Share

บทที่ 7

Author: ปีศาจเจ้าสำราญ
last update Last Updated: 2024-10-29 13:11:41
เวลานั้น ทุกคนเคร่งเครียดจนเส้นประสาทตึงเปรี๊ยะทั่วร่างประหนึ่งเชือกที่ถูกยืดจนตึง เสื้อผ้าตรงแผ่นหลังเปียกชุ่มด้วยเหงื่อเย็น

เซียวจูมั่วก็มีสภาพไม่ต่างกัน

แม้ว่าเขาก็เป็นองค์ชาย เป็นท่านอ๋อง

แต่ตอนนี้ฮ่องเต้ยังไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาท องค์ชายอย่างพวกเขาทุกคนล้วนพยายามอย่างหนักเพื่อแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงแต่งงานกับลั่วจิ่วหลีเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากจวนอี้กั๋วกง

แต่เขาตระหนักดีว่าไม่ว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากเหล่าขุนนางมากแค่ไหนก็ยังมิอาจเทียบวาจาประโยคเดียวของเสด็จอาเก้า

ขอเพียงเสด็จอาเก้าช่วยพูดคำดี ๆ ต่อหน้าฮ่องเต้ เขาก็จะเข้าใกล้การเป็นรัชทายาทเข้าไปอีกก้าว

ทว่าคืนนี้เสด็จอาเก้าลงเขา เขากลับไม่ได้รับแจ้งข่าวใด ๆ ก่อนเลย

“เสด็จอาเก้า โปรดอภัยที่หลานชายหยาบคายด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวจูมั่วทรุดลงบนพื้น สภาพชวนสมเพชเวทนา

ทว่าสายตาที่มองลั่วจิ่วหลีกลับคมกริบราวมีดดาบ หากสายตาสามารถสังหารคนได้ คาดว่าลั่วจิ่วหลีคงถูกเซียวจูมั่วสังหารตั้งนานแล้ว

เซียวหมิงเสวียนปรายตามองเซียวจูมั่วที่อยู่บนพื้น ดึงสายตากลับมาอย่างเฉยชา นัยน์ตามืดครึ้ม น้ำเสียงหนาวเหน็บถึงกระดูก

“มั่วหาน”

“นายท่าน”

มั่วหานในชุดแดงยืนตระหง่านอยู่ด้านหลัง เขาเดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย

เขาดูไม่เหมือนผู้มีวรยุทธ์ที่เพิ่งสังหารคนสองคนด้วยกระบี่เดียวเมื่อครู่นี้เลย

“คืนนี้ ปลดอาวุธทหารทั้งหมดของจวนอ๋องเจา เนรเทศไปปกป้องชายแดน ไร้ความดีความชอบทางทหาร ไม่อนุญาตให้กลับเมืองหลวง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อทหารที่คุกเข่าบนพื้นได้ยินดังนั้น หัวใจพลันบีบรัด แต่ละคนหน้าถอดสี

“อ๋องเก้าโปรดไว้ชีวิต”

“อ๋องเก้าโปรดไว้ชีวิตด้วย!”

“ท่านอ๋อง ช่วยพวกข้าน้อยด้วย”

เซียวจูมั่วกำดินใต้ฝ่ามือแน่น

เสด็จอาเก้าทำเช่นนี้เท่ากับเป็นการตัดแขนซ้ายขวาของเขาทิ้ง

ทหารเหล่านี้ล้วนเป็นคนสนิทที่เขาปลูกฝังมาอย่างดี หากถูกเนรเทศไปปกป้องชายแดนก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว

“หุบปาก”

น้ำเสียงเย็นชาน่าเกรงขามของเซียวหมิงเสวียนดังขึ้นอย่างไม่แยแส

ราวกับมีลมเยียบเย็นน่าขนลุกพัดมา ในสภาพอากาศที่ร้อนเช่นนี้ ทำให้ผู้คนอดขนลุกทั่วร่างไม่ได้

“ผู้ใดกล้าขอความเมตตา ให้โบยจนตาย”

กริบ!

เสียงร้องขอความเมตตาทั้งหมดหยุดลงทันที

เซียวหมิงเสวียนหันไปมองลั่วจิ่วหลี ยิ่งได้เห็นปรางแก้มซีกหนึ่งของนางแดงบวม เลือดที่ไหลออกมาตรงมุมปาก ลำคอขาวผ่องมีรอยบีบช้ำสีม่วงเข้ม

นัยน์ตามีชั้นน้ำแข็งก่อตัวขึ้นทีละน้อย

“เจ้า วางแผนจัดการอย่างไร?”

เมื่อครู่นี้ เขาเห็นชัดเจนว่า ลั่วจิ่วหลีแสร้งทำตัวอ่อนแอเพื่อหลอกให้ศัตรูตายใจ

นางหาใช่สตรีอ่อนแอ ทว่านางก็ไร้วรยุทธ์และกำลังภายใน แต่อาวุธที่นางซ่อนไว้วางยาพิษเซียวจูมั่วคืออะไร?

นางจงใจยั่วโทสะเซียวจูมั่วเพียงเพื่อจะวางยาพิษเซียวจูมั่วหรือ?

