“แม้ว่าเซียวเย่หลันจะไม่ได้เรื่อง ก็ไม่ใช่สิทธิ์ของชายเทียมที่แม้แต่ใบหน้าก็ไม่กล้าเผยออกมาให้เห็น!”เซี่ยเชียนฮวันออกแรงถีบไปหนึ่งที!ชายคลุมหน้ารีบปล่อยนางออกแล้วถอยหลังไปทันที หลบกาณโจมตีที่เอาชีวิตนี้ไปได้เชาส่ายศีรษะไปมา “เสี่ยวฮวันวฮวัน จ้ายังไม่เคยลองดูเลย ทำไมถึงได้รู้ว่าข้าไม่เหมาะสมกับเจ้า”“หึ ข้าชอบผู้ชายที่สง่าผ่าเผย”เซี่ยเชียนฮวันหลังพิงกำแพงเอาไว้ ค่อยๆเคลื่อนตัวไปทางด้านทางแยกช้าๆชายคลุมหน้ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างลึกซึ้งว่า: “ไม่เป็นไร ต้องมีสักวันที่เจ้าจะสามารถเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของข้าได้ ถึงตอนนั้นเซียวเย่หลันก็คงจะไม่คู่ควรกับเจ้าแล้ว”“คำพูดนี้ของเจ้าหมายความว่าอะไร”เซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้วจู่ๆนางก็นึกขึ้นมาได้ว่าชายคลุมหน้าเคยกล่าวเอาไว้ว่าทุกคนที่เหยียดหยามราชวงศ์ ต่างก็เป็นศัตรูของเขาทั้งนั้น!คำพูดนี้สามารถมีสองนัยได้อย่างแรกเขาต้องการจะเข้ายึดครองตำแหน่งอย่างที่สอง เขาเป็นคนของฝ่าบาท ช่วยฮ่องเต้ที่มากความสงสัยท่านนั้นขจัดอุปสรรคให้เกลี้ยงอยู่ในที่ลับเมื่อมองจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว อย่างแรกกับอย่างหลังมีความเป็นไปได้พอสมควรฮ่องเต้ฉีอู่ท
"เพราะเหตุใด?"เซี่ยเชียนฮวันจ้องเขาตาเขม็งเอะอะทำสิ่งนั้นไม่ได้ สิ่งนี้ก็ไม่ได้ เขาจะเอาแต่ใจเกินไปแล้ว!เซียวเย่หลันเดินตรงเข้ามาสองก้าว เขากระซิบขึ้นว่า "เจ้ากลับไปบ้างเป็นครั้งคราข้าไม่ว่า แต่บัดนี้เจ้ากลับไปอาศัยอยู่เนิ่นนานหลายวัน หากคนนอกรู้เข้า คงคิดว่าข้าให้เจ้ากินเจ้าอยู่ไม่ดีพอ""อ้อ ใช่ๆ ๆ เจ้าให้ข้ากินอยู่อย่างดี เพียงแต่ของดีทุกอย่างล้วนต้องส่งไปที่เรือนจิ่นซิ่วก่อน รอเมื่อพระชายารองซูเลือกเรียบร้อยแล้ว จึงจะตกถึงมือข้าที่เป็นพระชายาหลวง”เซี่ยเชียนฮวันหัวเราะเยาะเย้ยเซียวเย่หลันชะงักลงเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเผยถึงความเหนื่อยหน่าย "เจ้ามาจากตระกูลของไทเฮา ทั้งเป็นบุตรสาวของท่านโหวเจ้าได้กินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เล็ก ชื่อเล่นนางร้ายไม่เหมือนกันกับเจ้า...""เจ้าคิดว่านางอ่อนแอบอบบาง ดังนั้นข้าจึงควรสละให้นางทุกอย่างหรือ?"ตรรกะที่ว่าใครอ่อนแอกว่าก็ควรได้รับ เซี่ยเชียนฮวันไม่อาจเข้าใจได้!อีกอย่าง ในตอนนั้นนางร้ายเป็นยอดคณิกาแห่งเมืองหลวง นางใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งท่ามกลางแก้วแหวนเงินทองมาเช่นกันอีกอย่างด้วยนิสัยไม่รับสินบนของเซียวเย่หลัน คาดว่าแม้แต่ของขวัญที่ขุนนางและเ
