แชร์

บทที่ 19

ผู้แต่ง: ปีศาจเจ้าสำราญ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ใช้เวลานานเท่าไรเขาถึงจะเข้าเมืองหลวง?”

เซียวหมิงเสวียนส่ายหัว

“ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ แล้วแต่อารมณ์เขา”

คำพูดนี้ทำให้ฮ่องเต้ทรงพิโรธจนหัวเราะ

“นิสัยประหลาดจริง ๆ ขนาดท่านอ๋องเทพสงครามแห่งราชวงศ์ฉางหนิงของเราเชิญยังต้องดูอารมณ์อีกด้วย”

“ช่างเถอะ เราก็ใช้สถานะกดดันคนไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ฮัวหลานโจวนั่นก็อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง”

“ช่างเถอะ ช่างเถอะ รอไปแล้วกัน”

“ปล่อยให้อ๋องเจาทนลำบากไปอีกสักพัก ให้เขาหลาบจำเสียบ้างก็ดีเหมือนกัน”

เซียวหมิงเสวียนทำมือเตรียมถวายคำนับ น้ำเสียงราบเรียบ

“เสด็จพี่ยังทรงมีธุระอื่นอีกไหมพ่ะย่ะค่ะ? หากไม่มี กระหม่อมก็ขอทูลลาก่อน”

“ไปเถอะ”

ฮ่องเต้โบกมือ

เซียวหมิงเสวียนหันตัวกลับ เดินออกไปนอกประตูตำหนัก

เวลาเดียวกันนี้เอง ภายในห้องที่ค่อนข้างปลีกวิเวกห้องหนึ่งในกรมอาญา

ลั่วจิ่วหลีตัดเสื้อตรงอกของพัศดีคนนั้นออกแล้ว เผยให้เห็นกริชที่ปักอยู่บนตัวเขา หรี่ตาลงเล็กน้อย

รอบข้างไม่มีใคร นางเรียกยาชา ผ้าพันแผล ยาห้ามเลือดและเข็มเย็บแผลออกมาจากแหวนโบราณ วางเรียงหน้ากระดานไว้ข้างตัว

ทันใดนั้นเอง มือลั่วจิ่วหลีก็กำด้ามกริชไว้ หายใจช้า ๆ อย่างระมัดระวัง

“ฉับ!”

เสียงดั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 20

    อวี๋ไห่เซิงตัวสั่นสะท้าน“พ่ะย่ะค่ะ”เขากล่าวจบก็ออกไปดำเนินการเซียวหมิงเสวียนมองที่ลั่วจิ่วหลี“พัศดีคนนั้น ตอนนี้สามารถเคลื่อนย้ายได้หรือยัง?”ลั่วจิ่วหลีหันกลับไปดูในห้อง“ตามหลักไม่เคลื่อนย้ายจะดีที่สุด แต่ถ้าที่นี่ไม่สะดวกก็ใช้เปลหามยกไปได้”เมื่อนางเอ่ยปาก เซียวหมิงเสวียนก็ไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว“ฉินอิ่น ยกคนขึ้นรถม้า ส่งกลับไปที่จวนข้า”“พ่ะย่ะค่ะ”ฉินอิ่นรับคำสั่งแล้วก็ไปจัดการทันทีลั่วจิ่วหลีตะลึงงัน“จวนท่านอ๋อง? ท่านอ๋องจะนำเขาไปจวนท่านหรือ?”หมายความว่านางก็ต้องตามไปจวนอ๋องเก้าด้วยน่ะสิเซียวหมิงเสวียนปรายตามองนาง“เขาเป็นพยานคนเดียวที่ปล่อยเยียนทิงเหลียนไป”“ไปกันเถอะ คืนนี้เจ้าต้องอยู่ดูแลเขาที่จวนข้า”พูดแล้วก็หันกลับไปเตรียมจะไป“ช้าก่อน”ลั่วจิ่วหลียื่นมือออกไปคว้าแขนเสื้อเขาไว้อย่างไม่รู้ตัวเซียวหมิงเสวียนหันหลังขวับ แววตาเจิดจ้าดุจคบเพลิง ลั่วจิ่วหลีรีบปล่อยอย่างลนลานราวถูกไฟลวก“ขออภัยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ”“หม่อมฉันไปดูแลเขาได้ แต่หม่อมฉันต้องกลับเรือนไปบอกให้ท่านแม่เสียก่อน ไม่เช่นนั้น…”“ไม่ต้อง ข้าส่งคนไปแจ้งที่จวนอี้กั๋วกงแล้ว”

