รอยยิ้มที่เยาะเย้ยของฟู่จิ้นหานแข็งค้างอยู่บนใบหน้า และแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองหลังจากเวลาผ่านไปนานราวกับหนึ่งศตวรรษ ฟู่จิ้นหานก็ค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "คุณ...พูดว่าอะไรนะ พูดอีกครั้งซิ!"ซูหรานกะพริบตาปริบๆ และพูดด้วยความจริงใจว่า "เราแต่งงานกันเถอะ!"เธอสามารถจ่ายได้!เธอคิดทบทวนดีแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการแลกเปลี่ยนกัน ไม่ต้องมีใจ ไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรกันทั้งนั้น เธอจ่ายเงิน เขารับเงิน และผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้านี้ อาชีพของเขาพิเศษ และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!หลังจากที่ฟู่จิ้นหานสามารถย่อยเรื่องราวได้ ดวงตาของเขาก็มีความรังเกียจและไม่แยแสเพิ่มเข้ามาเขาเข้าใจเจตนาของเธอแล้ว!เหอะ……แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่รู้จักตัวตนของเขา แต่เธอก็คงเห็นเขาที่มีเงินมากมายอย่างนั้นน่ะสิดังนั้นเธอจึงกลับไปคิดทบทวน และก็มาหาเขาอีกครั้ง เพื่อต้องการที่จะปีนป่ายสามีที่ร่ำรวย? หรือแค่ต้องการเงินสักก้อน?เมื่อคิดถึงรอยแดงบนผ้าปูที่นอนในตอนเช้า ร่องรอยความรู้สึกผิดที่ซ่อนอยู่ในใจของฟู่จิ้นหานก็หายไปทันทีเพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อคืนวานเขาได้ตัวของเธอ และเขาก
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ด้านนอกที่ว่าการอำเภอฟู่จิ้นหานถือทะเบียนสมรสที่เพิ่งจะออกมาใหม่สดๆร้อนๆ ด้วยแววตาที่หนักอึ้งส่วนซูหรานกลับจูบทะเบียนสมรสอย่างตื่นเต้น และเริ่มที่จะตั้งหน้าตั้งตารองานแซยิดของตระกูลลู่ในวันพรุ่งนี้ โดยตั้งใจจะทำลายแผนการที่ลู่ซิวหนิงได้คิดเอาไว้จู่ๆ สายตาของเธอก็ทอดไปยังตัวของ "สามีตัวพ่อ" ที่อยู่ข้างๆด้วยรูปร่างและหน้าตาแบบนี้ของ "สามีตัวพ่อ" มันเพียงพอแล้วที่จะปัดลู่ซิวหนิงให้กระเด็นออกไป พรุ่งนี้เมื่อเขาไปปรากฏตัวในงานแซยิดของตระกูลลู่ มันคงเป็นการตอกหน้าลู่ซิวหนิงจนเจ็บอย่างแน่นอน!ยิ่งซูหรานคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น "คือว่า... พรุ่งนี้คุณว่างไปงานเลี้ยงกับฉันหรือเปล่า..."ฟู่จิ้นหานกำลังแยกแยะความจริงที่ว่าเขา "แต่งงาน" แล้ว จึงปฏิเสธโดยไม่ได้คิดว่า "ไม่ว่าง!""..."ซูหรานรู้สึกผิดหวังในใจขึ้นมาเล็กน้อยแต่ไม่นานเธอก็สามารถเข้าใจได้งานเลี้ยงแซยิดของตระกูลลู่ในวันพรุ่งนี้ ลุงสามฟู่ก็จะเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งมันจะเป็นงานใหญ่อย่างแน่นอนและงานที่ใหญ่ขนาดนี้ เขาจะต้องหวาดกลัวเป็นแน่!ก่อนที่พวกเขาจะแยกทางกัน ซูหรานก็ได้กำช
