แต่ละวันใช้ข้ออ้างว่าไม่สบาย เพื่อที่จะผูกมัดเซียวเย่หลันไว้ข้างกายก็ใช่ว่าเป็นวิธีที่ดีเพราะในโลกใบนี้หญิงตั้งครรภ์หาได้มีเพียงแค่นางร้ายคนเดียวแต่ละคนล้วนเป็นเช่นนี้ หากมีเพียงนางที่เอาแต่บ่นร้องว่าปวดตรงนั้นเจ็บตรงนี้ในทุกๆ วัน ถึงอย่างไรก็คงมองออกว่าแสร้งทำนางร้ายเม้มริมฝีปาก กลอกตาเล็กน้อยแล้วมีแผนอื่นอยู่ในใจนางหัวเราะขึ้นเบาๆ "ท่านอ๋องให้เราไปหาหมอใช่หรือไม่? พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเซี่ยเชียนฮวัน ไม่ว่าเจ้าใช้วิธีใดก็ตาม ต้องขอร้องให้นางมาดูอาการแก่ข้าให้ได้"เพราะเด็กในท้องไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเซียวเย่หลันจริงๆ หากในอนาคตเรื่องราวเกิดเปิดโปงขึ้นนางคงจบเห่สู้ฉวยโอกาสตอนนี้ ทำให้เซี่ยเชียนฮวันต้องรับโทษผิดมหันต์ ในตอนที่ลูกในท้องยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ล้มล้างเซี่ยเชียนฮวันอย่างเด็ดขาด ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วที่เด็กคนนี้มาเกิดในท้องนาง!วันต่อมามีคนเดินทางมาหาเซี่ยเชียนฮวันก่อนอวิ๋นซีก้าวหนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเพิ่งจะตื่นขึ้นล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยก็เดินไปในลานบ้าน พบแม่นางตัวน้อยหน้าตางดงามสะสวยยืนอยู่ที่ปากประตูนางโค้งกายเล็กน้อย "ถวายบังคมเหนียงเหนียง ข้าน้อยนามว่าเห
โดยปกติแล้วยามบ่าวรับใช้รินสุรา ล้วนรินด้วยท่าทางยืนตรงโค้งเอวลงมาแต่เหวินเออร์กลับมีความคิดอื่นแอบแฝงนางตั้งใจคุกเข่าลงข้างกายของเซียวเย่หลัน เสื้อชั้นนอกเปิดออกเล็กน้อย มือข้างหนึ่งถือไหสุราหยกขาว อีกข้างหนึ่งถือแก้วสุราไว้ รอจนกระทั่งรินเต็มแล้วจึงค่อยๆ วางมือลงตรงหน้าเซียวเย่หลันต่อให้เซียวเย่หลันไม่อยากมองนาง แต่ยามที่เขาเอื้อมมือไปหยิบสุรา สายตาก็จะเหลือบเห็นร่างของนางมองจากมุมมองของเขาแล้ว ไม่รู้ว่าจะน่ามองสักเพียงไรเซี่ยเชียนฮวันเบ้ริมฝีปากแล้ววางจานอาหารลงบนโต๊ะอย่างแรง "เห็นหรือไม่? ข้าเป็นพระชายาอ๋องของเจ้าน่าสมเพชเพียงไร แม้แต่จานอาหารยังต้องเป็นผู้ยกเอง""ขออภัยเพคะเหนียงเหนียง บ่าวจะรีบไปยกเดี๋ยวนี้" เหวินเออร์ตกใจกลัว นางรีบคุกเข่าแล้วเอาศีรษะโขกพื้นสองที แต่น้ำเสียงของนางยังคงสูงกว่าปกติเล็กน้อย จงใจทำเป็นออดอ้อนยั่วยวนเซียวเย่หลันเหลือบมองดูเหวินเออร์ที่จากไปอย่างเร่งรีบ "สาวรับใช้ผู้นี้จวนอันติ้งโหวส่งมาเอง ไม่เกี่ยวอันใดกับข้า"“คงเป็นเพราะท่านพ่อท่านแม่ไม่ไว้ใจเจ้าน่ะสิ มิเช่นนั้นเหตุใดจึงจงใจส่งสาวรับใช้ในจวนมาให้ข้า"แม้ว่าพวกคนจากจวนอันติ้งโหวจะเ
