! ”ในขณะที่หลี่ฮุ่ยหรานถูกพาตัวขึ้นรถบีเอ็ม ก็มีรถมายบัคคันหนึ่งวิ่งเข้ายังลานจอดรถของไดนาสตี้บาร์“หลินเฟิง อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานศพของคุณปู่ตระกูลหลี่แล้ว คุณจะไปร่วมงานด้วยไหม? ”ตรงที่นั่งข้างคนขับ ถังหว่านที่สวมเดรสสีม่วง พร้อมกับรูปร่างที่ยั่วยวน ก็มองไปทางหลินเฟิง“ไป”หลังจากผ่านไปสามวัน หลินเฟิงก็จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้เขาพยักหน้าและพูดออกไปว่า“คุณปู่คือผู้มีพระคุณของผม ไม่ว่าตระกูลหลี่จะเป็นยังไง ผมก็จะไปส่งคุณปู่เป็นครั้งสุดท้ายอยู่ดี”“อืม”ถังหว่านพยักหน้า ในขณะที่เธอกำลังหัวเราะและพูดคุยกับหลินเฟิงเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่กำลังจะสั่งในบาร์อยู่นั้น เธอก็ขมวดคิ้ว และสังเกตเห็นรองเท้าส้นสูงที่หล่นอยู่กลางลานจอดรถนี่มันค่อนข้างจะผิดปกติไปหน่อย“ทำไมตรงนี้ถึงมีรองเท้าส้นสูงหล่นอยู่ได้...... ”ในฐานะผู้หญิง ความรู้สึกของถังหว่านมักจะไวต่อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางมาก พอเธอเห็นขนาดและสไตล์ของรองเท้าส้นสูงข้างนี้ เธอก็ขมวดคิ้วทันทีรา
“ทำไม? นี่คุณไม่สนใจหลี่ฮุ่ยหรานแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ? ”พอถังหว่านเห็นว่าหลินเฟิงขับรถเข้าไปในลานจอดรถแบบไม่แยแส เธอก็กระพริบตาทันทีหลินเฟิงไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ขับรถเข้าไปจอด ลงจากรถ แล้วเดินตรงไปที่ประตูของไดนาสตี้บาร์“นี่ยังโกรธอยู่เหรอ? ”ถังหว่านขวางทางของหลินเฟิง และพูดด้วยรอยยิ้ม “แม้ว่าฉันจะถือว่าหลี่ฮุ่ยหรานเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อถ้าชนะเธอเพราะแบบนี้ ไปเถอะ ขึ้นรถ”“ยังไงซะ ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าตระกูลกู้แห่งเจียงหนานกำลังพยายามทำอะไรอยู่กันแน่”“ถ้าคุณอยากไปก็ไปเถอะ” หลินเฟิงกำลังจะเดินอ้อมถังหว่านเข้าไป แต่ก็กลับถูกถังหว่านรั้งเอาไว้“การที่คุณวิ่งหนีแบบนี้มันแก้ปัญหาไม่ได้หรอกนะ ถ้าคุณไม่ตามฉันไป แล้วถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน บอดี้การ์ดแบบคุณก็แบกรับเอาไว้ไม่ไหวหรอกนะ”เมื่อเห็นดวงตาที่สวยงามของถังหว่านที่ยิ้มพร้อมกับสีหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ หลินเฟิงจึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้แพ้ให้ผู้หญิงคนนี้แล้วจริง ๆครั้งนี้ถังหว่านเป็นคนขับรถ ไม่นานก็ตามรถบีเอ็นทัน รถหยุดอยู่ตรงทางแยกเพื่อรอสัญญาณไฟจราจร“นี่พวกเขาจะไปไหนกัน? ”“ไร้สาระ”
