ซูอวี้เออร์ตะลึงงันนางไม่เคยนึกถึงคำถามนี้มาก่อนจริงๆแต่ปฏิกิริยาตอบสนองของนางก็เร็วมาก นางหันไปดุสาวใช้ตัวเองว่า “อวิ๋นซี ก็เหมือนที่พระชายาทรงกล่าว แมงมุมบนเตียงข้าอาจจะคลานมาจากข้างนอกก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแมงมุมแม่ม่ายดำในกล่องของพระชายา เจ้ามิควรใส่ร้ายพระชายาเช่นนั้น”อวิ๋นซีหน้ามุ่ย “แต่จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ในโลกได้อย่างไร? พระชายาให้คนไปจับแมงมุมพิษกลับมา จากนั้นนายหญิงก็ถูกแมงมุมทำร้าย ต้องมึคนจงใจเล่นงานท่าน เพื่อแก้แค้น”“ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าเกี่ยวข้องกับพระชายา”ซูอวี้เออร์ทอดถอนใจนางกับอวิ๋นซี คนหนึ่งร้อง คนหนึ่งรับ แต่ทั้งหมดนั้นล้วนชี้นิ้วมาที่เซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันดูการแสดงของทั้งสองคนอย่างเฉยเมย “แล้วแมงมุมตัวนั้นล่ะ? พูดปากเปล่ามิได้ พวกเจ้าควรจะนำออกมาเปรียบเทียบ”“พิษนั่นน่ากลัวจริงๆ หลังจากที่เราจับมันได้เมื่อคืนก็รีบฆ่าและเผามัน แต่ท่านอ๋องสามารถเชิญหมอจากด้านนอกมาดูได้ ว่าเป็นพิษของแมงมุมแม่ม่ายดำหรือไม่ แค่ดูก็คงทราบแล้ว”อวิ๋นซีพูดเมื่อคืนซูอวี้เออร์กลั้นหายใจและแอบคลานออกจากห้อง นางรู้ว่าแค่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็จะถูกเซียวเย่หลันส
“ข้าไม่ยอมรับในเรื่องที่ข้าไม่ได้ทำ แล้วทำไมต้องชดใช้ด้วย?”เซี่ยเชียนฮวันรู้ว่า เวลานี้เซียวเย่หลันโกรธมากแต่นางจะยอมแพ้ไม่ได้นี่เป็นหลักการชีวิตของนางเซียวเย่หลันจ้องมองใบหน้าที่ซีดเผือดของนาง ก็พลันขมวดคิ้ว และปล่อยมือ แต่เมื่อได้ยินเสียงครวญครางเหมือนเจ็บปวดของซูอวี้เออร์ เพลิงโทสะก็ปะทุขึ้นมา เขาดึงเซี่ยเชียนฮวันมาตรงหน้า“เห็นแก่อาการป่วยของเจ้า ตราบใดที่เจ้าขอโทษอวี้เออร์ เรื่องนี้ข้าจะไม่ถือสาเอาความ” เสียงของเขาแหบแห้ง แฝงไปด้วยความดุดันเซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้า พอเปิดปากพูด ก็อดไอออกมาไม่ได้นางรู้สึกปวดท้องจางๆเซียวเย่หลันมองนาง “เซี่ยเชียนฮวัน อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”“ท่านอ๋อง...ท่านทำให้ข้าผิดหวัง”เซี่ยเชียนฮวันอดทนต่อความเจ็บปวดที่รุกราน ขณะโต้กลับนางยกมือขึ้น และจับแขนที่แข็งแรงของชายคนนั้น ใบหน้าเล็กๆ เหยเกเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด รู้สึกเหมือนมีค้อนมาทุบท้องไม่หยุด นางไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเซียวเย่หลันคิดว่านางกำลังแสดงอยู่ จึงกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “พอได้แล้ว! ครั้งนี้ข้าจะไม่ให้เจ้ามาหลอก...”พูดไม่ทันจบประโยค เซียวเย่หลันก็ต้องชะงัก!เขาไวต่อกลิ่นเลือ
