แม้ว่าร่างกายของนางจะปกคลุมไปด้วยจุดเลือดสีดำดูน่าสยองขวัญ แต่ยามที่เซียวเย่หลันสัมผัสผิวของนาง กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสัมผัสกับเครื่องเคลือบหยกที่ละเอียดอ่อน เปราะบางและสวยงามเขาคิดว่าคนที่เขารักมากที่สุดควรจะเป็นซูอวี้เออร์แต่ยามที่เขาโอบกอดซูอวี้เออร์ กลับไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน เขากระทั่งทำอย่างลวกๆ เพราะแค่อยากยุติการสัมผัสทางกายโดยเร็วที่สุดแต่ทำไม มีเพียงผู้หญิงคนนี้เท่านั้นที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง“อย่าขยับ” เซี่ยเชียนฮวันหันหน้าเล็กน้อย แล้วสบตากับเขา “ข้าบอกให้ท่านขยับมือไปที่ใด ท่านก็ขยับมือไปที่นั้นสิ”“ตกลง”เซียวเย่หลันเห็นด้วยทันทีดังนั้น เซี่ยเชียนฮวันจึงนอนบนเตียง และชี้นิ้วสั่งอย่างเกียจคร้าน “ขยับไปทางซ้าย...ใช่ ออกแรงอีกนิด ขยับไปอีกหน่อย...อย่าบีบตรงนี้แรง!ถ้าผิวปริขึ้นมาจะมีเลือดออกได้”เซียวเย่หลันพูดไม่ออกก แต่ก็แสดงความอดทนที่หาได้ยากเช่นกัน เขาทำตามคำสั่งของเซี่ยเชียนฮวันด้วยการช่วยนางเช็ดตัวอย่างช้าช้าซูอวี้เออร์ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นลอยเข้าหู ก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกมีดกรีดท่านอ๋อง พระองค์คือเทพสงครามผู้มีเกียร
“ท่านชอบความสะอาดหรือไม่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า...เอ๊ะ!ยังไม่รีบเอากรงเล็บของท่านออกไปอีก”บางทีอาจจะเป็นเพราะอาการป่วย เวลาที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจึงมีน้ำเสียงขึ้นจมูก ทำให้ฟังดูกระเง้ากระงอดขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ดูเหมือนสถบเลยหลังจากที่เซียวเย่หลันจับข้อเท้าของนาง อีกทั้งร่างกายก็ถูกชายหนุ่มพลิกคว่ำ จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาของเขาแล้วเซี่ยเชียนฮวันกัดริมฝีปากอย่างไม่ยอมแพ้ นางดิ้นรนแล้วกล่าวว่า “ข้าได้ยินมาว่าแม่นางซูผู้นั้นอาบน้ำด้วยกลีบดอกไม้สิบชนิดทุกวัน ร่างกายสะอาดเอี่ยมอ่องตั้งแต่หัวจรดเท้า มีกลิ่นหอมจรุงใจ ทำไมท่านถึงไม่ไปหานางเล่า?”ได้ยินเซี่ยเชียนฮวันกล่าวถึงตัวเอง ซูอวี้เออร์ซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงก็พลันตัวสั่นหูผึ่งขึ้นมา และอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วยแต่คาดไม่ถึงว่า เซียวเย่หลันจะตอบกลับเสียงนิ่งว่า “การอาบน้ำด้วยกลีบดอกไม้ไม่จำเป็นว่ากลิ่นหอมของดอกไม้จะติดตัวไปด้วย อย่างน้อยข้าก็ไม่เคยได้กลิ่น วิธีการอาบน้ำที่ฟุ่มเฟือยและยุ่งยากนี้เป็นแค่ความปรารถนาส่วนตัวของพวกผู้หญิง มันไร้ประโยชน์ในความเป็นจริง”“คิดได้สมกับเป็นชายแท้จริงๆ”เซี่ยเชียนฮวันพึมพำทันใดนั้นนาง