ทันทีที่ซูหรานกลับมาถึงวิลล่าจิ่งหยวน เธอก็ถูกล็อกไว้ที่นอกประตูใหญ่"มันยังมีหน้ากลับมาอีกเหรอ ซุนฉิน คุณรีบไล่ตะเพิดมันออกไปเดี๋ยวนี้!" เสียงตะคอกของซูจี้ไห่ดังออกมาจากด้านในของประตู"จี้ไห่ คุณอย่าโกรธไปเลยนะ เดี๋ยวจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพเอาได้…""คุณพ่อคะ ให้พี่สาวเข้ามาเถอะค่ะ การที่พี่สาวได้ทำเรื่องทรยศต่อคุณชายลู่นั้น อาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบก็ได้นะคะ ผู้ชายที่อยู่ในสถานที่แบบเย่หลินบาร์นั้นต่างก็ทำ...อาชีพแบบนั้นอยู่แล้วนะคะ เรื่องแบบนี้ พี่สาวให้เงินไป คนคนนั้นก็คงไม่ไปป่าวประกาศเรื่องไปทั่วหรอกนะคะ…"ในห้องนั่งเล่น ดูเผินๆแล้ว ซุนฉินและซูอินเหมือนจะออกหน้ามาพูดแทนซูหราน แต่ทุกคำกลับเหมือนราดน้ำมันลงบนเปลวไฟอย่างไงอย่างงั้นทันใดนั้น คำด่าทอของซูจี้ไห่ก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น"มันไม่รักดี! คนอย่างซูจี้ไห่ไม่มีที่สำหรับลูกสาวที่ไร้ยางอายแบบมันอยู่หรอกนะ! ต่อไปอย่าให้มันก้าวเข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้ได้อีก จะได้ไม่ต้องเอากาลกิณีมาแปดเปื้อนบ้าน อินอิน ลูกจิตใจดีและไร้เดียงสา อย่างได้เอามันเป็นเยี่ยงอย่างเด็ดขาด"ซูหรานอดไม่ได้ที่จะจุกในหัวใจ เธออดกลั้นเอาไว้จนรู้สึกเจ็บเธอรู้
ซูหรานที่เดิมทีตะโกน "เอาเงินคืนมา" อยู่ในใจ เมื่อได้รับโลเคชั่นที่ "สามีตัวพ่อ" ส่งมาให้แล้วนั้น จู่ๆ ความโกรธเกรี้ยวนั้นก็หายไปทันที"ถือว่าเขายังพอมีมโนธรรมในใจอยู่บ้าง!"ซูหรานไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวและรีบไปที่โรงแรมทันทีเมื่อมาถึงด้านนอกของโรงแรม รอยยิ้มบนใบหน้าของซูหรานก็แข็งค้างทันทีสามีตัวพ่อได้พักอยู่ในโรงแรมห้าดาวอันดับสองในเมืองไห่เฉิง ห้องพักราคาหลายหมื่นต่อคืน เงินจำนวน 33,000 บาท เขาจะพักอยู่ที่ได้นานแค่ไหน?ซูหรานกุมหน้าอกของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว : ช่างเสียดายเสียจริงๆ!เมื่อเธอเดินตามหมายเลขของห้องที่เขาให้เอาไว้ ในที่สุดเธอก็มาถึงห้องสวีทสุดหรูของโรงแรม หัวใจของซูหรานแทบจะกระอักเลือด เธอสงสัยเหลือเกินว่า ด้วยเงินจำนวนน้อยนิดนี้เธอจะจ่ายเงินค่าห้องเพียงแค่คืนหนึ่งได้หรือไม่แล้ว! ! !ซูหรานหายใจเข้าลึกๆ และรู้สึกว่าจำเป็นต้องพูดอะไรกับ "สามี" คนนี้ดีๆสักหน่อยแล้ว!ประตูห้องถูกเปิดแง้มเอาไว้ ซูหรานผลักเปิดประตูและเดินเข้าไป แต่กลับไม่เห็นคนที่อยู่ด้านใน มีเพียงเสียงน้ำไหลที่ดังแว่วมาจากห้องน้ำเท่านั้นเขากำลังอาบน้ำอยู่!ซูหรานมองหาโซฟาแล้วนั่งลง โดยที่มือ
