คฤหาสน์ตระกูลลู่ พื้นที่วิลล่าเขตเชิงเขาในเมืองไห่เฉิง เหล่าบรรดาแขกเหรื่อต่างทยอยกันมาถึงซูอินตั้งใจมาที่นี่ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วในห้องของลู่ซิวหนิงบนชั้นสอง หลังจากที่ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนกัน ซูอินก็นอนบนตัวของลู่ซิวหนิง และคิดที่จะเกลี้ยกล่อมเขาต่อไปลู่ซิวหนิงจับมือเธอเอาไว้ "ลุงสามฟู่น่าจะมาถึงแล้วนะ คุณย่าให้ผมไปต้อนรับด้วยตัวเอง โอกาสที่หายากขนาดนี้ ผมจะพลาดไม่ได้นะ"ซูอินหางตาตกอย่างสิ้นหวัง ท่าทางที่บอบบางและน้อยเนื้อต่ำใจแบบนั้นของเธอ มันทำให้ลู่ซิวหนิงลำบากใจเป็นอย่างมากแต่เมื่อนึกถึงงานสำคัญในวันนี้ ลู่ซิวหนิงก็ช่วยสวมชุดในซูอินด้วยตัวเองชุดราตรีสีขาวบนตัวของเธอ ราวกับเจ้าหญิงที่บอบบางและไร้เดียงสาอย่างไม่มีที่ติ และก็ด้วยความไร้เดียงสานี้เอง ที่ทำให้เมื่อครู่ที่ผ่านมาเขาไม่สามารถยับยั้งชั่งใจเอาไว้ได้"ผมไม่เคยเห็นคุณสวมชุดนี้มาก่อนเลยนะ มันสวยมาก และการออกแบบก็ไม่เลวเลย!"ลู่ซิวหนิงถามออกมาอย่างสบายๆ แต่ดวงตาของซูอินกลับมีความประหม่าแวบเข้ามา จากนั้นก็แสร้งทำเป็นไร้เดียงสา พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "คุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบของที่หรูหรา แต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงแซย
และในเวลานี้ สีหน้าของเหล่าบรรดาคุณหนูนั้นก็เปลี่ยนไปทันทีแต่ซูหรานกลับกระตุกรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา เดินเข้าไปจัดชุดราตรีที่ดูจะใหญ่กว่าตัวให้กับซูอิน จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สบายๆว่า"ชุดของ K&K ทั้งหมดทำตามไซซ์ของผู้ซื้อ อินอิน ขนาดไซซ์ของเราต่างกันนะ เธอชอบชุดนี้ทำไมไม่บอกฉันล่ะ ฉันจะได้ส่งคืนให้พวกเขาแก้ไขให้ ใส่แบบนี้มันไม่ค่อยจะพอดีตัวเท่าไหร่เลยนะ"จากนั้นเหล่าบรรดาคุณหนูถึงได้สังเกตเห็นว่า ชุดราตรีของซูอินไม่ค่อยเหมาะกับตัวสักเท่าไหร่พวกเธอลืมไปทันทีว่าซูอินดูน่าสงสารแค่ไหน และดวงตาที่มองมานั้นก็เต็มไปด้วยความดูแคลนอย่างเห็นได้ชัด"ที่แท้ก็ไม่ใช่ชุดของเธอเหรอ? เธอคงไม่ได้ขโมยชุดของพี่สาวเธอมาหรอกนะ ดูเหมือนว่าจะไซซ์เดียวกับคุณหนูใหญ่ซูเลยนะ""คิดไม่ถึงเลยว่า คุณหนูรองซูจะความฟุ้งเฟ้อได้ขนาดนี้ ได้ยินมาว่าเธอเป็นลูกติดที่แม่เลี้ยงลากมาด้วยใช่ไหม คนแบบนี้จิตใจร้ายกาจกว่าลูกนอกสมรสเสียอีกนะ!"ลูกติด...ลูกนอกสมรส...ซูอินไม่สามารถปั้นหน้าได้อีกต่อไป โดยมือที่กำหมัดเอาไว้นั่นก็สั่นตามไปด้วยแต่เธอก็ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ หลังจากที่เหล่าบรรดาพวกคุณหนูได้เดินออกไปแล้วนั้น