มือของเซี่ยเชียนฮวันที่ถือหวีไม้แข็งทื่อเล็กน้อยซูอวี้เออร์เกิดเรื่อง แล้วเกี่ยวอะไรกับนาง?นางอดไม่ได้ที่จะมองไปที่กล่องยาหลายกล่องตรงมุมห้อง ตอนนี้นางรู้สึกกังวลเล็กน้อย และมักจะรู้สึกว่าตําแหน่งของกล่องยาเปลี่ยนไปเล็กน้อย? เซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว แต่มิกล่าวอันใด นางเก็บข้าวของสักพัก จากนั้นก็ตามอวิ๋นซีกับเซียวเย่หลัน ไปยังเรือนจิ่นซิ่วเมื่อเห็นสภาพของซูอวี้เออร์ แม้แต่เซี่ยเชียนฮวันก็อดไม่ได้ที่จะผงะตาข้างซ้ายของซูอวี้เออร์ทั้งบวมทั้งน่าเกลียด ตาขาวแดงก่ำเหมือนสีเลือด ทั้งยังมีเลือดปกคลุม และมีหนองที่น่าขยะแขยงไหลออกมาจากรอบดวงตา“อวี้เออร์ไม่อยากให้ท่านอ๋องเห็นสภาพที่น่าเกลียดของตัวเองเช่นนี้ แต่ แต่ถ้าไม่ให้ท่านอ๋องเห็น ท่านจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรกับข้า”ซูอวี้เออร์ร่ำไห้ และปิดตาตัวเองใหม่อีกครั้งเซียวเย่หลันถามด้วยสีหน้าเย็นชา “มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”“เรียนท่านอ๋อง เมื่อคืนวานหลังจากที่ข้าอาบน้ำเสร็จ และเตรียมจะเข้านอน คาดไม่ถึงว่าเพิ่งจะขึ้นเตียงไปก็เห็นแมงมุมตัวใหญ่เกาะบนผ้าม่าน!”“มันพ่นพิษใส่ข้า และกระเด็นเข้าตาข้า ทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวดมาก จนนอนไม่ห
ซูอวี้เออร์ตะลึงงันนางไม่เคยนึกถึงคำถามนี้มาก่อนจริงๆแต่ปฏิกิริยาตอบสนองของนางก็เร็วมาก นางหันไปดุสาวใช้ตัวเองว่า “อวิ๋นซี ก็เหมือนที่พระชายาทรงกล่าว แมงมุมบนเตียงข้าอาจจะคลานมาจากข้างนอกก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแมงมุมแม่ม่ายดำในกล่องของพระชายา เจ้ามิควรใส่ร้ายพระชายาเช่นนั้น”อวิ๋นซีหน้ามุ่ย “แต่จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ในโลกได้อย่างไร? พระชายาให้คนไปจับแมงมุมพิษกลับมา จากนั้นนายหญิงก็ถูกแมงมุมทำร้าย ต้องมึคนจงใจเล่นงานท่าน เพื่อแก้แค้น”“ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าเกี่ยวข้องกับพระชายา”ซูอวี้เออร์ทอดถอนใจนางกับอวิ๋นซี คนหนึ่งร้อง คนหนึ่งรับ แต่ทั้งหมดนั้นล้วนชี้นิ้วมาที่เซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันดูการแสดงของทั้งสองคนอย่างเฉยเมย “แล้วแมงมุมตัวนั้นล่ะ? พูดปากเปล่ามิได้ พวกเจ้าควรจะนำออกมาเปรียบเทียบ”“พิษนั่นน่ากลัวจริงๆ หลังจากที่เราจับมันได้เมื่อคืนก็รีบฆ่าและเผามัน แต่ท่านอ๋องสามารถเชิญหมอจากด้านนอกมาดูได้ ว่าเป็นพิษของแมงมุมแม่ม่ายดำหรือไม่ แค่ดูก็คงทราบแล้ว”อวิ๋นซีพูดเมื่อคืนซูอวี้เออร์กลั้นหายใจและแอบคลานออกจากห้อง นางรู้ว่าแค่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็จะถูกเซียวเย่หลันส
“ข้าไม่ยอมรับในเรื่องที่ข้าไม่ได้ทำ แล้วทำไมต้องชดใช้ด้วย?”เซี่ยเชียนฮวันรู้ว่า เวลานี้เซียวเย่หลันโกรธมากแต่นางจะยอมแพ้ไม่ได้นี่เป็นหลักการชีวิตของนางเซียวเย่หลันจ้องมองใบหน้าที่ซีดเผือดของนาง ก็พลันขมวดคิ้ว และปล่อยมือ แต่เมื่อได้ยินเสียงครวญครางเหมือนเจ็บปวดของซูอวี้เออร์ เพลิงโทสะก็ปะทุขึ้นมา เขาดึงเซี่ยเชียนฮวันมาตรงหน้า“เห็นแก่อาการป่วยของเจ้า ตราบใดที่เจ้าขอโทษอวี้เออร์ เรื่องนี้ข้าจะไม่ถือสาเอาความ” เสียงของเขาแหบแห้ง แฝงไปด้วยความดุดันเซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้า พอเปิดปากพูด ก็อดไอออกมาไม่ได้นางรู้สึกปวดท้องจางๆเซียวเย่หลันมองนาง “เซี่ยเชียนฮวัน อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”“ท่านอ๋อง...ท่านทำให้ข้าผิดหวัง”เซี่ยเชียนฮวันอดทนต่อความเจ็บปวดที่รุกราน ขณะโต้กลับนางยกมือขึ้น และจับแขนที่แข็งแรงของชายคนนั้น ใบหน้าเล็กๆ เหยเกเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด รู้สึกเหมือนมีค้อนมาทุบท้องไม่หยุด นางไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเซียวเย่หลันคิดว่านางกำลังแสดงอยู่ จึงกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “พอได้แล้ว! ครั้งนี้ข้าจะไม่ให้เจ้ามาหลอก...”พูดไม่ทันจบประโยค เซียวเย่หลันก็ต้องชะงัก!เขาไวต่อกลิ่นเลือ
