คู่หมั้นของผมเป็นแพทย์นิติเวช ผมเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนคดีอาญา ผมรักเธอเท่าชีวิต แต่เธอเอาแต่สนใจรักครั้งแรกของเธอ เพื่อช่วยให้รักแรกพ้นผิดแล้ว เธอไปช่วยจัดการศพศพหนึ่งแทนเขา แต่สิ่งที่เธอไม่รู้คือ เจ้าของศพนั้นก็คือผมเอง หลังจากที่เธอรู้ความจริง เธอก็แตกสลายอย่างสมบูรณ์ ##ผมชื่อหลินซิว ชาติก่อนเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนคดีอาญา ตอนนี้ผมตายไปแล้ว กลายเป็นวิญญาณตามติดอยู่ข้างกายกู้อวี๋เคอคู่หมั้นของผม “เคอเคอ ฉันเกิดเรื่องแล้ว เธอมาช่วยฉันที!” กู้อวี๋เคอรับสายของหวังซิงอวี่ จากนั้นก็วางงานในมือลงโดยไม่ลังเลยเลยสักนิด ก่อนวิ่งออกไปหาเขา หวังซิงอวี่เป็นรักแรกของเธอ ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน ขอเพียงแค่เป็นหวังซิงอวี่เอ่ยปาก ไม่ว่าหวังซิงอวี่จะให้เธอทำอะไร กู้อวี๋เคอก็รับปากทั้งหมด ผมเคยถามเธอว่าเธอเอาแต่สนใจหวังซิงอวี่ใช่ไหม ที่ผ่านกู้อวี่เคอเพียงแค่พูดกับผมด้วยความร้อนรนเท่านั้นว่า : “ฉันกับหวังซิงอวี่เป็นแค่เพื่อนธรรมดา คุณอย่าหึงมั่วซั่วจะได้ไหม” เพราะฉะนั้นในครั้งนี้ หวังซิงอวี่ฆ่าคนแล้ว จึงให้กู้อวี่เคอมาช่วยจัดการศพ ซึ่งเธอก็รับปาก เพียงแต่สิ่งที่กู้อวี๋เคอไม่รู้ก็คือ ศพนั้นเป็นศพของผมเอง
View Moreเย็นวันนั้นกู้อวี๋เคอได้เขียนรายงานด้วยตัวเองหนึ่งฉบับ เล่าทุกเรื่องที่เธองทำไปทั้งหมดลงไปโดยไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียวเธอรู้ว่าทำแบบนี้แล้วเธออาจจะได้รับโทษถูกตัดสินจำคุกฐานมีส่วนร่วมกระทำความผิด แต่ก็ทำเพื่อคืนความยุติธรรมให้ผมเธอยังค้นพบบนอินเตอร์เน็ตอีกด้วยว่า เจ้าของร้านขายเครื่องมือช่างร้านนั้นคือหวังซิงอวี่ด้วยหลักฐานเหล่านี้ หวังซิงอวี่ก็หนีความผิดฐานฆ่าคนตายไม่พ้นแล้วหลังส่งรายงานเสร็จแล้ว เมื่อมีทั้งพยานบุคคลและหลักฐาน ไม่นานกู้อวี๋เคอและหวังซิงอวี่ก็ถูกจับกุมตัว“เสี่ยวเคอ คุณเลอะเลือนไปแล้วเหรอ”หัวหน้าหยางอ่านรายงานที่กู้อวี๋เคอส่งมาจนจบ ก็ถอนหายใจ ไม่อยากจะยอมรับจริง ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จากนั้นก็หยิบกุญแจมือขึ้นมา ล็อคข้อมือทั้งสองข้างของกู้อวี๋เคอ“หัวหน้าหยาง คุณว่าอาซิวจะยกโทษให้ฉันไหมคะ?”“ฉันไม่เคยโทษเธอเลย!”ผมที่ลอยอยู่ข้าง ๆ ตอบทันทีผมไม่โทษกู้อวี๋เคอที่ทำลายศพของผม ผมไม่โทษเธอที่กดตัดสายขอความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายของผมผมแค่โทษที่ตัวเองเคยรักเธอมากเกินไป“หลินซิวคงไม่โทษเธอหรอก”หัวหน้าหยางถอนหายใจแล้วพูดต่อไปว่า : “หลินซิวไม่ให้ฉันบอกคุณว่าเขากำลั