แต่ก่อนหน้านี้กู้เฉินได้เสนอเงื่อนไขความร่วมมือที่น่าดึงดูดใจมาก ซึ่งทำให้เขาตื่นเต้นมากเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงมาหารือเรื่องนี้กับกู้เฉิน“ถูกต้องครับ ทางด้านของตระกูลเซี่ยงก็ถูกผมโกรธใส่จนตอนนี้พวกเขารับปากเรียบร้อยแล้วด้วย”“ยึดเอาร้านเภสัชกรรมเชิงถังมา แล้วขับไล่ถังหว่านผู้หญิงคนนั้นไปซะ จากนั้นก็จะได้ฆ่าหลินเฟิงไอ้น่าละอ่อนนั่นไปด้วยเลย”“ตระกูลเซี่ยงเหรอ? ”สีหน้าของถังอวิ๋นเฟิงเผยให้เห็นถึงการดูถูกเหยียดหยาม“ไม่ใช่ว่าตระกูลเซี่ยงอะไรนั่นพิการไปครึ่งหนึ่งแล้วไม่ใช่รึไง? ”“ฉันได้ยินมาว่าทางด้านของเซี่ยงหลงจากสำนักเสินฉือที่เพิ่งกลับมาก็ถูกจัดการไปแล้ว แม้แต่คู่หมั้นของเซี่ยงหลงเองก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย”“ถูกต้อง” กู้เฉินเผยรอยยิ้มออกมา “แต่ตระกูลเซี่ยงก็ได้เริ่มมีการติดต่อกับตระกูลหลงแห่งเมืองจิงผ่านเครือข่ายของพวกเขาแล้วครับ”“ตระกูลหลงงั้นเหรอ?! ”รูม่านตาของถังอวิ๋นเฟิงหดตัวลงอย่างกะทันหัน และการหายใจของเขาก็เร็วขึ้นเล็กน้อย“นี่พวกคุณต้องการทำอะไรกันแน่?!! ”“ก็ไม่ได้จะทำอะไร”กู้เฉินเลียริมฝีปากของเขา ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้านายน้อยคนโตของตระกูลหลงรู้ว
“ไม่ว่าคุณจะมีความขัดแย้งอะไรกับตระกูลหลี่ แต่ฉันคิดว่าหลี่ฮุ่ยหรานนั้นค่อนข้างไร้เดียงสา อย่าปล่อยให้ความโกรธของคุณทำให้คุณต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเลยนะ”หลังจากที่ทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้ ถังหว่านก็ขับรถมายบัคของหลินเฟิง แล้วจากไปอย่างรวดเร็วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหลินเฟิงเองก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ถังหว่าน ผู้หญิงคนนี้พูดนั้นค่อนข้างสมเหตุสมผลหากมองอีกทางหนึ่ง วันนี้ที่เธอกับหลินเฟิงคอยตามติดกู้เฉิน ทั้งหมดก็เพื่อให้หลินเฟิงไม่ต้องมาเสียใจทีหลังและในความเป็นจริง ในใจของหลินเฟิงกลับไม่สามารถยัดหลี่ฮุ่ยหรานเข้าไปได้จริง ๆตัวเขาเองก็รู้ดี ว่าในใจของหลี่ฮุ่ยหรานมีเขาอยู่ตลอด เธอก็แค่มองไม่เห็นความจริงก็เท่านั้น แค่ถูกหลอกไปชั่วขณะ จนทำให้เธอตัดสินใจผิดความสัมพันธ์สามปี แค่บอกว่าตัดขาดก็ตัดได้ง่าย ๆ เลยรึไง“ยัยผู้หญิงโง่”หลินเฟิงแอบถอนหายใจ จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงแรมไป๋ถิงณ ห้อง 808หลี่ฮุ่ยหรานถูกบอดี้การ์ดสองคนบังคับให้เข้าไปในห้องน้ำ ไม่ว่าเธอต้องการหรือไม่ก็ตาม แต่ก็ถือว่าหลี่ฮุ่ยหรานได้ชะล้างความหดหู่ใจในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาไปด้วยน้ำเย็น ๆ ถูกราดไปบนตัวของเธอ ทำให้หลี่