ลั่วจิ่วหลีหันไปมองเซียวจูมั่วที่อยู่บนพื้นแล้วเหยียดยิ้มเย้ยหยัน

“ข้าจะตีกลองร้องทุกข์ ทูลขอพระราชโองการหย่าร้างจากฝ่าบาท”

การสมรสระหว่างเจ้าของร่างเดิมกับเซียวจูมั่วเป็นพระราชโองการของฝ่าบาท หากฮ่องเต้ไม่อนุญาตให้หย่าร้าง นางก็ไม่อาจกำจัดสถานะภรรยาของเซียวจูมั่วได้

ยิ่งกว่านั้น ยังมีเยียนทิงเหลียนคนนั้นที่ใช้ร่างของทารกอายุหกเดือนทำยาบำรุง เรียกได้ว่าโหดเหี้ยมผิดมนุษย์อย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

“ได้”

ดวงตาที่เย่อหยิ่งเย็นชาของเซียวหมิงเสวียนทอดลงอย่างเงียบเชียบ

“มีเวลาอีกสองชั่วยามก่อนเช้า”

“มั่วหาน อยู่ต่อ”

สิ้นคำก็หมุนตัวเดินขึ้นรถม้าไปอย่างรวดเร็ว

เรื่องที่เซียวจูมั่วอนุญาตกลาย ๆ ให้ชายารองเหลียนใช้ทารกทำยาแตะต้องข้อถือสาของเขา

ไม่ว่าเซียวจูมั่วจะปฏิบัติต่อลั่วจิ่วหลีอย่างไร แต่ในส่วนของเด็กทารกนั้น เขาได้สูญเสียความเป็นมนุษย์โดยสิ้นเชิง คนเช่นนี้ ไม่คู่ควรกับตำแหน่งรัชทายาท

อีกทั้ง เขาอยากเห็นว่าลั่วจิ่วหลีคนนี้จะมีความสามารถในการทำให้ฝ่าบาทมีพระราชโองการให้หย่าร้างได้อย่างไร

“พ่ะย่ะค่ะ”

ด้านหลัง มั่วหานในชุดแดงตอบรับคำสั่ง

เซียวจูมั่วเห็นเซียวหมิงเสวียนจากไปแล้วก็แสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดออกมาทันที

“ลั่วจิ่วหลี เจ้าบังอาจ...”

“เพียะ! เพียะ! เพียะ!”

เสียงตบดังติดต่อกันสามครั้ง เซียวจูมั่วถูกตบจนมึนงงไปหมด

แม้แต่มั่วหานที่อยู่ข้างหลังยังยกมือลูบแขนและกัดฟันด้วยความขนลุก

เนื่องด้วยนายท่านไม่ค่อยอยู่ในเมืองหลวง พวกเขาจึงไม่สนใจเรื่องในเรือนหลังของจวนผู้มีอำนาจในเมืองหลวง แต่เรื่องที่บุตรีคนรองสายตรงของจวนอี้กั๋วกงหลงรักอ๋องเจาสุดหัวใจ เขายังเคยได้ยินได้ฟังมาก่อน

แต่กล่าวกันว่าลั่วจิ่วหลีอ่อนโยนเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย ไม่คาดคิดว่าคืนนี้ นางไม่เพียงแต่จุดไฟเผาจวนอ๋องเจาและวางยาพิษอ๋องเจา แต่ยังกล้าตบปากอ๋องเจาต่อหน้าธารกำนัลถึงสามครั้งรวด

จุ๊! จุ๊! จุ๊!

ดูคนอย่าดูแค่ภายนอกจริง ๆ ด้วย

หากนางไม่ได้สวมอาภรณ์ของนายท่าน คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตามหานางเจอเร็วขนาดนี้

ลั่วจิ่วหลีมองลงไปที่เซียวจูมั่ว ประกายตาดุร้าย

จากนั้นก็บีบกรามง้างปากของเซียวจูมั่วแล้วยัดยาเม็ดสีขาวหนึ่งเม็ดในมือเข้าไปในปากเขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

เซียวจูมั่วไม่กล้ากินของของนางอยู่แล้ว เพิ่งคายมันออกมาก็ได้ยินเสียงพูดแผ่วเบาของนาง

“นี่คือยาแก้พิษ”

ได้ยินคำนั้น ไม่เพียงแต่เซียวจูมั่วที่ตะลึงงัน มั่วหานยังงงงันด้วย

คงไม่ใช่ว่าลั่วจิ่วหลีคนนี้ยังมีความอาวรณ์ต่อเซียวจูมั่วกระมัง

หากลั่วจิ่วหลีอ่านความคิดของมั่วหานได้ คงจะหัวเราะเยาะใส่หน้าเขา

รอจนกระทั่งเซียวจูมั่วกลืนยารสขมลงไปแล้ว จึงได้ยินลั่วจิ่วหลีกล่าวอีกครั้ง

“เป็นยาพิษด้วย”

มั่วหานหลุดหัวเราะพรืดออกมา

Related chapters

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 8

    น่าสนใจ น่าสนใจมากลั่วจิ่วหลีเพิกเฉยต่อเซียวจูมั่วที่ตกตะลึงเหมือนคนโง่ ก้มลงดึงหยกห้อยเอวชิ้นหนึ่งของเขาออกมา เป็นหยกห้อยเอวคุณภาพไม่เลวจริง ๆ นางถือหยกห้อยเอวไว้ในมือ หันกลับมามองมั่วหานด้วยสีหน้าคาดเดาไม่ถูก “คุณชายท่านนี้ ในเมืองนี้จะซื้อโลงได้ที่ไหน” มั่วหานชะงัก ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าจะใช้หยกห้อยเอวของอ๋องเจาเพื่อซื้อโลง แค่ไม่รู้ว่าโลงศพนี้สำหรับอ๋องเจา หรือ... “เมืองชั้นนอก ตรอกเฉาฉ่าง เต็มไปด้วยร้านขายโลง” “ขอบคุณมาก” ลั่วจิ่วหลีกำหมัดคารวะแล้วพลิกตัวขึ้นหลังม้า ในฐานะแพทย์ทหาร การขี่ม้าเป็นหลักสูตรภาคบังคับจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย มั่วหาน : นั่นเหมือนว่าจะเป็นม้าของข้า แต่จะทำอย่างไรได้? ตอนนี้เขาไม่กล้าหาเรื่องนางจริง ๆ เพราะจากนี้ นางยังต้องช่วยคลายคำสาปให้นายท่าน สี่ขาวิ่งเร็วกว่าสองขา ในเวลาเพียงครึ่งเค่อ[1] ลั่วจิ่วหลีก็ไปถึงร้านขายโลงร้านหนึ่งที่เมืองชั้นนอก นางแลกหยกห้อยเอวกับโลกศพขนาดเล็กหนึ่งโลง จากนั้นห้อตะบึงม้าไม่หยุดจนถึงนอกประตูวัง เวลานั้นแสงอรุณปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าแล้ว...... ห้องเก้าเสนาบดี เป็นสถานที่ให้เหล่าขุนนางพักผ่อ

