ตอนที่ใบแจ้งผลสอบเอ็นทรานส์ส่งมาถึง ฉันไม่สบายไข้สูงจนลุกจากเตียงไม่ไหวกะทันหัน น้องสาวที่ช่วยฉันไปรับใบแจ้งผลสอบถูกลักพาตัวระหว่างทาง ไม่รู้ชะตากรรมเป็นอย่างไร พ่อแม่โกรธแค้นฉันเข้ากระดูกดำ หลังจากที่ฉีกใบแจ้งผลสอบของฉันจะขาดกระจุยกระจาย ก็บังคบให้ฉันเลิกเรียน และเข้าทำงานในโรงงาน ตอนหลัง ฉันถูกลักพาตัวเช่นกัน หลังจากที่หนีเอาตัวรอดมาได้หวุดหวิด ฉันได้ซ่อนตัวในโรงงานร้างและส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากพวกเขา พ่อโทรเข้ามา ตะคอกฉันด้วยความโมโหโดยที่ไม่ได้สนใจเลย "สวีจือจือ แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าห๊ะ ถึงได้โทรมาล้อเล่นแบบนี้กับพวกฉันในวันครบรอบจากไปของเนี่ยนเนี่ยน" "แกรู้หรือเปล่าว่าฉันกับแม่แกหวังว่าแกน่าจะเป็นคนที่ตายในตอนนั้นมากแค่ไหน" จนวินาทีสุดท้ายก่อนที่ฉันจะตาย เสียงที่ดังอยู่ข้างหูฉันก็ยังคงเป็นคำแช่งด่าของพวกเขา ฉันถูกทำให้กลายเป็นมนุษย์หมู* ถูกทารุณทรมานจนตาย และศพถูกทิ้งไว้ในท่อน้ำเน่า 3 วันเต็มๆ *มนุษย์หมู คือการลงโทษในยุคโบราณ โดยนำคนมาโกนผม ตัดลิ้น ตัดแขนขา ควักลูกตาจนเหลือแค่โพรง รมควันจนหูหนวก และจับไปโยนลงบ่อส้วมจนเนื้อหนังเลอะเทะ แม้แต่พ่อที่เป็นแพทย์นิติเวชที่ทรงคุณวุฒิที่สุดก็ยังจำฉันไม่ได้ และตอนที่น้องสาวพาไอละอ่อนที่หนีตามกันไปในตอนนั้นกลับมาที่บ้าน ก็เป็นตอนที่พ่อเพิ่งใช้เทคนิคคืนสภาพของฉัน พวกเขาคุกเข่าและร้องไห้อยู่ตรงหน้าร่างศพที่เน่าเปื่อยจนแยกไม่ออกของฉันจนหมดสติไป
ดูเพิ่มเติมอยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของพ่อก็ดังขึ้นหัวหน้าทีมหลินบอกพ่อด้วยน้ำเสีนงร้อนใจว่ากล้องวงจรจับภาพที่ฉันถูกคนลากตัวไปไว้ได้และที่โชคดีคือจับภาพหน้าตาของฆาตกรได้ด้วยรูปถูกส่งมาที่โทรศัพท์ของพ่ออย่างรวดเร็ว พ่อเปิดดูอย่างร้อนใจ ทันทีที่เห็นหน้าตาคนในรูปชัดเจน แววตาของพ่อก็ช็อคตะลึงมือที่ถือโทรศัพท์ออกแรงกำจนขาวซีดพ่อกลืนน้ำลาย แล้วเงยหน้าขึ้นอย่างยากเย็น จ้องไปที่แฟนหนุ่มของน้องสาว"แก แกเป็นคนฆ่าจือจือใช่ไหม"การเปลี่ยนแปลงที่มาแบบกะทันหันทำให้ทุกคนชะงักอยู่กับที่นอกจากปีศาจคนนั้นมันแสยะยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก"อะแหม่ นึกไม่ถึงว่าตำรวจอย่างพวกแกดำเนินคดีเร็วเหมือนกันนี่"มันขยับแขนคล้องตัวน้องสาวไว้ในอก ส่วนมืออีกข้างกลับจับไปที่คอของน้อง