ซูหรานมองไปรอบๆ และเห็นแผ่นหลังของชายร่างสูงผ่านม่านห้องน้ำชาแผ่นหลังแบบนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนในขณะที่ซูหรานกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ลู่ซิวหนิงกลับเดินเข้ามาหาเธอ และบังสายตาของเธอเอาไว้ "หรานหราน เร็วเข้าสิ ผมจะพาคุณไปแนะนำตัวกับคุณลุงสามนะ"ลู่ซิวหนิงคิดที่จะดึงมือของซูหราน แต่ซูหรานกลับหลบเลี่ยงด้วยความรังเกียจมีร่องรอยของความไม่พอใจแวบเข้ามาในดวงตาของลู่ซิวหนิง แต่เมื่อคิดถึงลุงสามฟู่ เขาก็ทำได้เพียงระงับอารมณ์ไว้เท่านั้น"ซูหราน สำหรับผม สำหรับตระกูลลู่ล้วนแต่เป็นโอกาสที่ดีในวันนี้ ตระกูลฟู่เป็นใหญ่หนึ่งในสามของเมืองจิงเฉิง และลุงสามก็เป็นผู้กุมอำนาจคนใหม่แบบนี้อีก ขอแค่ลุงสามยอมมาเป็นสักขีพยานในการแต่งงานของพวกเรา ประกอบกับซิงหลานจิวเวลรี่ที่คอยช่วยหนุนอยู่ ตำแหน่งทายาทของตระกูลลู่ก็จะตกมาเป็นของผมอย่างสมบูรณ์แล้วนะ!"แม้ว่าลู่ซิวหนิงจะเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลลู่ แต่ในตอนนี้ลู่ซิงหวาพ่อของเขาได้ควบคุมธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลลู่อยู่ลู่ซิงหวามีลูกชายนอกสมรสอยู่ข้างนอก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลู่ซิงหวาได้เลื่อนตำแหน่งลูกชายนอกสมรสคนนั้น ซึ่งเป็นภัยคุกคามร
ซูหรานพยายามดิ้นรนโดยสัญชาตญาณ แต่จู่ๆ ฝ่ามือใหญ่ของผู้ชายคนนั้นก็จับมือเธอเอาไว้ และนิ้วของพวกเขาก็ประสานกันอย่างคลุมเครือใบหน้าของเขาซุกอยู่ที่ไหล่ของเธอ ลมหายใจที่หนักหน่วงปะทะกระดูกไหปลาร้าของเธอ และรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมาซูหรานอดไม่ไหวที่จะตัวสั่น และเตะไปตรงส่วนสำคัญด้านล่างของผู้ชายคนนั้นโดยไม่รู้ตัว แต่เธอเพิ่งจะยกขาขึ้นมา ฝ่ามือใหญ่นั้นก็มาจับเอาไว้ที่หัวเข่าของเธอเสียแล้วในความมืด ดวงตาของฟู่จิ้นหานมืดมนอย่างน่ากลัว และเสียงของเขาก็ประชดอย่างเย็นชาว่า "ช่างไร้ความปรานีเสียจริงๆ!"คืนก่อนเธอยังซื้อเขาหนึ่งคืนอยู่เลย และในคืนนี้เธอก็คิดที่จะให้เขาสิ้นลูกสิ้นหลานเสียแล้ว?ยัยบ้าซูหราน!ทันทีที่เธอเข้ามาในห้อง เขาก็จำเธอได้แล้วเขาจึงจงใจสาดไวน์ลงบนพื้น เพื่อให้กลิ่นของไวน์ฟุ้งไปในอากาศและกลบลมหายใจของเขาในเวลานี้ เขาจงใจลดเสียงของเขาลงเพื่อป้องกันไม่ให้เธอจำเขาได้และรอยลิปสติกบนปกเสื้อของลู่ซิวหนิงก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง และมันก็ทำให้ไฟที่อธิบายไม่ได้ในใจของฟู่จิ้นหานได้ลุกโหมขึ้นมาอีกครั้ง "ใครบอกให้คุณมา? ลู่ซิวหนิง?"ซูหรานนึกถึงข้อความ "ไม่ใช่คุณเหรอที่