    Last Updated : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 9

    หากผู้ตีกลองมีข้อกล่าวหาเท็จหรือมีหลักฐานไม่เพียงพอ จะต้องโทษถูกโบยด้วยไม้นับร้อยที ผู้ที่อ่อนแออาจทนรับไม่ไหวขาดใจตายทันที นับตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นฉางหนิงเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีผู้ใดกล้าตีกลองร้องทุกข์ในช่วงประชุมเช้า วันนี้ผู้ใดช่างกล้านัก? ต้องมีความคับแค้นใจขนาดไหนถึงอยากให้ฮ่องเต้ได้สดับ? ขณะที่เหล่าขุนนางกำลังถกเถียงกัน ทันใดนั้นมีเสียงชาววังคุกเข่าอยู่ด้านนอกห้องโถง “ถวายบังคมอ๋องเก้า ทรงพระเจริญพันปีพันพันปี” “น้องเก้า” “อ๋องเก้า?” “เสด็จอาเก้า?” ภายในตำหนัก ตั้งแต่ฮ่องเต้ องค์ชายไปถึงเหล่าขุนนาง ทุกคนล้วนตกตะลึงพรึงเพริด แม้ว่าเหล่าเจ้านายและขุนนางทุกระดับจะรู้แล้วว่าอ๋องเก้ากลับเมืองหลวงเมื่อคืน ทว่าเมื่อสองปีก่อนชายแดนมีความมั่นคง อ๋องเก้าจึงส่งคืนตราพยัคฆ์และออกจากเมืองหลวงสองปีมานี้ไม่เคยก้าวเข้ามาในราชสำนัก เหตุใดวันนี้จึงมาได้เล่า เมื่อร่างสูงสง่าตั้งตรงของอ๋องเก้าปรากฏขึ้นในห้องโถง ความตกตะลึงของทุกคนไม่จบเพียงแค่นั้น มองเห็นด้านหลังอ๋องเก้า สตรีผู้หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำหมึกขาดรุ่งริ่งและแบกโลงใบเล็กด้วยสองมือ ค่อย ๆ เดินตามมาจนถึงภ

    Last Updated : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 10

    ถึงตอนนี้ ทุกคนได้เห็นชัดเจนว่าลั่วจิ่วหลีรูปร่างหน้าตาซีดเซียว แก้มและมุมปากยังไม่หายบวมแดง รอยช้ำจากการบีบรัดที่ลำคอมองเห็นชัดเจน ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยแดงก่ำ “เฮือก!” “สวรรค์! แม่นางคนนี้กลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร” แม้แต่เผยทิงซ่งพอเห็นลั่วจิ่วหลีมีสภาพเช่นนี้ก็ยังพลอยปวดใจไปด้วย ในอดีต นางเป็นสาวน้อยที่ร่าเริงสดใสขนาดนั้น มักจะวิ่งตามหลังเขาและเรียกเขาว่าพี่เขยอยู่เสมอ แต่ตอนนี้... อ๋องเจา เจ้าสมควรตายจริง ๆ แม่นางที่ดีคนหนึ่งถูกเจ้าทำลายจนมีสภาพเช่นนี้ ลั่วจิ่วหลีเดินมาถึงกลางท้องพระโรง คุกเข่าลงโขกศีรษะ “หม่อมฉัน บุตรีคนรองสายตรงจวนอี้กั๋วกง ลั่วจิ่วหลี ถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปีเพคะ” นางไม่แทนตัวเองว่าพระชายาอ๋องเจาอีกแล้ว ฮ่องเต้บนบัลลังก์มังกรก็ตกพระทัยกับรูปลักษณ์ปัจจุบันของลั่วจิ่วหลีเช่นกัน ฮ่องเต้รู้ว่าอ๋องเจารักถนอมชายารองผู้นั้น แต่ไม่รู้เลยว่า เขาทำใจเหยียบย่ำข่มเหงแม่นางดี ๆ คนหนึ่งจนมีสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร หากปล่อยให้อี้กั๋งกงซึ่งกำลังฝึกทหารไกลถึงลี่หยางได้เห็นภาพนี้จะเป็นอย่างไร ครั้นนึกถึงนิสัยท

    Last Updated : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 11

    ในเวลานี้ หูกุ้ยเฟยซึ่งอยู่ในวังหลังก็ได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่พระราชวังส่วนหน้าแล้ว สุดท้ายกระดาษก็ห่อไฟไว้ไม่ได้ เหล่านางสนมอื่น ๆ ก็ทราบเรื่องแล้วเช่นกัน เรื่องที่พระชายาอ๋องเจาหรือลั่วจิ่วหลีบุตรีคนรองสายตรงจวนอี้กั๋วกงมาตีกลองร้องทุกข์ฟ้องร้องอ๋องเจา โทษฐานหลงใหลอนุละเลยภรรยา สังหารลูกในไส้และทุบตีภรรยาเอกก็ได้แพร่กระจายไปทั่ววังหลัง ทางด้านนี้มีขันทีเข้าไปรายงานในตำหนักไม่ขาดสาย “ทูลฝ่าบาท อี้กั๋วกงฮูหยินคุกเข่าอยู่ด้านนอกประตูพระราชวังขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” “ทูลฝ่าบาท อ๋องเจาคุกเข่าอยู่นอกตำหนักขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ข่มโทสะโบกพระหัตถ์ให้ขันที หลังจากนั้นไม่นาน คนสองคนเดินเข้ามาในตำหนักตามลำดับ นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วจิ่วหลีได้พบกับมารดาเจ้าของร่างเดิมซึ่งก็คืออี้กั๋วกงฮูหยิน เห็นนางสวมชุดฮูหยินตราตั้งขั้นหนึ่ง มวยผมยกสูงบนศีรษะ ประดับปิ่นปักผมที่เรียบง่ายหนึ่งอัน ขณะก้าวเข้ามาในตำหนักก็เห็นสภาพที่น่าสังเวชของบุตรสาวอย่างชัดเจน ปวดใจจนน้ำตาคลอหน่วย หยิกฝ่ามือตัวเองแรง ๆ แล้วคุกเข่าลงบนพื้น “หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื

    Last Updated : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 12

    “ฝ่าบาท ตอนนั้นหม่อมฉันรักอ๋องเจาสุดหัวใจ แม้กระทั่งวันอภิเษก อ๋องเจาหันหลังใส่หม่อมฉันรับชายารองเข้าจวน ทำให้หม่อมฉันอับอายขายหน้า แต่เพราะหม่อมฉันรักเขาจึงพยักหน้ายินยอม แล้วหม่อมฉันจะทรยศเขาได้อย่างไรเพคะ”“ฝ่าบาทโปรดมอบความเป็นธรรมให้หม่อมฉันด้วยเพคะ” ฮ่องเต้กำพระหัตถ์แน่น กริ้วโกรธขั้นสุด แต่แล้วก็ค่อย ๆ สงบลง ในฐานะบุรุษ เป็นไปไม่ได้ที่อ๋องเจาจะสร้างความอัปยศให้ตัวเองเช่นนี้ แต่สีหน้าของลั่วจิ่วหลีก็ไม่เหมือนคนโกหกเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น ความรักที่นางมีต่ออ๋องเจาเป็นที่รู้กันทั่วเมือง หากตอนนั้นนางไม่ใช้ความตายข่มขู่ อี้กั๋วกงก็ไม่มีวันเห็นด้วยกับการแต่งงานนี้ ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของราชวงศ์ ไม่ว่าอย่างไรต้องสอบสวนให้กระจ่าง“ใครก็ได้ จงปิดตำหนักไท่เหอ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดออกไปจากที่นี่เด็ดขาด หากเรื่องในวันนี้แพร่กระจายออกไปแม้ประโยคเดียว ทุกคนในตำหนักไท่เหอมีโทษประหารชีวิต” คำว่าประหารคำเดียวทำให้ทั้งตำหนักไท่เหอตกอยู่ท่ามกลางเมฆดำปกคลุม ขุนนางทุกคนในท้องพระโรงย่อมเข้าใจว่า คำว่าทุกคนนั้นรวมถึงพวกตนด้วยเช่นกัน “อ๋องเก้า เจ้าไปเอาระเบียนจากสำนัก

    Last Updated : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 13

    ขณะนี้ ทุกคนในราชสำนักต่างคนต่างใจ ต่างคนต่างความคิด เวลานั้น มีขันทีไปเชิญลั่วจิ่วหลีกลับเข้ามา “ลั่วจิ่วหลีรับราชโองการ” ฮ่องเต้ตรัส ลั่วจิ่วหลีคุกเข่า “ลั่วจิ่วหลีกับอ๋องเจาหย่าขาด อ๋องเจาคืนสินเดิมทั้งหมดให้ลั่วจิ่วหลี และจ่ายชดเชยหนึ่งแสนตำลึงเงิน” “สำหรับชายารองอ๋องเจา เยียนทิงเหลียน ติดค้างหลายชีวิต ให้ส่งตัวไปที่เรือนจำกรมอาญา หลังจากการพิจารณาคดีโดยสามศาลสูง[1]และยืนยันหลักฐาน รอประหารหลังฤดูใบไม้ร่วง” “อ๋องเจาเซียวจูมั่ว รับโทษโบยห้าสิบไม้ ตัดเบี้ยหวัดสองปี กักบริเวณในจวนอ๋องเจา” “ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี” ลั่วจิ่วหลีแสดงความขอบคุณ ฮ่องเต้ทรงลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไรอีก “เลิกประชุม” ขันทีประกาศเสียงสูง ขุนนางทั้งหมดคุกเข่าลง ร้องตะโกนทรงพระเจริญ ลั่วจิ่วหลีเงยหน้ามองไปที่เซียวหมิงเสวียน เห็นเขาเม้มปาก ใบหน้าสูงส่งหล่อเหลาปกคลุมด้วยชั้นน้ำค้างแข็งหนา ๆ ยืนขึ้นโดยไม่เอ่ยคำใด ทั่วร่างกายไม่มีร่องรอยของความผันผวนทางอารมณ์ หลังจากที่ฮ่องเต้เสด็จออกไป ขันทีก็เดินมาหาอ๋องเก้า “ท่านอ๋องเก้า ฝ่าบาทมีรับ

