Share

บทที่ 11

ในเวลานี้ หูกุ้ยเฟยซึ่งอยู่ในวังหลังก็ได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่พระราชวังส่วนหน้าแล้ว

สุดท้ายกระดาษก็ห่อไฟไว้ไม่ได้ เหล่านางสนมอื่น ๆ ก็ทราบเรื่องแล้วเช่นกัน

เรื่องที่พระชายาอ๋องเจาหรือลั่วจิ่วหลีบุตรีคนรองสายตรงจวนอี้กั๋วกงมาตีกลองร้องทุกข์ฟ้องร้องอ๋องเจา โทษฐานหลงใหลอนุละเลยภรรยา สังหารลูกในไส้และทุบตีภรรยาเอกก็ได้แพร่กระจายไปทั่ววังหลัง

ทางด้านนี้มีขันทีเข้าไปรายงานในตำหนักไม่ขาดสาย

“ทูลฝ่าบาท อี้กั๋วกงฮูหยินคุกเข่าอยู่ด้านนอกประตูพระราชวังขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

“ทูลฝ่าบาท อ๋องเจาคุกเข่าอยู่นอกตำหนักขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ข่มโทสะโบกพระหัตถ์ให้ขันที

หลังจากนั้นไม่นาน คนสองคนเดินเข้ามาในตำหนักตามลำดับ

นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วจิ่วหลีได้พบกับมารดาเจ้าของร่างเดิมซึ่งก็คืออี้กั๋วกงฮูหยิน

เห็นนางสวมชุดฮูหยินตราตั้งขั้นหนึ่ง มวยผมยกสูงบนศีรษะ ประดับปิ่นปักผมที่เรียบง่ายหนึ่งอัน ขณะก้าวเข้ามาในตำหนักก็เห็นสภาพที่น่าสังเวชของบุตรสาวอย่างชัดเจน ปวดใจจนน้ำตาคลอหน่วย หยิกฝ่ามือตัวเองแรง ๆ แล้วคุกเข่าลงบนพื้น

“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปีเพคะ”

“อี้กั๋วกงฮูหยิน ลุกขึ้นเถิด”

ฮ่องเต้เห็นถึงอารมณ์ที่อี้กั๋วกงฮูหยินพยายามสะกดกลั้นเอาไว้อย่างยิ่งยวดก็รู้สึกสะเทือนพระทัยไปด้วย

สามีและบุตรชายคนโตของนางกำลังฝึกทหารอยู่ในกองทัพ อาจกรีธาทัพเข้าสู่สมรภูมิอุทิศตนรับใช้ชาติได้ทุกเมื่อ

แต่บุตรสาวของนางกลับถูกบุตรชายที่ไร้ประโยชน์ของตนเองทำร้ายแสนสาหัส

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

อี้กั๋วกงฮูหยินลุกขึ้นยืน

ด้านหลัง เซียวจูมั่วมีคราบเลือดแห้งอยู่ที่มุมปาก เขาคุกเข่าลงบนพื้นเช่นกัน

“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ ขอเสด็จพ่อทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรไปที่อ๋องเจา จากนั้นทอดพระเนตรบนโต๊ะมังกรเบื้องหน้า นอกจากสี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือก็มีฎีกา แต่ไม่มีสิ่งใดที่สามารถใช้ขว้างปาคนได้ ลงมือเองก็ไม่ได้ จึงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียและไม่บอกให้เขาลุกขึ้นยืน

อ๋องเจาคุกเข่าบนพื้นโดยไม่ไหวติง เขารู้ดีว่าหากเสด็จพ่อไม่มีรับสั่งหมายความว่ากำลังพิโรธมาก

ไหนจะยังมีเสด็จอาเก้าอยู่ที่นี่ด้วย เกรงว่าสถานการณ์คงเป็นผลร้ายกับเขามากกว่า

ช่วงเวลานี้ หากเขาไม่พูดความจริง แผนการทั้งหมดที่เขาและเสด็จแม่ทำมาตลอดหลายปีนี้จะต้องสูญเปล่า

ด้านข้าง ลั่วจิ่วหลีเหลือบมองอ๋องเจาผ่านทางหางตาแวบหนึ่งและคำนวณเวลาที่ผ่านไปในใจ

สิ่งที่นางให้อ๋องเจาไปก่อนหน้านี้คือเมทแอมเฟตามีน[1] ยานี้สามารถทำให้คนตื่นตระหนกและคลุ้มคลั่ง

ในเวลานี้ ยาควรจะออกฤทธิ์แล้ว นางควรกระตุ้นเขาทำให้เขาคลุ้มคลั่งในตำหนักอย่างไรดีนะ

“ฝ่าบาทเพคะ”

“ฝ่าบาทโปรดมีพระราชโองการให้หม่อมฉันและอ๋องเจาหย่าร้างเถิดเพคะ ให้อ๋องเจาคืนสินเดิมทั้งหมดของหม่อมฉัน จ่ายค่าชดเชยความบอบช้ำทางกายและบาดแผลทางใจให้หม่อมฉันหนึ่งแสนตำลึงเงิน และให้ชายารองเยียนทิงเหลียนชดใช้ชีวิตให้ลูกหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”