"ไม่มีอะไร หาใช่ของสำคัญ"ใบหน้าของเซี่ยเชียนฮวันแดงเรื่อสถานการณ์ซึ่งนางทะเลาะเบาะแว้งกับเซียวเย่หลันอยู่ตอนนี้ แน่นอนนางคงไม่กล้าเอ่ยว่าฝักดาบเล่มนั้นนางตั้งใจเสาะหาเพื่อมอบให้เขาเป็นของขวัญโชคดีที่รอบข้างค่อนข้างมืดไม่มีแสงไฟ เขาน่าจะมองได้ไม่ชัดเจนทันใดนั้นเอง เย่ซิ่นก็จูงรถม้าเดินตรงเข้ามา นางจึงรีบเอ่ยขึ้น "ในเมื่อเจ้าอยากให้ข้ากลับไปนักหนา เช่นนั้นก็รีบขึ้นรถม้ากันเถิด"เซียวเย่หลันหรี่ตาลงด้วยความเย็นชา แฝงไปด้วยความสงสัยแต่เขาไม่ได้เอ่ยปากพูด ได้แต่อุ้มเซี่ยเชียนฮวันเข้าไปในรถม้าจากนั้นเขาเดินลงมาหยิบสิ่งของที่หญิงสาวทำร่วงหล่นลงพื้นเมื่อครู่เป็นฝักดาบหรือนี่?แววตาแห่งความสงสัยของเซียวเย่หลันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณนางไม่เป็นวิทยายุทธ์ เหตุใดจึงต้องมีของสิ่งนี้ติดตัว?น่าสงสัยเหลือเกิน!เซียวเย่หลันหยิบฝักดาบเล่มนั้นขึ้นมาดมใต้จมูก ก่อนที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาจะดูมืดมนลง แววตาเยือกเย็นไร้ความรู้สึกเขาสะบัดชายชุดก้าวขึ้นรถม้าแล้วนั่งข้างกายเซี่ยเชียนฮวัน หยิบฝักดาบในมือขึ้นมาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า "นี่คืออะไร?""แค่กๆ ...เจ้ามีตาก็ดูเอาเองสิ เหตุใดต
"เจ้าไม่ชอบงั้นหรือ? ช่างเถอะ ที่จริงข้าก็ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องประดับดาบเหล่านี้ หากเจ้าไม่ชอบก็โยนทิ้งไปเถอะ"เซี่ยเชียนฮวันกระสับกระส่ายมากนี่เป็นครั้งแรกที่นางซื้อของขวัญให้ชายหนุ่มเดิมทีนางรู้สึกสับสนคิดแล้วคิดอีกอยู่ในใจ ว่าจะเอ่ยปากเช่นไรจึงจะไม่รู้สึกเขิน คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะถูกเซียวเย่หลันบีบบังคับสอบถามจนได้เมื่อชายหนุ่มนิ่งเงียบไปเนิ่นนาน เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกขายหน้าเหลือเกิน นางเปิดผ้าม่านรถม้าหวังจะโยนพวกมันทิ้งไป"ช้าก่อน!" เซียวเย่หลันรีบรั้งนางเอาไว้เซี่ยเชียนฮวันหันมามองด้วยแววตาอันสับสน "มีอะไรหรือ?""อย่าทิ้งมัน""เจ้าไม่ชอบมิใช่หรือ? ข้าเองก็ไม่รู้วิทยายุทธ์ เก็บเอาไว้ก็ไร้ประโยชน์""ข้าไม่ได้บอกว่าไม่ชอบ...แม้คุณภาพของพวกมันแสนธรรมดา เห็นแก่ที่เจ้ามีใจ ข้าจะรับไว้ก็แล้วกัน"เซียวเย่หลันแสดงท่าทีอันลำบากใจออกมา ก่อนจะเก็บฝักดาบทั้งสามลงเซี่ยเชียนฮวันถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างน้อย นางก็ได้ให้ของเขาไปแล้ว ไม่ถือว่าเสียเวลาเปล่าหากเซียวเย่หลันรังเกียจและไม่รับไว้ คงจะเป็นการทำร้ายจิตใจนางมากทีเดียว"ของเหล่านี้เจ้าไปซื้อมาจากที่ใด" เซียวเย่หลันเ