“หากหญิงมีครรภ์รู้สึกอ่อนเพลีย จะเห็นจุดเลือดนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ดูแลเด็กทารกให้ดี และไม่ทำร้ายจิตใจกันอีก แม่ลูกก็จะปลอดภัยดี”หมอกล่าวด้วยความเคารพเซียวเย่หลันพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าออกไปเถอะ”“ขอรับ”หมอโค้งคำนับแล้วจากไป ภายในห้องอันเงียบสงบ จึงเหลือแค่เพียงเซียวเย่หลันและเซี่ยเชียนฮวัน เมื่อเห็นเปลือกตาของเซี่ยเชียนฮวันกระตุกเล็กน้อย เซียวเย่หลันก็รู้ได้ว่านางกำลังจะตื่น จึงยืนอยู่ข้างเตียง แล้วกล่าวเสียงเย็นชาว่า “เจ้ามีจุดเลือดเพราะอ่อนเพลียจริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่”เซี่ยเชียนฮวันได้ยินประโยคนี้ ก็เกือบจะโมโหตายน่าเสียดายที่นางยังมีอาการปวดท้องหลงเหลืออยู่ จึงไม่มีแรงมากพอที่จะลุกขึ้นมาด่าเซียวเย่หลันเห็นนางไม่ตอบ จึงเอ่ยขึ้นอีกว่า “เจ้าเป็นหมอมีความสามารถ ถ้าแอบฝังเข็มในจุดฝังเข็มของตัวเอง ก็สามารถสร้างจุดเลือดปลอมขึ้นมาได้ เพื่อหลีกหนีจากการชดเชยให้อวี้เออร์”“จินตนาการของท่านอ๋องช่างล้ำลึกยิ่งนัก แต่ไม่รู้จักข้าดีพอ” เซี่ยเชียนฮวันเบะปาก และทำเสียงเล็กเสียงน้อยออกมา “หากข้าอยากใช้เข็มเงินจริงๆ ข้าคงจะแทงซูอวี้เออร์ตรงๆ มากกว่าจะทำร้ายตัวเอง”
“อึกอึกอ่อก...หยุดมือ”เซี่ยเชียนฮวันไม่คาดคิดว่าสาวใช้ตัวน้อยคนนี้จะกล้าหาญขนาดนี้ นางพยายามจะดิ้นหนี และออกแรงผลักแต่ตอนนี้นางกำลังอ่อนแอ แม้ว่าสาวใช้คนนี้จะผอมบาง แต่ปกติก็ใช้กำลังในการทำงาน ความแข็งแกร่งจึงสูงกว่านางหลายขุมสาวใช้จับนางอย่างแข็งขัน และกรอกยาใส่ปากนางไปครึ่งชามส่วนครึ่งชามที่เหลือ ก็หกรดเสื้อผ้าของเซี่ยเชียนฮวันและพื้น“พระชายาโปรดดื่ม!!”สาวใช้สีหน้าดุดันสุดท้ายการเคลื่อนไหวในห้องก็ดึงดูดความสนใจของยามลาดตระเวนข้างนอก แต่พวกเขาเกิดอาการลังเลขึ้นมาในใจ และไม่กล้าเข้าไปข้างใน จึงส่งคนไปแจ้งเซียวเย่หลันก่อนเซียวเย่หลันกำลังเล่นหมากรุกกับตัวเองในห้องหนังสือ เมื่อได้ยินการรายงานของยาม จึงตอบอย่างเฉยเมยว่า “นางอยากจะแผลงฤทธิ์อะไร ก็ปล่อยให้นางทำไป ไม่ต้องไปสนใจ”เขาคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันทะเลาะกับเขา และตอนนี้กำลังโมโหอยู่เพียงลำพัง จึงเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมายามรับคำแล้วถอยไป เย่ซิ่นซึ่งยืนอยู่ด้านข้างก็เผยสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมา “ท่านอ๋อง พระชายาอาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”“ในห้องนางซ่อนแมงมุมพิษมากมายขนาดนั้น ใครจะกล้าเข้าไปทำอะไรนาง?” เซียวเย่ห