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 21

    เซียวหมิงเสวียนเลิกคิ้ว ลูบแหวนน้าวบนนิ้วพลางกลับไปนั่งเก้าอี้ ล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อหยิบผ้าเช็ดหน้าไหมหนา ๆ ผืนหนึ่งออกมาแล้วกางออก ด้านในมีมีดผ่าตัดขนาดเล็กเล่มหนึ่งเมื่อลั่วจิ่วหลีเห็นมีดผ่าตัดเล่มนั้น รูม่านตาก็หดอย่างรวดเร็วเซียวหมิงเสวียนหยิบด้ามจับมีดผ่าตัดขึ้นมา เอ่ยปากพูดอย่างเรียบเฉยว่า“มีดเล่มนี้ ฉินอิ่นยึดมาจากเจ้าคืนที่เจ้าวางเพลิงจวนอ๋องเจา”“อยู่ที่ท่านอ๋องได้อย่างไร?”ลั่วจิ่วหลีก้มหน้า มิได้เฉไฉ“มีดนี้คมไร้ที่เปรียบ ตัดได้กระทั่งเส้นผม แต่ไม่รู้ว่าคุณหนูรองตระกูลลั่วได้มาจากที่ใด? หรือจะบอกว่าให้สาวใช้ไปซื้อหามา? บอกข้าหน่อยสิ ข้าก็จะซื้อสักหลาย ๆ เล่ม”ลั่วจิ่วหลีมองมีดผ่าตัดในมือเขา มุมปากกระตุกทีหนึ่งนึกถึงว่านางพูดในรถม้าที่นอกจวนอ๋องเจาว่า นางรู้วิชาแพทย์ เข้าใจหลักการรักษาโรค ขอเพียงเขาต้องการก็ยินดีรับใช้เขาทุกเมื่อพอมานึกดูตอนนี้ก็รู้สึกว่าคืนนั้นสมองเบลอไปแล้วหรืออย่างไร? ยังเข้าใจสถานการณ์ไม่กระจ่าง ตนเองกล่าวคำพูดเหล่านั้นไปได้อย่างไรกัน“ท่านอ๋อง”ลั่วจิ่วหลีถูมือแล้วถูมืออีก ยิ้มแหยอย่างทำตัวไม่ถูกนินทาในใจว่า ชายคนนี้ก็คือปีศาจจิ้งจอกที

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 22

    ลั่วจิ่วหลีได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ ตอนแรกยังนึกยังดีใจ แต่พอได้ยินคำว่าเงื่อนไขก็มองเขาด้วยสายตาสงบนิ่ง หัวเราะเย้ยหยันว่า“เงื่อนไขท่านอ๋องเยอะเสียจริงนะเพคะ?”ครั้งแรกที่เจรจาเงื่อนไขคือในรถม้าวันที่จวนอ๋องเจาเกิดเพลิงไหม้ครั้งที่สองที่เจรจาเงื่อนไขคือก่อนไปจวนอ๋องเจาครั้งที่สามที่เจรจาเงื่อนไขก็คือตอนนี้“ไม่ทราบว่าคราวนี้เงื่อนไขของท่านอ๋องคืออะไรหรือเพคะ?”เซียวหมิงเสวียนไม่ได้ดูสีหน้านาง และไม่สนใจที่นางหัวเราะเย้ยหยัน“ง่ายมาก เป็นแพทย์ประจำจวนของข้า?”ลั่วจิ่วหลีประหลาดใจไม่น้อย“แพทย์ประจำจวน?”“ใช่ ดูแลร่างกายข้า”ความนัยของเขาก็คือ เขาทรมานจากคำสาปในร่างกายตัวเองมาตั้งหลายปีแล้ว ได้เจอนางจึงเริ่มมีความหวังขึ้นมา แต่เขาก็รู้ว่าเขาจะรีบร้อนไม่ได้นี่ก็คือสาเหตุที่เขาคว้าเรื่องที่ตัวลั่วจิ่วหลีนั้นไม่รู้วิชาแพทย์ไว้ไม่ยอมปล่อย“แล้วแพทย์ประจำจวนต้องเข้าไปอยู่ในจวนของท่านไหมเพคะ?”“ตอนนี้ยังไม่ต้อง”คำตอบของเซียวหมิงเสวียนทำให้นางรู้สึกโล่งอก“ไม่ต้องอยู่จวนอ๋องเก้าก็พอแล้ว”ลั่วจิ่วหลีสบายใจแล้ว“งั้นก็เชิญท่านอ๋องบอกเถอะว่า จะช่วยหม่อมฉันอย่างไร?”เซียวหมิงเ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 23