ผู้ช่วยไม่รู้จะปลอบใจเธออย่างไร ก้มหน้าลงไม่กล้าสบตากับเธอกู้อวี๋เคอยืนนิ่งก่อน หลังจากนั้นก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมา แล้วหันไปตะโกนใส่คนที่ยืนอยู่นอกห้อง : “พวกคุณเลิกล้อฉันเล่นได้แล้ว หลินซิวล่ะ?”ไม่มีใครตอบกลับกู้อวี๋เคอยืนอยู่ที่เดิม ไม่กล้าเดินไปข้างหน้าเธอรับความจริงนี้ไม่ไหวเธอทำลายศพคู่หมั้นของเธอด้วยน้ำมือตัวเองหัวหน้าหยางเดินเข้ามาตบบ่าของกู้อวี๋เคอพลางพูดขึ้นว่า : “เสี่ยวเคอ ตอนนี้คุณคงรับไม่ไหวหรอก ฉันช่วยคุณลางานกับผู้อำนวยการแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนสักระยะหนึ่งก่อนเถอะ!”หัวหน้าหยางพูดจบ เห็นว่ากู้อวี๋เคอนิ่งเฉยไม่มีการตอบโต้ ก็ยืนมือออกไปตบบ่าของเธออีกครั้ง“ตึง” เสียงดังขึ้น ตาสองข้างของกู้อวี๋เคอพร่ามัว ก่อนเป็นลมหมดสติไปผมยื่นมืออกไปต้องการจะรับตัวเธอไว้ด้วยความร้อนรน แต่ผมเป็นแค่วิญญาณเท่านั้นร่างกายของกู้อวี๋เคอทะลุสองแขนของผม ล้มลงกับพื้นผมมองกู้อวี๋เคอที่เป็นลมเพราะเสียใจเกินไป หากเป็นผมในเมื่อก่อน ก็คงจะกอดเธอไว้ในอ้อมกอดด้วยความสงสารไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมกลับไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อยกู้อวี๋เคอถูกนำตัวส่งกลับบ้านโดยเพื่อนร่วมงานสองคนที่มีความสัม
ผมเห็นข้อความที่หัวหน้าหยางส่งมา ในใจก็เข้าใจทันทีเพื่อนร่วมงานฝ่ายเทคนิคเทียบผลออกมาได้แล้วพวกเขารู้แล้วว่าศพนั้นเป็นศพของผมผมมองกู้อวี๋เคอกลับไปสถานีอย่างรีบร้อนสีหน้าบนใบหน้าของเธอเจือรอยยิ้ม ดูเหมือนเธอจะยังคิดไม่ถึงว่าศพนั้นเป็นผมทันทีที่กู้อวี๋เคอเข้ามาในสถานี ก็เห็นหัวหน้าหยางและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ กำลังยืนรอเธออยู่เธอกวาดสายตามองก่อนหนึ่งรอบ เมื่อไม่เห็นผม ก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า : “ไหนบอกว่าหาหลินซิวเจอแล้วเหรอคะ? คนล่ะ?”เหล่าเพื่อนร่วมงานได้ยินเธอถามแบบนี้ ต่างพากันก้มหน้า ไม่กล้าสบตาเธอ“เป็นอะไรไป? ทำไมพวกคุณถึงไม่พูดกันล่ะ? หลินซิวละคะ? เขาได้รับบาดเจ็บมาเหรอ? อยู่ที่ไหน? พาฉันไปดูหน่อย!”กู้อวี๋เคอเห็นทุกคนยังยืนนิ่งไม่ไหวติง สายตาก็ทอดมองไปที่หัวหน้าหยาง“หัวหน้าหยาง หลินซิวล่ะคะ?”หัวหน้าหยางก้มหน้า ชี้ไปที่ห้องทำงานของกู้อวี๋เคอกู้อวี๋เคอรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก วิ่งไปตามทางที่หัวหน้าหยางชี้แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหลินซิว“คนล่ะ? หัวหน้าหยาง คุณหลอกฉันเหรอคะ?”กู้อวี๋เคอหันไปเห็นผู้ช่วยกำลังเดินมาพอดีผู้ช่วยขอบตาแดงก่ำ กัดฟันก