กู้เฉินที่คุยโทรศัพท์ยังคงอยู่ในคราบของแกะขาว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและความอ่อนโยน“เฮ้อ นี่ถ้าลูกสาวของฉันเจอกับเธอให้เร็วกว่านี้ก็คงจะดี เอาล่ะ งั้นพวกเธอก็รีบกลับมากันนะ พวกเราจะได้เริ่มวางแผน ให้เธอกับหลี่ฮุ่ยหรานแต่งงานกันโดยเร็วที่สุด”“ครับ คุณน้าจ้าว”“อ่อ จริงสิกู้เฉิน เธอช่วยให้ตระกูลหลี่ของพวกเรากลับคืนสู่สถานะเดิมได้จริง ๆ เหรอ? เพราะโจวอวี้เฟิ่งนั่นพูดแล้วว่าจะไม่มีทางให้พวกเราได้สถานะกลับคืนแน่ ๆ ”“วางใจเถอะครับคุณน้าจ้าว ที่เจียงหนานผมพอจะมีหน้ามีตาอยู่บ้าง...... ”“งั้นก็ดีมากเลย...... ”“ติ๊ด”จากนั้นกู่เฉินก็เริ่มเปิดไฟล์เสียงอีกอัน“พี่เขย สวีเฉียงนั่นไร้ประโยชน์เกินไปแล้ว ถึงขั้นถูกไอ้หน้าละอ่อนนั่นต่อยจนตายได้ คืนนี้ฉันเหงามากเลย พี่อยากมาอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยไหม...... ”“ฮึ ๆ สาวน้อย รอให้ฉันได้พี่ของเธอก่อน แล้วฉันค่อยไปจัดการกับเธอทีหลังนะ”“งั้นพวกเราตกลงกันแล้วนะ คืนนี้พี่ต้องมานะ อ่อ จริงสิพี่เขย อยากให้ฉันไปช่วยไหม เดี๋ยวฉันไปช่วยพี่จับพี่สาวให้...... ”เมื่อไฟล์เสียงบันทึกการโทรเล่นจบ หัวใจของหลี่ฮุ่ยหรานก็แทบร่วงลงไปกองที่พ
ไฝเสน่ห์ที่อยู่ใต้ตาของเธอ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเธอเป็นพิเศษเมื่อเผชิญกับสาวสวยแบบนี้เปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่นมาก็คงจะต้านทานไว้ไม่อยู่“หลินเฟิง เป็นอะไรไหม?”หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่บนหน้าจอสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ไม่เป็นไร”หลินเฟิงส่ายหน้า เขาไม่อยากให้หลี่ฮุ่ยหรานเห็นท่าทางในตอนนี้ ไม่งั้นจะต้องหึงหวงและเข้าใจผิดแน่นอนแต่ถึงแม้หลินเฟิงจิตใจฟุ้งซ่าน แต่ไม่ถึงกับหลงกลของเทพธิดาฉู่คนนี้จริงๆหลินเฟิงเข้าใจอย่างสุดซึ้งผู้หญิงที่ยิ่งสวย ลับหลังก็ยิ่งอันตรายยิ่งเป็นผู้หญิงที่รุกหนัก ก็ยิ่งมีหวังผลต่อคุณเทพธิดาฉู่ปรากฏตัวในสายตาของหลินเฟิงหลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เป็นการกระทำที่เธอตั้งใจเธอหาหลินเฟิง อีกทั้งรุกเข้าหาถึงขนาดนี้ ต้องหวังผลอะไรต่อเขาอย่างแน่นอน“คุณฉู่ ที่ดินที่คุณต้องการพวกเราจัดการเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ที่คุณพูดว่าจะพัฒนาเมืองสถานบันเทิง โครงการนี้ฉันก็ทำหนังสือแผนงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว”“นี่คือรายละเอียดแบบแผนของหนังสือแผนงาน คุณดูสิคะ”หลี่ฮุ่ยหรานเปิดพาวเวอร์พอยต์ออกมา เธอใช้น้ำเสียงที่ชำนาญการแนะนำแผนการให้กับเท