    “เหมือนที่ผู้หญิงเย็บเสื้อผ้า” เซียวหมิงเสวียนก้มหน้าดูมีดผ่าตัดในมือแล้วก็เงยหน้ามองไปที่โคมไฟด้านนอกที่ค่อย ๆ สว่างไสวขึ้นมาในใจเต็มไปด้วยความสงสัยและยังบังเกิดความสนใจในตัวลั่วจิ่วหลีเป็นอย่างมากความสงสัยนี้ไม่ใช่แค่เพราะนางสามารถสะกดคำสาปในตัวเขาไว้ได้ชั่วคราวในคืนวันเพ็ญเท่านั้นแต่ยังเป็นเพราะวิชาแพทย์ของนาง ซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยหากพัศดีคนนั้นฟื้นขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ถึงจะเป็นคนในหุบเขาดาบตกผู้นั้น เกรงว่าก็คงจะหันมาให้ความสนใจนางเช่นกันท้องฟ้านอกหน้าต่างมืดขึ้นเรื่อย ๆ ห้องรับรองที่ลั่วจิ่วหลีและชุนหรงเข้าพักอยู่ใกล้ห้องของพัศดีคนนั้นมากเซียวหมิงเสวียนยังส่งเด็กหนุ่มรับใช้สองคนมาผลัดเวรยามเฝ้าพัศดีคนนั้นเป็นพิเศษ ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นกับพัศดีคนนั้น ก็สามารถเรียกลิ่วจิ่วหลีไปรักษาได้ทันทีบนเตียงในห้องนอนมีกล่องยาวางอยู่กล่องหนึ่ง กล่องยานี้ลั่วจิ่วหลีให้ชุนหรงไปซื้อมาให้เมื่อตอนกลางวันโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัย เมื่อครู่นางได้เอายาที่จำเป็นและอุปกรณ์การรักษาที่ได้ใช้บ่อยจากแหวนโบราณไปใส่ในกล่องยาทั้งหมดเช่นนี้แล้วก็จะหลีกเลี่ยงเรื่องยุ่งยากที่ไม่ควรจะเกิดไ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 24

    ฉินอิ่นยืนอยู่หน้าห้อง“คุณหนูรองตระกูลลั่ว เกิดเรื่องแล้ว พัศดีคนนั้นมีไข้ขึ้นสูง สลบไปไม่ได้สติขอรับ”ลั่วจิ่วหลีได้ยินแล้วก็สาวเท้าเดินออกจากห้องไปมาถึงห้องรับรองแขกก็เห็นว่าเซียวหมิงเสวียนอยู่ที่นั่นด้วย ขณะนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ มือขวาวางอยู่บนหน้าผาก สองนิ้วแยกกันนวดขมับสองข้างเงาของฝ่ามือทอดลงมา ทำให้ทั้งใบหน้ามืดหม่นลั่วจิ่วหลีพลันเคร่งเครียดขึ้นมา เพราะอาการไข้สูงไม่ลด หมดสติไม่รู้สึกตัว มีความไม่แน่นอนมากมายที่สามารถเกิดตามมาได้“ท่านอ๋อง”ลั่วจิ่วหลีถวายคำนับ“รีบเข้าไปดู ต้องช่วยให้ฟื้นให้ได้”ลั่วจิ่วหลียังพูดไม่จบก็เดินเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วแม้นางจะมียาในแหวนโบราณเป็นตัวช่วย แต่ว่าแผลติดเชื้อไม่ใช่เรื่องเล่น ๆอาการหนาวสั่นมีไข้นับเป็นเรื่องเล็ก หากรักษาไม่ทันท่วงที จะเกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยจะช็อกจากการติดเชื้อ หากรุนแรงจะทำให้เกิดฝีในตับ ตับล้มเหลวและการหายใจล้มเหลวได้เพราะฉะนั้น แผลติดเชื้อสามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ นางก็ไม่กล้าชะล่าใจยิ่งไปกว่านั้น แผลของพัศดีคนนั้นยังอยู่ที่อกอีกด้วยในห้อง พัศดีค

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 25

    ฉินอิ่นแอบคิดในใจว่า คุณหนูรองตระกูลลั่วคนนี้ไม่เหมือนใครอย่างที่คิดไว้จริง ๆไม่พูดถึงวิชาแพทย์ ลำพังนิสัยสงบเยือกเย็นหนักแน่นก็ยังและความเปิดเผยตรงไปตรงมาก็ชนะบรรดาหญิงชนชั้นสูงเหล่านั้นในเมืองหลวงได้แล้วหากให้สตรีเหล่านั้นมาอยู่ร่วมห้องกับท่านอ๋องของเขา คาดว่าแววตาหลงใหลคลั่งไคล้อย่างเปิดเผยของพวกนางคงทำให้ท่านอ๋องต้องฆ่าใครสักคนถึงจะดับไฟโทสะลงได้เลยทีเดียวคุณหนูรองตระกูลลั่วผู้นี้กลับดีนัก เพียงแต่หลับตาพักผ่อน แม้แต่ตาท่านอ๋องนางยังไม่มองเซียวหมิงเสวียนหันหน้าไปมองลั่วจิ่วหลีที่นั่งหลับตาพิงพนักเก้าอี้ ขนตานางไหวระริกจึงรู้ว่านางเพียงแค่พักสายตา แล้วก็มองไปที่กล่องยากล่องนั้นที่อยู่ข้าง ๆ นางเขารู้ว่ากล่องยานั่น ลั่วจิ่วหลีให้บ่าวเอามาจากนอกจวนแต่ว่ายากับอุปกรณ์ในกล่อง เขากลับเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิตอันที่จริงเขาอยากถามอะไรบางอย่าง แต่ก็รู้ดีว่าด้วยนิสัยลั่วจิ่วหลี นางไม่มีทางบอกเขาแน่เขาเก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ เอ่ยปากถามช้า ๆ ว่า“พัศดีผู้นั้นจะฟื้นตอนไหน?”ลั่วจิ่วหลีลืมตา ยืดร่างท่อนบนและขยับตัวประชิดเก้าอี้ ใต้แสงไฟสีเหลืองสลัว ๆ เส้นผมบางส่วนบนศีรษ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 26