    Last Updated : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 14

    แต่ยังมีอีกสองคำถามติดอยู่ในใจของนาง ตอนนั้นที่อยู่นอกจวนอ๋องเจา นางยัดเมทแอมเฟตามีนใส่ปากอ๋องเจาหนึ่งเม็ด แต่เมทแอมเฟตามีนไม่มีทางทำให้อ๋องเจาคลุ้มคลั่งแบบนั้นได้ ยังมีคำพูดของอ๋องเจาอีก เขาไม่เคยแตะต้องเจ้าของร่างเดิม และลูกเจ้าของร่างเดิมไม่ใช่ลูกของเขา? ทว่าตอนที่นางสืบทอดความทรงจำของร่างเดิมกลับไม่เห็นภาพอื่นเลย นางหลับตาลง นึกทวบทวนย้อนกลับถึงความทรงจำในสมองให้ถี่ถ้วน สาวใช้ชุนหรงเห็นคุณหนูหลับตาลงก็คิดว่านางง่วงนอนแล้ว ค่อย ๆ เดินเขย่งเท้าปิดประตูแล้วออกจากห้อง จนแล้วจนรอดลั่วจิ่วหลีก็ยังไม่พบผลลัพธ์ที่เฝ้าตามหาในความทรงจำ แต่สัญชาตญาณบอกนางว่า อ๋องเจาอาจพูดความจริง บางที เจ้าของร่างเดิมอาจลืมเรื่องบางอย่างไป ด้านนอกประตู ชุนหรงที่จากไปแล้วก็ย้อนกลับมาด้วยความเร่งรีบ เคาะประตูด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง “คุณหนูเจ้าคะ คนจากจวนอ๋องเจาส่งสินเดิมและเงินหนึ่งแสนตำลึงเงินพร้อมด้วยหนังสือหย่ามาแล้ว ฮูหยินจึงสั่งให้บ่าวมาถามคุณหนูว่า คุณหนูอยากจะดูด้วยตัวเองหรือไม่เจ้าคะ” เพียงได้ยินชื่อจวนอ๋องเจา ลั่วจิ่วหลีย่นคิ้วด้วยความรังเกียจ หันหลังกลับแล้วนอนลง

    Last Updated : 2024-10-29
  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 15

    “ปีศาจ” ลั่วจิ่วหลีทำปากพึมพำไม่มีเสียงเรียกเขาเช่นนั้น ทันใดนั้น ดูเหมือนนางจะตาลายจึงเห็นว่าอ๋องเก้ายกริมฝีปากใส่นางแบบคาดไม่ถึง เป็นไปได้ไหมว่า เขาเห็นปากที่พึมพำของนาง “ฉินอิ่น คุณหนูรองตระกูลลั่วขัดขวางการเดินทางของข้า เชิญไปดื่มชาที่จวนอ๋องเก้าเสียเถอะ” เซียวหมิงเสวียนเปิดปากพูดช้า ๆ น้ำเสียงขรึมเย็นเล็กน้อย ผู้คนทั้งซ้ายขวาก็ตกใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นตัวสั่นสะท้าน ภายในรถม้า ลั่วจิ่วหลียกมือกอดอก ปราศจากอาการตกใจลนลาน นางคิดจะไปหาเขาอยู่แล้ว ไม่สำคัญว่าไปที่ไหน รถม้าทั้งสองคันวกกลับไปจอดหน้าประตูจวนอ๋องเก้าตามลำดับชุนหรงและสารถีกลัวมากจนไม่กล้าหายใจแรง ลั่วจิ่วหลีลงจากรถม้า เงยหน้าขึ้นมอง สิงโตหินแกะสลักสองตัว ประตูทาสีแดงชาด ตัวอักษร ‘จวนอ๋องเจา’ บนป้ายประหนึ่งหงส์เหินล้อลม ราวกับจะแสดงให้ทุกคนเห็นถึงสถานะอันสูงศักดิ์ บัดนี้เซียวหมิงเสวียนก็ลงจากรถม้า สายตาหยุดอยู่ที่ลั่วจิ่วหลี รูปลักษณ์งดงาม ดวงตาปราดเปรื่องคู่หนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อสายตาตกลงไปที่ไฝน้ำตาน่าเอ็นดูใต้หางตาของนาง คิ้วของเขาเลิกขึ้นโดยแทบมองไม่เห็น ทันทีที่องครักษ์เฝ้าประตูเห็นอ

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 100

    “เพคะ นี่คือยาเม็ดที่หม่อมฉันทำให้เฟิงเต๋อฮูหยินโดยเฉพาะ”“งั้นหรือ?”ฮ่องเต้มองที่ใบหน้าสงบนิ่งของลั่วจิ่วหลี เห็นว่านางไม่ลนลานแม้แต่น้อย และไม่มีทีท่าว่าโกหกเช่นกันก้มหัวลงดูของสิ่งนี้ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนหากบอกว่านี่คือขวด วัสดุกลับไม่เหมือน หากพูดว่านี่ไม่ใช่ขวด แต่ยาเม็ดเล็ก ๆ เหล่านั้นกลับใส่อยู่ในนี้จริง ๆ“ในเมื่อเป็นยาเม็ดที่ทำให้เฟิงเต๋อฮูหยินโดยเฉพาะ เหตุใดจึงทำให้เฟิงเต๋อฮูหยินไม่ได้สติเล่า?”ฮ่องเต้น้ำเสียงเคร่งเครียด สายตาเย็นชาโกรธขึ้งที่ด้านข้าง ฮองเฮาโบกมือไปทางองครักษ์เหล่านั้นบรรดาองครักษ์ก็ถอยออกไปอย่างหงุดหงิด“ลั่วจิ่วหลี เฟิงเต๋อฮูหยินก็กินยาในขวดนี้นี่ล่ะ แล้วก็หมดสติไป”ฮองเฮาเสียงเบามาก จ้องลั่วจิ่วหลีตาไม่กะพริบลั่วจิ่วหลีส่ายหัว น้ำเสียงหนักแน่น เผชิญหน้ากับสายตาที่ฮ่องเต้และฮองเฮาเพ่งพินิจนางโดยปราศจากความกลัวใด ๆ“เป็นไปไม่ได้เพคะ นี่คือยารักษาอาการหัวใจวายของเฟิงเต๋อฮูหยิน ไม่ใช่ยาพิษอะไรแน่นอน?”“ยาพิษ?” ที่ด้านข้าง หูกุ้ยเฟยร้องหึอย่างเย็นชาหนึ่งที เดินเข้ามา“ลั่วจิ่วหลี ที่นี่ไม่มีคนบอกว่าเฟิงเต๋อฮูหยินถูกวางยาพิษเสียหน่อย กลับ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 99