หลี่ฮุ่ยหรานกระแอมเล็กน้อยและพูดว่า:“ฉันส่งที่อยู่ไปให้คุณแล้ว คุณออกมาเดี๋ยวนี้เลยเถอะ”“อ่อใช่ การร่วมมือต้องให้คุณเซ็นชื่อ แต่ต้องหลังจากที่พวกเราประชุมผ่านวิดีโอกันเสร็จ”“เข้าใจแล้วยัง?”“เข้าใจ”หลินเฟิงพยักหน้าหลังจากวางโทรศัพท์ หลินเฟิงหันหลังกลับไปมองคฤหาสน์ที่เงียบสงุด จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆวุ่นวายอยู่นานก็เพื่อที่จะมาดื่มชาหนึ่งแก้วหลินเฟิงไม่เข้าใจแต่เขาไม่มีเวลาให้ยืดเยื้อ จึงรีบสตาร์ทรถมายบัค เร่งขับไปยังที่อยู่ที่หลี่ฮุ่ยหรานส่งให้เขาเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงหลินเฟิงเดินเข้าไปในร้านกาแฟร้านหนึ่ง สายตามองไป ก็เห็นใบหน้าที่เขาคุ้นเคยคนหนึ่ง“คุณคือ...คนที่ถนนเสรี...”หลินเฟิงตกตะลึงเล็กน้อยในตอนนี้ผู้หญิงที่นั่งไขว้ห้าง สวมชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำ เผยผิวพรรณที่ขาวผ่องออกมา เธอก็คือเทพธิดาฉู่ในคืนนั้นที่ให้เบาะแสกับเขาที่ถนนเสรีเธอยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างสง่างาม และจิบหนึ่งคำเผยรอยยิ้มที่ยั่วยวนที่สุดไปทางหลินเฟิงที่เข้ามาในร้านถึงขั้นที่ยังอ้าริมฝีปากแดง เลียนิ้วมือของตัวเอง“คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอหน้ากันไวขนาดนี้นะหนุ่มหล่อ”เธอยิ้มสวยหยาดเยิ้มหลินเฟิง
ในที่สุดหลินเฟิงก็ไม่สามารถระงับความสงสัยในใจได้ ก่อนจะขมวดคิ้วพร้อมกับถามขึ้น“ทำไม? ไม่ได้งั้นเหรอ?”ราชาหลินแห่งตอนใต้จิบชาอีกครั้ง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ดูเหมือนว่าทักษะของหยินหลิงก็ดีขึ้นไม่น้อย หลังจากนี้ลูกก็สามารถให้เธอชงให้ลูกดื่มได้”หลินเฟิงเร่งรีบมาตลอดทาง พร้อมกับครุ่นคิดเรื่องของราชาหลินแห่งตอนใต้ก่อนจะนึกถึงสายตาของเขาที่แทบจะขอร้องอ้อนวอนแล้วยังบอกว่าจุดจบของตัวเองใกล้เข้ามาแล้ว....“เหอะ!”หลินเฟิงทำเสียงออกมาอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินจากไปเดิมทีคิดว่าคราวนี้เขาจะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าชายคนนี้จะยังเหมือนเดิม ทำเหมือนตัวเองเป็นเด็กและไม่พูดไม่อธิบายอะไรสักอย่าง“คุณลุง แบบนี้...แบบนี้ดีแล้วงั้นเหรอ?”เมื่อเห็นหลินเฟิงจากไป หยินหลิงก็มองไปทางราชาหลินแห่งตอนใต้ด้วยความกังวลเล็กน้อย“มีอะไรที่ไม่ดีงั้นเหรอ?”ราชาหลินแห่งตอนใต้ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นมาแล้วจิบอีกครั้ง“ไม่ต้องห่วง ฉันได้เก็บสิ่งที่ควรจะเหลือไว้ให้กับเจ้าเด็กสารเลวนั้นแล้ว บางครั้งการไม่รู้อะไรเลยก็ถือว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง”“ตามนิสัยของเด็กคนนั้น หากบอกเขาไปในตอนนี้ ก็กลัว