    เซียวหมิงเสวียนนึกว่านางจะเอ่ยวาจากำเริบเสิบสานอะไรออกมาอีก คิดไม่ถึงเลยว่านางจะพูดประโยคนี้ออกมาแม้แต่ฉินอิ่นที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปสองนายบ่าวยังไม่ทันตั้งตัว ลั่วจิ่วหลีก็ก้มหน้าเก็บของในกล่องยา พลางเอ่ยขึ้นต่อ“เป็นจริงดั่งว่า บนโลกนี้ ผู้ใดที่มีรูปลักษณ์งดงามก็มักจะอาศัยความงามนั้นใช้ชีวิตตามใจปรารถนา!”“แต่หากเป็นดั่งเช่นท่านอ๋องผู้นี้ ทั้งรูปโฉมที่งดงาม สติปัญญาที่เปี่ยมล้น มีความสามารถรอบด้าน วิทยายุทธเป็นเลิศ อีกทั้งมีฐานะสูงศักดิ์ เป็นถึงท่านท่านอ๋องเทพสงครามแห่งราชสำนักฉางหนิง ชีวิตที่เลิศเลอเช่นนี้นับว่าสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง ถึงจะเย็นชาไปบ้างก็สมควรแล้ว สมควรจริงๆ”เซียวหมิงเสวียนฟังคำเยินยออันยาวเหยียดของนาง สีหน้าของเขาก็แข็งทื่อไปเล็กน้อย ดวงตาเย็นชาคู่นั้นโค้งขึ้นตามวงโค้งของมุมปากหน้าประตู ฉินอิ่นเห็นเจ้านายของตนยิ้มทั้งริมฝีปากและดวงตาก็ตะลึงจนตัวแข็งเป็นรูปปั้นใช่ว่าเจ้านายของเขาไม่เคยยิ้มมาก่อน แต่ยามใดที่ได้ยิ้มมักเป็นยิ้มเยาะ เย้ยหยัน ประชดประชันหรือเหยียดหยาม หากผู้เป็นนายยิ้มแบบนั้นออกมามักมีคนตายทว่ารอยยิ้มของเจ้านายในคืนนี้เป็นยิ้ม

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 27

    “ท่านอ๋อง ข้าผ่านหรือยัง?”ความจริงนางมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ แต่กลับต้องทำงานล่วงเวลา อีกทั้งยังต้องหาคำพูดหวานหูมาเยินยอเขาอีกเป็นดั่งที่ว่าจริง ๆ! ไม่ว่ายุคสมัยใด ไม่ว่าชายหรือหญิงล้วนแต่ชอบคำชมหวาน ๆ กันทั้งนั้นเซียวหมิงเสวียนเม้มปาก ใบหน้าหล่อเหลาเกร็งนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง แววตาเย็นชาคู่นั้นเผยความอ่อนโยนที่หาได้ยากออกมา“โครกคราก~”ท้องของลั่วจิ่วหลีส่งเสียงดังอย่างไม่ถูกเวลา นางกุมท้องตัวเองเอาไว้และมองไปที่เซียวหมิงเสวียนอย่างเขินอาย“หิวแล้ว”เซียวหมิงเสวียนนิ่งไป เขามองไปที่ท้องของนางด้วยสายตาแปลกใจ“ฉินอิ่น”“นายท่าน”ฉินอิ่นรีบขานรับทันที“ไปดูที่ครัวว่ามีอะไรให้กินบ้าง เอามาให้คุณหนูรองตระกูลลั่วที”“ครับ”ฉินอิ่นหันหลังวิ่งออกจากห้องไปลั่วจิ่วหลีรู้สึกกลุ้มใจจริง ๆ ตอนค่ำนางกินอาหารไปไม่น้อย แต่ร่างกายของนางในตอนนี้มีอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น นางอยู่ในช่วงวัยกำลังโตพอดีจึงย่อยอาหารอย่างรวดเร็ว นางเองก็ทำอะไรไม่ได้ไม่นาน ฉินอิ่นก็ถือจานไก่ย่างที่หั่นเอาไว้แล้วกลับมา“ท่านอ๋อง ที่ครัวมีเพียงไก่ย่างจานเดียวเท่านั้น ที่เหลือมีแต่อาหา

