ตัดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดออก ทำให้ภาพของหลินเฟิงจากกล้องวงจรปิดดูเหมือนจงใจลวนลามหลี่เยว่หรูเป็นอย่างที่คิด ทันทีที่เอาให้จางกุ้ยหลานและโจวอวี้เฟิ่งดู พวกเธอก็เกือบจะกลายเป็นบ้าไปแล้วถึงได้ทำให้พวกเธอตามไปสร้างปัญหาให้กับหลินเฟิงถึงอ่าวเทียนสุ่ย“ฮุ่ยหราน ต่อให้คุณจะไม่เชื่อผม แต่คุณเองก็น่าจะเชื่อเทคโนโลยีปัจจุบันอยู่ใช่ไหมล่ะ? ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพของอดีตสามีคุณที่กำลังทำเรื่องที่ไม่ควรอยู่ได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ นี่คุณยังจะปกป้องเขาอยู่อีกเหรอ นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปรึเปล่า? ”กู้เฉินจงใจเปลี่ยนสีหน้าให้ดูน่าสงสารแต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะส่ายหัว พูดขึ้นพร้อมกับโบกมือให้ “กู้เฉิน ภาพจากกล้องวงจรปิดที่คุณให้ฉันดูมันค่อนข้างพร่ามัวมากเลยไม่ใช่รึไง? ”“แล้วยังไง? ”ใบหน้าของกู้เฉินเริ่มกระตุก เขาพูดออกมาอย่างเหยียดหยาม “หรือต่อให้อดีตสามีของคุณจะเป็นหมอเทวดา แต่ก่อนหน้านี้เยว่หรูกับป้าอวี้เฟิ่งก็เคยล่วงเกินเขา แล้วตอนนั้นเขาก็เป็นคนพูดเองนี่ ว่าจะไม่รักษาให้เยว่หรูแล้วไม่ใช่รึไง? ”“คุณเองก็เห็นกับตาแล้ว นี่ยังจะเป็นเรื่องเท็จได้อยู่อีกงั้นเหรอ? ”เมื่อหลี่ฮุ่ยหราน
กู้เฉินโบกมือตบเข้าที่ขมับของหลี่ฮุ่ยหราน จนทำให้ดวงดาวปรากฏในดวงตาของหลี่ฮุ่ยหราน“ไม่ยอมดื่มสุราคารวะ กลับชอบสุราลงทัณฑ์! พาตัวไป! ”ในขณะที่หลี่ฮุ่ยหรานถูกพาตัวขึ้นรถบีเอ็ม ก็มีรถมายบัคคันหนึ่งวิ่งเข้ายังลานจอดรถของไดนาสตี้บาร์“หลินเฟิง อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานศพของคุณปู่ตระกูลหลี่แล้ว คุณจะไปร่วมงานด้วยไหม? ”ตรงที่นั่งข้างคนขับ ถังหว่านที่สวมเดรสสีม่วง พร้อมกับรูปร่างที่ยั่วยวน ก็มองไปทางหลินเฟิง“ไป”หลังจากผ่านไปสามวัน หลินเฟิงก็จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้เขาพยักหน้าและพูดออกไปว่า“คุณปู่คือผู้มีพระคุณของผม ไม่ว่าตระกูลหลี่จะเป็นยังไง ผมก็จะไปส่งคุณปู่เป็นครั้งสุดท้ายอยู่ดี”“อืม”ถังหว่านพยักหน้า ในขณะที่เธอกำลังหัวเราะและพูดคุยกับหลินเฟิงเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่กำลังจะสั่งในบาร์อยู่นั้น เธอก็ขมวดคิ้ว และสังเกตเห็นรองเท้าส้นสูงที่หล่นอยู่กลางลานจอดรถนี่มันค่อนข้างจะผิดปกติไปหน่อย“ทำไมตรงนี้ถึงมีรองเท้าส้นสูงหล่นอยู่ได้...... ”ในฐานะผู้หญิง ความรู้สึกของถังหว่านมักจะไวต่อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางมาก พอเธอเห็นขนาดและสไตล์ของรองเท้าส้นสูงข้างนี้ เธอก็ขมวดคิ้วทันทีรา