สมองของเซี่ยเชียนฮวันว่างเปล่าทันใดนางไม่ได้หูฝาดไปใช่หรือไม่?เมื่อครู่ชายผู้นี้เรียกนางว่าฮวันฮวัน? ?มีเพียงคนที่สนิทใกล้ชิดนางเท่านั้นที่จะเรียกชื่อเล่นของนางก่อนหน้านี้เซียวเย่หลันล้วนเรียกชื่อสกุลเต็มของนางหากชื่อเรียกเมื่อครู่นางเพียงหูฝาดไป แต่ความอ่อนโยนของเขาตอนนี้ช่างสมจริงเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นทุกการสัมผัส หรือริมฝีปากที่อบอุ่น ล้วนกำลังบอกกับนางว่านี่ไม่ใช่ความฝัน“ช้าก่อน เซียวเย่หลัน”ปฏิกิริยาแรกของนางคือคัดค้าน ถอยหนีจากประสบการณ์เสี่ยงชีวิตมากมายที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่านางจะบอกตัวเองให้ปล่อยวางได้ แต่บัดนี้เขากลับมากระตุ้นมันอีก...เซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าชายคนนี้คิดสิ่งใดอยู่!“ว่าง่ายหน่อยสิ”ในที่สุดเขาก็พูดออกมาอีกครั้ง ก่อนจะขืนใจจูบนางอย่างดื่มด่ำภายในรถม้าอันคับแคบ เซี่ยเชียนฮวันไม่อาจหนีไปไหนได้เลย นางทำได้เพียงอยู่ในอ้อมกอดของเขา ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจในเวลาต่อมา เซี่ยเชียนฮวันเองก็เริ่มรู้สึกคล้อยตามราวกับเซียวเย่หลันไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเช่นนี้กับสตรีมานานมากแล้ว เขากอดนางไว้แน่น แทบไม่ให้นางมีโอกาสหายใจหากเป็นเช่
แต่ละวันใช้ข้ออ้างว่าไม่สบาย เพื่อที่จะผูกมัดเซียวเย่หลันไว้ข้างกายก็ใช่ว่าเป็นวิธีที่ดีเพราะในโลกใบนี้หญิงตั้งครรภ์หาได้มีเพียงแค่นางร้ายคนเดียวแต่ละคนล้วนเป็นเช่นนี้ หากมีเพียงนางที่เอาแต่บ่นร้องว่าปวดตรงนั้นเจ็บตรงนี้ในทุกๆ วัน ถึงอย่างไรก็คงมองออกว่าแสร้งทำนางร้ายเม้มริมฝีปาก กลอกตาเล็กน้อยแล้วมีแผนอื่นอยู่ในใจนางหัวเราะขึ้นเบาๆ "ท่านอ๋องให้เราไปหาหมอใช่หรือไม่? พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเซี่ยเชียนฮวัน ไม่ว่าเจ้าใช้วิธีใดก็ตาม ต้องขอร้องให้นางมาดูอาการแก่ข้าให้ได้"เพราะเด็กในท้องไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเซียวเย่หลันจริงๆ หากในอนาคตเรื่องราวเกิดเปิดโปงขึ้นนางคงจบเห่สู้ฉวยโอกาสตอนนี้ ทำให้เซี่ยเชียนฮวันต้องรับโทษผิดมหันต์ ในตอนที่ลูกในท้องยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ล้มล้างเซี่ยเชียนฮวันอย่างเด็ดขาด ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วที่เด็กคนนี้มาเกิดในท้องนาง!วันต่อมามีคนเดินทางมาหาเซี่ยเชียนฮวันก่อนอวิ๋นซีก้าวหนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเพิ่งจะตื่นขึ้นล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยก็เดินไปในลานบ้าน พบแม่นางตัวน้อยหน้าตางดงามสะสวยยืนอยู่ที่ปากประตูนางโค้งกายเล็กน้อย "ถวายบังคมเหนียงเหนียง ข้าน้อยนามว่าเห