“หากหญิงมีครรภ์รู้สึกอ่อนเพลีย จะเห็นจุดเลือดนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ดูแลเด็กทารกให้ดี และไม่ทำร้ายจิตใจกันอีก แม่ลูกก็จะปลอดภัยดี”หมอกล่าวด้วยความเคารพเซียวเย่หลันพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าออกไปเถอะ”“ขอรับ”หมอโค้งคำนับแล้วจากไป ภายในห้องอันเงียบสงบ จึงเหลือแค่เพียงเซียวเย่หลันและเซี่ยเชียนฮวัน เมื่อเห็นเปลือกตาของเซี่ยเชียนฮวันกระตุกเล็กน้อย เซียวเย่หลันก็รู้ได้ว่านางกำลังจะตื่น จึงยืนอยู่ข้างเตียง แล้วกล่าวเสียงเย็นชาว่า “เจ้ามีจุดเลือดเพราะอ่อนเพลียจริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่”เซี่ยเชียนฮวันได้ยินประโยคนี้ ก็เกือบจะโมโหตายน่าเสียดายที่นางยังมีอาการปวดท้องหลงเหลืออยู่ จึงไม่มีแรงมากพอที่จะลุกขึ้นมาด่าเซียวเย่หลันเห็นนางไม่ตอบ จึงเอ่ยขึ้นอีกว่า “เจ้าเป็นหมอมีความสามารถ ถ้าแอบฝังเข็มในจุดฝังเข็มของตัวเอง ก็สามารถสร้างจุดเลือดปลอมขึ้นมาได้ เพื่อหลีกหนีจากการชดเชยให้อวี้เออร์”“จินตนาการของท่านอ๋องช่างล้ำลึกยิ่งนัก แต่ไม่รู้จักข้าดีพอ” เซี่ยเชียนฮวันเบะปาก และทำเสียงเล็กเสียงน้อยออกมา “หากข้าอยากใช้เข็มเงินจริงๆ ข้าคงจะแทงซูอวี้เออร์ตรงๆ มากกว่าจะทำร้ายตัวเอง”
“อึกอึกอ่อก...หยุดมือ”เซี่ยเชียนฮวันไม่คาดคิดว่าสาวใช้ตัวน้อยคนนี้จะกล้าหาญขนาดนี้ นางพยายามจะดิ้นหนี และออกแรงผลักแต่ตอนนี้นางกำลังอ่อนแอ แม้ว่าสาวใช้คนนี้จะผอมบาง แต่ปกติก็ใช้กำลังในการทำงาน ความแข็งแกร่งจึงสูงกว่านางหลายขุมสาวใช้จับนางอย่างแข็งขัน และกรอกยาใส่ปากนางไปครึ่งชามส่วนครึ่งชามที่เหลือ ก็หกรดเสื้อผ้าของเซี่ยเชียนฮวันและพื้น“พระชายาโปรดดื่ม!!”สาวใช้สีหน้าดุดันสุดท้ายการเคลื่อนไหวในห้องก็ดึงดูดความสนใจของยามลาดตระเวนข้างนอก แต่พวกเขาเกิดอาการลังเลขึ้นมาในใจ และไม่กล้าเข้าไปข้างใน จึงส่งคนไปแจ้งเซียวเย่หลันก่อนเซียวเย่หลันกำลังเล่นหมากรุกกับตัวเองในห้องหนังสือ เมื่อได้ยินการรายงานของยาม จึงตอบอย่างเฉยเมยว่า “นางอยากจะแผลงฤทธิ์อะไร ก็ปล่อยให้นางทำไป ไม่ต้องไปสนใจ”เขาคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันทะเลาะกับเขา และตอนนี้กำลังโมโหอยู่เพียงลำพัง จึงเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมายามรับคำแล้วถอยไป เย่ซิ่นซึ่งยืนอยู่ด้านข้างก็เผยสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมา “ท่านอ๋อง พระชายาอาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”“ในห้องนางซ่อนแมงมุมพิษมากมายขนาดนั้น ใครจะกล้าเข้าไปทำอะไรนาง?” เซียวเย่ห