“พิโธ่ ดูเจ้าพูดสิ รับใช้บุรุษนะไม่ต้องใช้ตา!”“พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก มีหลายที่ต้องใช้ตาเหมือนกัน...”“ชู่ รีบหุบปาก”ในที่สุดก็มีแม่ครัวสองสามคนที่สังเกตเห็นเซี่ยเชียนฮวัน พวกนางรีบก้มหน้าก้มตา รู้สึกตกใจจนไม่กล้าเปล่งเสียงออกมานางเว่ยแม่ของเย่ซิ่นที่เป็นหัวหน้าห้องครัว ก็รีบเดินเข้ามา ยิ้มแห้งๆ แล้วกล่าวว่า “พระชายาโปรดให้อภัยด้วย สตรีพวกนี้แค่พูดจาไร้สาระ แต่พวกนางไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน”“ไม่เป็นไร”เซี่ยเชียนฮวันตอบนางเหลือบมองคนที่ทํางานในห้องครัวแวบหนึ่ง “ป้าเว่ย รบกวนเรียกทุกคนออกมายืนตรงหน้าข้าทั้งหมด ห้ามขาดแม้แต่คนเดียว”“เจ้าค่ะ”นางเว่ยไม่กล้าขัดคำสั่ง กวักมือเรียกผู้คนให้ออกมาไม่ช้าคนรับใช้หลายสิบคนก็ยืนกันเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ในลานกว้าง เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าของพวกเขามึนงงมาก“หากพระชายาต้องการจะลงโทษ ทรงลงโทษเพียงคนปากเปราะไม่กี่คนเถอะเพคะ ไม่จำเป็นต้องลากคนบริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง” นางเว่ยเกลี้ยกล่อมนางคิดว่าเพราะเซี่ยเชียนฮวันได้ยินคำพูดพวกนั้น จึงโมโหขึ้นมาเซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้า นางเดินกลับไปกลับมาอยู่สองรอบ แต่ก็ไม่เห็
“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
ซูอวี้เออร์สีหน้าแข็งค้างสมควรตายคิดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรโฉดพวกนี้จะได้รับข่าวสารว่องไวเพียงนี้!นางยังนึกว่า พวกเขาควรจะเป็นพวกโจรกระจอกในยุทธภพ ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์นัก และนางเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน จากภายนอกแล้วก็ดูไม่ออกหากเป็นเช่นนี้ นางในตอนนี้ก็กลายเป็นแกะน้อยเข้าถ้ำเสือแล้วสิ??ในขณะที่ซูอวี้เออร์เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวและกำลังคิดว่าจะรับมือต่ออย่างไรนั้น หัวหน้าชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไป!”“เป้าหมายของพวกเราคือหญิงตั้งครรภ์ท้องโต เจ้าที่เพิ่งท้องแบบนี้ ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราสักนิด” อีกคนหนึ่งพูดเสียงเย็น หัวหน้าชุดขาวตบไปที่บ่าของพรรคพวกตัวเอง “เอาล่ะ อย่าทำให้นางตกใจไปเลย พวกเรากำลังต้องการเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ต้าเซี่ยพอดี นางยังช่วยพวกเราได้อีกมาก”สีหน้าของพรรคพวกคนนั้นแสดงออกถึงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ ที่แห่งนี้ คำพูดของหัวหน้าคนเดียวที่ถือเป็นคำตัดสินสูงสุดเขาได้ตัดสินใจจะร่วมมือกับซูอวี้เออร์แล้วซูอวี้เออร์เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “ตอนนี้ท่านอ๋องจะออกลาดตระเวนทุกคืน
ก่อนหน้านี้ เซียวจ้านได้พูดคุยกับนางหลายครั้งได้แสดงออกให้เห็นถึงความในใจอยู่บ้างแต่นางกลับไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นคนเอาแต่เล่นไม่เอาอ่าวอย่างที่เผยให้เห็นในรูปลักษณ์ภายนอก ตอนเด็กเขาก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อยแต่พวกนั้นต่างก็เป็นการพูดคุยเปิดใจทั่วไปเซี่ยเชียนฮวันยืนยันได้ว่าระว่างนางกับเซียวจ้านนั้นไม่มีการข้ามเส้น