วันถัดมาเป็นวันทำงานตามปกติ แต่ตลอดทั้งเช้ากู้อวี๋เคอก็เอาแต่เหม่อลอยในช่วงมื้อกลางวันที่โรงอาหาร เพื่อนร่วมงานฝ่ายเทคนิคสังเกตเห็นกู้อวี๋เคอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็พูดหยอกเย้าขึ้นมา : “หมอกู้เป็นอะไรไปเนี่ย เจ้าหน้าที่หลินของคุณลาพักร้อน วิญญาณของคุณก็ลาพักร้อนตามไปด้วยงั้นเหรอ?”“เหลวไหล!”กู้อวี๋เคอกรอกตาใส่อีกฝ่ายอย่างเขินอาย และใช้ตะเกียบคีบผักมามั่ว ๆ“อาจารย์คีบผิดแล้ว นั่นมันขิงนะ!”ผู้ช่วยก็สังเกตเห็นว่าตลอดเช้านี้กู้อวี๋เคอมีท่าทีผิดแปลกไป“คุณก็ควรลาพักร้อนไปพักผ่อนสักระยะหนึ่งก่อนเถอะ ตัวอย่างที่คุณส่งมาให้ฉันเมื่อวานมันเจือปนมากเกินไป ยังดีที่ฉันมีความสามารถพอ ไม่อย่างนั้นก็คงสกัดออกมาไม่ได้!”เพื่อนร่วมงานของฝ่ายเทคนิคพูดแซว“เป็นไปไม่ได้ อันนั้นฉันสกัดเองเลยนะ ตรงตามมาตรฐาน 100% !”ผู้ช่วยมั่นใจในฝีมือของตนเองมากกู้อวี๋เคอพอฟังแล้ว ก็ใส่ใจกับคำพูดพวกนี้ จู่ ๆ เธอก็คิดขึ้นได้ว่าในห้องทำงานมีกล้องวงจรปิด ถ้าให้คนอื่นรู้ว่าเมื่อวานหวังซิงอวี่เคยมา แบบนั้นก็จบกันแล้วกู้อวี๋เคอวางตะเกียบลงทันทีและไม่กินต่อไป ก่อนจะรีบกลับไปยังห้องทำงาน หมายจะทำลายภาพวิดีโอ
กู้อวี๋เคอขนเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากตู้เสื้อผ้า จนในที่สุดก็หานามบัตรใบนั้นเจอในส่วนลึกที่สุดขณะเดียวกัน เธอก็พบซองเอกสารที่ซุกซ่อนไว้ในชั้นล่างสุดของตู้เสื้อผ้าเอกสารในซอง คือหนังสือยินยอมบริจาคไตหนึ่งฉบับหลายปีก่อน กู้อวี๋เคอตรวจพบว่าเป็นโรคไตวายระยะสุดท้ายจำเป็นต้องปลูกถ่ายไตผมแอบไปทดสอบความเข้ากันได้ เมื่อพบว่าเนื้อเยื่อสามารถเข้ากันได้ ผมจึงบริจาคไตข้างหนึ่งของตัวเองให้กับกู้อวี๋เคอแต่ผมไม่เคยบอกเรื่องนี้กับกู้อวี๋เคอเลย ผมไม่ต้องการให้กู้อวี๋เคอตอบตกลงคบกับผมเพื่อตอบแทนผมรักเธอ และไม่อยากให้เธอมีภาระทางจิตใจเมื่อกู้อวี๋เคอเห็นเอกสารในซอง ถึงได้รู้ว่าผมเคยบริจาคไตไปหนึ่งข้าง“ไตซ้ายเหรอ?”เห็นคำสองคำนี้ กู้อวี๋เคอราวกับถูกฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ เธอจำได้ลาง ๆ ว่าเจ้าของศพนั้นก็บริจาคไตข้างซ้ายเช่นกัน“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!”กู้อวี๋เคอตัวสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัวไม่หยุด ความคิดแย่ ๆ นั้น พุ่งขึ้นมาในใจอีกครั้งเจ้าของศพนั้นคงไม่ใช่หลินซิวหรอกมั้ง?ในขณะนั้น เสียงโทรศัพท์ของกู้อวี้เคอดังขึ้นเพื่อนร่วมงานฝ่ายเทคนิคโทรศัพท์มา บอกว่าผลการตรวจ DNA ออกมาแล้ว คลังข้อมูลใน
หลังจากกู้อวี๋เคอจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นว่าหวังซิงอวี๋ไปแล้วเธอถอนหายใจ ก่อนมายืนตรงหน้าเตียงชันสูตรศพ ไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะก็นำตัวอย่าง DNA ที่สกัดได้จากศพนั้นส่งให้ฝ่ายเทคโนโลยี่อยู่ในห้องน้ำเมื่อสักครู่นี้ เธอก็ได้ขบคิดจนกระจ่างแจ้งแล้วนับตั้งแต่ตอนที่เธอช่วยหวังซิงอวี่จัดการกับศพ เธอก็ได้เดินทางผิดแล้วเธอไม่อาจทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อไปได้เธอไม่อาจทำผิดต่อความรู้ทั้งหมดที่เธอได้ร่ำเรียนมาเธอควรจะทวงคืนยุติธรรมให้กับผู้ตาย!ไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วผลการตรวจสอบจะพัวพันมาถึงตนเองหรือไม่ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วตนเองจะได้รับการลงโทษหรือไม่ เธอล้วนแต่ยอมรับกู้อวี๋เคอนำตัวอย่าง DNA ไป ส่งให้กับฝ่ายเทคโนโลยี ระหว่างทางกลับก็ได้เจอกับหัวหน้าหยางเข้าเมื่อหัวหน้าหยางเจอหน้ากู้อวี๋เคอ ก็ถามเธออย่างร้อนรนขึ้นว่า “หมอกู้ ช่วงนี้หลินซิวได้ติดต่อคุณบ้างไหม? พวกเราโทรหาเขา แต่เขาไม่รับสายเลย”กู้อวี๋เคอได้ยินหัวหน้าหยางพูดเช่นนี้ถึงคิดได้ว่า สัปดาห์นี้ ตนเองไม่ได้รับข่าวคราวจากหลินซิวเลยหัวหน้าหยางเห็นกู้อวี๋เคอส่ายหน้า ในใจก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย “หลินซิวไม่ใช่
“อาจารย์ ฉันสกัด DNA ของผู้ตายได้แล้ว!”ผู้ช่วยของกู้อวี๋เคอทำงานล่วงเวลามาตลอดทั้งคืน ในที่สุดก็สกัด DNA ปริมาณเล็กน้อยออกมาจากร่างของผมได้แล้ว“ส่งให้ฝ่ายเทคนิค อีกไม่นานพวกเราก็จะรู้ตัวตนของผู้ตายได้แล้ว!”ผมเห็นกู้อวี๋เคอจ้องเครื่องมือในมือของผู้ช่วยเขม็ง เธอกำลังลังเลว่าจะทำลายมันดีไหม“อาจารย์ ฉันทำงานล่วงเวลามาทั้งคืน ขอตัวกลับไปนอนชดเชยก่อนนะ! ฝากอาจารย์ไปส่งมันที่ฝ่ายเทคนิคด้วยละ!”ผู้ช่วยพูดจบก็อ้าปากหาวแล้วจากไปกู้อวี๋เคอยืนอยู่กับที่คิดลังเลอยู่เป็นเวลานานมากเนื่องจากจรรยาบรรณทางวิชาชีพ เธอไม่สามารถทำแบบนี้ได้แต่ในใจเธอรู้ดี ก่อนหน้านี้ได้ช่วยหวังซิงอวี่จัดการเรื่องศพ เธอก็ได้ทำผิดไปแล้ว ตอนนี้เธอและหวังซิงอวี่คือตั๊กแตนสองตัวที่ถูกมัดบนเชือกเส้นเดียวกัน ถ้าหวังซิงอวี่ถูกจับ เธอก็หนีความผิดไม่พ้นเช่นกันช่วงเวลาที่กู้อวี๋เคอกำลังลังเลอยู่ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูพอประตูเปิดออก เป็นหวังซิงอวี่“นายมาได้ยังไง?”หวังซิงอวี่ไม่รอให้กู้อวี๋เคอพูดจบ ก็หมุนกายเข้ามาแล้วปิดประตู“ฉันคิดถึงเธอ”หวังซิงอวี่ยื่นมืออกมาหมายจะสัมผัสใบหน้าของเธอกู้อวี๋เคอพูดอย่างจนปัญญา
เมื่อหนึ่งเดือนก่อน สถานีของพวกเราร่วมกับทางมณฑลดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมและกำจัดความชั่วร้ายผมทำงานล่วงเวลาเป็นเวลาติดกันหนึ่งเดือน ยุ่งจนกระทั่งลืมวันเกิดของคุณแม่กู้คุณแม่กู้เข้าใจว่าผมทำงานไม่ง่าย และรู้สึกสงสารจับใจที่ผมต้องทำงานล่วงเวลาหนึ่งเดือนติดเย็นวันนั้นคุณแม่กู้จึงตุ๋นซุปไก่ แล้วเอามาส่งที่สถานีตำรวจด้วยตัวเองบอกว่าต้องการบำรุงร่างกายให้ผมหลังจากผมรับโทรศัพท์ กำลังจะออกไปรับคุณแม่กู้เข้ามาตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ก็ได้จับกุมนักโทษหลบหนีมาคนหนึ่ง และกำลังจะพาตัวไปสอบสวนผมจึงตามเข้าไปสอบสวนด้วย โดยลืมเรื่องที่ต้องไปรับคุณแม่กู้ที่หน้าสถานีตำรวจหลังสอบสวนนักโทษหลบหนีเสร็จ ผมก็เห็นเห็นกู้อวี๋เคอเข้ามาหาผมด้วยท่าทีดุดันผมจำได้ว่าช่วงนี้ไม่มีคดีอะไร เธอไม่ต้องทำงานล่วงเวลา ทำไมถึงยังอยู่ที่สถานีตั้งแต่เช้าตรู่ได้ผมเห็นว่าสีหน้าของเธอผิดแปลกไป กำลังคิดจะถามว่าเธอเป็นอะไรไปนั้นกู้อวี๋เคอก็เดินเข้ามาตวัดฝ่ามือใส่ผมหนึ่งครั้ง“คุณยังจำแม่ของฉันได้ไหม?”ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ผมถึงนึกขึ้นได้ว่า คุณแม่กู้รอผมอยู่ที่ด้านนอกสถานีตำรวจอยู่ตลอด“ขอโทษ ขอโทษ ผมล
เสียงครวญครางจมดิ่งของทั้งสองคนดังทะลุประสาทหูของผม ผมอยากจะอุดหู แต่เสียงนั้นกลับทะลุวิญญาณของผม ไม่ว่าผมจะอุดอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ผมยิ่งไม่มีหนทางจะหนี เหมือนกับว่าผมถูกทำของใส่ วิญญาณทำได้แค่ตามติดอยู่ข้างกายกู้อวี๋เคอเท่านั้น ไม่อาจจะหนีไปได้ผมต้องเบิกตามองคู่หมั้นของผม หญิงสาวที่ถูกผมมองว่าสำคัญกว่าชีวิตของผมเองคนนั้น ฝ่าเมฆฝนไปด้วยกันกับฆาตกรที่ฆ่าผมผมรังเกียจจนอยากจะอาเจียนอาเจียนเสร็จผมก็คิดอย่างชั่วร้าย จะช้าหรือเร็วกู้อวี๋เคอก็จะรู้ว่าซากกระดูกที่นอนอยู่ข้างเธอคือผมเมื่อวันหนึ่งเธอรู้แล้วว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับฆาตกรที่ฆ่าคู่หมั้นของเธอ หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือฆาตกรทำลายศพของผมด้วย สติจะแตกสลายบ้างไหม?ในใจของผมเกิดความสุขของการแก้แค้นขึ้นมาอย่างน่าประหลาดนี่ทำให้ใจของผมรู้สึกสบายขึ้นมากกู้อวี๋เคอและหวังซิงอวี่เข้าเกี่ยวกระหวัดข้าง ๆ กระดูกของผมราว ๆ หนึ่งชั่วโมงกว่ากลับมาถึงบ้านกู้อวี๋เคอเปิดประตู ภายในบ้านมืดสนิทกู้อวี๋เคอเปิดไฟแล้วเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะเดินเข้าห้องครัวด้วยความเคยชิน เปิดตู้เย็นแล้วจะหยิบน้ำมะพร้าวแช่เย็นออกมาหนึ่งขวดเมื่อเปิดตู้เย็
ผมชื่อหลินซิว ชาติก่อนเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนคดีอาญาตอนนี้ผมตายไปแล้ว กลายเป็นวิญญาณตามติดอยู่ข้างกายกู้อวี๋เคอคู่หมั้นของผม“เคอเคอ ฉันเกิดเรื่องแล้ว เธอมาช่วยฉันที!”กู้อวี๋เคอรับสายของหวังซิงอวี่ จากนั้นก็วางงานในมือลงโดยไม่ลังเลยเลยสักนิด ก่อนวิ่งออกไปหาเขาหวังซิงอวี่เป็นรักแรกของเธอ ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันขอเพียงแค่หวังซิงอวี่เอ่ยปาก ไม่ว่าหวังซิงอวี่จะให้เธอทำอะไร กู้อวี๋เคอก็รับปากทั้งหมดผมเคยถามเธอว่าเธอจะสนใจแต่หวังซิงอวี่ใช่ไหม กู้อวี่เคอก็จะพูดกับผมด้วยความเหลืออดเสมอว่า : “ฉันกับหวังซิงอวี่เป็นแค่เพื่อนธรรมดา คุณอย่าหึงมั่วซั่วจะได้ไหม”เพราะฉะนั้นในครั้งนี้ หวังซิงอวี่ฆ่าคนแล้ว จึงให้กู้อวี่เคอมาช่วยจัดการศพซึ่งเธอก็รับปากเพียงแต่สิ่งที่กู้อวี๋เคอไม่รู้คือ ศพนั้นเป็นศพของผมเอง...
Comments