“หม่อมฉันต้องการให้นางกินหญ้าเซิงเฉ่าอู ให้นางรับรู้ว่าการตายเสียดีกว่าอยู่เป็นอย่างไร ต้องการให้นางตกนรกสิบแปดขุม ชดใช้บาปให้ลูกน้อยของหม่อมฉันชั่วนิรันดร์ ไม่มีวันได้กลับชาติมาเกิดอีกเพคะ”

อ๋องเจาที่คุกเข่าอยู่บนพื้นได้ยินนางขอให้เขาจ่ายหนึ่งแสนตำลึงเงินเพื่อชดเชยความบอบช้ำทางกายและบาดแผลทางใจ ต้องการให้เหลียนเอ๋อร์ชดใช้ด้วยชีวิต ทั้งยังพูดถ้อยคำเลวร้ายสาปแช่งเหลียนเอ๋อร์ของเขา เขาพลันบันดาลโทสะขึ้นมา

“เสด็จพ่อ ลั่วจิ่วหลีพูดโกหกทั้งเพพ่ะย่ะค่ะ”

“ลูกไม่เคยแตะต้องนางเลย เด็กที่นางแท้งคนนั้นก็ไม่ใช่ลูกของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”

ฮือฮา!

สิ้นเสียง ทั้งตำหนักก็พลันตกอยู่ในความแตกตื่น

แม้แต่ใบหน้าที่เย่อหยิ่งเย็นชาของเซียวหมิงเสวียนก็ยังเปิดเผยความประหลาดใจออกมา

ลั่วจิ่วหลีดวงตาเบิกกว้าง ความคิดสับสนไปเล็กน้อย เขาเพิ่งพูดเหลวไหลอะไรออกมา

แต่เมื่อมองใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวแทบพ่นไฟได้ของเซียวจูมั่ว ทันใดนั้นลั่วจิ่วหลีจึงได้กระจ่าง นางได้ละเลยบางสิ่งบางอย่างไปตอนที่สืบทอดความทรงจำของร่างเดิมใช่หรือไม่

ทว่าเจ้าของร่างเดิมเป็นคนหัวอ่อน เพราะรักเซียวจูมั่วสุดซึ้ง แม้กระทั่งในวันแต่งงาน เรื่องเหลวไหลเช่นการรับชายารองพร้อมกัน เจ้าของร่างเดิมยังพยักหน้ายอมรับได้ แล้วจะทรยศความรู้สึกนี้ได้อย่างไร

ด้านข้าง เมื่ออี้กั๋วกงฮูหยินได้ยินคำนั้น ดวงตาก็พลันลุกเป็นไฟ

“ท่านอ๋องเจา ใช่ว่าหม่อมฉันไม่เคยเห็นคนตระบัดสัตย์ไร้ไมตรีมาก่อน หากท่านไม่รักบุตรสาวของหม่อมฉัน ในวันนั้นก็ไม่ควรสู่ขอนาง ตอนนี้เพิ่งจะแต่งงานกันได้เจ็ดเดือนเองมิใช่หรือ? ท่านก็เบื่อหน่ายนางแล้ว ตระกูลลั่วของหม่อมฉันเลี้ยงดูทะนุถนอมบุตรสาวเพื่อให้ท่านเหยียบย่ำเช่นนี้หรือ?”

“เสียแรงที่พวกหม่อมฉันไว้วางใจยกบุตรสาวไว้ในมือท่าน ท่านปฏิบัติต่อบุตรสาวของหม่อมฉันเช่นนี้หรือ ทั้งลอบสังหารทั้งทรมาน ทุบตีภรรยาเอก สังหารลูกแท้ ๆ ท่านเกือบจะปล่อยให้บุตรสาวของหม่อมฉันตายในจวนอ๋องเจาของพวกท่านแล้ว”

อี้กั๋วกงฮูหยินพูดด้วยความปวดใจ คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง

“ฝ่าบาทเพคะ”

“ชายาเอกทุกคนที่แต่งงานเข้าจวนชินอ๋องต้องผ่านการตรวจร่างกาย หากฝ่าบาทไม่เชื่อ ก็สามารถไปที่สำนักกิจการราชวงศ์[2]เพื่อดึงระเบียนออกมาดูได้เพคะ”

“อ๋องเจาไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา มาลบหลู่ความบริสุทธิ์ของลูกสาวหม่อมฉัน หม่อมฉันขอยืนกราน ฝ่าบาทโปรดมอบความเป็นธรรมให้บุตรสาวของหม่อมฉันด้วยเพคะ”

อี้กั๋วกงฮูหยินกล่าวพร้อมโขกศีรษะดังตึงตังหลายหน มีเลือดซึมออกจากรอยแตกที่หน้าผาก

“ท่านแม่”

ลั่วจิ่วหลีก้าวเข้าไปสวมกอดอี้กั๋วกงฮูหยิน แล้วเงยหน้าขึ้นมองฮ่องเต้

--------------------------------------------

[1] เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) เป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) ที่มีฤทธิ์แรง

[2] สำนักกิจการราชวงศ์ ดูแลเรื่องสาแหรกตระกูลฮ่องเต้และเหล่าราชวงศ์ การเกิด การแต่งงาน การตาย การฝังศพ จดบันทึกเกี่ยวกับราชวงศ์ไว้ทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status