"ขอบพระทัยเหนียงเหนียง! เหวินเออร์เพียงอยากจะช่วยเหนียงเหนียงขจัดความกังวลใจ หากเหวินเออร์ได้รับความรักจากท่านอ๋อง แน่นอนว่าจะช่วยเหนียงเหนียงจัดการพระชายารองซู ไม่ลืมบุญคุณของเหนียงเหนียงอย่างแน่นอนเพคะ”เหวินเออร์ดีอกดีใจและรีบคุกเข่าคารวะในสมองของนางเต็มไปด้วยฉากที่นางได้รับความรักจนโดดเด่น และเลือกที่จะลืมประโยคเตือนสุดท้ายของเซี่ยเชียนฮวันเมื่อเหวินเออร์จัดการกับถ้วยชามอาหารเรียบร้อยแล้วอวิ๋นซีก็เดินทางมานางตรงเข้ามาคารวะเซี่ยเชียนฮวัน "ช่วงนี้พระชายารองซูรู้สึกไม่สบายกาย อยากจะเชิญพระชายาอ๋องเสด็จไปดูอาการให้หน่อยเพคะ""ข้าไม่ว่าง เชิญไปหาหมอคนอื่น"เซี่ยเชียนฮวันเดินตรงเข้าไปในห้องอวิ๋นซีตะโกนขึ้นเสียงดังว่า "ทักษะทางการแพทย์ของพระชายาอ๋องเก่งกาจที่สุดในเมืองหลวง หมอธรรมดาเหล่านั้นจะรักษาโรคให้นายหญิงได้อย่างไร มีเพียงท่านเท่านั้นที่ทำได้ หากพระชายาอ๋องยินดีเดินทางไปช่วยเหลือ นายหญิงคงจะซาบซึ้งและจดจำไปชั่วนิรันดร์!""นายหญิงของเจ้าไร้หนทางช่วยเหลือแล้ว รอความตายเถิด"เซี่ยเชียนฮวันทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่งแล้วเดินหนีอย่างเย็นชาอวิ๋นซี "...”นางตั้งใจจะตามไป แต่กล
เป็นเรื่องยากที่จะเห็นเซียวเย่หลันไม่มัดผมผมสีเข้มของชายคนนั้นราวกับผ้าไหม สยายอยู่หัวไหล่ของเขา แม้จะใช้ชีวิตอยู่ในสงครามมาหลายปี แต่ผิวพรรณของเขาก็ยังคงขาวสะอาด บรรเทากลิ่นไออันชั่วร้ายที่ตัวเขามาแต่กำเนิด และทำให้เขาดูนุ่มนวลขึ้นเล็กน้อย“จากมุมนี้ รูปร่างของเซียวเย่หลันก็ไม่มีใครเทียบได้จริงๆ...จุ๊ๆ ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นผู้หญิงหื่นกามไปแล้วล่ะ” เซี่ยเชียนฮวันที่หมอบอยู่ก็แอบดูอย่างลับๆ และเกิดความรู้สึกสับสนขึ้นมาในใจเวลานี้ เซียวเย่หลันยังคงถอดเสื้อผ้าของเขา หลังจากถอดชุดออก กล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แบบของเขาก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนต่อหน้าต่อตาของเซี่ยเชียนฮวัน ซึ่งทำให้คนหน้าแดงและใจเต้นรัวไม่ได้เมื่อก่อนตอนที่เซี่ยเชียนฮวันเห็นเขาเช่นนี้ มักจะเป็นตอนที่ฝังเข็มให้เขาในสถานการณ์ที่ตึงเครียด หรืออยู่ท่ามกลางแสงสลัวๆ หรือมีหมอกคลุมเครือมาบดบัง ดังนั้นนางจึงไม่ได้ดูมันอย่างจริงจังแต่ครั้งนี้นับว่าเป็นบุญตาจริงๆร่างกายที่เพรียวบางของชายคนนั้นถูกเปิดเผยเพียงครู่หนึ่ง และในไม่ช้าเขาก็เข้าไปนั่งในน้ำ เซี่ยเชียนฮวันสังเกตเห็นสมุนไพรสองสามชิ้นลอยอยู่ในน้ำหรือนี่คือการ