มากที่สุดก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเหมือนที่เซียวเย่หลันคิดนางแค่นเสียงเหอะ “เซียวเย่หลัน ข้าว่านะ เพราะเจ้าเคยแอบขโมย พอมองใครก็รู้สึกว่าเป็นโจรเสียหมด”“ข้าไม่เคยขโมยของใคร” เซียวเย่หลันถูกทำให้โกรธจนขำแล้วเซี่ยเชียนฮวันยกมุมปาก “ตัวเจ้ามีหญิงสาวมากมาย ซูอวี้เออร์นั้นข้าไม่นับแล้ว ยังมีหลี่จิ้งหย่าที่ชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้อื่นแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว เจ้ายังไปติดพันนางยากจะอธิบายได้ชัดเจนอยู่เลย”“เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านอ๋องเองไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น ถึงได้รู้สึกว่าระหว่างข้ากับองค์ชายห้านั้นพิเศษอย่างไรล่ะ”เซียวเย่หลันน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตัวข้าไม่เคยติดพันกับหลี่จิ้งหย่าจนอธิบายไม่ได้”“งั้นหรือ? เช่นนั้นวันนั้นที่ข้าเห็น
“ข้าเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่กลัวหรอก”เซี่ยเชียนฮวันปากแข็ง ดึงฝ่ามือออกจากมือของเซียวเย่หลันแล้วเริ่มชันสูตรศพทีละร่างหญิงสาวพวกนี้ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปพวกนางถูกกรีดร่างทั้งเป็น วิธีการทารุณมากแต่ที่แปลกคือ ภายในร่างของพวกนางกลับมีร่องรอยของยาอยู่ แต่ไม่ได้ถูกพิษอย่างที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดพอเจ้าเมืองเห็นเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาจึงบีบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้าถามขึ้นว่า “พระชายาอ๋อง ท่านสังเกตพบสิ่งใดหรือไม่?”“จากที่ข้าสังเกต แทนที่จะพูดว่าพวกนางถูกพิษ ควรพูดว่าก่อนตาย พวกนางถูกคนกรอกยาชนิดหนึ่งให้กิน ไม่ถึงกับขั้นส่งผลร้ายต่อร่างกายมากนัก แต่ในเมื่อฆาตกรจะฆ่าพวกนางอยู่แล้ว เหตุใดต้องมากเรื่อง กรอกยาพวกนางด้วยเล่า”จุดที่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ตกก็คือจุดนี้ในกระเพาะของทุกร่างล้วนมีเศษซากยาชนิดนี้เท่ากับว่า เรื่องนี้สำหรับฆาตกรแล้วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับฆาตกร ขั้นตอนนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาสูงสุดเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยาชนิดนี้ทำขึ้นมาจากอะไรหรือ?”“น่าจะมีประโยชน์เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอให้ข้านำตั
“ใครน่ะ?!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจเดินไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงมาอยู่ด้านหลังของนาง!พอนึกถึงเรื่องที่สตรีมีครรภ์หายตัวไปในช่วงนี้ ใจของเซี่ยเชียนฮวันก็เต้นตึกๆๆ รัวเป็นกลอง นางหันตัวขวับกลับมา นางก็ราดน้ำที่อยู่ในมือออกไปจนหมดจากนั้น...นางได้ทำให้ผมดกดำและเสื้อผ้าของเซียวเย่หลับเปียกไปหมดเซียวเย่หลันถูกน้ำราดทั้งหน้า หมดคำจะพูด ใช้มือเช็ดถูกแล้วพูดเสียงเย็น “การระมัดระวังตัวตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ต้องกลัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไป”“ใครให้เจ้ามาไม่ให้เสียงสักนิดล่ะ มาอย่างกับผี ตกใจหมดเลย” เซี่ยเชียนฮวันเองก็อารมณ์ไม่ดี “แต่ก่อนเจ้าไม่มาโรงหมอไม่ใช่หรือ วันนี้วิ่งแจ้นมาที่นี่ทำไม?”