บทล่าสุด

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 40

    แค่เพราะว่านางเป็นบุตรสาวของอี้กั๋วกงเท่านั้นหรือ? หรือเพราะมีอ๋องเก้าคอยสนับสนุน?ส่วนเหตุผลอื่น ๆ ลั่วจิ่วหลีไม่ได้ถามอย่างละเอียด เซียวหมิงเสวียนเองก็ไม่ได้เล่าอย่างละเอียดเช่นกันเมื่อก้าวเข้าประตูตำหนักกานเฉวียนก็ได้ยินร้องไห้สะอึกสะอื้นแว่วดังมาจากในตำหนักลั่วจิ่วหลีจิตใจเขม็งเกลียว หันหน้ากลับไปมองเซียวหมิงเสวียนเซียวหมิงเสวียนสีหน้าเย็นชา ไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ ชายเสื้อคลุมผ้าไหมสีดำขลับของเขาปลิวไสวลั่วจิ่วหลีนึกทึ่ง เป็นคนหน้าตาดุร้ายเย็นชาแบบนี้ หูปิงอวี้คิดไม่ตกขนาดไหนกันถึงได้ชอบเขา นี่จะต่างอะไรกับการใช้ชีวิตอยู่กับก้อนน้ำแข็งงั้นหรือ?“มองข้าทำไม? ยังไม่รีบเข้าไปอีก?”ลั่วจิ่วหลีร้องเชอะทีหนึ่ง“ท่านอ๋อง ข้ามามือเปล่า ไม่มีกล่องยา เข้าไปรอให้ถูกฝ่าบาทบั่นคอหรืออย่างไร?”เซียวหมิงเสวียนก้าวลงจากขั้นบันได“เข้าไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน เจ้าช่วยเหลือทุกวิถีทางเท่าที่สามารถทำได้”ลั่วจิ่วหลีเดินตามไปติด ๆ ใจอยากถามเขาเหลือเกินว่า เขาบอกฮ่องเต้เรื่องที่นางรู้วิชาแพทย์ใช่หรือไม่แต่ยังไม่ทันได้ถามออกไปก็เห็นบางสิ่งเล็ก ๆ สีขาวพุ่งออกมาจากประตูลั่วจิ่วหลียังไม่ทันมองอย่า

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 39

    แม้แต่หูปิงอวี้ที่แสร้งทำตัวน่าสงสารมาตลอด ยังเดินตามออกมาโดยมีนางกำนัลประคองเอาไว้เช่นกันฮ่องเต้พยายามสงบสติอารมณ์ มองไปรอบ ๆ สายตาไปหยุดที่ลั่วจิ่วหลี“ลั่วจิ่วหลี เจ้าตามเราไปที่ตำหนักกานเฉวียน”ในระหว่างที่พูดก็สาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็วทุกคนตื่นตะลึง ฝ่าบาทให้ลั่วจิ่วหลีไปที่ตำหนักกานเฉวียนทำไม แต่ในเวลานี้ ใครเลยจะกล้าถาม สาวเท้าเดินตามฝ่าบาทไปโดยไม่รู้ตัวลั่วจิ่วหลียังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แขนก็ถูกคนจับเอาไว้“ท่านปล่อย...”เมื่อนางหันหน้ากลับไปมองก็เผชิญหน้ากับสีหน้าเย็นยะเยือกของเซียวหมิงเสวียนผู้ที่หันกลับมาในเวลาเดียวกันยังมีหูปิงอวี้ที่มีนางกำนัลประคองเอาไว้อีกคนเมื่อหูปิงอวี้เห็นเซียวหมิงเสวียนจับแขนของลั่วจิ่วหลี ร่างกายก็แข็งทื่อไปทันทีเขาแตะตัวนาง เขาไม่เคยแตะต้องสตรีใดมาก่อนเห็นอยู่ชัด ๆ ว่า เมื่อครู่นี้ตอนที่อยู่ในศาลา สายตาเขาที่มองลั่วจิ่วหลียังเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ เหตุใดเพียงชั่วพริบตา เขากลับจับแขนนางแพศยานั่นนี่เป็นไปได้อย่างไร?เป็นไปได้อย่างไร!เขาเป็นของนาง บนโลกใบนี้ผู้หญิงที่คู่ควรกับเขามีเพียงนางเท่านั้น!หูปิงอวี้โกรธจนกำมือทั้งส

