Share

บทที่ 12

“ฝ่าบาท ตอนนั้นหม่อมฉันรักอ๋องเจาสุดหัวใจ แม้กระทั่งวันอภิเษก อ๋องเจาหันหลังใส่หม่อมฉันรับชายารองเข้าจวน ทำให้หม่อมฉันอับอายขายหน้า แต่เพราะหม่อมฉันรักเขาจึงพยักหน้ายินยอม แล้วหม่อมฉันจะทรยศเขาได้อย่างไรเพคะ”

“ฝ่าบาทโปรดมอบความเป็นธรรมให้หม่อมฉันด้วยเพคะ”

ฮ่องเต้กำพระหัตถ์แน่น กริ้วโกรธขั้นสุด แต่แล้วก็ค่อย ๆ สงบลง

ในฐานะบุรุษ เป็นไปไม่ได้ที่อ๋องเจาจะสร้างความอัปยศให้ตัวเองเช่นนี้

แต่สีหน้าของลั่วจิ่วหลีก็ไม่เหมือนคนโกหกเช่นกัน

ยิ่งกว่านั้น ความรักที่นางมีต่ออ๋องเจาเป็นที่รู้กันทั่วเมือง หากตอนนั้นนางไม่ใช้ความตายข่มขู่ อี้กั๋วกงก็ไม่มีวันเห็นด้วยกับการแต่งงานนี้

ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของราชวงศ์ ไม่ว่าอย่างไรต้องสอบสวนให้กระจ่าง

“ใครก็ได้ จงปิดตำหนักไท่เหอ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดออกไปจากที่นี่เด็ดขาด หากเรื่องในวันนี้แพร่กระจายออกไปแม้ประโยคเดียว ทุกคนในตำหนักไท่เหอมีโทษประหารชีวิต”

คำว่าประหารคำเดียวทำให้ทั้งตำหนักไท่เหอตกอยู่ท่ามกลางเมฆดำปกคลุม

ขุนนางทุกคนในท้องพระโรงย่อมเข้าใจว่า คำว่าทุกคนนั้นรวมถึงพวกตนด้วยเช่นกัน

“อ๋องเก้า เจ้าไปเอาระเบียนจากสำนักกิจการราชวงศ์”

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเซียวหมิงเสวียน

เซียวหมิงเสวียนลุกขึ้นยืน กำลังจะตอบรับ

ทันใดนั้นเซียวจูมั่วก็ปราดไปตรงหน้าลั่วจิ่วหลีประหนึ่งหุ่นเชิดที่สูญเสียการควบคุม กดนางลงพื้นและบีบคอนางราวคนเสียสติ

ในสมองมีคนแคระจำนวนนับไม่ถ้วนกระโดดไปมา ทำเสียงเอ็ดตะโร

บีบคอนางให้ตาย บีบคอนางให้ตาย

ฆ่านางซะ หากนางตายแล้ว เจ้ากับเหลียนเอ๋อร์ก็สามารถเป็นวิหคคู่ไม่มีวันแยกจาก

เสียงในหัวของเขาเริ่มดังขึ้นดังขึ้น ดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

“นังชั้นต่ำ เจ้าเป็นนังชั้นต่ำที่ชั่วร้ายไร้ยางอาย คิดไม่ถึงว่าจะวางเพลิงเผาจวนอ๋องเจา เหลียนเอ๋อร์ของข้าเกือบถูกไฟคลอกตาย ยังกล้าตีกลองร้องทุกข์อีก เจ้ามันสารเลวอยากจะเล่นงานข้าถึงตายเชียวหรือ?”

“พูดมา เป็นใครที่ส่งเจ้ามาใส่ร้ายข้า? มันคือใคร?”

ความเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของอ๋องเจาทำให้ทุกคนในท้องพระโรงอ้าปากค้าง แม้แต่ฮ่องเต้ก็ตกตะลึงตาค้างพูดไม่ออก

“เดรัจฉาน เจ้าหยุดนะ เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้”

อี้กั๋วกงฮูหยินเป็นสตรีที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี แต่เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ นางในฐานะแม่คนหนึ่งรู้สึกราวหัวใจถูกมีดกรีด เป็นคนแรกที่พุ่งไปข้างหน้าเพื่อต่อสู้กับอ๋องเจา

อ๋องเจาโทสะบดบังสติ ซัดหมัดหนัก ๆ ใส่ที่ตำแหน่งหัวใจของอี้กั๋วกงฮูหยิน

ได้ยินแค่เสียงโครม ร่างของอี้กั๋วกงฮูหยินถูกชกจนกระเด็นออกไปไกล นอนขดตัวอยู่ตรงนั้น

‘อัก’ เสียงกระอักเลือดออกมาเต็มปาก

เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ทำให้เหล่าขุนนางในท้องพระโรงหน้าซีดเผือด แทบไม่กล้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยซ้ำ

“ท่านแม่ยาย”

เผยทิงซ่งตุลาการศาลต้าหลี่รีบรุดออกไปเป็นคนแรก ประคองอี้กั๋วกงฮูหยินด้วยความลนลาน

“ท่านแม่”

ลั่วจิ่วหลีถูกบีบคอจนหายใจติดขัดแล้ว

เซียวหมิงเสวียนสีหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็ง ไอสังหารวาววับในดวงตา เคลื่อนไหวไร้ความปรานี ฝ่ามือที่อัดแน่นกำลังภายในตบเข้าที่แผ่นหลังอ๋องเจาอย่างหนัก จากนั้นก็เตะเขาออกห่างจากลั่วจิ่วหลีอย่างแรง

ตุบ!