    เพียงไม่นาน รถม้าก็มาถึงประตูจวนที่นอกรถม้า สวีหมัวมัวเปิดม่านขึ้น“ฮูหยิน คุณหนูรอง ถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ”สองแม่ลูกทยอยลุกขึ้นตามกันไป ลงจากรถม้ายังไม่ทันได้เข้าจวน ก็เห็นพ่อบ้านวิ่งตรงออกมาอย่างรวดเร็ว“ฮูหยิน คุณหนูรอง ในวังมีจดหมายมา เชิญให้คุณหนูไปที่พระตำหนักกานเฉวียนทันทีหลังกลับถึงจวนขอรับ”ลั่วจิ่วหลีตะลึง อี้กั๋วกงฮูหยินหนังตากระตุก“เกิดอะไรขึ้น?”พ่อบ้านส่ายหัว“ขันทีที่เชิญพระราชโองการไม่ยอมบอก บอกแค่ว่า ให้คุณหนูรองเข้าวังได้ทันที”“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง คงให้ข้าเข้าวังไปตรวจร่างกายเฟิงเต๋อฮูหยินอีกครั้ง”ลั่วจิ่วหลีพูดปลอบประโลมแล้ว เวลานี้ สาวใช้เรือนฝูชวีก็นำกล่องยาออกมาแล้วลั่วจิ่วหลีรับกล่องยามา“สวีหมัวมัว ดูแลท่านแม่ให้ดี ข้าไปไม่นานก็กลับ”“เจ้าค่ะ คุณหนูรอง”สวีหมัวมัวประคองอี้กั๋วกงฮูหยิน มองดูลั่วจิ่วหลีขึ้นรถม้า มุ่งหน้าไปทางประตูวัง“พ่อบ้านจาง”อี้กั๋วกงฮูหยินเห็นรถม้าที่ค่อย ๆ ห่างออกไปแล้ว ก็ขมวดคิ้ว“ฮูหยิน”พ่อบ้านจางก้าวขึ้นมา“เอาเงินตำลึงไปเพิ่มหน่อยสิ ไปสืบข่าวมาที”“ขอรับ”พ่อบ้านจางไหนเลยจะกล้าชักช้า จากไปอย่างรีบร้อนตามความร้อนใ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 98

    อี้กั๋วกงฮูหยินมองที่นาง“เจ้าฟังออกหรือ?”“ในเมื่อเจ้ายังเข้าใจแล้ว ถ้าเช่นนั้น ท่านอ๋องเก้าก็คงจะเข้าใจได้เช่นกัน”“ท่านแม่ นี่ท่าน...”“จิ่วเอ๋อร์”อี้กั๋วกงฮูหยินคว้ามือลูกสาวตัวเองไว้“แม้แม่จะอยู่ในเรือนหลังมานาน แต่เรื่องบางเรื่อง ไม่ใช่ว่าแม่ไม่รู้ คราวที่แล้วกุ้ยเฟยเรียกเจ้าเข้าวัง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพราะเรื่องที่เจ้าหย่าร้างกับอ๋องเจา เรื่องที่สองพี่น้องตระกูลหูนั่นใส่ร้ายเจ้า แม่ฟังแล้วเหมือนถูกมีดกรีดหัวใจ”ลั่วจิ่วหลีตะลึง เรื่องคราวก่อน นางปิดบังไว้ไม่น้อย แต่นึกไม่ถึงว่าแม่ก็ยังไปสืบรู้เรื่องนี้มาจนได้“ท่านแม่ ท่านรู้หมดแล้วหรือ?”อี้กั๋วกงฮูหยินพยักหน้าเบา ๆ“ได้รับความอยุติธรรมขนาดนั้น เจ้าไม่บอกแม่ได้อย่างไรกัน?”ลั่วจิ่วหลียิ้มอย่างสบาย ๆ“ก็ไม่ถือว่าได้รับความอยุติธรรมนะเจ้าคะ สองพี่น้องตระกูลหูนั่นก็ไม่ได้รับผลประโยชน์”“เฮ้อ! เจ้านี่นะ”อี้กั๋วกงฮูหยินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง“ท่านอ๋องเก้านั้นเป็นยอดคนก็จริง แต่จะว่าอย่างไรท่านก็เป็นเสด็จอาของอ๋องเจา ต่อไปเจ้าอย่าเข้าใกล้มากเกินไปจะดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกนินทา”ลั่วจิ่วหลีได้ยินแล้ว ก็หัวเราะเย้

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 97

    “แขก?”เช้าตรู่เช่นนี้ ใครกันมาที่จวนอ๋องเก้า แล้วยังส่งจดหมายคารวะมาด้วย?“ใครหรือ?”เซียวหมิงเสวียนน้ำเสียงเรียบเฉย ยื่นมือไปรับจดหมายคารวะ เมื่อเห็นแล้วก็สีหน้าเคร่งขรึมทันที “จวนอี้กั๋วกง?”“ไป เชิญแขกเข้าไปห้องโถงรับแขก”“พ่ะย่ะค่ะ”คนผู้นั้นออกไปที่ด้านข้าง ฉินอิ่นก้าวขึ้นมา“นายท่าน เป็นอี้อั๋วกงฮูหยินกับคุณหนูรองหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“อืม”เซียวหมิงเสวียนสีหน้าดูไร้อารมณ์ แต่กลับลุกขึ้นกลับห้องไปเปลี่ยนชุดฉินอิ่นยืนอยู่นอกห้อง ลูบจมูกไปมา รู้สึกว่าวันนี้นายท่านของเขาแปลกไปไม่น้อย นายท่านเปลี่ยนชุดเป็นพิเศษเพื่อเจอคนนอกตั้งแต่เมื่อไรกัน แต่จะว่าไปแล้ว คุณหนูรองตระกูลลั่วก็ไม่ถือว่าเป็นคนนอกถึงนอกเรือนรับแขกแล้ว เซียวหมิงเสวียนก็เห็นสองแม่ลูกกำลังนั่งดื่มชาอยู่วันนี้ลั่วจิ่วหลีสวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน ผิวขาวราวกับหิมะ เรียวคิ้วดูเหมือนทิวเขาที่อยู่ไกล ๆ ผัดหน้าเบา ๆ ยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากเขารู้สึกว่าลั่วจิ่วหลีในแบบนี้ดูเย็นชา เฉียบคมน้อยกว่าปกติ และดูอ่อนโยนอบอุ่นมากขึ้นลั่วจิ่วหลีเหมือนจะรู้สึกได้ว่ามีสายตาจ้องมองนางอยู่ จึงเงยหน้ามองไปทางนอกประตูเห็นเซียวหม