วันรุ่งขึ้น หลินเฟิงก็เดินออกจากบ้านตระกูลถังเพียงลำพังเขาไม่ได้บอกใครว่าตัวเองไปที่ไหน แล้วแอบขับรถไปที่หน้าวิลล่าแห่งหนึ่งในเขตชานเมืองที่เมืองจิงวิลล่าแห่งนี้สร้างขึ้นในป่าไผ่ ถึงแม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็เงียบสงบและหรูหรา แล้วก็ไม่มีความเร่งรีบที่วุ่นวายเหมือนอย่างในเมืองแค่ได้เห็นวิลล่าแห่งนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกสงบมากขึ้นไม่น้อยเขาผลักประตูเข้าไป และยังไม่ทันได้เข้าห้องโถง ก็ไม่กลิ่นชาจาง ๆเพียงได้ยินเสียงเก่า ๆที่คุ้นเคยดังมาจากในประตู“มาแล้วเหรอ”“อืม”หลินเฟิงก้าวเข้าไปในห้องเขามองเห็นราชาหลินแห่งตอนใต้พ่อของตัวเอง ที่ในเวลานี้กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงหลัก และล้อมรอบด้วยกลิ่นหอมจาง ๆของชาที่เล็ดลอดออกมาจากชามชาโบราณในมือของเขา“พี่ชาย พี่นั่งสิ”ร่างสวยงามที่ไม่รู้ว่าเดินมาจากทางไหน เธอถือถ้วยชาแบบเดียวกัน ก่อนจะวางลงอีกด้านหนึ่งของโต๊ะที่อยู่ตรงข้ามกับราชาหลินแห่งตอนใต้หลินเฟิงหันกลับไปมอง ร่างนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหยินหลิงที่เคารพนอบน้อม“......”เดิมทีหลินเฟิงอยากจะพูดขอบคุณเรื่องของถังว่านหลี่ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร จึงทำได้เพียงพยักหน้า ก่อนจะนั่งลงอีกด้านหนึ่ง
ถังว่านหลี่กล่าวต่อไปว่า :“ในวันนั้นที่ฉันถูกกลุ่มพันธมิตรบู๊พาตัวไป เป็นหลินเฟิงที่ยืนขึ้นและขู่หยินหลิง ผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ หากเธอไม่ตอบตกลงที่จะปฏิบัติต่อฉันอย่างดี ตอนนั้นหลินเฟิงก็จะแตกหักกับผู้นำ!”“สุดท้าย แม้ว่าผู้นำของเมืองจิงจะโกรธอยู่ แต่ก็ปกป้องฉันไว้”“เธอพูดเรื่องของหลินเฟิงกับฉันเยอะมาก....”“จริง ๆแล้วพวกเราตระกูลถัง ไม่เหมาะสมกับหลินเฟิงเลย”ถังว่านหลี่มองหลินเฟิงด้วยสายตาซับซ้อน จากนั้นก็เช็ดน้ำตา ก่อนจะพูดอย่างขมขื่นว่า :“หลินเฟิง ต่อจากนี้ไปจะมอบถังหว่านให้กับนาย ไม่ลำบากใจใช่ไหม?”“ไม่ลำบากใจครับ”หลินเฟิงพยักหน้า ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเช่นกัน“ไม่ลำบากใจก็ดี....”ถังว่านหลี่ถอนหายใจ จากนั้นก็พูดว่า :“หลินเฟิง จากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ฉันถังว่านหลี่ที่อยู่ตรงนี้ จะเป็นครอบครัวของนาย”“อืม”จริง ๆแล้วหลินเฟิงรู้สึกผิดหวังกับตระกูลถังแต่ท่าทางของถังว่านหลี่กับถังเจี้ยนหยวน ในที่สุดก็ทำให้หลินเฟิงกลับมาอบอุ่นในหัวใจ“สุดท้าย หลินเฟิง”ถังว่านหลี่เอ่ยขึ้นเบา ๆว่า : ผู้นำกลุ่มพันธมิตรหยินหลิงขอให้ฉันนำคำพูดมาให้คุณด้วย”“ข้อความ...อะไร?”