พลั่ก!

ร่างของอ๋องเจาไถลไปตามพื้นเกิดรอยยาวไม่ขาดช่วง จนไปกระแทกกับเสาตรงทางเข้าท้องพระโรงอย่างแรง กระอักเลือดเต็มปากเสียงดังอัก

เวลานี้ ฮ่องเต้ทรงได้สติคืนมาแล้ว

“ใครก็ได้ จงจับอ๋องเจาเอาไว้ คุมตัวไปที่สำนักกิจการราชวงศ์ โบยห้าสิบไม้”

“เชิญหมอหลวง รีบเชิญหมอหลวงมา”

กล้าทำร้ายฮูตราตั้งขั้นหนึ่งต่อหน้าขุนนางเต็มท้องพระโรง ทั้งยังเกือบจะบีบคอบุตรสาวอีกฝ่ายจนตาย

หากฮ่องเต้เช่นเขายังไม่แสดงท่าทีอีก อี้กั๋วกงคงจะเดินทางออกจากลี่หยางมายังเมืองหลวงแล้ว

นอกตำหนักอลหม่านไปหมด บ้างไปเชิญหมอหลวง บ้างก็จับตัวอ๋องเจาไว้สุดชีวิต

แต่ถึงอย่างนั้น อ๋องเจายังคงแช่งชักหักกระดูกลั่วจิ่วหลีอย่างบ้าคลั่ง พ่นถ้อยคำสกปรกทุกชนิดไม่รู้จบ

“แค่ก! แค่ก! แค่ก!”

ลั่วจิ่วหลีที่เพิ่งรอดตายมาได้ลำคอปวดแสบปวดร้อนไปหมด

นึกก่นด่าในใจ แค่เมทแอมเฟตามีนเม็ดเดียวไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงทำให้เขาคลุ้มคลั่งได้ขนาดนี้?

หากนางถูกอ๋องเจาบีบคอจนตายก็ได้ไม่คุ้มเสียแล้ว

“ท่านแม่”

นางพยายามลุกขึ้นมาแล้วคุกเข่าลงต่อหน้าอี้กั๋วกงฮูหยิน

ด้านนอกตำหนัก หมอหลวงรีบวิ่งมาอย่างรีบร้อน

คนหลายคนรีบเคลื่อยย้ายอี้กั๋วกงฮูหยินไปที่ตำหนักข้าง

เมื่อวินิจฉัยโดยละเอียดแล้ว โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงอวัยวะภายใน หมอหลวงกราบทูลรายงานต่อฮ่องเต้

“ลูกของข้า ลูกสาวที่น่าสงสารของข้า”

อี้กั๋วกงฮูหยินยังตื่นตระหนกไม่หาย กอดลั่วจิ่วหลีไว้แล้วร้องไห้ฟูมฟาย

ลั่วจิ่วหลีน้ำตาไหลพรั่งพรูราวสายฝน ชาติก่อนนางเป็นเด็กกำพร้า ไม่เคยรู้เลยว่าการมีแม่เป็นอย่างไร ในที่สุดก็รู้แล้วว่าการถูกคนอื่นกอดไว้และเรียกว่าลูกสาวนั้นมีความสุขมากแค่ไหน

“ท่านแม่ ขอโทษ ขอโทษเจ้าค่ะ”

เจ้าของร่างเดิม! เจ้าทำร้ายจิตใจบิดามารดาเพื่อผู้ชายคนเดียว

ไม่คุ้มค่า ไม่คุ้มค่าเลย

ภายในตำหนักไท่เหอ

เซียวหมิงเสวียนและฮ่องเต้มองหน้ากัน ดูเหมือนต่างก็เข้าใจความคิดของกันและกันแจ่มแจ้ง

อ๋องเจาเกิดคลุ้มคลั่งกะทันหัน ทำร้ายฮูหยินตราตั้งขั้นหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจแพร่งพรายไปยังค่ายทหารลี่หยางได้ เพื่อที่จะไม่รบกวนขวัญกำลังใจของกองทัพ

ยิ่งกว่านั้น อ๋องเจาเริ่มคลุ้มคลั่งเพราะฮ่องเต้รับสั่งให้อ๋องเก้าไปหยิบระเบียนที่สำนักกิจการราชวงศ์ ระเบียนดังกล่าวบันทึกผลตรวจร่างกายของลั่วจิ่วหลีก่อนแต่งงานเข้าจวนอ๋องเจา

หากอ๋องเจาต้องการขัดขวางการตรวจสอบระเบียน นั่นได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ทุกสิ่งที่อ๋องเจาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องโกหก และลั่วจิ่วหลีถูกใส่ร้าย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status