“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
เจ็บ...เมื่อเซี่ยเชียนฮวันลืมตาขึ้น นางก็เห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังใช้แรงบังคับกดมือทั้งสองข้างของนางไว้ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ แถมยังฉายแววรังสีอำมหิตออกมาชัดเจน ราวกับพญามัจจุราชในนรกก็ไม่ปาน!“ไอ้คนสารเลว ปล่อยข้านะ!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจมาก นางพยายามต่อต้านสุดแรง โดยการใช้กำปั้นทั้งสองข้างทุบไปที่หลังของชายผู้นั้นไม่หยุดแต่นางกลับรู้สึกว่าร่างกายของนางช่างไร้เรี่ยวแรง ไม่มีพลังที่จะต่อต้านเขาได้เลยสักนิด!นี่มัน...ถูกวางยาอย่างนั้นเหรอ?“อย่าดิ้น”ชายผู้นั้นกัดฟัน ใช้มือบีบไปที่ลำคอเรียวระหงของหญิงสาว เขาออกแรงบีบลงมาอย่างเต็มที่ จนเส้นเอ็นปูดบวมขึ้นมาที่หลังมือของเขาเลยทีเดียว ราวกับอยากจะบีบคอนางให้สิ้นใจตายไปซะเดี๋ยวนั้น!เขาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูนางอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจงใจจุดธูปหอมกระตุ้นกำหนัดไว้ในห้อง เพื่อดึงดูดให้ข้ามาหา ตอนนี้เจ้าก็สมใจแล้วหนิ ยังจะมีหน้ามาด่าข้าว่าเป็นคนสารเลวอีกหรือ”“ข้าเปล่านะ...อ๊า!”เซี่ยเชียนฮวันหน้าซีดเผือดลงทันที นางยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน แค่จับมือกับผู้ชายนางก็ไม่เคย แต่ผู้ชายสารเลวคนนี้นี่มัน...!“แก ไปตายซะ...” ตอนนี้เซี่ยเชี
"เจ้าไม่ใช่สาวใช้ของข้าเหรอ เหตุใดจึงฟังคำสั่งของผู้ชายคนนั้นทุกเรื่อง ไม่ฟังข้า"เซี่ยเชียนฮวันมองไปที่ชิงถีอย่างเย็นชาที่เจ้าของร่างเดิมวางยาใส่เซียวเย่หลัน ก็เพราะว่าฟังตามคำแนะนำของนางนี่แหละไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กนี่ถูกใครบงการมากันแน่ ถึงขั้นวางแผนทำร้ายนายตัวเองชิงถีก้มหัวอย่างนอบน้อม "นายท่าน ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาของท่านอ๋อง คงเทียบกับตอนอยู่จวนโหวไม่ได้แล้ว หากไม่ระมัดระวังในทุกสิ่ง คงจักนำพาความโชคร้ายมาให้ตัวเองได้""ได้ ข้าไม่ออกไป แต่ว่าเจ้าต้องไปสืบแทนข้าว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น"เซี่ยเชียนฮวันโบกมือไม่ใช่ว่าเธอกลัวนะเพียงแค่ ตอนนี้ในร่างกายของเธอยังมีพิษที่ยังจำกัดไม่หมด ตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวนิดหน่อย ต้องหาทางกำจัดพิษก่อน จากนั้นค่อยคิดอีกทีว่าจะออกจากที่นี่ยังไง"เช่นนั้นพระชายาพักผ่อนก่อนนะเพคะ" ชิงถีตอบรับคำหนึ่งก่อนจะเดินออกไปเซี่ยเชียนฮวันนั่งลง รินชาให้ตัวเองจอกหนึ่ง สายตาจับจ้องไปที่ผลพุทราเปรี้ยวในจานผลไม้แปลกจังทำไมจู่ๆ นางถึงอยากกินของเปรี้ยวมากๆ ขึ้นมาได้นะแถมยังเป็นความอยากที่ควบคุมไม่ได้จนอยากจะกระโจนเข้าไปอีกหรือว่าหลั