“ทำไม? นี่คุณไม่สนใจหลี่ฮุ่ยหรานแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ? ”พอถังหว่านเห็นว่าหลินเฟิงขับรถเข้าไปในลานจอดรถแบบไม่แยแส เธอก็กระพริบตาทันทีหลินเฟิงไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ขับรถเข้าไปจอด ลงจากรถ แล้วเดินตรงไปที่ประตูของไดนาสตี้บาร์“นี่ยังโกรธอยู่เหรอ? ”ถังหว่านขวางทางของหลินเฟิง และพูดด้วยรอยยิ้ม “แม้ว่าฉันจะถือว่าหลี่ฮุ่ยหรานเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อถ้าชนะเธอเพราะแบบนี้ ไปเถอะ ขึ้นรถ”“ยังไงซะ ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าตระกูลกู้แห่งเจียงหนานกำลังพยายามทำอะไรอยู่กันแน่”“ถ้าคุณอยากไปก็ไปเถอะ” หลินเฟิงกำลังจะเดินอ้อมถังหว่านเข้าไป แต่ก็กลับถูกถังหว่านรั้งเอาไว้“การที่คุณวิ่งหนีแบบนี้มันแก้ปัญหาไม่ได้หรอกนะ ถ้าคุณไม่ตามฉันไป แล้วถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน บอดี้การ์ดแบบคุณก็แบกรับเอาไว้ไม่ไหวหรอกนะ”เมื่อเห็นดวงตาที่สวยงามของถังหว่านที่ยิ้มพร้อมกับสีหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ หลินเฟิงจึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้แพ้ให้ผู้หญิงคนนี้แล้วจริง ๆครั้งนี้ถังหว่านเป็นคนขับรถ ไม่นานก็ตามรถบีเอ็นทัน รถหยุดอยู่ตรงทางแยกเพื่อรอสัญญาณไฟจราจร“นี่พวกเขาจะไปไหนกัน? ”“ไร้สาระ”
แต่ก่อนหน้านี้กู้เฉินได้เสนอเงื่อนไขความร่วมมือที่น่าดึงดูดใจมาก ซึ่งทำให้เขาตื่นเต้นมากเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงมาหารือเรื่องนี้กับกู้เฉิน“ถูกต้องครับ ทางด้านของตระกูลเซี่ยงก็ถูกผมโกรธใส่จนตอนนี้พวกเขารับปากเรียบร้อยแล้วด้วย”“ยึดเอาร้านเภสัชกรรมเชิงถังมา แล้วขับไล่ถังหว่านผู้หญิงคนนั้นไปซะ จากนั้นก็จะได้ฆ่าหลินเฟิงไอ้น่าละอ่อนนั่นไปด้วยเลย”“ตระกูลเซี่ยงเหรอ? ”สีหน้าของถังอวิ๋นเฟิงเผยให้เห็นถึงการดูถูกเหยียดหยาม“ไม่ใช่ว่าตระกูลเซี่ยงอะไรนั่นพิการไปครึ่งหนึ่งแล้วไม่ใช่รึไง? ”“ฉันได้ยินมาว่าทางด้านของเซี่ยงหลงจากสำนักเสินฉือที่เพิ่งกลับมาก็ถูกจัดการไปแล้ว แม้แต่คู่หมั้นของเซี่ยงหลงเองก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย”“ถูกต้อง” กู้เฉินเผยรอยยิ้มออกมา “แต่ตระกูลเซี่ยงก็ได้เริ่มมีการติดต่อกับตระกูลหลงแห่งเมืองจิงผ่านเครือข่ายของพวกเขาแล้วครับ”“ตระกูลหลงงั้นเหรอ?! ”รูม่านตาของถังอวิ๋นเฟิงหดตัวลงอย่างกะทันหัน และการหายใจของเขาก็เร็วขึ้นเล็กน้อย“นี่พวกคุณต้องการทำอะไรกันแน่?!! ”“ก็ไม่ได้จะทำอะไร”กู้เฉินเลียริมฝีปากของเขา ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้านายน้อยคนโตของตระกูลหลงรู้ว