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 96

    สวีหมัวมัวค้อมตัวคำนับ“บ่าวขอขอบพระคุณความห่วงใยจากคุณหนูแทนชุนหรงเจ้าค่ะ”ลั่วจิ่วหลีรู้สึกอึดอัดไม่น้อย นี่ก็คือระบบชนชั้นสมัยโบราณ แม้บ่าวจะรับมีดแทนนายจนได้รับบาดเจ็บ ก็ยังต้องขอบคุณ แสดงความซาบซึ้งต่อความเมตตาจากนาย “จิ่วเอ๋อร์ นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เยียนทิงเหลียนนั่นแหกคุกไม่ใช่หรือ? ถูกจับอีกได้อย่างไร? ได้ยินว่า นางถูกเปลื้องผ้าแล้วไปแขวนไว้บนหอประตูเมืองชั้นนอก เฮ้อ! ช่างเสื่อมเสียจารีตประเพณีบ้านเมืองเสียจริง”ลั่วจิ่วหลีนวดขมับไปมาอย่างจนใจ เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน วันนี้นั่งรถม้ามาทั้งวันก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่อีก แต่แม่ถาม นางก็ได้แต่อดทน เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นนอกเมืองให้แม่ฟัง แน่นอนว่า เรื่องบางอย่างที่ต้องปิดบัง นางก็ไม่ได้ปริปากพูดแม้แต่คำเดียว“เจ้าว่าอะไรนะ? อ๋องเก้าเพราะช่วยเจ้า ก็ถูกเยียนทิงเหลียนทำร้ายบาดเจ็บหรือ?”“เจ้าค่ะ”ลั่วจิ่วหลีพยักหน้าเบา ๆ“เยียนทิงเหลียนนั่นไม่ใช่หญิงธรรมดาเลย นางเป็นสายลับของแคว้นซางหนาน ข้าเผลอไปครู่หนึ่ง ยังดีที่มีชุนหรงกับอ๋องเก้า ไม่เช่นนั้น ขณะนี้คนที่นอนปางตายอยู่บนเตียงก็คงเป็นข้าแล้ว”แม้ว่าชุนหรงกับอ๋องเก้าจะไม่ได

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 95

    “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอทูลลา”เซียวหมิงเสวียนถวายบังคม ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องทรงพระอักษรออกจากประตูวังแล้ว ระหว่างทางกลับจวน เซียวหมิงเสวียนมองฉินอิ่นแวบหนึ่ง“ส่งข่าวไปยังหอหลิงเซียว ให้พวกเขาไปสืบหาเบื้องหลังของเยียนทิงเหลียนที่แคว้นซางหนาน”“พ่ะย่ะค่ะ”ฉินอิ่นพยักหน้า จากนั้นเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้อีก“นายท่าน ข้าน้อยส่งฉินลิ่วไปเฝ้ารักษาการณ์อยู่ที่หอประตูเมืองชั้นนอกแล้ว ฉินลิ่วรายงานกลับมา บอกว่า... อะแฮ่ม”“บอกว่าเยียนทิงเหลียนถูกแขวนตัวเปลือยเปล่าอยู่บนหอประตูเมืองชั้นนอก ทำให้เกิดความโกลาหลไม่น้อย มีคนเร่ร่อนหื่นกามคิดไม่ดี...”ส่วนคิดไม่ดีว่าอะไร ไม่ต้องให้ฉินอิ่นพูดให้ชัดเจน เซียวหมิงเสวียนก็เข้าใจว่าหมายถึงอะไร“หึ!”เซียวหมิงเสวียนยิ้มอย่างเย็นชา“เช่นนั้นแล้วก็เปิดช่องโหว่ให้พวกเขาเสีย ให้เยียนทิงเหลียนลองสัมผัสดูว่าตอนนั้นนางวางแผนทำร้ายลั่วจิ่วหลีอย่างไร”ฉินอิ่นได้ยินแล้ว ในใจก็แอบสวดมนต์ภาวนาให้เยียนทิงเหลียนดูท่า เยียนทิงเหลียนจนตายก็ไม่มีทางรู้ว่า ตอนนั้นที่นางวางแผนจะทำลายความบริสุทธิ์ของคุณหนูรองตระกูลลั่ว แต่คนที่มีความสัมพันธ์กับคุณหนูรองตระ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 94

