“ข้าเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่กลัวหรอก”เซี่ยเชียนฮวันปากแข็ง ดึงฝ่ามือออกจากมือของเซียวเย่หลันแล้วเริ่มชันสูตรศพทีละร่างหญิงสาวพวกนี้ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปพวกนางถูกกรีดร่างทั้งเป็น วิธีการทารุณมากแต่ที่แปลกคือ ภายในร่างของพวกนางกลับมีร่องรอยของยาอยู่ แต่ไม่ได้ถูกพิษอย่างที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดพอเจ้าเมืองเห็นเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาจึงบีบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้าถามขึ้นว่า “พระชายาอ๋อง ท่านสังเกตพบสิ่งใดหรือไม่?”“จากที่ข้าสังเกต แทนที่จะพูดว่าพวกนางถูกพิษ ควรพูดว่าก่อนตาย พวกนางถูกคนกรอกยาชนิดหนึ่งให้กิน ไม่ถึงกับขั้นส่งผลร้ายต่อร่างกายมากนัก แต่ในเมื่อฆาตกรจะฆ่าพวกนางอยู่แล้ว เหตุใดต้องมากเรื่อง กรอกยาพวกนางด้วยเล่า”จุดที่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ตกก็คือจุดนี้ในกระเพาะของทุกร่างล้วนมีเศษซากยาชนิดนี้เท่ากับว่า เรื่องนี้สำหรับฆาตกรแล้วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับฆาตกร ขั้นตอนนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาสูงสุดเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยาชนิดนี้ทำขึ้นมาจากอะไรหรือ?”“น่าจะมีประโยชน์เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอให้ข้านำตั
ก่อนหน้านี้ เซียวจ้านได้พูดคุยกับนางหลายครั้งได้แสดงออกให้เห็นถึงความในใจอยู่บ้างแต่นางกลับไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นคนเอาแต่เล่นไม่เอาอ่าวอย่างที่เผยให้เห็นในรูปลักษณ์ภายนอก ตอนเด็กเขาก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อยแต่พวกนั้นต่างก็เป็นการพูดคุยเปิดใจทั่วไปเซี่ยเชียนฮวันยืนยันได้ว่าระว่างนางกับเซียวจ้านนั้นไม่มีการข้ามเส้น มากที่สุดก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเหมือนที่เซียวเย่หลันคิดนางแค่นเสียงเหอะ “เซียวเย่หลัน ข้าว่านะ เพราะเจ้าเคยแอบขโมย พอมองใครก็รู้สึกว่าเป็นโจรเสียหมด”“ข้าไม่เคยขโมยของใคร” เซียวเย่หลันถูกทำให้โกรธจนขำแล้วเซี่ยเชียนฮวันยกมุมปาก “ตัวเจ้ามีหญิงสาวมากมาย ซูอวี้เออร์นั้นข้าไม่นับแล้ว ยังมีหลี่จิ้งหย่าที่ชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้อื่นแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว เจ้ายังไปติดพันนางยากจะอธิบายได้ชัดเจนอยู่เลย”“เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านอ๋องเองไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น ถึงได้รู้สึกว่าระหว่างข้ากับองค์ชายห้านั้นพิเศษอย่างไรล่ะ”เซียวเย่หลันน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตัวข้าไม่เคยติดพันกับหลี่จิ้งหย่าจนอธิบายไม่ได้”“งั้นหรือ? เช่นนั้นวันนั้นที่ข้าเห็น