โดยปกติแล้วยามบ่าวรับใช้รินสุรา ล้วนรินด้วยท่าทางยืนตรงโค้งเอวลงมาแต่เหวินเออร์กลับมีความคิดอื่นแอบแฝงนางตั้งใจคุกเข่าลงข้างกายของเซียวเย่หลัน เสื้อชั้นนอกเปิดออกเล็กน้อย มือข้างหนึ่งถือไหสุราหยกขาว อีกข้างหนึ่งถือแก้วสุราไว้ รอจนกระทั่งรินเต็มแล้วจึงค่อยๆ วางมือลงตรงหน้าเซียวเย่หลันต่อให้เซียวเย่หลันไม่อยากมองนาง แต่ยามที่เขาเอื้อมมือไปหยิบสุรา สายตาก็จะเหลือบเห็นร่างของนางมองจากมุมมองของเขาแล้ว ไม่รู้ว่าจะน่ามองสักเพียงไรเซี่ยเชียนฮวันเบ้ริมฝีปากแล้ววางจานอาหารลงบนโต๊ะอย่างแรง "เห็นหรือไม่? ข้าเป็นพระชายาอ๋องของเจ้าน่าสมเพชเพียงไร แม้แต่จานอาหารยังต้องเป็นผู้ยกเอง""ขออภัยเพคะเหนียงเหนียง บ่าวจะรีบไปยกเดี๋ยวนี้" เหวินเออร์ตกใจกลัว นางรีบคุกเข่าแล้วเอาศีรษะโขกพื้นสองที แต่น้ำเสียงของนางยังคงสูงกว่าปกติเล็กน้อย จงใจทำเป็นออดอ้อนยั่วยวนเซียวเย่หลันเหลือบมองดูเหวินเออร์ที่จากไปอย่างเร่งรีบ "สาวรับใช้ผู้นี้จวนอันติ้งโหวส่งมาเอง ไม่เกี่ยวอันใดกับข้า"“คงเป็นเพราะท่านพ่อท่านแม่ไม่ไว้ใจเจ้าน่ะสิ มิเช่นนั้นเหตุใดจึงจงใจส่งสาวรับใช้ในจวนมาให้ข้า"แม้ว่าพวกคนจากจวนอันติ้งโหวจะเ
"ขอบพระทัยเหนียงเหนียง! เหวินเออร์เพียงอยากจะช่วยเหนียงเหนียงขจัดความกังวลใจ หากเหวินเออร์ได้รับความรักจากท่านอ๋อง แน่นอนว่าจะช่วยเหนียงเหนียงจัดการพระชายารองซู ไม่ลืมบุญคุณของเหนียงเหนียงอย่างแน่นอนเพคะ”เหวินเออร์ดีอกดีใจและรีบคุกเข่าคารวะในสมองของนางเต็มไปด้วยฉากที่นางได้รับความรักจนโดดเด่น และเลือกที่จะลืมประโยคเตือนสุดท้ายของเซี่ยเชียนฮวันเมื่อเหวินเออร์จัดการกับถ้วยชามอาหารเรียบร้อยแล้วอวิ๋นซีก็เดินทางมานางตรงเข้ามาคารวะเซี่ยเชียนฮวัน "ช่วงนี้พระชายารองซูรู้สึกไม่สบายกาย อยากจะเชิญพระชายาอ๋องเสด็จไปดูอาการให้หน่อยเพคะ""ข้าไม่ว่าง เชิญไปหาหมอคนอื่น"เซี่ยเชียนฮวันเดินตรงเข้าไปในห้องอวิ๋นซีตะโกนขึ้นเสียงดังว่า "ทักษะทางการแพทย์ของพระชายาอ๋องเก่งกาจที่สุดในเมืองหลวง หมอธรรมดาเหล่านั้นจะรักษาโรคให้นายหญิงได้อย่างไร มีเพียงท่านเท่านั้นที่ทำได้ หากพระชายาอ๋องยินดีเดินทางไปช่วยเหลือ นายหญิงคงจะซาบซึ้งและจดจำไปชั่วนิรันดร์!""นายหญิงของเจ้าไร้หนทางช่วยเหลือแล้ว รอความตายเถิด"เซี่ยเชียนฮวันทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่งแล้วเดินหนีอย่างเย็นชาอวิ๋นซี "...”นางตั้งใจจะตามไป แต่กล