มองสายตาซาบซึ้งใจของถังว่านหลี่ หลินเฟิงยิ้มแล้วส่ายหน้าแสดงออกว่าไม่เป็นไรแต่ตอนนี้ในใจเขากลับเกิดความรู้สึกผิดต่อหยินหลิงเล็กน้อยคิดว่าปกป้องถังว่านหลี่เอาไว้ หยินหลิงก็คงต้องแบกรับความลำบากเอาไว้มากมาย“ว่านหลี่ ครั้งนี้นายสามารถกลับมาได้ ทั้งหมดเป็นเพราะความพยายามของหลงยวนคุณชายของตระกูลหลง“ถ้าหากว่าไม่ใช่เขามีคุณธรรมลงโทษคนในครอบครัวที่ทำผิด ฆ่าน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง เพื่ออธิบายที่ไปที่มาของเรื่องราว”“ไม่แน่ตอนนี้นายก็อาจจะยังอยู่ในคุกก็ได้!”ในตอนนี้ คนระดับสูงของตระกูลถังออกหน้าเขาแสดงท่าที่ไม่เห็นด้วยต่อการกระทำที่ถังว่านหลี่ซาบซึ้งต่อหลินเฟิง“จริงด้วยอาถังว่านหลี่ อาขอบคุณหลินเฟิงทำไม เป็นคุณชายหลงยวนที่ส่งคนมาจัดการปัญหาโดยเฉพาะ นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน อาถึงกลับมาได้”“เขาพูดจาดีๆ กับผู้ว่ารัฐมนตรีเมืองจิงมากมาย”“จุ๊จุ๊ ดูท่าคุณชายหลงยวนมีความจริงใจต่อตระกูลถังของเรา พบว่าน้องสาวของตัวเองได้ทำร้ายคุณ จึงฆ่าญาติที่ทำผิดโดยตรง!”“เกรงว่าก็คงเป็นเพราะอาว่านหลี่เป็นพ่อของพี่ถังหว่านสินะ?”“เฮ้อ คุณชายหลงยวนก็ลุ่มหลงต่อพี่ถังหว่านมาก! น่าเสียดายพี่ถังหว่านจ
“ไม่...เขาฆ่าหลงเซียวของตระกูลหลง นั่นเป็นถึงลูกหลานสายตรงของตระกูลหลงเชียวนะ ตระกูลหลงไม่มีทางปล่อยตระกูลถังของเราไปอย่างแน่นอน!”“เจี้ยนหยวน นายต้องให้ความสำคัญกับภาพรวมนะ!”“ให้ความสำคัญกับภาพรวมงั้นเหรอ...”ถังเจี้ยนหยวนหยุดชะงักเล็กน้อยจากนั้นบนใบหน้าก็เผยสีหน้าเยาะหยันออกมาเล็กน้อย“ไม่สู้ คุณดูจดหมายที่กลุ่มพันธมิตรบู๊ส่งมาก่อนดีไหม?”ถังเจี้ยนหยวนนำจดหมายที่ถูกเปิดมาแล้วยื่นให้กับถังเทียนเต๋อ“หนังสือแจ้งตระกูลถัง”“ข้าพเจ้าผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิง เป็นเพราะก่อนหน้านี้เข้าใจถังว่านหลี่ตระกูลถังผิดไป จึงขออภัยตระกูลถังอย่างสุดซึ้ง...”ถังเทียนเต๋อจ้องมองเนื้อหาที่อยู่บนจดหมายยิ่งดู สีหน้ายิ่งไม่เป็นธรรมชาติ หลังจากที่เห็น “ลายเซ็นของผู้ว่ารัฐมนตรีประจำเมืองจิง” ตัวอักษรสุดท้ายคนทั้งคนก็ทรุดนั่งลงบนพื้นงุนงงไปหมด“พ่อ มันคือจดหมายอะไร? ในจดหมายเขียนว่ายังไงเหรอ?”ถังว่านเฉวียนรีบถามขึ้นมา“มันคือ...คือจดหมายที่ผู้ว่ารัฐมนตรีเขียนเองกับมือ”ถังเทียนเต๋อกลืนน้ำลาย และพูดอย่างยากลำบาก:“เขารู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวแล้ว อีกทั้ง...อีกทั้งทางด้านตระกูลหลงเองก็ยอ