“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองซุ่นเทียนมาขอแล้วขออีก ข้าเองก็คร้านจะมา”เซียวเย่หลันแสดงท่าทางรังเกียจเต็มที่ หยิบเอาผ้าออกมาเช็ดหน้าเซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจ “เจ้าเมืองซุ่นเทียนขอร้องเจ้า? เขาเองก็อยากซื้อครีมบำรุงให้ฮูหยินของตนหรือ?”“พบศพเหยื่อสาวแถวชานเมืองหลวง ฝ่ายชันสูตรบอกว่าพวกนางถูกพิษ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัดว่าเป็นพิษจากอะไร เจ้าเมืองซุ่นเทียนก็เลยอยากขอให้เจ้าช่วย”เซียวเย่หลันพูดอธิบายส
“รู้สิ ทำไมหรือ?”เซี่ยเชียนฮวันตะลึงตอนที่อยู่โรงหมอ นางได้ยินพวกชาวบ้านถกเถียงกันราวกับว่ามีหญิงสาวมากมายที่ถูกจับตัวหรือว่า ที่ฮ่องเต้เรียกตัวเซียวเย่หลันไปห้องทรงพระอักษรก็เพราะจะให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้เซียวเย่หลันพูดเสียงทุ้มว่า “สตรีที่ถูกพวกเขาจับตัวไปล้วนเป็นสตรีมีครรภ์” “อะไรนะ???”เซี่ยเชียนฮวันอดตกใจไม่ได้!ตามหลักแล้ว สตรีที่ถูกจับตัวไปควรเป็นหญิงสาวอายุน้อย เหตุใดจึงเป็นสตรีมีครรภ์ล่ะ?“ตอนนี้ คนในเมืองหลวงในใจกระวนกระวาย เสด็จพ่อได้ออกประกาศห้ามออกจากเคหะสถานยามค่ำคืนแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าต้องนำทหารออกไปลาดตระเวนทุกคืน จนกว่าจะจับตัวพวกผู้ร้ายพวกนั้นได้”เซียวเย่หลันมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันปราดหนึ่ง ยื่นมือไปบีบแก้มนาง “เจ้าดูแลเด็กน้อยในท้องของเจ้าให้ดี ช่วงนี้อย่าออกไปวิ่งพล่านที่ไหน ได้ยินไหม”“อื้อ”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างว่าง่ายไม่แปลกที่เซียวเย่หลันไม่ยอมให้นางช่วยที่แท้ก็เพราะแค่มีครรภ์ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว เพื่อปกป้องเด็กน้อยในท้อง นางต้องไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงเซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พูดเรื่องไปช่วยอีกนางติดตามเซียวเย่หลันกลับจวนอ๋อง แล้ว
หลังจากที่ได้เห็นฉากพยานแมวในเหตุการณ์กับตาตัวเองแล้ว สุดท้ายฉินจีก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว นางคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ ตัวสั่นเทิ้มสีพระพักตร์ของฮ่องเต้เคร่งขึมดูแล้ว เป็นเหมือนดั่งที่เจ้าห้าพูดจริงๆ ด้วย ฉินจีตั้งใจปล่อยแมวไปทำให้เซี่ยเชียนฮวันตกใจไม่ว่าตอนนี้เขาจะลำเอียงรักและเอ็นดูฉินจีมากเพียงใด เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับลูกหลานของราชวงศ์ ไม่สามารถทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้เหมือนเรื่องที่พวกนางสนมทั้งหลายแก่งแย่งความรักกัน เซียวเย่หลันเดินออกมา จ้องไปที่ฉินจีอย่างเย็นชา “ขอเสด็จพ่อลงโทษอย่างสาหัสด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ถ่ายทอดคำสั่ง ลำดับศักดิ์ของฉินจีลดขั้นลงเหลือเพียงไฉหนี่ว์ ถูกกักบริเวณในหอหลิวอินเป็นเวลาสามวัน ห้ามออกจากประตู”ฮ่องเต้กุมขมับ ไม่ได้มองไปทางฉินจีที่มีท่าทีน่าสงสารอีกทั้งลดลำดับศักดิ์ ทั้งถูกกักบริเวณ ถือว่าเป็นการให้เกียรติเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวันมากแล้ว เซี่ยเชียนฮวันยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงให้ความยุติธรรมเพคะ”จากนั้น นางก็หันไปทางเซียวจ้าน ในดวงตาเรียวเล็กมีประกายแสงแสดงถึงความจริงจัง “และต้องขอบคุณน้องห้าด้วยที่พูดผดุงความยุติธรรมแก่ข้า”“น้
“ฝ่าบาท พระชายาจ้านอ๋องคงไม่ได้มีปัญหาที่ตรงนี้หรอกนะเพคะ”ฉินจีชี้ไปที่หัวของตัวเองฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ “เอาล่ะ อย่าได้พูดเช่นนี้เลย”ฮ่องเต้ไม่ได้เอาความกับคำพูดส่งเดชของฉินจีอย่างไรเสีย การพูดตรงๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฉินจี ก็เหมือนหมิงเฟยอย่างนั้นหากไม่ใช่เพราะชอบนิสัยเช่นนี้ของนาง ฮ่องเต้ก็คงไม่ลำเอียงชอบนางมากกว่าทว่า ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเซี่ยเชียนฮวันราวกับว่าสมองถูกกระทบกระเทือน กลับมาตั้งคำถามกับแมวอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหนอีก“หากแมวตัวนั้นตอบคำถามของพระชายาจ้านอ๋องจริงๆ หม่อมฉันยอมรับโทษเพคะ” ฉินจีหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ” เซี่ยเชียนฮวันนั่งปัดมืออยู่ที่พื้น “เอาล่ะ เป็นแมวที่สัตย์ซื่อหน่อยซิ”“เหมียว เหมียว เหมียว?” เจ้าแมวขาวเอียงหัวเล็กน้อยเซียวเย่หลันเองก็ทนดูไม่ค่อยไหวแล้ว อยากจะลากตัวนางออกไปทันใดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันกำลังก่อเรื่องนั้น เจ้าแมวขาวกลับยื่นอุ้งมือออกมา!มันทำเหมือนที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจริงๆ ด้วย ข่วนไปที่หยกห้อยเอวที่อยู่ด้านขวาผู้คนต่างสีหน้าเปลี่ยนสี“เป็นไปไม่ได้!” ฉินจีโพล่งออก
“ฝ่าบาททรงรอบรู้ หม่อมฉันเพียงแต่พูดความจริงเท่านั้น”ฉินจีหลุบตาลงฮ่องเต้มองไปที่เซียวจ้านแล้วพูดว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นคนมีมารยาทดีมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ต้องมีปัญหากับฉินเออร์ด้วย”“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ใด เพียงแต่เห็นฉินเจี๋ยอวี๋กับพระชายาจ้านอ๋องโต้เถียงกัน จากนั้นพระชายาจ้านอ๋องเกือบจะล้ม ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะรู้สึกสงสัย”เซียวจ้านประกบมือคำนับแล้วกล่าวขึ้นในเวลานี้ ในที่สุดเซียวเย่หลันก็เอ่ยปากถามเซี่ยเชียนฮวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ล้มหรือเปล่า”“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างไม่สบอารมณ์เซียวเย่หลันพูดไม่ออกสตรีที่ดูอ่อนแอกันคนภายนอกแต่กับคนในบ้านกลับหยาบคายใส่คนนี้นี่เขากำลังแสดงความเป็นห่วงนางชัดๆ แต่กลับพูดจายอกย้อนกับเขา“ฉินเอ๋อเพิ่งเข้าวังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ หากมีตรงไหนล่วงเกินสะใภ้เจ็ด พวกเจ้าก็แค่ให้อภัยก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ตึงเครียดขนาดนี้”ฮ่องเต้พูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เรื่องนี้สงบลง ไม่ถือสาหาความผิดของฉินจีอย่างไรก็ตาม พอได้ยินเช่นนี้ฉินจีกลับตกใจเล็กน้อยเดิมทีนางคิดว่าฮ่องเต้จะไม่เพียงแต่ปกป้องนา