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 38

    ลั่วจิ่วหลีแค่นเสียงเฮอะ“แน่จริงก็เจ้าอย่าตัดบทข้าพูดความจริงสิ เป็นเพราะร้อนตัวใช่หรือไม่”ลั่วจิ่วหลีพูดจาตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด ไม่เพียงไม่ไว้หน้า ยังตั้งใจจะตอบโต้คนเหล่านี้หนัก ๆ อีกด้วยเดิมทีฮ่องเต้อยากจะถามให้ชัดเจน ตอนนี้ ไม่ต้องถามเลยด้วยซ้ำ เขาก็เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว“อ๋องเก้า”“เสด็จพี่”เซียวหมิงเสวียนก้าวไปข้างหน้า ใบหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง“ส่งคุณหนูรองตระกูลลั่วออกนอกวังหลวง”“พ่ะย่ะค่ะ”เซียวหมิงเสวียนมองลั่วจิ่วหลีแวบหนึ่งด้วยความโมโหลั่วจิ่วหลีถือโอกาสหันหน้าไปมองหูปิงอวี้ ผู้หญิงคนนี้ช่างมารยาเสียจริง ๆ ผ่านมานานขนาดนี้แล้วยังขดตัวอยู่ในอ้อมแขนหูกุ้ยเฟย ริมฝีปากสั่นระริก กระอักกระไอพลางร้องไห้ ท่าทางน่าเวทนาจนถึงที่สุด“ฝ่าบาท หม่อมฉันยังพูดไม่จบเพคะ เป็นหูปิง...”“ลั่วจิ่วหลี เจ้าหุบปาก รีบตามข้าออกจากวังหลวงเดี๋ยวนี้”เซียวหมิงเสวียนพยายามควบคุมโทสะของตนเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถแล้วในวังหลวง อันตรายรอบด้าน อุปนิสัยตรงไปตรงมาของนางไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้เลย ยิ่งไม่สามารถสั่นคลอนหูกุ้ยเฟยได้เลยแม้แต่น้อย รังแต่จะทำให้หูกุ้ยเ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 37

    หูปิงอวี้เริ่มจากทำตัวสั่นระริกแล้วถลาเข้าไปในอ้อมแขนของหูกุ้ยเฟย จากนั้นก็หลั่งน้ำตาด้วยท่าทีน่าสงสาร สุดท้ายก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วเริ่มฟ้องร้อง“ใช่เพคะ เป็นเพราะคุณหนูรองตระกูลลั่วไม่รับคำขอโทษของหม่อมฉัน ไม่เพียงตบหน้าหม่อมฉัน ยังผลักหม่อมฉันลงไปในทะเลสาบอีกด้วยเพคะ”“อาหญิง ฝ่าบาท ฝ่าบาทได้โปรดมอบความเป็นธรรมให้หม่อมฉันด้วยเพคะ”นางหลุบตาก้มหน้าเล็กน้อย ราวกับกวางน้อยตกใจ น้ำตารื้นเต็มเบ้าตา ดวงตาทั้งสองข้างมองอ๋องเก้าเซียวหมิงเสวียนแวบหนึ่งราวกับไม่ได้ตั้งใจเมื่อเห็นว่าเซียวหมิงเสวียนไม่ได้เป็นห่วงลั่วจิ่วหลีมากเท่าไหร่ จึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาเมื่อทุกคนได้ยินว่าลั่วจิ่วหลีทำร้ายหูปิงอวี้ก็มีสีหน้าประหลาดใจ ต่างพากันหันไปมองหน้าของหญิงสาวทั้งสองคนเป็นไปตามคาด ใบหน้าฝั่งนึ่งของหูปิงอวี้แม้จะเปียกน้ำ แต่ยังคงสามารถมองเห็นรอยฝ่ามือสีแดงนั่นได้“ฮัดชิ้ว ๆ”ลั่วจิ่วหลีกระชับเสื้อคลุม จามสองครั้งติดต่อกัน ขดตัว เสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย“ข้าว่านะหูปิงอวี้ ก่อนจะโกหกช่วยเขียนร่างสักหน่อยได้หรือไม่? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร เก่งมาจากไหน ถึงคู่ควรให้ข้าผลักเจ้าตกน้ำ”“อีกอย่าง หยุดทำ

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 36

    “ลั่วจิ่วหลี เจ้ามันนางแพศยา”ข้อมือหูปิงอวี้ตวัดวูบ ทันใดนั้นก็มีกริชเล่มหนึ่งสะท้อนแสงออกมา จู่โจมเข้าหาดวงตาของลั่วจิ่วหลีด้วยความรวดเร็วและรุนแรงลั่วจิ่วหลีดวงตาเบิกกว้าง คิดในใจว่าหูปิงอวี้รู้วรยุทธ์ด้วยหรือนี่ แต่ดูจากท่าทางของนางเหมือนกับว่าวรยุทธ์ไม่ได้สูงส่ง นางยังพอรับมือได้ถอยหลังกรูดไปหลายก้าว เอียงศีรษะหลบการลอบสังหารของนาง มืออีกข้างกางนิ้วทั้งห้าเป็นกรงเล็บหมาป่าขย้ำข้อมือของหูปิงอวี้เอาไว้แล้วออกแรงกริชในมือหูปิงอวี้ตกลงบนพื้นดังแกร๊งพร้อมกับอาการเจ็บจนชาหนึบ แล้วถูกลั่วจิ่วหลีเตะกระเด็นตกลงไปในทะเลสาบเห็นได้ชัดว่า หูปิงอวี้เองก็คิดไม่ถึงว่าลั่วจิ่วหลีจะเป็นวรยุทธ์เช่นเดียวกันนางอ่อนแอบอบบางขนาดนั้นแท้ ๆ ทั้งยังขี้ขลาดหัวอ่อน นางเป็นวรยุทธ์ด้วยหรือนี่ในเวลานี้ ทั้งสองคนได้ต่อสู้กันแล้ว คนนี้จับแขน คนนั้นขับข้อมือ คนนี้ขัดขาซ้าย คนนั้นขัดขาขวา“ไปตายเสียเถอะ”หูปิงอวี้เอ่ยเสียงกร้าวพร้อมกับลากลั่วจิ่วหลีลงไปในทะเลสาบตูม!ระลอกคลื่นสาดซัดบนผิวทะเลสาบ เสียงดังโครมครามนี้ทำให้ฝูงชนเดินเข้ามาด้วยความตื่นตกใจ“คุณหนูรองตระกูลลั่วตกน้ำแล้ว”“พี่สาวข้าก็อยู่

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 35

    “ลั่วจิ่วหลี มีประโยคหนึ่งที่น้องสาวของข้ากล่าวได้ถูกต้อง เจ้าสูญเสียความบริสุทธิ์แล้ว ทั้งยังเป็นแม่ม่ายผัวร้างที่เคยแท้งลูก ไม่มีสิทธิ์ที่จะใกล้ชิดกับอ๋องเก้าขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ”ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ ลั่วจิ่วหลีก็พลันเข้าใจแล้ว ตัวการที่แท้จริงในวันนี้คือนางชาเขียว[1]ที่เปลือกนอกดูบริสุทธิ์เรียบร้อยไร้พิษภัย แต่ความจริงทะเยอทะยานเกินใครผู้นี้เอง“ดูท่าข่าวลือที่แพร่สะพัดตามท้องตลาดจะเป็นความจริง คุณหนูใหญ่ตระกูลหูชอบพอท่านอ๋องเก้า”“แต่น่าเสียดายที่เป็นการรักเขาข้างเดียว คุณหนูใหญ่ตระกูลหูไม่กล้าไประบายความโกรธใส่เจ้าตัว จึงมารังแกคนที่อ่อนแอกว่า”ในระหว่างที่ลั่วจิ่วหลีกำลังพูดก็ขยับข้อมือเล็กน้อย“ก่อนที่คุณหนูใหญ่ตระกูลหูจะลงมือ คงจะต้องคิดให้ดีเสียก่อนว่า ถ้าแตะต้องข้า จวนอี้กั๋วกงจะยอมรามือหรือไม่?”หูปิงอวี้เลิกคิ้ว แสยะยิ้ม เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา“แตะต้องเจ้าแล้วจะทำไม? โลกภายนอกก็คงจะมองว่าเป็นเด็กสาวสองคนริษยากันเท่านั้น หรือว่าท่านพ่อไร้การศึกษานั่นของเจ้าจะกล้าลงมือกับข้าอย่างนั้นหรือ”“หึ! ลั่วจิ่วหลี ข้ารู้มาตลอดว่าวิธีการของเจ้านั้นยอดเยี่ยม ตอนเทียวไล้เทียวข

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 34

    หูหานอวี้ยิ้มอย่างดูถูก“ก็เจ้าไงละ ข้าพูดว่าเจ้าไร้ยางอาย เพิ่งจะถูกญาติผู้พี่ปลดก็เข้าออกจวนอ๋องเก้าทันที”“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? ก็เป็นแค่ภรรยาที่ถูกญาติผู้พี่ของข้าทอดทิ้ง เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าเกาะท่านอ๋องเก้าผู้มีอำนาจสูงส่งได้แล้วก็จะสามารถทำตัวไม่เห็นหัวผู้อื่นแบบนี้ได้”ลั่วจิ่วหลีเลิกคิ้ว คิดไม่ถึงว่าหูหานอวี้จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนามาเป็นท่านอ๋องเก้า จึงแอบประหลาดใจเล็กน้อยนางหันไปมองหูปิงอวี้อย่างไม่ตั้งใจ เห็นหูปิงอวี้นั่นก้มหน้าด้วยสีหน้าสงบเสงี่ยม นิ้วมือเรียวยาวทั้งสองข้างเล่นถ้วยน้ำชาที่อยู่ในมือ มุมปากอมยิ้มส่วนหูกุ้ยเฟย สงบนิ่งเยือกเย็น ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ราวกับว่านางก็คือนายหญิงผู้อยู่เบื้องหลังคอยชักใยบังคับทิศทางผู้นั้น“เฮอะ!”ลั่วจิ่วหลีแสยะยิ้มในใจ ดูท่า นี่ถึงจะเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่หูกุ้ยเฟยเรียกนางเข้าวังหลวงคำดูถูกเหยียดหยามและความทุกข์ยากลำบากที่เจ้าของร่างเดิมเคยได้รับตอนอยู่ที่จวนอ๋องเจา ถูกอ๋องเจากับเยียนทิงเหลียนทอดทิ้งให้เผชิญยถากรรมด้วยตนเองในเรือน ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายทารุณจนตายทั้งกลม เรื่องทั้งหมด หูกุ้ยเฟยล้วนไม่เห็นแต่เรื่องเหลวไหลที