“พิโธ่ ดูเจ้าพูดสิ รับใช้บุรุษนะไม่ต้องใช้ตา!”“พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก มีหลายที่ต้องใช้ตาเหมือนกัน...”“ชู่ รีบหุบปาก”ในที่สุดก็มีแม่ครัวสองสามคนที่สังเกตเห็นเซี่ยเชียนฮวัน พวกนางรีบก้มหน้าก้มตา รู้สึกตกใจจนไม่กล้าเปล่งเสียงออกมานางเว่ยแม่ของเย่ซิ่นที่เป็นหัวหน้าห้องครัว ก็รีบเดินเข้ามา ยิ้มแห้งๆ แล้วกล่าวว่า “พระชายาโปรดให้อภัยด้วย สตรีพวกนี้แค่พูดจาไร้สาระ แต่พวกนางไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน”“ไม่เป็นไร”เซี่ยเชียนฮวันตอบนางเหลือบมองคนที่ทํางานในห้องครัวแวบหนึ่ง “ป้าเว่ย รบกวนเรียกทุกคนออกมายืนตรงหน้าข้าทั้งหมด ห้ามขาดแม้แต่คนเดียว”“เจ้าค่ะ”นางเว่ยไม่กล้าขัดคำสั่ง กวักมือเรียกผู้คนให้ออกมาไม่ช้าคนรับใช้หลายสิบคนก็ยืนกันเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ในลานกว้าง เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าของพวกเขามึนงงมาก“หากพระชายาต้องการจะลงโทษ ทรงลงโทษเพียงคนปากเปราะไม่กี่คนเถอะเพคะ ไม่จำเป็นต้องลากคนบริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง” นางเว่ยเกลี้ยกล่อมนางคิดว่าเพราะเซี่ยเชียนฮวันได้ยินคำพูดพวกนั้น จึงโมโหขึ้นมาเซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้า นางเดินกลับไปกลับมาอยู่สองรอบ แต่ก็ไม่เห็
เรือนฮวันซาเซี่ยเชียนฮวันยิ้มปลอมๆ แสดงสีหน้าชื่นมื่น ขณะวิ่งเข้ามาทักทายเฝ้าสนมหมิง“เสด็จแม่ ช่วงนี้สุขภาพของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ใบสั่งยาที่ข้าให้ท่านก่อนหน้านี้ ท่านดื่มแล้วรู้สึกเช่นไร? จริงสิ ให้ข้าฝังเข็มท่านอีกครั้งดีหรือไม่ วันละครั้ง เพื่อให้ท่านไม่รู้สึกปวดเอว และมีใบหน้างดงามตลอดไป”ใบหน้าของเซี่ยเชียนฮวันเขียนคำว่า ‘ประจบสอพลอ’ อย่างชัดเจนแต่กระนั้น นางก็ไม่กล้าเข้าใกล้พระสนมหมิงมากนัก เพียงแค่นั่งคุกเข่าที่หน้าโต๊ะ และหยั่งเชิงความคิดของสนมหมิง“เจ้าไม่จำเป็นต้องมาประจบสอพลอข้า เพราะมันไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกชอบเจ้าขึ้นเลยสักนิด”สนมหมิงจัดดอกไม้ด้วยสีหน้าเย็นชาหลังจากที่นางถูกหลี่จิ้งหย่าผู้ที่อยากได้เป็นลูกสะใภ้มากที่สุดแทงข้างหลัง อารมณ์ของนางก็ไม่แปรปรวนอีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็นเย็นชา เหมือนหุ่นเชิดไร้อารมณ์อันที่จริงตอนนี้เซี่ยเชียนฮวันเหนื่อยมาก แต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า “ลูกสะใภ้แค่อยากให้เสด็จแม่สุขภาพดีขึ้น ส่วนเสด็จแม่จะชอบหรือไม่ชอบลูกสะใภ้นั้น ก็ไม่เป็นไร”ในที่สุด สนมหมิงก็ยกเปลือกตาขึ้น และเหลือบมองนางเล็กน้อย“การฝังเข็มที่เจ้าพูดถึง มันได้ผลจริง