ลากน้องไปที่ข้างหน้าต่าง และห้อยตัวไปที่นอกหน้าต่างครึ่งตัวพ่อมองมันด้วยดวงตาแดงก่ำ ตะเบ็งเสียงต่ำอย่างโมโหว่า"ไอชาติหมา ฉันจะฆ่าแก"อีกฝ่ายกลับหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง"แกก็อยากให้เนี่ยนเนี่ยนตายอยู่ตรงหน้าแกด้วยเหรอ"น้องสาวตกใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว มองพ่อด้วยสายตาร้งขอความช่วยเหลือ แต่พ่อกลับเหมือนมองไม่เห็นพ่อหยิบมีดปลอกผลไม้จากโต๊ะ
วินาทีนั้น ฉันโกรธจนสั่นไปทั้งตัว6 ปีเต็ม ฉันมีชีวิตเหมือนอยู่ในนรกบึงไฟ แบกรับความผิดที่มันไม่ควรจะเป็นของฉันทว่าตอนนี้น้องสาวกลับบอกว่ามันเป็นแค่ละครฉากหนึ่งความไม่พอใจและน้อยเนื้อต่ำใจทั้งหมดของฉันแปรเปลี่ยนเป็นเสียงตะโกนแห่งความโกรธแต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้ยินไม่ว่าฉันจะโมโหแค่ไหน พวกเขาก็ไม่รับรู้พ่อกับแม่ตกตะลึงจนแทบยืนไม่ไหว น้องสาวรีบเข้าไปพยุงพวกเขาไว้ และมองพวกเขาอย่างสงสัยระหว่างที่บรรยากาศนิ่งเงียบ เสียงกริ่งก็ดังขึ้นน้องสาวก็ตื่นเต้นขึ้นมาในทันทีทันใด วิ่งเหยาะๆ ไปที่ประตู แล้วเปิดออกนอกประตูผู้ชายสวมแว่นกรอบทองคนหนึ่งยืนอยู่ ให้ความรู้สึกสุภาพเรียบร้อยน้องสาวจูงมือของเขา พามาตรงหน้าพ่อกับแม่ แล้วแนะนำอย่างเขินอายว่า"นี่แฟนของหนูค่ะ พ่อ แม่ ครั้งนี้กลับมาเพื่อจะบอกพ่อกับแม่ว่าพวกเราจะแต่งงานกันค่ะ"แม่ฝืนยิ้มบางๆ ส่วนพ่อสีหน้าจริงจังไม่มีใครรู้ แต่ในมุมที่พวกเขามองไม่เห็น ฉันกำลังตกใจกลัวจนตัวสั่นใบหน้านี้แหละถึงกลายเป็นเถ้าถ่านฉันก็จำได้มันทรมานฉัน 3 วันเต็มๆ ทำให้ฉันตายทั้งเป็นฉันอ้อนวอนมันอยู่หลายครั้ง ขอให้มันจบชีวิตฉันเร็วๆมันใช้ผ้าข
พ่อตาแดงในทันที จับมือของน้องแล้วดังเข้าไปกอดพ่อลูบผมน้องสาวอย่างเบามือ ครั้งแล้วครั้งเล่าฉันอิจฉาจนตาแดง ไม่มีใครรู้เลยว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ฉันปรารถนาอ้อมกอดและสัมผัสของพ่อมากแค่ไหนแต่พ่อกับแม่มีแต่จ้องมองฉันด้วยสายตาที่รังเกียจ และผลักไสไล่ส่งฉันแม่เดิมเข้าไปกอดน้องสาวพร้อมน้ำตา ภาพที่พวกเขามีความสุขช่างทิ่มแทงหัวใจของฉันเหลือเกินเจ็บปวดจนน้ำตาฉันไหลออกมาแม่ใช้มือตบเบาๆ ที่แผ่นหลังของน้องสาว แสร้งทำเป็นพูดบ่นว่า"เนี่ยนเนี่ยน ลูกหายไปไหนมาตั้งหลายปี รู้ไหมพ่อกับแม่ตามหาลูกลำบากแค่ไหน"น้องสาวมุดหน้าอยู่ในอ้อมกิดของพวกเขาด้วยความรู้สึกผิด พูดอ้ำอึ้งว่า"พ่อคะแม่คะ หนูขอโทษค่ะ""ตอนนั้นหนูตั้งท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ หนูกลัวถูกว่า ก็เลยไม่กล้ากลับบ้าน หนูรู้ว่าเห็นแก่ตัวมาก แต่ตอนนั้นหนูกลัวมากจริงๆ ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี"พ่อกับแม่สีหน้าชะงักงัน มองน้องสาวด้วยความตกตะลึง"ถ้างั้น...