ในห้องบนชั้นสอง ฟู่จิ้นหานได้คลายริมฝีปากที่กัดไหล่ของซูหรานออกแล้วในความมืด ดวงตาอันแหลมคมของเขาจ้องมองไปที่เธอจากข้อมูลที่จี้เยี่ยนโจวส่งให้เขาเมื่อคืนที่ผ่านมา เย่ซิงหลานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสิบปีก่อน และก็ได้ตัดสินว่ามันคืออุบัติเหตุหรือว่าการตายของเธอยังมีสาเหตุอื่นอยู่อีก?และการที่ซูหรานได้มาหาเขา ไม่ใช่เพื่อลู่ซิวหนิง แต่เพราะการตายของแม่เธอต่างหาก?หลังจากรออยู่นาน แต่ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด ซูหรานก็ร้อนใจขึ้นมาแล้ว "ขอแค่คุณบอกความจริงเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในปีนั้นกับฉันมา คุณจะให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอมทุกอย่าง"ดวงตาของฟู่จิ้นหานมืดมนและไม่ชัดเจน "ผมต้องการให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผม คุณจะยอมหรือไม่?"ซูหรานสะดุ้งเล็กน้อย และใบหน้าหล่อเหลาของ "สามีตัวพ่อ" ของเธอก็แวบขึ้นมาในหัวทันทีเมื่อได้เห็นการแสดงออกแบบนี้ ท่าทางที่ดีขึ้นของฟู่จิ้นหานก็กลับมืดมนอีกครั้ง และน้ำเสียงที่ไม่มีความสุขของเขาก็ผสมกับความหึงหวง พร้อมกับพูดว่า "ทำไมล่ะ? ทนไม่ได้ที่จะแยกทางกับคู่หมั้นของคุณอย่างนั้นเหรอ?"ซูหราน "???"ลู่ซิวหนิง?เขาคู่ควรด้วยเหรอ? !แต่แล้วใบหน้าขอ
"ได้ครับๆ ผมจะลงไปเตรียมพร้อมเดี๋ยวนี้เลยครับ" ลู่ซิวหนิงพยักหน้าเห็นด้วยทันทีลุงสามเป็นคนที่เรียบง่ายและลึกลับ เขาน่าจะไม่อยากให้ใครมาเห็นใบหน้าของเขามากเกินไปอย่างแน่นอนแต่ฟู่จิ้นหานแค่ไม่อยากให้ลูกแมวป่าเห็นใบหน้าของเขาก็เท่านั้นสายตาของเขาเหลือบมองกระเป๋าถือใบเล็กบนเตียง มันเป็นของซูหราน!ริมฝีปากของฟู่จิ้นหานกระตุกด้วยความสนใจ จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้า หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไปที่ชั้นล่าง ซูหรานที่เพิ่งเดินเข้าไปในห้องโถง ก็หยุดกะทันหัน เพราะเธอลืมกระเป๋าไว้ที่ห้องนั้นเสียแล้ว!มีทะเบียนสมรสของเธออยู่ในกระเป๋านั้นด้วย!กระเป๋าเธอไม่ต้องกลับไปเอาก็ได้ แต่ทะเบียนสมรสนั่นมันมีประโยชน์เป็นอย่างมากในค่ำคืนนี้!และในเวลานี้ ชายคนนั้นน่าจะออกไปแล้วนะ!ซูหรานกัดฟัน และทำได้เพียงแค่พนันกับตัวเองเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาจากผู้คน เธอเลือกที่จะใช้บันไดเพื่อไปชั้นสอง เมื่อเธอไปถึงห้องเมื่อครู่นี้ และในห้องก็ไม่มีใครอยู่ตามที่เธอคิดเอาไว้จริงๆแต่เมื่อไม่มีใครแล้ว กระเป๋าเธอก็ได้หายไปด้วย!ผู้ชายคนนั้นจะต้องเป็นคนเอาไปอย่างแน่นอน!หากต้องการกระเป๋าคืน จำเป็นต้องตามหาผ
