Share

บทที่ 5

ในรถม้า ลั่วจิ่วหลีได้ยินเสียงด่าทอด้วยโทสะนั้นก็จำได้ทันทีว่านั่นคือเสียงของอ๋องเจา เซียวจูมั่ว ดวงตาสาดประกายเย็นชากว่าเดิม

เพลิงรุนแรงขนาดนี้กลับไม่อาจเผาคนเลวผู้นี้ให้ตายได้

เจ้าของร่างเดิมตายไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าผู้ชายชาติชั่วที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์ยังคิดจะถลกหนัง เลาะเส้นเอ็นและเฆี่ยนศพนางสามวัน แล้วแขวนร่างไว้เหนือประตูเมือง

สังหารคนโดยไม่หลั่งเลือดคงเป็นเช่นนี้เองกระมัง

“ดูเหมือนว่าข้าต้องเริ่มแผนการขั้นต่อไปแล้ว”

ลั่วจิ่วหลีพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย หันไปมองชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ความคิดไม่เคยเยือกเย็นถึงเพียงนี้มาก่อน

“ท่านพอจะคลายจุดให้ข้าได้หรือไม่?”

ชายผู้นั้นเหลือบมองนาง ดวงตาคู่นั้นแฝงประกายอันตราย แต่ยังคงยกมือขึ้นคลายจุดให้ ลั่วจิ่วหลีพลันรู้สึกถึงความผ่อนคลายทั่วร่าง

นางขยับแขนเล็กน้อย ทว่าสายตากลับไม่ละไปจากใบหน้าของชายผู้นั้น

ตอนนี้ นางยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าชายลึกลับผู้มีวรยุทธ์ล้ำเลิศและตัวตนยังคงเป็นปริศนาผู้นี้ไม่ได้คิดร้ายกับนาง

“ท่านจะปล่อยให้เซียวจูมั่วฆ่าข้าหรือไม่?”

นางถามออกไปอย่างลองเชิง

เวลานี้ ศักดิ์ศรีและหน้าตาอะไรเทือกนั้นไม่มีความสำคัญอีกต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการกอดขาใหญ่พึ่งพิงผู้มีอำนาจ

ชายผู้นั้นมองนางแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เงื่อนไข”

ลั่วจิ่วหลีชะงักไปครู่หนึ่งจึงเข้าใจว่าการช่วยชีวิตนางต้องมีการต่อรองเงื่อนไข

ตาคนนี้นี่ แล้วทำไมถึงไม่พูดให้ชัดเจนตั้งแต่แรกเล่า?

“ข้ารู้วิชาแพทย์ เข้าใจหลักการรักษาโรค หากท่านต้องการ ข้าพร้อมรับใช้ท่านตลอดเวลา”

“ตกลง”

ชายผู้นั้นรอให้นางพูดคำนี้ออกมา

ได้รับคำตอบนี้จากเขา ลั่วจิ่วหลีก็โล่งใจแล้ว ไม่ได้ไล่เรียงถามต่อว่าทำไมเขาถึงตอบรับรวดเร็วเช่นนี้

สิ้นเสียง นางก็ออกไปจากรถม้า

ในรถม้า ดวงตาของชายผู้นั้นฉายแววดุดันเย็นชา นิ้วเรียวขยับเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เพียงจ้องมองแผ่นหลังที่โดดเดี่ยวอย่างสงบนิ่งดั่งภูผา

ลั่วจิ่วหลีเอามือไพล่หลัง เดินออกจากรถม้า มือหนึ่งลูบคลำแหวนโบราณที่นิ้วของนาง คิดขึ้นมาในใจ

‘ยาสลบ ยาสลบแบบแรงที่สุด’

แหวนโบราณวงนี้ตอบสนองต่อความคิดของนาง

เพลิงรุนแรงในจวนอ๋องเจา หากปราศจากแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ที่แหวนโบราณมอบให้ นางก็คงไม่สามารถทำให้จวนอ๋องเจาวุ่นวายได้เร็วขนาดนี้

แต่น่าเสียดาย แผนเดิมคือตั้งใจจะจุดไฟเผาเซียวจูมั่วและเยียนทิงเหลียนให้ตายไปพร้อมกันอย่างเงียบ ๆ

คิดไม่ถึงว่าซุนหมัวมัวที่นางกรีดคอไปแล้วนั้นจะยังคงมีลมหายใจเหลืออยู่ และถูกทหารที่ลาดตระเวนพบเข้า

เซียวจูมั่วจึงรู้ว่านางกลับมาเมืองหลวงและลอบเข้าไปในจวนอ๋องเจา

หลังจากลั่วจิ่วหลีคิดในใจได้เพียงห้าวินาที เข็มฉีดยาสลบก็ปรากฏขึ้นในนาง

ลั่วจิ่วหลียืนอยู่บนคานรถม้า ริมฝีปากยกยิ้มเล็กน้อย ความเย็นเยียบแผ่ซ่านออกมาจากตัวนาง

นางในตอนนี้ ไม่ใช่ลั่วจิ่วหลีแห่งแคว้นฉางหนิงอีกต่อไป แต่เป็นลั่วจิ่วหลี แพทย์ทหารผู้มาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด

ตรงหน้าปรากฏกลุ่มองครักษ์ล้อมรอบบุรุษสวมชุดแพรไหมสีฟ้าครามผู้หนึ่งตรงเข้ามาอย่างดุดัน

ชายผู้นั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย นั่นคือบุรุษที่ลั่วจิ่วหลีเคยเห็นในความฝัน อ๋องเจาหรือก็คือเซียวจูมั่ว สามีเจ้าของร่างเดิม

เมื่อเซียวจูมั่วเห็นลั่วจิ่วหลีปรากฏตัว ความโกรธเกรี้ยวก็ยิ่งฉายชัดบนใบหน้า

“ลั่วจิ่วหลี นางสารเลว เจ้าอยู่ในรถม้าจริง ๆ ด้วย”

“เจ้าฆ่าแม่นมของข้าและเผาจวนอ๋องเจา วันนี้ข้าจะเชือดเนื้อเถือหนังเจ้า ทำให้เจ้าไม่สามารถก่อความวุ่นวายได้อีก!”

“ก่อความวุ่นวาย?”

ลั่วจิ่วหลีได้ยินดังนั้นก็หรี่ตา ก่อนจะกระโดดลงจากรถม้า ตอนที่เห็นเซียวจูมั่ว เพลิงแค้นในดวงตาก็ปะทุรุนแรงจนแม้แต่ตัวนางเองยังสัมผัสได้ถึงความบิดเบี้ยวนั้น

“ท่านอ๋องช่างใจแคบ เลือดเย็นไร้ไมตรียิ่งนัก”

“หม่อมฉันหมดสติไม่รู้สึกตัว ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ลูกของหม่อมฉันตายอย่างน่าเวทนา ศพยังไม่ทันเย็นด้วยซ้ำ แต่สิ่งแรกที่ท่านอ๋องพูดกับหม่อมฉันกลับไม่ใช่การถามไถ่หรือปลอบโยน กลับเป็นการขู่จะถลกหนัง เลาะเส้นเอ็นและเฆี่ยนศพหม่อมฉันสามวัน แล้วนำแขวนไว้บนประตูเมืองเหมือนสุนัขเน่า”

“ท่านอ๋องไม่กลัวบ้างหรือไรว่าการเชิดชูอนุเหยียบย่ำภรรยาจะทำให้ไม่ได้ตายดี?”

เซียวจูมั่วถึงกับนิ่งไปเมื่อถูกลั่วจิ่วหลีพูดจาประชดเสียดสี

ในความทรงจำของเขา ลั่วจิ่วหลีไม่เคยใช้สายตาเฉียบคมแบบนี้มองเขา ยิ่งไม่เคยกล้าพูดจาด่าทอเขาด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ ขนาดพูดเสียงดังใส่เขายังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ

แต่ค่ำคืนนี้ ทุกอย่างเหมือนจะหลุดออกจากการควบคุมของเขา ดวงตาที่เต็มไปด้วยโทสะของลั่วจิ่วหลีนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ไม่ได้ ยังไม่พอใจ เขาแต่งงานกับลั่วจิ่วหลีก็เพื่ออำนาจในราชสำนักของอี้กั๋วกงเท่านั้น

นอกจากนี้ ในคืนแต่งงานเมื่อเจ็ดเดือนก่อน...

เมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อเจ็ดเดือนก่อน คิ้วของเซียวจูมั่วก็ขมวดแน่น สายตาของเขาคมกริบราวกับใบมีด

“เชิดชูอนุเหยียบย่ำภรรยา? ข้าไม่เคยเห็นเจ้าเป็นภรรยา แล้วจะพูดถึงการเชิดชูอนุเหยียบย่ำภรรยาได้อย่างไร? สำหรับข้าแล้ว เจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้เหลียนเอ๋อร์”

ยามนี้ ลั่วจิ่วหลีพลันรู้สึกเจ็บปวดในอก แต่เพียงครู่เดียวก็จางหายไป

นางรู้ว่านั่นเป็นความรู้สึกที่เหลืออยู่ของเจ้าของร่างเดิม

หลังจากที่เซียวจูมั่วพูดคำนี้ออกมา ความหวังสุดท้ายของเจ้าของร่างเดิมก็มลายสิ้น

นางเอามือไพล่หลัง ซ่อนเข็มยาสลบไว้ในแขนเสื้อกว้าง รู้ดีว่าต้องใช้ปัญญาในการรับมือ ไม่อาจปะทะตรง ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ภายในรถม้ายังมีคนที่นางสามารถพึ่งพาได้ ตอนนี้หากนางไม่หาทางออกเพื่อปกป้องตัวเอง วันข้างหน้านางก็คงถูกเซียวจูมั่วเหยียบย่ำไว้ใต้ฝ่าเท้า

“ช่างบังเอิญจริง ๆ หม่อมฉันก็ไม่เคยคิดว่าท่านอ๋องเป็นสามีเหมือนกัน ในสายตาหม่อมฉัน สวะแบบท่านอ๋องก็ต้องคู่กับนางแพศยาชั้นต่ำแบบเยียนทิงเหลียนนั่นแหละเพคะ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status