"ได้ยินว่าเมื่อคืนท่านพี่เพิ่งจะปรนนิบัติท่านอ๋องเสร็จก็ถูกท่านอ๋องสั่งกักบริเวณแล้วอย่างนั้นเหรอ"ซูอวี้เออร์ยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ สีหน้าแสดงเห็นการเยาะเย้ยชัดเจนนางลูบเครื่องประดับศีรษะทีหนึ่งก่อนจะเดินนวยนาดเข้ามาช้าๆ "ท่านพี่อย่าได้ใส่ใจเลย ท่านอ๋องก็เป็นคนที่อารมณ์แปรปรวณเช่นนี้แหละ ผู้หญิงทั่วไปรับมือนิสัยของเขาไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ อีกหน่อยต่อไปเดี๋ยวเจ้าก็จะค่อยๆ ชินไปเอง"ในคำพูดนั้น นางพูดราวกับตัวเองเป็นนายหญิงของจวนอ๋อง ไม่ได้เห็นพระชายาตัวจริงอยู่ในสายตาเลยถ้าเป็นเมื่อก่อน ซูอวี้เออร์พูดจบเซี่ยเชียนฮวันก็จะต้องเริ่มตีโพยตีพายอย่างโมโห พอเรื่องวุ่นวายไปถึงเบื้องหน้าท่านอ๋องก็จะถูกสั่งลงโทษหนักๆ อีกรอบแต่วันนี้ไม่รู้ทำไม ปฏิกริยาตอบสนองของพระชายาผู้ไม่เป็นที่โปรดปราณคนนี้ถึงได้เรียบเฉยนัก ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูดเลยซะอย่างนั้น"ท่านพี่?" ซูอวี้เออร์เรียกหยั่งเชิงไปอีกรอบเซี่ยเชียนฮวันไม่ตอบ แต่หันหน้าไปถามชิงถีแทน "แปลกจัง ข้าไม่ยักรู้ว่าตัวเองมีพี่น้องตั้งแต่เมื่อไร ชิงถี เจ้าว่าข้ากับนางหน้าตาเหมือนกันหรือไม่"ชิงถีตอบอย่างลังเล "มะ...ไม่เหมือนเพค
"ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่สนใจว่าเขาจะโกรธข้าหรือไม่ ขอแค่เขาไม่ต้องมาหาข้าก็พอ รบกวนเจ้าช่วยเฝ้าเขาไว้ด้วยแล้วกัน ชาตินี้ทั้งชาติข้าไม่อยากจะเห็นใบหน้าบูดบึ้งนั้นอีก"ตอนนี้เซี่ยเชียนฮวันเพียงต้องการให้ซูอวี้เออร์รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด นางรู้สึกท้องไส้ปั่นปวน แทบจะกลั้นอ๊วกเอาไว้ไม่อยู่แล้วไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ผู้ชายที่เป็นราวกับฝันร้ายคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างหลังของนาง!ซูอวี้เออร์เงยหน้าขึ้นมา ทำราวกับเพิ่งจะเห็นเซียวเย่หลัน รีบลุกขึ้นคารวะทันที "ท่านอ๋อง""? ? ?"เซี่ยเชียนฮวันเด้งตัวขึ้นทันทีราวกับหนังยาง หน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี หันหัวมามองด้านหลังไอ้ผู้ชายชาติหมาคนนี้นี่ทำไมเดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงคงเพราะทำเรื่องผิดต่อศีลธรรมในใจไว้มาก ดังนั้นจึงได้เดินราวกับเป็นโจรเช่นนี้!เซียวเย่หลันเม้มปากจนกลายเป็นเส้นตรง มองเซี่ยเชียนฮวันด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามว่า "เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ""ที่แท้ท่านอ๋องก็หูตึงนี่เอง เช่นนั้นข้าจะพูดใหม่อีกรอบ ขอเจ้าอย่าปรากฎตัวต่อหน้าข้าอีก หน้าตาไม่ดีข้าเสียตาจะดู" เซี่ยเชียนฮวันยกริมฝีปากขึ้นพูดอย่างเหน็บแนมเซียวเย่หลัน "......"ผู้หญิง
จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็รู้สึกหดหู่มากก็ดี ตายไปแบบนี้ ไม่แน่ว่าเมื่อนางลืมตาขึ้นมาอีกที อาจจะกลับไปอยู่ในห้องวิจัยที่คุ้นเคยแล้วก็ได้ถึงตอนนั้นนางอยากจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสักกี่ห่อก็สามารถกินได้ไม่ต้องมาทนรองรับอารมณ์ผู้ชายเส็งเคร็งคนนี้อีก...เซี่ยเชียนฮวันหลับตาลง ต่อให้สัญชาติญาณการเอาตัวรอดจะทำให้นางยังจับมือเซียวเย่หลันแน่นอยู่ก็ตาม"ท่านอ๋อง เป็นเช่นนี้ต่อไป พระชายาจะตายได้นะเพคะ" ซูอวี้เออร์ยืนนิ่งอยู่สักพัก เมื่อเห็นเซี่ยเชียนฮวันถูกทรมานจนพอใจแล้ว จึงได้พูดเตือนสติขึ้นเสียงเบาๆเซียวเย่หลันจ้องไปที่ใบหน้าขาวซีดของเซี่ยเชียนฮวันอย่างเอาเป็นเอาตาย ในที่สุดก็ยอมคลายมือออกทีละนิ้วเขาไม่อยากเห็นหน้าของผู้หญิงสกปรกคนนี้ไปตลอดกาลแต่อันติ้งโหวกับราชวงศ์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน หากว่าบุตรสาวคนโตของบ้านนั้นถูกสังหารในจวนอ๋อง ฮ่องเต้จะต้องสืบหาความอย่างแน่นอน!"