คฤหาสน์ตระกูลลู่ พื้นที่วิลล่าเขตเชิงเขาในเมืองไห่เฉิง เหล่าบรรดาแขกเหรื่อต่างทยอยกันมาถึงซูอินตั้งใจมาที่นี่ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วในห้องของลู่ซิวหนิงบนชั้นสอง หลังจากที่ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนกัน ซูอินก็นอนบนตัวของลู่ซิวหนิง และคิดที่จะเกลี้ยกล่อมเขาต่อไปลู่ซิวหนิงจับมือเธอเอาไว้ "ลุงสามฟู่น่าจะมาถึงแล้วนะ คุณย่าให้ผมไปต้อนรับด้วยตัวเอง โอกาสที่หายากขนาดนี้ ผมจะพลาดไม่ได้นะ"ซูอินหางตาตกอย่างสิ้นหวัง ท่าทางที่บอบบางและน้อยเนื้อต่ำใจแบบนั้นของเธอ มันทำให้ลู่ซิวหนิงลำบากใจเป็นอย่างมากแต่เมื่อนึกถึงงานสำคัญในวันนี้ ลู่ซิวหนิงก็ช่วยสวมชุดในซูอินด้วยตัวเองชุดราตรีสีขาวบนตัวของเธอ ราวกับเจ้าหญิงที่บอบบางและไร้เดียงสาอย่างไม่มีที่ติ และก็ด้วยความไร้เดียงสานี้เอง ที่ทำให้เมื่อครู่ที่ผ่านมาเขาไม่สามารถยับยั้งชั่งใจเอาไว้ได้"ผมไม่เคยเห็นคุณสวมชุดนี้มาก่อนเลยนะ มันสวยมาก และการออกแบบก็ไม่เลวเลย!"ลู่ซิวหนิงถามออกมาอย่างสบายๆ แต่ดวงตาของซูอินกลับมีความประหม่าแวบเข้ามา จากนั้นก็แสร้งทำเป็นไร้เดียงสา พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "คุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบของที่หรูหรา แต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงแซย
และในเวลานี้ สีหน้าของเหล่าบรรดาคุณหนูนั้นก็เปลี่ยนไปทันทีแต่ซูหรานกลับกระตุกรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา เดินเข้าไปจัดชุดราตรีที่ดูจะใหญ่กว่าตัวให้กับซูอิน จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สบายๆว่า"ชุดของ K&K ทั้งหมดทำตามไซซ์ของผู้ซื้อ อินอิน ขนาดไซซ์ของเราต่างกันนะ เธอชอบชุดนี้ทำไมไม่บอกฉันล่ะ ฉันจะได้ส่งคืนให้พวกเขาแก้ไขให้ ใส่แบบนี้มันไม่ค่อยจะพอดีตัวเท่าไหร่เลยนะ"จากนั้นเหล่าบรรดาคุณหนูถึงได้สังเกตเห็นว่า ชุดราตรีของซูอินไม่ค่อยเหมาะกับตัวสักเท่าไหร่พวกเธอลืมไปทันทีว่าซูอินดูน่าสงสารแค่ไหน และดวงตาที่มองมานั้นก็เต็มไปด้วยความดูแคลนอย่างเห็นได้ชัด"ที่แท้ก็ไม่ใช่ชุดของเธอเหรอ? เธอคงไม่ได้ขโมยชุดของพี่สาวเธอมาหรอกนะ ดูเหมือนว่าจะไซซ์เดียวกับคุณหนูใหญ่ซูเลยนะ""คิดไม่ถึงเลยว่า คุณหนูรองซูจะความฟุ้งเฟ้อได้ขนาดนี้ ได้ยินมาว่าเธอเป็นลูกติดที่แม่เลี้ยงลากมาด้วยใช่ไหม คนแบบนี้จิตใจร้ายกาจกว่าลูกนอกสมรสเสียอีกนะ!"ลูกติด...ลูกนอกสมรส...ซูอินไม่สามารถปั้นหน้าได้อีกต่อไป โดยมือที่กำหมัดเอาไว้นั่นก็สั่นตามไปด้วยแต่เธอก็ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ หลังจากที่เหล่าบรรดาพวกคุณหนูได้เดินออกไปแล้วนั้น