“ไม่ว่าคุณจะมีความขัดแย้งอะไรกับตระกูลหลี่ แต่ฉันคิดว่าหลี่ฮุ่ยหรานนั้นค่อนข้างไร้เดียงสา อย่าปล่อยให้ความโกรธของคุณทำให้คุณต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเลยนะ”หลังจากที่ทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้ ถังหว่านก็ขับรถมายบัคของหลินเฟิง แล้วจากไปอย่างรวดเร็วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหลินเฟิงเองก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ถังหว่าน ผู้หญิงคนนี้พูดนั้นค่อนข้างสมเหตุสมผลหากมองอีกทางหนึ่ง วันนี้ที่เธอกับหลินเฟิงคอยตามติดกู้เฉิน ทั้งหมดก็เพื่อให้หลินเฟิงไม่ต้องมาเสียใจทีหลังและในความเป็นจริง ในใจของหลินเฟิงกลับไม่สามารถยัดหลี่ฮุ่ยหรานเข้าไปได้จริง ๆตัวเขาเองก็รู้ดี ว่าในใจของหลี่ฮุ่ยหรานมีเขาอยู่ตลอด เธอก็แค่มองไม่เห็นความจริงก็เท่านั้น แค่ถูกหลอกไปชั่วขณะ จนทำให้เธอตัดสินใจผิดความสัมพันธ์สามปี แค่บอกว่าตัดขาดก็ตัดได้ง่าย ๆ เลยรึไง“ยัยผู้หญิงโง่”หลินเฟิงแอบถอนหายใจ จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงแรมไป๋ถิงณ ห้อง 808หลี่ฮุ่ยหรานถูกบอดี้การ์ดสองคนบังคับให้เข้าไปในห้องน้ำ ไม่ว่าเธอต้องการหรือไม่ก็ตาม แต่ก็ถือว่าหลี่ฮุ่ยหรานได้ชะล้างความหดหู่ใจในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาไปด้วยน้ำเย็น ๆ ถูกราดไปบนตัวของเธอ ทำให้หลี่
กู้เฉินที่คุยโทรศัพท์ยังคงอยู่ในคราบของแกะขาว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและความอ่อนโยน“เฮ้อ นี่ถ้าลูกสาวของฉันเจอกับเธอให้เร็วกว่านี้ก็คงจะดี เอาล่ะ งั้นพวกเธอก็รีบกลับมากันนะ พวกเราจะได้เริ่มวางแผน ให้เธอกับหลี่ฮุ่ยหรานแต่งงานกันโดยเร็วที่สุด”“ครับ คุณน้าจ้าว”“อ่อ จริงสิกู้เฉิน เธอช่วยให้ตระกูลหลี่ของพวกเรากลับคืนสู่สถานะเดิมได้จริง ๆ เหรอ? เพราะโจวอวี้เฟิ่งนั่นพูดแล้วว่าจะไม่มีทางให้พวกเราได้สถานะกลับคืนแน่ ๆ ”“วางใจเถอะครับคุณน้าจ้าว ที่เจียงหนานผมพอจะมีหน้ามีตาอยู่บ้าง...... ”“งั้นก็ดีมากเลย...... ”“ติ๊ด”จากนั้นกู่เฉินก็เริ่มเปิดไฟล์เสียงอีกอัน“พี่เขย สวีเฉียงนั่นไร้ประโยชน์เกินไปแล้ว ถึงขั้นถูกไอ้หน้าละอ่อนนั่นต่อยจนตายได้ คืนนี้ฉันเหงามากเลย พี่อยากมาอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยไหม...... ”“ฮึ ๆ สาวน้อย รอให้ฉันได้พี่ของเธอก่อน แล้วฉันค่อยไปจัดการกับเธอทีหลังนะ”“งั้นพวกเราตกลงกันแล้วนะ คืนนี้พี่ต้องมานะ อ่อ จริงสิพี่เขย อยากให้ฉันไปช่วยไหม เดี๋ยวฉันไปช่วยพี่จับพี่สาวให้...... ”เมื่อไฟล์เสียงบันทึกการโทรเล่นจบ หัวใจของหลี่ฮุ่ยหรานก็แทบร่วงลงไปกองที่พ
หลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงเธอคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ในพินัยกรรมของคุณปู่ตระกูลหลี่ก็บอกเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว ว่าให้ตัวเธอออกจากตระกูลหลี่ แล้วกลับไปตามหลินเฟิง กลับไปทำตามความต้องการของตัวเองและพอเธอเห็นธาตุแท้ของกู้เฉิน เธอก็ยิ่งตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่แต่คำพูดของกู้เฉินกลับทำให้เธอสิ้นหวังอย่างยิ่งถ้าเธอเลือกที่จะตายมากกว่าเชื่อฟัง เช่นนั้นหลินเฟิงก็จะต้องถูกเขาตามแก้แค้นอยู่ดีใช่ หลินเฟิงเก่งเรื่องการต่อสู้มากแต่ไม่ว่าเขาจะต่อสู้เก่งมากแค่ไหน หรือมีพลังมากเพียงใด แต่เขาจะเอาชนะตระกูลหลง ตระกูลใหญ่แห่งเมืองจิงได้อย่างนั้นเหรอ?ตระกูลหลงมีศิษย์ในสำนักกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ มากกว่าล้านคน ผู้แข็งแก่งที่อยู่ในลำดับสวรรค์ก็มีเยอะจนนับไม่ถ้วนนั่นมันไม่มีทางเป็นไปได้!จุดจบของหลินเฟิงจะต้องน่าอัปยศอย่างแน่นอนกระทั่งอาจจะทำให้ถังหว่านต้องเข้ามาพัวพันไปด้วยไม่เพียงแค่ถังหว่าน ตระกูลหลี่ จางกุ้ยหลาน จางซิน แล้วก็ยังมีหลี่ซือกรุ๊ปที่ตัวเองทุ่มแทสร้างขึ้นมาตั้งสามปีนั่นอีก ทั่งหมดนี่อาจจะพังทลายเพราะตัวเธอเองก็ได้หลี่ฮุ่ยหรานเงียบไปหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็มองไปทางก
หลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากอยากที่จะพูด แต่ในใจกลับทำให้พูดไม่ออก“ฮุ่ยหราน ผมรู้ว่าระหว่างเราอาจมีเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ผมก็หวังว่าคุณจะมองเห็นความจริง อย่าได้ถูกคนจูงจมูกได้ง่าย ๆ”“แต่ก่อนอื่นคุณก็ต้องเชื่อใจผมก่อน”หลินเฟิงหันไปมองหลี่ฮุ่ยหราน และพูดอย่างจริงจัง“คุณเชื่อใจผมไหม? หลี่ฮุ่ยหราน? ”“ฉันเชื่อคุณ หลินเฟิง ฉันเชื่อคุณ! ”ในใจหลี่ฮุ่ยหรานอยากที่จะตะโกนออกไปแบบนั้น พร้อมกับยื่นมือไปหาหลินเฟิง ตอนนี้เธออยากที่จะเหวี่ยงตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของหลินเฟิงมากแต่ในความทรงจำ หลินเฟิงไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้กับเธอเลยสักครั้ง“ฮุ่ยหราน คุณคงจะไม่ลืมไปแล้วหรอกใช่ไหม? ”ในขณะที่หลี่ฮุ่ยหรานไม่สามารถควบคุมแรงกระตุ้นในใจของเธอได้ กู้เฉินที่อยู่ด้านข้างก็ยิ้มเยาะเย้ย และสาดน้ำเย็นใส่เธอ“นั่นสิ! ยังมีกู้เฉิน......คุณชายหลงยวนแห่งตระกูลหลง...... ”เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของหลี่ฮุ่ยหรานก็เต็มไปด้วยความขมขื่นเธออยากจะไปกับหลินเฟิง คิดอยากไปเป็นร้อยครั้งหมื่นครั้ง แต่เธอจะทำแบบนั้นได้ยังไง?เธอรู้อารมณ์ของหลินเฟิงดี เขาจะไม่มีวันยอมแพ้อย่างแน่นอนและการที่เขาเลือกที่จะไม่ยอมแพ้ ก็เท่าก