วันนี้เห็นแก่หน้าของอวี้เออร์ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!"เซียวเย่หลันยังคงโมโหไม่หาย เขาผลักเซี่ยเชียนฮวันแรงๆ หนึ่งที มองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของนางอย่างเย็นชา ลำคอขาวสะอาดมีร่องรอยนิ้วมือสีช้ำน่ากลัว นาง
"ข้าหิวแล้ว ไปยกของกินมา" เซี่ยเชียนฮวันพูดอย่างเย็นชาเนื่องจากกรดไหลย้อน ทำให้น้ำเสียงที่นางพูดค่อนข้างแหบ ฟังแล้วไม่มีความอ่อนโยนที่เป็นเสน่ห์ของผู้หญิงเลยสักนิดชิงถีเบ้ปากอย่างไม่สนใจ "พระชายา ไม่มีใครมาส่งข้าว ท่านก็กินขนมไปก่อนนะเพคะ"นางคิดไปถึงอาหารที่คนจากตำหนักแม่นางซูส่งมาให้กินเมื่อตอนพลบค่ำ นั่นเรียกว่าอาหารชั้นเลิศเลยทีเดียว ต่อให้พระสนมในวังก็ไม่แน่ว่าจะได้กินของดีขนาดนี้!ดีนะที่ยอมทิ้งทางมืดแล้วหันไปหาทางสว่าง ได้รับใช้แม่นางซู ไม่เช่นนั้นในตำหนักใหญ่จวนอ๋องนี้ จะมีที่ไหนให้อยู่อีกเซี่ยเชียนฮวันเหลือบไปมองชิงถีอย่างเนือยๆ เพื่อที่จะมองความคิดในจิตใจผ่านสายตาของเด็กคนนี้ให้ชัดเจนนางไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร เพียงแค่พยายามจะลุกลงจากเตียง นางคลุมเสื้อนอกสีม่วงอีกตัวให้ตัวเองก่อนจะเดินกะเผลกๆ มานั่งที่ข้างโต๊ะ"พระชายา ต้องการให้ช่วยเรียกท่านหมอให้หรือไม่เพคะ" ชิงถีเห็นว่าเซี่ยเชียนฮวันใบหน้าซีดขาวจริงๆ ก็เลยถามออกมา"ไม่ต้อง"เซี่ยเชียนฮวันหยิบขนมดอกสาลี่ที่ทั้งเย็นทั้งแข็งบนโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะเอาเข้าปาก อย่างไรมันก็ช่วยทำให้อิ่มท้องได้ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้
"ว่าไงนะ ไม่มีทาง ชีพจรหัวใจเขาขาดแล้ว กระดูกแตกทิ่มเข้าไปที่อวัยวะภายใน ต่อให้เป็นมหาเซียนมาเองก็ช่วยไม่ได้หรอก"หมอหลวงห่าวปฏิเสธคำพูดของเซี่ยเชียนฮวันทันทีโดยไม่ลังเลเมื่อนางเว่ยได้ยินดังนั้นก็ยิ่งเสียใจเข้าไปอีก นางเข้ามาผลักตัวเซี่ยเชียนฮวันออก "เจ้าออกไปเลย ลูกข้าไม่ต้องการความเห็นใจจอมปลอมของเจ้า!"เซี่ยเชียนฮวันปล่อยให้นางเว่ยทั้งผลักทั้งตีตัวเอง ไอก่อนจะพูดด้วยเสียงแหบว่า "ข้าไม่เคยพูดเรื่องที่ไม่แน่ใจ ตอนนี้ต้องรีบฝังเข็มให้เขาโดยด่วนที่สุด ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันการ""สำหรับคนสูงศักดิ์อย่างพวกเจ้าแล้ว ลูกข้าก็เป็นเพียงทหารองค์รักษ์ ชีวิตไร้ค่ายิ่งกว่าสุนัข ตายไปก็ตายไป เหตุใดต้องมาแสร้งปลอบใจถึงที่นี่ด้วย เห็นพวกข้าเป็นของเล่นสนุกหรืออย่างไร!"นางเว่ยล้มลงบนพื้น ทุบอกกระทืบเท้าอย่างเสียใจที่สุด ได้แต่คร่ำครวญว่าชีวิตตัวเองช่างโชคร้ายนักเซี่ยเชียนฮวันถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนจะย่อตัวนั่งลงข้างหน้านางเว่ยอย่างช้าๆ พูดอย่างจริงจังว่า "ในสายตาของข้าคนไข้ก็คือคนไข้ ไม่เคยแบ่งแยกรวยจนสูงต่ำ เจ้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ดี แต่ตอนนี้ข้าอยากจะช่วยเหลือพวกเจ้าอย่างจริงใจ""เจ้า..."นางเว