แต่โชคดีที่ถังจวินเตรียมป้องกันไว้ตั้งนานแล้วเขาปล่อยพลังชี่แท้ออกมา สกัดกั้นเอาไว้สุดพลังกระสุนเม็ดนี้ถึงแม้จะยังคงยิงโดนหน้าอกของเขา แต่ไม่ได้สร้างความบาดเจ็บให้กับเขามากเท่าไหร่นักเพียงแค่กระเทือนกระดูกซี่โครงของเขาจนหักถึงแม้จะสภาพย่ำแย่ แต่อย่างน้อยถังจวินก็รับไว้ได้เห็นถังหว่านท่าทางแน่วแน่แบบนี้ ถังเทียนเต๋อเตรียมจะเปลี่ยนวิธีการสายตาของเขามองข้ามถังหว่าน มองไปทางหลินเฟิงแล้วพูดว่า8“หลินเฟิง นายฆ่าหลงเซียวลูกหลานสายตรงของตระกูลหลง ความผิดมหันต์แบบนี้ นายยังอยากจะสร้างความเดือดร้อนให้ตระกูลถังของฉันงั้นเหรอ?!”“......”“หยุดเถอะ”ในที่สุดหลินเฟิงก็ลงมือแล้วเพียงแต่มือที่เขาลงมือนั้น จับไปที่ปากกระบอกปืนขของถังหว่าน เขาส่ายหน้าให้ถังหว่านช้าๆถ้าหากปล่อยให้เรื่องราวดำเนินต่อไปแบบนี้เกรงว่าสุดท้ายคงจะวุ่นวายจนไม่สามารถจบเรื่องราวได้ความคิดของถังหว่านเขาเข้าใจ แต่เขาก็ไม่อยากให้ถังหว่านฆ่าคน“คนที่ฆ่าหลงเซียวไม่ใช่ฉัน แต่...ความผิดนี้ฉันสามารถรับเอาไว้ได้”หลินเฟิงมองไปทางคนตระกูลถัง ยื่นมือออกไปห้ามถังหว่านที่จะพูดคำออกมาด้วยความร้อนใจและหัวเราะเยาะพูดว่
เมื่อเขาเห็นว่าถังเทียนเต๋อออกคำสั่ง ก็ไม่มีความคิดอย่างอื่นอีก ก่อนจะโบกมือเรียกให้หน่วยลับของตัวเองที่อยู่ใกล้ตัว จับถังหว่านและหลินเฟิงให้ได้“ออกไป!”เมื่อเห็นว่าหน่วยลับที่อยู่รอบ ๆกำลังเข้ามาใกล้พวกเขามาขึ้นเรื่อย ๆในที่สุดถังหว่านก็โมโหแล้วเธอหันกลับไปคว้าปืนพกสีเข้มออกมาจากใต้หมอนของตัวเอง แล้วเล็งไปที่ถังจวิน“หากพวกคุณกล้าก้าวมาอีกก้าวหนึ่ง ฉันก็จะฆ่าพวกคุณ!”“ยังมีพวกแก ถังเทียนเต๋อ ไอ้แก่หนังเหนียวอย่างแก ถ้าพวกเขากล้าเข้ามาอีกก้าวหนึ่ง ฉันก็จะฆ่าแกก่อน!”“ถังหว่าน! เธอจะกบฏงั้นเหรอ?!”ถังเทียนเต๋อพูดด้วยความโกรธ“ถังหว่าน วางอาวุธซะ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่!”ถังว่านเฉวียนก็ตะโกนอย่างเด็ดขาด“เหอะ แน่จริงก็ยิงฉันให้ตายเลย ฉันไม่เชื่อว่าวันนี้เธอจะกล้ายิงฉัน”ถังว่านเชวีย ลูกชายคนรองของถังเทียนเต๋อยิ้มเยาะ แล้วเดินตรงไปหาถังหว่าน“ปัง!”ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน คิดไม่ถึงว่าถังหว่านจะเหนี่ยวไกปืนไปที่หน้าอกของถังว่านเชวียโดยตรงหลังจากถูกยิง ถังว่านเชวียยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆรอจนเขาก้มหน้ามองดูหน้าอกตรงกลางหัวใจของตัวเอง ที่มีเลือดไหลออกมา พร้อมกับแสด