“ซู่!”จู่ๆ เซียวเย่หลันก็ลุกขึ้นจากน้ำ!ใบหน้าของเขาเฉยชา มือเอื้อมไปหยิบผ้าที่แขวนไว้ เช็ดร่างกายให้แห้งก่อนสวมชุดสีดำบางๆ เหวินเออร์เดินตามไปหวังคอยรับใช้เปลี่ยนเสื้อผ้าคิดไม่ถึงว่าเซียวเย่หลันจะสะบัดแขนเสื้อ ใช้พลังภายในเสียจนเหวินเออร์กระเด็นลอยออกไป!นางกระแทกลงพื้นอีกครั้งจนกระดูกแทบหัก“ท่านอ๋อง หม่อมฉัน หม่อมฉันทำผิดอะไรหรือ...”เหวินเออร์น้ำเสียงสั่นคลอนแววตาของเซียวเย่หลันเยือกเย็นดุจสายน้ำ ผ้าคาดเอวสีแดงถูกผูกไว้อย่างลวกๆ “สาวรับใช้ที่หักหลังนาย มาจากทางไหน กลับไปทางนั้น”เหวินเออร์จึงได้เข้าใจ นางรีบกล่าวว่า “ท่านอ๋องอย่าเพิ่งโมโหไปเพคะ หม่อมฉันไม่ได้หักหลังนายหญิง แต่ได้รับอนุญาตจากพระชายาอ๋องแล้ว!”“นางอนุญาตหรือ?”เซียวเย่หลันหยุดฝีเท้าลง แววตาเปลี่ยนไปเป็นแหลมคมยิ่งหากเปรียบเทียบกันแล้ว เมื่อครู่เขาเพียงสะบัดเศษผงทิ้ง ทว่าตอนนี้กลับโมโหเสียรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาเหวินเออร์ไม่ทันได้สังเกตเห็น นางกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียสั่นคลอน “พระชายาอ๋องเห็นใจท่านอ๋อง บัดนี้เหนียงเหนียงทั้งสองล้วนตั้งครรภ์ ไม่อาจรับใช้ท่านอ๋องได้ ดังนั้นพระชายาอ๋องจึงส่งหม่อมฉันจะปรนนิ
"ข้าไม่เพียงเห็นแต่แม่นางผู้นั้น ซ้ำยังเห็นนางช่วยเจ้าอาบน้ำขัดบ่าแต่ไม่เป็นไปตามที่เจ้าชอบ จึงได้ถูกเจ้าขับไล่ออกไปอย่างน่าสงสาร ท่านอ๋องอารมณ์ร้ายเสียเหลือเกิน"ในเมื่อเรื่องที่ตนแอบดูถูกเปิดโปง เซี่ยเชียนฮวันจึงไม่คิดจะเสแสร้ง และรีบเปิดไพ่ทันทีเซียวเย่หลันอุ้มนางไว้ กล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “เจ้าให้นางมาหรือ”“ข้าแค่ไม่ได้ห้ามนาง”จุดจบของเหวินเออร์เช่นนี้น่าสงสารจริงๆ ทว่าเซี่ยเชียนฮวันเคยเตือนนางไว้แล้ว หากนางปีนขึ้นเตียงเขาสำเร็จก็ถือว่ามีความสามารถ หากล้มเหลวนางต้องยอมรับสิ่งที่ตามมาเองแต่เหวินเออร์ไม่ฟัง เช่นนั้นจะโทษใครได้เซียวเย่หลันไม่พอใจในคำตอบนี้เท่าไร “ในฐานะพระชายาอ๋อง เจ้าควบคุมไม่ได้แม้แต่สาวรับใช้ ไม่ขายหน้าหรือ”“ข้าจะขายหน้าทำไม นางมีขา จะให้ข้าจับตามองทุกวินาทีได้อย่างไร? อีกอย่าง ตอนแรกเจ้าก็ชื่นชอบไม่น้อย”นางนึกถึงภาพที่เหวินเออร์นวดบ่าให้เซียวเย่หลัน เซี่ยเชียนฮวันก็รู้สึกจะอาเจียนชายเจ้าชู้กินไม่เลือกหน้า!เซียวเย่หลันส่งเสียงหึๆ ออกมาในลำคอ “ข้าใช้นางเพื่อทดลองเท่านั้น”“ทดลองอะไร”“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”เขาอยากลองดูว่าตนไม่ต่อต้านการสัมผ