ซูอวี้เออร์สีหน้าแข็งค้างสมควรตายคิดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรโฉดพวกนี้จะได้รับข่าวสารว่องไวเพียงนี้!นางยังนึกว่า พวกเขาควรจะเป็นพวกโจรกระจอกในยุทธภพ ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์นัก และนางเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน จากภายนอกแล้วก็ดูไม่ออกหากเป็นเช่นนี้ นางในตอนนี้ก็กลายเป็นแกะน้อยเข้าถ้ำเสือแล้วสิ??ในขณะที่ซูอวี้เออร์เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวและกำลังคิดว่าจะรับมือต่ออย่างไรนั้น หัวหน้าชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไป!”“เป้าหมายของพวกเราคือหญิงตั้งครรภ์ท้องโต เจ้าที่เพิ่งท้องแบบนี้ ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราสักนิด” อีกคนหนึ่งพูดเสียงเย็น หัวหน้าชุดขาวตบไปที่บ่าของพรรคพวกตัวเอง “เอาล่ะ อย่าทำให้นางตกใจไปเลย พวกเรากำลังต้องการเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ต้าเซี่ยพอดี นางยังช่วยพวกเราได้อีกมาก”สีหน้าของพรรคพวกคนนั้นแสดงออกถึงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ ที่แห่งนี้ คำพูดของหัวหน้าคนเดียวที่ถือเป็นคำตัดสินสูงสุดเขาได้ตัดสินใจจะร่วมมือกับซูอวี้เออร์แล้วซูอวี้เออร์เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “ตอนนี้ท่านอ๋องจะออกลาดตระเวนทุกคืน
“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
เจ็บ...เมื่อเซี่ยเชียนฮวันลืมตาขึ้น นางก็เห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังใช้แรงบังคับกดมือทั้งสองข้างของนางไว้ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ แถมยังฉายแววรังสีอำมหิตออกมาชัดเจน ราวกับพญามัจจุราชในนรกก็ไม่ปาน!“ไอ้คนสารเลว ปล่อยข้านะ!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจมาก นางพยายามต่อต้านสุดแรง โดยการใช้กำปั้นทั้งสองข้างทุบไปที่หลังของชายผู้นั้นไม่หยุดแต่นางกลับรู้สึกว่าร่างกายของนางช่างไร้เรี่ยวแรง ไม่มีพลังที่จะต่อต้านเขาได้เลยสักนิด!นี่มัน...ถูกวางยาอย่างนั้นเหรอ?“อย่าดิ้น”ชายผู้นั้นกัดฟัน ใช้มือบีบไปที่ลำคอเรียวระหงของหญิงสาว เขาออกแรงบีบลงมาอย่างเต็มที่ จนเส้นเอ็นปูดบวมขึ้นมาที่หลังมือของเขาเลยทีเดียว ราวกับอยากจะบีบคอนางให้สิ้นใจตายไปซะเดี๋ยวนั้น!เขาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูนางอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจงใจจุดธูปหอมกระตุ้นกำหนัดไว้ในห้อง เพื่อดึงดูดให้ข้ามาหา ตอนนี้เจ้าก็สมใจแล้วหนิ ยังจะมีหน้ามาด่าข้าว่าเป็นคนสารเลวอีกหรือ”“ข้าเปล่านะ...อ๊า!”เซี่ยเชียนฮวันหน้าซีดเผือดลงทันที นางยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน แค่จับมือกับผู้ชายนางก็ไม่เคย แต่ผู้ชายสารเลวคนนี้นี่มัน...!“แก ไปตายซะ...” ตอนนี้เซี่ยเชี
"เจ้าไม่ใช่สาวใช้ของข้าเหรอ เหตุใดจึงฟังคำสั่งของผู้ชายคนนั้นทุกเรื่อง ไม่ฟังข้า"เซี่ยเชียนฮวันมองไปที่ชิงถีอย่างเย็นชาที่เจ้าของร่างเดิมวางยาใส่เซียวเย่หลัน ก็เพราะว่าฟังตามคำแนะนำของนางนี่แหละไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กนี่ถูกใครบงการมากันแน่ ถึงขั้นวางแผนทำร้ายนายตัวเองชิงถีก้มหัวอย่างนอบน้อม "นายท่าน ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาของท่านอ๋อง คงเทียบกับตอนอยู่จวนโหวไม่ได้แล้ว หากไม่ระมัดระวังในทุกสิ่ง คงจักนำพาความโชคร้ายมาให้ตัวเองได้""ได้ ข้าไม่ออกไป แต่ว่าเจ้าต้องไปสืบแทนข้าว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น"เซี่ยเชียนฮวันโบกมือไม่ใช่ว่าเธอกลัวนะเพียงแค่ ตอนนี้ในร่างกายของเธอยังมีพิษที่ยังจำกัดไม่หมด ตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวนิดหน่อย ต้องหาทางกำจัดพิษก่อน จากนั้นค่อยคิดอีกทีว่าจะออกจากที่นี่ยังไง"เช่นนั้นพระชายาพักผ่อนก่อนนะเพคะ" ชิงถีตอบรับคำหนึ่งก่อนจะเดินออกไปเซี่ยเชียนฮวันนั่งลง รินชาให้ตัวเองจอกหนึ่ง สายตาจับจ้องไปที่ผลพุทราเปรี้ยวในจานผลไม้แปลกจังทำไมจู่ๆ นางถึงอยากกินของเปรี้ยวมากๆ ขึ้นมาได้นะแถมยังเป็นความอยากที่ควบคุมไม่ได้จนอยากจะกระโจนเข้าไปอีกหรือว่าหลั
"ได้ยินว่าเมื่อคืนท่านพี่เพิ่งจะปรนนิบัติท่านอ๋องเสร็จก็ถูกท่านอ๋องสั่งกักบริเวณแล้วอย่างนั้นเหรอ"ซูอวี้เออร์ยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ สีหน้าแสดงเห็นการเยาะเย้ยชัดเจนนางลูบเครื่องประดับศีรษะทีหนึ่งก่อนจะเดินนวยนาดเข้ามาช้าๆ "ท่านพี่อย่าได้ใส่ใจเลย ท่านอ๋องก็เป็นคนที่อารมณ์แปรปรวณเช่นนี้แหละ ผู้หญิงทั่วไปรับมือนิสัยของเขาไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ อีกหน่อยต่อไปเดี๋ยวเจ้าก็จะค่อยๆ ชินไปเอง"ในคำพูดนั้น นางพูดราวกับตัวเองเป็นนายหญิงของจวนอ๋อง ไม่ได้เห็นพระชายาตัวจริงอยู่ในสายตาเลยถ้าเป็นเมื่อก่อน ซูอวี้เออร์พูดจบเซี่ยเชียนฮวันก็จะต้องเริ่มตีโพยตีพายอย่างโมโห พอเรื่องวุ่นวายไปถึงเบื้องหน้าท่านอ๋องก็จะถูกสั่งลงโทษหนักๆ อีกรอบแต่วันนี้ไม่รู้ทำไม ปฏิกริยาตอบสนองของพระชายาผู้ไม่เป็นที่โปรดปราณคนนี้ถึงได้เรียบเฉยนัก ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูดเลยซะอย่างนั้น"ท่านพี่?" ซูอวี้เออร์เรียกหยั่งเชิงไปอีกรอบเซี่ยเชียนฮวันไม่ตอบ แต่หันหน้าไปถามชิงถีแทน "แปลกจัง ข้าไม่ยักรู้ว่าตัวเองมีพี่น้องตั้งแต่เมื่อไร ชิงถี เจ้าว่าข้ากับนางหน้าตาเหมือนกันหรือไม่"ชิงถีตอบอย่างลังเล "มะ...ไม่เหมือนเพค
"ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่สนใจว่าเขาจะโกรธข้าหรือไม่ ขอแค่เขาไม่ต้องมาหาข้าก็พอ รบกวนเจ้าช่วยเฝ้าเขาไว้ด้วยแล้วกัน ชาตินี้ทั้งชาติข้าไม่อยากจะเห็นใบหน้าบูดบึ้งนั้นอีก"ตอนนี้เซี่ยเชียนฮวันเพียงต้องการให้ซูอวี้เออร์รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด นางรู้สึกท้องไส้ปั่นปวน แทบจะกลั้นอ๊วกเอาไว้ไม่อยู่แล้วไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ผู้ชายที่เป็นราวกับฝันร้ายคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างหลังของนาง!ซูอวี้เออร์เงยหน้าขึ้นมา ทำราวกับเพิ่งจะเห็นเซียวเย่หลัน รีบลุกขึ้นคารวะทันที "ท่านอ๋อง""? ? ?"เซี่ยเชียนฮวันเด้งตัวขึ้นทันทีราวกับหนังยาง หน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี หันหัวมามองด้านหลังไอ้ผู้ชายชาติหมาคนนี้นี่ทำไมเดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงคงเพราะทำเรื่องผิดต่อศีลธรรมในใจไว้มาก ดังนั้นจึงได้เดินราวกับเป็นโจรเช่นนี้!เซียวเย่หลันเม้มปากจนกลายเป็นเส้นตรง มองเซี่ยเชียนฮวันด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามว่า "เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ""ที่แท้ท่านอ๋องก็หูตึงนี่เอง เช่นนั้นข้าจะพูดใหม่อีกรอบ ขอเจ้าอย่าปรากฎตัวต่อหน้าข้าอีก หน้าตาไม่ดีข้าเสียตาจะดู" เซี่ยเชียนฮวันยกริมฝีปากขึ้นพูดอย่างเหน็บแนมเซียวเย่หลัน "......"ผู้หญิง