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 33

    “หานอวี้ พูดจาเหลวไหลอะไร”หูปิงอวี้ค่อย ๆ สาวเท้าเดินเข้ามา กล่าวตำหนิด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ข้าเคยพูดกี่ครั้งแล้ว ข่าวลือที่แพร่อยู่ข้างนอกไม่เป็นความจริง ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อฟังอยู่เรื่อย! ยิ่งไปกว่านั้น เมืองหลวงกว้างใหญ่ขนาดนี้ ทุกคนเจอกันบ่อย ๆ อย่าทำให้เกิดความแค้นเพราะเรื่องที่ไม่มีหลักฐานเลย”“คุณหนูรองตระกูลลั่ว น้องสาวของข้าอายุยังน้อย ไม่รู้ความ คุณหนูรองตระกูลลั่วได้โปรดอย่าถือสาหาความนางเลย”ลั่วจิ่วหลีหันหน้าไปทางนาง หูปิงอวี้หลุบตาที่สดใสเปล่งประกายลง ประกายในดวงตานั้น นางมองปราดเดียวก็สัมผัสได้ถึงความเสแสร้งมารยาเสแสร้ง มารยาสาไถย ธาตุแท้ส่งกลิ่นออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งนอกจากนี้ ความคิดล้ำลึก ดูเหมือนว่ากำลังกล่าวขอโทษ แต่อันที่จริงไม่เปิดโอกาสให้ลั่วจิ่วหลีพูด หันหลังกลับไปประคองหูกุ้ยเฟยกล่าวพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน“อาหญิงเหนื่อยแล้วกระมัง ในศาลามีชาดอกพุดตานที่ชงเสร็จแล้วอยู่พอดี อาหญิงพักผ่อนเสียหน่อย จิบชาให้ชุ่มคอ”หูกุ้ยเฟยยิ้มบาง ๆ เหลือบตามองลั่วจิ่วหลีอย่างไม่อบอุ่นและไม่เย็นชา“คุณหนูรองตระกูลลั่ว วันนี้เข้าวังหลวงมาอย่างหาได้ยาก มาลองชิมชาดอกพุดตานที่ข้

  • หมอเทวดาพลิกแผ่นดิน : ทะลุมิติเป็นชายาอ๋องต้องสาป   บทที่ 32

    หูหานอวี้ อายุสิบห้าปี หลานสาวแท้ ๆ ของหูกุ้ยเฟย อย่ามองว่านางมีอายุเพียงแค่สิบห้าปี แต่อุปนิสัยอวดดีซึ่งต่างจากอาหญิงมากโข เป็นผู้มีนิสัยเผด็จการอันดับหนึ่งในแวดวงสตรีชั้นสูงแห่งเมืองหลวงนางยังมีพี่สาวอีกคนนามว่า หูปิงอวี้ อายุสิบเก้าปี ยังไม่แต่งงานแล้วก็ไม่ได้ดูตัวเช่นกัน ได้ยินคนนอกพูดว่าเป็นเพราะกำลังรอท่านอ๋องเก้า ในความทรงจำของลั่วจิ่วหลีไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับหูปิงอวี้มากนักทันทีที่หูหานอวี้ได้ยินก็หันไปพ่นลมหายใจอย่างเยาะหยันใส่ลั่วจิ่วหลี“ก็แค่คนที่ถูกญาติผู้พี่ของข้าเบื่อหน่าย อาศัยอำนาจของจวนอี้กั๋วกง คิดว่าตัวเองมีอำนาจมากนักงั้นรึ?”ลั่วจิ่วหลีเหลือบมองนางแวบหนึ่ง“เจ้าอาจจะยังไม่รู้ว่า พวกเราต่างเบื่อหน่ายซึ่งกันและกัน”“อีกอย่าง การมีอำนาจไม่ดีหรือ? เจ้าก็อาศัยอำนาจของกุ้ยเฟยผู้เป็นอาหญิงมาวางอำนาจบาตรใหญ่เหมือนกันไม่ใช่รึ?”“เจ้า...“ดวงตาเมล็ดซิ่งของหูหานอวี้เบิกกว้าง อ้าปากกำลังจะด่าก็ได้ยินเสียงอาหญิงของตนเองดังมาจากทางด้านหลัง“การมีอำนาจไม่มีอะไรไม่ดี แต่การอวดดีเกินไป ไม่เห็นใครอยู่ในสายตานั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไร”ท่ามกลางดงดอกพุดตาน สตรีท่าทางสง่าง

DMCA.com Protection Status