เสียงนี้สามารถยืนยันความคาดเดาของซูหรานได้เป็นอย่างดีนั่นคือเขา! นั่นคือเขา!ซูหรานตื่นตระหนกมาก มากเสียจนไม่สามารถจะมากได้แล้ว เธอรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัว และซูหรานก็ต้องการจะผลักเขาออกไปโดยแทบจะเป็นสัญชาตญาณ แต่ฟู่จิ้นหานดูเหมือนจะเจาะลึกจิตใจของเธอได้ตั้งนานแล้ว เขากดฝ่ามือใหญ่ตรงเอวด้านหลังของเธอ และทำให้เธอแนบชิดเข้ามายิ่งกว่าเดิมเสียอีก "อย่าขยับ! หรือคุณอยากให้ทุกคนรู้ว่า คุณเพิ่งเข้ามาในห้องเพื่อยั่วยวนผม?""ฉัน..." ไม่ได้ยั่วนะ!ซูหรานต้องการหักล้าง แต่ภายใต้สายตาชั่วร้ายของเขาที่เต็มไปด้วยคำเตือน ซูหรานก็ยอมอดทนเอาไว้!รอยยิ้มภายใต้หน้ากากของเธอนั้นดูแย่เอาเสียมากๆ และก็เต้นรำตามเขาไปต่ออย่างเชื่อฟัง โดยที่ร่วมมือกันอย่างแนบแน่นแต่ดูเหมือนว่าฟู่จิ้นหานจะไม่ค่อยพอใจ เพราะร่างกายของเธอดูตึงเครียดจนเกินไป"ผ่อนคลาย!" ฟู่จิ้นหานตบเอวของเธอโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ซูหราน "!!!"ด้วยการกระทำที่หยอกเย้ากระเซ้าแย่แบบนี้ นี่เขากำลังเอาเปรียบเธออยู่ใช่ไหม!ซูหรานจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่ประท้วงฟู่จิ้นหานเลิกคิ้วและก็ยิ้มๆพวกเขาได้จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาตามกฎหมายแ
ในเวลานี้ ณ ศูนย์กลางลานเต้นรำในห้องโถงเมื่อการเต้นรำจบลง ฟู่จิ้นหานยังคงไม่พอใจเล็กน้อย แม้ว่าซูหรานจะถูกบังคับให้ดำเนินกิจการทุกขั้นตอน แต่เขากลับรู้สึกว่ามันน่าสนใจเป็นอย่างมากมือของเขาวางไว้บนเอวของเธอ และทำใจยากที่จะปล่อยมือได้“ลุงสาม ปล่อยได้รึยังเหรอคะ?”ซูหรานแสยะยิ้มฟู่จิ้นหานขมวดคิ้ว น้ำเสียงเผด็จการและหึงหวงเอ่ยพูด“ฉันเป็นลุงสามของเธอที่ไหนกัน?ครั้งต่อไปไม่อนุญาตให้เรียก”ซูหรานสงสัยว่าความหึงหวงของเขามาจากที่ไหน ทันใดนั้นฟู่จิ้นหานก็นำกระเป๋าใบหนึ่งยัดใส่ในมือของเธอกระเป๋าของเธอ!ภายในใจของซูหรานก็ดีใจขึ้นมา อยากที่จะเอ่ยขอบคุณต่อเขา แต่เมื่อนึกถึงรอยที่ถูกเขากัดที่ชั้นสองเมื่อสักครู่ ในตอนนี้ไหล่ก็ยังคงเจ็บปวดเล็กน้อยกัดเธอ ซ้ำยังขโมยกระเป๋าของเธอคำสองคำหลุดออกมาจากปากของซูหรานอย่างไร้ความเมตตา“หมา……ขโมย”เสียงของเธอเบามาก แต่ถึงอย่างไร ก็ยากที่จะปลุกปั่นผู้อาวุโสตรงหน้าได้แต่ฟู่จิ้นหานกลับได้ยิน เธอว่าเขาหมาขโมย!“เฮอะ……”ฟู่จิ้นหานกำลังที่จะไล่ตาม ซูหรานถอยหลังด้วยความรวดเร็ว หันหลังกลับอย่างแนบเนียนและซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนฟู่จิ้นหานใช้สายสายตาไล่ตามห
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว