Share

บทที่ 6

พูดแทงใจนัก! ท่านอ๋องผู้สง่างามถูกเรียกเป็น ‘สวะ’ หยามกันเช่นนี้ไหนเลยจะทนได้ไหว

ภายในรถม้า บุรุษผู้มีสีหน้าเย่อหยิ่งได้ยินคำพูดของลั่วจิ่วหลีแล้ว มุมปากก็โค้งขึ้นเล็กน้อยอย่างแทบสังเกตไม่เห็น

ลั่วจิ่วหลีรู้สึกว่าคำพูดยังไม่แรงพอ นางต้องการยั่วยุให้เซียวจูมั่วขาดสติอย่างสมบูรณ์และลงมือทำร้ายนาง

“เซียวจูมั่ว ท่านจำไว้เลย ฆาตกรก็เป็นฆาตกรอยู่วันยังค่ำ”

“ท่านฆ่าลั่วจิ่วหลีคนเก่าและยังฆ่าลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองเพื่อเยียนทิงเหลียน เอาลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองไปทำเป็นยาให้อนุชั้นต่ำของท่าน”

“เหนือศีรษะสามฉื่อ[1]มีเทพเทวาคอยสอดส่องตรวจตรา ผลกรรมจะตามสนอง”

“ท่านน่ะกิเลสหนา สวรรค์จะลงทัณฑ์หญิงร้ายชายเลวอย่างพวกท่าน บาปกรรมนี้จะตกใส่หัวพวกท่าน...”

“นางชั้นต่ำ เจ้ารนหาที่ตาย!

ทันใดนั้นเซียวจูมั่วที่บันดาลโทสะปราดมาถึงตรงหน้าประหนึ่งพายุ บีบคอลั่วจิ่วหลีไว้แน่น

นัยน์ตาสีดำนั้นประหนึ่งมีหมอกปกคลุม เพลิงพิโรธพวยพุ่ง แทบจะกลืนกินลั่วจิ่วหลีทั้งเป็น

“เจ้ามันขี้อิจฉา คิดว่าข้ายอมแต่งงานกับเจ้าเพราะอะไร? หากมิใช่เพราะอำนาจในราชสำนักของจวนอี้กั๋วกง คิดว่าเจ้าคู่ควรได้รับจริงหรือ? กล้าสาปแช่งเหลียนเอ๋อร์ได้อย่างไร”

ดวงตาของลั่วจิ่วหลีเบิกกว้าง มือที่บีบคอนางออกแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้นางหายใจลำบาก

ความมุ่งมั่นแรงกล้าทำให้ประกายตาของนางวาวโรจน์ นางยกมือข้างหนึ่งตบแขนของเซียวจูมั่วเพื่อเบนความสนใจ และยกมืออีกข้างขึ้นทีละน้อย ทีละน้อย

นางแน่ใจว่าเซียวจูมั่วเห็นเจ้าของร่างเดิมเป็นสตรีอ่อนแอไร้ทางสู้ที่ไม่มีวรยุทธ์ติดตัว

ขณะที่นิ้วของนางขยับเข้าใกล้ลำคอของเซียวจูมั่ว เข็มยาสลบที่ซ่อนใต้แขนเสื้อก็แทงไปที่ลำคอของเขาอย่างแรง

ภายในรถม้า ใบหน้าเย่อหยิ่งเฉยเมยของบุรุษผู้นั้นประหนึ่งปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งหนา ขณะกำลังจะพังประตูออกไปก็ได้ยินเสียงคำรามของเซียวจูมั่วจากด้านนอกรถม้า

“อ้าก! นังชั้นต่ำ เจ้ากล้าใช้ยาพิษลอบโจมตีข้า”

เสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของเขาดังก้องอยู่ในโสตของลั่วจิ่วหลี

จากนั้นลั่วจิ่วหลีก็ถูกตบหน้าอย่างแรง

ลำแขนอันแข็งแกร่งยกขึ้นจนโค้ง ตบจนลั่วจิ่วหลีกระเด็นหวือออกไป

เซียวจูมั่วทรุดลงกับพื้น สมองพร่าเลือน กายไร้เรี่ยวแรงสิ้น เหลือเพียงเสียงตวาดลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว

“จงฆ่านางให้ข้า! ฆ่านางซะ สับร่างเป็นหมื่นท่อน แล่เนื้อเป็นหมื่นชิ้น!”

ชั่วขณะหนึ่ง เสียงดังอื้ออึง ดาบกระบี่ถูกดึงออกจากฝักสาดประกายวาววับพุ่งมาที่ลั่วจิ่วหลี

ในยามที่ทุกคนคิดว่าลั่วจิ่วหลีหนีไม่พ้นความตายแล้ว

เงาดำสายหนึ่งบินออกจากรถม้า ในช่วงเวลาวิกฤตนั้น ลำแขนแกร่งรัดรอบเอวของลั่วจิ่วหลี สองแขนรวบหญิงสาวเข้าสู่อ้อมอกโดยไม่อาจควบคุม

ทุกถ้อยคำของเซียวจูมั่ว เขาที่อยู่ในรถม้าได้ยินชัดเจนแจ่มแจ้ง

บุรุษผู้นั้นก้มมองลั่วจิ่วหลีในอ้อมแขน สะดุดกับปรางแก้มบวมแดงครึ่งซีก มุมปากมีเลือดไหลซึมออกมา รอยฟกช้ำสีม่วงเข้มปรากฏอยู่บนลำคอขาวผ่อง