"เจ้าบอกว่าพระชายาจ้านอ๋องถูกห้ามไม่ให้เข้าวังหรือ?" เซียวเย่หลันใช้สายตาอันเยือกเย็นจ้องมองไปยังขันทีตัวน้อยที่ยืนโค้งกายอยู่ตรงหน้าอย่างนอบน้อมขันทีเป็นเพียงผู้มาส่งข่าว แต่กลับต้องทนรับแรงกดดันอันน่ากลัวของเซียวเย่หลันเช่นนี้ จึงได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น "นี่เป็นพระประสงค์ของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ""เพราะเหตุใด"ก่อนหน้านี้เขาเคยพาเซี่ยเชียนฮวันไปเข้าร่วมงานเลี้ยงราชวงศ์มาแล้วครั้งหนึ่งงานเลี้ยงปีใหม่ครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าโดยไม่ต้องสงสัย และเป็นทางการมากกว่า องค์หญิงองค์ชาย ขุนนางชั้นสูงทุกคนล้วนต้องเดินทางไปร่วมงานไม่มีเหตุผลใดที่จะห้ามไม่ให้เซี่ยเชียนฮวันไป"เป็นเพราะ..."เดิมทีขันทีน้อยต้องการอ้างไปเรื่อยเปื่อย แต่เมื่อเงยหน้าพบแววตาอันน่ากลัวของเซียวเย่หลัน ทำให้เขาตกใจจนพูดความจริงออกมา "สำนักหอดูดาวหลวงทำนายว่า งานเลี้ยงปีใหม่เกี่ยวข้องกับโชคชะตาทั้งปีต่อไปของราชวงศ์ บัดนี้พระชายาอ๋องตั้งครรภ์ดาวร้าย ยังไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เพื่อป้องกันทุกอย่าง วันนี้ทางที่ดีอย่าได้เดินทางเข้าวังเลย""ไร้สาระ!"เซียวเย่หลันไม่เชื่อเรื่องราวร้ายหรืออะไรนั่น!เขาเชื่อเพียงว่าลิขิตฟ้าหรือจะ
"เอ๋ ดูเหมือนนั่นจะไม่ใช่พระชายาอ๋อง?”"เป็นพระชายารองซู..."“คืนนี้เป็นงานเลี้ยงข้ามปีของพระราชวัง งานยิ่งใหญ่และสำคัญเช่นนี้ ท่านอ๋องกลับไม่พาพระชายาอ๋องออกงาน เขาพาภรรยาน้อยมาแทนงั้นหรือ?""โถ โถ โถ ข้าคิดว่าอีกไม่นานแม่นางคงจะได้ขึ้นเป็นพระราชชายาจริง”"ก็นั่นน่ะสิ ต่อให้เซี่ยเชียนฮวันมีเชื้อสายของไทเฮาแล้วอย่างไร สตรีที่ถูกจ้านอ๋องทะนุถนอมไว้ในมือท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่นาง"ภายในสวนดอกไม้ ทั้งราชวงศ์และชนชั้นสูงรวมตัวกัน เป็นไปเช่นเดียวกับที่เซี่ยเชียนฮวันคาดคิดไว้ พวกนางสนทนาลับหลังเรื่องของจวนจ้านอ๋องเซียวหมิงเซียนยืนอยู่ท่ามกลางชนชั้นสูงมากมาย นางนับคำพูดอันแทงใจดำที่พวกนางทั้งหลายกล่าวออกมา"พระชายาอ๋องอะไรกัน ไม่ช้าสักวันก็ถูกถอดถอนหย่าร้าง!""ในฐานะสตรีกลับไม่ได้รับความรักจากสามี ในอนาคตนางจะจบลงอย่างน่าสมเพชแน่!""ต่อให้เซี่ยเชียนฮวันรู้ทักษะทางการแพทย์แล้วอย่างไร นางไม่มีข้อดีอื่นๆ ใจจืดใจดำ ก่อนหน้านี้ในกั๋วจื่อเจี้ยน เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าขันของนาง แม้พระชายารองซูจะเคยเป็นนางคณิกามาก่อน แต่อย่างน้อยก็เป็นยอดสตรีแห่งเมืองหลวง ไม่ว่าชายคนใดล้วนอยากทะนุถนอมรักใคร่น