ซูหรานมองไปรอบๆ และเห็นแผ่นหลังของชายร่างสูงผ่านม่านห้องน้ำชาแผ่นหลังแบบนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนในขณะที่ซูหรานกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ลู่ซิวหนิงกลับเดินเข้ามาหาเธอ และบังสายตาของเธอเอาไว้ "หรานหราน เร็วเข้าสิ ผมจะพาคุณไปแนะนำตัวกับคุณลุงสามนะ"ลู่ซิวหนิงคิดที่จะดึงมือของซูหราน แต่ซูหรานกลับหลบเลี่ยงด้วยความรังเกียจมีร่องรอยของความไม่พอใจแวบเข้ามาในดวงตาของลู่ซิวหนิง แต่เมื่อคิดถึงลุงสามฟู่ เขาก็ทำได้เพียงระงับอารมณ์ไว้เท่านั้น"ซูหราน สำหรับผม สำหรับตระกูลลู่ล้วนแต่เป็นโอกาสที่ดีในวันนี้ ตระกูลฟู่เป็นใหญ่หนึ่งในสามของเมืองจิงเฉิง และลุงสามก็เป็นผู้กุมอำนาจคนใหม่แบบนี้อีก ขอแค่ลุงสามยอมมาเป็นสักขีพยานในการแต่งงานของพวกเรา ประกอบกับซิงหลานจิวเวลรี่ที่คอยช่วยหนุนอยู่ ตำแหน่งทายาทของตระกูลลู่ก็จะตกมาเป็นของผมอย่างสมบูรณ์แล้วนะ!"แม้ว่าลู่ซิวหนิงจะเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลลู่ แต่ในตอนนี้ลู่ซิงหวาพ่อของเขาได้ควบคุมธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลลู่อยู่ลู่ซิงหวามีลูกชายนอกสมรสอยู่ข้างนอก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลู่ซิงหวาได้เลื่อนตำแหน่งลูกชายนอกสมรสคนนั้น ซึ่งเป็นภัยคุกคามร
ซูหรานพยายามดิ้นรนโดยสัญชาตญาณ แต่จู่ๆ ฝ่ามือใหญ่ของผู้ชายคนนั้นก็จับมือเธอเอาไว้ และนิ้วของพวกเขาก็ประสานกันอย่างคลุมเครือใบหน้าของเขาซุกอยู่ที่ไหล่ของเธอ ลมหายใจที่หนักหน่วงปะทะกระดูกไหปลาร้าของเธอ และรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมาซูหรานอดไม่ไหวที่จะตัวสั่น และเตะไปตรงส่วนสำคัญด้านล่างของผู้ชายคนนั้นโดยไม่รู้ตัว แต่เธอเพิ่งจะยกขาขึ้นมา ฝ่ามือใหญ่นั้นก็มาจับเอาไว้ที่หัวเข่าของเธอเสียแล้วในความมืด ดวงตาของฟู่จิ้นหานมืดมนอย่างน่ากลัว และเสียงของเขาก็ประชดอย่างเย็นชาว่า "ช่างไร้ความปรานีเสียจริงๆ!"คืนก่อนเธอยังซื้อเขาหนึ่งคืนอยู่เลย และในคืนนี้เธอก็คิดที่จะให้เขาสิ้นลูกสิ้นหลานเสียแล้ว?ยัยบ้าซูหราน!ทันทีที่เธอเข้ามาในห้อง เขาก็จำเธอได้แล้วเขาจึงจงใจสาดไวน์ลงบนพื้น เพื่อให้กลิ่นของไวน์ฟุ้งไปในอากาศและกลบลมหายใจของเขาในเวลานี้ เขาจงใจลดเสียงของเขาลงเพื่อป้องกันไม่ให้เธอจำเขาได้และรอยลิปสติกบนปกเสื้อของลู่ซิวหนิงก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง และมันก็ทำให้ไฟที่อธิบายไม่ได้ในใจของฟู่จิ้นหานได้ลุกโหมขึ้นมาอีกครั้ง "ใครบอกให้คุณมา? ลู่ซิวหนิง?"ซูหรานนึกถึงข้อความ "ไม่ใช่คุณเหรอที่