ด้านหลัง มีทหารที่ไม่กลัวตายแทงกระบี่เข้าใส่ บุรุษผู้นั้นถอนตัวจากภวังค์แล้วตอบโต้กลับไปทันที สองนิ้วคีบปลายกระบี่ บังเกิดเสียงหักดังเคร้งจากการบิดเพียงครั้งเดียว

แล้วยกแขนขึ้น คว้าแขนข้างหนึ่งของนายทหาร บิดไปข้างหน้า มืออีกข้างของเขาบีบคอนายทหาร ได้ยินเสียงดังกร๊อบ ลำคอของทหารผู้นั้นหักคามือ!

ในเวลาเดียวกัน เงาร่างหนึ่งแดงหนึ่งดำสองสายก็กระโจนออกมาจากด้านหลังรถม้า

“ลอบสังหารท่านอ๋องเก้า มีโทษอย่างไร?”

สิ้นเสียง ประกายดาบกระบี่พลันตกลง ทหารสองนายที่อยู่ใกล้อ๋องเก้าและลั่วจิ่วหลีที่สุดก็ทรุดลงกับพื้นทันที

“อ๋องเก้า?”

“ท่านอ๋องเก้า?”

บรรดาทหารทั้งหมดตกใจมากจนทิ้งอาวุธทันที แล้วคุกเข่าลง

“ท่านอ๋องเก้าทรงพระเจริญพันปีพันพันปี”

อ๋องเก้า เซียวหมิงเสวียน พระโอรสองค์สุดท้องของอดีตฮ่องเต้ พระอนุชาร่วมสายเลือดกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ท่านอ๋องเทพสงครามแห่งราชวงศ์ฉางหนิง ทุกสมรภูมิองอาจกล้าหาญไร้เทียมทาน นับแต่กรีธาทัพลงใต้ครั้งแรกเมื่อสิบห้าชันษา ไม่เคยปราชัยสักหน

บัดนี้ แคว้นฉางหนิงได้ขยายอาณาเขตออกไปล้วนเป็นความดีความชอบของอ๋องเก้าในช่วงหลายปีนี้ทั้งสิ้น

จนกระทั่งเมื่อสองปีก่อน ไม่ทราบด้วยเหตุใดอ๋องเก้าส่งคืนตราพยัคฆ์[2] หันหลังเร้นกายบนยอดเขาพิศวงแถบชานเมืองหลวง แทบไม่ลงจากเขาอีกเลย

นึกไม่ถึงเลยว่าคืนนี้พวกเขาจะได้เข้าเฝ้าอ๋องเก้าผู้หวนคืนเมืองหลวง

“เสด็จอาเก้า”

เซียวจูมั่วตกใจยกใหญ่ เงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้สึกตัว อยากจะยืนขึ้นและคำนับด้วยซ้ำ

น่าเสียดาย ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ไม่ต้องพูดถึงการรวบรวมกำลังภายใน แม้แต่การยกมือก็ยังไม่อาจทำได้

หากจะบอกว่าใครตกใจที่สุดในตอนนี้ก็คงเป็นลั่วจิ่วหลีที่ถูกอยู่ในอ้อมแขนของเซียวหมิงเสวียน

อ๋องเก้า? เสด็จอาเก้า?

สวรรค์ทรงโปรด นางเพิ่งทำร้ายท่านอ๋อง มิหนำซ้ำยังเป็นเสด็จอาด้วย?

นางพยายามค้นหาชื่อนี้ในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมอย่างหนัก แต่น่าเสียดาย

ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่แสนจะงมงายรักคนนี้มีเพียงเซียวจูมั่ว

นางพูดไม่ออก เจ้าของร่างเดิมตาบอดไปแล้วกระมัง ไปตกหลุมรักคนสารเลวแบบเซียวจูมั่วได้อย่างไร

เซียวหมิงเสวียนไม่เอ่ยคำใด เพียงปล่อยลั่วจิ่วหลีอย่างเงียบ ๆ

เขามองดูผู้คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างสงบมั่นคงดุจบ่อน้ำโบราณ ความสงบเยือกเย็นและเข้มงวดเย็นชา กลับเป็นแรงกดดันที่แสนหนักอึ้งสำหรับคนเหล่านี้

อ๋องเก้าองอาจห้าวหาญ อ๋องเก้าสถานะสูงส่ง อ๋องเก้าพิโรธ โลหิตซ่านเซ็น

ทั่วทั้งราชสำนักฉางหนิง ยกเว้นฝ่าบาทแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าทำให้อ๋องเก้าขุ่นเคือง

คืนนี้พวกเขาลงมือกับอ๋องเก้า เกรงว่าชีวิตน้อย ๆ คงหาไม่แล้ว

---------------------------------------------

[1] ฉื่อ คือ หน่วยวัดความยาวของจีน โดย 3 ฉื่อ = 1 เมตร

[2] ตราพยัคฆ์ คือ สัญลักษณ์ที่ใช้ยืนยันสิทธิในการสั่งเคลื่อนทัพของจีน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status