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยียนทิงเหลียนเดิมทีก็เป็นหญิงงามชั้นยอด เอวบางร่างน้อยราวกับต้นหลิว หน้าอกและบั้นท้ายโค้งเว้าชัดเจน หากใช้คำของอ๋องเจามาอธิบาย นี่คือผู้หญิงที่มอบความสุขให้เขาได้แม้แต่องค์ชายแห่งอาณาจักรหนึ่งยังยอมรับในความงามอันเย้ายวนของเยียนทิงเหลียน นับประสาอะไรกับบรรดาบุรุษธรรมดา ๆเพียงแค่เห็นภาพที่เย้ายวนชวนลุ่มหลงนี้แวบเดียว ก็ทำให้เลือดลมสูบฉีดยิ่งดูยิ่งตื่นเต้น ยิ่งดูยิ่งมีผู้ชายเข้ามารวมตัวกันมากขึ้นมีคนตะโกนว่านี่ช่างเสียของจริง ๆ มีคนป่าวร้องว่าสาวสวยเช่นนี้ถ้าได้ซุกอยู่ในผ้าห่มอุ่น ๆ ด้วยจะมีความสุขขนาดไหนมีคนมือบอนเข้าไปใกล้ ๆ อยากเอานางลงมาใจจะขาด หาความสำราญให้เต็มที่ ก็ถูกทหารที่เฝ้าอยู่ข้าง ๆ ถีบกระเด็นไปอยู่ที่พื้นและยังมีหญิงอารมณ์ร้ายที่เมื่อรู้ว่าสามีตนเองมาจ้องมองดูผู้หญิงเปลือยจนตาแทบออกมานอกเบ้า ก็วิ่งถือไม้นวดแป้งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับลมพัด มาบิดหูสามีตัวเอง ด่าว่ายกใหญ่ ด่าสามีตัวเองเสร็จยังไม่พอ ยังหยิบทุกอย่างที่หยิบติดมือมาได้ ปาไปที่ตัวเยียนทิงเหลียนอย่างเอาเป็นเอาตายชาวบ้านร้านตลาดหรือ? เพียงแค่มีคนหนึ่งเริ่มต้น คนที่เหลือก็พากันทำตา

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 93

    “ลงมือ”เซียวหมิงเสวียนไม่แม้แต่จะสนใจดูเยียนทิงเหลียนที่กำลังดิ้นรนกระเสือกกระสน“พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อฉินอิ่นผลักเยียนทิงเหลียนไปข้างหน้า ทั้งร่างของเยียนทิงเหลียนก็ทรุดลงไปกองกับพื้นเมื่อหัวหน้าทหารยามทั้งสองโบกมือให้สัญญาณอย่างสุดแรง ด้านหลังก็มีทหารเฝ้าเมืองก้าวขึ้นมาข้างหน้าทีละก้าว ๆ“อื้อ! อื้อ! อื้อ!”เยียนทิงเหลียนถอยหลังโดยใช้ทั้งมือและเท้าหากเวลานี้นางพูดได้ เสียงขอความเมตตาอย่างน่าเวทนาและเสียงร้องโหยหวนก็คงจะทำให้เกิดความสงสารอันเล็กน้อยจนแทบจะไม่มีอยู่เลยขึ้นมาบ้างน่าเสียดาย ตัวนางในขณะนี้วรยุทธ์ถูกทำลาย ลิ้นก็ถูกตัด ได้แต่ทนรับความอัปยศนี้ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ร้องเรียกต่อฟ้าก็ไร้ผล อ้อนวอนต่อดินก็สิ้นหนทาง ทนทุกข์ทรมานแต่เพียงผู้เดียว ดิ้นรนอย่างขมขื่นทันใดนั้นเอง นางก็เห็นว่าบนรถม้าที่อยู่ด้านหลังนั้น ลั่วจิ่วหลีทอดสายตามาที่นางลั่วจิ่วหลี คนชั้นต่ำ นางชั้นต่ำนี่ ต้องเป็นความคิดของเจ้าแน่ ๆ ต้องใช่อย่างแน่นอนเยียนทิงเหลียนหลบทหารเฝ้าเมืองสองคนนั้นที่ไล่ตามมาประชิดตัว โหม่งหัวชนคนหนึ่งจนล้มลง ฝืนทนความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนร่างกาย วิ่งพุ่งตรงไปทางลั่วจิ่วหลี

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 92

    เมืองชั้นนอกนั้นหลัก ๆ เป็นที่อยู่ของประชาชนทั่วไป และคนมากหน้าหลายตาจากทุกกลุ่มในสังคม เมืองชั้นในล้วนเป็นที่พำนักของขุนนางชั้นสูงและเชื้อพระวงศ์ ส่วนวังหลวงเป็นที่ประทับของฮ่องเต้ ฮองเฮา เหล่าสนมวังหลัง และบรรดาองค์ชายองค์หญิง จวนอี้กั๋วกงกับจวนอ๋องเก้านั้นอยู่ในเมืองชั้นในทั้งคู่ รถม้ากลับหยุดที่เมืองชั้นนอก ลั่วจิ่วหลีประหลาดใจไม่น้อย“ไปกัน ออกไปดูหน่อยกว่าเกิดอะไรขึ้น?”นางพูดพลางผลักประตูรถม้าออก ก็เห็นเซียวหมิงเสวียนที่อยู่ข้างหน้ายืนอยู่บนรถม้าอย่างสง่างามน่าเกรงขามพอดีผู้คนสองข้างทางเมื่อเห็นท่านอ๋องเก้า ก็พากันคุกเข่าลงที่พื้นไม่ไกลจากนั้น มีหัวหน้าทหารยามสองคนที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูเมืองชั้นนอกรีบวิ่งเข้ามาอย่างเร่งด่วน“กระหม่อมถวายบังคมท่านอ๋องเก้า”“อืม ลุกขึ้นเถอะ”เซียวหมิงเสวียนน้ำเสียงเย็นชาเรียบเฉย“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องเก้า”หัวหน้าทหารยามทั้งสองลุกขึ้น“ฉินอิ่น”เซียวหมิงเสวียนโบกมือให้สัญญาณไปทางด้านหลัง“พ่ะย่ะค่ะ”ฉินอิ่นขานรับ จากนั้นก็คุมตัวคนคนหนึ่งเดินไปที่หน้าหัวหน้าทหารยามสองคนนั้น เมื่อลั่วจิ่วหลีมองให้ดี ๆ คนที่ถูกคุมตัวมาไม่ใช่เ

DMCA.com Protection Status