“เธอเพิ่งเข้าสู่สังคม คงไม่เข้าใจกฎระเบียบภายในโรงพยาบาลใช่ไหม?”“ลองถามพี่เขยผมดูสิ เขาได้ค่าคอมมิชชั่นจากเครื่องจักรแต่ละเครื่องหลายแสนถึงหลายล้าน เธอเป็นแค่แพทย์ จะได้เงินเท่าไหร่?”“มาอยู่กับผม ผมจะแนะนำเธอให้กับพี่เขยผม แค่ทำอะไรไปนิดหน่อยก็พอจะซื้อรถบีเอ็มดับเบิลยูได้แล้ว”คำพูดของตู้จิ่นเชาทำให้หลินเสวี่ยฮุ่ยเข้าใจ“มิน่าล่ะ จำนวนและราคาของเครื่องจักรที่ซื้อมาใหม่ของแผนกผู้ป่วยในไม่ตรงกัน...”หลินเสวี่ยฮุ่ยพึมพำถ้าผู้จัดการฉีอยู่ที่นี่ ได้ยินคำพูดของหลานชายเล่าเรื่องของเขาออกมาอย่างละเอียดเขาก็จะโกรธจนตบตู้จิ่นเชาอย่างแน่นอนน่าอนาถจริงๆ!“ขอบคุณสำหรับข้อมูล”หลินเสวี่ยฮุ่ยไม่ได้ก้มหัว แต่ชี้ไปที่ตู้จิ่นเชาแล้วพูดว่า“ฉันเตือนคุณครั้งที่สอง ปล่อยคนไข้ไป ไม่เช่นนั้นฉันจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลแล้วนะ!”“หือ?”เมื่อเห็นว่าเด็กสาวคนนี้ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ ตู้จิ่นเชาก็เริ่มไม่พอใจ ขมวดคิ้วแล้วตะโกนว่า“สาวน้อย ผมคือคุณชายตู้ ไปถามคนอื่นดูสิ ผมเป็นคนสำคัญในเมืองเจิ้งเต๋อ เธอเป็นใครกัน?”“ให้เกียรติเธอ เธอคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญหรือไง?”“วันนี้ผม
“แต่การกระทำแบบนี้ของคุณ ก็คือการขอตาย”ตู้จิ่นเชาหัวเราะเยาะ หมุนข้อเท้าไปมา เสียงร้องของพ่อหวังลี่ลี่ก็ยิ่งเจ็บปวดหนักขึ้นแต่ชายชราคนนี้ก็เข้มแข็งมากถึงแม้จะเหงื่อท่วมหน้า ร้องโอดโอย ก็ไม่ขอความเมตตาแม้แต่คำเดียว“พอได้แล้ว!”เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ หลินเสวี่ยฮุ่ยทนไม่ไหวอีกต่อไปเธอผลักประตูเข้าไปในห้องผู้ป่วยพิเศษ ยืนนิ่งอยู่กับที่ หน้าซีดเผือด ตะโกนด้วยความโกรธ“พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่?”“โรงพยาบาลเป็นที่ที่พวกคุณจะทำร้ายผู้คนหรือไง?”ตกใจกับเสียงประตูที่เปิดออกอย่างไม่คาดคิด เมื่อตู้จิ่นเชากลับมารู้สึกตัว เขาก็หันไปมอง แล้วก็ตาเป็นประกายหญิงสาวสวยหน้าเด็ก สวมเสื้อชั้นในสีดำ กางเกงขายาวแนบเนื้อ สวมเสื้อคลุมสีขาวสะอาดอยู่ด้านหลังริมฝีปากสีแดงสด ดวงตาสดใส คิ้วขมวดเล็กน้อย ยิ่งเพิ่มความสว่างไสวและความยุติธรรม“โอ้?”เมื่อเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ย ตู้จิ่นเชาแทบจะน้ำลายไหลถึงแม้หลินเสวี่ยฮุ่ยจะไม่สวยราวกับนางฟ้าอย่างหลี่ฮุ่ยหราน แต่เธอก็เป็นดาวมหาวิทยาลัยเจียงโจวเป็นคนที่เห็นแล้วจะลืมไม่ลงตู้จิ่นเชาที่หื่นมาก เมื่อเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ย ก็ลืมหวังลี่ลี่ไปเลย“คุณมองฉันทำไม?
“หวังลี่ลี่ ถ้าคุณไม่มาเจอผมที่โรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อภายในครึ่งชั่วโมง พ่อของคุณจะถูกไล่ออกจากโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อทันที”“คุณตัดสินใจเองเถอะ!”“ตู้ด...ตู้ด...ตู้ด...”ตู้จิ่นเชาตัดสายไป หวังลี่ลี่รู้สึกวิตกกังวลและหวาดกลัวถ้าเธอไม่ไปจริงๆตู้จิ่นเชาอาจจะทำแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ขณะที่หวังลี่ลี่รีบไปโรงพยาบาล หลินเฟิงก็เดินออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการพอดีวันนี้เขาไปดูงานของหลินเสวี่ยฮุ่ยและอธิบายกรณีพิเศษและโรคที่ยากจะรักษาให้กับหลินเสวี่ยฮุ่ยและหมอเทวดาเลี่ยวที่เฝ้าดูอยู่ที่นี่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หมอเทวดาเลี่ยวได้เรียนรู้มากมายเขาประทับใจอย่างมากที่ได้อาจารย์ที่ดีแบบนี้ถึงแม้จะยังหนุ่ม แต่ทั้งประสบการณ์ ความรู้ และทักษะ ก็เหนือกว่าเขาในที่สุดเขาก็เริ่มอายที่จะถามหลินเฟิงว่า อายุมากขนาดนี้ยังสามารถฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ได้อีกหรือไม่เพราะว่าวิชาการแพทย์ชั้นสูงหลายอย่างจำเป็นต้องใช้ร่วมชี่แท้กับพลังภายในหลินเฟิงมองเขา แล้วส่ายหัวอายุมากขนาดนี้ แค่ชกหมัดเดียวก็อาจจะปวดเอวได้ ให้หมอเทวดาเลี่ยวฝึกศิลปะการต่อสู้ นั่นไม่ใช่การทำร้ายเขาหรือ?เมื่อเห็นท่าทางของ
“พ่อค่ะ”หวังลี่ลี่ชะงักไป แล้วก้มหน้าถอนหายใจพูดว่า:“หนูกับหลินเฟิงไม่ใช่คนโลกเดียวกันค่ะ หนูเป็นแค่พนักงานขายรถ แต่เขาเป็นผู้มีพระคุณของคุณเผิงกวงฉี่ และเป็นนักสู้ด้วย”“หนูไม่คู่ควรกับเขาหรอกค่ะ”“ฮ่าๆ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายชราก็หัวเราะ“พวกเธอบังเอิญเจอกันถึงสองครั้ง นี่ไม่ใช่สัญญาณของโชคชะตาหรือ?”“ถ้ามีโชคชะตา ก็จงพยายามดู”“ได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากัน”เมื่อได้ยินคำสั่งสอนของพ่อ หวังลี่ลี่จึงพยักหน้า“หนูรู้แล้วค่ะ”จากนั้น หวังลี่ลี่มองนาฬิกาข้อมือ แล้วพูดกับพ่อว่า:“พ่อค่ะ หนูต้องไปทำงานแล้วค่ะ บ่ายนี้หนูต้องไปที่บ้านคุณหลินเพื่อจัดการเรื่องซื้อรถให้เสร็จ”“ดีๆๆ ไปได้แล้ว”ชายชรายิ้มอย่างพอใจ แล้วพูดว่า“อย่าลืมคำสั่งสอนของพ่อเมื่อกี้นะ”“หนูรู้แล้วค่ะ”หวังลี่ลี่รู้สึกขำกลั้นไม่อยู่ เมื่อเดินออกจากห้องพัก เธอดูที่อยู่จากกระเป๋าเอกสาร ใบหน้าแสดงถึงความผิดหวังเธอเองก็อยากจะเข้าใกล้หลินเฟิงแต่ความเป็นจริงโหดร้ายเกินไป เธอไม่คู่ควรกับเขาหลังจากที่สืบหาข้อมูลมาหลายทางเธอรู้มาว่ารอบๆ ตัวหลินเฟิงมีทั้งประธานหลี่ซื่อกรุ๊ปและคุณหนูตระกูลถังเธอไม่มีโอกาสเลยสัก
ถ้าให้ฟ่านอู๋จี๋คนแก่คนนั้นเลี้ยงดูเธอด้วยการทำนาย ก็คงจะเป็นไปไม่ได้“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”จ้าวเฉียวอวิ๋นเห็นเด็กสาวกินเยอะขนาดนี้ เธอกลับเป็นคนที่ดีใจที่สุด รีบลุกขึ้นไปทำกับข้าวใหม่อาอวี๋ก็ไปช่วยทุกคนต่างก็ตักข้าวของตัวเองให้ฟ่านหลิงเยว่ฟ่านหลิงเยว่ก็กินอย่างไม่ลังเล กินอย่างรวดเร็ว กินอย่างมีความสุขไม่รู้ว่าร่างกายเล็กๆของเธอสามารถบรรจุอาหารได้มากขนาดนี้ได้อย่างไร กระเพาะอาหารของเธอดูเหมือนหลุมดำ กินข้าวทั้งถังลงไป กลับไม่มีอาการอะไรเลย“เธอคือประมุขคนต่อไปของสำนักโม่ซวี...เวทมนตร์ที่ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา...”หลินเฟิงขมวดคิ้วคิดบางทีเขาอาจจะเข้าใจแล้วว่าทำไมฟ่านหลิงเยว่ถึงกินเก่งขนาดนี้.........สองวันผ่านไปโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อในห้องผู้ป่วยหนัก ชายชราผมหงอกกำลังมองลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความกังวล“พ่อ อย่าเพิ่งกังวลเรื่องเงินเลยค่ะ”ลูกสาวคนนั้นก็คือหวังลี่ลี่เธอพยายามปลอบใจพ่อ จับมือพ่อ ยิ้มทั้งน้ำตาพูดว่า“หนูได้พบกับผู้มีพระคุณค่ะ”“เขาช่วยให้หนูได้เป็นผู้จัดการโชว์รูมรถยนต์ ตอนนี้หนูมีรายได้มากพอที่จะรักษาพ่อได้แล้วค่ะ ต่อไปนี้พ่ออย่ากังวลเรื่
“ได้ครับ”หลินเฟิงพยักหน้าประมาณห้านาทีต่อมา หวังลี่ลี่ก็วิ่งมาด้วยท่าทางนอบน้อมพร้อมกุญแจรถ“คุณหลินคะ ตอนนี้คุณสามารถขับรถคันนี้ไปได้เลยค่ะ ส่วนเรื่องอื่นๆ เราจะไปจัดการที่บ้านคุณค่ะ”ท่าทางของหวังลี่ลี่นอบน้อมอย่างมากเธอเพียงแค่โทรศัพท์ไปหาผู้อำนวยการของเผิงกวงกรุ๊ปในเมืองเจิ้งเต๋อ ผู้อำนวยการก็รีบร้อนไปขออนุญาตจากเผิงกวงฉี่ราวกับไฟไหม้ก้นคำตอบที่ผู้อำนวยการได้รับจากเผิงกวงฉี่มีเพียงประโยคเดียว“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ให้ตอบสนองอย่างเต็มที่”ผู้อำนวยการที่ได้รับคำสั่งจากเผิงกวงฉี่จึงไม่กล้าประมาท รีบเร่งทำให้ขั้นตอนต่างๆ ง่ายที่สุดโดยให้หวังลี่ลี่ส่งกุญแจรถให้หลินเฟิงโดยตรงความเร็วและท่าทีเช่นนี้ทำให้หวังลี่ลี่รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง“ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ขอบคุณครับ”หลินเฟิงเปิดประตูรถ ขึ้นรถ แล้วสตาร์ทรถบูกัตติ เวียร์รอนคันเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดาคันนี้เมื่อเครื่องยนต์ 16 สูบถูกสตาร์ท บรรยากาศในล็อบบี้ทั้งหมดก็ถูกกดทับลงทันทีรถยนต์ต่างๆ ที่ถูกจัดแสดงและจำหน่ายในบริเวณที่รอเมื่อเทียบกับบูกัตติ เวียร์รอนสีดำแดงคันนี้แล้ว ก็ดูด้อยกว่าไปในทันทีราวกับมังกรสีดำแดงตัวใหญ่
ถึงขั้นที่สามารถตัดสินใจอนาคตของบุคคลผู้นี้ในเผิงกวงกรุ๊ปได้ อำนาจของเขายิ่งใหญ่อย่างมาก“ที่...ที่แท้...ที่แท้คือ...คุณหลิน”หลินเฟิงคือเจ้าของบัตรทองใบนี้เท่านั้นทั้งเผิงกวงกรุ๊ป บัตรทองนี้เพิ่งปรากฏเป็นครั้งแรก ตอนที่เผิงกวงฉี่ได้มอบให้แก่ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองไว้เรื่องนี้ภายในเผิงกวงกรุ๊ปต่างก็รับรู้กันดีแต่ผู้จัดการเสิ่นยังไม่ทันได้สืบหาข้อมูลของหลินเฟิง จึงไม่รู้จักหลินเฟิงด้วยซ้ำแต่เมื่อได้เห็นบัตรใบนี้ในวันนี้ เขาก็ได้รู้ว่า แท้จริงแล้วชายตรงหน้าที่เขาเคยมองว่าเป็น “เป็นคนที่ตามจีบหวังลี่ลี่แบบไร้ศักดิ์ศรี” นั้นกลับเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเผิงกวงฉี่ไว้หลินเฟิง ผู้ถือบัตรทองเพียงหนึ่งเดียวของเผิงกวงกรุ๊ป !ผู้จัดการเสิ่นตกใจจนขาอ่อน ล้มลงกับพื้นทันทีแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะนิ่งเฉยจึงพยายามลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ใช้ความพยายามอย่างมากมาย จึงดึงบัตรทองออกจากผนังได้ และส่งคืนให้หลินเฟิงด้วยมือที่สั่นเทา“คุณหลินครับ ผม...ผมหลงเชื่อคำนินทา จึงดูถูกคน ผมมัน...ผมสมควรตาย”ผู้จัดการเสิ่นคุกเข่าลงที่หน้าหลินเฟิง ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวส่วนหลิวหย่าที่อยู่ข้างๆ ก
“ที่แท้....ที่แท้ก็เป็นคุณนั่นเอง!”“ฉัน...ฉันจำได้แล้ว ฉัน...ฉันดูถูกคนอื่น โปรดยกโทษให้ฉัน โปรดยกโทษให้ฉันด้วย!”ในขณะนี้เอง ที่สุดท้าแล้วยคุณชายตู้ก็เข้าใจถึงตัวตนของหลินเฟิงเขาควรที่จะไปล่วงเกินคนที่สามารถประลองกับคุณชายเฝิงอวี้อู่ได้งั้นเหรอ?ทันใดนั้น เขาก็คุกเข่าลงเสียงดัง ตุบ ต่อหน้าคนทั้งหมด และก้มหน้าให้หลินเฟิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับขอร้องและร้องไห้เสียงดังลั่นเขากลัวจริงๆนะ!เมื่อเทียบกับผู้จัดการเสิ่น ชายลึกลับผู้นี้ที่ว่ากันว่าสามารถฆ่านักบู๊ของตระกูลเฝิงได้มากกว่าสามสิบคนคนในลมหายใจเดียว!และเมื่อพิจารณาจากความจริงที่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่และสบายดี ครอบครัวเฝิงก็ไม่มีทางที่จะจัดการกับเขาได้เช่นกันน่ากลัวยิ่งกว่าตระกูลเฟิงอีกคุณชายตู้นึกถึงหลายๆ อย่างได้ในทันที ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องเหล่านี้มากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเบื้องหลังของหลินเฟิงนั้นไม่ธรรมดาก่อนจะตกใจอย่างมาก แล้วรีบคุกเข่าลงขอความเมตตาเมื่อเห็นคุณชายตู้คุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา ผู้จัดการเสิ่นที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย"แกมัน......"ผู้จัดการเสิ่นมองดูร่างของลูกน้องที่นอนอยู่บนพื
“ครับ!”ลูกน้องพวกนี้รีบวิ่งไปหาฟ่านหลิงเยว่ด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย ในที่สุดฟ่านหลิงเยว่ก็กลืนขนมในปาก ก่อนจะหัวเราะเยาะและพูดขึ้นว่า : “พวกแกรนหาที่ตายแล้ว!”หลังจากที่พูดจบ เธอก็ยกขาขึ้นสูงแล้วเตะศีรษะของอันธพาลที่กำลังวิ่งพุ่งเข้ามาข้างหน้าจนศีรษะบุบลงไปจากนั้น เธอก็เผชิญหน้ากับมือที่ยื่นเข้ามาจากด้านข้าง แล้วเธอก็ปล่อยหมัดกลับไป ทันใดนั้นก็ทำให้หัวหน้าแก๊งที่แสยะยิ้มคนนี้ เบิกตากว้างทันที แล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นความหวาดกลัว“นัก....”ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยคำว่า "บู๊" ออกมา เขาก็โถมตัวไปด้านหลังพร้อมกับรอยหมัดที่กลางหน้าอก แล้วกระแทกกับกระจกร้าน 4S ที่สูงจากพื้นถึงเพดาน“เชี่ยเอ้ย!”เมื่อเห็นฉากนี้ พวกอันธพาลที่อยู่โดยรอบก็พากันตกตะลึงใครจะคิดว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะมีความแข็งแกร่งได้ขนาดนี้?“เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าต้องสนุกกันเหรอ?”ฟ่านหลิงเยว่หัวเราะเยาะแล้วพุ่งเข้าใส่พวกลูกน้องที่กำลังลังเลกลุ่มนี้"ในเมื่อพวกคุณไม่เข้ามา งั้นก็อย่าโทษฉันแล้วกัน!"“ปัง!”ฟ่านหลิงเยว่สอยหมัดขึ้นไป จนทำให้อันธพาลส่งเสียงกรีดร้องจนศีรษะไปกระแทกกับพื้นชั้นสองจากนั้นเธอก็คว้าหัวหน้า