ซูอวี้เออร์โกรธมากแน่นอนว่า นางทําได้เพียงเก็บอารมณ์ที่แท้จริงไว้ในใจเท่านั้น เบื้องหน้ายังต้องแสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใย เล่นบทบาทเป็นสาวงามอ่อนหวานหลังจากฝนหมึกเสร็จ ก็เอื้อมมือไปนวดไหล่เซียวเย่หลันเบาๆ พลางพูดจาฉอเลาะว่า “พี่สาวกำลังอุ้มท้องอยู่ ถ้าหากเสด็จแม่สูญเสียการควบคุม แล้วทำร้ายพี่สาวขึ้นมาจะทำเช่นไร?”พูดถึงเมล็ดป่าในท้องของเซี่ยเชียนฮวัน แน่นอนว่า ปฏิกิริยาของเซียวเย่หลันก็เป็นไปตามที่ซูอวี้เออร์คาดไว้ สีหน้าของเขาพลันเย็นชาขึ้นมา นิ้วของเขาบีบพู่กันแน่น จนเส้นเอ็นปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ขมวดคิ้วพูดว่า “พระสนมหมิงทานยามาสักพักแล้ว อาการป่วยก็มั่นคง ไม่มีทางคลั่งขึ้นมาง่ายๆ”อารมณ์ของเขาสั่นไหว แม้แต่การเขียนก็ยังยุ่งเหยิง เลินเล่อเมื่อเขียนจดหมายเสร็จ เซียวเย่หลันก็ปิดผนึก และวางทับด้วยจานหินหมึก ก่อนจะเดินออกจากห้องหนังสือไปอย่างเงียบๆซูอวี้เออร์หรี่ตามองแผ่นหลังของชายคนนั้นจนหายลับไป จากนั้นนางก็ใช้ความเร็วของมือ หยิบจดหมายอีกฉบับออกจากแขนเสื้ออย่างรวดเร็ว และสลับกับจดหมายที่เซียวเย่หลันเขียนสักพักก็มีทหารมารับจดหมายซูอวี้เออร์ทําราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้
ภายในสวนพระสนมหมิงเดินมาถึงใต้ต้นไทรใหญ่ ในที่สุดก็มองเห็นเงาร่างผอมเพรียวของสตรีผู้หนึ่งนางกล่าวเสียงเย็นชาว่า “ออกมา”“ลูกสะใภ้คารวะเสด็จแม่”ซูอวี้เออร์ก้มหน้าเดินออกมาจากเงาไม้ และคารวะสนมหมิงสนมหมิงเหลือบมองนาง “หยุดพูดจาไร้สาระ ตอนทานอาหารเจ้าก็ส่งสัญญาณให้ข้าตลอดเวลา เจ้าอยากจะบอกอะไรกับข้า?”“สมกับเป็นเสด็จแม่ ฉลาดมีไหวพริบ มองปราดเดียวก็เข้าใจสัญญาณของลูกสะใภ้”ซูอวี้เออร์ยิ้มน้อยๆ สนมหมิงไม่ให้ค่ากับคำพูดเยินยอเหล่านี้ นางยังคงแสดงท่าทีเฉยเมยและเย็นชา ส่งเสียงหึออกมาเบาๆ“ข้าคิดว่าเจ้าค่อนข้างประพฤติตัวดี ในฐานะอนุคนหนึ่ง ยามปกติก็รับใช้หลันเอ๋อร์ ช่วยคลายความเบื่อหน่ายให้เขา แต่คาดไม่ถึงเลยว่าหูตาของเจ้าจะมากมายถึงเพียงนี้”ซูอวี้เออร์ได้ยินว่าตัวเองถูกเรียกว่า ‘อนุ’ ก็แสดงท่าทางผิดปรกติเล็กน้อยแต่ในไม่ช้า นางก็กลับมาตั้งตัวได้ และพูดจาเสียงอ่อนหวาน “ลูกสะใภ้รู้ดีว่าในใจของเสด็จแม่เป็นห่วงท่านอ๋อง จึงมีบางอย่างที่ทนซ่อนไว้ไม่ได้ และกลัวว่าเสด็จแม่จะโดนคนเลวหลอก เลยต้องตัดสินใจแบบนี้”“เจ้าหมายความว่าอะไร”“คือ...”ซูอวี้เออร์แสดงสีหน้าลำบากใจดูเหมือนนางจ