ลูกล่ะ แล้วก็ไอ้เว*ที่ทำให้ลูกท้องล่ะ"น้องสาวอายจนแก้มแดง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งถึงพูดขึ้นว่า"ลูกรักษาเอาไว้ไม่ได้""ส่วนคนที่ทำให้หนูท้องเหรอ เขาบอกว่าไม่มีหน้าจะมาเจอพ่อกับแม่ ก็เลไม่กล้า
แววตาของพ่อมีความรู้สึกเศร้าสร้อย พ่อพูดปลอบแม่อย่างอ่อนโยน บอกให้แม่รอข่าวจากพ่อที่บ้านหลังจากวางสาย พ่อเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วเดินไปที่ห้องชันสูตรด้วยความแน่วแน่อีกครั้งครั้งนี้พ่อไม่มีความใจเย็นอย่างก่อนหน้านี้อีกแล้ว มือที่ถือมีดผ่าตัดก็สั่นเทาไม่หยุดพ่อเล็งมีดไปที่ร่างกายของฉันหลายครั้งหลายครา ทว่ากลับไม่สามารถลงมือได้คงเป็นเพราะว่านี่คือลูกสาวที่พ่อรักมากที่สุดพ่อประคองศรีษะที่ไม่เหลือเค้าโครงของฉันขึ้นด้วยมือที่สั่น กลั้นน้ำตาไว้ ค่อยๆ คืนสภาพให้ฉันทีละนิดฉันเองก็กลั้นน้ำตาไว้ คอยมองดูพ่อที่ร้องไห้ไปพร้อมกับป้อนข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์1 คืนเต็มๆ พ่อไม่ได้หลับตาพักเลยแม้แต่นาทีเดียวไม่รู้ว่าดื่มกาแฟเข้มๆ ไปกี่แก้ว ดวงตาจับจ้องจดจ่ออยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ด้านนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้นทีละนิดในที่สุดการแจ้งเตือนของคอมพิวเตอร์ก็ดังขึ้นพ่อเงยหน้าขึ้นในท่วงทันที ทว่าวินาทีต่อมา ร่างกายของพ่อก็แข็งทื่อไปพ่อลุกขึ้นด้วยความตกใจ ไม่สังเกตเห็นด้วยว่าทำกาแฟที่วางอยู่ข้างๆ หกกาแฟสาดไปในแป้นพิมพ์ พ่อก็ไม่สนใจเช็ดด้วยซ้ำพ่อจับหน้าจอคอมพิวเตอร์ไว้ สายตาจ้องไป
น้ำตาของฉันไหลพรากลงมาทันที เขาคือ เซี่ยเซียว คนเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่รักฉันฉันได้พบกับเขาตอนที่ฉันถูกพ่อกับแม่ไล่ให้ไปทำงานข้างนอกใหม่ๆตอนนั้นฉันไม่มีเงินเลยสักบาท ห้องพักของโรงงานก็เต็ม ไม่มีที่ให้อยู่จึงได้แต่เก็บเอากระดาษลังจากกองขยะแล้วไปหลบอยู่ใต้สะพานอย่างช่วยไม่ได้นอนไปได้ถึงเที่ยงคืน พวกอันธพาลชั่วช้าก็ดันมาเจอฉัน และเริ่มลวมลามฉันฉันที่ตื่นตกใจจึงพยายามร้องขอความช่วยเหลือสุดชีวิตบังเอิญเซี่ยเซียวผ่านมาพอดี จึงช่วยฉันเอาไว้เขาเห็นว่าฉันน่าสงสาร จึงให้ฉันไปอยู่ที่ห้องว่างบ้านเขาก่อนชั่วคราวในช่วงเวลาอันแสนโดดเดี่ยวเหล่านั้น เขาเป็นสิ่งปลอบโยนเพียงหนึ่งเดียวของฉันเขาจะให้ฉันยืมไหล่ เมื่อตอนที่ฉันร้องไห้จนตาแดงบวมเบ่งหลังจากที่ได้รับสายจากพ่อและแม่และจะโอบกอดฉันบอกว่าเขารู้สึกว่าฉันดีมาก ในตอนที่ถูกด่าทอจนท้อแท้หมดกำลังใจและตอนนี้ เขาก็เป็นคนเพียงคนเดียวที่ร้อนใจเพราะการหายตัวไปของฉันหัวหน้าทีมหลินตบบ่าของเขา ปลอบเขาให้ใจเย็นลง และหันไปให้คนช่วยลงบันทึกประจำวันตอนที่ได้ยินชื่อของฉัน ในดวงตาของหัวหน้าทีมหลินฉายแววตกใจเล็กน้อย"คุณบอกว่า จือจือเป็นแฟนของค
วิญญาณของฉันก็สั่นเทาเบาๆ ด้วย ในที่สุด...ในที่สุดความจริงจะถูกเปิดเผยแล้วเหรอมีดผ่าตัดในมือของพ่อหล่นไปบนพื้นกระทบเสียงดังก้องพอฉันหันมองไป ก็ได้แต่รู้สึกแปลกใจอย่างมากฉันเคยคิดว่าพ่อจะมีสีหน้ายังไงบ้างเย็นชา ไม่แคร์ หรืออาจจะเวทนาเล็กน้อยแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นความเจ็บปวดบนใบหน้าของพ่อวินาทีนั้นทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมาบ้างความลำบากที่ได้รับในหลายปีที่ผ่านมา ความโกรธแค้นที่เคยมีเพราะความไม่ยุติธรรมของพวกเขา ตอนนี้มันมลายหายไปจนหมดฉันที่ตัวสั่นเทาคิดอยากโผเข้ากอดพ่อ ทว่านิ้วมือกลับทะลุผ่านอ้อมอกของพ่อไปขณะที่น้ำตากำลังจะไหลหล่นลงมา ฉันก็ได้ยินพ่อพึมพำเสียงเบาว่า"เนี่ยนเนี่ยน"ทันใด้นั้นร่างกายฉันก็แข็งชะงัก และเข้าใจในทันทีว่าที่แท้ความเจ็บปวดในแววตาของพ่อไม่ใช่สำหรับฉันเนื่องจากอากาศที่อุณหภูมิสูงบวกกับถูกแช่ในน้ำฝนติดต่อกันหลายวันตอนนี้ร่างกายของฉันเน่าเปื่อยจนไม่มีชิ้นดี และยังส่งกลิ่นเหม็นด้วยทว่าพ่อกลับเข้ามากอดกองเนื้อเน่านั้นโดยที่ไม่ลังเล และร้องไห้สะอึกสะอื้น"เนี่ยนเนี่ยน เนี่ยนเนี่ยนของพ่อกลับมาแล้ว""ลูกสาวที่รักของพ่อ ลูกทำแบบนี้จะให้พ่อก
น้องสาวหายตัวไป 6 ปี ไม่มีข่าวคราว ไม่พบร่องรอย สำหรับพ่อกับแม่นับว่าน้องสาวตายไปนานแล้วพวกเขาทำสุสานให้น้องสาว และให้วันที่เธอหายตัวไปเป็นวันเสียของเธอส่วนฉันถูกอนุญาตให้กลับไปที่บ้านได้แค่ในวันนั้น ก็เพื่อคุกเข่าขมาที่ตรงหน้าหลุมศพของเธอปีที่แล้ว ระหว่างทางที่ฉันกำลังรีบไปที่สถานีรถไฟ ฉันหมดสติไปกะทันหัน คนที่สัญจรไปมาจึงพาฉันไปส่งที่โรงพยาบาลเพราะเหตุนั้นทำให้ฉันพลาดรถไฟที่จะกลับบ้านตอนที่ฉันกลับไปถึงบ้านอย่างทุลักทุเลก็เป็นอีก 3 วันให้หลังแล้วพ่อที่โกรธจัดกระชากผมของฉัน ลากฉันไปที่หน้าหลุมศพของน้องสาว พ่อผลักหัวฉันอย่างแรงจนไปกระแทกกับป้านสุสานฉันถูกกระแทกจนหน้ามืดตาลาย แต่พ่อยังไม่หายโกรธ จึงตบหน้าฉันอย่างดุร้ายต่อทีแล้วทีเล่า ตบจนฉันปากแตก และฟันหน้าหักไป 1 ซี่แต่ดูเหมือนว่าพ่อจะลืมไปแล้วหรือบางทีพ่ออาจจะไม่เคยสนใจเลยก็ได้ในใจของพ่อ ไม่ว่าฉันจะบาดเจ็บตรงไหนอย่างไร ต่อให้ฉันตาย มันก็เป็นเรื่องที่สมควรน้ำตาของฉันไหลงทีละหยด พ่อคะ ตอนนี้หนูตายแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าแบบนี้สำหรับพ่อจะถือเป็นการไถ่บาปได้หรือเปล่าพ่อที่กำลังตรวจสอบศพอย่างตั้งใจ ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดั
ร่างที่พิกลพิการของฉันถูกใส่ไว้ในผ้าห่อศพ ส่งไปที่ห้องทำงานของพ่อไม่นานนัก แขนขาทั้งสี่ข้างของฉันก็ถูกคนพบเจอ และส่งไปให้พ่อฉันในทันทีเช่นกันหัวหน้าทีหลินที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะชันสูตรขมวดคิ้ว ชี้ไปที่นิ้วของฉัน"พี่สวีดูสิ มือของผู้ตายกำแน่นทั้งสองข้าง มีเพียงนิ้วกลางของมือข้าวขวาที่ถูกหักออกดื้อๆเป็นเพราะว่าตรงนั้นเคยสวมใส่เครื่องประดับอะไรที่สามารถยืนยันตัวตนได้มาก่อนหรือเปล่าครับ""น่าจะใช่นะ" พ่อพยักหน้าเห็นด้วยหัวหน้าทีมหลินมองพ่อด้วยความลังเล"ผมจำได้ว่า จือจือก็สวมแหวนที่นิ้วมือข้างขวาตลอด..."พ่อเหลือบตามองเขาอย่างไม่ค่อยพอใจ"คนที่สวมแหวนมีถมเถไป ไม่ได้มีแค่ยัยนั่นคนเดียวสักหน่อย ตัวหายนะอย่างยัยนั่นจะตาย่ายๆ แบบนี้เหรอ"เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าทีมหลินค่อนข้างร้อนใจ เขาดึงแขนพ่อไว้โดยที่ไม่ทันได้ถอดถุงมือออกด้วยซ้ำ"คุณสวี คุณยังจำไอฆาตกรโรคจิตในตอนนั้นได้ไหม"พ่อสั่นเทาไปทั้งตัวเรื่องในตอนนั้นเป็นปมในใจของพ่อมาตลอด 6 ปีก่อน พ่อคือแพทย์นิติเวชอัจฉริยะที่โด่งดังที่สุดของเมือง ส่วนแม่เป็นหัวหน้าทีมสอบสวนที่อายุน้อยที่สุดหัวหน้าทีมหลินในตอนนั้นยังเป็นแค่หนึ่งในลูกน้
พายุฝนตกมา 3 วันแล้ว ทั่วทั้งเมืองราวกับถูกทำให้เปียกโชก บรรยากาศอึมครึมหม่นหมอง ตอนที่ศพขึ้นอืดบวมเต่งของฉันที่ถูกแช่ไว้ในท่อน้ำเน่าลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ ทำให้ผู้คนที่มามุงดูตกใจไม่น้อยเด็กอายุ 8 ขวบคนหนึ่งตกใจกลัวจนร้องไห้โฮ และซุกไปในอ้อมกอดของแม่ และกำลังถูกปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนฉันที่เห็นถึงกับน้ำตาคลออ้อมกอดของแม่ ฉันไม่ได้สัมผัสมานานมากแล้วตั้งแต่ 6 ปีก่อน หลังจากที่น้องสาวหายตัวไป พ่อกับแม่ก็ก็เหลือเพียงความเกลียดที่มีต่อฉันอย่าพูดถึงอ้อมกอดเลย แม้แต่รอยยิ้มยังไม่เคยมีให้ฉันด้วยซ้ำไม่นาน สถานที่เกิดเหตุก็ถูกตำรวจปิดล้อม ฉันยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน มองดูร่างการที่เน่าเปื่อยอย่างอนาจของตัวเองรถตำรวจคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าฉัน ทันทีที่ประตูรถเปิดออกตาของฉันก็สว่างขึ้นมา"พี่สวี เบื้องต้นคาดการณ์ว่าศพน่าจะแช่อยู่ในน้ำมา 3 วันแล้ว บวกกับช่วงนี้มีพายุฝนด้วย ร่องรอยของสถานที่เกิดเหตุคงถูกชะล้างไปหมดจึงต้องรบกวนคุณลงเรี่ยวลงแรงกับศพมากขึ้นแล้วล่ะครับ""ด้านแลปก็มาเอา DNA ของผู้ตายไปแล้ว เขาจะแจ้งเราในทันทีที่ผลออกมาครับ"หัวหน้าทีมหลิน เพื่อนร่วมงานของพ่อฉันวิ่งเหยาะๆ มาอธิ
พายุฝนตกมา 3 วันแล้ว ทั่วทั้งเมืองราวกับถูกทำให้เปียกโชก บรรยากาศอึมครึมหม่นหมอง ตอนที่ศพขึ้นอืดบวมเต่งของฉันที่ถูกแช่ไว้ในท่อน้ำเน่าลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ ทำให้ผู้คนที่มามุงดูตกใจไม่น้อยเด็กอายุ 8 ขวบคนหนึ่งตกใจกลัวจนร้องไห้โฮ และซุกไปในอ้อมกอดของแม่ และกำลังถูกปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนฉันที่เห็นถึงกับน้ำตาคลออ้อมกอดของแม่ ฉันไม่ได้สัมผัสมานานมากแล้วตั้งแต่ 6 ปีก่อน หลังจากที่น้องสาวหายตัวไป พ่อกับแม่ก็ก็เหลือเพียงความเกลียดที่มีต่อฉันอย่าพูดถึงอ้อมกอดเลย แม้แต่รอยยิ้มยังไม่เคยมีให้ฉันด้วยซ้ำไม่นาน สถานที่เกิดเหตุก็ถูกตำรวจปิดล้อม ฉันยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน มองดูร่างการที่เน่าเปื่อยอย่างอนาจของตัวเองรถตำรวจคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าฉัน ทันทีที่ประตูรถเปิดออกตาของฉันก็สว่างขึ้นมา"พี่สวี เบื้องต้นคาดการณ์ว่าศพน่าจะแช่อยู่ในน้ำมา 3 วันแล้ว บวกกับช่วงนี้มีพายุฝนด้วย ร่องรอยของสถานที่เกิดเหตุคงถูกชะล้างไปหมดจึงต้องรบกวนคุณลงเรี่ยวลงแรงกับศพมากขึ้นแล้วล่ะครับ""ด้านแลปก็มาเอา DNA ของผู้ตายไปแล้ว เขาจะแจ้งเราในทันทีที่ผลออกมาครับ"หัวหน้าทีมหลิน เพื่อนร่วมงานของพ่อฉันวิ่งเหยาะๆ มาอธิ...
ความคิดเห็น